More Related Content Similar to เรื่อง ทฤษฎีดนตรีสากลเบื้องต้น_ไก่ต๊อก (1) (13) เรื่อง ทฤษฎีดนตรีสากลเบื้องต้น_ไก่ต๊อก (1)1. ใบความรู้ท ี่1 เรื่อ ง ทฤษฎีด นตรีส ากล
เบื้อ งต้น
พื้น ฐานความรู้เ รื่อ งโน๊ต
ตัวโน๊ตทั้งหมด ตามที่เราคุ้นเคยคือ โด เร มี ฟา ซอล ลา ที
โด ซึ่งโน้ตแต่ละตัวจะถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งโดยนำาเอาตัวอักษร
ภาษาอังกฤษมาตั้ง ดังนี้
C = โด D = เร
E = มี F = ฟา
G = ซอล A = ลา
B = ที
ซึ่งจะอธิบายได้ง่ายจากคีย์บอร์ด ดังนี้
อธิบ ายเพิ่ม เติม จากรูป ด้า นล่า ง ดัง นี้
ให้ลูกศรชี้ขึ้น เป็นสัญลักษณ์แทนเสียงที่สูงขึ้นไป โดยการ
ใส่เครื่องหมายชาร์ฟ (#) และ
ให้ลูกศรชี้ลง เป็นสัญลักษณ์แทนเสียงที่ตำ่าลงมา โดยการใส่
เครื่องหมายแฟลต (b)
2. C สูงขึ้นไปครึ่งเสียง = C# C ลดลง
ครึ่งเสียง = B
D สูงขึ้นไปครึ่งเสียง = D# D ลดลง
ครึ่งเสียง = Db
E สูงขึ้นไปครึ่งเสียง = F E ลดลง
ครึ่งเสียง = Eb
F สูงขึ้นไปครึ่งเสียง = F# F ลดลง
ครึ่งเสียง = E
G สูงขึ้นไปครึ่งเสียง = G# G ลดลง
ครึ่งเสียง = Gb
A สูงขึ้นไปครึ่งเสียง = A# A ลดลง
ครึ่งเสียง = Ab
B สูงขึ้นไปครึ่งเสียง = C B ลดลง
ครึ่งเสียง = Bb
จะสังเกตได้ว่า มีเสียงที่เท่ากันอยู่ดังนี้
C# = Db
D# = Eb
F# = Gb
G# = Ab
A# = Bb
ระดับ เสีย งและชื่อ ทางดนตรี
3. การกำาหนดให้เสียงมีระดับสูงตำ่ากว่ากันตามชื่อเรียกได้ต้องมี
บรรทัด 5 เส้นมีส่วนประกอบคือ จำานวนเส้น 5 เส้นจำานวนช่อง 4
ช่อง
การบันทึกตัวโน้ตลงบนบรรทัด 5 เส้นทำาได้ 2 แบบ โดย
การบันทึกจะต้องชัดเจนแน่นอน
1.ให้ห ัว ตัว โน้ต วางบนเส้น (On a Line)
2.ให้ห ัว ตัว โน้ต วางในช่อ ง (In a Space)
เราจะสามารถบอกชื่อตัวโน้ตต่างๆได้ ก็ต้องมีเครื่องหมาย
เฉพาะกำากับไว้ก่อนหน้าตัวโน้ต
เครื่องหมายเฉพาะนี้เรียกว่า เครื่องหมายประจำาหลัก ที่เราจะ
ศึกษานี้ มี 2 ชนิด
คือ กุญแจซอล
บรรทัด 5 เส้น ประกอบด้ว ย
การกำา หนดค่า ความสั้น ยาวของเสีย ง
นอกจากระดับเสียงแล้วเราต้องกำาหนดความสั้นยาวของ
เสียงโดยการใช้สัญลักษณ์ทางดนตรีอันได้แก่
โน๊ตตัว
กลม
โน๊ตตัว
ขาว
โน๊ตตัวดำา
4. โน๊ตเขบ็ต หรือเมือมี 2 ตัวติด
่
1 ชั้น
กันจะเขียน
โน๊ตเขบ็ต หรือเมื่อมี 2 ตัวติด
2 ชั้น
กันจะเขียน
และอาจจะมีถึงโน๊ตเขบ็ต 3 หรือ 4 ชั้นก็ได้ และอาจจะ
เขียนตัวโน๊ตกลับหัวก็ได้ทั้งนี้แล้วแต่ความเหมาะสมในการเขียน
โน๊ต ตัว หยุด
ตัวหยุดจะบอกความสั้นยาวของการหยุดเสียงโดยใช้
สัญลักษณ์ดังนี้
ตัวหยุดเทียบเท่าโน๊ต
ตัวกลม
ตัวหยุดเทียบเท่าโน๊ต
ตัวขาว
ตัวหยุดเทียบเท่าโน๊ต
ตัวดำา
ตัวหยุดเทียบเท่าโน๊ต
เขบ็ต 1 ชั้น
ตัวหยุดเทียบเท่าโน๊ต
เขบ็ต 2 ชั้น
การแบ่ง ห้อ งทางดนตรี (Measure)
ในการบันทึกโน๊ตดนตรีจะต้องแบ่ง ออกเป็นส่วน ๆ เท่า
ๆ กันด้วยเส้นกั้นแต่ละห้องในแนวดิ่งที่เรียกว่า bar line โดยที่ผล
รวมของจังหวะทั้งหมดในแต่ละห้องต้องมีความยาวหรือจังหวะเท่า
กัน และ 1 ห้อง จะเรียกว่า 1 bar
Time Signature
5. - ตัวเลขตัวบน หมายถึง จำานวนจังหวะใน 1 ห้อง(1
bar) ว่าใน 1 ห้องดังกล่าวนั้นมีกี่จังหวะนับ เช่น 2 หมายถึงใน
ห้องนั้นมี 2 จังหวะนับ ถ้า 3 คือ มี 3 จังหวะนับใน 1 ห้อง
- ตัวเลขตัวล่าง หมายถึง การกำาหนดว่าจะให้สัญลักษณ์
โน๊ตประเภทใดมีค่าเป็น 1 จังหวะ เช่นเลข 4 จะหมายถึงให้โน๊ต
ตัวดำา (quarter note) มีค่าเป็น 1 จังหวะ และมีผลให้โน๊ตตัว
ขาว (half note)มีค่าเป็น 2 จังหวะนับ โน๊ตตัวกลม whole
note) มีค่าเป็น 4 จังหวะนับ และโน๊ตเขบ็ต 1 ชั้น (eighth
note) มีค่า 1/2 จังหวะนับ เป็นต้น
ตัว อย่า ง time signature ที่พ บเห็น บ่อ ย ๆ กัน นะ
ครับ
2 ให้โน๊ตตัวดำามีค่าเป็น 1 จังหวะ และมี 2
4 จังหวะใน 1 ห้อง
3 ให้โน๊ตตัวดำามีค่าเป็น 1 จังหวะ และมี 3
4 จังหวะใน 1 ห้อง
4 ให้โน๊ตตัวดำามีค่าเป็น 1 จังหวะ และมี 4
4 จังหวะใน 1 ห้อง
6 ให้โน๊ตเขบ็ต 1 ชั้นมีค่าเป็น 1 จังหวะ
8 และมี 6 จังหวะใน 1 ห้อง
12 ให้โน๊ตเขบ็ต 1 ชั้นมีค่าเป็น 1 จังหวะ
8 และมี 12 จังหวะใน 1 ห้อง
6. โน๊ต ประจุด (Dotted Note)
ในบางกรณีทีเราต้องการให้ค่าตัวโน๊ตนั้นมีจังหวะยาวขึ้นมา
อีก ครึ่งหนึ่งของตัวมันเอง เราจะใช้จุด (dot) แทนค่าให้เพิ่ม
จังหวะอีกครึ่งนึงของตัวเองโดยเขียนจุดไว้ด้านข้างของตัวโน๊ตที่
ต้องการเพิ่มจังหวะ เช่นเมื่อต้องการสร้างโน๊ต 3 จังหวะจากโน๊ต
ตัวขาวที่มีค่า 2 จังหวะ(กรณีที่ time signature เป็น 4/4 โน๊ต
ตัวขาวมีค่า 2 จังหวะ)เราก็ประจุดโน๊ตตัวขาวซึ่งมีผลให้มีจังหวะ
เพิ่มขึ้นครึ่งนึงของ 2 คือ 1 รวมเป็น 3 จังหวะ หรือเท่ากับโน๊ตตัว
ดำา 3 ตัว
หรือเมือให้โน๊ตตัวดำา(มีความยาว 1 จังหวะ)ประจุดก็จะ
่
หมายถึงจังหวะจะเพิ่มขึ้นอีกครึ่งนึงของ 1 คือ 1/2 รวมเป็น 1
1/2 หรือ 1 จังหวะครึ่งนั่นเองซึ่งมีค่าเท่ากับโน๊ตเขบ็ต 1 ชั้น 3
ตัว ลองดูจากการเปรียบเทียบข่างล่างนี้