More Related Content Similar to 2014-07-04 การบริหารงานแนวพุทธ
Similar to 2014-07-04 การบริหารงานแนวพุทธ (20) More from Nopporn Thepsithar
More from Nopporn Thepsithar (20) 2014-07-04 การบริหารงานแนวพุทธ4. • พระพุทธศาสนา
• พระพุทธเจ้า
• ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
- ผู้ประจักษ์ความจริง
อันเป็นเหตุให้พ้นจากความทุกข์ทั้งปวง
- ผู้ตื่นจากความมัวเมาด้วยอานาจของกิเลส
- ผู้เบิกบานด้วยธรรม ผู้มีความยินดีในธรรม
พุทธ หมายถึง อะไร ?
7. มีสิ่งหนึ่งก่อเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ ก่อนฟ้ าก่อนดิน
ไร้รูปไร้เสียง เป็นอิสระ ไม่แปรเปลี่ยน ดารงอยู่ทั่วไป
คงอยู่มิรู้สิ้น เป็นมารดาแห่งฟ้ าดิน
ข้าฯ มิรู้ชื่อสิ่งนั้น จึงขอเรียกว่า “เต๋า”
และเมื่อจาเป็นต้องอรรถาธิบาย ก็ขอเรียกว่ายิ่งใหญ่
ยิ่งใหญ่คือดาเนินไปไม่มีสิ้นสุด
ดาเนินไปไม่มีสิ้นสุด คือความยาวไกล
ความยาวไกลถึงที่สุด ย่อมกลับคืนสู่จุดเดิม
18. อริยสัจ 4 ความจริงที่ประเสริฐและทําให้คนเป็นอริยะ
1. ทุกข์ เป็นผล คือ สภาพที่ทนได้ยาก ภาวะที่ทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้
เช่น การเกิดแก่เจ็บตาย การพลัดพราก ความไม่สมหวัง
2. สมุทัย เป็นเหตุ คือ เหตุของทุกข์ ได้แก่ ตัณหา ความอยาก 3 ประการ
ความอยากในกาม. ความอยากเป็น, ความไม่อยากเป็น
3. นิโรธ เป็นผล คือ ความดับทุกข์ หรือ นิพพาน
4. มรรค เป็นเหตุ คือ หนทางดับทุกข์ มี 8 ประการ ได้แก่ เห็นชอบ คิดชอบ
วาจาชอบ ประพฤติชอบ อาชีพชอบ เพียรชอบ สติชอบ สมาธิชอบ
ทางพ้นทุกข์ คือ มัชฌิมาปฏิปทา หรือ ทางสายกลาง
22. ธรรมาภิบาล = ธรรม + อภิ + บาล
ธรรม = คุณความดี ความถูกต้อง ความเป็นธรรม
อภิ = อย่างยิ่ง
บาล = ปกครอง บริหาร
ธรรมาภิบาล
- ปกครอง/บริหารด้วยคุณความดีอย่างยิ่ง
- ปกครอง/บริหารด้วยความถูกต้องอย่างยิ่ง
- ปกครอง/บริหารด้วยความเป็นธรรมอย่างยิ่ง
28. ความรัก ความห่วงใย
ความรับผิดชอบต่อหน้าที่
ความกตัญํูกตเวที
ความซื่อสัตย์สุจริต
ความเที่ยงธรรม
ความเสียสละ
การให้อภัย
คุณธรรม พื้นฐาน
31. ศีล
ใช้กําหนดคุณสมบัติพุทธบริษัท เป็นหลักจัดการองค์กร
ใช้เป็นเครื่องฝึกสติ ปัญญา สร้างบารมี
ใช้เป็นเครื่องฝึกตบะ ฝืนกิเลส ฝืนสัญชาติญาณ
ใช้เป็นเครื่องฝึกมารยาทสังคม
ใช้เป็น KPI วัดผลการปฏิบัติของคนและองค์กร
สร้างวินัยและความเป็นระเบียบเรียบร้อย
สร้างหลักประกันให้ชีวิตและสังคม
ทําให้เกิดความประหยัด และ ประสิทธิภาพ
33. มนุษย์ ตั้งแต่ตื่นนอนจนหลับ จะใช้ชีวิตอยู่ 2 รูปแบบ (Mode)
รูปแบบแรก เป็ นรูปแบบดั้งเดิม มีตั้งแต่แรกเกิด เป็ นรูปแบบที่
วิวัฒนาการผ่านกาลเวลาแสนนานตั้งแต่เป็ นสัตว์มาเป็นมนุษย์ยุคปัจจุบัน เป็ น
รูปแบบการใช้ชีวิตที่คิด พูด ทา ตามที่ถูกกาหนดมาในสายพันธุ์ ตาม
ประสบการณ์การเรียนรู้ ตามความเคยชิน ตามธรรมชาติของตน เมื่อตาเห็น หูได้
ยิน จมูกได้กลิ่น ลิ้นลิ้มรส กายสัมผัส หรือ จิตนึกคิดอะไรขึ้นมา ก็เกิดความรู้สึก
เกิดอารมณ์ แล้วก็ตอบสนองไปแบบอัตโนมัติ ตามอุปนิสัย ความชอบไม่ชอบ
ความอยากไม่อยาก ของแต่ละคน ปล่อยให้ร่างกายจิตใจไหลไปเรื่อยๆตาม
กระแสเหตุการณ์และกาลเวลา อาจเรียกได้ว่า เป็นรูปแบบของ สัญชาตญาณดิบ
(Instinct)
อีกรูปแบบหนึ่ง เป็นรูปแบบที่จิตมีความยั้งคิด มีความระลึกได้ นึกขึ้นมา
ได้ ฉุกคิดได้ ว่าควรทาสิ่งหนึ่ง ไม่ทาอีกสิ่งหนึ่ง ตามที่เคยตั้งใจหรือกาหนดไว้
หรือ จิตกาหนดรู้ ระลึกอยู่กับการกระทาในปัจจุบัน หรือ ระลึกถึงสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
อย่างต่อเนื่อง
อาการของจิตที่ ระลึกได้ หรือ กาหนดรู้ เรียกว่า สติ
34. โดยปกติ ทุกคนล้วนต้องจัดระเบียบชีวิต จัดระบบการ
ทางานของตนเอง ล้วนมีความต้องการสิ่งที่ดีและดีขึ้น
ต้องการปรับปรุง-เปลี่ยนแปลง-พัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น
ต่างกาหนดเป้ าหมายและสิ่งที่ต้องทาเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ
แล้วก็ลงมือทา จึงจาเป็ นอย่างยิ่งที่จะต้องมี สติ มาคอย
กากับให้ระลึกถึงและทาตามสิ่งที่กาหนดไว้ ถ้าปล่อยไป
เรื่อยๆ ทุกอย่างก็จะเหมือนเดิม ไม่มีวันสาเร็จได้ เพราะเป็น
สิ่งใหม่ที่ไม่เคยทา ถ้าไม่มีสติคอยเตือนให้ระลึกถึงเป้ าหมาย
และสิ่งที่ต้องทา เตือนให้กาหนดรู้อยู่กับปัจจุบัน เพื่อที่จะทา
ปัจจุบันให้ดีที่สุดตามที่กาหนด ชีวิตจิตใจก็จะหลงเพลินไป
กับสิ่งต่างๆรอบตัวที่เข้ามาตลอดเวลา ทาไปตามสิ่งที่เคยทา
ลืมสิ่งที่ตั้งใจทาไป
35. ชีวิตใน Mode สติ นี่แหละ ที่ทาให้ชีวิตเกิดการ
เปลี่ยนแปลง เกิดการพัฒนา
สติ คือ สิ่งที่กากับชีวิต ทาให้ชีวิตมีวิวัฒนาการ
เปลี่ยนแปลงโลกไปสู่สิ่งที่ดีกว่า
ยิ่งใช้ชีวิตใน Mode สติ มากเท่าใด มนุษย์และโลกก็จะ
ยิ่งเจริญมากขึ้นเท่านั้น
สติ จึงเป็ นคุณธรรมสาคัญ เปลี่ยนแปลงเรา
เปลี่ยนแปลงโลก สู่สิ่งที่ดีกว่าเสมอ
เราเข้าใจคุณค่าของสติหรือยัง ? ฝึกและรักษาสติ ได้
มากน้อยเพียงใด ?
เราอยู่ใน Mode ใดมากกว่ากัน ? สัญชาตญาณดิบ
หรือ สติ
37. ผู้นา 5 ระดับของ จอห์น แมกซ์เวลล์
Position
Level
มีตาแหน่งหน้าที่
Permission
Level
ได้รับฉันทานุมัติ
Production
Level
มีผลงานที่ดี
People
Development
Level
พัฒนาและสร้างคน
Personhood
Level
ศรัทธาและ
จงรักภักดี
38. คุณลักษณะของผู้นายุคใหม่
สามารถกาหนดวิสัยทัศน์ กลยุทธ์ ยุทธวิธี และ
ดาเนินการให้องค์กรบรรลุวิสัยทัศน์
มีจริยธรรมและคุณธรรม นาองค์กรสู่ ธรรมาภิบาล
เป็นผู้นาในการสร้างนวัตกรรม
สามารถบริหารการเปลี่ยนแปลง
มีความรู้และความเข้าใจในเรื่องการบริหารความเสี่ยง
สามารถบริหารทรัพยากรมนุษย์ สร้างการทํางานเป็นทีม
รับผิดชอบต่อทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมและสังคม
42. George Bernard Shaw
Nobel Prize in Literature 1925
The reasonable man
adapt to the world.
The unreasonable man
adapt the world to his idea.
Most of progress come from
the unreasonable man.
50. ชีวิตมีความหมายมากกว่าการกิน การแย่งชิง หรืออํานาจในฝูงนก? ตั้งพัน
ชาติ หมื่นชาติ! แล้วก็อีกหนึ่งร้อยชาติที่จะได้คิด
ความหมายในการดํารงชีวิตของเรา
คือ การแสวงหาความเป็นเลิศและเผยแพร่ต่อไป
เธอจะเริ่มสัมผัสสวรรค์ เมื่อถึงเวลาที่เธอสัมผัสความเร็วเลิศนั้น และนั่น
ไม่ใช่การบินด้วยความเร็วหนึ่งพันไมล์ต่อชั่วโมง หรือ
หนึ่งล้านไมล์ หรือบินด้วยความเร็วของแสง
เพราะว่าไม่ว่าจํานวนใดก็เป็นขอบเขตจํากัด
และความเป็นเลิศไม่มีขอบเขต ความเร็วเลิศ คือการไปถึงที่นั่น"
มันประหลาด นางนวลที่เยาะเย้ยความเป็นเลิศ
เพื่อที่จะได้ไปเที่ยว กลับไม่ได้ไปไหน แล้วก็เชื่องช้า
ผู้ที่พักการเที่ยวไว้เพื่อแสวงหาความเป็นเลิศ
ไปไหนก็ได้ และก็รวดเร็วฉับพลัน
54. Knowledge Integration
• Science & Art Knowledge
• Business Management Knowledge
• West & East Knowledge
• Business, Social, and Political Knowledge
• Life Knowledge
56. ลักษณะพิเศษของปัญญา
• ไม่ใช่เป็นทั้งความรู้ และ ความจํา
(Neither Knowledge nor Memory)
• เป็นสิ่งเฉพาะบุคคล และ มีเอกลักษณ์ (Individual & Unique)
• เรียบง่าย แต่ได้ผล (Simple but Effective)
• ปรับเปลี่ยนได้ตามสิ่งแวดล้อมภายในและภายนอก
(Flexible to Internal & External Factors)
• ไม่เจือปนด้วยความโน้มเอียงส่วนตัว (No Bias)
• เป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม (Benefits to All)
• คิดถึงความเสี่ยงและการป้ องกันความเสี่ยง
(Risk Concern & Protection)
• จังหวะเวลาเหมาะสม (Right Time)
60. หนึ่งเป้ าหมายหลายหนทาง
บอก สั่ง สอน ชี้แนะ บอกใบ้ เน้นยํ้า ตอกยํ้า
ถามให้คิด พูดเป็นปริศนา พูดตรงข้าม ท้าทาย
เงียบเฉยไม่พูด ให้คิดเอง ทําให้ดู
เล่านิทาน แชร์ประสบการณ์ สร้างแรงบันดาลใจ
ประชุมเพื่อสอนงาน ตีวัวกระทบคราด
พาออกสนาม ให้การบ้าน ให้หาความรู้เพิ่มเติม
ฝึกอบรมภายใน ใช้โคชภายนอก โยนลงนํ้า
ให้เป็นหัวหน้ากลุ่ม ให้เป็นวิทยากร ให้สร้างเครือข่ายภายนอก
แนะให้ดูหนังชื่นชมศิลปะ ไม่ละเลยเรื่องส่วนตัว
ลงโทษเพื่อสอนให้รู้จักรับผิด ปลูกฝังคุณธรรม
62. ความรัก แบ่งออกได้เป็น 3 ระดับ ตามระดับจิตวิญญาณ
ความรักระดับพื้นฐาน เป็นความรักของปุถุชนคนทั่วไป คลุกเคล้า
ระหว่างสัญชาตญาณและจิตวิญญาณที่มีคุณธรรมจริยธรรมขั้นพื้นฐาน มีดี
มีชั่วสลับกัน เดี๋ยวเป็ นสัตว์โลกเดี๋ยวเป็ นมนุษย์ เป็ นความรักที่ยังคับแคบ
จํากัดวงอยู่แค่ตนเอง ครอบครัว และญาติมิตร
ความรักระดับคุณธรรม เป็นความรักของวีรชน ปราชญ์ และ ผู้นํา
ที่ถือคุณธรรมจริยธรรมเป็นใหญ่ เป็นความรักที่กอปรด้วยกตัญญู เมตตา
กล้าหาญ เสียสละ ขยายวงจากความรักพื้นฐาน ครอบคลุมคนกลุ่มใหญ่ขึ้น
เช่น องค์กร ชุมชน สังคม ประเทศ
ความรักระดับไร้ตัวตน เป็นความรักของอริยชน และ มหาบุรุษ ผู้มี
ความรักอันยิ่งใหญ่ต่อมนุษย์ สัตว์ สรรพสิ่ง อย่างไม่มีประมาณ - ไร้ขอบเขต
, ไม่แบ่งแยกว่าเราว่าเขา ไม่ทําเพื่อตนเอง - ไร้ตัวตน, ไม่ทําด้วยตัณหาและ
ความคาดหวัง - ไร้รัก, ทําตามหน้าที่ สร้างคุณประโยชน์ให้กับส่วนรวม
อย่างสอดคล้องกับธรรมชาติ, ทําด้วยธรรม ทําเพื่อ
63. มหาราช ผู้ทรงเป็ นธรรมิกราชา ทรงมีความรักอันยิ่งใหญ่ต่อ
ประชาชนของพระองค์ ทรงลําบากตรากตรําเสด็จเยี่ยมประชาชนทั่วประเทศ
ความทุกข์ของประชาชนก็คือความทุกข์ของพระองค์ การพัฒนาประเทศถือ
เป็นพระราชกรณียกิจที่สําคัญที่สุดของพระองค์ ยามเมื่อประชาชนประสบภัย
พิบัติ พระองค์ก็ทรงติดตามอย่างใกล้ชิดและพระราชทานความช่วยเหลืออย่าง
รวดเร็วทันที แม้พระวรกายจะเป็ นอุปสรรคบ้าง พระองค์ก็ไม่ทรงหยุด
พักผ่อน ทรงตั้งพระราชปณิธานที่จะอยู่ดูแลประชาชนต่อไปให้นานที่สุด ด้วย
อาศัยอํานาจแห่ง ”อิทธิบาท 4” คือ ฉันทะ(ความพอใจรักใคร่), วิริยะ(ความ
เพียร), จิตตะ(ความเอาใจใส่), และ วิมังสา(ความหมั่นวิเคราะห์) ถ้าไม่ใช่
เพราะ ฉันทะ อันได้แก่ ความรักอันยิ่งใหญ่ต่อประชาชนของพระองค์ ซึ่งเป็น
บาทเบื้องต้นของอิทธิบาท 4 แล้ว อะไรเล่าที่จะสามารถบันดาลให้พระราช
หฤทัยของพระองค์ สามารถรองรับความทุกข์ความเดือดร้อนของประชาชน
ทั้งแผ่นดินไว้ได้
64. มหาบุรุษ ผู้มีความรักอันยิ่งใหญ่แห่งโลกตะวันตก ผู้ยอม
สละชีวิตของพระองค์ไถ่บาปให้กับมวลมนุษย์ แต่ละก้าวที่
พระองค์เดินแบกไม้กางเขนและล้มลงด้วยความเจ็บปวดแสน
สาหัส ชี้ให้เห็นถึงบาปอันมหันต์แต่ละข้อที่มนุษย์สร้างขึ้น ซึ่ง
พระองค์กําลังแบกรับบาปนั้นแทน และ 3 วันแห่งทัณฑ์ทรมานที่
พระองค์ถูกตรึงด้วยตะปูอยู่บนไม้กางเขน ก็คือ การไถ่บาปครั้ง
สุดท้ายให้แก่มวลมนุษย์ พระองค์สอนให้มนุษย์ สํานึกบาป ด้วย
การตระหนักถึงบาปและผลกรรม ที่ได้กระทําไปอย่างไร้ความรัก
ต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน และให้สัญญาว่า จะไม่ปฏิบัติชั่วร้าย
เช่นนั้นอีก พระองค์สอนให้มนุษย์ มอบความรัก และ ให้อภัยต่อ
กัน
67. • คัมภีร์เต้าเต็กเก็ง กล่าวไว้ว่า นํ้าเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ สามารถรองรับทุกสรรพสิ่ง
และ ในขณะเดียวกัน ก็ไหลลงสู่ที่ตํ่า นํ้าจึงสร้างความยิ่งใหญ่จนเป็นมหาสมุทร
ได้ ดังนั้น จงทําใจ ให้เหมือน นํ้า มีความนอบน้อมถ่อมตนจึงยิ่งใหญ่ได้ และ
ทําใจให้เหมือนมหาสมุทรที่กว้างใหญ่ จึงสามารถรองรับเรื่องราวได้ทุกเรื่อง
• เจ็งกิสข่าน จะไม่สําเร็จถ้าไม่มีแม่ที่เก่ง แม่ของเจ็งกิสข่านสอนว่า เจ้าจะไม่มี
วันเป็นข่านที่ยิ่งใหญ่ได้ ถ้าเจ้ายังไม่สามารถทําใจให้เหมือนท้องทุ่งหญ้าที่กว้าง
ใหญ่ได้
• ในเรื่อง ฤทธิ์มีดสั้น ทุกคนยกย่องให้มีดสั้น เป็นสัญญลักษณ์ของคุณธรรม และ
เป็นผู้นํายุทธภพ เมื่อใดที่ยุทธภพมีภัย ลี้คิมอวงก็จะออกมาขจัดภัยให้ แต่ที่ทุก
คนยกย่องลี้คิมฮวง ไม่ใช่เพราะ ลี้คิมฮวงมีมีดสั้นแต่เพราะลี้คิมฮวง มีจิตใจที่
ยิ่งใหญ่ ที่สามารถรองรับเรื่องของทุกคนได้
73. บริษัท
บุคคลแต่ละคน
พันธกิจ - ทําไม
วิสัยทัศน์ - อะไร
คุณค่า - อย่างไร
ความคิด จิตใจ จิตวิญญาณ
ส่งมอบ
ความพึงพอใจ
ตระหนักและเข้าถึง
แรงบันดาลใจ
ปฏิบัติและแสดงออก
ความเข้าใจและห่วงใย
ความสามารถ ความสามารถ
ดีกว่าเดิม สร้างความแตกต่าง ทําให้รู้สึกแตกต่าง
ความสามารถ
ทําให้กําไร ทําให้กลับมาซํ้าอีก ทําให้ยั่งยืนถาวร
Marketing 3.0 by Philip Kotler การตลาด 3.0 โดย ฟิลิป คอตเลอร์