More Related Content
More from Padvee Academy (20)
ศาสนาเชน
- 3. โสเกรตีส พ.ศ. 73-144
เพลโต พ.ศ. 116-196
อริสโตเติล พ.ศ. 159-221
ธาเลส 81-3 ปีก่อน พ.ศ.
อินเดีย
พระพุทธเจ้า
80 ปี ก่อนพ.ศ.
จีน
ขงจื่อเหลาจื่อ
8 ปีก่อนพ.ศ.-พ.ศ.74
กรีก
มหาวีระ
- 5. ลักษณะโดยทั่วไป
ศาสนาเชน ถือกำเนิดขึ้นในประเทศอินเดียเมื่อประมำณ
2500 ปีล่วงมำแล้ว หรือร่วมสมัยเดียวกันกับพระพุทธองค์
ดังปรำกฏหลักฐำนตำมพระไตรปิฎกในนำมของ “นิครณฐ
นำฏบุตร” (บุตรของนักฟ้อน) เป็น 1 ใน 6 คุรุ ของลัทธิที่มี
ชื่อเสียงในสมัยพุทธกำล
ศาสนาเชนจัดได้ว่ำเป็นศำสนำในแบบอเทวนิยม
(Atheism) ซึ่งถือกาเนิดขึ้นเพื่อปฏิเสธฐานะของ
ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู เช่นเดียวกันกับ
พระพุทธศาสนา แต่ในรำยละเอียดของหลักคำสอนบำง
เรื่อง เช่น เรื่องของกรรม หรือควำมเป็นอมตะของวิญญำณ
(อัตตำ) นั้น มีควำมแตกต่ำงจำกพุทธศำสนำอย่ำงสิ้นเชิง
- 6. เกิดควบคู่กันมากับพระพุทธศาสนา
จัดเป็นศาสนาประเภทศาสนาถิ่น/ชาติของชนชาติอินเดียทางภาคเหนือ
บาเพ็ญตบะด้วยวิธีต่างๆ โดยเฉพาะการทรมานร่างกาย
(อัตตกิลมถานุโยค)
ปัจจุบันมีศาสนิกชนน้อยลงเรื่อยๆ (มีประมาณ 1 ล้าน 5 แสนคน )
คัมภีร์เรียกชื่อว่า อาคม(หมายถึงศีล)
เป็นนักมังสวิรัติ (อาชีพพวกพระ ครูอาจารย์ ศิลปิน พ่อค้า นักธุรกิจ
นายธนาคาร)
มีศาสดามาแล้วถึง ๒๔ องค์
ศาสดาองค์แรก ชื่อ ฤษภะ องค์สุดท้ายชื่อ มหาวีระ (เจ้าชายวรรธ
มาน)
ศาสดาเรียกว่า ตีรถังกร (ผู้กระทาซึ่งท่า)
- 13. ปัจฉิมเทศนา
ป ริ นิ พ พ า น เ มื่ อ
พ ร ะ ช น ม า ยุไ ด้ 72
พรรษา ในวันที่ศาสดา
มหาวีระปรินิ พพาน
คัมภีร์ของเชนระบุว่ามี
นักบวชราว 14,000 รูป
มาร่วมงาน
- 14. จริยศาสตร์(บัญญัติ ๕ ประการ)
๑. อหิงสา = การไม่ฆ่า ไม่เบียดเบียน ไม่ทาร้ายสัตว์
๒. สัตยะ = ซื่อสัตย์
๓. อัสตียะ =ไม่ลักขโมย หลบหนีภาษี
๔. พรหมจริยะ = เว้นจากกามสุข
๕. อปริคหะ = ไม่โลภ
ทั้งห้าข้อรวมแล้ว
เรียกว่า พรต = วัตร
การปฏิบัติของนักบวช
เรียกว่า “มหาพรต”
การปฏิบัติของคฤหัสถ์
เรียกว่า “อนุพรต”
นักบวชที่ปฏิบัติเคร่งครัด
เรียกว่า “สาธุ สาธนี”
- 15. 1. สัมยัคทรรศนะ คือ ความเห็นชอบ
ติรัตนะของเชน
2. สัมยัคชฺญาน คือ ความรู้ชอบ
3. สัมยัคจาริต คือ ความประพฤติชอบ
ข้อปฏิบัติเพื่อบรรลุโมกษะ เรียกว่ำ ไตรรัตน์ หรือ ติรัตนะ
หมำยถึง แก้ว 3 ประกำร ได้แก่
- 18. ศาสนาเชนยึดอหิงสาธรรมและชีวิตสันโดษ Non-violence
ศาสนาเชนถือว่า “ชีวิตที่ดีจะสามารถมีขึ้นได้ก็โดยการรู้จักหัก
ห้าม ตนเองเท่านั้น เพราะตัณหาเป็นเหตุแห่งทุกข์ทั้งปวง”
วิญญาณที่หนักด้วยบาปจะจมสู่นรก...วิญญาณที่เบาบริสุทธิ์จะ
ลอย ขึ้นสวรรค์จนเข้าสู่นิรวาณ”
- 19. นิกำย
๑. ทิคัมพร – เปลือยกำย ๒. เศวตัมพร – นุ่งห่มผ้ำขำว
ภำยหลังกำรสิ้นชีวิตของศำสดำมหำวีระ ศำสนำเชน
ได้มีกำรแตกแยกออกเป็น 2 นิกำย ได้แก่
ซึ่งหลักคำสอนของนิกำยทั้ง 2 นั้น โดยเนื้อหำสำระ แล้วมีควำมแตกต่ำงกันไม่มำกนัก
จะแตกต่ำงกันก็เพียงรำยละเอียดปลีกย่อยเท่ำนั้น
- 20. ๑. ทิคัมพร – เปลือยกำย
มีลักษณะเด่นๆโดยสังเขปดังนี้
อนุรักษ์นิยม, เจริญอยู่ทำงตอนใต้ของอินเดีย
มีอำภรณ์เป็นอำกำศอยู่ตลอดเวลำ เนื่องจำกทัศนะที่
ถือว่ำกำรเป็นนักบวชจำเป็นที่จะต้องสละทุกสิ่งทุก
อย่ำงไม่สำมำรถถือครองสิ่งใดได้
แนวคิดของนิกำยนี้มีลักษณะแบบ “อัตตกิลมถำนุ
โยค” มีกำรทรมำนตนเองในหลำกหลำยลักษณะ
โดยถือเป็นกำรบำเพ็ญตบะขั้นอุกฤษฏ์ อันจะทำให้
กิเลสและกรรมเก่ำหมดไปจนสำมำรถเข้ำถึงโมกษะ
ได้ในที่สุด
นิกำยนี้มีควำมเชื่อว่ำ ผู้ชำยเท่ำนั้นจึงจะสำมำรถ
บรรลุโมกษะได้ ส่วนผู้หญิงจำเป็นที่จะต้องอธิษฐำน
ให้เกิดเป็นผู้ชำยเสียก่อน จึงสำมำรถบรรลุโมกษะได้
พุทธศำสนำ เรียกว่ำ อเจลกะ, นัคคะ, นิครนถ์
- 24. ข้อสังเกต
๑. กำรแบ่งแยกนิกำย นอกจำกอิทธิพลของกำลเวลาแล้ว
สภาพแวดล้อมก็มีส่วนสำคัญ
๒. ผู้หญิงสาเร็จเป็นสิทธาได้ ก็เพรำะบำงนิกำย
(เศวตัมพร) มีติดถังกรเป็นผู้หญิง
๓. นักบวชทุกท่ำนต้องถอนผมของตนด้วยทำงตำลหรือมือ
แทนกำรโกนเพื่อพิสูจน์ความอดทน
๔. ศำสนำเชนยกย่องกำรปฏิบัติแบบ
อัตตกิลมถำนุโลก เช่น กำรนิยมอดอำหำร
(ถือเป็นกำรตำยที่บริสุทธิ์)
- 25. คัมภีร์ทางศาสนา
ศำสนำเชน เรียกคัมภีร์ทำงศำสนำว่ำ “อำคม” มีอยู่ประมำณ 50 เล่ม แต่งเป็น
ภำษำสันสกฤตบ้ำง ภำษำอรรธมำคธีบ้ำง ภำษำประกฤตบ้ำง ประกอบด้วยอัง
คะ (Section) ต่ำงๆ ซึ่งในบำงอังคะ สำวกของศำสดำมหำวีระได้แต่งขึ้นมำใน
ภำยหลัง ซึ่งตัวคัมภีร์โดยสำระสำคัญนั้น
มีหลักใหญ่ใจควำมอยู่ 3 ประกำร คือ
1. ชีวีตของมนุษย์ทั้งปวงเป็นทุกข์ จึงต้องปฏิบัติตำมวิถีพรต
เพื่อมุ่งเข้ำสู่ไกรวัลย์ อันเป็นกำรดับทุกข์โดยสมบูรณ์
2. สัวสำรวัฏพันธนำกำรชีวะไว้ด้วยอนุภำคแห่งกรรม
จำเป็นต้องชำระชีวะให้บริสุทธิ์เรียกว่ำ “มุกตะชีวะ”
3. กำรปฏิบัติหน้ำที่ประจำวันตำมสถำนะ
(คฤหัสถ์, บรรพชิต) ของตน
- 32. “โครงสร้างพระไตรปิ ฎก”
พระวินัยปิ ฎก พระสุตตันตปิ ฎก พระอภิธรรมปิ ฎก
๑.มหาวิภังค์
๒.ภิกขุนีวิภังค์
๓.มหาวรรค
๔.จุลลวรรค
๕.ปริวาร
๑. ทีฆนิกาย
๒.มัชฌิมนิกาย
๓.สังยุตตนิกาย
๔.อังคุตรนิกาย
๕.ขุททกนิกาย
๑. ธัมมสังคณี
๒. วิภังค์
๓. ธาตุกถา
๔. ปุคคลบัญญัติ
๕. กถาวัตถุ
๖. ยมก
๗. ปัฏฐาน
- 34. นิครนถนำฏบุตร ได้สอน อภยราชกุมารให้ไปถำมพระผู้มีพระภำค
เกี่ยวกับกำรกล่ำววำจำ ซึ่งนิครนถนำฏบุตรกล่ำวว่ำ
ถ้ำถำมปัญหำ ๒ เงื่อนอย่ำงนี้แล้ว พระสมณโคดมจะกลืนไม่เข้าคายไม่
ออก
พระตถาคตเคยพูด วาจาที่ไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่พอใจของคนอื่นหรือไม่
เคยพูด ไม่เคยพูด
ท่ำนกับปุถุชนจะต่ำงกันอย่ำงไรกัน
เพรำะแม้ปุถุชนก็กล่ำววำจำเช่นนั้น
จะย้อนได้ว่ำ เหตุไฉนจึงว่ำกล่ำว
พระเทวทัตอย่ำงรุนแรง จน
พระเทวทัตโกรธไม่พอใจ
- 41. 1. เชนปฏิเสธการมีอยู่ของพระเจ้า ไม่เชื่อเรื่องพระเจ้ำสร้ำงโลก ไม่เชื่อเรื่องกำร
อ้อนวอนให้พระเจ้ำมำช่วย แต่เชื่อในกำรกระทำของตนเอง ไม่มีกำรบูชำพระเจ้ำ
แต่มีกำรบูชำกรำบไหว้ชีวะบริสุทธิ์ทั้งหลำยที่เข้ำถึงกำรหลุดพ้นสมบูรณ์ 5
ประเภท คือ (1) อรหันต์ (2) สิทธะ (3) อำจำริยะ (4) อปำธยำยะ (5) สำธุ และเชื่อ
ว่ำทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นไปตำมอำนำจของเหตุปัจจัยในธรรมชำติ
2. เชนปฏิเสธฐานะของคัมภีร์พระเวท เนื่องจำกหำกถือกันว่ำคัมภีร์พระเวทเป็น
กำรเปิดเผยสัจจะจำกพระเจ้ำ (ศรุติ) ดังนั้นปรัชญำเชนที่ปฏิเสธถึงควำมมีอยู่ของ
พระเจ้ำ ย่อมปฏิเสธฐำนะควำมสำคัญของคัมภีร์พระเวทไปโดยปริยำย
ข้อแตกต่างระหว่างเชนกับพราหมณ์ - ฮินดู
- 42. ข้อแตกต่างระหว่างเชนกับพราหมณ์ - ฮินดู
3. เชนปฏิเสธการแบ่งชั้นวรรณะ มีกำรให้เสรีภำพ ภรำดรภำพ และควำมเสมอภำค
(แต่ก็ยังมีกำรแบ่งแยกในเรื่องของเพศอยู่) แก่ ศำสนิกชนทุกๆ คน เชนเชื่อว่ำ ควำมดี
- ควำมชั่วเป็นผลิตผลมำจำกกำรกระทำของตน ชำติตระกูลมิใช่สิ่งที่วัดควำมดี -
ควำมชั่ว มณีภัทรซึ่งเป็นอำจำรย์ที่มีชื่อเสียงมำกของเชน ได้สอนศิษย์มิให้ยกตนข่ม
ท่ำนว่ำศำสนำของตนประเสริฐที่สุด และไม่ให้ตั้งตนเป็นปฏิปักษ์ต่อศำสนำอื่นๆ ซึ่งก็
นับว่ำเป็นแนวคิดที่เปิดกว้ำงพอสมควร
4. เชนเน้นประโยชน์ในชีวิตนี้ ไม่เน้นเรื่องกำรหวังผลในชำติหน้ำ แม้ในกำรปฏิบัติก็
ไม่ให้สำวกคิดหวังว่ำตำยแล้วจะได้ไปสวรรค์ กำรคิดเช่นนี้ถือว่ำเป็นบำปและต้องผิด
ศีล เพรำะใจเกิดกิเลส - ตัณหำ
- 45. สถานการณ์ในปัจจุบัน
จำนวนศำสนิกของศำสนำเชนตำมสถิตินั้น มีไม่ถึง
10 ล้ำนคน โดยผู้ถือนิกายทิคัมพรส่วนใหญ่มีอยู่ใน
อินเดียภำคใต้ และมีอยู่บ้ำงในอินเดียภำคเหนือ ใน
จังหวัดทำงภำคตะวันตกเฉียงเหนือ ในรำชปุตตนะ
ตะวันออกและในปัญจำบ
ส่วนนิกายเศวตามพรนั้นมีอยู่ใน
แคว้นคุชรำตและแคว้นรำชปุตตนะ
ตะวันตก นอกจำกนั้นยังมีอยู่อย่ำง
กระจัดกระจำยทั่วไปในอินเดีย
ภำคเหนือและภำคกลำง
Editor's Notes
- ตราเมืองฮารัปปา อารยธรรมโมเหนโจดาโร คันธาระ
- อภิเษกสมรส เมื่ออายุ 19 พรรษา
- รูปแบบที่เป็นรูปฝ่ามือนี้เป็นที่นิยมมากที่สุดในกลุ่มศาสนิกชนชาวเชน
- สิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงสอนนั้นคือ จริง มีประโยชน์ เหมาะสมแก่กาลเทศะ