1. พินิจ AEC และการเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของไทย ภายใต้การค้าไร้พรมแดน ตอนที่ 2
2.1
สมพงษ์ ศิริโสภณศิลป์
2. Global Value Chain
Global Value Chain หรือที่เรียกด้วยคำย่อว่า GVC หรือที่ผู้เชี่ยวชาญบางกลุ่มเรียกว่า Dispersed
Manufacturing คือโครงข่ายการผลิตระหว่างประเทศ (International Production Network) โดยที่
กระบวนการผลิตสินค้าจะถูกซอยย่อยเป็นหลายส่วนหรือหลายขั้นตอน และฐานการผลิตและฐานปฏิบัติการในแต่
ละส่วนของการผลิต จะกระจายไปอยู่ในทำเลในประเทศต่างๆที่มีความได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบเฉพาะ โดยฐาน
การผลิตไม่จำเป็นต้องตั้งอยู่ใกล้ลูกค้าเสมอไป แต่อาจคำนึงถึงข้อได้เปรียบเชิงพื้นที่ในมิติอื่น เช่น ตั้งอยู่ใกล้ปัจจัย
ผลิต มีความพร้อมด้านแรงงานราคาถูก อยู่ในพื้นที่ที่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิต เป็นต้น ดังรูปที่เป็น
ตัวอย่างที่แสดงถึง GVC ของการผลิตกางเกงยีนส์ยี่ห้อ Levi โดยด้ายจะถูกผลิตจากโรงงานในประเทศเกาหลีใต้ (1)
ส่งไปทอเป็นผ้าและย้อมที่ประเทศไต้หวัน (2) และถูกนำไปตัดเป็นชิ้นส่วนของกางเกงที่ประเทศบังคลาเทศ (3)
ในขณะที่ซิปจะผลิตในประเทศฟิลิปปินส์ (4) ซึ่งทั้งชิ้นส่วนกางเกงและซิปจะถูกนำมาเย็บเป็นกางเกงสำเร็จรูปใน
ประเทศกัมพูชา (5) ก่อนที่จะถูกจำหน่ายไปทั่วโลก (6) ทั้งนี้ การผลิตเสื้อผ้าด้านต้นน้ำจะเป็นการผลิตที่เป็น
Capital Intensive และต้องอาศัยการเข้าถึงเทคโนโลยีในการผลิต ดังนั้น การผลิตด้านต้นน้ำจึงถูกกำหนดให้มี
การดำเนินการที่ประเทศเกาหลีใต้และประเทศไต้หวัน ในขณะที่การผลิตด้านปลายน้ำของเสื้อผ้าจะเป็น Labor
Intensive จึงถูกกำหนดให้ทำการผลิตที่ประเทศบังคลาเทศและประเทศกัมพูชา ซึ่งเป็นประเทศที่มีแรงงานจำนวน
มากและค่าแรงถูก
1
3 2
5 6
4
The Journey of Levi’s Jeans
ดัดแปลงจาก http://aienetwork.org/infographic/12/from-fiber-to-fashion-unzipping-the-apparel-global-
value-chain
2. GVC เป็นรูปแบบทางธุรกิจสมัยใหม่ ซึ่งมีความแตกต่างจากรูปแบบการผลิตแบบดั้งเดิมที่การผลิตทุก
ขั้นตอนจะดำเนินการอยู่ ณ ที่เดียว ผู้กำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์ในการแข่งขันยุคใหม่ จำเป็นต้องสลัดกรอบ
ความคิดการผลิตแบบดั้งเดิม และให้ความสำคัญกับการก่อเกิดของ GVC ให้มากขึ้น เพราะว่ารูปแบบการผลิต
แบบ GVC ได้มีส่วนสำคัญอย่างมากต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของโลกแล้ว ดังจะเห็นได้จากรายงาน Global
Value Chain Development ของ UNCTAD ในระบุว่า GVC ระหว่างประเทศเป็นโครงข่ายที่ถูกกำหนดและสั่ง
การโดยธุรกิจข้ามชาติ (Transnational Corporation, TNC) และครอบครองประมาณ 80% ของการค้าโลก
(Global Trade)
กรอบความคิดของ GVC ทำให้เกิดการทบทวนการคิดมูลค่าของดุลการค้าระหว่างประเทศ โดยกรณีศึกษา
ที่มีการกล่าวถึงมากคือ กรณีของดุลการค้าที่เกิดจากการผลิต iPhone ในประเทศจีน โดย iPhone เป็นสินค้าที่
ออกแบบโดยบริษัทในสหรัฐอเมริกา และชิ้นส่วนที่นำมาประกอบเป็นโทรศัพท์จะถูกผลิตในประเทศต่างๆ เช่น
ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เยอรมัน เป็นต้น และชิ้นส่วนทั้งหมดจะถูกนำเข้ามาในประเทศจีนเพื่อทำการประกอบเป็น
โทรศัพท์ก่อนที่จะส่งไปจำหน่ายในประเทศสหรัฐอเมริกา ดังรูป
กรณีศึกษา iPhone 3G
Components JPN
ปรับจาก Towards measuring trade in value‐added and other indicators of global value
chains: Current OECD work using I/O tables. Bo Meng & Sébastien Miroudot 2011.
2.2
USA CHN
Assembly
KOR
GER
ROW
Retail price:
$500.00
(Profit
margin: 64%)
Components
โทรศัพท์ iPhone นี้มีต้นทุนการผลิตรวมชิ้นส่วนและค่างแรงในการประกอบเป็น 179 เหรียญสหรัฐ การ
คิดมูลค่าดุลการค้าแบบดั้งเดิมจะนำต้นทุนรวมทั้งหมดมาคิดเป็นดุลการค้าที่จีนได้จากการส่ง iPhone ที่ผลิตได้
กลับไปที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งจากการผลิต iPhone เป็นจำนวน 11.3 ล้านเครื่องในปี ค.ศ. 2009 ทำให้จีนได้เปรียบ
ดุลการค้าต่อสหรัฐอเมริกาเป็นมูลค่ากว่า 1,900 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่เนื่องจากโทรศัพท์ iPhone ที่จีนส่งออกไป
ยังสหรัฐอเมริกานั้น จำเป็นต้องนำเข้าสินค้าขั้นกลาง (Intermediate Goods) ที่เป็นชิ้นส่วนที่ผลิตจากประเทศ
3. ต่างๆ มาทำการประกอบในประเทศจีน มูลค่าเพิ่ม (Value Added) ในตัวสินค้า iPhone ที่เกิดขึ้นจริงใน
ประเทศจีน คือ ค่าแรงของแรงงานที่ทำการประกอบตัวโทรศัพท์ ซึ่งมีมูลค่าเพียง 6.50 เหรียญสหรัฐต่อเครื่อง
ดังนั้น หากคิดเพียงมูลค่าเพิ่มที่เกิดขึ้นจริงในประเทศจีนจะพบว่า ดุลการค้าที่จีนได้เปรียบต่อสหรัฐอเมริกาจะ
ลดลงเหลือเพียงประมาณ 70 ล้านดอลลาร์เท่านั้น ภายใต้การผลิตแบบ GVC และด้วยวิธีการคิดมูลค่าการส่งออก
แบบดั้งเดิม ทำให้มูลค่าการส่งออกที่ได้รายงานกันมีค่าสูงกว่าความเป็นจริง เพราะเกิดการนับซ้ำ ในรายงาน
World Investment Report 2013 ของ UNCTAD ระบุว่า จากมูลค่าการส่งออกในปี 2010 ที่รายงานอยู่ที่ 19
ล้านล้านเหรียญสหรัฐนั้น ประมาณ 28% หรือ 5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐเป็นมูลค่าที่นับเกินเนื่องจากการนับ
ซ้ำซ้อน สำหรับสินค้าส่งออกจากประเทศไทยนั้น รายงานฉบับเดียวกันได้ระบุว่า มูลค่าที่เกิดขึ้น (Value Added)
จริงจากการดำเนินงานในประเทศไทยจะมีค่าประมาณ 70% ของมูลค่าทั้งหมดของสินค้าที่เราส่งออก หรืออีกนัย
หนึ่ง ประมาณ 30% ของมูลค่าของสินค้าที่ส่งออกทั้งหมดเป็นค่าของสินค้าขั้นกลางที่เรานำเข้ามาเพื่อมาประกอบ
เป็นสินค้าในประเทศไทยก่อนที่จะส่งออกไปอีกครั้งหนึ่ง
ภาพดุลการค้าที่เปลี่ยนไป
JPN
ROW
2.3
Components:
$10.75
USA CHN
iPhone: $179.00
$60.6
Assembly:
$6.50
Retail price:
$500.00
(Profit
margin: 64%)
2009 US trade
balance in iPhones
(mio USD)
KOR
GER
$22.96
$30.15
$48.04
Apple sold 11.3
million iPhones
in the US
in 2009
CHN JPN KOR GER ROW World
Gross Export -1,901.2 0 0 0 0 -1,901.2
Value added -73.5 -684.8 -259.4 -340.7 -542.9 -1,901.2
ปรับจาก Towards measuring trade in value‐added and other indicators of global value
chains: Current OECD work using I/O tables. Bo Meng & Sébastien Miroudot 2011.
นอกจากจะเกิดผลกระทบต่อการทบทวนการคิดมูลค่าของดุลการค้าระหว่างประเทศแล้ว การก่อเกิดของ
GVC ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่การผลักดันให้เกิดกระแสโลกาภิวัตน์ ทั้งนี้ จะเห็นว่า โครงข่ายการผลิตแบบ
GVC ที่ต้องมีการเคลื่อนย้ายวัสดุหรือสินค้าที่ผลิตในประเทศหนึ่งไปยังอีกประเทศหนึ่ง ประสิทธิภาพในการ
ประกอบการของโครงข่ายแบบ GVC จึงขึ้นอย่างมากกับขีดความสามารถในการเคลื่อนย้ายวัสดุและสินค้าระหว่าง
ประเทศได้อย่างรวดเร็วด้วยต้นทุนที่ต่ำ ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ด้วยเงื่อนไขสำคัญ 3 ประการ คือ 1) Trade
Liberalization การเปิดเสรีการค้าที่ยกเลิกกำแพงภาษีระหว่างประเทศ 2) Trade Facilitation การอำนวยความ
สะดวกด้านพิธีการในการนำเข้าและส่งออกสินค้า และ 3) Logistics Connectivity การเชื่อมโยงระบบโลจิสติกส์
ระหว่างประเทศ
4. ด้วยเหตุนี้ องค์กรการค้าระหว่างประเทศและประเทศที่พัฒนาแล้ว ซึ่งได้รับอิทธิพลและแรงกดดันจาก
ธุรกิจข้ามชาติขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นผู้กำหนด GVC ของโลก จึงมักจะสนับสนุนให้ประเทศที่กำลังพัฒนาเร่งดำเนินการ
เปิดเสรีทางการค้าพร้อมทั้งเร่งดำเนินการอำนวยความสะดวกแก่การค้าและการขนส่ง (Trade & Transport
Facilitation) ด้วยเหตุผลที่ว่า การดำเนินการเหล่านี้จะผลักดันให้ธุรกิจที่อยู่ในประเทศที่กำลังพัฒนา มีโอกาส
สูงขึ้นที่จะเข้าไปเป็นสมาชิกหนึ่งในกลุ่มผู้ผลิตของ GVC ระดับโลก และเพิ่มความสามารถในการทำการค้าระหว่าง
ประเทศ และการเข้าไปมีส่วนร่วมใน GVC ระดับโลกของประเทศที่กำลังพัฒนาจะก่อให้เกิดผลดีต่อการพัฒนา
เศรษฐกิจและสังคมของประเทศหลายประการ คือ เกิดการจ้างงานมาก เป็นโอกาสที่ธุรกิจในประเทศที่กำลัง
พัฒนาจะได้รับโอกาสในการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากธุรกิจอื่นที่อยู่ใน GVC เดียวกันที่มีความก้าวหน้าทาง
เทคโนโลยีมากกว่า อันจะส่งผลต่อเนื่องถึงการยกระดับความเชี่ยวชาญและรายได้ (Economic Upgrading) ของ
ผู้ประกอบการและบุคลากร และการยกระดับสถานะทางสังคม (Social Upgrading) ด้วยมาตรฐานการทำงานที่
สูงขึ้น
อย่างไรก็ดี เป็นความจริงที่ว่า การได้มีโอกาสเข้าร่วมใน GVC อาจจะสร้างประโยชน์ให้แก่ผู้ประกอบการ
ในประเทศที่กำลังพัฒนาบ้าง ไม่มากก็น้อย แต่สิ่งที่ประเทศที่พัฒนาเหมือนลืมหรือละเว้นที่จะพูดถึงคือ สุดท้าย
แล้ว ประเทศที่พัฒนาแล้ว ซึ่งเป็นเจ้าของ GVC จะเป็นผู้ที่ได้รับผลประโยชน์สูงกว่าสมาชิกที่มาจากประเทศที่กำลัง
พัฒนา ผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิกใน GVC เดียวกันได้รับผลประโยชน์ไม่เท่าเทียมกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับตำแหน่ง
(Positioning) และบทบาทของผู้ประกอบการ รวมถึงอำนาจต่อรองที่ผู้ประกอบการมีอยู่กับ GVC นั้นๆ หากไทย
ต้องการเข้าร่วมในกระแส GVC ซึ่งเป็นกระแสโลก มีความจำเป็นที่เราจะต้องรู้ท้นโลก เพื่อให้การเข้าร่วมของ
ไทยเกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งนี้ การเข้าร่วมกับกระแส GVC อาจจะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ตามที่มุ่งหวังเสมอไป
โดยรายงาน World Investment Report 2013 ของ UNCTAD เอง ยังได้ให้ข้อคิดประกอบการตัดสินใจเข้าร่วม
ใน GVC ไว้ ดังนี้
“However, participation in GVCs also involves risks. The GDP contribution of GVCs can be
limited if countries capture only a small share of the value added created in the
chain……. Countries need to make a strategic choice to promote or not to promote
participation in GVCs. However, the key question for most is how to incorporate GVCs in
development strategy.”
ถึงแม้เมื่อพิจารณาปัจจัยต่างๆรอบด้านแล้ว ประเทศไทยแทบจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องเข้าร่วม
ใน GVC โลก แต่เรายังสามารถที่จะทบทวนและปรับเปลี่ยนนโยบายในการพัฒนาประเทศ เพื่อกำหนดแนวทาง
หรือทิศทางในการเข้าร่วมในกระแส GVC ที่จะสร้างประโยชน์สูงสุดกับประเทศไทย บทความในตอนต่อไป จะ
นำเสนอการพิจารณาถึงองค์ประกอบและเงื่อนไขต่างๆที่ส่งผลต่อความสามารถในการสร้างประโยชน์หรือความมั่ง
คั่งจากการเข้าร่วม GVC
2.4