More Related Content
Similar to บทที่ 2 ดนตรีกศน
Similar to บทที่ 2 ดนตรีกศน (20)
More from peter dontoom (20)
บทที่ 2 ดนตรีกศน
- 2. ดนตรี เกิดขึ ้นมาในโลกพร้ อมๆกับมนุษย์เรานันเอง ในยุคแรกๆมนุษย์อาศัยอยู่ ในถ้ํ า
่
และใน โพรงไม้ แต่มนุษย์ก็รูจกการร้ องรํ าทําเพลงตามธรรมชาติ เช่นรู้จกปรบมือ เคาะ
ั
ั
หิน เคาะไม้ เป่ า และการเปล่งเสียงร้ อง เช่น การร้ องรํ าทําเพลงเพื่ออ้ อนวอนพระเจ้ าให้
ช่วยเพื่อพ้ นภัย บันดาลความสุขความ อุดมสมบูรณ์ตางๆให้ แก่ตน หรื อเป็ นการบูชา
แสดงความขอบคุณพระเจ้ าที่บนดาลให้ ตนมีความสุขความสบาย ในระยะแรก ดนตรี มี
ั
เพียงเสียงเดียวและแนวเดียวเท่านันเรี ยก Melody ไม่มีการประสานเสียง
้
จนถึงศตวรรษที่ 12 มนุษย์เราเริ่มรูจกการใช้เสียงต่างๆมา
้ ั
ประสานกันอย่างง่ายๆ เกิดเป็ นดนตรีหลายเสียงขึนมา
้
- 3. นักปราชญ์ทางดนตรี ได้ แบ่งดนตรี ออกเป็ นยุคต่างๆดังนี ้
1. Polyphonic Perio( ค.ศ. 1200-1650 ) ยุคนี ้เป็ นยุคแรก วิวฒนาการมา
ั
เรื่ อยๆ จนมีแบบฉบับและหลักวิช าการดนตรี ขึ ้น วงดนตรี อาชีพตามโบสถ์ ตามบ้ าน
เจ้ านาย และมีโรงเรี ยนสอนดนตรี
2. Baroque Period ( ค.ศ. 1650-1750 ) ยุคนี ้วิชาดนตรี ได้ เป็ นปึ กแผ่น มี
แบบแผนการเจริญด้ านนาฏดุริยางค์ มากขึ ้น มีโรงเรี ยนสอนเกี่ยวกับอุปรากร ( โอเปร่า)
เกิดขึ ้น มีนกดนตรี เอกของโลก 2 ท่านคือ J.S.Bach และ G.H. Handen
ั
3. Classical Period ( ค.ศ. 1750-1820 ) ยุคนี้เป็ นยุคทีดนตรีเริมเข้าสูยุคใหม่ มีความ
่
่
่
รุงเรืองมากขึน มีนกดนตรีเอก 3 ท่านคือ Haydn Gluck และMozart
่
้
ั
- 5. 5. Modern Period ( ค.ศ. 1900-ปั จจุบน ) เป็ นยุคที่ดนตรี เปลี่ยนแปลงไปมาก ดนตรี ประเภทแจส
ั
(Jazz) กลับมามีอิทธิพลมากขึ ้นเรื่ อยๆจนถึงปั จจุบนขนบธรรมเนียมประเพณีของแต่ละชาติ ศาสนา โดยเฉพาะ
ั
ทางดนตรี ตะวันตก นับว่ามีความสัมพันธ์ใกล้ ชิดกับศาสนามาก บทเพลงทีเกี่ยวกับศาสนาหรื อเรี ยกว่าเพลง
วัดนัน ได้ แต่งขึ ้นอย่างถูกหลักเกณฑ์ ตามหลักวิชาการดนตรี ผู้แต่งเพลงวัดต้ องมีความรู้ความสามารถสูง
้
เพราะต้ องแต่งขึ ้นให้ สามารถโน้ มน้ าวจิตใจผู้ฟังให้ นิยมเลื่อมใสในศาสนามากขึ ้น ดังนันบทเพลงสวดในศาสนา
้
คริ สต์จงมีเสียงดนตรี ประโคมประกอบการสวดมนต์ เมื่อมีบทเพลงเกี่ยวกับศาสนามากขึ ้น เพื่อเป็ นการปองกัน
ึ
้
การลืมจึงได้ มีผ้ ประดิษฐ์ สญลักษณ์ตางๆแทนทํานองเมื่อ ประมาณ ค.ศ. 1000 สัญลักษณ์ดงกล่าวคือ ตัวโน้ ต
ู
ั
่
ั
( Note ) นันเอง โน้ ตเพลงที่ใช้ ในหลักวิชาดนตรี เบื ้องต้ นเป็ นเสียงโด เร มี นัน เป็ นนคําสวดในภาษาละติน จึง
่
้
กล่าวได้ ว่าวิชาดนตรี มีจดกําเนิดมาจากวัดหรื อศาสนา ซึงในยุโรปนัน ถือว่าเพลงเกี่ยวกับศาสนานัน เป็ นเพลงชัน
ุ
่
้
้
้
สูงสุดวงดนตรี ที่เกิดขึ ้นในศตวรรษต้ นๆจนถึงปั จจุบนจะมีลกษณะแตกต่างกันออกไปเครื่ องดนตรี ที่ใช้
ั
ั
บรรเลงก็มจํานวนและชนิดแตกต่างกันตามสมัยนิยม ลักษณะการผสมวงจะแตกต่างกันไป เมื่อผสมวงด้ วย
ี
เครื่ องดนตรี ที่ต่างชนิดกันหรื อจํานวนของผู้บรรเลงที่ตางกันก็จะมีชื่อเรี ยกวงดนตรี ต่างกัน
- 6. เรื่ องที่ 2 ดนตรี สากลประเภทต่ างๆ
1. เพลงที่บรรเลงโดยวงออรเคสตรา( Orchestra ) มีดงนี้
ั
- ซิมโฟนี่ (Symphony) หมายถึงการบรรเลงเพลงโซนาตา ( Sonata) ทังวง คําว่า
้
Sonata หมายถึง
เพลงเดียวของเครืองดนตรีชนิดต่างๆ เช่นเพลงของไวโอลิน เรียกว่า Violin Sonata เครือง
่
่
่
ดนตรีชนิดอื่น ๆ ก็
เช่นเดียวกัน การนําเอาเพลง โซนาตาของเครืองดนตรีหลายๆชนิดมาบรรเลงพร้อมกันเรียกว่า ซิ
่
มโฟน
- คอนเซอร์โต ( Concerto) คือเพลงผสมระหว่างโซนาตากับซิมโฟนี่ แทนทีจะมีเพลงเดียวแต่
่
่
อยูางเดียว หรือบรรเลงพร้อมๆกันไปในขณะเดียวกัน เครืองดนตรีทแสดงการเดียวนันส่วนมากใช้
่
่
่ี
่ ้
ไวโอลิน
หรือเปียโน
- เพลงเบ็ดเตล็ด เป็ นเพลงทีแต่งขึนบรรเลงเบ็ดเตล็ดไม่มเี นื้อร้อง
่
้
- 8. 3. สําหรั บเดี่ยว เพลงประเภทนีแต่ งขึนสําหรั บเครื่ อง
้
้
ดนตรี ชินเดียวเรี ยกว่ า เพลง โซนาตา
้
- 9. 4. โอราทอริโอ ( Oratorio ) และแคนตาตา ( Cantata) เป็ น
เพลงสําหรับศาสนาใช้ ร้องในโบสถ์
จัดเป็ นโอเปรา แบบหนึง แต่เป็ นเรื่ องเกี่ยวกับศาสนา
่
- 10. 5. โอเปรา (Opera ) หมายถึงเพลงที่ใช้ ประกอบการแสดง
ละครที่มีการร้ องโต้ ตอบกันตลอดเรื่ อ ง
เพลงประเภทนี ้ใช้ ในวงดนตรี วงใหญ่บรรเลงประกอบ
- 11. แบบทดสอบหลังเรียน
1. เครืองดนตรีสากลแบ่งออกได้กประเภท
่
่ี
ก. 3 ประเภท
ข. 4 ประเภท
ค. 5 ประเภท
ง. 6 ประเภท
2. เครืองดนตรีสากลประเภทใดเกิดขึนเป็ นประเภทแรก
่
้
ก. Woodwind
ข. Brass
ค. sting
ง. Percussion
3. เครืองดนตรีใดเป็นเครืองดนตรีสากลประเภทเครือง Brass
่
่
่
ก. Tuba
ข. Clarinet
ค. Violin
ค. Bassoon
4. เครืองใดจัดอยูในประเภทเครืองมีลมนิ้ว
่
่
่
ิ่
ก. Guitar
ข. piano
ค. Trumpet
ง. Saxophone
5. เครืองดนตรีประเภท Woodwind เครืองใดเป็ นเครืองลินคู่
่
่
่ ้
ก. Clarinet
ข. Oboe
ค. Saxophone
ง. Fulte
- 12. 6.เครื่องดนตรีสากลเครื่องใดเกิดจากการเรียนแบบเสียงร้ องของนก
ก. Fulte
ข. Guitar
ค. Violin
ง. Bassoon
7. Piano พัฒนามาจากเครื่องดนตรีใด
ก. Harpsichord
ข. Keyboard
ค. Guitar
ง. Violin
8. เครื่องดนตรีสากลประเภทใดเกิดขึนเป็ นอันดับสุดท้ าย
้
ก. Woodwind
ข. Brass
ค. Sting
ง. Keyboard
9. เครื่องดนตรีใดจัดอยู่ในประเภทเครื่ อง Bb
ก. Oboe
ข. Violin
ค. Clarinet
ง. Ukulele
10. เครื่องดนตรีใดไม่ ได้ ใช้ ในวง Orchestra
ก. Clarinet
ข. Oboe
ค. Saxophone
ง. Fulte
- 13. 1. เราแบ่ งเครื่ องดนตรี สากลออกเป็ นกี่ประเภท
ก. 3 ประเภท
ข. 4 ประเภท
ค. 5 ประเภท
ง. 6 ประเภท
2. ข้ อใดเป็ นเครื่องดนตรีประเภทเครื่องเป่ าทองเหลือง
ก. ทรัมเปท
ข. แซกโซโฟน
ค. เมโลเดียน
ง. เบลลีล่า
3. ข้ อใดไม่ ใช่ เครื่องดนตรีประเภทมีลมนิว
ิ่ ้
ก. เปี ยโน
ข. คีย์บร์ อด
ค. อิเล็กโทน
ง. ไวโอลิน
4. วงดนตรีชนิดใดใช้ ผู้เล่นน้ อยทีสุด
่
ก. วงซิมโฟนี
ข. วงซิมโฟนีวงเล็ก
ค. วงสตริงคอมโบ
ง. วงโยวาทิต
- 14. 5. เครื่องดนตรีชนิดใดต่ อไปนีท่ ควรอยู่ในวงซิมโฟนีมากที่สุด
้ ี
ก. กีตาร์
ข. เบลลีล่า
ค. ไวโอลิน
ง. กลองแท็ก
6. ศาสนาใดที่เป็ นต้ นกําเนิดดนตรีสากล
ก. พุทธ
ข. อิสลาม
ค. คริสต์
ง. ฮินดู
7. เรานิยมใช้ วงโยธวาทิตในกิจกรรมใด
ก. เดินสวนสนาม
ข. แห่ ขบวนพาเหรด
ค. เดินนําขบวนรณรงค์ ต่างๆ
ง. ถูกทุกข้ อ
- 15. 6. เพลงที่ขับร้องโดยทั่วไป เช่น เพลงที่ร้องเดี่ยว ร้องหมู่หรือร้องประสานเสียงในวงออร์เคส
ตราวงคอมโบ ( Combo) หรอื วงชาโดว์ (Shadow ) ซึ่งนิยมฟังกันทั้งจากแผ่นเสียงและจาก
วงดนตรีที่บรรเลงกันอยู่
โดยทั่วไป
- 16. ประเภทของเครื่ องดนตรี สากลมี 5 ประเภท
1. เครื่องสายมี 2 พวก
1) เครืองดีด ได้แก่ กีตาร์ แบนโจ ฮาร์ป
่
2) เครืองสี ได้แก่ ไวโอลิน วิโอลา
่
- 17. 2.เครื่ องเป่ าลมไม้ มี 2 ประเภท
่
1) จําพวกเปาลมผ่านช่องลม ได้แก่รคอร์เดอร์ ปิ คโคโล ฟลุต
ี
่
2.จําพวกเปาลมผ่านลิน ได้แก่คลาริเนต แซกโซโฟน
้
- 20. 5. เครื่องดนตรีประเภทเครื่องตี แบ่งเป็ น 2 กลุม คือ
่
5.1) เครื่ องตีประเภททํานอง ได้ แก่ ไซโลไฟน เบลไลรา ระฆังราว
5.2 เครื่ องตีประเภททําจังหวะ ได้ แก่กลองทิมปานี กลองใหญ่ กลองแทร็ก
ฉาบ
- 22. 1. เสีย ง (Tone) ระดับเสียง ความยาวของเสียง ความเข้มของเสียง และ
คุณภาพของเสียง
ั
2. พืนฐานจังหวะ (Element of Time) ฟงเพลงแล้วแสดงอาการ
้
กระดิกนิ้ว ปรบมือร่วมด้วย
3. ทานอง (Melody) ความสูง-ตํ่า ความสัน-ยาว และความดัง-เบา
้
4. พืนผิวของเสียง (Texture) ลักษณะหรือรูปแบบของเสียงทังทีประสาน
้
้ ่ ่
สัมพันธ์และไม่ประสานสัมพันธ์ โดยอาจจะเป็นการนําเสียงมาบรรเลงซ้อน
กันหรือพร้อมกัน
5. สีสนของเสียง (Tone Color) เป็ นเสียงร้องของมนุษย์และเครือง
ั
่
ดนตรี
- 23. 6. คีตลักษณ์ (Forms) เปรียบเสมือนกรอบทีได้หลอมรวมเอาจังหวะ
่
ทํานอง พืนผิว และสีสนของเสียงให้เคลื่อนทีไปในทิศทางเดียวกัน
้
ั
่
- 24. ประวัตภมปัญญาทางดนตรี สากล
ิ ู ิ
1. ดนตรีคลาสสิกยุโรปยุคกลาง (Medieval European Music พ.ศ.
1019 - พ.ศ. 1943) ดนตรีคลาสสิกยุโรปยุคกลาง หรือ ดนตรียุคกลาง เป็ นดนตรีทถอ
่ี ื
ว่าเป็ นจุดกําเนิดของดนตรีคลาสสิก
- 26. 3. ดนตรี ยคบาโรค (Baroque Music พ.ศ.
ุ
2143 - พ.ศ. 2293)
การกําเนิดในฝรังเศสโดย ฮันเน เซบาส เทียนบาคได้เสียชีวตลง
่
ิ
ต่อมานักดนตรีทมช่อเสียงในยุคนี้ เชน บาค วิวลดิ เป็นต้น
่ี ี ื
ั
- 28. 5. ดนตรี ยคโรแมนติค (Romantic Music พ.ศ.
ุ
2363 - พ.ศ. 2443)
ใส่อารมณ์ในทานองดนตรีได้แก่ เบโธเฟ่ น ชูเบิรต โชแปง
ไชคอฟสกี้ เป็ นต้น
- 29. 6. ดนตรียุคศตวรรษที่ 20 (20th Century Calssical Music
พ.ศ. 2443 - พ.ศ. 2543)
เริ่มแสวงหาดนตรีใหม่ จังหวะเริ่มแปลกใหม่ ตัว
โน้ ตไม่เน้ นสาคัญไร้ท่วงทานองเพลงศิลปินคือ อิก
อร เฟโดโรวิช สตราวินสกี้
- 30. -ยุค 50 เพลงร็อกแอนด์โรลล เอลวิส เพรสลีย
-- ยุค 60 เป็ นยุคของทีนไอดอลอย่าง วงเดอะบีทเทิล
- ยุค 70 เป็ นยุคของดนตรีดสโก้ มีศลปิ นอย่าง แอบบ่า บีจส์ และยังมีดนตรี
ิ
ิ
ี
ประเภทคันทรี
-- ยุค 80 มีศลป็ นป๊อปทีได้รบความนิยมอย่าง ไมเคิล แจ็คสัน
ิ
่ ั
-- ยุค 90 เริมได้อทธิพลจากเพลงแนวอาร์แอนด์บี เช่น มารายห์ แครี,
่
ิ
-- ยุค 2000 มีศลป็ นทีประสบความสําเร็จอย่าง บริทย์น่ี สเปี ยร์ คริสติน่า
ิ
่
อากีเลร่า บียอนเซ