More Related Content
Similar to เครื่องสาย 2 (20)
เครื่องสาย 2
- 1. เครื่องดนตรีประเภทเครื่องสายเกิดเสียงโดยการทำให้สายสั่นสะเทือน มีทั้งการดีด เช่น ลูท ฮาร์ป แมนโดลิน และแบนโจ ส่วนเครื่องดนตรีในตระกูลไวโอลินเช่น ไวโอลิน วิโอลา เชลโล และดับเบิลเลส เกิดเสียงได้ทั้งการดีด และการสีโดยใช้คันชัก สายของเครื่องดนตรีประเภทนี้ มีทังสายที่ทำมาจากเส้นลวด เส้นเอ็น หรือเส้นไหม นำมาขึงให้ตึง ความดังของเสียงขึ้นอยู่กับรูปร่าง และวัสดุที่นำมาใช้ทำกะโหลกเครื่องดนตรี กะโหลกทำหน้าที่เป็นตัวขยายเสียงที่เกิดขึ้นจากการสั่นสะเทือนของสาย เครื่องดนตรีประเภทเครื่องสาย ที่นำมาใช้ในการประสมวงดนตรีในปัจจุบันมีดังนี้ เครื่องสายที่ใช้คันสี ( Bow) ไวโอลิน ( violin) วิโอลา ( viola) เชลโล ( cello) ดับเบิลเบส ( Double bass) ดับเบิลเบส ( Double Bass)
- 2. ไวโอลิน ( Violin) เป็นเครื่องดนตรีที่มีขนาดเล็กที่สุด มีเสียงสูงใช้วางบนบ่าไวโอลินคันหนึ่ง ๆ ประกอบด้วยแผ่นไม้หลายชิ้น แต่ละชิ้นเลือก มาจากไม้ชนิดต่าง ๆ กันตามความเหมาะสมที่จะนำมาทำเป็นส่วนต่าง ๆ ของซอ ด้านหน้าใช้ไม้พรุช ซึ่งเป็นไม้เนื้ออ่อนมีลายละเอียดด้านหลังใช้ไม้เมเปิ้ล ไวโอลินประกอบด้วยสาย 4 สาย แต่ละสายเทียบเสียงห่างกันคู่ 5 เพอร์เฟค คือ เสียง G-D-A-E สายต่ำสุดเทียบเสียง G ต่ำถัดจาก Middle C สายทั้งสี่มีความยาวเท่ากัน แต่ระดับเสียงแตกต่างกันตามขนาดไวโอลินขนาดมาตรฐานจะมีความยาวทั้งสิ้น 23.5 นิ้ว คันชักยาว 29 นิ้ว ไวโอลินเป็นเครื่องดนตรีที่ใช้เล่นท่วงทำนอง ( Melodic Instrument) มีเสียงแหลมสดใส ถ่ายทอดอารมณ์ได้ดีถ้าต้องการจะเล่นให้เสียงหวาน เศร้า ก็ทำได้ โดยใช้เทคนิคการเล่นแบบต่าง ๆ
- 3. วิโอลา ( Viola) มีรูปร่างเหมือนไวโอลินทุกประการ แต่มีขนาดใหญ่กว่าไวโอลิน ประมาณหนึ่งในห้า มีความยาวทั้งสิ้น 26.5 นิ้ว วิโอลาประกอบด้วยสาย 4 สาย ตั้งเสียงต่ำกว่า ไวโอลินลงไปอีกคู่ 5 เพอร์เฟค คือ C-G-D-A มีเสียงทุ้มและนุ่มนวลกว่าไวโอลิน แต่ไม่มีบทบาทเด่น เหมือนไวโอลิน การเล่นเครื่องดนตรีไวโอลินและวิโอลานี้ผู้เล่นจะใช้มือซ้ายจับที่คอของเครื่อง โดยให้คอของ เครื่องอยู่ในร่องระหว่างหัวแม่มือกับนิ้วชี้ นิ้วทั้งสี่ ( ยกเว้นหัวแม่มือ ) ทำหน้าที่กดลงบนสายเพื่อเปลี่ยน ระดับเสียง ด้านท้ายของเครื่องวางบนไหล่ซ้ายของผู้เล่น และผู้เล่นจะใช้คางหนีบกระชับ จับตัวเครื่อง ด้วยมือซ้ายและใช้มือขวาจับคันชักในการสี
- 4. เชลโล ( Cello) มีรูปร่างเหมือนไวโอลินและวิโอลา แต่มีขนาดโตกว่ามาก คือความ ยาวประมาณ 48.5 นิ้ว ขณะเล่นต้องนั่งเก้าอี้ เอาเครื่องไว้ระหว่างขาทั้งสองข้างหันหน้าเครื่องออก เทคนิคการเล่นเหมือนกับไวโอลินสายทั้งสี่เสียงต่ำกว่าวิโอลา 1 ช่วงคู่ 8 คือ C-G-D-A เสียงของเชลโล นุ่มนวล แสดงอารมณ์เศร้าสร้อย
- 5. ดับเบิลเบส ( Double Bass) เป็นเครื่องที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในตระกูลไวโอลิน มี ความยาวประมาณ 74 นิ้ว ผู้บรรเลงต้องยืนเล่น เสียงของดับเบิลเบส ต่ำสุดแสดงถึงความมีอำนาจ ความกลัว ความลึกลับ สายทั้งสี่ตั้งเสียงห่างกันเป็นคู่ 4 เพอร์เฟค คือ E- A- D- G
- 6. วิธีเล่นเครื่องสาย ผู้ประพันธ์เพลงจะกำหนดวิธีการเล่นไว้ในบทเพลง โดยใช้ภาษาอิตาเลียน คำสั่งที่พบบ่อยๆเช่น พิชซิกาโต ( Pizzicato) คือใช้นิ้วดีดสายแทนคันชัก ดับเบิลสต๊อปปิ้ง ( Double stopping) คือเล่นคู่กัน 2 สายพร้อมกัน คอนซอร์ดิโน ( Con sordino) คือใส่เครื่องเก็บเสียงทำให้เสียงเบา เทรมโมโล ( Trenolo) คือการรัวคันสีบนโน้ตตัวเดียวอย่างรวดเร็ว ฮาร์โมนิค ( Harmonic) คือการใช้นิ้วแตะที่สายอย่างแผ่วเบา พอร์ทัลเมนโต ( Portalmento) คือการรูดนิ้วไปบนสายจากเสียงหนึ่งไปอีกเสียงหนึ่ง คอลลิอาโน ( col liano) คือการใช้ด้านที่เป็นไม้ ของคันสีเคาะหรือสี บนสาย
- 7. เครื่องสายที่ใช้ดีด ( Plucked Strings) เป็นเครืองดนตรีที่ทำให้เกิดเสียงโดยใช้นิ้วดีดสาย หรือใช้พลาสติกบางๆที่เรียกว่า ( Pick) ดีดสายแทนนิ้ว ฮาร์พ ( Harp) หรือพิณ ฮาร์พเป็นเครื่องดนตรีที่เก่าแก่มากชนิดหนึ่งมีสายประมาณ 46-47 สายและมีที่เหยียบเพื่อเปลี่ยนเสียงไปได้หลายเสียง คอนเสิร์ทฮาร์พมีขนาดใหญ่และหนักมากผู้เล่นต้องยืนเล่น ในกลุ่มนี้ประกอบด้วย
- 8. 1) ฮาร์พ ( Harp) ฮาร์พเป็นพิณโบราณขนาดใหญ่ มีประวัติเก่าแก่มาก ชาวอียิปต์ โบราณใช้ฮาร์พเป็นเครื่องดนตรีสำคัญในราชสำนักของฟาโรห์ ในยุโรปสมัยกลางฮาร์พเป็นเครื่องดนตรี ที่ได้รับความนิยมจากชาวไอริช และเวลส์ เป็นอย่างมาก ฮาร์พมีลักษณะเป็นโครงสามเหลี่ยมขนาดใหญ่ ด้านบนโค้งงอสวยงาม มีสายขึงอยู่ทั้งหมด 47 สาย ช่วงเสียงกว้าง 6 ? Octaves บันไดเสียงพื้นฐานของฮาร์พเป็น Cb Major ที่ฐานของฮาร์พ จะ มีกระเดื่อง 7 อัน สำหรับเหยียบ ( ประจำทั้ง 7 เสียง ) ถ้าเหยียบจมลงครั้งหนึ่งสายจะดึงขึ้นทำให้เสียงสูง ขึ้นครึ่งเสียง ถ้าเหยียบอีกเป็นครั้งที่สองสายจะตึงขึ้นอีกทำให้เสียงสูงขึ้นอีกทำให้ผู้เล่น เล่นเพลงได้ทุก บันไดเสียงในการบรรเลงฮาร์พผู้เล่นจะต้องนั่งลงให้ไหล่ขวาชิดกับตัวฮาร์พใช้นิ้วมือทั้งสอง ยกเว้นนิ้ว ก้อยดีดสาย เสียงของฮาร์พเบาและนุ่มนวลกว่าเปียโนมากปัจจุบันฮาร์พใช้บรรเลงในวงดนตรีประเภทออร์เคสตราเท่านั้น
- 9. 2. ลูท ( Lute) เป็นพิณชนิดหนึ่งที่เป็นต้นกำเนิดของเครื่องสายประเภทดีด ลูทมีรูปทรง เหมือนผลส้มผ่าซีก มีสะพานวางนิ้วที่มีช่องปรากฏอยู่ เช่นเดียวกับกีตาร์ แบนโจ แมนโดลิน ฯลฯ ชาวอาหรับโบราณนิยมกันมากแต่ปัจจุบันนี้ไม่ได้รับความนิยม
- 10. 3. กีตาร์ ( Guitar) กีตาร์เป็นเครื่องดนตรีที่แพร่หลายมากในปัจจุบันมีรูปร่างคล้ายคลึงกับ พิณลูทแต่ผิดกันตรงที่รูปร่างแบนกว่าในปัจจุบันมีความสำคัญทั้งในวงดนตรีประเภทสตริง แจ๊สร็อค เป็นต้น กีตาร์ประกอบด้วยสาย 6 สาย โดยตั้งระดับเสียงต่ำไปหาสูง ในแต่ละสายดังนี้ E,A,D,G,B,E ไม่ว่าจะเป็นกีตาร์โปร่งธรรมดา หรือกีตาร์ไฟฟ้านอกจากนี้เครื่องสายประเภทดีดยังมีแมนโดลิน แบนโจ ซึ่งเป็นเครื่องสายประเภทดีดที่มีรูป ร่างคล้ายกีตาร์ แต่มิได้นำมาใช้ในวงดนตรีมากนักส่วนมากใช้ในดนตรีของชาวพื้นเมืองแถบลาติน อเมริกาอย่างไรก็ตามทั้งแมนโดลิน และแบนโจก็เป็นผลการวิวัฒนาการของลูทนั่นเอง
- 11. 4) แมนโดลิน ( Mandolin) เป็นเครื่องดนตรีตระกูลลูท มีสาย 4 คู่ (8 สาย ) หรือ 6 คู่ (12 สาย ) ตั้งเสียงเท่ากันเป็นคู่ มีลูกบิดคล้ายกีตาร์ใช้ในการตั้งเสียง และมีนม ( Feat) รองรับสาย เวลา เล่นจะใช้นิ้วมือซ้ายจับตัวแมนโดลินและใช้มือขวาดีด ลักษณะการดีดคล้ายการดีดกีตาร์โดยใช้ปิ๊ค ( Pick) เสียงที่เกิดจากแมนโดลินมีความไพเราะเป็นเสียงที่มีคุณภาพ เร้าอารมณ์ได้ดีโดยเฉพาะอารมณ์ โศกเศร้าเกี่ยวกับความรัก แมนโดลินมีถิ่นกำเนิดที่ประเทศอิตาลี เป็นเครื่องดนตรีที่ชาวอิตาเลียนนิยม กันแพร่หลาย ในปี ค . ศ . 1713 ได้มีผู้นำเอาแมนโดลินมาเล่นผสมในวงคอนเสิร์ตใน
- 12. 5) แบนโจ ( Banjo) เป็นเครื่องดนตรีในตระกูลลูท จุดเริ่มต้นที่มีผู้นำมาเล่นอยู่ในแถบ แอฟริกาตะวันตก ( Western Africa) เป็นเครื่องดนตรีพื้นบ้านของพวกนิโกร ต่อมาจึงเป็นที่แพร่หลาย ในหมู่อเมริกันนิโกร วิธีการเล่นคล้ายกับกีตาร์
- 14. โอโบ ( Oboe) โอโบ คือ เครื่องดนตรีประเภทเครื่องลมไม้ โอโบและเครื่องดนตรีอื่น ๆ ในตระกูลโอโบ เช่น บาสซูนและอิงลิชฮอนร์นเป็นเครื่องดนตรีจำพวกลิ้นคู่ ลำตัวโอโบเป็นรูปทรงกรวยทำด้วยไม้ แบ่งเป็น 3 ท่อน เวลาจะใช้ต้องต่อเข้าด้วยกัน มีรูสำหรับใช้นิ้วปิดเปิด 6 รู และมีคีย์โลหะบุนวม ต่อเป็นระบบกลไกเชื่อมโยงสำหรับปิดเปิดรูอีกด้วย คุณภาพเสียงของโอโบมีความแหลมเสียดแทงและมีลักษณะเป็นเสียงนาสิก
- 15. บาสซูน ( Bassoon) คือเครื่องดนตรีในกลุ่มเครื่องลมไม้ อยู่ในตระกูลโอโบ มีลิ้นคู่ มีเสียงต่ำ บาสซูนเป็นเครื่องดนตรีสำคัญอีกเครื่องหนึ่ง ในวงควอเต็ทสำหรับเครื่องลมไม้ ซึ่งประกอบขึ้นด้วย ฟลุท คลาริเนต โอโบ และบาสซูน คุณภาพเสียงของบาสซูนในช่วงเสียงสูงจะแหลมเสียงในช่วงกลางจะทีบ กลวง ไม่หนักแน่น ส่วนมากแล้ว มักจะใช้เสียงของบาสซูนถึงความตลกขบขัน
- 16. ฟลุท ( Flute) คือ ขลุ่ยชนิดหนึ่งเป็นเครื่องดนตรีอยู่ในกลุ่มเครื่องลมไม้ ฟลุทมีท่อกลวงเกิดเสียงโดยการเป่าลมผ่านช่องลมของปากเป่า ผู้เล่นต้องถือฟลุทให้ขนานกับพื้นฟลุทในระยะแรกทำด้วยไม้ ปัจจุบัน ฟลุทนิยมทำด้วยโลหะ คุณภาพเสียงของฟลุทในระดับเสียงสูงมีเสียงแจ่มใส เสียงในระดับต่ำมีความนุ่มนวล
- 17. ปิคโคโล ( Piccolo) คือ เครื่องดนตรีในกลุ่มเครื่องลมไม้ อยู่ในตระกูลฟลุท ปิคโคโล มีระดับเสียงสูงกว่าฟลุทอยู่ 1 ช่วงคู่แปด มีขนาดเล็กกว่าฟลุท 4 เท่า จึงทำให้มีคุณภาพเสียงที่สดใสและแหลมมาก เสียงในระดับต่ำของปิคโคโลจะดังไม่ชัดเจน ปิคโคโลจึงเหมาะที่จะใช้ในการเล่นในระดับเสียงกลางและเสียงสูงมากกว่าในระดับเสียงต่ำ เครื่องดนตรีที่มีเสียงแหลมเหมือนปิคโคโล ซึ่งอยู่ในตระกูลฟลุทมีอีกหลายชนิด เช่น เรคอร์เดอร์ เป็นต้น
- 18. เรคอร์เดอร์ ( Recorder) คือเครื่องดนตรีเก่าแก่ จัดอยู่ในกลุ่มเครื่องลมไม้ พัฒนาจากยุคกลางจนถึงศตวรรษที่ 18 เรคอร์เดอร์มีรูปสำหรับใช้นิ้วปิดเปิด 8 รู ลำตัวจะเป็นทรงกรวย ทำด้วยไม้หรือพลาสติก มีปากเป่าลักษณะเหมือนกับนกหวีด คุณภาพเสียงของเรคอร์เดอร์ จะนุ่มนวล บางเบา