More Related Content
Similar to ข้อสอบวิทย์เรื่องเซลล์ 2
Similar to ข้อสอบวิทย์เรื่องเซลล์ 2 (20)
More from สายฝน ต๊ะวันนา (20)
ข้อสอบวิทย์เรื่องเซลล์ 2
- 1. ข้ อสอบ ชุ ดที่ 2
กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ ชั้ นมัธยมศึกษาปี ที่ 1
แบบปรนัย
คาชี้แจง เลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงคำเดียว
1. เมื่อเรานาเซลล์ ของใบสาหร่ ายหางกระรอกและเซลล์ เยือหอมมาส่ องดูด้วยกล้ องจุลทรรศน์ เม็ดสี เขียวเล็ก ๆ ที่
่
พบในเซลล์ของใบสาหร่ ายหางกระรอกแต่ ไม่ พบในเซลล์เยือหอมคืออะไร
่
1 ผนังเซลล์
2 นิวเคลียส
3 เยือหุมเซลล์
่ ้
4 คลอโรพลำสต์
2. ข้ อความใดอธิบายลักษณะของเซลล์ ได้ ถูกต้ อง
1 กลุ่มของหน่วยสิ่ งมีชีวตที่มีโครงสร้ำงคล้ำยกัน
ิ
2 กลุ่มของหน่วยสิ่ งมีชีวตที่ทำหน้ำที่คล้ำยกัน
ิ
3 หน่วยเล็ก ๆ ซึ่ งเป็ นส่ วนประกอบพื้นฐำนของสิ่ งมีชีวต
ิ
4 หน่วยเล็ก ๆ ของสิ่ งมีชีวตที่รวมตัวกันทำหน้ำที่เฉพำะอย่ำง
ิ
3. เซลล์ใดต่ อไปนีไม่ มีนิวเคลียส
้
1 เซลล์ประสำท
2 เซลล์เม็ดเลือดแดง
3 เซลล์กล้ำมเนื้อลำย
4 เซลล์กล้ำมเนื้อเรี ยบ
4. เซลล์เม็ดเลือดแดงมีหน้ าทีอะไร่
1 นำแก๊สคำร์ บอนไดออกไซด์ไปยังปอด
2 นำแก๊สออกซิ เจนจำกปอดไปยังอวัยวะต่ำง ๆ
3 นำสำรที่เป็ นพิษต่อร่ ำงกำยไปกำจัดออกนอกเซลล์
4 ขนส่ งแก๊สออกซิ เจนและแก๊สคำร์ บอนไดออกไซด์ไปยังเซลล์ต่ำง ๆ
ใช้ รูปต่ อไปนีตอบคาถามข้ อ 5-8
้
- 2. 5. หมายเลข 1 ในภาพคืออะไร
1 ไรโบโซม
2 นิวเคลียส
3 ไมโทคอนเดรี ย
4 กอลไจแอปพำรำตัส
6. หมายเลข 2 ในภาพคืออะไร
1 ไรโบโซม
2 นิวเคลียส
3 ไมโทคอนเดรี ย
4 กอลไจแอปพำรำตัส
7. หมายเลข 3 ในภาพคืออะไร
1 ไรโบโซม
2 นิวคลีโอลัส
3 ไซโทพลำซึม
4 ไมโทคอนเดรี ย
8. หมายเลข 4 ในภาพคืออะไร
1 ไรโบโซม
2 คลอโรพลำสต์
3 ไมโทคอนเดรี ย
4 กอลไจแอปพำรำตัส
9. คลอโรพลาสต์ ทาหน้ าที่อะไร
1 ลำเลียงอำหำร
2 ขับถ่ำยของเสี ย
3 สร้ำงคำร์ โบไฮเดรต
4 ควบคุมกำรทำงำนของเซลล์
10. เม็ดสี เขียวทีเ่ ป็ นอวัยวะสร้ างอาหารภายในเซลล์พชเรียกว่ าอะไร
ื
1 นิวเคลียส
2 คลอโรฟิ ลล์
3 ไซโทพลำซึม
4 คลอโรพลำสต์
- 3. 11. ส่ วนประกอบสาคัญทีมีในเซลล์พชและเซลล์สัตว์คืออะไร
่ ื
1 ผนังเซลล์
2 คลอโรฟิ ลล์
3 เยือหุมเซลล์
่ ้
4 คลอโรพลำสต์
12. ส่ วนประกอบใดทาให้ เซลล์ พชคงรู ปอยู่ได้
ื
1 ผนังเซลล์
2 นิวเคลียส
3 เยือหุมเซลล์
่ ้
4 ไซโทพลำซึม
13. ขนรากดูดซับเกลือแร่ เข้ าสู่ เซลล์ โดยวิธีใด
1 กำรแพร่
2 ออสโมซิส
3 กำรไหลซึม
4 กำรลำเลียง
ใช้ รูปต่ อไปนีตอบคาถามข้ อ 14-15
้
14. จากรู ป ต้ องการทดลองเรื่องใด
1 กำรแพร่
2 กำรออสโมซิส
3 กำรดูดซึ มของน้ ำ
4 กำรกระจำยอนุ ภำคของน้ ำตำล
- 4. 15. ถุงกระดาษแก้วมีคุณสมบัติเหมือนกับสิ่ งใด
1 ผนังเซลล์
2 ไซโทพลำซึม
3 เยือเลือกซึ มผ่ำน
่
4 เม็ดคลอโรพลำสต์
16.
จัดอุปกรณ์ การทดลองดังรู ป เมื่อเวลาผ่ านไป 35 นาที พบว่านาในบีกเกอร์ มีสีฟา
้ ้
แต่ ระดับนาไม่ เพิมขึน ข้ อสรุ ปใดไม่ ถกต้ อง
้ ่ ้ ู
1 อัตรำกำรแพร่ ของจุนสี มำกกว่ำน้ ำ
2 อัตรำกำรแพร่ ของน้ ำและจุนสี เท่ำกัน
3 น้ ำแพร่ จำกภำยนอกเข้ำสู่ ภำยในถุงเซลโลเฟน
4 อนุภำคของจุนสี แพร่ ออกมำสู่ ภำยนอกถุงเซลโลเฟน
17. ถ้ าเด็ดใบไม้ ในตอนเช้ ามืดมาทดสอบแปงจะพบหรือไม่ เพราะเหตุใด
้
1 พบ เพราะพืชมีการสั งเคราะห์ ด้วยแสง
2 พบ เพราะพืชสะสมนาตาลไว้ในรู ปของแปง
้ ้
3 ไม่ พบ เพราะแปงถูกเปลี่ยนเป็ นนาตาล
้ ้
4 ไม่ พบ เพราะยังไม่ มีการสั งเคราะห์ ด้วยแสง
1 1
2 3
3 1 และ 2
4 3 และ 4
18. ในการทดลองตรวจสอบแปงในใบไม้ เพราะเหตุใดจึงต้ องต้ มใบไม้ ในนาเดือดก่ อนนาไปทดลอง
้ ้
1 สกัดแป้ งออกมำ
2 ทำให้ใบไม้ไม่แข็ง
3 ทำลำยผนังเซลล์พืช
4 สกัดคลอโรฟิ ลล์ออกจำกใบ
- 5. 19. เมื่อทดสอบหาแปงบนใบพืชทีมีรอยด่ าง เช่ น ใบพลูด่างและใบชบาด่ าง พบว่ าตรงบริเวณทีไม่ มสีเขียวจะไม่ มี
้ ่ ่ ี
แปง ข้ อสรุ ปใดถูกต้ อง
้
1 คลอโรฟิ ลล์จำเป็ นต่อกำรสังเครำะห์ดวยแสง
้
2 ใบพืชบริ เวณที่ไม่มีแป้ งเกิดจำกกำรไม่ได้รับแสง
3 ใบพลูด่ำงและใบชบำด่ำงสังเครำะห์ดวยแสงไม่ได้
้
4 กำรสังเครำะห์ดวยแสงไม่เกี่ยวข้องกับคลอโรฟิ ลล์
้
20.
จากรู ป การปิ ดกระดาษสี ดาบนใบผักบุ้งและตั้งทิงไว้ กลางสนามทีมแสงแดด เมื่อนาใบผักบุ้งไปตรวจสอบ
้ ่ ี
พบว่ าไม่ พบแปงในผักบุ้งที่ปิดด้ วยกระดาษสี ดา ผลสรุ ปที่ได้ คออะไร
้ ื
1 พืชใช้คลอโรฟิ ลล์ในกำรสร้ำงอำหำร
2 แสงเป็ นสิ่ งจำเป็ นในกำรสร้ำงอำหำรของพืช
3 ผลิตผลจำกกำรสังเครำะห์ดวยแสงคือแป้ ง
้
4 พืชใช้แก๊สคำร์ บอนไดออกไซด์ในกระบวนกำรสังเครำะห์ดวยแสง ้
21. ข้ อความใดอธิบายการสั งเคราะห์ ด้วยแสงของพืชได้ ถูกต้ อง
1 เปลี่ยนพลังงำนแสงเป็ นพลังงำนเคมี
2 เปลี่ยนพลังงำนแสงเป็ นพลังงำนจลน์
3 เปลี่ยนพลังงำนศักย์เป็ นพลังงำนจลน์
4 เปลี่ยนพลังงำนแสงเป็ นพลังงำนควำมร้อน
22. เมื่อใช้ สารละลายไอโอดีนหยดลงบนใบพืช ถ้ าบริเวณนั้นมีแปง สารละลายไอโอดีนจะเกิดการเปลียนแปลงใน
้ ่
ลักษณะใด
1 ขำว น้ ำเงิน
2 น้ ำตำล ขำว
3 น้ ำตำล ม่วงแกมน้ ำเงิน
4 ม่วงแกมน้ ำเงิน น้ ำตำล
- 6. 23. จากการทดสอบหาแปงในใบชบาด่ าง พบว่ าส่ วนสี ขาวของใบชบาด่ างไม่ มแปง ข้ อสรุ ปทีเ่ หมาะสมกับการ
้ ี ้
ทดลองนีคืออะไร
้
1 กำรหำยใจเกิดขึ้นบริ เวณที่มีสีขำวของใบ
2 กำรสังเครำะห์ดวยแสงของพืชจำเป็ นต้องใช้แสง
้
3 คลอโรฟิ ลล์จำเป็ นต่อกำรสังเครำะห์ดวยแสงของพืช
้
4 ใบเป็ นตำแหน่งสำคัญในกำรสังเครำะห์ดวยแสงของพืช ้
24. นอกจากนาตาลแล้วสิ่ งใดเป็ นผลทีเ่ กิดจากการสั งเคราะห์ ด้วยแสงของพืช
้
1 แป้ ง ไขมัน
2 ไขมัน โปรตีน
3 น้ ำ แก๊สออกซิ เจน
4 น้ ำ แก๊สคำร์ บอนไดออกไซด์
25. หากเรานาสาหร่ ายมาเลียงไว้ ในตู้ปลา โดยไม่ นาปลามาเลียงไว้ แล้ วปิ ดตู้เลียงปลาให้ สนิท พบว่ าสาหร่ ายทีอยู่ใน
้ ้ ้ ่
นาจะไม่ เจริญเติบโตเท่าทีควร ข้ อเท็จจริงนี้ยนยันผลเรื่องใด
้ ่ ื
1 พืชและสัตว์ตองพึ่งพำอำศัยกันจึงจะอยูรอด
้ ่
2 พืชจะเจริ ญเติบโตได้ตองอำศัยแก๊สออกซิ เจน
้
3 ผลกำรสังเครำะห์ดวยแสงของพืชจะเกิดแก๊สออกซิ เจน
้
4 กำรสร้ำงอำหำรของพืชจำเป็ นต้องใช้แก๊สคำร์ บอนไดออกไซด์
26. กิจกรรมใดช่ วยเพิมอัตราการสั งเคราะห์ ด้วยแสงของพืช
่
1 ใส่ ปุ๋ยเคมีให้พืชก่อนฝนตก
2 ใส่ ปุ๋ยเคมีให้พืชหลังฝนตก
3 เผำหญ้ำแห้งในเวลำกลำงวัน
4 เผำหญ้ำแห้งในเวลำกลำงคืน
27. กานต์ พบว่าพืชต้ องการแสงแดดในการสั งเคราะห์ ด้วยแสง แต่ เขาพบว่าเมล็ดถั่วเขียวงอกในภาชนะซึ่งไม่ ได้ รับ
แสงแดดเลย เขาจึงสงสั ยว่ าอะไรเป็ นสาเหตุททาให้ ต้นถั่วเขียวงอกได้ เหตุผลใดดีทสุดในการตอบข้ อสงสั ยของ
ี่ ี่
กานต์
1 เมล็ดจะงอกได้ดีถำมีปุ๋ยเพียงพอ
้
2 เมล็ดจะงอกได้ดีถำมีอุณหภูมิพอเหมำะ
้
่
3 มีอำหำรอยูในเมล็ดพืชแล้ว เมล็ดพืชจึงงอกได้
4 กำรงอกของเมล็ดพืชไม่จำเป็ นต้องอำศัยแสงแดด
- 7. 28. การขาดธาตุใดทาให้ พชมีปริ มาณคลอโรฟิ ลล์ ลดลง
ื
1 เหล็ก
2 สังกะสี
3 แคลเซียม
4 แมกนีเซียม
29. จากรู ป ผลสรุ ปใดถุกต้ อง
1 แสงสว่ำงมีอิทธิ พลต่อกำรคำยน้ ำของพืช
2 พืชคำยน้ ำออกทำงใบมำกกว่ำส่ วนอื่น ๆ
่ ั
3 พืชจะคำยน้ ำได้มำกหรื อน้อยขึ้นอยูกบควำมชื้นของอำกำศ
4 แสงสว่ำง ควำมชื้น และอุณหภูมิมีอิทธิ พลต่อกำรคำยน้ ำของ
พืช
30. ใบไม้ มีเนือเยือลาเลียงนา–เกลือแร่ และเนือเยือลาเลียงอาหารอยู่ทใด
้ ่ ้ ้ ่ ี่
1 ผิวใบ
2 เส้นใบ
3 ใต้ปำกใบ
4 ก้ำนใบเท่ำนั้น
31. เนือเยือลาเลียงนา–เกลือแร่ ส่วนใหญ่ของพืชเป็ นเซลล์แบบใด
้ ่ ้
1 เซลล์ที่มีชีวต ิ
2 เซลล์ที่ตำยแล้ว
3 เซลล์ที่มีนิวเคลียส
4 เซลล์ที่มีไซโทพลำซึ ม
32. พืชชนิดใดไม่ มีการคายนา ้
1 บัว
2 กล้วยไม้
3 สำหร่ ำย
4 กระบองเพชร
33. ข้ อความใดไม่ ใช่ ประโยชน์ ของการคายนาของพืช
้
1 ช่วยให้กำรคำยน้ ำของพืชดีข้ ึน
2 ช่วยให้ใบของพืชมีควำมชุ่มชื้น
3 ช่วยลดอุณหภูมิภำยในลำต้นและใบ
4 ช่วยให้กำรสังเครำะห์ดวยแสงเกิดขึ้นตลอดเวลำ
้
- 8. 34. ความแตกต่ างของเนือเยือลาเลียงอาหารและเนือเยือลาเลียงนา–เกลือแร่ คืออะไร
้ ่ ้ ่ ้
1 เซลล์ยงมีชีวต
ั ิ
2 ไม่มีนิวเคลียส
3 ลักษณะของท่อ
4 ลักษณะของเซลล์
35. ตามใบไม้ มีเนือเยือลาเลียงนา-เกลือแร่ และเนือเยือลาเลียงอาหารอยู่ทใด
้ ่ ้ ้ ่ ี่
1 ผิวใบ
2 เส้นใบ
3 ใต้ปำกใบ
4 ก้ำนใบเท่ำนั้น
36. ทิศทางการลาเลียงอาหารของพืชส่ วนใหญ่มีทิศทางในลักษณะใด
1 จากราก ลาต้ น กิง
่ ใบ
2 จากใบ กิง
่ ลาต้ น ราก
3 จากใบ กิง ่ ลาต้ น กิง
่ ดอก
1 1 และ 2
2 2 และ 3
3 1 และ 3
4 เฉพำะ 2
ใช้ รูปต่ อไปนีตอบคาถามข้ อ 37-40
้
37. ส่ วนประกอบของเกสรเพศผู้คืออะไร
1 1, 2
2 1, 3
3 2, 3
4 3, 4
- 9. 38. ออวุลได้ แก่ หมายเลขใด และสิ่ งทีอยู่ในออวุลคืออะไร
่
1 หมำยเลข 1 ละอองเรณู
2 หมำยเลข 3 ละอองเรณู
3 หมำยเลข 6 เซลล์ไข่
4 หมำยเลข 7 เซลล์ไข่
39. เซลล์ สืบพันธุ์เพศผู้ถูกสร้ างขึนที่หมายเลขใด
้
1 1
2 2
3 3
4 4
40. การปฏิสนธิซ้อนมักเกิดขึนที่บริเวณหมายเลขใด
้
1 1 และ 3
2 2 และ 4
3 6 และ 7
4 1, 2, 3 และ 4
41. การปฏิสนธิคือขั้นตอนใด
1 เมื่อละอองเรณูตกลงบนยอดเกสรเพศเมีย
2 เมื่อละอองเรณูงอกหลอดแทงลงไปในรังไข่
3 เมื่อนิวเคลียสของละอองเรณู ผสมกับเซลล์ไข่
4 เมื่อนิวเคลียสของละอองเรณู ผสมกับเซลล์ไข่กลำยเป็ นเมล็ด
42. การปฏิสนธิของดอกไม้ เกิดขึนเมื่อใด
้
1 ออวุลเจริ ญไปเป็ นเมล็ด
2 ผนังรังไข่เจริ ญไปเป็ นเมล็ด
3 ละอองเรณูตกลงบนยอดเกสรเพศเมีย
4 สเปิ ร์ มเข้ำผสมกับไข่และโพลำร์ นิวเคลียส
43. ข้ อความใดไม่ ถกต้ องเกี่ยวกับการสื บพันธุ์แบบไม่ อาศัยเพศ
ู
1 สื บพันธุ์ได้ดวยตัวเอง
้
2 ลูกที่เกิดมำมีลกษณะเหมือนพ่อแม่
ั
3 ลูกที่เกิดมำจะมีลกษณะเหมือนกันทั้งหมด
ั
้ั
4 นิวเคลียสของเพศผูกบเพศเมียรวมตัวกัน
- 10. 44. ถ้ าต้ องการเพาะพันธุ์มะม่ วงให้ ได้ พนธุ์ต่างไปจากเดิมควรใช้ วธีใด
ั ิ
1 ติดตำ
2 ตอนกิ่ง
3 ทำบกิ่ง
4 เพำะเมล็ด
45. จุดเด่ นทีสาคัญของการใช้ พชทีได้ จากการตัดแต่ งยีนในการเพาะปลูกคืออะไร
่ ื ่
1 ลดกำรใช้ปุ๋ยเคมีและยำฆ่ำแมลง
2 เพิมผลผลิตต่อไร่ มำกกว่ำพันธุ์ด้ งเดิม
่ ั
3 รำคำต่อหน่วยถูกกว่ำกำรใช้พนธุ์ด้ งเดิม
ั ั
4 ได้พืชพันธุ์ใหม่ท่ีทนต่อทุกสภำพภูมิอำกำศ
46. สารทีช่วยควบคุมปริมาณนาตาลในเลือดทีสามารถใช้ เทคโนโลยีชีวภาพช่ วยผลิตได้ แก่ อะไร
่ ้ ่
1 อินซูลิน
2 เอนไซม์
3 กรดแอมิโน
4 กรดนิวคลิอิก
47. การตัดแต่ งยีนสาหรับพืชบางชนิดเพือเพิมผลผลิตของพืชนั้น ฝ่ ายทีต่อต้ านการดาเนินงานลักษณะดังกล่าวนีมี
่ ่ ่ ้
ข้ อห่ วงใยในเรื่องใดมากทีสุด
่
1 กำรกลำยของพันธุ์พืช
2 วัฏจักรกำรเจริ ญเติบโต
3 ผลข้ำงเคียงต่อผูบริ โภค
้
4 กำรขยำยพันธุ์เพื่อเพิ่มผลผลิต
48. อะไรเป็ นจุดเด่ นทีสาคัญของการใช้ พชทีได้ จากการตัดแต่ งยีนในการเพาะปลูก
่ ื ่
1 ลดกำรใช้ปุ๋ยและยำฆ่ำแมลง
2 เพิ่มผลผลิตต่อไร่ มำกกว่ำพันธุ์ด้ งเดิม ั
3 รำคำต่อหน่วยถูกกว่ำกำรใช้พนธุ์ด้ งเดิม
ั ั
4 ได้พืชพันธุ์ใหม่ท่ีทนต่อทุกสภำพภูมิอำกำศ
49. การเคลือนไหวใดไม่ สัมพันธ์ กบทิศทางของสิ่ งเร้ า
่ ั
1 กำรเจริ ญของรำกเข้ำหำน้ ำ
2 กำรหุบและบำนของดอกไม้
3 กำรเจริ ญของยอดพืชเข้ำหำแสง
4 กำรหันหำแสงของดอกทำนตะวัน
- 11. 50. การเคลือนไหวของเซลล์ คุมเป็ นการตอบสนองต่ อสิ่ งใด
่
1 อุณหภูมิ
2 ควำมเต่ง
3 กำรสัมผัส
4 กำรสังเครำะห์ดวยแสง ้
51. พฤติกรรมการตอบสนองของพืชทีเ่ กิดจากสิ่ งเร้ าภายนอกมีความสั มพันธ์ กบกระบวนการใดมากทีสุด
ั ่
1 กำรหำยใจ
2 กำรคำยน้ ำ
3 กำรสังเครำะห์ดวยแสง ้
4 กำรลำเลียงน้ ำและอำหำร
52. ส่ วนประกอบที่ทาให้ เซลล์พชแตกต่ างจากเซลล์สัตว์คืออะไร
ื
1 ไซโทพลำซึ มกับไรโบโซม
ั
2 เยือหุ มเซลล์กบนิวเคลียส
่ ้
ั
3 ผนังเซลล์กบคลอโรพลำสต์
4 ไมโทคอนเดรี ยกับนิวคลีโอลัส
53. เซลล์ พชมีอยู่ทส่วนใดของพืช
ื ี่
1 ใบและลำต้น ที่อื่น ๆ ไม่มี
2 ปลำยใบและปลำยรำกเท่ำนั้น
3 ใบและลำต้นกับที่ปลำยรำกเท่ำนั้น
่
4 มีอยูทุกส่ วนของพืช เพรำะพืชมีเซลล์เป็ นส่ วนประกอบ
54. ส่ วนประกอบของเซลล์พชที่ทาหน้ าทีคล้ายยามคืออะไร
ื ่
1 ผนังเซลล์
2 นิวเคลียส
3 เยือหุมเซลล์
่ ้
4 ไซโทพลำซึม
55. ความแตกต่ างของการแพร่ กับออสโมซิสคืออะไร
1 ออสโมซิสเป็ นกำรเคลื่อนที่ของเยือบำง ๆ
่
2 กำรแพร่ ไม่ตองผ่ำนเยือบำง ๆ แต่ออสโมซิ สต้องผ่ำนเยือบำง ๆ
้ ่ ่
3 กำรแพร่ เกิดจำกสำรเคลื่อนที่จำกที่ที่มีโมเลกุลน้อยไปสู่ ที่ที่มีโมเลกุลมำกเท่ำนั้น
4 ถูกทุกข้อ
- 12. 56. สิ่ งทีไม่ ใช่ ปัจจัยทีสาคัญในกระบวนการสั งเคราะห์ ด้วยแสงคืออะไร
่ ่
1 น้ ำ
2 แสง
3 ออกซิเจน
4 คำร์บอนไดออกไซด์
57. ข้ อความใดถูกต้ อง
1 กำรสังเครำะห์ดวยแสงของพืชเกิดขึ้นที่บริ เวณใบเท่ำนั้น
้
2 พืชส่ งอำหำรไปเลี้ยงส่ วนต่ำง ๆ ของลำต้นในรู ปของน้ ำตำล
3 แก๊สคำร์ บอนไดออกไซด์เกิดจำกกระบวนกำรสังเครำะห์ดวยแสง ้
4 แก๊สออกซิ เจนเป็ นวัตถุดิบที่ใช้ในกระบวนกำรสังเครำะห์ดวยแสง ้
58. กระบวนการสั งเคราะห์ ด้วยแสงมีความสั มพันธ์ กับสิ่ งใดมากทีสุด ่
1 ปริ มำณแร่ ธำตุอำหำรที่จำเป็ นในพื้นดิน
2 ปริ มำณอำหำรที่จำเป็ นต่อสิ่ งมีชีวตทุกชนิด
ิ
่
3 จำนวนพืชและสัตว์ที่อำศัยอยูในบริ เวณต่ำง ๆ
4 กำรหมุนเวียนของแก๊สคำร์ บอนไดออกไซด์และแก๊สออกซิ เจน
59. กลุ่มเซลล์ ททาหน้ าทีเ่ ป็ นท่ อลาเลียงนาพบได้ ในส่ วนใดของพืช
ี่ ้
1 เฉพำะรำก
2 รำกและลำต้น
3 รำก ลำต้น และกิ่ง
4 รำก ลำต้น กิ่ง และใบ
60. ส่ วนประกอบของดอกไม้ ถ้าเรียงจากชั้ นนอกสุ ดไปยังชั้ นในสุ ดได้ แก่ อะไร
1 กลีบเลี้ยง กลีบดอก อับเรณู รังไข่
2 กลีบเลี้ยง กลีบดอก เกสรเพศผู ้ เกสรเพศเมีย
3 เกสรเพศเมีย เกสรเพศผู้ กลีบดอก กลีบเลี้ยง
4 เกสรเพศเมีย เกสรเพศผู ้ ก้ำนเกสรเพศผู ้ รังไข่
- 13. แบบอัตนัย
คาชี้แจง ตอบคำถำมต่อไปนี้ ให้ถูกต้อง
1. เพรำะเหตุใดพืชจึงต้องเปลี่ยนแป้ งเป็ นน้ ำตำลก่อนจะลำเลียงไปยังส่ วนอื่นในลำต้น
2. ในกำรสังเกตส่ วนประกอบของเซลล์ชนิดหนึ่งพบว่ำ เซลล์มีลกษณะเหลี่ยมประกอบด้วย นิวเคลียส ไซ
ั
โทพลำ-ซึ ม เยือหุ มเซลล์ และผนังเซลล์ จำกข้อมูลที่กำหนดให้เซลล์ชนิดนี้เป็ นเซลล์พืชหรื อเซลล์สตว์ เพรำะเหตุใด
่ ้ ั
เฉลย ข้ อสอบกลางภาค ชุดที่ 2
แบบปรนัย
1. 4 2. 3 3. 2 4. 4 5. 3 6. 1 7. 3 8. 2 9. 3 10. 4 11. 3 12. 3 13. 2
14. 2 15. 3 16. 3 17. 4 18. 4 19. 1 20. 2 21. 1 22. 3 23. 3 24. 3 25. 4 26. 3
27. 2 28. 1 29. 2 30. 2 31. 2 32. 3 33. 4 34. 1 35. 2 36. 1 37. 4 38. 3 39. 3
40. 3 41. 3 42. 4 43. 4 44. 4 45. 1 46. 1 47. 3 48. 1 49. 2 50. 2 51. 3 52. 3
53. 4 54. 3 55. 2 56. 3 57. 2 58. 4 59. 2 60. 2
แบบอัตนัย
1. พืชต้องเปลี่ยนแป้ งเป็ นน้ ำตำลก่อนจะลำเลียงไปยังส่วนอื่น ๆ เพรำะ
1) น้ ำตำลละลำยน้ ำได้
2) น้ ำตำลที่มีกำรย่อยจะมีอนุภำคเล็ก เช่น น้ ำตำลกลูโคส จะทำให้สะดวกต่อกำรแพร่
2. จำกข้อมูล เซลล์ชนิดนี้เป็ นเซลล์พืช เพรำะสังเกตเห็นผนังเซลล์ ซึ่ งเป็ นส่ วนประกอบที่จะพบ
ได้เฉพำะในเซลล์พืชเท่ำนั้น ไม่พบในเซลล์สตว์
ั