Submit Search
Upload
การถ่ายละอองเรณู (T)
•
10 likes
•
15,120 views
Thitaree Samphao
Follow
ชีววิทยาเพิ่มเติม 3 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
Read less
Read more
Education
Report
Share
Report
Share
1 of 37
Download now
Download to read offline
Recommended
การสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช
การสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช
sukanya petin
โครงสร้างและหน้าที่ของราก
โครงสร้างและหน้าที่ของราก
Thanyamon Chat.
การสืบพันธุ์ของพืชดอกโครงสร้างดอก
การสืบพันธุ์ของพืชดอกโครงสร้างดอก
Thanyamon Chat.
ราก (T)
ราก (T)
Thitaree Samphao
โครงสร้างและหน้าที่ของใบ
โครงสร้างและหน้าที่ของใบ
Thanyamon Chat.
บทที่ 7 ระบบสุริยะ
บทที่ 7 ระบบสุริยะ
Pinutchaya Nakchumroon
ระบบหมุนเวียนเลือด
ระบบหมุนเวียนเลือด
Thitaree Samphao
ใบความรู้+แผนการสอน และใบกิจกรรม ประถม 4-6 เรื่อง ปรากฏการณ์ของโลกและเทคโนโลย...
ใบความรู้+แผนการสอน และใบกิจกรรม ประถม 4-6 เรื่อง ปรากฏการณ์ของโลกและเทคโนโลย...
Prachoom Rangkasikorn
Recommended
การสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช
การสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช
sukanya petin
โครงสร้างและหน้าที่ของราก
โครงสร้างและหน้าที่ของราก
Thanyamon Chat.
การสืบพันธุ์ของพืชดอกโครงสร้างดอก
การสืบพันธุ์ของพืชดอกโครงสร้างดอก
Thanyamon Chat.
ราก (T)
ราก (T)
Thitaree Samphao
โครงสร้างและหน้าที่ของใบ
โครงสร้างและหน้าที่ของใบ
Thanyamon Chat.
บทที่ 7 ระบบสุริยะ
บทที่ 7 ระบบสุริยะ
Pinutchaya Nakchumroon
ระบบหมุนเวียนเลือด
ระบบหมุนเวียนเลือด
Thitaree Samphao
ใบความรู้+แผนการสอน และใบกิจกรรม ประถม 4-6 เรื่อง ปรากฏการณ์ของโลกและเทคโนโลย...
ใบความรู้+แผนการสอน และใบกิจกรรม ประถม 4-6 เรื่อง ปรากฏการณ์ของโลกและเทคโนโลย...
Prachoom Rangkasikorn
การลำเลียงน้ำและอาหารของพืช
การลำเลียงน้ำและอาหารของพืช
Thanyamon Chat.
การลำเลียงน้ำของพืช
การลำเลียงน้ำของพืช
Anana Anana
ใบงานที่ 13 การแบ่งเซลล์แบบไมโทซิส
ใบงานที่ 13 การแบ่งเซลล์แบบไมโทซิส
Aomiko Wipaporn
พืชมีดอกและพืชไร้ดอก
พืชมีดอกและพืชไร้ดอก
biwty_keng
การสืบพันธุ์ของพืชดอก (T)
การสืบพันธุ์ของพืชดอก (T)
Thitaree Samphao
บทที่ 12 การสังเคราะห์แสง
บทที่ 12 การสังเคราะห์แสง
Pinutchaya Nakchumroon
การถ่ายโอนความร้อน ม.1
การถ่ายโอนความร้อน ม.1
Wuttipong Tubkrathok
stem structure
stem structure
Thanyamon Chat.
โครงสร้างและการเจริญเติบโตของพืชดอก
โครงสร้างและการเจริญเติบโตของพืชดอก
Ratarporn Ritmaha
ใบงานวิทย์ ม.1
ใบงานวิทย์ ม.1
เพียงพร วงศ์คำจันทร์
ส่วนประกอบของดอก
ส่วนประกอบของดอก
จิณต์จุฑา ใจหาญ
ใบงานที่ 2 ปฏิกิริยาเคมี
ใบงานที่ 2 ปฏิกิริยาเคมี
website22556
ความหลากหลายทางชีวภาพ
ความหลากหลายทางชีวภาพ
Pinutchaya Nakchumroon
ลมฟ้าอากาศ บรรยากาศ
ลมฟ้าอากาศ บรรยากาศ
Supaluk Juntap
โรคทางพันธุกรรม ม.3
โรคทางพันธุกรรม ม.3
Wuttipong Tubkrathok
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช ราก (2)
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช ราก (2)
Pinutchaya Nakchumroon
Lec การแบ่งเซลล์
Lec การแบ่งเซลล์
bio2014-5
ระบบขับถ่าย
ระบบขับถ่าย
Thitaree Samphao
โครงสร้างและหน้าที่ของราก
โครงสร้างและหน้าที่ของราก
Thanyamon Chat.
วัฏจักรน้ำ
วัฏจักรน้ำ
savokclash
การสืบพันธุ์ของพืช2
การสืบพันธุ์ของพืช2
ประกาย ใจดี
การสืบพันธุ์ของพืช
การสืบพันธุ์ของพืช
chiralak
More Related Content
What's hot
การลำเลียงน้ำและอาหารของพืช
การลำเลียงน้ำและอาหารของพืช
Thanyamon Chat.
การลำเลียงน้ำของพืช
การลำเลียงน้ำของพืช
Anana Anana
ใบงานที่ 13 การแบ่งเซลล์แบบไมโทซิส
ใบงานที่ 13 การแบ่งเซลล์แบบไมโทซิส
Aomiko Wipaporn
พืชมีดอกและพืชไร้ดอก
พืชมีดอกและพืชไร้ดอก
biwty_keng
การสืบพันธุ์ของพืชดอก (T)
การสืบพันธุ์ของพืชดอก (T)
Thitaree Samphao
บทที่ 12 การสังเคราะห์แสง
บทที่ 12 การสังเคราะห์แสง
Pinutchaya Nakchumroon
การถ่ายโอนความร้อน ม.1
การถ่ายโอนความร้อน ม.1
Wuttipong Tubkrathok
stem structure
stem structure
Thanyamon Chat.
โครงสร้างและการเจริญเติบโตของพืชดอก
โครงสร้างและการเจริญเติบโตของพืชดอก
Ratarporn Ritmaha
ใบงานวิทย์ ม.1
ใบงานวิทย์ ม.1
เพียงพร วงศ์คำจันทร์
ส่วนประกอบของดอก
ส่วนประกอบของดอก
จิณต์จุฑา ใจหาญ
ใบงานที่ 2 ปฏิกิริยาเคมี
ใบงานที่ 2 ปฏิกิริยาเคมี
website22556
ความหลากหลายทางชีวภาพ
ความหลากหลายทางชีวภาพ
Pinutchaya Nakchumroon
ลมฟ้าอากาศ บรรยากาศ
ลมฟ้าอากาศ บรรยากาศ
Supaluk Juntap
โรคทางพันธุกรรม ม.3
โรคทางพันธุกรรม ม.3
Wuttipong Tubkrathok
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช ราก (2)
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช ราก (2)
Pinutchaya Nakchumroon
Lec การแบ่งเซลล์
Lec การแบ่งเซลล์
bio2014-5
ระบบขับถ่าย
ระบบขับถ่าย
Thitaree Samphao
โครงสร้างและหน้าที่ของราก
โครงสร้างและหน้าที่ของราก
Thanyamon Chat.
วัฏจักรน้ำ
วัฏจักรน้ำ
savokclash
What's hot
(20)
การลำเลียงน้ำและอาหารของพืช
การลำเลียงน้ำและอาหารของพืช
การลำเลียงน้ำของพืช
การลำเลียงน้ำของพืช
ใบงานที่ 13 การแบ่งเซลล์แบบไมโทซิส
ใบงานที่ 13 การแบ่งเซลล์แบบไมโทซิส
พืชมีดอกและพืชไร้ดอก
พืชมีดอกและพืชไร้ดอก
การสืบพันธุ์ของพืชดอก (T)
การสืบพันธุ์ของพืชดอก (T)
บทที่ 12 การสังเคราะห์แสง
บทที่ 12 การสังเคราะห์แสง
การถ่ายโอนความร้อน ม.1
การถ่ายโอนความร้อน ม.1
stem structure
stem structure
โครงสร้างและการเจริญเติบโตของพืชดอก
โครงสร้างและการเจริญเติบโตของพืชดอก
ใบงานวิทย์ ม.1
ใบงานวิทย์ ม.1
ส่วนประกอบของดอก
ส่วนประกอบของดอก
ใบงานที่ 2 ปฏิกิริยาเคมี
ใบงานที่ 2 ปฏิกิริยาเคมี
ความหลากหลายทางชีวภาพ
ความหลากหลายทางชีวภาพ
ลมฟ้าอากาศ บรรยากาศ
ลมฟ้าอากาศ บรรยากาศ
โรคทางพันธุกรรม ม.3
โรคทางพันธุกรรม ม.3
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช ราก (2)
บทที่ 11 โครงสร้างและหน้าที่ของพืช ราก (2)
Lec การแบ่งเซลล์
Lec การแบ่งเซลล์
ระบบขับถ่าย
ระบบขับถ่าย
โครงสร้างและหน้าที่ของราก
โครงสร้างและหน้าที่ของราก
วัฏจักรน้ำ
วัฏจักรน้ำ
Similar to การถ่ายละอองเรณู (T)
การสืบพันธุ์ของพืช2
การสืบพันธุ์ของพืช2
ประกาย ใจดี
การสืบพันธุ์ของพืช
การสืบพันธุ์ของพืช
chiralak
การสืบพันธุ2
การสืบพันธุ2
Coverslide Bio
Lesson4 animalrepro2561
Lesson4 animalrepro2561
Wichai Likitponrak
Lesson4animalrepro kr uwichai62
Lesson4animalrepro kr uwichai62
Wichai Likitponrak
บทที่ 13 การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโต
บทที่ 13 การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโต
Pinutchaya Nakchumroon
Plant
Plant
0876269120
Chapter6
Chapter6
Freedom'life By-SnoOker
Plant kingdom 1
Plant kingdom 1
krunidhswk
บทที่ 13 การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโต (1)
บทที่ 13 การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโต (1)
Pinutchaya Nakchumroon
1
1
pang_patpp
การสืบพันธ์
การสืบพันธ์
อังสนา แสนเยีย
การสืบพันธุ์ของพืช2
การสืบพันธุ์ของพืช2
ประกาย ใจดี
การสืบพันธุ์ของพืชดอก
การสืบพันธุ์ของพืชดอก
Nokko Bio
1 repro
1 repro
โรงเรียนบ่อไร่วิทยาคม
การเกิดผลและเมล็ด
การเกิดผลและเมล็ด
Nokko Bio
การเกิดผลและเมล็ด
การเกิดผลและเมล็ด
Nokko Bio
เนื้อเยื่อพืช Annanet
เนื้อเยื่อพืช Annanet
Anana Anana
เนื้อเยื่อพืช Annanet
เนื้อเยื่อพืช Annanet
Anana Anana
การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศของพืช
การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศของพืช
dnavaroj
Similar to การถ่ายละอองเรณู (T)
(20)
การสืบพันธุ์ของพืช2
การสืบพันธุ์ของพืช2
การสืบพันธุ์ของพืช
การสืบพันธุ์ของพืช
การสืบพันธุ2
การสืบพันธุ2
Lesson4 animalrepro2561
Lesson4 animalrepro2561
Lesson4animalrepro kr uwichai62
Lesson4animalrepro kr uwichai62
บทที่ 13 การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโต
บทที่ 13 การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโต
Plant
Plant
Chapter6
Chapter6
Plant kingdom 1
Plant kingdom 1
บทที่ 13 การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโต (1)
บทที่ 13 การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโต (1)
1
1
การสืบพันธ์
การสืบพันธ์
การสืบพันธุ์ของพืช2
การสืบพันธุ์ของพืช2
การสืบพันธุ์ของพืชดอก
การสืบพันธุ์ของพืชดอก
1 repro
1 repro
การเกิดผลและเมล็ด
การเกิดผลและเมล็ด
การเกิดผลและเมล็ด
การเกิดผลและเมล็ด
เนื้อเยื่อพืช Annanet
เนื้อเยื่อพืช Annanet
เนื้อเยื่อพืช Annanet
เนื้อเยื่อพืช Annanet
การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศของพืช
การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศของพืช
More from Thitaree Samphao
การหายใจแสง พืช C4 พืช cam (t)
การหายใจแสง พืช C4 พืช cam (t)
Thitaree Samphao
การสังเคราะห์ด้วยแสง การค้นคว้า (T)
การสังเคราะห์ด้วยแสง การค้นคว้า (T)
Thitaree Samphao
กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง (T)
กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง (T)
Thitaree Samphao
เนื้อเยื่อพืช (T)
เนื้อเยื่อพืช (T)
Thitaree Samphao
ระบบน้ำเหลืองและระบบภูมิคุ้มกัน (Web)
ระบบน้ำเหลืองและระบบภูมิคุ้มกัน (Web)
Thitaree Samphao
ระบบหมุนเวียนเลือด
ระบบหมุนเวียนเลือด
Thitaree Samphao
ระบบหายใจ
ระบบหายใจ
Thitaree Samphao
More from Thitaree Samphao
(7)
การหายใจแสง พืช C4 พืช cam (t)
การหายใจแสง พืช C4 พืช cam (t)
การสังเคราะห์ด้วยแสง การค้นคว้า (T)
การสังเคราะห์ด้วยแสง การค้นคว้า (T)
กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง (T)
กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง (T)
เนื้อเยื่อพืช (T)
เนื้อเยื่อพืช (T)
ระบบน้ำเหลืองและระบบภูมิคุ้มกัน (Web)
ระบบน้ำเหลืองและระบบภูมิคุ้มกัน (Web)
ระบบหมุนเวียนเลือด
ระบบหมุนเวียนเลือด
ระบบหายใจ
ระบบหายใจ
การถ่ายละอองเรณู (T)
1.
เรื่อง การถ่ายละอองเรณู การปฏิสนธิ
และวัฏจักรชีวิตของพืช รายวิชาชีววิทยาเพิ่มเติม 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 คุณครูฐิตารีย์ สาเภา โรงเรียนท่ามะกาวิทยาคม สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 8 (กาญจนบุรี-ราชบุรี)
2.
การนาละอองเรณูที่แก่เต็มที่มาตกลงบนยอดเกสรตัว เมีย ปัจจัยทีทาให้เกิดการถ่ายละอองเรณู
(ผสมพันธุ์): เกสรตัวผู้พร้อมสาหรับการผสมพันธุ์ = ละอองเรณู แก่ (แตกออกจากอับเรณู) ยอดเกสรตัวเมียพร้อมสาหรับการผสมพันธุ์ = มีขน หรือน้าหวาน ออกมาที่ยอด/ต่อมน้าหวาน วิธีการ : เกิดขึ้นโดยมนุษย์ ผสมเพื่อให้เกิดการติดผล ผสมเพื่อปรับปรุงพันธุ์ เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ แมลง/นกมาดูดน้าหวาน ซึ่งพาเกสรติดมาด้วย ลมพัดละอองเกสรจะต้นหนึ่งสู่อีกต้นหนึ่ง แรงดูดของละอองเรณูเมื่ออับเรณูแตก การถ่ายละอองเรณู (POLLINATIN)
3.
ถ่ายละอองเรณูภายในดอกเดียวกัน/ข้ามดอกในต้นเดียวกัน (Self
pollination): ส่งผลให้ลักษณะทางพันธุกรรมของพืชรุ่นลูกเหมือนต้นเดิม ในธรรมชาติมีวิธี ป้องกันการผสมกันเองโดยทาให้ละอองเรณูและเซลล์ไข่เจริญไม่พร้อมกัน ถ่ายละอองเรณูข้ามต้นในพืชชนิดเดียวกัน (Cross pollination): ส่งผลให้ลักษณะ ทางพันธุกรรมของพืชรุ่นลูกแตกต่างไปจากพืชต้นเดิม ทาให้พืชมีลักษณะต่างๆ หลากหลายและอาจได้พืชพันธุ์ใหม่เกิดขึ้น การถ่ายละอองเรณู (POLLINATIN)
4.
Sperm (n)
+ egg (n) zygote (2n) embryo (2n) Sperm (n) + polar nuclei (n + n) endosperm (3n) เรียกการปฏิสนธิแบบนี้ว่า การปฏิสนธิซ้อน (double Fertilization) การปฏิสนธิของพืชดอก (FERTILIZATION)
5.
1. หลอดละอองเรณูงอกไปตามก้านเกสรตัวเมีย
ภายในบรรจุ generative nucleus (n) และ tube nucleus (n) 2. generative nucleus (n) แบ่งแบบ mitosis 1 ครั้ง ได้ sperm nucleus 2 ตัว 3. tube nucleus สลายตัว และ sperm nucleus ผ่านรู micropyle ของออวุล เข้าไป 4. sperm nucleus ตัวที่ 1 รวมกับเซลล์ไข่ได้เป็น ไซโกต 5. sperm nucleus ตัวที่ 2 รวมกับโพลาร์นิวคลีไอ ได้เป็นเอนโดสเปิร์ม การปฏิสนธิของพืชดอก (FERTILIZATION)
6.
ส่วนประกอบ การเปลี่ยนแปลงหลังการปฏิสนธิ กลีบเลี้ยง เหี่ยวแห้งหลุดไป
แต่ในพืชบางชนิดยังคงอยู่ เช่นมังคุด กลีบดอก/ยอดเกสรตัวเมีย/ ก้านเกสรตัวเมีย เหี่ยวแห้งและร่วงหลุดไป Ovule เมล็ด Ovary ผล (บางชนิดเช่น แอปเปิล ชมพู่ ผลเกิดจากฐานรอง ดอก) ผนังหุ้มรังไข่ เปลือกและเนื้อของผล Sperm + egg Zygote เอ็มบริโอหรือต้นอ่อน Sperm + polar nuclei endosperm อาหารเลี้ยงเอ็มบริโอหรือต้นอ่อน การเปลี่ยนแปลงหลังการปฏิสนธิ
7.
การเจริญของ zygote
ไปเป็น embryo เกิดจากแบ่งเซลล์แบบ mitosis ได้ 2 เซลล์ เซลล์ด้านล่างติดกับรู micropyle เรียกว่า เซลล์ฐาน (basal cell) แบ่งเซลล์เพิ่ม จานวน เรียกว่า เซลล์สนับสนุน (suspensor) ทาหน้าที่ยึด embryo เซลล์ด้านบนเรียกว่า แอพิคัลเซลล์ (apical cell) แบ่งเซลล์รวดเร็วและอยู่ด้านบนของ เซลล์สนับสนุน แอพิคัลเซลล์ จะมีการเปลี่ยนแปลงไปเป็นเนื้อเยื่อและส่วนต่างๆ ของ embryo การเปลี่ยนแปลงหลังการปฏิสนธิ
8.
วัฏจักรชีวิตแบบสลับ (Alternation
of Generation) มี 2 ระยะ คือ ระยะสปอโรไฟต์ (2n) : สร้างสปอร์ และระยะแกมีโตไฟต์ (n) : สร้าง เซลล์สืบพันธุ์ 1. gametophyte : มีโครโมโซม 1 ชุด หรือ hapioid (n) ทาหน้าที่สร้างเซลล์ สืบพันธุ์เพศผู้และเพศเมียโดยแบ่งเซลล์แบบ meiosis 2. เกิดการปฏิสนธิ ได้ Zygote ซึ่งมี จานวนโครโมโซม 2 ชุด หรือ diploid (2n) 3. ไซโกตแบ่งตัวแบบ mitosis เพิ่ม จานวนเซลล์และพัฒนาเป็น embryo ซึ่ง เจริญต่อไปสู่ระยะ sporophyte 4. sporophyte : spore mother cell แบ่งเซลล์แบบ meiosis สร้างสปอร์ วัฏจักรชีวิตของพืชดอก 1 2 3 4
9.
วัฏจักรชีวิตของพืชดอก
10.
ระยะสปอโรไฟต์เซลล์พืชอยู่ในสภาพ diploid
เพราะเป็นเซลล์ที่มีจานวน โครโมโซม 2n Spore mother cell (2n) ในระยะ sporophyte ประกอบด้วย microspore mother cell และ megaspore mother cell ซึ่งจะแบ่งเซลล์แบบ meiosis เพื่อ สร้าง spore Microspore และ Megaspore ต่างก็เป็นเซลล์ที่มีจานวนโครงโมโซม n หรืออยู่ ในสภาพ haploid Spore จะเกิดกระบวนการแบ่งเซลล์แบบ mitosis เพื่อเจริญและพัฒนาเข้าสู่ ระยะ gametophyte ซึ่งทาหน้าที่สร้างเซลล์สืบพันธุ์ เซลล์สืบพันธุ์เพศเมียและเซลล์สืบพันธุ์เพศผู้ที่สร้างขึ้นจะเกิดการปฏิสนธิโดยผ่าน กระบวนการถ่ายเรณูได้เป็น Zygote แล้วเกิดการแบ่งเซลล์แบบ mitosis เพื่อเจริญ และพัฒนาเป็น embryo จนกระทั้งเจริญเติบโตไปเป็นต้นพืชในระยะสปอร์โรไฟต์ต้น ใหม่ต่อไป วัฏจักรชีวิตของพืชดอก
11.
ผลแท้จริงเกิดจากรังไข่ได้รับการปฏิสนธิ ฐานรองดอกพัฒนาเป็นผล:
แอปเปิ้ล สาลี่ ฝรั่ง ชมพู่ กลีบเลี้ยงพัฒนาเป็นส่วนหนึ่งของผล: มังคุด มะเขือ ทับทิม ผลบางชนิดมาจากรังไข่ที่ไม่ได้รับการ ปฏิสนธิเรียกว่า ผลเทียม หรือ ผลลม (parthenocarpic fruit) วิธีการทาให้ เกิดผลเทียมเรียกว่า parthenocarpy เช่น กล้วยหอม มะเขือยาว มะเขือเทศ องุ่นไม่มีเมล็ด ผล (FRUIT)
12.
ผลเจริญมาจากรังไข่ ผนังผล
(pericarp) เจริญมาจากผนังรัง ไข่ แบ่งเป็น 3 ชั้น Exocarp : เนื้อเยื่อชั้นนอกสุดหรือเปลือก ประกอบด้วย epidermis ชั้นเดียว Mesocarp ; ชั้นกลาง มีท่อลาเลียง มีโซ คาร์พในพืชบางชนิดอ่อนนุ่มเป็นส่วนเนื้อ ผลไม้ Endocarp : ชั้นในสุดของผนังผล พืช บางชนิดเอนโดคาร์พสามารถรับประธาน ได้ ผลบางชนิดโครงสร้างทั้งสามไม่สามารถ แยกออกจากกันได้ เช่น ถั่วเหลือง พริก โครงสร้างของผล
13.
เกณฑ์การจาแนกชนิดของผล 1.โครงสร้างและลักษณะของดอก
2.จานวนและชนิดของรังไข่ 3.จานวนคาร์เพลที่อยู่ภายในรังไข่ 4.ลักษณะของผนังผลเมื่อผลแก่ 5.การแตกของผนังผลเมื่อผลแก่ 6.ส่วนของดอก เช่น กลีบเลี้ยง กลีบดอก ฐานรองดอก ที่เจริญเปลี่ยนแปลงไปเป็นผล จากเกณฑ์ดังกล่าวทาให้จาแนกผลได้ 3 ชนิด คือ ผลเดี่ยว ผลกลุ่ม และผลรวม ชนิดของผล
14.
ผลที่เกิดจากรังไข่เดียวในดอกเดียว 1
ก้านดอกมี ≥ 1 ดอก แต่ละดอกไม่เชื่อม ติดกัน ภายในดอกมี 1 รังไข่ (Ovary) ภายในรังไข่มี ≥ 1 เมล็ด (Ovary) ตัวอย่างผลเดี่ยว เช่น ตะขบ ทุเรียน ลิ้นจี่ เงาะ ลาไย องุ่น กระถิน สละ มะพร้าว ข้าวโพด ส้ม ผลเดี่ยว (SIMPLE FRUIT)
15.
ผลที่เกิดจากกลุ่มของรังไข่ที่อยู่ในดอก เดี่ยว 1
ก้านดอกมี 1 ดอก ภายในดอกมี > 1รังไข่ ภายในรังไข่มี 1 เมล็ด ผลที่เกิดขึ้น ผลเป็นกลุ่มหรือกระจุกอยู่บน แกนกลางเดียวกัน เนื่องจากรังไข่ อัดแน่น เช่น สตรอเบอร์รี จาปี จาปา การเวก กระดังงา กุหลาบ บัวหลวง น้อยหน่า ลูกจาก หวาย ผลกลุ่ม (AGGREGATE FRUIT)
16.
ผลที่เกิดจากดอกช่อก้านสั้นมาเชื่อม ติดกันแน่นจนเหมือนเป็นผลเดี่ยว 1
ก้านดอกมี > 1 ดอกย่อย ภายในดอกมี 1 รังไข่ ภายในรังไข่มี 1/ หลายเมล็ด ผลที่เกิดขึ้น ผลย่อยรวมกันเป็นเนื้อเดียวคล้ายเป็น ผลเดี่ยว เช่น ขนุน สาเก ยอ มะเดื่อ สับปะรด หม่อน ผลรวม (MULTIPLE FRUIT)
17.
ผล (FRUIT)
18.
ส่วนที่เปลี่ยนแปลงมาจาก Ovule หลังจากเกิดการปฏิสนธิแล้ว
เป็นที่อยู่ของ embryo ซึ่งจะเจริญเป็น พืชต้นใหม่ เมล็ดเป็นส่วนสาคัญต่อการดารงพันธุ์ ของพืชดอก โครงสร้างของเมล็ดประกอบด้วย เปลือกเมล็ด (Seed coat) เอ็มบริโอ (embryo) เอนโดสเปิร์ม (endosperm) เมล็ด (SEED)
19.
เปลี่ยนแปลงมาจากผนังออวุล (integument)
หน้าที่ป้องกันอันตรายให้เอ็มบริโอ เมล็ดมีเปลือกหุ้ม 2 ชั้น ชั้นนอก : เปลี่ยนแปลงมาจากผนังชั้นนอกของ ออวุล แข็ง และเหนียว = testa ชั้นใน : เป็นเยื่อบางสีขาว เปลี่ยนแปลงมาจาก ผนังชั้นในของออวุล = tegmen รอยแผลเป็นเล็กๆ เกิดจากก้านออวุลหลุดออก = hilum มีเนื้อเยื่ออวบสีขาวคล้ายฟองน้าติดอยู่ = caruncle ช่วยอุ้มน้าไว้ใช้ในการงอก เปลือกหุ้มเมล็ดของ กระเทียมเถา แคแสด และ ทองอุไร เปลี่ยนแปลงไปเป็นแผ่นบาง ทาหน้าที่ช่วย ให้เมล็ดปลิวไปตามลมได้ เปลือกเมล็ด (SEED COAT)
20.
เกิดจากการปฏิสนธิระหว่างเซลล์ไข่กับสเปิร์ม 1.ใบเลี้ยง
(cotyledon) : ป้องกันอันตรายให้กับ ยอดอ่อนขณะงอก ย่อยและดูดซึมอาหารจากเอนโด สเปิร์มมาเก็บไว้ที่ใบเลี้ยง 2.คอลิเคิล (caulicle) : ลาต้นอ่อนหรือเอ็มบริโอ Epicotyl : อยู่เหนือใบเลี้ยง ปลายสุดเรียกว่า ยอดแรกเกิด (plumule) เจริญเป็นลาต้นยอด และใบแท้ เมล็ดพืชใบเลี้ยงเดี่ยวมีเนื้อเยื่อ พิเศษ เรียก coleoptile ห่อหุ้มปลายยอดแรก เกิด Hypocotyls : อยู่ใต้ใบเลี้ยง ส่วนปลายเรียกว่า radicle จะพัฒนาไปเป็นรากอ่อน ในพืชใบ เลี้ยงเดี่ยว radicle จะหุ้มด้วย coleorhiza เพื่อป้องกันอันตราย o 3.เอนโดสเปิร์ม (endosperm): สะสมอาหาร ไว้เลี้ยงต้นอ่อน เอ็มบริโอ (EMBRYO) เมล็ดข้าว ข้าวโพด = สะสมคาร์โบไฮเดรต เมล็ดละหุ่ง มะพร้าว = สะสมไขมัน เมล็ดถั่วเหลือง = สะสมโปรตีน เอนโดสเปิร์มที่เป็นน้า+เนื้อ = มะพร้าว ตาล หมาก
21.
Pro embryo:
ไซโกตแบ่งตัว ออกเป็น 2 เซลล์ เซลล์ด้านล่าง ใหญ่ แบ่งตัวช้ากว่าจะฝังตัวใน เอนโดสเปิร์ม Globular stage: เซลล์ข้างบน แบ่งตัวต่อไปจนเป็นก้อนกลม Heart-shaped stage: เอ็มบริโอ ก้อนกลมจะพัฒนาไปเป็นกลุ่ม เซลล์รูปหัวใจ Torpedo stage: พัฒนาส่วนของ ใบเลี้ยง เอ็มบริโอ (EMBRYO)
22.
เมล็ดพืชใบเลี้ยงคู่ทั่วไป (ถั่ว)
สะสมอาหารไว้ที่ใบเลี้ยง เอนโดสเปิร์มถูกใช้ระหว่างการพัฒนา ของเมล็ด มีใบเลี้ยง 2 ใบ ไม่มีเยื่อฟองน้า (caruncle) รูปแบบของเมล็ด
23.
เมล็ดพืชใบเลี้ยงคู่กลุ่มละหุ่ง สะสมอาหารไว้ที่เอนโดสเปิร์ม
มีใบเลี้ยง 2 ใบบางๆ อยู่กลางเมล็ด มีเยื่อฟองน้า รูปแบบของเมล็ด
24.
เมล็ดพืชใบเลี้ยงเดี่ยวทั่วไป (ข้าวโพด)
สะสมอาหารไว้ที่เอนโดสเปิร์ม มีใบเลี้ยง 1 ใบ มีเนื้อเยื่อหุ้มปลายยอด (coleoptile) มีเนื้อเยื่อหุ้มปลายราก (coleorhiza) ไม่มีเยื่อฟองน้า รูปแบบของเมล็ด
25.
เมล็ดพืชใบเลี้ยงเดี่ยวประเภทข้าว มีเปลือกหุ้มเมล็ด
= แกลบ เปลือกหุ้มเมล็ดสีม่วง = รา สะสมอาหารไว้ที่เอนโดสเปิร์ม = ขาว มีใบเลี้ยง 1 ใบ สะสมอาหารน้อย มีปลายยอด (plumule) มีเนื้อเยื่อหุ้มปลายยอด มีเนื้อเยื่อหุ้มปลายราก ไม่มีเยื่อฟองน้า รูปแบบของเมล็ด
26.
เมล็ดพืชใบเลี้ยงเดี่ยวประเภทมะพร้าว ผลมะพร้าว
= เปลือก + กาบ + กะลา มีเยื่อหุ้มเมล็ดสีม่วง รูปแบบของเมล็ด สะสมอาหารไว้ที่เอน โดสเปิร์ม (น้า+เนื้อ มะพร้าว) มีใบเลี้ยง+ ยอดอ่อน = จาวมะพร้าว ไม่มีเยื่อฟองน้า
27.
1. พืชดูดน้าเข้าสู่เมล็ดด้วยกระบวนการ imbibition
2. embryo ผลิตจิบเบอเรลลิน (GA) ไปกระตุ้นเซลล์ชั้น aleurone ให้ผลิต เอนไซม์ amylase 3. amylase ย่อยแป้งภายในเอนโด สเปิร์มเป็นกลูโคส 4. กลูโคสเข้าไปสู่กระบวนการไกลโคไล ซิส ได้พลังงานใช้ในการงอก 5. มีการพัฒนาของ radicle เป็นราก งอกออกมาจากเมล็ด 6. ส่วนของยอดแทงออกมาจากเมล็ด พัฒนาเป็นลาต้นและใบ การงอกของเมล็ด (SEED GERMINATION)
28.
การงอกที่ใบเลี้ยงชูขึ้นมาเหนือพื้นดิน (epigeal gemination):
ชูใบเลี้ยงเหนือดิน Hypocotyl เจริญดี พบในพืชใบเลี้ยงคู่ การงอกที่ใบเลี้ยงจมอยู่ใต้พื้นดิน (hypogeal gemination): ใบเลี้ยงยังอยู่ใต้ดิน Epicotyl เจริญดี พบในพืชใบเลี้ยงเดี่ยว + ส้ม ขนุน ถั่วลันเตา ลักษณะการงอก
29.
ความชื้น: เปลือกหุ้มเล็ดอ่อนนุ่ม
ทาให้ออกซิเจนแพร่เข้า วัสดุที่ปฏิกิริยา hydroltsis : amylase : แป้ง moltoseglucose , protease: proteinamino acid ลาเลียงสารจากการย่อยให้ต้นอ่อน ออกซิเจน : จาเป็นต่อการสลายสารอาหารระดับเซลล์ พืชน้า งอกได้แม้ O2 ต่า อุณหภูมิ : พืชเขตหนาวจะงอกที่ T ต่า บวบเหลี่ยมจะงอกที่ T ต่าสลับสูง แสง: พืชที่ต้องการแสงในการงอก : วัชพืช ยาสูบ ผักกาดหอม ปอ พืชที่ไม่ต้องการแสงในการงอก เช่น แตงกวา กระเจี๊ยบ ข้าวโพด ผักบุ้งจีน ปัจจัยที่มีผลต่อการงอกของเมล็ด : ปัจจัยภายนอก
30.
สภาพพักตัวของเมล็ด (seed
dormancy) เมล็ดพืชทั่วไปเมื่อได้รับสิ่งแวดล้อมที่ เหมาะสมสภาพพักตัวจะหมดไปทาให้เอ็มบริโอสามารถเจริญเติบโตได้ บางชนิดมีสภาพ พักตัวสั้นมาก เช่น ขนุน มะละกอ มะขามเทศ, บางชนิดไม่มีสภาพักตัวเลย เช่น โกงกาง , บางชนิดมีสภาพพักตัวนานมาก แต่เมล็ดพืชบางชนิดแม้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ เหมาะสมก็ยังอยู่ในสภาพพักตัว 1. เปลือกเมล็ด บางชนิดหนาและแข็งมากทาให้น้าไม่สามารถผ่านเข้าสู่ภายในเมล็ดได้ ในธรรมชาติจะมีการทาลายสภาพพักตัว เช่น ย่อยสลายโดยจุลินทรีย์ในดิน (มะม่วง, ปาล์ม), ผ่านระบบย่อยอาหารของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหรือนกแล้วถ่ายเป็นมูล (โพธิ์ ไทร ตะขบ), ถูกไฟเผา (หญ้า ไผ่บางชนิด ตะเคียน สัก) 2. เปลือกเมล็ดมีสารซึ่งไม่ยอมให้น้าซึมผ่าน เช่น ไข คิวทิน ลิกนิน ซูเบอริน แก้ไขโดย การแช่เมล็ดในน้า 3. เปลือกเมล็ดไม่ยอมให้แก๊สออกซิเจนผ่าน เช่น พืชวงศ์หญ้าบางชนิด แก้ไขโดยใช้วิธี กล เช่น ทุบทาให้เปลือกเมล็ดแตกออก ปัจจัยที่มีผลต่อการงอกของเมล็ด : ปัจจัยภายใน
31.
32.
Embryo: เมล็ดไม่สามารถงอกได้หากเอ็มบริโอเจริญไม่เต็มที่จะต้องรอเวลาช่วงหนึ่งเมล็ด จึงจะงอกได้
เช่น มะพร้าว วิธีแก้คือ ต้องทิ้งไว้ให้เอ็มบริโอเจริญเต็มที่อยู่ในผลเป็น ระยะเวลาหนึ่ง Endosperm เมล็ดพืชบางชนิดมีน้อยมาก เช่น กล้วยไม้ จึงทาให้ไม่มีอาหารเพียงพอ สาหรับเลี้ยงเอ็มบริโอระหว่างการงอก วิธีแก้คือ ในธรรมชาติพบว่ามีไมคอร์ไรซาบางชนิด เจริญร่วมกับเมล็ดเพื่อช่วยย่อยสลายสารอินทรีย์, นาไปเลี้ยงในอาหารเพาะเลี้ยงและใส่สาร กระตุ้นการงอก สารเคมี สารเคมีบางชนิดจะยับยั้งการงอกของเมล็ด เช่น กรดแอบไซซิกที่มีสมบัติยับยั้ง การทางานของเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการงอกเคลือบอยู่ วิธีแก้ไขคือ ฝนที่ตกหรือนาเมล็ด มาล้างน้า, ใช้สารเร่งการงอก เช่น gibberellin; GA, ตัดใบเลี้ยงของเอมบริโอ, ฤดูหนาว หรืออากาศเย็นทาให้กรดแอบไซซิกลดง GA หรือ cytokinin ที่ส่งเสริมการงอกของเมล็ด เพิ่มขึ้น
33.
การตรวจสอบคุณภาพของเมล็ดพันธุ์มีหลายประการ เช่น
ความสามารถในการงอก หรือความมีชีวิต, ความแข็งแรง, ความบริสุทธิ์, ความชื้น ฯลฯ การวัดดัชนีการงอกของเมล็ดพันธุ์ ใช้หลักการว่า เมล็ดใดที่มีความแข็งแรงมาก ย่อมจะงอกได้เร็วกว่า นับจานวนเมล็ดงอกทุกวันแล้วบันทึกจนกว่าจะไม่มีเมล็ดงอกเพิ่มอีก เปรียบเทียบกับพืชชนิดเดียวกัน แต่จากหลายแหล่ง (จานวนเมล็ดเท่ากัน) การตรวจสอบคุณภาพของเมล็ดพันธุ์
34.
1.ดัชนีการงอกของถั่วเหลืองในแหล่ง A
B และ Cเป็นเท่าใดตามลาดับ 2.ถ้านักเรียนเป็นเกษตรกรไม่ควรเลือกเมล็ดพันธุ์จากแหล่งใดมาปลูก เพราะเหตุใด ตารางการงอกของต้นกล้าถั่วเหลืองจาก 3 แหล่ง
35.
36.
วัฏจักรชีวิตของเฟิร์น
37.
วัฏจักรชีวิตของมอส
Download now