SlideShare a Scribd company logo
สติสติ
สัมปชัญญะสัมปชัญญะ
3.3. หิริหิริ3.3. หิริหิริ
4.4. โอตตัปปะโอตตัปปะ4.4. โอตตัปปะโอตตัปปะ
5.5.ขันติขันติ5.5.ขันติขันติ
6.6.โสรัจจะโสรัจจะ6.6.โสรัจจะโสรัจจะ
1.สติ1.สติ
2.2.สัมปชัญญะสัมปชัญญะ
7.บุพพการี7.บุพพการี
8. กตัญญูกตเวที8. กตัญญูกตเวที
ความละอายแก่ใ
ความระลึกได้
ความรู้ตัว
การตอบแทนคุณ
ความเกรงกลัวบา
ผู้ทำาอุปการะ
ความอดทน
ความสงบเสงี่ยม
ธรรมมีอุปการะธรรมมีอุปการะ
๒ อย่าง๒ อย่าง๑. สติ แปลว่า ความ
ระลึกได้
* ระลึกอย่างไร จึง
เรียกว่า สติ
๑. ความระลึกเป็นลักษณะ ระลึก
เรื่อง อดีต-ปัจจุบัน-อนาคต
ม่ลืมเลือนเป็นกิจ ไม่ลืมเรื่อง อดีต-ปัจจุบัน
คลุมเป็นเครื่องปรากฏ ได้แก่ควบคุม การทำา-ค
๑.สติ ๑.สัมปชัญญ
. สัมปชัญญะ แปลว่าความ
รู้ตัว
รู้ตัวอย่างไร
๑. มีความไม่ฟั่นเฟือนเป็นลักษณะ
คือ การรู้ตัวทุกอิริยาบถตรองเป็นกิจ คือการพิจารณาเห็นคุณ ประโยชน์
ฟ้นเป็นเครื่องปรากฏ คือ ละสิ่งที่เป็นโทษ ประพฤติสิ่งที่
นั้น สัมปชัญญะ ทำาหน้าที่ ขณะทำา ขณะพูด ขณะ
งได้ชื่อว่ามีอุปการะมากเพราะเป็นอุปการธรรมอุดหนุนให้ส
วิธีฝึกให้มีสติ - สัมปชัญญะ
พูดจะคิดอะไร ให้ใคร่ควรเสียก่อน
ใดให้เอาใจจดจ่อต่อสิ่งนั้น อย่าทำาอะไร ๆ หลายอย่างในเว
ะมาทในการงานทั้งปวง
ากของมึนเมาและสิ่งเสพติดให้โทษ
ผลดีของการมีสติผลดีของการมีสติ -- สัมปชัญญะสัมปชัญญะ
4.4. ทำาให้เกิดผลดีในการทำา การพูด การคิดทำาให้เกิดผลดีในการทำา การพูด การคิด
 5.5.ทำาให้เป็นคนที่มีระเบียบวินัย มารยาททำาให้เป็นคนที่มีระเบียบวินัย มารยาท
เรียบร้อยเรียบร้อย
 6.6. ทำาให้เป็นที่รักใคร่นับถือของผู้อื่น และมีทำาให้เป็นที่รักใคร่นับถือของผู้อื่น และมี
ความเจริญก้าวหน้าความเจริญก้าวหน้า
 7.7. ทำาให้สังคมเป้นอยู่อย่างสันติสุขทำาให้สังคมเป้นอยู่อย่างสันติสุข
คุมรักษาสภาพจิตให้อยู่ในสภาพที่ต้องการคุมรักษาสภาพจิตให้อยู่ในสภาพที่ต้องการ
ให้ร่างกายและจิตใจเป็นของตัวเองให้ร่างกายและจิตใจเป็นของตัวเอง
ห้ไม่เป็นคนเผอเรอ ทำาอะไรก็ไม่ผิดพลาดห้ไม่เป็นคนเผอเรอ ทำาอะไรก็ไม่ผิดพลาด
๑๑..
หิริหิริ
๑๑..
หิริหิริ
๒๒.. โอตตัปปะโอตตัปปะ๒๒.. โอตตัปปะโอตตัปปะ
- มีความรังเกียจขยะแขยงบาปมีกาย
ทุจริตเป็นต้นเป็นลักษณะ
มีความเคารพยำาเกรงเป็นลักษณะ
เคารพยำาเกรง ๔ อย่าง
- – –เคารพ ชาติ ครูอาจารย์ ทรัพย์ -
- มีความรังเกียจขยะแขยงบาปมีกาย
ทุจริตเป็นต้นเป็นลักษณะ
มีความเคารพยำาเกรงเป็นลักษณะ
เคารพยำาเกรง ๔ อย่าง
- – –เคารพ ชาติ ครูอาจารย์ ทรัพย์ -
ริ แปลว่าความละอายแก่ใจ* ละอายแก่ใจในเรื่องอะไรบ้าง* ละอายแก่ใจในเรื่องอะไรบ้าง
หิ
ริ
หิ
ริ
ตตัปปะ แปลว่าแปลว่าความเกรงกลัวความเกรงกลัว*เกรงกลัวอะไรบ้าง*
ป็นผู้กลัวโทษและเห็นแจ้งซึ่งภัยเป็นลักษณะ โดยเห
ลัวตนเองไม่สบายใจ๒. กลัวคนอื่นติเตียน ๓. กลัวถูก
ลงโทษ
๔. กลัวตก
นรก
หิริและโอตตัปปะ เป็นธรรมคุ้มครอง
โลกให้อยู่อย่างสันติสุขได้
เพราะผู้มี หิริและโอตตัปปะปะ ย่อม
ขยะแขยงต่อการทำาความชั่ว และเกรง
๑.ขัน
ติ
๒.
โสรัจจะความหมาย
ความอดทน๑.ขันติ
แปลว่า
เป็นลักษณะของผู้มีนำ้าใจเข้ม
แข็ง หนักแน่น เป็นคุณสมบัติ
ของผู้ปกครอง และเป็นมงคล
เหตุแห่ง
สรัจจะ แปลว่า ความเสงี่ยม
ได้แก่การรู้จักทำาจิตใจให้แช่ม
ชื่นเบิกบาน มีกายวาจา
สงบเสงี่ยมเรียบร้อย คือมี
อาการปกติเยือกเย็น
ภายใน ไม่แสดงอาการขึ้นลง
1.บุพ
พการี
2. กตัญญู
กตเวที
ุพพการี แปลว่า บุคคลผู้ทำาอุปการะก
กตัญญูกตเวที แปลว่า
ลผู้รู้อุปการะที่ท่านทำาแล้วและตอบ
ได้แก่ บุคคลผู้
มีอัธยาศัยเผื่อ
แผ่ มีพรหม
วิหารประจำาใจ
คิดแต่จะให้แต่
ไม่คิดจะเอา สิ่ง
ใดเพื่อเป็นผล
ตอบแทนจาก
เรา
ตัวอย่าง บุพพการี
พระมหากษัตริย์
พ่อ แม่
ครูอาจารย์
ทหารตำารวจ
เรารู้คุณ
แล้วเราจะ
ตอบแทน
ยังไงจึงจะ
ได้ชื่อว่า
*บอกๆๆหน่อยสิ
บุคคลหาได้ยาก ๒ อย่างบุคคลหาได้ยาก ๒ อย่างบุพพการี แปลว่า บุคคลผู้ทำาอุปการะก่อน
กตัญญูกตเวที แปลว่า บุคคลผู้รู้อุปการะที่ท่านทำาแล้วและ
ตอบแทน
บุพพการี ได้แก่ บุคคลผู้มีอัธยาศัยเผื่อแผ่ มีพรหมวิหาร
ประจำาใจ คิดแต่จะ ให้แต่ไม่คิดจะเอา ท่านกำาหนดว่ามี ๔
ประเภท
๑ มารดาบิดา เป็นบุพพการีของบุตรธิดา เพราะเป็นผู้ให้
กำาเนิด ให้การเลี้ยงดู และให้การดูแลตามหลัก ๕ ประการ
๑. ห้ามมิให้ทำาความชั่ว
๒. สอนให้ตั้งอยู่ในความดี
๓. ให้ศึกษาศิลปวิทยา
๔. หาคู่ครองที่สมควรให้
๕. มอบสมบัติให้ในโอกาสอันคาร
 ๒. ครู อาจารย์ อุปัชฌาย์ เป็นบุพพการีของนักเรียน ศิษยานุศิษย์
เพราะเป็นผู้ให้การแนะนำาสั่งสอนให้มีความรู้ ความสามารถซึ่งมีหลัก
ที่ต้องปฏิบัติ ๕ ประการ
 ๑. แนะนำาดี ๒. ให้เรียนดี
 ๓. บอกศิลปให้สิ้นเชิง ๔. ยกย่องในที่ชุมชน
 ๕. ช่วยปกป้องและป้องกันศิษย์ ให้ปลอดในทุกสถาน
 ๓. พระมหากษัตริย์ เป็นบุพพการีของประชาราษฎร์ เพราะทรง
มีหน้าที่ดูแลบำาบัดทุกข์บำารุงสุขให้แก่ประชาราษฎร์ โดยทรงดำารงอยู่
ในทศพิธราชธรรม ๑๐ ประการ ได้แก่ ๑. ทาน ๒. ศีล ๓. บริจาค
 ๔. ความซื่อตรง ๕. ความอ่อนโยน ๖. คอยกำาจัดคนชั่ว ๗.
ความไม่โกรธ
 ๘. การไม่เบียดเบียน ๙. ความอดทน ๑๐. ความไม่ผิดทุกกรณีย์
รู้มากแต่นิ่งเฉยหาใช่เลยว่าเป็นบัณฑิต
ความจริงนั้นไซร้ปฏิบัตินั้นยากหนักหนา
ปฏิบัติธรรมเพียงข้อนิด คือชีวิตที่ไม่ประมาท
เรียนธรรมะอาจดูว่าง่าย
ละนิดจิตแจ่มใส เรียนมากไป เดี๊ยวเปงแบบนี้ เฮ้อ..
 สามัญญลักษณ์ ๓ อย่าง
 ลักษณะที่เสมอกันแก่สังขารทั้งปวง เรียกว่า สามัญ
ญลักษณะ
 ๑. อนิจจตา ความเป็นของไม่เที่ยง
 ๒. ทุกขตา ความเป็นทุกข์
 ๓. อนัตตา ความเป็นของไม่ใช่ตัวตน
 อคติ ๔
 ๑. ลำาเอียงเพราะรักใคร่กัน เรียกว่า ฉันทาคติ
 ๑. ลำาเอียงเพราะไม่ชอบกัน เรียกว่า โทสาคติ
 ๑. ลำาเอียงเพราะความไม่รู้ เรียกว่า โมหาคติ
 ๑. ลำาเอียงเพราะกลัว เรียกว่า ภยาคติ
 ปธาน คือความเพียร ๔ อย่าง
 ๑. สังวรปธาน เพียรระวังไม่ให้บาปเกิดขึ้นในสันดาน
 ๒. ปหานปธาน เพียรละบาปเกิดขึ้นแล้ว
 ๓. ภาวนาปธาน เพียรให้กุศลเกิดขึ้นในสันดาน
 ๔. อนุรักขนาปธาน เพียรรักษากุศลที่เกิดขึ้นแล้วไม่ให้เส
 อิทธิบาท คือคุณเครื่องให้สำาเร็จความประสงค์ ๔ อย่าง
 ๑. ฉันทะ พอใจรักใคร่ในสิ่งนั้น
 ๒. วิริยะ เพียรประกอบสิ่งนั้น
 ๓. จิตตะ เอาใจใส่ฝักใฝ่ในสิ่งนั้นไม่วางธุระ
 ๔. วิมังสา หมั่นตริตรองพิจารณาเหตุผลในสิ่งนั้น


 พรหมวิหาร ๔
 ๑. เมตตา ความรักใคร่ ปรารถนาจะให้เป็นส
 ๒. กรุณา ความสงสาร คิดจะช่วยให้พ้นทุกข
 ๓. มุทิตา ความพลอยยินดี เมื่อผู้อื่นได้ดี
 ๔. อุเบกขา ความวางเฉย ไม่ดีใจไม่เสียใจเมื่อ
อื่นถึงความวิบัติ
 สติปัฏฐาน ๔
 ๑. กายานุปํสสนา
 ๒. เวทนานุปํสสนา
 ๓. จิตตานุปํสสนา
 ๔. ธัมมานุปํสสนา
 อริยสัจ ๔
 ๑. ทุกข์
 ๒. สมุทัย คือ เหตุให้เกิดทุกข์
 ๓. นิโรธ คือ ความดับทุกข์
 ๔. มรรค คือ ข้อปฏิบัติใหัถึงความดับทุกข์
 อนันตริยกรรม ๕
 ๑. มาตุฆาต ฆ่ามารดา
 ๒. ปิตุฆาต ฆ่าบิดา
 ๓. อรหันตฆาต ฆ่าพระอรหันต์
 ๔. สังฆเภท ยังสงฆ์ให้แตกจากกัน
 ๕. โลหิตุปบาท ทำาร้ายพระพุทธเจ้าพระโลหิตให้ห้อขึ้น
 พละ คือ ธรรมเป็นกำาลัง ๕ อย่าง
 ๑. สัทธา ความเชื่อ
 ๒. วิริยะ ความเพียร
 ๓. สติ ความระลึกได้
 ๔. สมาธิ ความตั้งใจมั่น
 ๕. ปัญญา ความรอบรู้
 นิวรณ์ คือ ธรรมกั้นจิตใจไม่ให้บรรลุความดี มี ๕ อย่าง
 ๑. กามฉันทะ
 ๒. พยาบาท
 ๓. ถีนมิทธะ
 ๔. อุทธัจจกุกกุจจะ
 ๕. วิจิกิจฉา

 โลกธรรม ๘
 ๑. มีลาภ ๒. เสื่อมลาภ
 ๓. มียศ ๔. เสื่อมยศ
 ๕. นินทา ๖. สรรเสริญ
 ๗. สุข ๘. ทุกข์
 กุศลกรรมบท ๑๐
 กายกรรม ๓ ได้แก่
 ๑. ไม่ฆ่าสัตว์
 ๒. ไม่ลักขโมย
 ๓. ไม่ประพฤติผิดในกาม
 วจีกรรม ๔ ได้แก่
 ๑. ไม่พูดเท็จ
 ๒. ไม่พูดคำาหยาบ
 ๓. ไม่พูดส่อเสียด
 ๔. ไม่พูดเพ้อเจ้อ
 มโนกรรม ๓ ได้แก่
 ๑. ไม่โลภอยากได้
 ๒. ไม่ปองร้าย
 ๓. เห็นชอบตามทำานองคลองธรรม


More Related Content

What's hot

บทที่ 7 สมถกัมมัฏฐาน
บทที่ 7 สมถกัมมัฏฐานบทที่ 7 สมถกัมมัฏฐาน
บทที่ 7 สมถกัมมัฏฐาน
Onpa Akaradech
 
ปริเฉทที่ 3
ปริเฉทที่ 3ปริเฉทที่ 3
ปริเฉทที่ 3
Onpa Akaradech
 
บทที่ 1 นิพพิทา
บทที่ 1 นิพพิทาบทที่ 1 นิพพิทา
บทที่ 1 นิพพิทา
Onpa Akaradech
 
บทเรียนพระพุทธศาสนา ป.๕
บทเรียนพระพุทธศาสนา ป.๕บทเรียนพระพุทธศาสนา ป.๕
บทเรียนพระพุทธศาสนา ป.๕
Napakan Srionlar
 
หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา
หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา
หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา
primpatcha
 
บทที่ 2 วิราคะ
บทที่ 2 วิราคะบทที่ 2 วิราคะ
บทที่ 2 วิราคะ
Onpa Akaradech
 
บทที่ 6 นิพพาน
บทที่ 6 นิพพานบทที่ 6 นิพพาน
บทที่ 6 นิพพาน
Onpa Akaradech
 
ธรรมภาคปฏิบัติ บทที่ ๓ การเจริญวิปัสสนากรรมฐานตามแนวสติปัฏฐาน ๔
ธรรมภาคปฏิบัติ บทที่ ๓ การเจริญวิปัสสนากรรมฐานตามแนวสติปัฏฐาน ๔ธรรมภาคปฏิบัติ บทที่ ๓ การเจริญวิปัสสนากรรมฐานตามแนวสติปัฏฐาน ๔
ธรรมภาคปฏิบัติ บทที่ ๓ การเจริญวิปัสสนากรรมฐานตามแนวสติปัฏฐาน ๔
Padvee Academy
 

What's hot (20)

บทที่ 7 สมถกัมมัฏฐาน
บทที่ 7 สมถกัมมัฏฐานบทที่ 7 สมถกัมมัฏฐาน
บทที่ 7 สมถกัมมัฏฐาน
 
อริยสัจ 4
อริยสัจ 4อริยสัจ 4
อริยสัจ 4
 
ปริเฉทที่ 3
ปริเฉทที่ 3ปริเฉทที่ 3
ปริเฉทที่ 3
 
อริยสัจ 4
อริยสัจ 4อริยสัจ 4
อริยสัจ 4
 
บทที่ 1 นิพพิทา
บทที่ 1 นิพพิทาบทที่ 1 นิพพิทา
บทที่ 1 นิพพิทา
 
บทเรียนพระพุทธศาสนา ป.๕
บทเรียนพระพุทธศาสนา ป.๕บทเรียนพระพุทธศาสนา ป.๕
บทเรียนพระพุทธศาสนา ป.๕
 
กฏแห่งกรรม
กฏแห่งกรรมกฏแห่งกรรม
กฏแห่งกรรม
 
หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา
หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา
หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา
 
ปฏิจจสมุปบาท
ปฏิจจสมุปบาท ปฏิจจสมุปบาท
ปฏิจจสมุปบาท
 
บทที่ 2 วิราคะ
บทที่ 2 วิราคะบทที่ 2 วิราคะ
บทที่ 2 วิราคะ
 
074หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา
074หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา074หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา
074หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา
 
อริยสัจ ๔
 อริยสัจ ๔ อริยสัจ ๔
อริยสัจ ๔
 
สังสารวัฏ การเวียนว่ายตายเกิด
สังสารวัฏ การเวียนว่ายตายเกิดสังสารวัฏ การเวียนว่ายตายเกิด
สังสารวัฏ การเวียนว่ายตายเกิด
 
มงคลชีวิต
มงคลชีวิตมงคลชีวิต
มงคลชีวิต
 
บทที่ 6 นิพพาน
บทที่ 6 นิพพานบทที่ 6 นิพพาน
บทที่ 6 นิพพาน
 
นวโกวาท
นวโกวาทนวโกวาท
นวโกวาท
 
วิเคราะห์ปฏิจจสมุปบาท
วิเคราะห์ปฏิจจสมุปบาทวิเคราะห์ปฏิจจสมุปบาท
วิเคราะห์ปฏิจจสมุปบาท
 
ธรรมภาคปฏิบัติ บทที่ ๔ ลำดับขั้นตอนการปฏิบัิติวิปัสสนากรรมฐาน
ธรรมภาคปฏิบัติ บทที่ ๔ ลำดับขั้นตอนการปฏิบัิติวิปัสสนากรรมฐานธรรมภาคปฏิบัติ บทที่ ๔ ลำดับขั้นตอนการปฏิบัิติวิปัสสนากรรมฐาน
ธรรมภาคปฏิบัติ บทที่ ๔ ลำดับขั้นตอนการปฏิบัิติวิปัสสนากรรมฐาน
 
ธรรมที่จำเป็น สู่การพ้นทุกข์ 20170616
ธรรมที่จำเป็น สู่การพ้นทุกข์ 20170616ธรรมที่จำเป็น สู่การพ้นทุกข์ 20170616
ธรรมที่จำเป็น สู่การพ้นทุกข์ 20170616
 
ธรรมภาคปฏิบัติ บทที่ ๓ การเจริญวิปัสสนากรรมฐานตามแนวสติปัฏฐาน ๔
ธรรมภาคปฏิบัติ บทที่ ๓ การเจริญวิปัสสนากรรมฐานตามแนวสติปัฏฐาน ๔ธรรมภาคปฏิบัติ บทที่ ๓ การเจริญวิปัสสนากรรมฐานตามแนวสติปัฏฐาน ๔
ธรรมภาคปฏิบัติ บทที่ ๓ การเจริญวิปัสสนากรรมฐานตามแนวสติปัฏฐาน ๔
 

Similar to 073หลักธรรมพื้นฐาน

ธรรมะเสวนา พระพุทธและพระธรรม
ธรรมะเสวนา พระพุทธและพระธรรมธรรมะเสวนา พระพุทธและพระธรรม
ธรรมะเสวนา พระพุทธและพระธรรม
Taweedham Dhamtawee
 
พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์
พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์
พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์
Nhui Srr
 
ศาสนาเปรียบเทียบ 1
ศาสนาเปรียบเทียบ 1ศาสนาเปรียบเทียบ 1
ศาสนาเปรียบเทียบ 1
thnaporn999
 
ชุดส่งเสริมความรู้ด้วยตนเองเรื่องอารมณ์และความเครียด
ชุดส่งเสริมความรู้ด้วยตนเองเรื่องอารมณ์และความเครียดชุดส่งเสริมความรู้ด้วยตนเองเรื่องอารมณ์และความเครียด
ชุดส่งเสริมความรู้ด้วยตนเองเรื่องอารมณ์และความเครียด
tassanee chaicharoen
 
บทที่3
บทที่3บทที่3
บทที่3
Netsai Tnz
 
เรียนรู้วิธีออกจากทุกข์
เรียนรู้วิธีออกจากทุกข์เรียนรู้วิธีออกจากทุกข์
เรียนรู้วิธีออกจากทุกข์
Panda Jing
 
บทที่ 4 วิสุทธิ
บทที่ 4 วิสุทธิบทที่ 4 วิสุทธิ
บทที่ 4 วิสุทธิ
Onpa Akaradech
 
พระไตรปิฏกฉบับหลวงเล่มที่๔๒
พระไตรปิฏกฉบับหลวงเล่มที่๔๒พระไตรปิฏกฉบับหลวงเล่มที่๔๒
พระไตรปิฏกฉบับหลวงเล่มที่๔๒
Rose Banioki
 

Similar to 073หลักธรรมพื้นฐาน (20)

รวมหลักธรรมสำหรับท่องจำแบบย่อ ธศ ตรี
รวมหลักธรรมสำหรับท่องจำแบบย่อ ธศ ตรีรวมหลักธรรมสำหรับท่องจำแบบย่อ ธศ ตรี
รวมหลักธรรมสำหรับท่องจำแบบย่อ ธศ ตรี
 
หลักธรรม ของ นักบริหาร
หลักธรรม ของ นักบริหารหลักธรรม ของ นักบริหาร
หลักธรรม ของ นักบริหาร
 
ธรรมะเสวนา พระพุทธและพระธรรม
ธรรมะเสวนา พระพุทธและพระธรรมธรรมะเสวนา พระพุทธและพระธรรม
ธรรมะเสวนา พระพุทธและพระธรรม
 
Sp1 sp5
Sp1 sp5Sp1 sp5
Sp1 sp5
 
ปัญหาเฉลย-นักธรรมชั้นตรี (ปี 2549 - 2564).pdf
ปัญหาเฉลย-นักธรรมชั้นตรี (ปี 2549 - 2564).pdfปัญหาเฉลย-นักธรรมชั้นตรี (ปี 2549 - 2564).pdf
ปัญหาเฉลย-นักธรรมชั้นตรี (ปี 2549 - 2564).pdf
 
พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์
พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์
พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์
 
สาระสำคัญของศาสนา
สาระสำคัญของศาสนา สาระสำคัญของศาสนา
สาระสำคัญของศาสนา
 
04 develop2
04 develop204 develop2
04 develop2
 
ทำอย่างไรชีวิตจึงจะมีความสุข
ทำอย่างไรชีวิตจึงจะมีความสุขทำอย่างไรชีวิตจึงจะมีความสุข
ทำอย่างไรชีวิตจึงจะมีความสุข
 
ศาสนาเปรียบเทียบ 1
ศาสนาเปรียบเทียบ 1ศาสนาเปรียบเทียบ 1
ศาสนาเปรียบเทียบ 1
 
คุณธรรม
คุณธรรมคุณธรรม
คุณธรรม
 
ชุดส่งเสริมความรู้ด้วยตนเองเรื่องอารมณ์และความเครียด
ชุดส่งเสริมความรู้ด้วยตนเองเรื่องอารมณ์และความเครียดชุดส่งเสริมความรู้ด้วยตนเองเรื่องอารมณ์และความเครียด
ชุดส่งเสริมความรู้ด้วยตนเองเรื่องอารมณ์และความเครียด
 
บทที่3
บทที่3บทที่3
บทที่3
 
เรียนรู้วิธีออกจากทุกข์
เรียนรู้วิธีออกจากทุกข์เรียนรู้วิธีออกจากทุกข์
เรียนรู้วิธีออกจากทุกข์
 
คุณธรรมจริยธรรมผู้บริหาร 2
คุณธรรมจริยธรรมผู้บริหาร 2คุณธรรมจริยธรรมผู้บริหาร 2
คุณธรรมจริยธรรมผู้บริหาร 2
 
บทที่ 4 วิสุทธิ
บทที่ 4 วิสุทธิบทที่ 4 วิสุทธิ
บทที่ 4 วิสุทธิ
 
Carita 6 จริต 6 intrinsic nature of a person
Carita 6 จริต 6   intrinsic nature of a personCarita 6 จริต 6   intrinsic nature of a person
Carita 6 จริต 6 intrinsic nature of a person
 
พระไตรปิฏกฉบับหลวงเล่มที่๔๒
พระไตรปิฏกฉบับหลวงเล่มที่๔๒พระไตรปิฏกฉบับหลวงเล่มที่๔๒
พระไตรปิฏกฉบับหลวงเล่มที่๔๒
 
ปรัชญาเบื้องต้น
ปรัชญาเบื้องต้นปรัชญาเบื้องต้น
ปรัชญาเบื้องต้น
 
สมุดประจำตัวสำหรับผู้เขาค่ายคุณธรรม
สมุดประจำตัวสำหรับผู้เขาค่ายคุณธรรมสมุดประจำตัวสำหรับผู้เขาค่ายคุณธรรม
สมุดประจำตัวสำหรับผู้เขาค่ายคุณธรรม
 

More from niralai

More from niralai (20)

334กุศลกรรมบถ10
334กุศลกรรมบถ10334กุศลกรรมบถ10
334กุศลกรรมบถ10
 
332วันอาสาฬหบูชา
332วันอาสาฬหบูชา332วันอาสาฬหบูชา
332วันอาสาฬหบูชา
 
331วันเข้าพรรษา
331วันเข้าพรรษา331วันเข้าพรรษา
331วันเข้าพรรษา
 
338มารยาทไทย
338มารยาทไทย338มารยาทไทย
338มารยาทไทย
 
337ประวัติพระพุทธศาสนา
337ประวัติพระพุทธศาสนา337ประวัติพระพุทธศาสนา
337ประวัติพระพุทธศาสนา
 
335เข้าใจในมิตร(มิตรแท้ มิตรเทียม)
335เข้าใจในมิตร(มิตรแท้ มิตรเทียม)335เข้าใจในมิตร(มิตรแท้ มิตรเทียม)
335เข้าใจในมิตร(มิตรแท้ มิตรเทียม)
 
336เบญจศีล
336เบญจศีล336เบญจศีล
336เบญจศีล
 
340วัฒนธรรมชาวพุทธ
340วัฒนธรรมชาวพุทธ340วัฒนธรรมชาวพุทธ
340วัฒนธรรมชาวพุทธ
 
339ระวังอย่าให้อาย!
339ระวังอย่าให้อาย!339ระวังอย่าให้อาย!
339ระวังอย่าให้อาย!
 
345สถานการณ์วัยรุ่นไทย
345สถานการณ์วัยรุ่นไทย345สถานการณ์วัยรุ่นไทย
345สถานการณ์วัยรุ่นไทย
 
344สถานการณ์เด็กและเยาวชน ดร.อมรวิศ
344สถานการณ์เด็กและเยาวชน ดร.อมรวิศ344สถานการณ์เด็กและเยาวชน ดร.อมรวิศ
344สถานการณ์เด็กและเยาวชน ดร.อมรวิศ
 
343ศิลปการพูด
343ศิลปการพูด343ศิลปการพูด
343ศิลปการพูด
 
342วิธีสร้างสุข5
342วิธีสร้างสุข5342วิธีสร้างสุข5
342วิธีสร้างสุข5
 
341วันออกพรรษา
341วันออกพรรษา341วันออกพรรษา
341วันออกพรรษา
 
346สังคมศึกษา ป.3 เรื่องวันเข้าพรรษา
346สังคมศึกษา ป.3 เรื่องวันเข้าพรรษา346สังคมศึกษา ป.3 เรื่องวันเข้าพรรษา
346สังคมศึกษา ป.3 เรื่องวันเข้าพรรษา
 
347สังคมศึกษา ป.5สมบัติของผู้ดี
347สังคมศึกษา ป.5สมบัติของผู้ดี347สังคมศึกษา ป.5สมบัติของผู้ดี
347สังคมศึกษา ป.5สมบัติของผู้ดี
 
348สังคมศึกษา วันสำคัญทางศาสนาพุทธ12
348สังคมศึกษา วันสำคัญทางศาสนาพุทธ12348สังคมศึกษา วันสำคัญทางศาสนาพุทธ12
348สังคมศึกษา วันสำคัญทางศาสนาพุทธ12
 
350สารานิยธรรม6
350สารานิยธรรม6350สารานิยธรรม6
350สารานิยธรรม6
 
349สังคหวัตถุ4
349สังคหวัตถุ4349สังคหวัตถุ4
349สังคหวัตถุ4
 
351หน้าที่ชาวพุทธ3
351หน้าที่ชาวพุทธ3351หน้าที่ชาวพุทธ3
351หน้าที่ชาวพุทธ3
 

073หลักธรรมพื้นฐาน

  • 1.
  • 2. สติสติ สัมปชัญญะสัมปชัญญะ 3.3. หิริหิริ3.3. หิริหิริ 4.4. โอตตัปปะโอตตัปปะ4.4. โอตตัปปะโอตตัปปะ 5.5.ขันติขันติ5.5.ขันติขันติ 6.6.โสรัจจะโสรัจจะ6.6.โสรัจจะโสรัจจะ 1.สติ1.สติ 2.2.สัมปชัญญะสัมปชัญญะ 7.บุพพการี7.บุพพการี 8. กตัญญูกตเวที8. กตัญญูกตเวที ความละอายแก่ใ ความระลึกได้ ความรู้ตัว การตอบแทนคุณ ความเกรงกลัวบา ผู้ทำาอุปการะ ความอดทน ความสงบเสงี่ยม
  • 3. ธรรมมีอุปการะธรรมมีอุปการะ ๒ อย่าง๒ อย่าง๑. สติ แปลว่า ความ ระลึกได้ * ระลึกอย่างไร จึง เรียกว่า สติ ๑. ความระลึกเป็นลักษณะ ระลึก เรื่อง อดีต-ปัจจุบัน-อนาคต ม่ลืมเลือนเป็นกิจ ไม่ลืมเรื่อง อดีต-ปัจจุบัน คลุมเป็นเครื่องปรากฏ ได้แก่ควบคุม การทำา-ค ๑.สติ ๑.สัมปชัญญ
  • 4. . สัมปชัญญะ แปลว่าความ รู้ตัว รู้ตัวอย่างไร ๑. มีความไม่ฟั่นเฟือนเป็นลักษณะ คือ การรู้ตัวทุกอิริยาบถตรองเป็นกิจ คือการพิจารณาเห็นคุณ ประโยชน์ ฟ้นเป็นเครื่องปรากฏ คือ ละสิ่งที่เป็นโทษ ประพฤติสิ่งที่ นั้น สัมปชัญญะ ทำาหน้าที่ ขณะทำา ขณะพูด ขณะ งได้ชื่อว่ามีอุปการะมากเพราะเป็นอุปการธรรมอุดหนุนให้ส
  • 5. วิธีฝึกให้มีสติ - สัมปชัญญะ พูดจะคิดอะไร ให้ใคร่ควรเสียก่อน ใดให้เอาใจจดจ่อต่อสิ่งนั้น อย่าทำาอะไร ๆ หลายอย่างในเว ะมาทในการงานทั้งปวง ากของมึนเมาและสิ่งเสพติดให้โทษ
  • 6. ผลดีของการมีสติผลดีของการมีสติ -- สัมปชัญญะสัมปชัญญะ 4.4. ทำาให้เกิดผลดีในการทำา การพูด การคิดทำาให้เกิดผลดีในการทำา การพูด การคิด  5.5.ทำาให้เป็นคนที่มีระเบียบวินัย มารยาททำาให้เป็นคนที่มีระเบียบวินัย มารยาท เรียบร้อยเรียบร้อย  6.6. ทำาให้เป็นที่รักใคร่นับถือของผู้อื่น และมีทำาให้เป็นที่รักใคร่นับถือของผู้อื่น และมี ความเจริญก้าวหน้าความเจริญก้าวหน้า  7.7. ทำาให้สังคมเป้นอยู่อย่างสันติสุขทำาให้สังคมเป้นอยู่อย่างสันติสุข คุมรักษาสภาพจิตให้อยู่ในสภาพที่ต้องการคุมรักษาสภาพจิตให้อยู่ในสภาพที่ต้องการ ให้ร่างกายและจิตใจเป็นของตัวเองให้ร่างกายและจิตใจเป็นของตัวเอง ห้ไม่เป็นคนเผอเรอ ทำาอะไรก็ไม่ผิดพลาดห้ไม่เป็นคนเผอเรอ ทำาอะไรก็ไม่ผิดพลาด
  • 7. ๑๑.. หิริหิริ ๑๑.. หิริหิริ ๒๒.. โอตตัปปะโอตตัปปะ๒๒.. โอตตัปปะโอตตัปปะ - มีความรังเกียจขยะแขยงบาปมีกาย ทุจริตเป็นต้นเป็นลักษณะ มีความเคารพยำาเกรงเป็นลักษณะ เคารพยำาเกรง ๔ อย่าง - – –เคารพ ชาติ ครูอาจารย์ ทรัพย์ - - มีความรังเกียจขยะแขยงบาปมีกาย ทุจริตเป็นต้นเป็นลักษณะ มีความเคารพยำาเกรงเป็นลักษณะ เคารพยำาเกรง ๔ อย่าง - – –เคารพ ชาติ ครูอาจารย์ ทรัพย์ - ริ แปลว่าความละอายแก่ใจ* ละอายแก่ใจในเรื่องอะไรบ้าง* ละอายแก่ใจในเรื่องอะไรบ้าง หิ ริ หิ ริ
  • 8. ตตัปปะ แปลว่าแปลว่าความเกรงกลัวความเกรงกลัว*เกรงกลัวอะไรบ้าง* ป็นผู้กลัวโทษและเห็นแจ้งซึ่งภัยเป็นลักษณะ โดยเห ลัวตนเองไม่สบายใจ๒. กลัวคนอื่นติเตียน ๓. กลัวถูก ลงโทษ ๔. กลัวตก นรก หิริและโอตตัปปะ เป็นธรรมคุ้มครอง โลกให้อยู่อย่างสันติสุขได้ เพราะผู้มี หิริและโอตตัปปะปะ ย่อม ขยะแขยงต่อการทำาความชั่ว และเกรง
  • 10. สรัจจะ แปลว่า ความเสงี่ยม ได้แก่การรู้จักทำาจิตใจให้แช่ม ชื่นเบิกบาน มีกายวาจา สงบเสงี่ยมเรียบร้อย คือมี อาการปกติเยือกเย็น ภายใน ไม่แสดงอาการขึ้นลง
  • 11. 1.บุพ พการี 2. กตัญญู กตเวที ุพพการี แปลว่า บุคคลผู้ทำาอุปการะก กตัญญูกตเวที แปลว่า ลผู้รู้อุปการะที่ท่านทำาแล้วและตอบ
  • 12. ได้แก่ บุคคลผู้ มีอัธยาศัยเผื่อ แผ่ มีพรหม วิหารประจำาใจ คิดแต่จะให้แต่ ไม่คิดจะเอา สิ่ง ใดเพื่อเป็นผล ตอบแทนจาก เรา ตัวอย่าง บุพพการี พระมหากษัตริย์ พ่อ แม่ ครูอาจารย์ ทหารตำารวจ เรารู้คุณ แล้วเราจะ ตอบแทน ยังไงจึงจะ ได้ชื่อว่า *บอกๆๆหน่อยสิ
  • 13. บุคคลหาได้ยาก ๒ อย่างบุคคลหาได้ยาก ๒ อย่างบุพพการี แปลว่า บุคคลผู้ทำาอุปการะก่อน กตัญญูกตเวที แปลว่า บุคคลผู้รู้อุปการะที่ท่านทำาแล้วและ ตอบแทน บุพพการี ได้แก่ บุคคลผู้มีอัธยาศัยเผื่อแผ่ มีพรหมวิหาร ประจำาใจ คิดแต่จะ ให้แต่ไม่คิดจะเอา ท่านกำาหนดว่ามี ๔ ประเภท ๑ มารดาบิดา เป็นบุพพการีของบุตรธิดา เพราะเป็นผู้ให้ กำาเนิด ให้การเลี้ยงดู และให้การดูแลตามหลัก ๕ ประการ ๑. ห้ามมิให้ทำาความชั่ว ๒. สอนให้ตั้งอยู่ในความดี ๓. ให้ศึกษาศิลปวิทยา ๔. หาคู่ครองที่สมควรให้ ๕. มอบสมบัติให้ในโอกาสอันคาร
  • 14.  ๒. ครู อาจารย์ อุปัชฌาย์ เป็นบุพพการีของนักเรียน ศิษยานุศิษย์ เพราะเป็นผู้ให้การแนะนำาสั่งสอนให้มีความรู้ ความสามารถซึ่งมีหลัก ที่ต้องปฏิบัติ ๕ ประการ  ๑. แนะนำาดี ๒. ให้เรียนดี  ๓. บอกศิลปให้สิ้นเชิง ๔. ยกย่องในที่ชุมชน  ๕. ช่วยปกป้องและป้องกันศิษย์ ให้ปลอดในทุกสถาน  ๓. พระมหากษัตริย์ เป็นบุพพการีของประชาราษฎร์ เพราะทรง มีหน้าที่ดูแลบำาบัดทุกข์บำารุงสุขให้แก่ประชาราษฎร์ โดยทรงดำารงอยู่ ในทศพิธราชธรรม ๑๐ ประการ ได้แก่ ๑. ทาน ๒. ศีล ๓. บริจาค  ๔. ความซื่อตรง ๕. ความอ่อนโยน ๖. คอยกำาจัดคนชั่ว ๗. ความไม่โกรธ  ๘. การไม่เบียดเบียน ๙. ความอดทน ๑๐. ความไม่ผิดทุกกรณีย์
  • 16.
  • 17.  สามัญญลักษณ์ ๓ อย่าง  ลักษณะที่เสมอกันแก่สังขารทั้งปวง เรียกว่า สามัญ ญลักษณะ  ๑. อนิจจตา ความเป็นของไม่เที่ยง  ๒. ทุกขตา ความเป็นทุกข์  ๓. อนัตตา ความเป็นของไม่ใช่ตัวตน  อคติ ๔  ๑. ลำาเอียงเพราะรักใคร่กัน เรียกว่า ฉันทาคติ  ๑. ลำาเอียงเพราะไม่ชอบกัน เรียกว่า โทสาคติ  ๑. ลำาเอียงเพราะความไม่รู้ เรียกว่า โมหาคติ  ๑. ลำาเอียงเพราะกลัว เรียกว่า ภยาคติ
  • 18.  ปธาน คือความเพียร ๔ อย่าง  ๑. สังวรปธาน เพียรระวังไม่ให้บาปเกิดขึ้นในสันดาน  ๒. ปหานปธาน เพียรละบาปเกิดขึ้นแล้ว  ๓. ภาวนาปธาน เพียรให้กุศลเกิดขึ้นในสันดาน  ๔. อนุรักขนาปธาน เพียรรักษากุศลที่เกิดขึ้นแล้วไม่ให้เส  อิทธิบาท คือคุณเครื่องให้สำาเร็จความประสงค์ ๔ อย่าง  ๑. ฉันทะ พอใจรักใคร่ในสิ่งนั้น  ๒. วิริยะ เพียรประกอบสิ่งนั้น  ๓. จิตตะ เอาใจใส่ฝักใฝ่ในสิ่งนั้นไม่วางธุระ  ๔. วิมังสา หมั่นตริตรองพิจารณาเหตุผลในสิ่งนั้น  
  • 19.  พรหมวิหาร ๔  ๑. เมตตา ความรักใคร่ ปรารถนาจะให้เป็นส  ๒. กรุณา ความสงสาร คิดจะช่วยให้พ้นทุกข  ๓. มุทิตา ความพลอยยินดี เมื่อผู้อื่นได้ดี  ๔. อุเบกขา ความวางเฉย ไม่ดีใจไม่เสียใจเมื่อ อื่นถึงความวิบัติ  สติปัฏฐาน ๔  ๑. กายานุปํสสนา  ๒. เวทนานุปํสสนา  ๓. จิตตานุปํสสนา  ๔. ธัมมานุปํสสนา
  • 20.  อริยสัจ ๔  ๑. ทุกข์  ๒. สมุทัย คือ เหตุให้เกิดทุกข์  ๓. นิโรธ คือ ความดับทุกข์  ๔. มรรค คือ ข้อปฏิบัติใหัถึงความดับทุกข์  อนันตริยกรรม ๕  ๑. มาตุฆาต ฆ่ามารดา  ๒. ปิตุฆาต ฆ่าบิดา  ๓. อรหันตฆาต ฆ่าพระอรหันต์  ๔. สังฆเภท ยังสงฆ์ให้แตกจากกัน  ๕. โลหิตุปบาท ทำาร้ายพระพุทธเจ้าพระโลหิตให้ห้อขึ้น
  • 21.  พละ คือ ธรรมเป็นกำาลัง ๕ อย่าง  ๑. สัทธา ความเชื่อ  ๒. วิริยะ ความเพียร  ๓. สติ ความระลึกได้  ๔. สมาธิ ความตั้งใจมั่น  ๕. ปัญญา ความรอบรู้  นิวรณ์ คือ ธรรมกั้นจิตใจไม่ให้บรรลุความดี มี ๕ อย่าง  ๑. กามฉันทะ  ๒. พยาบาท  ๓. ถีนมิทธะ  ๔. อุทธัจจกุกกุจจะ  ๕. วิจิกิจฉา 
  • 22.  โลกธรรม ๘  ๑. มีลาภ ๒. เสื่อมลาภ  ๓. มียศ ๔. เสื่อมยศ  ๕. นินทา ๖. สรรเสริญ  ๗. สุข ๘. ทุกข์  กุศลกรรมบท ๑๐  กายกรรม ๓ ได้แก่  ๑. ไม่ฆ่าสัตว์  ๒. ไม่ลักขโมย  ๓. ไม่ประพฤติผิดในกาม
  • 23.  วจีกรรม ๔ ได้แก่  ๑. ไม่พูดเท็จ  ๒. ไม่พูดคำาหยาบ  ๓. ไม่พูดส่อเสียด  ๔. ไม่พูดเพ้อเจ้อ  มโนกรรม ๓ ได้แก่  ๑. ไม่โลภอยากได้  ๒. ไม่ปองร้าย  ๓. เห็นชอบตามทำานองคลองธรรม 

Editor's Notes

  1. ระลึกอะไรบ้า
  2. 1. จะทำจะพูดจะคิดอะไร ให้ใคร่ควรเสียก่อน
  3. ละอายแก่ใจในเรื่องอะไรบ้าง
  4. เกรงกลัวอะไรบ้าง
  5. แปลว่า
  6. บอกๆๆๆๆหน่อยสิ
  7. เรียนวันละนิดจิตแจ่มใส เรียนมากไป เดี๊ยวเปงแบบนี้ เฮอ..