More Related Content
More from Aniwat Suyata (20)
001 persian
- 2. ANCIENT PERSIA
เมื่อประมาณ 1,000 ปีก่อนคริสตกาล ชนเผ่า
เปอร์เซีย ซึ่งเป็นกลุ่มชนที่ใช้ภาษาอินโด-ยุโรเปียน มีถิ่นฐานเดิม
อยู่บริเวณทางเหนือของทะเลดา ได้ก่อตัวและขยายอานาจ
ครอบครองอารยธรรมโบราณอื่นๆ และได้ก้าวขึ้นมามีบทบาท
เป็นศูนย์กลางของความเจริญรุ่งเรืองของโลกยุคโบราณ ภายใต้
การปกครองของพระเจ้าไซรัสมหาราช พระองค์ได้ดาเนิน
นโยบายขยายดินแดนของเปอร์เซียออกไปอย่างกว้างขวาง มี
อาณาจักรกว้างใหญ่ไพศาลกลายเป็นจุดศูนย์กลางของการ
เชื่อมโยงดินแดนทั้งเอเชียตะวันออก เอเชียกลาง อินเดีย อียิปต์
และดินแดนแถบเมดิเตอร์เรเนียน ในยุคนี้ได้มีพัฒนาการที่
ทันสมัยมากขึ้น มีการผลิตเงินเหรียญขึ้นใช้ นอกจากนั้นยังได้มี
การดัดแปลงตัวอักษรคูนิฟอร์มเป็นตัวอักษรของเปอร์เซีย
จัดระบบการปกครอง โดยแบ่งเป็นจังหวัด หรือมณฑล เรียกว่า
แซแทรปปี (Satrapy) นอกจากในด้านเศรษฐกิจที่เจริญรุ่งเรือง
แล้ว ชาวเปอร์เซียยังได้สร้างถนนใช้คมนาคมและถือว่าเป็นถนน
ที่ดีที่สุดในยุคโบราณ และนอกจากนั้นยังมีไปรษณีย์
ติดต่อสื่อสารทางราชการ จนทาให้เปอร์เซียกลายเป็นจักรพรรดิ
ใหญ่แห่งแรกหลังการล่มสลายของอาณาจักรยุคโบราณ
อารยธรรมเปอร์เซีย
พระเจ้าไซรัสมหาราช กษัตริย์แห่งเปอร์เซีย
- 4. ประติมากรรม - งานประติมากรรมที่สาคัญของ
เปอร์เซีย คือ การแกะสลักหัวเสาเป็นรูปสัตว์ต่างๆ มีความ
สวยงามและประณีตนอกจากนั้นยังรู้จักนาทองแดงและโลหะ
ต่างๆ มาประดับแต่งอย่างวิจิตรพิสดาร
ประติมากรรมที่นิยมคือแบบนูนต่าโดยเฉพาะการ
แกะสลักฐานบันไดกาแพง หรือฝาผนัง เรื่องราวส่วนใหญ่เป็น
ภาพกษัตริย์ ขุนนาง และข้าทาสบริพารหรือพิธีกรรมต่างๆ
ผลงานที่โดดเด่นมักจะเป็นผลงานประเภทประณีตศิลป์ ซึ่งจะนา
สัตว์มาดัดแปลงประยุกต์เป็นสิ่งของเครื่องใช้
จิตรกรรม - ผลงานด้านจิตรกรรมของเปอร์เซียมี
ไม่มากนัก ส่วนมากจะเป็นการนาไปประยุกต์ ใช้กับการตกแต่ง
ผนังภายในงานสถาปัตยกรรม รูปแบบจะมีลักษณะคล้ายกับแอส
สิเรีย ศิลปกรรมเปอร์เซียเริ่มเสื่อมลงเมื่อพวกมุสลิมหรืออาหรับ
เข้ามามีอานาจ ลักษณะงานศิลปะจึงได้เปลี่ยนแปลงไป
งานศิลปะของเปอร์เซีย
การแกะสลักหัวเสาเป็นรูปสัตว์ต่างๆ
ANCIENT PERSIA
- 6. อาคารเก่าแก่ในเขตทะเลทรายของอิหร่านมักมีหอก่อด้วยอิฐแผนผังสี่เหลี่ยมทรงสูงตั้งตระหง่านอยู่เรียกกันว่า “หอดัก
ลม” บนสุดของหอมีช่องตามแนวตั้งเรียงกัน ลักษณะคล้ายรังผึ้งในเครื่องปรับอากาศสมัยใหม่ ทาหน้าที่รับลมจากภายนอกเข้าสู่ช่องเปิด
ไหลเวียนไปตามส่วนต่างๆ ภายในอาคาร หอดักลมจะช่วยระบายลมร้อนออกไป ทาให้อากาศภายในถ่ายเทและเย็นสบายตลอดทั้งวัน
ในดินแดนทะเลทรายของเปอร์เซียอาคารสิ่งก่อสร้างส่วนใหญ่นิยมสร้างจากโคลน โดยนาดินผสมน้าพอกพูนก่อเป็นตัว
อาคาร มีใบปาล์มหรืออินทผลัม หญ้า ฟาง เป็นตัวประสานให้เนื้อดินเกาะเป็นผนังหลังคาและส่วนต่างๆ หรือก่อด้วยอิฐดิบที่ทาจาก
โคลนตากแห้ง อาคารที่สร้างจากโคลนและอิฐดิบจะช่วยให้อากาศเย็นสบายยามกลางวันและอบอุ่นในเวลากลางคืน ผนังโคลนเป็น
วิธีการพื้นฐานที่ใช้สร้างบ้านเรือนที่อยู่อาศัยไปจนถึงอาคารมัสยิดทางศาสนา ตลาด และเมือง
การผสานองค์ประกอบของธาตุทั้งสี่อย่างลงตัวในสถาปัตยกรรมเปอร์เซียสะท้อนถึงภูมิปัญญาและความเคารพ
ธรรมชาติของผู้คนยุคก่อนทาให้เกิดสมดุลในการใช้ชีวิตที่ไม่ทาลายสภาพแวดล้อม
ภูมิปัญญาและเทคโนโลยีของชาวเปอร์เซีย
โดมอาคารและหอดักลมในอาคารสถาปัตยกรรมเปอร์เซีย อาคารสิ่งก่อสร้างส่วนใหญ่นิยมสร้างจากโคลน
ANCIENT PERSIA
- 7. ชาวเปอร์เซียได้รับอิทธิจากคาสอนของศาสนาโวโรอัสเอตร์ว่า โลกประกอบด้วยสิ่งสองด้าน คือ ดีและชั่ว เทพเจ้าอหุระ
มาสดา คือ ตัวแทนของความดี และเทพอาห์ริมัน (Ahriman) คือตัวแทนของความชั่วร้าย ต่อสู้กันในที่สุดฝ่ายดีจะเป็นฝ่ายมีชัยเหนือ
ฝ่ายชั่ว ชะตากรรมของมนุษย์จึงขึ้นอยู่กับการเลือกว่าจะทาดีหรือชั่ว แนวความคิดนี้มีอิทธิพลต่อศาสนายูดายหรือยิวและคริสต์
ศาสนา รวมทั้งความเชื่อในเรื่องเทวดา นางฟ้ า วันสิ้นโลก การตัดสิ้นครั้งสุดท้ายและการไปสู่สวรรค์และนรกในเวลาต่อมา และ
ประมาณคริสต์ศตวรรษที่ 7 มุสลิมได้แผ่ขยายอานาจเข้ามาครอบครองดินแดนเปอร์เซีย อาณาจักรแห่งนี้จึงตกอยู่ภายใต้การปกครอง
ของศาสนาอิสลาม และแนวความคิดจากศาสนาโซโรอัสเตอร์ก็มีผลต่อการพัฒนาแนวความคิดและหลักคาสอนของศาสนาอิสลาม
มรดกทางวัฒนธรรมของเปอร์เซีย
ในรัชกาลพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ มีลูกหลาน
ของเฉกอะหมัดคือ พระยาเพ็ชรพิไชย (ใจ) ที่เป็นข้าราชการ
ใกล้ชิดในตาแหน่งจางวางกรมล้อมพระราชวังเครื่องแต่งกาย
อย่าง ลอมพอก ก็เป็นอีกหนึ่งมรดกทางวัฒนธรรมของ
เปอร์เซีย ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากผ้าโพกหัวของชาวมุสลิม
กับชฎาของไทยโดยลอมพอกถือเป็นหมวกสาหรับขุนนางในรัช
สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ในรัชกาลเดียวกันก็ได้ส่ง
ราชทูตไปยังประเทศฝรั่งเศสเพื่อเจริญสัมพันธไมตรีในปี พ.ศ.
2229 ลอมพอกจึงเป็นที่สนใจของชาวฝรั่งเศสอย่างมาก
ANCIENT PERSIA
- 8. สวนเปอร์เซีย
สวนเปอร์เซีย (Persia garden)นั้น จัดว่าเป็นหนึ่งในรูปแบบ
การจัดสวนของทางตะวันตก ซึ่งมีประวัติความเป็นมา มาเนิ่นนานตั้งแต่ก่อน
คริสต์ศตวรรษที่ 7 โดยมีลักษณะของการจัดสวนที่เลียนแบบจาของของระบบ
จักรวาล (Cosmos) ตามความเชื่อเก่าแก่ของคนในยุคนั้น
สวนเปอร์เซีย มักจะเป็นสวนที่มีรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยม และแบ่ง
ออกเป็นสี่ส่วนด้วยสายน้า ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของแม่น้าแห่งสรวงสวรรค์
จุดตัดตรงกลางของสวนน้าเป็นที่ตั้งของน้าพุแห่งชีวิต และเต็มไปด้วยพรรณ
ไม้นานาพันธุ์ ทั้งไม้ดอกและไม้ผล เช่น ส้ม ทับทิม กุหลาบ แทรกด้วยร่มเงา
ของปาล์มชนิดต่าง ๆ และเสียงของน้าที่ไหลริน ปลาหลากสีที่ว่ายวนอยู่ในผืน
น้า ซึ่งเป็นลักษณะอันสวยงามสมบูรณ์แบบจนเหมือนเป็นสวนแห่งสวรรค์
ในปัจจุบันชาวอิสลามรับรูปแบบสวนเปอร์เซียเข้ามาเป็นส่วน
หนึ่งของวัฒนธรรม ไม่ว่าจะเป็นสวนในบ้าน ในวัง หรือในสุเหร่า
และคงลักษณะพื้นฐานเดียวกันไว้คือ สวนรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ถูกล้อมไว้ด้วย
อาคารหรือกาแพง แบ่งพื้นที่เป็นสี่ส่วนเรียกว่า "ชาฮา-บัก" (Chahar Bagh) มี
น้าพุหรือบ่อน้าตั้งไว้ตรงกลาง จนอาจจะกล่าวได้ว่า รูปแบบของสวนอิสลาม
เน้นความสาคัญของ "น้า" ซึ่งเป็นของขวัญจากสวรรค์และเป็นองค์ประกอบ
สาคัญของสิ่งมีชีวิตมากที่สุดรูปแบบหนึ่ง ซึ่งรูปแบบในสมัยโบราณก็ยังคงสืบ
ทอดและเห็นกันได้ทั่วไปในการจัดสวนเปอร์เซีย
ภูมิทัศน์ทางวัฒนธรรมของเปอร์เซีย
สวนเปอร์เซียในประเทศอิหร่าน
ANCIENT PERSIA