1. NEO-CLASSIC
A r t BY : PROMPICHET SONTIMUANG
ARCHITECTURE 154501251024
2. N E O – C L A S S I C
ศิลปะนีโอ-คลาสสิกอิสม์เกิดขึน้ครัง้แรกที่
โ ร ม ป ร ะ เ ท ศ อิต า ลี นีโ อ ( Neo) ห ม า ย ถึง
ใหม่คลาสสิก (Classic) หมายถึง กรีกและโรมัน ซึ่ง
รวมความแล้วหมายถึง ความเคลื่อนไหว ของศิลปะ
ซึ่งมีสุนทรียภาพตามแบบศิลปะกรีกและโรมัน ที่
เกิดขึ้นในกลางคริสต์ศตวรรษที่ 18 จนถึงต้น
คริสต์ศตวรรษที่19 (ค.ศ. 170 1- ค.ศ. 1801)
นีโอคลาสสิกเป็นรูปแบบศิลปะที่อยู่ใน
ระยะหัวเลีย้วหัวต่อระหว่างสมัยใหม่กับสมัยเก่า
ภาพเขียนจะสะท้อนเรื่องราวทางอารยธรรม
เน้นความสง่างามของรูปร่างทรวดทรงของคน
และส่วนประกอบของภาพ มีขนาดใหญ่โต
แข็งแรง มั่นคง ใช้สีกลมกลืน มีดุลยภาพของ
แสง และเงาที่งดงาม สีเน้นหนักไปทางสีน้าตาล
ดา เขียว และขาว
ศิลปินที่สา คัญของ ศิลปะ แบบนีโ อ
คลาสสิก ได้แก่ ชาก ลุย ดาวิด (ค.ศ. 1748-
1825) ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้วางรากฐานของ
ศิลปะแบบนีโอคลาสสิก งานจิตรกรรมที่มี
ชื่อเสียง เช่น การสาบานของโฮราตี (The Oath
of Horatij) การตายของมาราต์ (The Death of
Marat) การศึกระหว่างโรมันกับซาไบน์ (Battle
of the Roman and Sabines) และ เบนจามิน
เวสต์ (Benjamin West, 1738-1820) เป็นต้น
Death of Marat",1793 AD.
จิตรกรรมสีน้ำมันบนผ้ำใบ
โดย จำค หลุยส์ เดวิด (Jacque Louis David)
แสดงลักษณะของรูปคนที่ถูกต้อง ชัดเจน ตำมหลักกำย
วิภำคศำสตร์ (Anatomy)
Bonaparte crossing the st. Bernard pass 1801AD. ผลงาน
ของดาวิด
A R T
3. 1 คาสัตย์สาบานของพี่น้องตระกูล
โฮราติอี(The Oath of the Horatii)
สีนา้มัน ขนาด14 X 11 ฟุต
2 มรณกรรมของโสคราติส (The
Death of Socrates)
สีนา้มัน ขนาด 51 X 77 ½ นวิ้
3
4
บรูตุสกับร่างไร้วิญญาณของ
บุตรชาย(Lictor Bringing Back
to Brutus the Body of His
Sons)สีนา้มัน ขนาด 10 ฟตุุ8 นวิ้
X 13 ฟตุุ10 นวิ้
การสู้รบระหว่างชาวโรมันกับชาว
ซาบีน (Battle of the Romans
and Sabins)
สีนา้มัน ขนาด 12 ฟตุุ8 นวิ้X
17 ฟุุต ค..ศ.1799
N E O – C L A S S I C
1 2
3 4
A R T
4. N E O – C L A S S I C A R T สุนทรียภาพทางทัศนศิลป์ลัทธินีโอ
คลาสสิค คือ
1. เก่ยีวกับการจัดภาพแบบ
สากล แสดงออกเรื่องราวรูปทรง
ธรรมชาติของคน ในท่าทางต่างๆ และ
เน้นกล้ามเนื้อ
2. ทฤษฎีการถ่ายทอดแบบ
เหมือนจริง เช่น ภาพคนเหมือน เทพ
นิยายกรีกและเรื่องราวในสังคม
3. ระบายสีอ่อนเน้นความ
กลมกลืน เส้น สี แสงเงา พนื้ผิว
ศิลปินที่มีชื่อเสียงในสมัยลัทธินีโอคลาสสิค
ได้แก่
1. เดวิด ค.ศ ๑๗๔๘-๑๘๒๕ จิตร
กรชาวฝรั่งเศส เป็นผู้นาที่มีชื่อเสียง ได้แก่
(1) ภาพแสดงเรื่องราวความ
กล้าหาญของวีรบุรุษ เช่น การสาบานของ
พวกเฮอเรส การทาศึกระหว่างโรมันและชาว
ซาไบน์การตายของมาราท์
(2) ภาพนโบเลียนได้รับการเจิม
จากสันตะปาปา ในพิธีแต่งตัง้เป็นจกัรพรรดิ์
ฝรั่งเศส
2. แองส์ (Ingres) ค.ศ. ๑๗๘๐ –
๑๘๖๗ แองส์เรียนศิลปะกับเดวิดและมี
ความนิยมในผลงานแบบคลาสสิคมาก
ผลงานที่มีชื่อเสียง เช่น ภาพหญิงสาวในลา
ธาร หญิงสาวอาบนา้แบบเตอร์ก
"พระราชวงศ์พระเจ้าชาลส์ที่ 4" โดย ฟรานซิสโก โกยา "ใต้ร่มเงาแดด" โดย ฟรานซิสโก โกยา
"3 พฤษภาคม พ.ศ. 2351" พ.ศ. 2357-58 สีนา้มันบนผ้าใบ ขนาดภาพ
ราว 9 ฟุต X 11 ฟุต พิพิธภัณฑ์ปราโด กรุงมาดริด ประเทศสเปน
"แขวนคอ" พ.ศ. 2353 ภาพพิมพ์กัดกรด จากชุด "ความหายนะของ
สงคราม" หอสมุดสาธารณะนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา
5. N E O – C L A S S I C A R T
ศิลปะนีโอคลำสสิคในอเมริกำ "George Washington“ ประติมำกรรมจอร์จ
วอชิงตัน ในประเทศอเมริกำ มีลักษณะคล้ำย โสเครตีส ประติมำกรรมสมัย
กรีก โดย โฮรำติโอะ กรีนอฟ (Horatio Greenough)
ประติมากรรม มีสัดส่วนถูกต้อง ยึดระเบียบแบบแผนจาก
สมัยกรีกและโรมันอย่างเคร่งครัด ประติมากรรมคนมักใช้ใบหน้าจาก
แบบจริงผสมผสานกับรูปร่างแบบสมัยคลาสสิก แต่ก็ดู เหมือนให้
ความรู้สึกมีชีวิตชีวาน้อยกว่าสมัยเรอเนสซองซ์และบาโรก ประติมา
กรที่สา คัญ ได้แก่ อันโตนีโอ คาโนวา (Antonio Canova)
งานวรรณกรรม ยังคงมีอิทธิพลของศิลปะกรีก-โรมันแฝงอยู่
กล่าวคือ ยึดมั่นในระเบียบแบบแผนและกฎเกณฑ์เดิม แต่เน้น
ความสาคัญของเหตุผลและความคิด มิใช่อารมณ์อย่างเดียว มีการ
เขียนวิพากษ์วิจารณ์และเสียดสีสังคมมากขึน้ สะท้อนถึงความ
ต้องการที่จะปรับปรุงสังคมให้ดีงามโดยสันติวิธี ภาษาที่ใช้มีความ
ไพเราะสละสลวย แต่ในช่วงตอนปลายของคริสต์วรรษที่ 18 งาน
วรรณกรรมค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไป การยึดมั่นในระเบียบกฎเกณฑ์
ของวรรณกรรมคลาสสิกลดน้อยลง แต่ให้ความสาคัญแก่เสรีภาพใน
การเขียน โดยใช้รูปแบบที่เป็นตัวของตัวเองมากขึน้ เช่น การใช้ภาษา
ประจาชาติของผู้ประพันธ์ เป็นต้น
กวีนิพนธ์ ที่มีชื่อเสียงมากเป็นผลงานของอเล็กซานเดอร์โป๊ป
(AlexanderPope) กวีชาวอังกฤษ เรื่อง "ความเรียงเรื่องมนุษย์" (Ah
Essay on Man) เขียนตามรูปแบบและกฎเกณฑ์สมัยคลาสสิกอย่าง
เคร่งครัด ใช้ถ้อยคาคมคาย เสียดสีมนุษย์และสังคมอย่าง
ตรงไปตรงมา
นาฎกรรม บทละครนีโอ คลาสสิก ได้รับอิทธิพลจากบทละคร
กรีกที่เน้นความสมเหตุสมผลของเรื่อง และมุ่งสอนศีลธรรมแก่ผู้ชม
ควบคู่กับความบันเทิง มีทัง้บทละครประเภทโศกนาฎกรรมและสุข
นาฎกรรม
ดนตรีอิทธิพลของแนวความคิดในสมัยแห่งเหตุผลที่เชื่อมนั่ในภูมิ
ปัญญาและความสามารถของมนุษย์ เปิดโอกาสให้นักดนตรี นักร้อง
และนักแต่งเพลง แสดงความสามารถส่วนตัวออกมาได้อย่างเต็มที่
เช่น การแสดงดนตรีเดี่ยว และการร้องเดี่ยวให้เพลงโอเปร่า เป็นต้น
การประพันธ์เพลงจะยึดหลักเกณฑ์โดยเคร่งครัด นักดนตรีที่สาคัญ
ได้แก่ โมสาร์ท (Mozart) และ บีโธเฟน (Beethoven)
บีโธเฟน (Beethoven)
โมสาร์ท (Mozart)
6. N E O – C L A S S I C
การปฏิวัติอุตสาหกรรมช่วงแรก (อังกฤษ: Industrial
Revolution) คือช่วงเวลาตัง้แต่ค.ศ. 1750 ถงึค.ศ. 1850
เมื่อการเปลี่ยนแปลงในภาคเกษตรกรรม, การผลิต, การ
ทาเหมืองแร่, การคมนาคมขนส่ง และเทคโนโลยี ส่งผล
กระทบอย่างลึกซึง้ต่อสภาพสังคม, เศรษฐกิจ และ
วัฒนธรรมในขณะนัน้การปฏิวัติเริ่มต้นในสหราช
อาณาจักร จากนัน้จึงแพร่ขยายไปยังยุโรปตะวันตก
, อเมริกาเหนือ, ญี่ปุ่น จนขยายไปทวั่ทัง้โลกในเวลาต่อมา
การปฏิวัติอุตสาหกรรมเป็นจุดเปลี่ยนครัง้สาคัญใน
ประวัติศาสตร์โลก ซึ่งส่งผลกระทบในเกือบทุกแง่มุมของ
ชีวิตประจาวันไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ที่เห็นเด่นชัดที่สุดคือ
การที่รายได้และจานวนประชากรโดยเฉลี่ยเริ่มที่จะขยาย
ตัวอย่างยงั่ยืนในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทาให้สองร้อย
ปีหลังจาก ค.ศ. 1800 ค่าเฉลี่ยรายได้ต่อหัวของโลก
ขยายตัวมากกว่าสิบเท่า ในขณะที่จานวนประชากร
ขยายตัวมากกว่าหกเท่า จากคากล่าวของผู้รับรางวัล
โนเบลสาขาสันติภาพ โรเบิร์ต อี. ลูคัส จูเนียร์ "เป็นครั้ง
แรกในประวัติศำสตร์ที่มำตรฐำนกำรดำรงชีวิตของ
ประชำชนธรรมดำส่วนมำกจะเริ่มเติบโตอย่ำงมนั่คง ซึ่งไม่
เคยมีพฤติกำรณ์ทำงเศรษฐกิจเช่นนี้เกิดขึ้นมำก่อน"
กระบวนการเริ่มต้นขึน้ในช่วงปลายของคริสต์ศตวรรษที่
18 ด้วยการเปลี่ยนผ่านซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนจาก
เศรษฐกิจแบบพึ่งพาแรงงานคนและสัตว์เป็นหลักไปเป็น
เศรษฐกิจแบบพึ่งพาเครื่องจักรเป็นหลักของสหราช
อาณาจักร โดยเริ่มในอุตสาหกรรมสิ่งทอเป็น
อุตสาหกรรมแรก อันเป็นผลมาจากการพัฒนากรรมวิธี
การหลอมเหล็กและความนิยมในการใช้ถ่านหินโค้กที่
แพร่หลายขึน้
โรงงานปั่นด้ายในยุคปฏิวัติอุสาหกรรม
เครื่องจักรไอนา้ของเจมส์วัตต์ ซงึ่เป็นจุดเริ่มต้นการปฏิวัติอุตสาหกรรม
T E C H
N O L O G Y
เหล็กและถ่ำนหิน โดยวิลเลียม เบลล์สกอตต์,
ค.ศ. 1855-60
7. N E O – C L A S S I C
A R C H I T E C T U R E
สถาปัตยกรรมแบบคลาส สิคใหม่(Neo-Classic) เป็น
รูปแบบสถาปัยกรรมที่ได้รับอิทธิพลมาจากการเคลื่อนไหว
ของการเกิดศิลปะแบบคลาสสิคสมัยใหม่ เนื่องจากการเผด็จ
การทางการเมือง การต่อต้านการแบ่งชนชัน้ในฝรั่งเศสและ
การที่ประชาชนได้รับความเจ็บปวดจากการเมืองทาให้ชาว
ยุโรปตะวันตกหันมาสนใจในศิลปะแบบคลาสสิคอีกครั้ง
ประกอบกับการที่การพัฒนาด้านวิทยาการวิทยาศาสตร์ด้าน
โบราณคดีที่มากขึน้ เพราะขุดค้นพบเมืองกรีกโบราณ คือ
เมืองเฮอคูลาเนียน (1738) และเมืองปอมเปอี (1748) ได้ ซึ่ง
พบศิลปะวัตถุที่มีค่า
งานสถาปัตยกรรมแบบ Neo-Classic พบ
มากในยุโรปและได้รับความนิยมมากในฝรั่งเศส
รูปลักษณะที่Neo- Classic นามาใช้และสังเกต
ได้
1.Symmetrical shape (รูปร่างที่สมมาตร)
2.Tall column that rise the full height of
building , colonian (เสาสูงขีน้ไปจนเต็มความสูง
อาคาร)
3.Triangular pediment (สามเหลี่ยมจั่วด้านหน้า
อาคาร)
4.Domed roof (หลังคายอดโดม)
8. N E O – C L A S S I C
The White House ,Washington
DC,USA,Goverment building : James Hoban
Arc de triomphe de l'Étoile
ประตูชัยฝรั่งเศศ
Ananda Samakhom Throne Hall พระที่นงั่วโรภาษพิมาน
"Monticello"
,Charlottesville,
Virginia.1769-84 AD.
สถำปัตยกรรมในประเทศอเมริกำ
โดยสถำปนิก โธมัส เจเฟอร์สัน
(Thomas Jefferson)
9. N E O – C L A S S I C
C U L T U R A L H E R I T A G E
Kazan Cathedral
โบสถ์คาซาน เป็นสถาปัตยกรรมในรูป
ศิลปะแบบนีโอคลาสสิก เป็นลักษณะ
รูปทรงครึ่งวงกลม มีเสาหินวางเรียงแถว
ยาวอย่างเป็นระเบียบหลังจาก 10 ปี
แห่งการก่อสร้าง มหาวิทยาลัยคาซาน
กลายเป็นสถานที่เพื่อมาสักการะบูชาที่
ได้รับความนิยมเป็น อย่าง เนื่องจาก
สาเหตุหนึ่งมาจากเพราะตั้งอยู่ในใจ
กลางเมือง จึงทาให้ประชาชน หรือ
นักท่องเที่ยวพบเห็นได้ง่าย และด้วย
ความสวยงามของมหาวิหารที่มักจะเป็น
ที่สะดุดตาของผู้พบเห็น
สร้างเสร็จสมบูรณ์เมื่อปี ค.ศ. 1811
ออกแบบโดยสถาปนิก คือ
- Charles Camelon
- Thomas de Thomon
- Pietro Gonzago
10. N E O – C L A S S I C
C U L T U R A L L A N D S C A P E S
เป็นเมืองหลวงของแคว้น
ส ก อ ต แ ล น ด์ ส ห ร า ช
อ า ณ า จัก ร ลัก ษ ณ ะ ภูมิ
ประเทศเป็นภูเขาสูงอยู่
กลางเมือง เอดินบะระ
(Edinburgh) เมืองที่มี
ทัศ นีย ภ า พ ข อ ง เ มือ ง ที่
สวยงาม ซึ่งแบ่งออกเป็น
สองส่วนส าคัญดังนี้คือ
โอลด์ทาวน์ ที่มีสาคัญทาง
ประวัติศาสตร์และเก่าแก่ มี
ถนนหรือทาง เดินที่เก่าแก่
ในยุคกลาง และจอร์เจียน
นิวทาวน์ ที่มีความงามใน
แบบนีโอ-คลาสิค