โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ม.4

2. เทคโนโลยีอวกาศ
คือการสารวจสิ่งต่างๆที่อยู่นอกโลกของเราและสารวจโลกของเราเองด้วย
 4 ต.ค.2500สหภาพโซเวียตส่งดาวเทียมสปุตนิก1โคจรรอบโลกเป็นครั้งแรก
 เสร็จสิ้นภารกิจเมื่อ4 ม.ค.2501

3. สปุตนิก

4. ดาวเทียม: Satellite
โดย..ครูปินัชยา นาคจารูญ

5. ดาวเทียม:Satellite
สิ่งประดิษฐ์ที่มนุษย์คิดค้นขึ้น ที่สามารถโคจรรอบโลกโดยอาศัยแรงดึงดูดของโลก
 ใช้ทางการทหาร การสื่อสาร การรายงานสภาพอากาศ
 วิจัยทางวิทยาศาสตร์เช่นการสารวจทางธรณีวิทยาสังเกตการณ์สภาพของอวกาศ

6. ประวัติของดาวเทียม
ดาวเทียมดวงแรกมีชื่อว่า"สปุตนิก(Sputnik)"ส่งไปโดยรัสเซีย(ปี2500)
 สหรัฐได้ส่งดาวเทียมขึ้นไปบ้างมีชื่อว่า"Explorer“(ปี2501)
 รัสเซียและสหรัฐจึงเป็น2 ประเทศผู้นาทางด้านการสารวจทางอวกาศ

7. ประวัติของดาวเทียม

8. ประวัติของดาวเทียม

9. ส่วนประกอบของดาวเทียม
โดย..ครูปินัชยา นาคจารูญ

10. โครงสร้างดาวเทียม
 จะมีน้าหนักประมาณ15 - 25%ของน้าหนักรวม
 ต้องเลือกวัสดุที่มีน้าหนักเบาและต้องไม่เกิดการสั่นมากเกิน

11. ระบบเครื่องยนต์
 หลักการทางานคล้ายกับเครื่องอัดอากาศและปล่อยออกทางปลายท่อ
 ระบบดังกล่าวจะทางานได้ดีในสภาพสุญญากาศ

12. ส่วนประกอบของดาวเทียม
ระบบพลังงาน
 ทาหน้าที่ผลิตพลังงานและกักเก็บไว้เพื่อแจกจ่ายให้ระบบไฟฟ้าของดาวเทียม
 อาจใช้พลังงานแสงอาทิตย์หรืออาจใช้พลังงานนิวเคลียร์แทน

13. ระบบควบคุมและบังคับ
 ประกอบด้วยคอมพิวเตอร์ที่เก็บรวมรวมข้อมูลและประมวลผล
 โดยมีอุปกรณ์รับส่งสัญญาณ(RadarSystem)เพื่อใช้ติดต่อกับโลก

14. อุปกรณ์ควบคุมระดับความสูง
 เพื่อรักษาระดับความสูงให้สัมพันธ์กันระหว่างพื้นโลกและดวงอาทิตย์
 ให้ดาวเทียมสามารถโคจรอยู่ได้

15. เครื่องมือบอกตาแหน่ง
 กาหนดการเคลื่อนที่ ในการโคจรเพื่อรักษาความปลอดภัยนั่นเอง

16. การทางานของดาวเทียม
โดย..ครูปินัชยา นาคจารูญ

17. การทางานของดาวเทียม
ดาวเทียมจะถูกส่งขึ้นไปลอยอยู่ในตาแหน่ง วงโคจรค้างฟ้า
 ประมาณ 36000- 38000 กิโลเมตรจากพื้น
 และโคจรตามการหมุนของโลก

18. การทางานของดาวเทียม
สัญญาณที่ยิงขึ้นมาจากสถานีภาคพื้นดิน เรียกว่า สัญญาณขาขึ้น( Uplink)
ดาวเทียมจะรับและขยายสัญญาณพร้อมทั้งแปลงสัญญาณให้มีความถี่ต่าลง
และส่งสัญญาณไปยังพื้นที่เป้าหมายเรียกว่า สัญญาณขาลง(Downlink)

19. การทางานของดาวเทียม

20. การแบ่งประเภทของดาวเทียม
โดย..ครูปินัชยา นาคจารูญ

21. ดาวเทียมสื่อสาร(CommunicationSatellite)
 เรียกสั้นๆว่า comsat ใช้เพื่อการสื่อสารและโทรคมนาคม
ต้องทางานอยู่ตลอดเวลาห่างจากพื้นโลกโดยประมาณ35.786กม.
สามารถใช้งานในอวกาศได้ประมาณ10 - 15 ปี
เช่นสัญญาณโทรทัศน์ สัญญาณโทรศัพท์ อินเตอร์เน็ตเป็นต้น
PALAPAของอินโดนีเซีย

22. ดาวเทียมสื่อสาร(CommunicationSatellite)
 เรียกสั้นๆว่า comsat ใช้เพื่อการสื่อสารและโทรคมนาคม
ต้องทางานอยู่ตลอดเวลาห่างจากพื้นโลกโดยประมาณ35.786กม.
สามารถใช้งานในอวกาศได้ประมาณ10 - 15 ปี
เช่นสัญญาณโทรทัศน์ สัญญาณโทรศัพท์ อินเตอร์เน็ตเป็นต้น
PALAPAของอินโดนีเซีย

23. ดาวเทียมสื่อสาร(CommunicationSatellite)
COMSTARของอเมริกา
SAKURAของญี่ปุ่น

24. ดาวเทียมสื่อสาร(CommunicationSatellite)
THAICOMของไทย

25. ดาวเทียมอุตุนิยมวิทยา
 เก็บข้อมูลสภาพภูมิอากาศด้วยภาพถ่ายเรดาร์และภาพถ่ายอินฟาเรด
 แบ่งออกเป็น2 ชนิดคือ ชนิดโคจรค้างฟ้าชนิดโคจรรอบโลก

26. ดาวเทียมอุตุนิยมวิทยา

27.  ดาวเทียมสารวจทรัพยากร
 ใช้เป็นสถานีเคลื่อนที่สารวจและดูการเปลี่ยนแปลงพื้นผิวโลก
 การใช้ประโยชน์ ได้แก่ การทาแผนที่ ด้านการเกษตร สารวจทรัพยากรน้า
สารวจการใช้ที่ดิน สารวจพื้นที่ป่าไม้ ติดตามไฟไหม้ป่า เป็นต้น

28.  ดาวเทียมสารวจทรัพยากร

29.  ดาวเทียมทางทหาร
 ใช้ติดต่อระหว่างกองทัพกับฐานทัพ รับสัญญาณจากสายลับหรือสอดแนมข้าศึก
มีการติดกล้องเพื่อใช้ในการถ่ายภาพพิเศษ มีอุปกรณ์ตรวจจับที่จับได้ทั้งในที่มืด
หรือที่ที่ถูกพรางตาไว้
เช่นดาวเทียมCOSMOS ของรัสเซียและ BigBirdของสหรัฐอเมริกา

31. ดาวเทียมกาหนดตาแหน่ง
 เป็นโครงการประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อใช้ประโยชน์ทางการทหาร
แต่อนุญาตให้พลเรือนสามารถใช้งานได้ภายใต้ข้อจากัด
โดยต้องรับสัญญาณได้จากดาวเทียมอย่างน้อย4 ดวงพร้อม ๆ กัน
เครื่องรับGPS สามารถรับสัญญาณจากดาวเทียมได้พร้อมกันถึง12 ดวง

32. ดาวเทียมกาหนดตาแหน่ง

33. ดาวเทียมกาหนดตาแหน่ง

34. การเดินทางสู่อวกาศของดาวเทียม
โดย..ครูปินัชยา นาคจารูญ

35. การเดินทางสู่อวกาศของดาวเทียม
 ในการส่งดาวเทียมไปสู่อวกาศ ต้องทาให้มีความเร็วมากกว่าความเร็วหลุดพ้น
แต่ถ้าจะให้โคจรรอบโลกต้องทาให้ความเร็วสุดท้าย= ความเร็วโคจรรอบโลก
การส่งดาวเทียมขึ้นจากพื้นโลกต้องอาศัยจรวดขับดันให้พุ่งขึ้นไป

36. การเดินทางสู่อวกาศของดาวเทียม

37. การเดินทางสู่อวกาศของดาวเทียม

38. การเดินทางสู่อวกาศของดาวเทียม
 การส่งจรวดเพื่อขับดันดาวเทียมนั้นมักใช้เครื่องยนต์จรวดหลายท่อนต่อกัน
จรวดจะขึ้นจากฐานยิงในแนวดิ่งเพื่อให้เวลาเดินทางในบรรยากาศโลกสั้นที่สุด
จรวดทุกท่อนจะมีเชื้อเพลิงในตัวเองเมื่อใช้เชื้อเพลิงหมดแล้วจะสลัดตัวเองหลุดออก

39. การเดินทางสู่อวกาศของดาวเทียม
 ในที่สุดจะเหลือดาวเทียมกับจรวดท่อนสุดท้ายโคจรอยู่
เมื่อความเร็วถึงความเร็วโคจรรอบโลกแล้วเครื่องยนต์จรวดจะหยุดทางาน
จะใช้เครื่องยนต์จรวดในกรณีช่วยปรับเส้นทางและความเร็ว

40. การเดินทางสู่อวกาศของดาวเทียม

41. ยานอวกาศ:SpaceCraft
โดย..ครูปินัชยา นาคจารูญ

42. ประเภทของยานอวกาศ
ยานอวกาศที่ไม่มีมนุษย์ควบคุม
 เนื่องจากการสารวจต้องใช้เวลาเดินทางไกลมากและอันตราย
 บางที่เราเรียกยานแบบนี้ว่าRobotSpaceCraft

43. ยานอวกาศที่มีคนบังคับ
 จะเดินทางในช่วงเวลาสั้นๆเช่นโคจรรอบโลก
 ปัจจุบันมนุษย์เดินทางไปในอวกาศได้ไกลสุดเพียงดวงจันทร์เท่านั้น

44. โครงการอวกาศของแต่ละประเทศ
ประเทศสหรัฐอเมริกา >>> Nasa
ประเทศรัสเซีย >>>Roskosmos(รอสคอสมอส)
ประเทศญี่ปุ่น >>> JAXA
กลุ่มประเทศยุโรป >>>อีซา (ESA:EuropeanSpaceAgency)

45. เส้นทางสู่อวกาศของมวลมนุษยชาติ
โดย..ครูปินัชยา นาคจารูญ

46. เส้นทางสู่อวกาศของมวลมนุษยชาติ
"เมอร์คิวรี"ปฐมบทมนุษย์อวกาศ
 โครงการแรกของนาซาซึ่งเริ่มต้นขึ้นในปี2501และสิ้นสุดลงในปี2506
ส่งมนุษย์อวกาศขึ้นไปทดสอบความสามารถและการดารงชีวิตของมนุษย์

47. เส้นทางสู่อวกาศของมวลมนุษยชาติ
"เมอร์คิวรี" ปฐมบทมนุษย์อวกาศ

48. เส้นทางสู่อวกาศของมวลมนุษยชาติ
 "เจมินี"สะพานสู่ดวงจันทร์
 เริ่มต้นขึ้นในปี2505ทดสอบรวมทั้งสิ้น12 เที่ยวบิน
ทดสอบการเชื่อมต่อยานอวกาศและทดสอบการเข้าสู่ชั้นบรรยากาศของโลก

49. เส้นทางสู่อวกาศของมวลมนุษยชาติ
 "เจมินี" สะพานสู่ดวงจันทร์

50. เส้นทางสู่อวกาศของมวลมนุษยชาติ
 "เจมินี" สะพานสู่ดวงจันทร์

51. เส้นทางสู่อวกาศของมวลมนุษยชาติ
 "เจมินี" สะพานสู่ดวงจันทร์

52. เส้นทางสู่อวกาศของมวลมนุษยชาติ
"อพอลโล"สานฝันมนุษยชาติ
 ส่งมนุษย์ไปเยือนดวงจันทร์และเดินทางกลับโลกได้อย่างปลอดภัย
โครงการอพอลโลเริ่มต้นขึ้นในปี2511และสิ้นสุดลงในปี2515
ทาให้สหรัฐฯกลายเป็นผู้นาของโลกด้านเทคโนโลยีอวกาศอย่างเต็มภาคภูมิ

53. เส้นทางสู่อวกาศของมวลมนุษยชาติ
"อพอลโล" สานฝันมนุษยชาติ

54. เส้นทางสู่อวกาศของมวลมนุษยชาติ
"อพอลโล" สานฝันมนุษยชาติ

55. เส้นทางสู่อวกาศของมวลมนุษยชาติ
"อพอลโล" สานฝันมนุษยชาติ

56. เส้นทางสู่อวกาศของมวลมนุษยชาติ
"อพอลโล" สานฝันมนุษยชาติ

57. เส้นทางสู่อวกาศของมวลมนุษยชาติ
"อพอลโล" สานฝันมนุษยชาติ

58. เส้นทางสู่อวกาศของมวลมนุษยชาติ
นีล อาร์มสตรอง บัซอัลดรินและ ไมเคิลคอลลินส์

59. เส้นทางสู่อวกาศของมวลมนุษยชาติ
"อพอลโล" สานฝันมนุษยชาติ

60. เส้นทางสู่อวกาศของมวลมนุษยชาติ
"อพอลโล-โซยุซ"เชื่อมสัมพันธ์อวกาศ"สหรัฐฯ-รัสเซีย"
 เป็นโครงการความร่วมมือระหว่างสหรัฐฯและรัสเซีย
ทาการทดสอบระบบการเชื่อมต่อยานอวกาศของทั้งสองชาติ

61. เส้นทางสู่อวกาศของมวลมนุษยชาติ
"อพอลโล-โซยุซ" เชื่อมสัมพันธ์อวกาศ "สหรัฐฯ-รัสเซีย"

62. เส้นทางสู่อวกาศของมวลมนุษยชาติ
"อพอลโล-โซยุซ" เชื่อมสัมพันธ์อวกาศ "สหรัฐฯ-รัสเซีย"

63. เส้นทางสู่อวกาศของมวลมนุษยชาติ
"อพอลโล-โซยุซ" เชื่อมสัมพันธ์อวกาศ "สหรัฐฯ-รัสเซีย"

64. เส้นทางสู่อวกาศของมวลมนุษยชาติ
"สกายแล็บ"ขยายเวลาทางานของมนุษย์ในอวกาศ
 ใช้สถานีสกายแล็บเป็นสถานที่ศึกษาวิจัยกว่า300การทดลอง
รวมเวลา171วัน13 ชั่วโมงก่อนที่จะถูกปลดระวางในวันที่11 ก.ค.2522

65. เส้นทางสู่อวกาศของมวลมนุษยชาติ
"สกายแล็บ" ขยายเวลาทางานของมนุษย์ในอวกาศ

66. เส้นทางสู่อวกาศของมวลมนุษยชาติ
"สกายแล็บ" ขยายเวลาทางานของมนุษย์ในอวกาศ

67. เส้นทางสู่อวกาศของมวลมนุษยชาติ
"สกายแล็บ" ขยายเวลาทางานของมนุษย์ในอวกาศ

68. เส้นทางสู่อวกาศของมวลมนุษยชาติ
"สกายแล็บ" ขยายเวลาทางานของมนุษย์ในอวกาศ

69. เส้นทางสู่อวกาศของมวลมนุษยชาติ
"กระสวยอวกาศ (Space Shuttle)" ระบบขนส่งทางอวกาศ
ในปี2524นาซาได้เริ่มโครงการยานอวกาศที่มีรูปร่างคล้ายกระสวย
ซึ่งถูกออกแบบมาให้ใช้งานซ้าได้100 ครั้งหรือปฏิบัติการได้10 ปี

70. ตัวอย่าง"กระสวยอวกาศ"
เอนเตอร์ไพรส์(Enterprise): 2520

71. ตัวอย่าง"กระสวยอวกาศ"
 ยานโคลัมเบีย(Columbia) พ.ศ.2524- 2546

72. ตัวอย่าง "กระสวยอวกาศ"
 ยานโคลัมเบีย (Columbia)

73. ชาเลนเจอร์(Challenger)2526- 2529

74. ตัวอย่าง "กระสวยอวกาศ" ชาเลนเจอร์ (Challenger)

75. ตัวอย่าง "กระสวยอวกาศ" ชาเลนเจอร์ (Challenger)

76. ตัวอย่าง "กระสวยอวกาศ" ชาเลนเจอร์ (Challenger)

77. ดิสคัฟเวอรี( Discovery) 2527- 2554

78. ตัวอย่าง "กระสวยอวกาศ" ดิสคัฟเวอรี (Discovery)

79. ตัวอย่าง "กระสวยอวกาศ" ดิสคัฟเวอรี (Discovery)

80. แอตแลนติส(Atlantis)พ.ศ.2528- 2545

81. ตัวอย่าง "กระสวยอวกาศ" แอตแลนติส (Atlantis)

82. ตัวอย่าง "กระสวยอวกาศ" แอตแลนติส (Atlantis)

83. เอนเดฟเวอร์(Endeavour)พ.ศ.2535- 2554

84. ตัวอย่าง "กระสวยอวกาศ" เอนเดฟเวอร์ (Endeavour)

85. ตัวอย่าง "กระสวยอวกาศ" เอนเดฟเวอร์ (Endeavour)

86. ตัวอย่าง "กระสวยอวกาศ" เอนเทอร์ไพรซ์

87. ตัวอย่าง "กระสวยอวกาศ" เอนเทอร์ไพรซ์

88. ตัวอย่าง “ยานอวกาศ"

89. ตัวอย่าง “ยานอวกาศ" ยานกาลิเลโอ : ดาวพฤหัสบดี

90. ตัวอย่าง “ยานอวกาศ" ยานกาลิเลโอ : ดาวพฤหัสบดี

91. ตัวอย่าง “ยานอวกาศ" ยานกาลิเลโอ

92. ตัวอย่าง “ยานอวกาศ" ยานกาลิเลโอ

93. ตัวอย่าง “ยานอวกาศ" นิวฮอไรซันส์ : ดาวพลูโต

94. ตัวอย่าง “ยานอวกาศ" นิวฮอไรซันส์ : ดาวพลูโต

95. ตัวอย่าง “ยานอวกาศ" นิวฮอไรซันส์ : ดาวพลูโต

96. ตัวอย่าง “ยานอวกาศ" ยานฟินิกส์: ดาวอังคาร

97. ตัวอย่าง “ยานอวกาศ" ยานฟินิกส์: ดาวอังคาร

98. ตัวอย่าง “ยานอวกาศ" ยานฟินิกส์: ดาวอังคาร

99. ยานมาร์สรีคอนเนสเซนซ์ออร์บิเตอร์ : ดาวอังคาร

100. ตัวอย่าง “ยานอวกาศ" ยานมาร์สรีคอนเนสเซนซ์ออร์บิเตอร์

101. ตัวอย่าง “ยานอวกาศ" ลูนาร์โปรสเปกเตอร์ : ดวงจันทร์

102. ตัวอย่าง “ยานอวกาศ" ลูนาร์โปรสเปกเตอร์ : ดวงจันทร์

103. ตัวอย่าง “ยานอวกาศ" ยานเมสเซนเจอร์ : ดาวพุธ

104. ตัวอย่าง “ยานอวกาศ" ยานเมสเซนเจอร์ : ดาวพุธ

105. ตัวอย่าง “ยานอวกาศ" ยานเมสเซนเจอร์ : ดาวพุธ

106. ตัวอย่าง “ยานอวกาศ" ยานแคสซีนี : ดาวเสาร์

107. ตัวอย่าง “ยานอวกาศ" ยานแคสซีนี : ดาวเสาร์

108. ระบบการขนส่งอวกาศ
โดย..ครูปินัชยา นาคจารูญ

109. การเดินทางสู่อวกาศ
 อวกาศอยู่สูงเหนือศีรษะขึ้นไปเพียง100กม.แต่การที่จะขึ้นไปถึงมิใช่เรื่องง่าย
เซอร์ไอแซคนิวตันได้อธิบายไว้ว่า
 เมื่อออกแรงขว้างก้อนหินออกไปให้ขนานกับพื้นจะเคลื่อนที่เป็นเส้นโค้ง (A)

110. การเดินทางสู่อวกาศ
 ออกแรงมากขึ้นวิถีการเคลื่อนที่จะโค้ง
มากขึ้นและก้อนหินจะยิ่งตกไกลขึ้น (B)
 หากออกแรงมากจนวิถีของวัตถุขนาน
กับความโค้งของโลกก้อนหินก็จะไม่ตกสู่
พื้นโลกอีกแต่จะโคจรรอบโลกเป็น
วงกลม (C)
เรียกการตกในลักษณะนี้ว่า
“การตกอย่างอิสระ”(freefall)

111. การเดินทางสู่อวกาศ
หากเราเพิ่มแรงให้กับวัตถุมากขึ้นไปอีกเราจะได้วงโคจรเป็นรูปวงรี (D)
และถ้าเราออกแรงขว้างวัตถุไปด้วยความเร็ว11.2กิโลเมตรต่อวินาทีวัตถุจะไม่
หวนกลับคืนอีกแล้วแต่จะเดินทางออกสู่ห้วงอวกาศ (E)
เรียกความเร็วนี้ว่า“ความเร็วหลุดพ้น”(escapespeed)

112. การปล่อยกระสวยอวกาศ
โดย..ครูปินัชยา นาคจารูญ

113. การปล่อยกระสวยอวกาศ
ส่วนประกอบหลักที่ใช้ในการปล่อยอยู่สามส่วนคือ
เซอร์วิสทาวเวอร์(Servicetower)
ฐานปล่อยจรวด (Launchpad)
ยานอวกาศ (Spacevehicle)

114. ระบบการขนส่งอวกาศ
 จะมีส่วนประกอบหลักที่ใช้ในการปล่อยอยู่3 ส่วนคือ
เซอร์วิสทาวเวอร์(Servicetower)

115. ระบบการขนส่งอวกาศ
 จะมีส่วนประกอบหลักที่ใช้ในการปล่อยอยู่ ส่วน คือ
เซอร์วิสทาวเวอร์ (Service tower)

116. ระบบการขนส่งอวกาศ
 จะมีส่วนประกอบหลักที่ใช้ในการปล่อยอยู่ ส่วน คือ
เซอร์วิสทาวเวอร์ (Service tower)

117. ระบบการขนส่งอวกาศ
 จะมีส่วนประกอบหลักที่ใช้ในการปล่อยอยู่ ส่วน คือ
เซอร์วิสทาวเวอร์ (Service tower)

118. ระบบการขนส่งอวกาศ
 ฐานปล่อยจรวด

119. ระบบการขนส่งอวกาศ
 ฐานปล่อยจรวด

120. ระบบการขนส่งอวกาศ
ยานอวกาศ (Spacevehicle)

121. ส่วนประกอบของยานอวกาศ
ก. จรวดเชื้อเพลิงแข็ง (Solid RocketBooster,SRBs)
มีสองอัน คิดเป็น80%ของกาลังส่งทั้งหมด

122. ส่วนประกอบของยานอวกาศ
ข. ถังเชื้อเพลิงภายนอก (ExternalTank)
 ส่งเชื้อเพลิงเหลว(ไฮโดรเจนเหลวและออกซิเจนเหลว)
 ให้กับเครื่องยนต์หลักของกระสวยอวกาศ

123. ส่วนประกอบของยานอวกาศ
ค. กระสวยอวกาศ (spaceshuttle)
 เครื่องบินอวกาศมีปีกทะยานขึ้นเหมือนจรวดและไปโคจรรอบโลก
 ตอนกลับสู่โลกจะร่อนลงตามรันเวย์สามารถนามาใช้ได้หลายๆ ครั้ง

124. การปล่อยกระสวยอวกาศ
กระสวยอวกาศขึ้นจากพื้นโลกโดยใช้กาลังขับดันหลักจากจรวดเชื้อเพลิงแข็ง
และแรงดันจากเครื่องยนต์เชื้อเพลิงเหลวด้านท้ายของกระสวยอวกาศ

125. การปล่อยกระสวยอวกาศ
หลังจากทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าได้2 นาทีสูงประมาณ46 กิโลเมตรเชื้อเพลิงแข็ง
ถูกสันดาปหมดจรวดเชื้อเพลิงแข็งถูกปลดออกให้ตกลงสู่พื้นผิวมหาสมุทร

126. การปล่อยกระสวยอวกาศ

127. การปล่อยกระสวยอวกาศ
กระสวยอวกาศยังคงทะยานขึ้นสู่อวกาศต่อไปโดยเครื่องยนต์หลักที่อยู่ด้านท้ายของ
ยานขนส่งอวกาศจะดูดเชื้อเพลิงเหลวจากถังเชื้อเพลิงภายนอกมาสันดาปจนหมดภายใน
เวลา 5นาทีแล้วสลัดถังทิ้ง

128. การปล่อยกระสวยอวกาศ
ยานขนส่งอวกาศเข้าสู่วงโคจรอบโลกด้วยแรงเฉื่อยโดยมีเชื้อเพลิงสารอง
ภายในยานเพียงเล็กน้อยเพื่อใช้ในการปรับทิศทาง

129. การปล่อยกระสวยอวกาศ

130. การปล่อยกระสวยอวกาศ
เมื่อถึงเวลากลับสู่โลกจะออกจากการโคจรของและกลับลงมาสู่บรรยากาศ
โลกในอัตราความเร็ว15,900ไมล์ต่อชั่วโมง
แผ่นกาบังความร้อนข้างใต้กระสวยอวกาศจะป้องกันลูกเรือและกระสวยอวกาศ
ร่อนลงบนรันเวย์ด้วยความเร็วประมาณ210ไมล์ แล้วหยุดการบิน