2. สมมติว่าในขณะนี้คุณเป็นนักศึกษาฝึกสอนโดยทาการสอนที่โรงเรียนสาระวิทยา
หลังจากที่คุณสอนมาได้ระยะหนึ่งแล้ว คุณก็สังเกตเห็นว่านักเรียนมีลักษณะต่างๆ ดังนี้
ด.ญ.ปนัดดา เป็นคนขยัน ชอบอ่านหนังสือมาก เธอบอกว่าชอบทาความเข้าใจเนื้อหา
จากการอ่านหนังสือ หรือเอกสารมากกว่า ฟังครูอธิบาย
ด.ช.เรียงชัย เป็นคนที่ชอบเรียนรู้สิ่งแปลกใหม่ ชอบค้นคว้า ชอบสิ่งที่ตื่นตาตื่นใจ
และท้าทายความสามารถ เพราะยิ่งท้าทายและตื่นตามากเท่าไหร่ ยิ่งจดจ่อกับสิ่งนั้นมากและทา
ให้เกิดการเรียนรู้สิ่งเหล่านั้นได้ดี
ด.ช. มรกต เป็นคนที่ขาดจินตนาการ ถ้าไม่ได้เรียนจากการมองเห็นภาพหรือของจริง
เวลาครูสอนในชั้นนึกภาพตามไม่ทัน ส่งผลทาให้เขาเรียนรู้ได้ช้าและไม่ทันเพื่อน
ด.ญ. สะรีรัตน์เป็นคนที่ไม่ชอบศึกษาจากหนังสือที่เป็นข้อความหรือตัวอักษร เพราะ
ในเวลาเรียนเขาจะตั้งใจฟังครูอธิบายเนื้อหา ทาความเข้าใจและพยายามจับประเด็นที่สาคัญให้
ได้ในขณะที่เรียน เช่น กระบวนการในการแก้โจทย์เขาจะต้องเข้าใจตอนนั้น โดยไม่ต้องกลับไป
อ่านหนังสืออีก เป็นต้น

3. 1. นักศึกษาจะนาความรู้เรื่องสื่อการสอน ไปใช้ในการจัดการเรียนรู้อย่างไร
เพื่อสนับสนุนวิธีการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพของนักเรียนแต่ละคนให้มี
ประสิทธิภาพโดยสื่อที่นามาใช้นั้นต้องสนองตอบต่อการจัดการเรียนรู้ที่เน้น
ผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง โดยให้นักเรียนเป็นผู้สร้างความรู้เองด้วย
ควรใช้สื่อสิ่งพิมพ์เป็นสื่อที่ช่วยในการเรียนรู้
ของนักเรียน เช่น ตารา หนังสือเรียน วารสาร
เพราะนักเรียนชอบอ่านจากตารามากกว่าฟังครู
ดังนั้นสื่อสิ่งพิมพ์ที่ดีจึงเป็นสื่อการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์
ประเภทนี้ได้อย่างดี สื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆจะมีการวางหัว
เรื่องไว้ชัดเจน พร้อมทั้งรายละเอียดที่เป็นไปอย่างมี
ระบบ สามารถทาให้นักเรียนที่มีนิสัยชอบอ่านทา
ความเข้าใจได้ง่าย และตรงประเด็น

4. ควรใช้วิธีการสอนแบบส่งเสริมการเรียนรู้แบบตื่นตัว ( Active learning )
เช่น ในการเรียนในห้องเรียน อาจจะมีการแสดงสถานการณ์จาลองโดยให้
นักเรียนในชั้นเรียนมีส่วนร่วม โดยสถานการณ์จาลองต้องใกล้เคียงกับ
สถานการณ์จริงมากที่สุด ซึ่งการเรียนการสอนแบบที่กล่าวมานี้จะทาให้
นักเรียนได้เผชิญหน้ากับปัญหา มีการตัดสินใจและฝึกการใช้ไหวพริบ

5. ควรนำสื่อสำรสนเทศที่มีควำมน่ำสนใจ มีรูปภำพประกอบ เช่น วิดิทัศน์
กำรเรียนรู้จำกอินเทอร์เน็ต มัลติมิเดียภำพเคลื่อนไหว หรือรูปภำพจริง
ตลอดจนสื่อควรมีเสียงประกอบเพื่อกระตุ้นควำมสนใจของนักเรียน ช่วยให้
ผู้เรียนสำมำรถเรียนรู้ได้ดียิ่งขึ้น ผู้เรียนจะสำมำรถมองภำพ จินตนำกำรตำม
สื่อ และมีปฏิสัมพันธ์โต้ตอบกับสื่อได้

6. ครูควรมีเทคนิคการอธิบายหรือการสอนที่ดี เนื่องจากนักเรียนชอบฟัง
ครูอธิบายในชั้นเรียนมากกว่าการอ่านเองจากตารา ครูจึงต้องมีการวาง
แผนการสอนที่ดี อาจมีการแสดงให้นักเรียนดูเป็นตัวอย่าง พร้อมกับการ
อธิบาย นักเรียนจะเกิดการเรียนรู้จากการสังเกต การฟัง การกระทา ซึ่ง
การสาธิตและการอธิบายจะทาให้นักเรียนได้เห็นถึงขึ้นตอนอย่างละเอียดและ
เกิดความเข้าใจมากยิ่งขึ้น

7. 2. ในปัจจุบันนี้จะพบคำว่ำ "สื่อกำรสอน" กับคำว่ำ "สื่อกำรเรียนรู้" ในฐำนะที่นักศึกษำจะ
ก้ำวออกไปเป็นครูยุคใหม่ที่มีคุณภำพ ให้อธิบำยว่ำ สองคำนี้เหมือนหรือมีควำม
แตกต่ำงกันอย่ำงไร
สื่อการสอน
หมายถึงวัสดุ เครื่องมือ
และเทคนิควิธีการที่ผู้สอน
นามาใช้ประกอบการเรียน
การสอนเพื่อให้ผู้เรียนเกิด
การเรียนรู้ได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ

8. สื่อการเรียนรู้ หมายถึง ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวผู้เรียนที่ช่วยให้ผู้เรียนเกิด
การเรียนรู้ เช่น คน สัตว์ สิ่งของ ธรรมชาติ รวมถึงเหตุการณ์ หรือ แนวความคิด
โดยมุ่งเน้นส่งเสริมการค้นคว้า หรือ การแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง ช่วยให้ผู้เรียน
สามารถเรียนรู้ได้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต

9. 3. ออกแบบสื่อกำรเรียนรู้ที่สอดคล้องกับสำระกำรเรียนรู้ของท่ำน
สื่อการสอนสาระคณิตศาสตร์ เรื่อง รูปเรขาคณิต ในระดับชั้นประ
ถามศึกษาปีที่5
มีรูปเรขาคณิตจริง ขนาดที่เหมาะสม ให้นักเรียนได้สัมผัส และสังเกต
ได้มีกิจกรรมเสริมเพื่อกระตุ้นความอยากเรียนเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เช่น
ให้บอกคุณสมบัติของรูปเราขาคณิต ให้บอกสิ่งของรอบตัวที่มีรูปร่าง
เหมือนกับรูปสามมิติที่ตนถืออยู่
มีสื่อที่เป็นมัลติมิเดีย เช่น การ์ตูนเกี่ยวกับรูปเรขาคณิต
จัดกิจกรรมที่ให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการออกแบบกิจกรรม โดย
สอดแทรกเนื้อหาเข้าไปด้วย