SlideShare a Scribd company logo
1 of 36
Download to read offline
รายงานวิชาฟสิกส
การเคลื่อนที่ในหนึ่งและสองมิติ
          ในชีวิตประจําวัน เราจะเห็นการเคลื่อนที่ของสิ่งของตางๆ มากมาย
หลากหลายรูปแบบ เชน การเคลื่อนที่ของอวัยวะตางๆ ของคนเดิน รถยนตแลน
และใบไมรวง เปนตน เมื่อพิจารณาการเคลื่อนที่เหลานั้นแลว จะพบวา มีสวนใหญ
ลักษณะซับซอน เชน มีท้ังเสนทางการเคลื่อนที่เปนแนวทางโคงวกวน เพือใหงาย
                                                                     ่
ตอการเขาใจการเคลื่อนที่ เราจะเริ่มศึกษาจากการเคลื่อนที่ในแนวเฉพาะเสนตรง
กอน แลวจึึงจะขยายความเขาใจกับการเคลือนทีสองและสามมิติ หรือในลักษณะที่
                                         ่ ่
ซับซอนขึ้น
1.ตําแหนงและการกระจัด
  ตาแหนงและการกระจด
            ตําแหนง (position) ก็คอการแสดงออก หรือการบอกให
                                   ื
วา วัตถหรือสิ่งของพิจารณาอย ใด เราจะคดถงวตถุท่มีขนาดเล็ก
วา วตถุหรอสงของพจารณาอยูที่ใด เราจะคิดถึงวัตถทีมขนาดเลก
ซึ่งบอกไดชัดเจนวามีตําแหนงอยูที่ใด โดยจุดอางอิงเปนปจจัย
จาเปนเพอความชดเจน อาจเปนจุดศูนยของโคออรดเนตในพกด
จําเปนเพื่อความชัดเจน อาจเปนจดศนยของโคออรดิเนตในพิกัด xy
เนื่องจากเราจะพิจารณากรณีหนึ่งมิตกอน เราจะใชเฉพาะแกน x
                                      ิ
และอาจบอกวาวตถุอยู ี่ตําแหนง
และอาจบอกวาวัตถอยทตาแหนง x = x1 ที่เวลา t1 หมายถึงวัตถทีอยู
                                         ทเวลา หมายถงวตถุท่อย
ในระยะ x1 จากจุด O (จุดอางอิง) ถาวัตถุเลื่อนไปอยูที่ x2 ที่เวลา t2
แสดงวา วัตถไดมีการเคลื่อนที่ไประหวางเวลา
แสดงวา วตถุไดมการเคลอนทไประหวางเวลา t1 และ t2

      -x                                              +x
                    o         x1         x2
การเปลี่ยนตําแหนงของวัตถุจาก x = x1 ไปเปน หรือ ( x = x2) เรียกใน
ภาษาฟสิกสวา การกระจัด (displacement) การกระจัดมีทิศในทีนีมทิศ
                           displacement)                     ่ ้ ี
จาก x1 ไป x2 ดังในรูปภาพ โดยทั่วไปการกระจัดหมายถึงการเปลี่ยน
ตําแหนงของวัตถุไปจากตําแหนงปกติ (สมดุล)

         2.ความเร็วเฉลี่ยและอัตราเร็วเฉลี่ย
                  โดยนิยามของ ความเร็ว ( velocity ) คือ การเปลี่ยนตําแหนงเวลา
                                                   y
         สําหรับชวงเวลาที่ยาว ความเร็วเฉลี่ยเปนเสมือนความเร็วที่การเปลี่ยนแปลง
         ในชวงเวลาที่วดมีคาเดียวที่สม่ําเสมอ ความเร็วเฉลี่ยในทิศจาก x1 ไป x2 คือ
                       ั



                               x2 − x1 Δx
                      ν av =           =
                               t 2 − t1 Δx
สําหรับคําวา อัตราเร็ว (speed) ในวิชาฟสิกสมีความหมาย
ที่แตกตางจากความเร็ว คือ อัตราเร็วจะคิดจากระยะทางของการ
เคลื่อนที่ทั้งหมดโดยไมคํานึงถึงทิศ
           อัตราเร็วเฉลี่ย (average speed) สําหรับการเคลื่อนที่จาก x1
ไป x2 จะมีขนาดเทากับ ระยะทางจาก x1ไป x2หารดวยเวลา จะผล
เทากับขนาดความเร็วเฉลี่ย โดยกรณีที่วัตถุเคลื่อนที่เลย x2ไปถึง x3
แลวยอนกลับมา x2โดยใชเวลาทั้งหมด (t2-t1) เทาเดิม


         -x                                            +x
                     o          x1         x2 x3

  แสดงการเคลื่อนที่ของวัตถุจาก x1 ไป x3 และจาก x3 กลับมา x2
d
          อตราเรวเฉลย ระยะทางทเคลอนทหารดวยเวลา
          อัตราเร็วเฉลี่ย = ระยะทางที่เคลื่อนที่หารดวยเวลา =         t


           ซึึ้งใ ่ีนี้ d คืือ (x3 − x1 ) + (x3 − x2 ) และ t คือ ( t2 - t1) โ
                ในที                                             ื          โดย
เครื่องหมายขีดสองขางของปริมาณจะหมายถึง ขนาดของปริมาณนั้น
และมีคาเปนบวกเทานัั้น
       ี  ป
           สมมติวา โยนลูกบอลขึนในแนวดิ่ง ลูกบอลลอยขึ้นไปไดสูง 5
                                      ้
เมตร แลวตกกลัับมายัังมืือใ   ในเวลา 2 วินาทีี จากขอความนีี้แสดงวา
                                            ิ
อัตราเร็วเฉลี่ยในชวง 2 วินาทีเทากับระยะทาง (5 เมตร + 5 เมตร) หาร
ดวยเวลา 2 วิินาทีี เทากัับ 5 เมตรตอวิินาทีี่ แตความเร็็วเฉลีี่ยใ วงเดีี่ยว
                                                                     ในช
กันจะเปนศูนยเพราะลูกบอลไดกลับมาที่เดิมคือ มีการกระจัดทั้งหมด
เปนศูนย
 ป
3. ความเร็วและอัตราเร็วขณะใดขณะหนึ่ง
             ความเร็วขณะใดขณะหนึ่ง (instantaneous velocity) ก็คอความเร็ว
                                                                  ื
   ของวัตถุุในชวงเวลาที่สั้นมากขณะผานจุดจุุดหนึ่งหรือที่เวลาใดเวลาหนึ่ง
                                         ุ
   หรือพูดสั้นๆ เปนความเร็วในชวงเวลาที่สั้นมาก นั่นคือ

                                lim ⎛ Δx ⎞ dx
                     Uint = Δt ⎯⎯ →0⎜ ⎟ =
                                 ⎯
                                    ⎝ Δt ⎠ dt

          สัญลักษณในสมการ เปนสัญลักษณที่ใชในวิชาคณิตศาสตร (แคลคูลส     ั
(calculus)) แสดงกระบวนการทางคณิตศาสตรที่ใชหาคา lim (limit) เมื่อทราบ
ฟงกชนชัดเจนและคา dx หรือ ( dt ของ x ) เปนการทําอนุพันธ (differentiation)
       ั               dt
                                d


ของ x เทียบกับเวลาซึ่งเปนสัญลักษณแทน Δt ⎯lim→0⎛ Δx ⎞ = dx นั่นเอง dt ถือเปน
                                            ⎯ ⎜ ⎟
                                             ⎯
                                                                    d
                                                ⎝ Δt ⎠ dt
ตัวดําเนินการ (operator)
ความชันคือ ลิมิต (limit) หรือ “ขีดจํากัด” ของความชัน และ
ถอไดวาคาความเรวของวตถุท ซงเปนความเรวขณะใดขณะหนงท
ถือไดวาคาความเร็วของวัตถที่ Q ซึ่งเปนความเร็วขณะใดขณะหนึ่งที่
เวลา t2 หรือที่จุด Q
           เพอใหเขาใจความหมายของคาลมต เราสามารถสงเกตไดจาก
           เพื่อใหเขาใจความหมายของคาลิมิต เราสามารถสังเกตไดจาก
ตัวอยางตอไปนี้ เชน สมมติวา เราทราบวากราฟตําแหนงกับเวลาเปนไป
ตามสมการ x = 5t2 ในหนวยเมตร เมื่อ t เปนวินาที เราสามารถรูคา
                       ในหนวยเมตร เมอ เปนวนาท เราสามารถร 
ตําแหนง x ที่เวลาตางๆไดจากการคํานวณจากสมการ
         ให Q เปนตําแหนงที่ 2.00 วินาที คาของตําแหนง P ที่เวลา
ตางๆ ใกล Q และคาของความชันของเสน PQ ดังตาราง ซึ่งจะเห็นลิมิต
ของความชันที่ เปน 2.00 เมตรตอวอนาที
ตารางแสดงคา x ของ P และ Q ที่เวลาตางๆ และคาความชันของเสน PQ

t (s)                P (m)               Q (m)              ความชันของPQ(m/s)
1.50                 11.25               20.00               17.50
1.80                 16.20               20.00               19.00
1.90                 18.05               20.00               19.50
1.98                 19.602              20.00               19.90
1.99                 19.8005             20.00               19.95
1.995                19.9001             20.00               19.98
1.999                19.9800             20.00               20.00
1.9999               19.9980             20.00               20.00

         ตารางแสดงความชันไมเปลี่ยนเมื่อ t เขาใกล 2.00 วินาที
4. ความเรง
             ความเรง (acceleration) หมายถึง การเปลี่ยนแปลงความเร็ว
   ตอเวลา นั่นคือ ถาที่เวลา t2 วัตถุมีความเร็ว U2 และที่เวลากอนนันคือ t1
                                      ุ                             ้
   วัตถุมีความเร็ว U1 ถือวา ความเรงเฉลี่ย ในชวงเวลา t1 ถึงเวลา t2 คือ

                            v 2 − v1 Δ v
                   a av   =          =
                            t 2 − t1   Δt

ความเรงขณะใดขณะหนึ่ง (i t t
ความเรงขณะใดขณะหนง (instantaneous acceleration) โดยใชสัญลักษณ คอ
                                      l ti ) โดยใชสญลกษณ คือ

                                 lim  ⎛ Δv ⎞ dv
                  aint = a = Δt ⎯⎯ → 0⎜ ⎟ =
                                   ⎯
                                      ⎝ Δt ⎠ dt
หากเขียนกราฟของความเร็วกับเวลา ความชันของเสนสัมผัสที่จุด
   
ตางๆ ก็็คือความเรงของวััตถุที่จุดนัั้นๆ ใ านองเดียวกันกัับที่ีความเร็็วเปน
                                        ในทํํ   ี ั                    ป
ความชันของกราฟระหวางตําแหนงกับเวลา สําหรับคําวา อัตราเรง ก็จะไม
คิิดทิิศทางในลัักษณะเดีียวกัับอััตราเร็ว
           ใ                           ็

   5. การเคลอนทกรณความเรงเปนคาคงตว
            ื่ ี่ ี      ป  ั
              กรณีที่ความเรงมีคาคงตัว (constant acceleration) นั่นคือมีการ
   เปลี่ยนแปลงแบบเพิิ่มขึึ้นหรืือลดลงอยางสมํ่ําเสมอ กราฟของเร็็วทีี่เพิิ่มขึึ้นอยาง
    ปี ป                                                   ฟ
   สม่ําเสมอ ซึ่งกราฟความเร็วกับเวลากับกราฟเสนตรง ความชันที่ทุกจุดบน
   เสนตรงคืือ ความชัันของเสนตรง
                 ความเรว
                 ความเร็ว
                        v


                       v0                           t
                                                                            เวลา
ความชันของเสนตรงคือ           v − v0
                                                    t −0
                                                             ใหเทากับ a0 ซึงเปนคาคงตัว
                                                                             ่
                                 ดัั้งนัน
                                        ั้   v − v0 = a0t


                                 หรือ         v = v0 + a0t




           ความหมายในสมการนี้คอ v เปนความเร็วที่เวลา t , v0 เปนความเร็วที่เวลา
                                     ื
t = 0 หรืือความเร็วเริ่มตน , a เปนความเร็วคาหนึึ่ง และ เปนเวลา ซึ่ึงจากสมการ
                  ็ ิ             ป         ็              ป
ขางตนก็จะเห็นไดวา ความเร็วมีคาเพิ่มขึ้นอยางสม่ําเสมอ สมการนี้จะใชไดทั้งคา ที่
เปน + และ – (ถา หมายถึงเวลากอนที่จะเริิ่มนัับวาเปนศูนย)
 ป                         ึ       ี                ป      
             ความเร็ว

                        v1

                         v

                        v0
                   0                                                         เวลา
                                              Δt                   t1
                             0
การหาระยะทางที่วตถุเคลื่อนที่ได อาจจะหาไดโดยใชกราฟ ถาใช
                            ั
  
ชวงเวลา Δt เปนชวงเวลาสัั้นๆ ขณะทีี่วัตถุมีความเร็็ว v ระยะทางทีี่วัตถุ
                  ป 
เคลื่อนที่ไดในชวงเวลา Δt ก็คือ vΔt ซึ่งชวงเวลาสั้นๆ v เปลี่ยนแปลงไม
                       Δ
มาก ดัังนัั้นการรวม vΔt ทัั้งหมด โ ่ิมจาก t = 0 จนถึึง t = t1 จะได
                                      โดยเริ                        ไ
ระยะทางของการเคลื่อนที่ทั้งหมด และเปนระยะทางที่ถูกตอง เมื่อ Δtเขา
ใกล ในภาษาวชาของแคลคูลัส การรวมคืือ การอนทเกรต (
ใ ศูนย ใ           ิ                              ิ ิ (integrate) ของ
                                                                     )
      vΔt จาก t = 0 จนถึง t = t1 จะไดระยะทางทั้งหมดสมมติวาเปน ( x1 –
x0) โ ั
    โดยสญญาลกษณคอั ื

                                        t1

                     (x1 − x0 ) = ∫ vdt
                                        0
คาสุดทายของตําแหนง x1 ของความเร็ว v1 และเวลา t1 อาจ
เปลี่ยนเปน x ,v และ t ซึ่งเมื่อแทนคาที่เวลาใดๆ ก็ยังคงความเปนจริงทุก
ประการ เขียนเปนสูตรไดวา

                                       ⎛ v0 + v ⎞
                           (x − x0 ) = ⎜        ⎟t
                                       ⎝ 2 ⎠

                    และเมื่อแทนคา จากสมการ จะได


          (x − x0 ) = ⎜ v0 + v0 + a0t ⎟t
                      ⎛               ⎞
                                             (x − x0 ) = v0t + a0t
                                                              1 2
                     ⎝       2       ⎠                        2

                                                             v − v0
      ในขณะท
      ในขณะที่ v − v0 = a0t                   ดังนั้น
                                              ดงนน      t=
                                                               a0
หากแทน t ที่ไดในสมการ จะได
                      ⎛ v + v ⎞⎛ v − v0 ⎞
             x − x0 = ⎜ 0     ⎟⎜
                               ⎜ a ⎟
                      ⎝ 2 ⎠⎝ 0 ⎟        ⎠

      ซึ่งจะได   v 2 − v0 = 2a0 ( x − x0 )
                         2




จากสมการขางตน มักนิยมเขียนในหนังสือตางๆ ในรูปแบตอไปนี้
v = u + at      (สู )
                      ( ตร 1)


          ⎛u+v⎞       (สูตร 2)
      s=⎜        ⎟t
          ⎝ 2 ⎠
                      (สูตร 3)
               1 2
      s = ut + at
               2      (สูตร 4)
และ   v − u = 2as
       2     2
ตองตระหนักวาสูตรเหลานี้ใชไดถูกตองเฉพาะกรณีที่ a เปนคาคงตัว
เทานน ในทนเขยน
เทานั้น ในที่นี้เขียน x – x0 เปน s และ v0 เปน u
                              เปน           เปน

หมายเหตุ
หมายเหต สมการ (3) อาจไดจาก integrate โดยตรง
                  อาจไดจาก

                                             t               t
                          x − x0 =          ∫ vdt
                                            0
                                                        =   ∫ (v
                                                            0
                                                                   0   + a 0 t )dt




                                                 1
                                         = v0t +   a 0t                     2

                                                 2
6. วัตถุตกอยางเสรีมีความเรงสม่ําเสมอ
        ุ
           สิ่งของหรือวัตถุตางๆไมวาจะมีมวลเทาใดจะตกลงสูพื้นดวยความเรง
สมาเสมอ นั่นคือ ความเรงมคาคงตวและมทศลงในแนวดงเสมอ คาของความเรงของ
สม่ําเสมอ นนคอ ความเรงมีคาคงตัวและมีทิศลงในแนวดิ่งเสมอ คาของความเรงของ
ของตกอยางเสรีนี้
           การตกอยางเสร
           การตกอยางเสรี (free fall) หมายถึง การตกโดยไมมสงใดกดขวางหรอ
                                      หมายถง การตกโดยไมมีสิ่งใดกีดขวางหรือ
กระทบ การมีอากาศกระทบระหวางตกทําใหไมไดผลดั้งอุดมคติ แตถาวัตถุตกจากที่
                                                                    
สูง วตถุมความเร็วมากในชวงทายซึ่งอากาศจะมีการตานทานการเคลื่อนที่มากขึ้น
สง วัตถมีความเรวมากในชวงทายซงอากาศจะมการตานทานการเคลอนทมากขน
และทําใหความเรงผิดไป
           ความเรงของวัตถที่ตกลงสูพื้นโลกเรียกวา คาความโนมถวง (gravity) และ
                             ุ                                        (g v y)
ใชสัญลักษณเปน g คาของความเรงนี้ ณ จุดตางๆ จะมีคาระหวาง 9.780 ถึง 9.785
เมตร/(วินาที)2 คานี้ขนอยูกับละติจด (latitude) ของจดที่ทดลอง คาเฉลี่ยของ g ทั่วโลก
       (              ึ้           ู (        )     ุ
ที่ถือเปนคามาตรฐาน คือ 9.8065 m/s2
7. การเคลือนทีในสองมิติ และสามมิติ
          ่ ่
          การเคลอนทในสองมตสามารถแยกคดแบบการเคลอนทหนงมตทตงฉาก
          การเคลื่อนที่ในสองมิติสามารถแยกคิดแบบการเคลื่อนที่หนึ่งมิติที่ตั้งฉาก
กัน และสามารถ นําการคิดสองทางนั้นมาประกอบกันหรือนํามารวมกันแบบเวกเตอร
ได ตามแนวของแกนสามแกนท ตั้งฉากซึ่งกัน คอ ตามแกนของระบบโคออรดเนต
ได ตามแนวของแกนสามแกนที่ ตงฉากซงกน คือ ตามแกนของระบบโคออรดิเนต
XYZ สําหรับการเคลื่อนที่สามมิติ และตามแกน ของระบบโคออรดิเนต XY สําหรับ
การเคลอน ที่สองมิต ตาแหนงของวตถุในสองมตทจุ ทเวลา กาหนดไดดวยคา
การเคลื่อน ทสองมติ ตําแหนงของวัตถในสองมิติที่จด P ที่เวลา กําหนดไดดวยคา
และ ทางแกน X และแกน Y ตามลําดับ และตําแหนงของวัตถุนั้นที่เวลา (จุด Q)
สมมตใหเปน
สมมติใหเปน และ การกระจดหรอการเปลยนแปลงตาแหนงระหวางสองจุดนนให
                   การกระจัดหรือการเปลี่ยนแปลงตําแหนงระหวางสองจดนั้นให
เปน ไปตามเสนโคงดังรูป
รูปแสดงตาแหนงและการกระจดของวตถุในชวงเวลา
                      รปแสดงตําแหนงและการกระจัดของวัตถในชวงเวลา t1 และ t2

ความเร็วเฉลี่ยสําหรับการเคลื่อนที่ทาง X คือ
                      x        − x1
    v             =        2
                               − t1
        x , av
                       t
และความเร็วเฉลี่ยสําหรับการเคลือนทีทาง Y คือ
                               ่ ่
                           2



                      y        − y
    v             =        2          1
                               − t1
         y , av
                       t
เมื่อ t1 กับ t2 เขาใกลกันมาก ๆ ความเร็วเฉลี่ยก็จะเปนความเร็วขณะใดขณะหนึ่ง
                           2




เชนเดียวกับการคิดในหนึ่งมิติ
8. เวกเตอรตําแหนงและเวกเตอรความเร็วในสองมิติ
                v
           เวกเตอร R1 เปน เวกเตอรตําแหนง (position vector) ที่เวลา t สําหรับวัตถุ
                                                v
ที่มีคาทาง x เปน x และมีคา y เปน y เวกเตอร R1 จะมีขนาดและทิศชัดเจนเทียบกับ
จุดกําเนิดของโคออรดิเนต เมื่อเปลี่ยนเปน t ตําแหนงของวัตถุเปลี่ยนไปเปน เวกเตอร
v
R2
         ความเร็วเฉลี่ยสามารถเขียนในรูปเวกเตอรไดเปน
                                v       v
                      v         R 2 − R1
                      v av    =
                                 t 2 − t1
        โดยมีองคประกอบทาง x และ y เปนไปตามขางตน
        อตราเรวเฉลยสาหรบการเคลอนทในสองมต จะตางจากความเร็วเฉลี่ยอยาง
        อัตราเร็วเฉลี่ยสําหรับการเคลื่อนที่ในสองมิติ จะตางจากความเรวเฉลยอยาง
ชัดเจน ขนาดของอัตราเร็วเฉลี่ยระหวางจุด P และ Q ในขณะที่ของความเร็วเฉลี่ยจะ
เปนระยะทางตามเสนตรงระหวาง
เปนระยะทางตามเสนตรงระหวาง P และ Q หารดวยเวลา
                                           หารดวยเวลา
สําหรับการเคลื่อนที่ของรถยนตบนถนน รถเคลื่อนที่ดวยอัตราเร็วเทาใด
โดยไมสนใจวาเคลือนทีไปทางทิศใด การเคลือนทีดวยรถยนตจากเมืองหนึ่งไ ก
     ไ                ่ ่                       ่ ่                           ไปอี
เมืองหนึ่ง ระยะทางตามถนนมีความสําคัญกวาระยะทางตามเสนตรงระหวางเมือง
ตามแผนที่ ดังนันอัตราเร็็วของรถมีความสําคัญตอผูใชรถ และในทางปฏิบัติ
                   ้
เครื่องมือที่จะวัดอัตราเร็วของรถสามารถทําไดงายกวาวัดความเร็ว เครื่องวัดในรถ
เปนเครืื่องวัดอัตราเร็็ว หรือเปน “มาตรอัตราเร็็ว” (speedometer) โดยวัดอัตราเร็็ว
                              ื
จากการหมุนของลอรถและขนาดของยางที่ใช ดังนั้นการใชยางที่ไมเปนไปตามที่
กําหนดของรถ จะทําใหมาตรวัดอัตราเร็็วแสดงผลผิดไ          ไปจากความจริง หรืือยางเกา
ที่ใชสึกหรอ จะทําใหอัตราเร็วผิดไปเล็กนอยและไดระยะทางที่สะสมผิดไปดวย
9. ความเรงในสองมิติ
         ตามนิิยามของความเรง ซึ่ึงคืือเปลี่ยนความเร็็วตอเวลา ความเรงเฉลี่ยยอม
                                         ปี                                  ี
เขียนเปนสัญลักษณตามสมการตอไปนี้
                                        v      v
                            v           v 2 − v1
                            a         =
                                         t 2 − t1
                                 av


                                                                 v
          หากเปนความเรงเฉลี่ยระหวางจุด P และ Q ความเร็ว v และ v คือ  v
                                                                  2     1
ความเร็็ว (ขณะใดขณะหนึ่ง) ทีี่จุด P และ Q ตามลํําดัับ (v2 − v1 ) ป
                ใ           ึ                          v v ตองเปนการลบอยาง
                                                                            
เวกเตอร นั่นคือ (v − v )อาจมีขนาดและทิศเปนไปตามรูปใดรูปหนึ่งของรูปตอไปนี้
                  v v
                    2   1

               v
             − v1

                            v                                              v v
              v v           v2                                             v2 − v1
              v2 − v1                                      v
                                                           v2
                                 v
                                 v1
                                                                      v
                                                                      v1
ขนาดและทิศของความเร็วที่เปลี่ยนไปในชวงเวลา (t2 −t1 ) แสดง
ดวยเวกเตอร v v และเมอจุด
ดวยเวกเตอร (v − v ) และเมื่อจด P และ Q เขาใกลกันมากๆ ความเรงเฉลย
              2   1
                                         เขาใกลกนมากๆ ความเรงเฉลี่ย
                                               v
                                          v dv
กลายเปนความเรงขณะใดขณะหนึ่งไดโดย a = dt ตามสัญลักษณของ
แคลลูล ความเร็วที่เปลี่ยนไปไมจําเปนตองอย นทิศของความเร็วเดิม ซง
แคลลลัส ความเรวทเปลยนไปไมจาเปนตองอยูในทศของความเรวเดม ซึ่ง
หมายความวา ความเรงของการเคลื่อนที่ไมจําเปนตองอยูในทิศเดียวกับ
ความเรว จะเปนทขณะใดๆ กตาม
ความเร็ว จะเปนที่ขณะใดๆ ก็ตาม
          แผนภาพเชิงเวกเตอรของความเรงเทียบกับเวกเตอรความเร็วที่
ขณะหนง ซึ่งโดยทั่วไปความเรงอาจทํามมขณะหนึ่งที่ไมตั้งฉากกับความเร็วดัง
ขณะหนึ่ง ซงโดยทวไปความเรงอาจทามุมขณะหนงทไมตงฉากกบความเรวดง
รูปขางตน และสามารถจะมองไดวา มีองคประกอบหนึ่งของความเรงที่ตั้งฉาก
กบความเรว
กับความเร็ว
10.
10.ความเร็วสัมพัทธ( Relative Velocity )
                                     y
            การจะบอกวาวัตถุอยูในตําแหนงใดใหชัดเจน และเปนที่เขาใจกันได
เปนอยางด ยอมตองมจุดอางองและแกนอางอง นั่นคือ มีระบบโคออรดิเนตอางอิง
เปนอยางดี ยอมตองมีจดอางอิงและแกนอางอิง นนคอ มระบบโคออรดเนตอางอง
ระบบๆหนึ่งตางมีความเร็วเมื่อเทียบกับอีกระบบหนึ่ง สิ่งนี้เปนไปไดเสมอ เมื่อ
เปนเชนน วัตถที่เห็นอย ิ่งในระบบหนึ่งก็จะปรากฏการเคลื่อนที่ในอีกระบบหนึ่ง
เปนเชนนี้ วตถุทเหนอยูนงในระบบหนงกจะปรากฏการเคลอนทในอกระบบหนง
หรือถาวัตถุเคลือนที่อยางหนึ่งในระบบหนึ่ง จะปรากฏการเคลื่อนที่ตางกัน เรื่องนี้
                   ่
แสดงใหเหนวา ความเรวเปนปรมาณสมพทธ
แสดงใหเห็นวา ความเร็วเปนปริมาณสัมพัทธ
            ตัวอยางของการสังเกตที่เกี่ยวกับความเร็วสัมพัทธ เชน ขณะที่ฝนตก ให
เม็ดฝนมีขนาดที่ทําใหตกดวยความเร็วสม่ําเสมอ 10 เมตรตอวินาที และตกใน
แนวดิ่งในอากาศดิ่ง ผูสังเกตที่อยูในรถยนตวิ่งดวยความเร็ว 36 กิโลเมตรตอ
ชั่วโมง ( 10 เมตรตอวินาที ) จะเห็นความเร็วของเม็ดฝนที่จะเห็นเปนความเร็ว
สัมพัทธ สิ่งที่ลอยอยูนิ่งในอากาศขางหนาของผูสังเกตที่อยูในรถ ผูสังเกตยอม
เห็นสิ่งนั้นเคลือนที่เขาหาดวยความเร็ว มีขนาดเทาที่รถวิ่ง
                 ่
ซงหมายถงความเรวของทศตรงกนขามกบการเคลอนทของตนเอง สิ่ง
              ซึ่งหมายถึงความเร็วของทิศตรงกันขามกับการเคลื่อนที่ของตนเอง สง
ที่อยูนิ่งดานขาง หรือหลังของผูสังเกตก็จะปรากฏมีความเร็วเชนเดียวกัน ดวย
ความเรวทมทศตรงกนขามกบความเรวของตนเองแตขนาดเทากน v เมอให
ความเร็วที่มีทิศตรงกันขามกับความเร็วของตนเองแตขนาดเทากัน (− v )เมื่อให
                                                                 od
        v                                              v
        vod เปนความเร็วของผูสังเกต ( observer ) ให vR แทนความเร็วของเม็ด
                                                        v     v
                                                                  หรอ v v
ฝน ความเร็วของเม็ดฝนที่ผสังเกตในรถเหนจะเปน v R − vod หรือ vR +(−vod)
     ความเรวของเมดฝนทผู งเกตในรถเห็นจะเปน
นั่นเอง และสามารถแสดงขนาดและทิศทางไดดังรูปตอไปนี้   v
                                                  vod
  แสดงความเร็วสัมพัทธที่ผู
                                     v v                        v
  สังเกตเห็น                         vR − vod                 − vod
                               v
                               vR
                                      v
                                    − vod
11.
11. กรอบอางอิิงเฉืื่อย ( Inertial frame )
          
           กรอบอางอิง ( frame of reference ) หมายถึงระบบโคออรดเิ นต ซึ่งใชในการ
สังเกตการเคลื่อนที่ของวัตถุ กรอบอางอิงตางๆ อาจมีการเคลื่อนที่สัมพัทธกันได ความ
จริงอยากที่จะบอกวากรอบอางอิงเปนกรอบที่อยูนิ่งอยางสมบูรณ เชน เราอยูนิ่งที่ใดที่
หนึ่งบนโลก แตเราก็ทราบวา โลกหมุนรอบตัวเองและเคลือนทีรอบดวงอาทิตยใน
                                                             ่ ่
ขณะเดียวกัน ดังนั้นกรอบอาวอิงที่เราวาอยูนิ่งในตอนแรกนั้น ทั้งหมุนและเคลื่อนที่ไป
ในอวกาศอยางรวดเร็ว จะเร็วเทาใด ก็ตองกําหนดใหไดกอนวาจะใชจดใดเปนจุดอยู
                                                                        ุ
นิ่งที่จะใชอางอิง เชน ดวงอาทิตยหรือจุดศูนยกลางของกาแล็กซี ( galaxy ) ความเร็ว
นั้นเปนปริมาณสัมพัทธเสมอ และความเร็วที่เปนศูนยอาจจะไมเปนศูนยท่แทจริง แต
                                                                            ี
กรอบอางอิงที่มีความเร็วคงตัวสม่ําเสมอ หรือกรอบอางอิงที่ไมมีความเรง กรอบอางอิง
ที่มีความเร็วคงตัว เรียกวา กรอบอางอิงเฉื่อย ( inertial frame of reference )
คําถามทายบท

1.จงหาอัตราเร็วเฉลี่ย และความเร็วเฉลี่ย ของนักเลนสกีดังรูป




 ตอบ
         อตราเรวเฉลย
         อัตราเร็วเฉลี่ย
         (420 m) / (3 min) = 140 m/min
         ความเรวเฉลย
         ความเร็วเฉลี่ย
         (140 m, ขวา / (3 min) = 46.7 m/min, ขวา
2. นักเบสบอลขวางลูกบอลออกไปในแนวระดับดวยความเร็ว 42.5 m ที่ระยะสูงจาก
พื้นดิน 2 m
          ก. เวลาที่ลูกบอลเคลื่อนที่ถึงคนรับลูกซึ่งอยูหางจากคนขวาง 18.5 m
          ข. ลูกบอลจะอยูสูงจากพืื้นเทาใด




วิธีทํา ตังแกนอางอิงทีี่พื้น (จุดเริ่มตนไมไดอยูที่จุด 0,0)
          ้                                 ไ
            เมื่อคาตามแกน x
         x0 = 0m ; v = 42.5m / s ; x = 18.5m ; v = 42.5m / s ; a
                        0x                              x                   x   = 0m / s 2   ;   t =?

            คาตามแกน y
           y 0 = 2m; y = ? ; voy = 0m / s ; v y = ? ; a y   = −9.8m / s 2
ก. หาเวลาจากการเคลื่อนที่ในแนวแกน x
                 x=   x0 + v0 x t +
                                        1
                                          axt
                                        2
     เนืื่องจากเปนการเคลืื่อนทีี่แบบโปรเจกไตลความเรงในแนวแกน x ( ax= 0 )
                ป                   โป ไ          ใ
     x0 = 0 จะได
                   t = x = 18.5(m)
                            v0 x          42.5(m / s )
                   = 0.435 s
ข. พิจารณาการเคลื่อนที่ในแนวแกน y เมื่อความเร็วตนในแนวแกน y เปนศูนย ( voy = 0 )
               y = y +v t+ 1a t
                        0
                               2
                                   0y     y
                                              2



   แต a = − g = −9.8m / s
           y
                               2



               y = a = − g = −9.8m / s
                        y
                                              2




                  = 1.07 m
r    r       r    r
3. แมลงวันตัวหนึ่งบินอยูที่ตําแหนง
                         ู               r = 2i − 3t j + 5tk
                                                    2
                                                                  ซึ่งเปนฟงกชั่นของเวลา
         จงหา ก. ความเร็วเปนฟงกชั่นของเวลา
                   ข. ความเรงเปนrฟงกชั่นของเวลา r
                           r                 d (2i − 3t j + 5tk )
                                                 r       r
         วิธีทํา ก. = = dt        dr                      2

                        v                             dt
                                      r    r
                               = − r6tj + 5k r r
                                             d (− 6tj + 5k )
                                 dv
               ข. =            = dt                dt
                                     r
                               = −6j
                              r    r     r
4.    ฟุตบอลมีความเร็ว               ในหนวย m/s ตอความเร็ว เปลี่ยนเปน
                            35i +12j + 25k
       r      r    r
     32i + 10 j + 5k ภายในเวลา 2s จงหา
                                       r          r r
                            r        Δv          v 2 − v1
      วธทา
      วิธีทํา        ก.
                     ก      a   =    Δt
                                             =      Δt

                                = (                  )         (                 )
                                        r     r     r             r      r     r
                                     32i + 10 j + 5k (m / s ) − 35i + 12 j + 25k (m / s )
                                                              2s

                                = (                      )(
                                         r r       r
                                    − 1.5i − j − 10k m / s 2   )
r
        ข. a    =   a      =        a x + a y + a z2
                                      2     2




                = (− 1.5m / s ) + (− 1m / s ) + (− 10m / s )
                                   2 2                 2 2            2 2




                =   10.2 m / s 2


        เพอความสะดวกในการคานวณเราสามารถใชแคลลูลสเขาชวยในการ
        เพื่อความสะดวกในการคํานวณเราสามารถใชแคลลลัสเขาชวยในการ
เปลี่ยน เปน ds พิจารณาดังนี้
                                   r r       r
        จากนยามของตาแหนง
        จากนิยามของตําแหนง : r = xi + yj + zk
                              r
                                  r r r          r     r     r
         จากนิยามของการกระจัด : dr = r2 − r1 = dxi + dyj + dzk
                                              r     r       r      r
                                         r dr
        จากนิยามของความเร็ว :            v=
                                             dt
                                                = vxi + v y j + vz k

                                              r
        จากนยามของอตราเรว
        จากนิยามของอัตราเร็ว :           v = v = v x + v y + v z2
                                                      2      2


                                             r     r              r
        จากนิยามของความเรง :            r dv
                                         a=
                                            dt
                                               = axi + a y j + az k
5.   จงหาความเร็วขณะใดขณะหนึ่งของเข็มยาวนาฬิกาซึ่งยาว 10cm ดังรูป
     วิธีทํา จากรูป เมื่อตั้งระบบแกนพิกัดฉากดังรูป พิจารณาเข็มนาฬิกากอนถึง
     ตําแหนงสูงสุดเล็กนอย โดยทํามุม θ นอยๆ กอนถึงแกน y จะไดวา
                                        2 r
                                              = − r sin ⎛⎜⎝ Δ2θ ⎞⎟⎠i + r cos⎛⎜⎝ Δ2θ ⎞⎟⎠ j
                                                                   r                    r
                                          r1
                                              จากนั้นพิจารณาเข็มนาฬิกา ภายหลัง
                                           ผานจุดสูงสุดเล็กนอย โดยทํามุม θ              2
                                                      นอยๆ กับแกน y ไปทางขวา
     มือ ดังนั้น                                      จะไดวา
                                                     r
                                                     r2 =            ⎛ Δθ
                                                               r sin ⎜
                                                                  i
                                                                            ⎞r          ⎛ Δθ ⎞ r
                                                                            ⎟ i + r cos ⎜    ⎟j
                                                                     ⎝ 2    ⎠           ⎝ 2 ⎠
                                                           เมื่อ r คือความยาวของเข็มนาฬิกา
                    จากคากาจดของการกระจด
                    จากคํากําจัดของการกระจัด
                          r r r
                       Δr = r2 − r1
                                         ⎛ Δθ             ⎛ Δθ ⎞ r ⎫ ⎧          ⎛ Δθ             ⎛ Δθ ⎞ r ⎫
                              =   ⎧
                                  ⎨r sin ⎜
                                  ⎩      ⎝ 2
                                                ⎞r
                                                ⎟i + r cos⎜
                                                ⎠
                                                               ⎟ j ⎬ − ⎨− r sin ⎜
                                                          ⎝ 2 ⎠ ⎭ ⎩             ⎝ 2
                                                                                       ⎞r
                                                                                       ⎟i + r cos⎜
                                                                                       ⎠
                                                                                                      ⎟ j⎬
                                                                                                 ⎝ 2 ⎠ ⎭
⎛ Δθ   ⎞r
                =      2r sin ⎜
                              ⎝ 2
                                     ⎟i
                                     ⎠
                                              ⎛ Δθ ⎞ Δθ
        พิจารณา Δθ นอยมากๆ จะได
                            r
                                             จะได
                                          sin ⎜
                                              ⎝
                                                   ⎟≈
                                                 2 ⎠  2
               r
             Δ r = ( rΔ θ ) i
        จากนิยามของความเร็ว
             r      Δr
                      r
                              rΔθ r
             v = Δt = Δt i
        ให Δ t → 0 ความเร็วขณะใดขณะหนึ่งเขียนไดเปน
             r rdθ r
             v = i       dt

       เมอ
       เมื่อ θ คือระยะทางเชิงมมของการหมนเปนคาคงที่ เมื่อหมนครบ 1
               คอระยะทางเชงมุมของการหมุนเปนคาคงท เมอหมุนครบ
รอบจะได
             r     ⎛ 2π ⎞ r        r 2π r
             v = r ⎜ T ⎟i
                   ⎝    ⎠
                               = T i
       แทนสมการ
             r π( )
             v =
                     2     0 .1m ˆ
                                 i
                          60 s


               =
                    ⎛          mm ⎞ ˆ
                    ⎜ 10 . 5      ⎟ i
                    ⎝           s ⎠
6. สมการที่มักพบอยูบอยๆ มีกี่สมการ อะไรบาง
        ตอบ มี 4 สมการ ไ แก
                         ได
                    v = u + at                  ( ู )
                                                (สูตร 1)
                         ⎛u+v⎞
                    s=⎜          ⎟t             (สูตร 2)
                         ⎝ 2 ⎠
                              1 2               (สูตร 3)
                    s = ut + at
                               2
       และ          v 2 − u 2 = 2as             (สูตร 4)
Phy1

More Related Content

What's hot

บทที่ 1 การเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรง
บทที่ 1 การเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรงบทที่ 1 การเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรง
บทที่ 1 การเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรงkroosarisa
 
02 เคลื่อนที่แนวตรง
02 เคลื่อนที่แนวตรง02 เคลื่อนที่แนวตรง
02 เคลื่อนที่แนวตรงwiriya kosit
 
การเคลื่อนที่แนวตรง
การเคลื่อนที่แนวตรงการเคลื่อนที่แนวตรง
การเคลื่อนที่แนวตรงAroonrat Kaewtanee
 
การเคลื่อนที่
การเคลื่อนที่การเคลื่อนที่
การเคลื่อนที่พัน พัน
 
การเคลื่อนที่1
การเคลื่อนที่1การเคลื่อนที่1
การเคลื่อนที่1krusridet
 
การเคลื่อนที่
การเคลื่อนที่การเคลื่อนที่
การเคลื่อนที่พัน พัน
 
ความเร็ว
ความเร็วความเร็ว
ความเร็วnuchpool
 
E0b884e0b8a5e0b8b7e0b988e0b899 1 e0b898e0b8a3e0b8a3e0b8a1e0b88ae0b8b2e0b895e0...
E0b884e0b8a5e0b8b7e0b988e0b899 1 e0b898e0b8a3e0b8a3e0b8a1e0b88ae0b8b2e0b895e0...E0b884e0b8a5e0b8b7e0b988e0b899 1 e0b898e0b8a3e0b8a3e0b8a1e0b88ae0b8b2e0b895e0...
E0b884e0b8a5e0b8b7e0b988e0b899 1 e0b898e0b8a3e0b8a3e0b8a1e0b88ae0b8b2e0b895e0...มะดาโอะ มะเซ็ง
 
ความเร็ว
ความเร็วความเร็ว
ความเร็วLai Pong
 
เคาะสัญญาณ
เคาะสัญญาณเคาะสัญญาณ
เคาะสัญญาณAui Ounjai
 
การเคลื่อนที่ของวัตถุ
การเคลื่อนที่ของวัตถุการเคลื่อนที่ของวัตถุ
การเคลื่อนที่ของวัตถุdnavaroj
 
การเคลื่อนที่หนึ่งมิติ
การเคลื่อนที่หนึ่งมิติการเคลื่อนที่หนึ่งมิติ
การเคลื่อนที่หนึ่งมิติkungten555
 
การเคลื่อนที่ในแนวตรง
การเคลื่อนที่ในแนวตรงการเคลื่อนที่ในแนวตรง
การเคลื่อนที่ในแนวตรงuntika
 
ฟิสิกส์
ฟิสิกส์ฟิสิกส์
ฟิสิกส์Mint Minny
 
การเคลื่อนที่แบบต่างๆ01
การเคลื่อนที่แบบต่างๆ01การเคลื่อนที่แบบต่างๆ01
การเคลื่อนที่แบบต่างๆ01tuiye
 

What's hot (19)

บทที่ 1 การเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรง
บทที่ 1 การเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรงบทที่ 1 การเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรง
บทที่ 1 การเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรง
 
02 เคลื่อนที่แนวตรง
02 เคลื่อนที่แนวตรง02 เคลื่อนที่แนวตรง
02 เคลื่อนที่แนวตรง
 
การเคลื่อนที่แนวตรง
การเคลื่อนที่แนวตรงการเคลื่อนที่แนวตรง
การเคลื่อนที่แนวตรง
 
การเคลื่อนที่
การเคลื่อนที่การเคลื่อนที่
การเคลื่อนที่
 
การเคลื่อนที่1
การเคลื่อนที่1การเคลื่อนที่1
การเคลื่อนที่1
 
การเคลื่อนที่
การเคลื่อนที่การเคลื่อนที่
การเคลื่อนที่
 
ความเร็ว
ความเร็วความเร็ว
ความเร็ว
 
การเคลื่อนที่ในหนึ่งมิติ
การเคลื่อนที่ในหนึ่งมิติการเคลื่อนที่ในหนึ่งมิติ
การเคลื่อนที่ในหนึ่งมิติ
 
E0b884e0b8a5e0b8b7e0b988e0b899 1 e0b898e0b8a3e0b8a3e0b8a1e0b88ae0b8b2e0b895e0...
E0b884e0b8a5e0b8b7e0b988e0b899 1 e0b898e0b8a3e0b8a3e0b8a1e0b88ae0b8b2e0b895e0...E0b884e0b8a5e0b8b7e0b988e0b899 1 e0b898e0b8a3e0b8a3e0b8a1e0b88ae0b8b2e0b895e0...
E0b884e0b8a5e0b8b7e0b988e0b899 1 e0b898e0b8a3e0b8a3e0b8a1e0b88ae0b8b2e0b895e0...
 
ความเร็ว
ความเร็วความเร็ว
ความเร็ว
 
Chapter 2 การเคลื่อนที่แนวตรง
Chapter 2 การเคลื่อนที่แนวตรงChapter 2 การเคลื่อนที่แนวตรง
Chapter 2 การเคลื่อนที่แนวตรง
 
เคาะสัญญาณ
เคาะสัญญาณเคาะสัญญาณ
เคาะสัญญาณ
 
การเคลื่อนที่ของวัตถุ
การเคลื่อนที่ของวัตถุการเคลื่อนที่ของวัตถุ
การเคลื่อนที่ของวัตถุ
 
การเคลื่อนที่หนึ่งมิติ
การเคลื่อนที่หนึ่งมิติการเคลื่อนที่หนึ่งมิติ
การเคลื่อนที่หนึ่งมิติ
 
การเคลื่อนที่ในแนวตรง
การเคลื่อนที่ในแนวตรงการเคลื่อนที่ในแนวตรง
การเคลื่อนที่ในแนวตรง
 
ฟิสิกส์
ฟิสิกส์ฟิสิกส์
ฟิสิกส์
 
การเคลื่อนที่แนวตรง
การเคลื่อนที่แนวตรงการเคลื่อนที่แนวตรง
การเคลื่อนที่แนวตรง
 
การเคลื่อนที่แบบต่างๆ01
การเคลื่อนที่แบบต่างๆ01การเคลื่อนที่แบบต่างๆ01
การเคลื่อนที่แบบต่างๆ01
 
การเคลื่อนที่แบบโปรเจคไทล์
การเคลื่อนที่แบบโปรเจคไทล์การเคลื่อนที่แบบโปรเจคไทล์
การเคลื่อนที่แบบโปรเจคไทล์
 

Viewers also liked

เรื่อง การรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิต
เรื่อง การรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิตเรื่อง การรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิต
เรื่อง การรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิตcivicton
 
ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง รายวิชาฟิสิกส์ 2
ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง รายวิชาฟิสิกส์ 2ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง รายวิชาฟิสิกส์ 2
ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง รายวิชาฟิสิกส์ 2Niwat Yod
 
การเคลื่อนที่ในหนึ่งมิติและสองมิติ(เสร็จ)
การเคลื่อนที่ในหนึ่งมิติและสองมิติ(เสร็จ)การเคลื่อนที่ในหนึ่งมิติและสองมิติ(เสร็จ)
การเคลื่อนที่ในหนึ่งมิติและสองมิติ(เสร็จ)Chatwan Wangyai
 
เฉลย การแปลงคำอุปสรรค ม.3 , ม.4
เฉลย การแปลงคำอุปสรรค ม.3 , ม.4เฉลย การแปลงคำอุปสรรค ม.3 , ม.4
เฉลย การแปลงคำอุปสรรค ม.3 , ม.4krusarawut
 
บทที่ 1 หน่วยวัดและปริมาณทางฟิสิกส์
บทที่ 1 หน่วยวัดและปริมาณทางฟิสิกส์บทที่ 1 หน่วยวัดและปริมาณทางฟิสิกส์
บทที่ 1 หน่วยวัดและปริมาณทางฟิสิกส์Thepsatri Rajabhat University
 
มวล แรง และกฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน
มวล แรง และกฎการเคลื่อนที่ของนิวตันมวล แรง และกฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน
มวล แรง และกฎการเคลื่อนที่ของนิวตันธงชัย ควรคนึง
 

Viewers also liked (8)

เรื่อง การรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิต
เรื่อง การรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิตเรื่อง การรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิต
เรื่อง การรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิต
 
ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง รายวิชาฟิสิกส์ 2
ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง รายวิชาฟิสิกส์ 2ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง รายวิชาฟิสิกส์ 2
ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง รายวิชาฟิสิกส์ 2
 
การเคลื่อนที่ในหนึ่งมิติและสองมิติ(เสร็จ)
การเคลื่อนที่ในหนึ่งมิติและสองมิติ(เสร็จ)การเคลื่อนที่ในหนึ่งมิติและสองมิติ(เสร็จ)
การเคลื่อนที่ในหนึ่งมิติและสองมิติ(เสร็จ)
 
แบบฝึกหัดการเคลื่อนที่ 2 มิติ
แบบฝึกหัดการเคลื่อนที่ 2 มิติแบบฝึกหัดการเคลื่อนที่ 2 มิติ
แบบฝึกหัดการเคลื่อนที่ 2 มิติ
 
เฉลย การแปลงคำอุปสรรค ม.3 , ม.4
เฉลย การแปลงคำอุปสรรค ม.3 , ม.4เฉลย การแปลงคำอุปสรรค ม.3 , ม.4
เฉลย การแปลงคำอุปสรรค ม.3 , ม.4
 
บทที่ 1 หน่วยวัดและปริมาณทางฟิสิกส์
บทที่ 1 หน่วยวัดและปริมาณทางฟิสิกส์บทที่ 1 หน่วยวัดและปริมาณทางฟิสิกส์
บทที่ 1 หน่วยวัดและปริมาณทางฟิสิกส์
 
มวล แรง และกฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน
มวล แรง และกฎการเคลื่อนที่ของนิวตันมวล แรง และกฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน
มวล แรง และกฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน
 
แผนBioม.5 1
แผนBioม.5 1แผนBioม.5 1
แผนBioม.5 1
 

Similar to Phy1

บทที่ 2 การเคลื่อนที่ในหนึ่งมิติ
บทที่ 2 การเคลื่อนที่ในหนึ่งมิติบทที่ 2 การเคลื่อนที่ในหนึ่งมิติ
บทที่ 2 การเคลื่อนที่ในหนึ่งมิติThepsatri Rajabhat University
 
การเคลื่อนที่1
การเคลื่อนที่1การเคลื่อนที่1
การเคลื่อนที่1kroosarisa
 
คลื่น
คลื่นคลื่น
คลื่นrumpin
 
การเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรง
การเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรงการเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรง
การเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรงkroosarisa
 
บทที่ 2 การเคลื่อนที่แบบต่าง ๆ
บทที่ 2 การเคลื่อนที่แบบต่าง ๆบทที่ 2 การเคลื่อนที่แบบต่าง ๆ
บทที่ 2 การเคลื่อนที่แบบต่าง ๆThepsatri Rajabhat University
 
Big ฟิสิกส์ F1
Big ฟิสิกส์ F1Big ฟิสิกส์ F1
Big ฟิสิกส์ F1weerawat pisurat
 
Ep05 การเคลื่อนที่แนวตรง01 อัตราเร็ว และความเร็ว (v คงที่)
Ep05 การเคลื่อนที่แนวตรง01 อัตราเร็ว และความเร็ว (v คงที่)Ep05 การเคลื่อนที่แนวตรง01 อัตราเร็ว และความเร็ว (v คงที่)
Ep05 การเคลื่อนที่แนวตรง01 อัตราเร็ว และความเร็ว (v คงที่)wiriya kosit
 
แรงและการเคลื่อนที่
แรงและการเคลื่อนที่แรงและการเคลื่อนที่
แรงและการเคลื่อนที่Dew Thamita
 
ความเร็ว0
ความเร็ว0ความเร็ว0
ความเร็ว0krusridet
 
9789740328896
97897403288969789740328896
9789740328896CUPress
 
9789740328896
97897403288969789740328896
9789740328896CUPress
 
การเคลื่อน ครูอาร์ต
การเคลื่อน ครูอาร์ตการเคลื่อน ครูอาร์ต
การเคลื่อน ครูอาร์ตkalita123
 
การเคลื่อน ครูอาร์ต
การเคลื่อน ครูอาร์ตการเคลื่อน ครูอาร์ต
การเคลื่อน ครูอาร์ตkalita123
 
การเคลื่อนที่
การเคลื่อนที่การเคลื่อนที่
การเคลื่อนที่kroosarisa
 
wave part1
wave part1wave part1
wave part1sutham
 
wave part1
wave part1wave part1
wave part1sutham
 
Wp2บทเรียนโปรแกรมความเร็ว และความเร่ง
Wp2บทเรียนโปรแกรมความเร็ว และความเร่งWp2บทเรียนโปรแกรมความเร็ว และความเร่ง
Wp2บทเรียนโปรแกรมความเร็ว และความเร่งkrupornpana55
 

Similar to Phy1 (20)

บทที่ 2 การเคลื่อนที่ในหนึ่งมิติ
บทที่ 2 การเคลื่อนที่ในหนึ่งมิติบทที่ 2 การเคลื่อนที่ในหนึ่งมิติ
บทที่ 2 การเคลื่อนที่ในหนึ่งมิติ
 
การเคลื่อนที่1
การเคลื่อนที่1การเคลื่อนที่1
การเคลื่อนที่1
 
คลื่น
คลื่นคลื่น
คลื่น
 
การเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรง
การเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรงการเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรง
การเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรง
 
บทที่ 2 การเคลื่อนที่แบบต่าง ๆ
บทที่ 2 การเคลื่อนที่แบบต่าง ๆบทที่ 2 การเคลื่อนที่แบบต่าง ๆ
บทที่ 2 การเคลื่อนที่แบบต่าง ๆ
 
Brands physics
Brands physicsBrands physics
Brands physics
 
Test phy1
Test phy1Test phy1
Test phy1
 
Big ฟิสิกส์ F1
Big ฟิสิกส์ F1Big ฟิสิกส์ F1
Big ฟิสิกส์ F1
 
Ep05 การเคลื่อนที่แนวตรง01 อัตราเร็ว และความเร็ว (v คงที่)
Ep05 การเคลื่อนที่แนวตรง01 อัตราเร็ว และความเร็ว (v คงที่)Ep05 การเคลื่อนที่แนวตรง01 อัตราเร็ว และความเร็ว (v คงที่)
Ep05 การเคลื่อนที่แนวตรง01 อัตราเร็ว และความเร็ว (v คงที่)
 
แรงและการเคลื่อนที่
แรงและการเคลื่อนที่แรงและการเคลื่อนที่
แรงและการเคลื่อนที่
 
ความเร็ว0
ความเร็ว0ความเร็ว0
ความเร็ว0
 
9789740328896
97897403288969789740328896
9789740328896
 
9789740328896
97897403288969789740328896
9789740328896
 
การเคลื่อน ครูอาร์ต
การเคลื่อน ครูอาร์ตการเคลื่อน ครูอาร์ต
การเคลื่อน ครูอาร์ต
 
การเคลื่อน ครูอาร์ต
การเคลื่อน ครูอาร์ตการเคลื่อน ครูอาร์ต
การเคลื่อน ครูอาร์ต
 
การเคลื่อนที่
การเคลื่อนที่การเคลื่อนที่
การเคลื่อนที่
 
Movement
MovementMovement
Movement
 
wave part1
wave part1wave part1
wave part1
 
wave part1
wave part1wave part1
wave part1
 
Wp2บทเรียนโปรแกรมความเร็ว และความเร่ง
Wp2บทเรียนโปรแกรมความเร็ว และความเร่งWp2บทเรียนโปรแกรมความเร็ว และความเร่ง
Wp2บทเรียนโปรแกรมความเร็ว และความเร่ง
 

More from Miss.Yupawan Triratwitcha

สารสนเทศโรงเรียนกระแชงวิทยา ปีการศึกษา2558
สารสนเทศโรงเรียนกระแชงวิทยา ปีการศึกษา2558สารสนเทศโรงเรียนกระแชงวิทยา ปีการศึกษา2558
สารสนเทศโรงเรียนกระแชงวิทยา ปีการศึกษา2558Miss.Yupawan Triratwitcha
 
สารสนเทศปีการศึกษา2558
สารสนเทศปีการศึกษา2558สารสนเทศปีการศึกษา2558
สารสนเทศปีการศึกษา2558Miss.Yupawan Triratwitcha
 
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาฟิสิกส์ 2 (ว30202)
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาฟิสิกส์ 2 (ว30202)แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาฟิสิกส์ 2 (ว30202)
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาฟิสิกส์ 2 (ว30202)Miss.Yupawan Triratwitcha
 
สรุปประเด็นสำคัญการปฏิรูปการศึกษารอบสอง
สรุปประเด็นสำคัญการปฏิรูปการศึกษารอบสองสรุปประเด็นสำคัญการปฏิรูปการศึกษารอบสอง
สรุปประเด็นสำคัญการปฏิรูปการศึกษารอบสองMiss.Yupawan Triratwitcha
 

More from Miss.Yupawan Triratwitcha (20)

หน้าปก
หน้าปกหน้าปก
หน้าปก
 
4 ตอน4 sar57
4 ตอน4 sar574 ตอน4 sar57
4 ตอน4 sar57
 
3 ตอน3 sar57
3 ตอน3 sar573 ตอน3 sar57
3 ตอน3 sar57
 
2 ตอน2 sar57
2 ตอน2 sar572 ตอน2 sar57
2 ตอน2 sar57
 
1 ตอน1 sar57
1 ตอน1 sar571 ตอน1 sar57
1 ตอน1 sar57
 
สารสนเทศโรงเรียนกระแชงวิทยา ปีการศึกษา2558
สารสนเทศโรงเรียนกระแชงวิทยา ปีการศึกษา2558สารสนเทศโรงเรียนกระแชงวิทยา ปีการศึกษา2558
สารสนเทศโรงเรียนกระแชงวิทยา ปีการศึกษา2558
 
สารสนเทศปีการศึกษา2558
สารสนเทศปีการศึกษา2558สารสนเทศปีการศึกษา2558
สารสนเทศปีการศึกษา2558
 
4 ตอน4 sar55
4 ตอน4 sar554 ตอน4 sar55
4 ตอน4 sar55
 
3 ตอน3 sar55
3 ตอน3 sar553 ตอน3 sar55
3 ตอน3 sar55
 
2 ตอน2 sar55
2 ตอน2 sar552 ตอน2 sar55
2 ตอน2 sar55
 
1 ตอน1 sar55
1 ตอน1 sar551 ตอน1 sar55
1 ตอน1 sar55
 
Book pp56legal
Book pp56legalBook pp56legal
Book pp56legal
 
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาฟิสิกส์ 2 (ว30202)
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาฟิสิกส์ 2 (ว30202)แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาฟิสิกส์ 2 (ว30202)
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาฟิสิกส์ 2 (ว30202)
 
Interractive simulation
Interractive simulationInterractive simulation
Interractive simulation
 
Teacher
TeacherTeacher
Teacher
 
Twitter
TwitterTwitter
Twitter
 
W 2
W 2W 2
W 2
 
สรุปประเด็นสำคัญการปฏิรูปการศึกษารอบสอง
สรุปประเด็นสำคัญการปฏิรูปการศึกษารอบสองสรุปประเด็นสำคัญการปฏิรูปการศึกษารอบสอง
สรุปประเด็นสำคัญการปฏิรูปการศึกษารอบสอง
 
Phy1 m4 kruyu
Phy1 m4 kruyuPhy1 m4 kruyu
Phy1 m4 kruyu
 
Substance2
Substance2Substance2
Substance2
 

Phy1

  • 2. การเคลื่อนที่ในหนึ่งและสองมิติ ในชีวิตประจําวัน เราจะเห็นการเคลื่อนที่ของสิ่งของตางๆ มากมาย หลากหลายรูปแบบ เชน การเคลื่อนที่ของอวัยวะตางๆ ของคนเดิน รถยนตแลน และใบไมรวง เปนตน เมื่อพิจารณาการเคลื่อนที่เหลานั้นแลว จะพบวา มีสวนใหญ ลักษณะซับซอน เชน มีท้ังเสนทางการเคลื่อนที่เปนแนวทางโคงวกวน เพือใหงาย  ่ ตอการเขาใจการเคลื่อนที่ เราจะเริ่มศึกษาจากการเคลื่อนที่ในแนวเฉพาะเสนตรง กอน แลวจึึงจะขยายความเขาใจกับการเคลือนทีสองและสามมิติ หรือในลักษณะที่  ่ ่ ซับซอนขึ้น
  • 3. 1.ตําแหนงและการกระจัด ตาแหนงและการกระจด ตําแหนง (position) ก็คอการแสดงออก หรือการบอกให ื วา วัตถหรือสิ่งของพิจารณาอย ใด เราจะคดถงวตถุท่มีขนาดเล็ก วา วตถุหรอสงของพจารณาอยูที่ใด เราจะคิดถึงวัตถทีมขนาดเลก ซึ่งบอกไดชัดเจนวามีตําแหนงอยูที่ใด โดยจุดอางอิงเปนปจจัย จาเปนเพอความชดเจน อาจเปนจุดศูนยของโคออรดเนตในพกด จําเปนเพื่อความชัดเจน อาจเปนจดศนยของโคออรดิเนตในพิกัด xy เนื่องจากเราจะพิจารณากรณีหนึ่งมิตกอน เราจะใชเฉพาะแกน x ิ และอาจบอกวาวตถุอยู ี่ตําแหนง และอาจบอกวาวัตถอยทตาแหนง x = x1 ที่เวลา t1 หมายถึงวัตถทีอยู ทเวลา หมายถงวตถุท่อย ในระยะ x1 จากจุด O (จุดอางอิง) ถาวัตถุเลื่อนไปอยูที่ x2 ที่เวลา t2 แสดงวา วัตถไดมีการเคลื่อนที่ไประหวางเวลา แสดงวา วตถุไดมการเคลอนทไประหวางเวลา t1 และ t2 -x +x o x1 x2
  • 4. การเปลี่ยนตําแหนงของวัตถุจาก x = x1 ไปเปน หรือ ( x = x2) เรียกใน ภาษาฟสิกสวา การกระจัด (displacement) การกระจัดมีทิศในทีนีมทิศ displacement) ่ ้ ี จาก x1 ไป x2 ดังในรูปภาพ โดยทั่วไปการกระจัดหมายถึงการเปลี่ยน ตําแหนงของวัตถุไปจากตําแหนงปกติ (สมดุล) 2.ความเร็วเฉลี่ยและอัตราเร็วเฉลี่ย โดยนิยามของ ความเร็ว ( velocity ) คือ การเปลี่ยนตําแหนงเวลา y สําหรับชวงเวลาที่ยาว ความเร็วเฉลี่ยเปนเสมือนความเร็วที่การเปลี่ยนแปลง ในชวงเวลาที่วดมีคาเดียวที่สม่ําเสมอ ความเร็วเฉลี่ยในทิศจาก x1 ไป x2 คือ ั x2 − x1 Δx ν av = = t 2 − t1 Δx
  • 5. สําหรับคําวา อัตราเร็ว (speed) ในวิชาฟสิกสมีความหมาย ที่แตกตางจากความเร็ว คือ อัตราเร็วจะคิดจากระยะทางของการ เคลื่อนที่ทั้งหมดโดยไมคํานึงถึงทิศ อัตราเร็วเฉลี่ย (average speed) สําหรับการเคลื่อนที่จาก x1 ไป x2 จะมีขนาดเทากับ ระยะทางจาก x1ไป x2หารดวยเวลา จะผล เทากับขนาดความเร็วเฉลี่ย โดยกรณีที่วัตถุเคลื่อนที่เลย x2ไปถึง x3 แลวยอนกลับมา x2โดยใชเวลาทั้งหมด (t2-t1) เทาเดิม -x +x o x1 x2 x3 แสดงการเคลื่อนที่ของวัตถุจาก x1 ไป x3 และจาก x3 กลับมา x2
  • 6. d อตราเรวเฉลย ระยะทางทเคลอนทหารดวยเวลา อัตราเร็วเฉลี่ย = ระยะทางที่เคลื่อนที่หารดวยเวลา = t ซึึ้งใ ่ีนี้ d คืือ (x3 − x1 ) + (x3 − x2 ) และ t คือ ( t2 - t1) โ ในที ื โดย เครื่องหมายขีดสองขางของปริมาณจะหมายถึง ขนาดของปริมาณนั้น และมีคาเปนบวกเทานัั้น ี  ป สมมติวา โยนลูกบอลขึนในแนวดิ่ง ลูกบอลลอยขึ้นไปไดสูง 5 ้ เมตร แลวตกกลัับมายัังมืือใ ในเวลา 2 วินาทีี จากขอความนีี้แสดงวา ิ อัตราเร็วเฉลี่ยในชวง 2 วินาทีเทากับระยะทาง (5 เมตร + 5 เมตร) หาร ดวยเวลา 2 วิินาทีี เทากัับ 5 เมตรตอวิินาทีี่ แตความเร็็วเฉลีี่ยใ วงเดีี่ยว  ในช กันจะเปนศูนยเพราะลูกบอลไดกลับมาที่เดิมคือ มีการกระจัดทั้งหมด เปนศูนย ป
  • 7. 3. ความเร็วและอัตราเร็วขณะใดขณะหนึ่ง ความเร็วขณะใดขณะหนึ่ง (instantaneous velocity) ก็คอความเร็ว ื ของวัตถุุในชวงเวลาที่สั้นมากขณะผานจุดจุุดหนึ่งหรือที่เวลาใดเวลาหนึ่ง ุ หรือพูดสั้นๆ เปนความเร็วในชวงเวลาที่สั้นมาก นั่นคือ lim ⎛ Δx ⎞ dx Uint = Δt ⎯⎯ →0⎜ ⎟ = ⎯ ⎝ Δt ⎠ dt สัญลักษณในสมการ เปนสัญลักษณที่ใชในวิชาคณิตศาสตร (แคลคูลส ั (calculus)) แสดงกระบวนการทางคณิตศาสตรที่ใชหาคา lim (limit) เมื่อทราบ ฟงกชนชัดเจนและคา dx หรือ ( dt ของ x ) เปนการทําอนุพันธ (differentiation) ั dt d ของ x เทียบกับเวลาซึ่งเปนสัญลักษณแทน Δt ⎯lim→0⎛ Δx ⎞ = dx นั่นเอง dt ถือเปน ⎯ ⎜ ⎟ ⎯ d ⎝ Δt ⎠ dt ตัวดําเนินการ (operator)
  • 8. ความชันคือ ลิมิต (limit) หรือ “ขีดจํากัด” ของความชัน และ ถอไดวาคาความเรวของวตถุท ซงเปนความเรวขณะใดขณะหนงท ถือไดวาคาความเร็วของวัตถที่ Q ซึ่งเปนความเร็วขณะใดขณะหนึ่งที่ เวลา t2 หรือที่จุด Q เพอใหเขาใจความหมายของคาลมต เราสามารถสงเกตไดจาก เพื่อใหเขาใจความหมายของคาลิมิต เราสามารถสังเกตไดจาก ตัวอยางตอไปนี้ เชน สมมติวา เราทราบวากราฟตําแหนงกับเวลาเปนไป ตามสมการ x = 5t2 ในหนวยเมตร เมื่อ t เปนวินาที เราสามารถรูคา ในหนวยเมตร เมอ เปนวนาท เราสามารถร  ตําแหนง x ที่เวลาตางๆไดจากการคํานวณจากสมการ ให Q เปนตําแหนงที่ 2.00 วินาที คาของตําแหนง P ที่เวลา ตางๆ ใกล Q และคาของความชันของเสน PQ ดังตาราง ซึ่งจะเห็นลิมิต ของความชันที่ เปน 2.00 เมตรตอวอนาที
  • 9. ตารางแสดงคา x ของ P และ Q ที่เวลาตางๆ และคาความชันของเสน PQ t (s) P (m) Q (m) ความชันของPQ(m/s) 1.50 11.25 20.00 17.50 1.80 16.20 20.00 19.00 1.90 18.05 20.00 19.50 1.98 19.602 20.00 19.90 1.99 19.8005 20.00 19.95 1.995 19.9001 20.00 19.98 1.999 19.9800 20.00 20.00 1.9999 19.9980 20.00 20.00 ตารางแสดงความชันไมเปลี่ยนเมื่อ t เขาใกล 2.00 วินาที
  • 10. 4. ความเรง ความเรง (acceleration) หมายถึง การเปลี่ยนแปลงความเร็ว ตอเวลา นั่นคือ ถาที่เวลา t2 วัตถุมีความเร็ว U2 และที่เวลากอนนันคือ t1 ุ ้ วัตถุมีความเร็ว U1 ถือวา ความเรงเฉลี่ย ในชวงเวลา t1 ถึงเวลา t2 คือ v 2 − v1 Δ v a av = = t 2 − t1 Δt ความเรงขณะใดขณะหนึ่ง (i t t ความเรงขณะใดขณะหนง (instantaneous acceleration) โดยใชสัญลักษณ คอ l ti ) โดยใชสญลกษณ คือ lim ⎛ Δv ⎞ dv aint = a = Δt ⎯⎯ → 0⎜ ⎟ = ⎯ ⎝ Δt ⎠ dt
  • 11. หากเขียนกราฟของความเร็วกับเวลา ความชันของเสนสัมผัสที่จุด  ตางๆ ก็็คือความเรงของวััตถุที่จุดนัั้นๆ ใ านองเดียวกันกัับที่ีความเร็็วเปน  ในทํํ ี ั ป ความชันของกราฟระหวางตําแหนงกับเวลา สําหรับคําวา อัตราเรง ก็จะไม คิิดทิิศทางในลัักษณะเดีียวกัับอััตราเร็ว ใ ็ 5. การเคลอนทกรณความเรงเปนคาคงตว ื่ ี่ ี  ป  ั กรณีที่ความเรงมีคาคงตัว (constant acceleration) นั่นคือมีการ เปลี่ยนแปลงแบบเพิิ่มขึึ้นหรืือลดลงอยางสมํ่ําเสมอ กราฟของเร็็วทีี่เพิิ่มขึึ้นอยาง ปี ป  ฟ สม่ําเสมอ ซึ่งกราฟความเร็วกับเวลากับกราฟเสนตรง ความชันที่ทุกจุดบน เสนตรงคืือ ความชัันของเสนตรง ความเรว ความเร็ว v v0 t เวลา
  • 12. ความชันของเสนตรงคือ v − v0 t −0 ใหเทากับ a0 ซึงเปนคาคงตัว ่ ดัั้งนัน ั้ v − v0 = a0t หรือ v = v0 + a0t ความหมายในสมการนี้คอ v เปนความเร็วที่เวลา t , v0 เปนความเร็วที่เวลา ื t = 0 หรืือความเร็วเริ่มตน , a เปนความเร็วคาหนึึ่ง และ เปนเวลา ซึ่ึงจากสมการ ็ ิ ป ็  ป ขางตนก็จะเห็นไดวา ความเร็วมีคาเพิ่มขึ้นอยางสม่ําเสมอ สมการนี้จะใชไดทั้งคา ที่ เปน + และ – (ถา หมายถึงเวลากอนที่จะเริิ่มนัับวาเปนศูนย) ป ึ  ี ป  ความเร็ว v1 v v0 0 เวลา Δt t1 0
  • 13. การหาระยะทางที่วตถุเคลื่อนที่ได อาจจะหาไดโดยใชกราฟ ถาใช ั  ชวงเวลา Δt เปนชวงเวลาสัั้นๆ ขณะทีี่วัตถุมีความเร็็ว v ระยะทางทีี่วัตถุ ป  เคลื่อนที่ไดในชวงเวลา Δt ก็คือ vΔt ซึ่งชวงเวลาสั้นๆ v เปลี่ยนแปลงไม Δ มาก ดัังนัั้นการรวม vΔt ทัั้งหมด โ ่ิมจาก t = 0 จนถึึง t = t1 จะได โดยเริ ไ ระยะทางของการเคลื่อนที่ทั้งหมด และเปนระยะทางที่ถูกตอง เมื่อ Δtเขา ใกล ในภาษาวชาของแคลคูลัส การรวมคืือ การอนทเกรต ( ใ ศูนย ใ ิ ิ ิ (integrate) ของ ) vΔt จาก t = 0 จนถึง t = t1 จะไดระยะทางทั้งหมดสมมติวาเปน ( x1 – x0) โ ั โดยสญญาลกษณคอั ื t1 (x1 − x0 ) = ∫ vdt 0
  • 14. คาสุดทายของตําแหนง x1 ของความเร็ว v1 และเวลา t1 อาจ เปลี่ยนเปน x ,v และ t ซึ่งเมื่อแทนคาที่เวลาใดๆ ก็ยังคงความเปนจริงทุก ประการ เขียนเปนสูตรไดวา ⎛ v0 + v ⎞ (x − x0 ) = ⎜ ⎟t ⎝ 2 ⎠ และเมื่อแทนคา จากสมการ จะได (x − x0 ) = ⎜ v0 + v0 + a0t ⎟t ⎛ ⎞ (x − x0 ) = v0t + a0t 1 2 ⎝ 2 ⎠ 2 v − v0 ในขณะท ในขณะที่ v − v0 = a0t ดังนั้น ดงนน t= a0
  • 15. หากแทน t ที่ไดในสมการ จะได ⎛ v + v ⎞⎛ v − v0 ⎞ x − x0 = ⎜ 0 ⎟⎜ ⎜ a ⎟ ⎝ 2 ⎠⎝ 0 ⎟ ⎠ ซึ่งจะได v 2 − v0 = 2a0 ( x − x0 ) 2 จากสมการขางตน มักนิยมเขียนในหนังสือตางๆ ในรูปแบตอไปนี้
  • 16. v = u + at (สู ) ( ตร 1) ⎛u+v⎞ (สูตร 2) s=⎜ ⎟t ⎝ 2 ⎠ (สูตร 3) 1 2 s = ut + at 2 (สูตร 4) และ v − u = 2as 2 2
  • 17. ตองตระหนักวาสูตรเหลานี้ใชไดถูกตองเฉพาะกรณีที่ a เปนคาคงตัว เทานน ในทนเขยน เทานั้น ในที่นี้เขียน x – x0 เปน s และ v0 เปน u เปน เปน หมายเหตุ หมายเหต สมการ (3) อาจไดจาก integrate โดยตรง อาจไดจาก t t x − x0 = ∫ vdt 0 = ∫ (v 0 0 + a 0 t )dt 1 = v0t + a 0t 2 2
  • 18. 6. วัตถุตกอยางเสรีมีความเรงสม่ําเสมอ ุ สิ่งของหรือวัตถุตางๆไมวาจะมีมวลเทาใดจะตกลงสูพื้นดวยความเรง สมาเสมอ นั่นคือ ความเรงมคาคงตวและมทศลงในแนวดงเสมอ คาของความเรงของ สม่ําเสมอ นนคอ ความเรงมีคาคงตัวและมีทิศลงในแนวดิ่งเสมอ คาของความเรงของ ของตกอยางเสรีนี้ การตกอยางเสร การตกอยางเสรี (free fall) หมายถึง การตกโดยไมมสงใดกดขวางหรอ หมายถง การตกโดยไมมีสิ่งใดกีดขวางหรือ กระทบ การมีอากาศกระทบระหวางตกทําใหไมไดผลดั้งอุดมคติ แตถาวัตถุตกจากที่  สูง วตถุมความเร็วมากในชวงทายซึ่งอากาศจะมีการตานทานการเคลื่อนที่มากขึ้น สง วัตถมีความเรวมากในชวงทายซงอากาศจะมการตานทานการเคลอนทมากขน และทําใหความเรงผิดไป ความเรงของวัตถที่ตกลงสูพื้นโลกเรียกวา คาความโนมถวง (gravity) และ ุ (g v y) ใชสัญลักษณเปน g คาของความเรงนี้ ณ จุดตางๆ จะมีคาระหวาง 9.780 ถึง 9.785 เมตร/(วินาที)2 คานี้ขนอยูกับละติจด (latitude) ของจดที่ทดลอง คาเฉลี่ยของ g ทั่วโลก ( ึ้ ู ( ) ุ ที่ถือเปนคามาตรฐาน คือ 9.8065 m/s2
  • 19. 7. การเคลือนทีในสองมิติ และสามมิติ ่ ่ การเคลอนทในสองมตสามารถแยกคดแบบการเคลอนทหนงมตทตงฉาก การเคลื่อนที่ในสองมิติสามารถแยกคิดแบบการเคลื่อนที่หนึ่งมิติที่ตั้งฉาก กัน และสามารถ นําการคิดสองทางนั้นมาประกอบกันหรือนํามารวมกันแบบเวกเตอร ได ตามแนวของแกนสามแกนท ตั้งฉากซึ่งกัน คอ ตามแกนของระบบโคออรดเนต ได ตามแนวของแกนสามแกนที่ ตงฉากซงกน คือ ตามแกนของระบบโคออรดิเนต XYZ สําหรับการเคลื่อนที่สามมิติ และตามแกน ของระบบโคออรดิเนต XY สําหรับ การเคลอน ที่สองมิต ตาแหนงของวตถุในสองมตทจุ ทเวลา กาหนดไดดวยคา การเคลื่อน ทสองมติ ตําแหนงของวัตถในสองมิติที่จด P ที่เวลา กําหนดไดดวยคา และ ทางแกน X และแกน Y ตามลําดับ และตําแหนงของวัตถุนั้นที่เวลา (จุด Q) สมมตใหเปน สมมติใหเปน และ การกระจดหรอการเปลยนแปลงตาแหนงระหวางสองจุดนนให การกระจัดหรือการเปลี่ยนแปลงตําแหนงระหวางสองจดนั้นให เปน ไปตามเสนโคงดังรูป
  • 20. รูปแสดงตาแหนงและการกระจดของวตถุในชวงเวลา รปแสดงตําแหนงและการกระจัดของวัตถในชวงเวลา t1 และ t2 ความเร็วเฉลี่ยสําหรับการเคลื่อนที่ทาง X คือ x − x1 v = 2 − t1 x , av t และความเร็วเฉลี่ยสําหรับการเคลือนทีทาง Y คือ ่ ่ 2 y − y v = 2 1 − t1 y , av t เมื่อ t1 กับ t2 เขาใกลกันมาก ๆ ความเร็วเฉลี่ยก็จะเปนความเร็วขณะใดขณะหนึ่ง 2 เชนเดียวกับการคิดในหนึ่งมิติ
  • 21. 8. เวกเตอรตําแหนงและเวกเตอรความเร็วในสองมิติ v เวกเตอร R1 เปน เวกเตอรตําแหนง (position vector) ที่เวลา t สําหรับวัตถุ v ที่มีคาทาง x เปน x และมีคา y เปน y เวกเตอร R1 จะมีขนาดและทิศชัดเจนเทียบกับ จุดกําเนิดของโคออรดิเนต เมื่อเปลี่ยนเปน t ตําแหนงของวัตถุเปลี่ยนไปเปน เวกเตอร v R2 ความเร็วเฉลี่ยสามารถเขียนในรูปเวกเตอรไดเปน v v v R 2 − R1 v av = t 2 − t1 โดยมีองคประกอบทาง x และ y เปนไปตามขางตน อตราเรวเฉลยสาหรบการเคลอนทในสองมต จะตางจากความเร็วเฉลี่ยอยาง อัตราเร็วเฉลี่ยสําหรับการเคลื่อนที่ในสองมิติ จะตางจากความเรวเฉลยอยาง ชัดเจน ขนาดของอัตราเร็วเฉลี่ยระหวางจุด P และ Q ในขณะที่ของความเร็วเฉลี่ยจะ เปนระยะทางตามเสนตรงระหวาง เปนระยะทางตามเสนตรงระหวาง P และ Q หารดวยเวลา หารดวยเวลา
  • 22. สําหรับการเคลื่อนที่ของรถยนตบนถนน รถเคลื่อนที่ดวยอัตราเร็วเทาใด โดยไมสนใจวาเคลือนทีไปทางทิศใด การเคลือนทีดวยรถยนตจากเมืองหนึ่งไ ก ไ ่ ่ ่ ่ ไปอี เมืองหนึ่ง ระยะทางตามถนนมีความสําคัญกวาระยะทางตามเสนตรงระหวางเมือง ตามแผนที่ ดังนันอัตราเร็็วของรถมีความสําคัญตอผูใชรถ และในทางปฏิบัติ ้ เครื่องมือที่จะวัดอัตราเร็วของรถสามารถทําไดงายกวาวัดความเร็ว เครื่องวัดในรถ เปนเครืื่องวัดอัตราเร็็ว หรือเปน “มาตรอัตราเร็็ว” (speedometer) โดยวัดอัตราเร็็ว ื จากการหมุนของลอรถและขนาดของยางที่ใช ดังนั้นการใชยางที่ไมเปนไปตามที่ กําหนดของรถ จะทําใหมาตรวัดอัตราเร็็วแสดงผลผิดไ ไปจากความจริง หรืือยางเกา ที่ใชสึกหรอ จะทําใหอัตราเร็วผิดไปเล็กนอยและไดระยะทางที่สะสมผิดไปดวย
  • 23. 9. ความเรงในสองมิติ ตามนิิยามของความเรง ซึ่ึงคืือเปลี่ยนความเร็็วตอเวลา ความเรงเฉลี่ยยอม ปี  ี เขียนเปนสัญลักษณตามสมการตอไปนี้ v v v v 2 − v1 a = t 2 − t1 av v หากเปนความเรงเฉลี่ยระหวางจุด P และ Q ความเร็ว v และ v คือ v 2 1 ความเร็็ว (ขณะใดขณะหนึ่ง) ทีี่จุด P และ Q ตามลํําดัับ (v2 − v1 ) ป ใ ึ v v ตองเปนการลบอยาง  เวกเตอร นั่นคือ (v − v )อาจมีขนาดและทิศเปนไปตามรูปใดรูปหนึ่งของรูปตอไปนี้ v v 2 1 v − v1 v v v v v v2 v2 − v1 v2 − v1 v v2 v v1 v v1
  • 24. ขนาดและทิศของความเร็วที่เปลี่ยนไปในชวงเวลา (t2 −t1 ) แสดง ดวยเวกเตอร v v และเมอจุด ดวยเวกเตอร (v − v ) และเมื่อจด P และ Q เขาใกลกันมากๆ ความเรงเฉลย 2 1 เขาใกลกนมากๆ ความเรงเฉลี่ย v v dv กลายเปนความเรงขณะใดขณะหนึ่งไดโดย a = dt ตามสัญลักษณของ แคลลูล ความเร็วที่เปลี่ยนไปไมจําเปนตองอย นทิศของความเร็วเดิม ซง แคลลลัส ความเรวทเปลยนไปไมจาเปนตองอยูในทศของความเรวเดม ซึ่ง หมายความวา ความเรงของการเคลื่อนที่ไมจําเปนตองอยูในทิศเดียวกับ ความเรว จะเปนทขณะใดๆ กตาม ความเร็ว จะเปนที่ขณะใดๆ ก็ตาม แผนภาพเชิงเวกเตอรของความเรงเทียบกับเวกเตอรความเร็วที่ ขณะหนง ซึ่งโดยทั่วไปความเรงอาจทํามมขณะหนึ่งที่ไมตั้งฉากกับความเร็วดัง ขณะหนึ่ง ซงโดยทวไปความเรงอาจทามุมขณะหนงทไมตงฉากกบความเรวดง รูปขางตน และสามารถจะมองไดวา มีองคประกอบหนึ่งของความเรงที่ตั้งฉาก กบความเรว กับความเร็ว
  • 25. 10. 10.ความเร็วสัมพัทธ( Relative Velocity ) y การจะบอกวาวัตถุอยูในตําแหนงใดใหชัดเจน และเปนที่เขาใจกันได เปนอยางด ยอมตองมจุดอางองและแกนอางอง นั่นคือ มีระบบโคออรดิเนตอางอิง เปนอยางดี ยอมตองมีจดอางอิงและแกนอางอิง นนคอ มระบบโคออรดเนตอางอง ระบบๆหนึ่งตางมีความเร็วเมื่อเทียบกับอีกระบบหนึ่ง สิ่งนี้เปนไปไดเสมอ เมื่อ เปนเชนน วัตถที่เห็นอย ิ่งในระบบหนึ่งก็จะปรากฏการเคลื่อนที่ในอีกระบบหนึ่ง เปนเชนนี้ วตถุทเหนอยูนงในระบบหนงกจะปรากฏการเคลอนทในอกระบบหนง หรือถาวัตถุเคลือนที่อยางหนึ่งในระบบหนึ่ง จะปรากฏการเคลื่อนที่ตางกัน เรื่องนี้ ่ แสดงใหเหนวา ความเรวเปนปรมาณสมพทธ แสดงใหเห็นวา ความเร็วเปนปริมาณสัมพัทธ ตัวอยางของการสังเกตที่เกี่ยวกับความเร็วสัมพัทธ เชน ขณะที่ฝนตก ให เม็ดฝนมีขนาดที่ทําใหตกดวยความเร็วสม่ําเสมอ 10 เมตรตอวินาที และตกใน แนวดิ่งในอากาศดิ่ง ผูสังเกตที่อยูในรถยนตวิ่งดวยความเร็ว 36 กิโลเมตรตอ ชั่วโมง ( 10 เมตรตอวินาที ) จะเห็นความเร็วของเม็ดฝนที่จะเห็นเปนความเร็ว สัมพัทธ สิ่งที่ลอยอยูนิ่งในอากาศขางหนาของผูสังเกตที่อยูในรถ ผูสังเกตยอม เห็นสิ่งนั้นเคลือนที่เขาหาดวยความเร็ว มีขนาดเทาที่รถวิ่ง ่
  • 26. ซงหมายถงความเรวของทศตรงกนขามกบการเคลอนทของตนเอง สิ่ง ซึ่งหมายถึงความเร็วของทิศตรงกันขามกับการเคลื่อนที่ของตนเอง สง ที่อยูนิ่งดานขาง หรือหลังของผูสังเกตก็จะปรากฏมีความเร็วเชนเดียวกัน ดวย ความเรวทมทศตรงกนขามกบความเรวของตนเองแตขนาดเทากน v เมอให ความเร็วที่มีทิศตรงกันขามกับความเร็วของตนเองแตขนาดเทากัน (− v )เมื่อให od v v vod เปนความเร็วของผูสังเกต ( observer ) ให vR แทนความเร็วของเม็ด v v หรอ v v ฝน ความเร็วของเม็ดฝนที่ผสังเกตในรถเหนจะเปน v R − vod หรือ vR +(−vod) ความเรวของเมดฝนทผู งเกตในรถเห็นจะเปน นั่นเอง และสามารถแสดงขนาดและทิศทางไดดังรูปตอไปนี้ v vod แสดงความเร็วสัมพัทธที่ผู v v v สังเกตเห็น vR − vod − vod v vR v − vod
  • 27. 11. 11. กรอบอางอิิงเฉืื่อย ( Inertial frame )  กรอบอางอิง ( frame of reference ) หมายถึงระบบโคออรดเิ นต ซึ่งใชในการ สังเกตการเคลื่อนที่ของวัตถุ กรอบอางอิงตางๆ อาจมีการเคลื่อนที่สัมพัทธกันได ความ จริงอยากที่จะบอกวากรอบอางอิงเปนกรอบที่อยูนิ่งอยางสมบูรณ เชน เราอยูนิ่งที่ใดที่ หนึ่งบนโลก แตเราก็ทราบวา โลกหมุนรอบตัวเองและเคลือนทีรอบดวงอาทิตยใน ่ ่ ขณะเดียวกัน ดังนั้นกรอบอาวอิงที่เราวาอยูนิ่งในตอนแรกนั้น ทั้งหมุนและเคลื่อนที่ไป ในอวกาศอยางรวดเร็ว จะเร็วเทาใด ก็ตองกําหนดใหไดกอนวาจะใชจดใดเปนจุดอยู ุ นิ่งที่จะใชอางอิง เชน ดวงอาทิตยหรือจุดศูนยกลางของกาแล็กซี ( galaxy ) ความเร็ว นั้นเปนปริมาณสัมพัทธเสมอ และความเร็วที่เปนศูนยอาจจะไมเปนศูนยท่แทจริง แต ี กรอบอางอิงที่มีความเร็วคงตัวสม่ําเสมอ หรือกรอบอางอิงที่ไมมีความเรง กรอบอางอิง ที่มีความเร็วคงตัว เรียกวา กรอบอางอิงเฉื่อย ( inertial frame of reference )
  • 28. คําถามทายบท 1.จงหาอัตราเร็วเฉลี่ย และความเร็วเฉลี่ย ของนักเลนสกีดังรูป ตอบ อตราเรวเฉลย อัตราเร็วเฉลี่ย (420 m) / (3 min) = 140 m/min ความเรวเฉลย ความเร็วเฉลี่ย (140 m, ขวา / (3 min) = 46.7 m/min, ขวา
  • 29. 2. นักเบสบอลขวางลูกบอลออกไปในแนวระดับดวยความเร็ว 42.5 m ที่ระยะสูงจาก พื้นดิน 2 m ก. เวลาที่ลูกบอลเคลื่อนที่ถึงคนรับลูกซึ่งอยูหางจากคนขวาง 18.5 m ข. ลูกบอลจะอยูสูงจากพืื้นเทาใด วิธีทํา ตังแกนอางอิงทีี่พื้น (จุดเริ่มตนไมไดอยูที่จุด 0,0) ้ ไ เมื่อคาตามแกน x x0 = 0m ; v = 42.5m / s ; x = 18.5m ; v = 42.5m / s ; a 0x x x = 0m / s 2 ; t =? คาตามแกน y y 0 = 2m; y = ? ; voy = 0m / s ; v y = ? ; a y = −9.8m / s 2
  • 30. ก. หาเวลาจากการเคลื่อนที่ในแนวแกน x x= x0 + v0 x t + 1 axt 2 เนืื่องจากเปนการเคลืื่อนทีี่แบบโปรเจกไตลความเรงในแนวแกน x ( ax= 0 ) ป โป ไ  ใ x0 = 0 จะได t = x = 18.5(m) v0 x 42.5(m / s ) = 0.435 s ข. พิจารณาการเคลื่อนที่ในแนวแกน y เมื่อความเร็วตนในแนวแกน y เปนศูนย ( voy = 0 ) y = y +v t+ 1a t 0 2 0y y 2 แต a = − g = −9.8m / s y 2 y = a = − g = −9.8m / s y 2 = 1.07 m
  • 31. r r r r 3. แมลงวันตัวหนึ่งบินอยูที่ตําแหนง ู r = 2i − 3t j + 5tk 2 ซึ่งเปนฟงกชั่นของเวลา จงหา ก. ความเร็วเปนฟงกชั่นของเวลา ข. ความเรงเปนrฟงกชั่นของเวลา r r d (2i − 3t j + 5tk ) r r วิธีทํา ก. = = dt dr 2 v dt r r = − r6tj + 5k r r d (− 6tj + 5k ) dv ข. = = dt dt r = −6j r r r 4. ฟุตบอลมีความเร็ว ในหนวย m/s ตอความเร็ว เปลี่ยนเปน 35i +12j + 25k r r r 32i + 10 j + 5k ภายในเวลา 2s จงหา r r r r Δv v 2 − v1 วธทา วิธีทํา ก. ก a = Δt = Δt = ( ) ( ) r r r r r r 32i + 10 j + 5k (m / s ) − 35i + 12 j + 25k (m / s ) 2s = ( )( r r r − 1.5i − j − 10k m / s 2 )
  • 32. r ข. a = a = a x + a y + a z2 2 2 = (− 1.5m / s ) + (− 1m / s ) + (− 10m / s ) 2 2 2 2 2 2 = 10.2 m / s 2 เพอความสะดวกในการคานวณเราสามารถใชแคลลูลสเขาชวยในการ เพื่อความสะดวกในการคํานวณเราสามารถใชแคลลลัสเขาชวยในการ เปลี่ยน เปน ds พิจารณาดังนี้ r r r จากนยามของตาแหนง จากนิยามของตําแหนง : r = xi + yj + zk r r r r r r r จากนิยามของการกระจัด : dr = r2 − r1 = dxi + dyj + dzk r r r r r dr จากนิยามของความเร็ว : v= dt = vxi + v y j + vz k r จากนยามของอตราเรว จากนิยามของอัตราเร็ว : v = v = v x + v y + v z2 2 2 r r r จากนิยามของความเรง : r dv a= dt = axi + a y j + az k
  • 33. 5. จงหาความเร็วขณะใดขณะหนึ่งของเข็มยาวนาฬิกาซึ่งยาว 10cm ดังรูป วิธีทํา จากรูป เมื่อตั้งระบบแกนพิกัดฉากดังรูป พิจารณาเข็มนาฬิกากอนถึง ตําแหนงสูงสุดเล็กนอย โดยทํามุม θ นอยๆ กอนถึงแกน y จะไดวา 2 r = − r sin ⎛⎜⎝ Δ2θ ⎞⎟⎠i + r cos⎛⎜⎝ Δ2θ ⎞⎟⎠ j r r r1 จากนั้นพิจารณาเข็มนาฬิกา ภายหลัง ผานจุดสูงสุดเล็กนอย โดยทํามุม θ 2 นอยๆ กับแกน y ไปทางขวา มือ ดังนั้น จะไดวา r r2 = ⎛ Δθ r sin ⎜ i ⎞r ⎛ Δθ ⎞ r ⎟ i + r cos ⎜ ⎟j ⎝ 2 ⎠ ⎝ 2 ⎠ เมื่อ r คือความยาวของเข็มนาฬิกา จากคากาจดของการกระจด จากคํากําจัดของการกระจัด r r r Δr = r2 − r1 ⎛ Δθ ⎛ Δθ ⎞ r ⎫ ⎧ ⎛ Δθ ⎛ Δθ ⎞ r ⎫ = ⎧ ⎨r sin ⎜ ⎩ ⎝ 2 ⎞r ⎟i + r cos⎜ ⎠ ⎟ j ⎬ − ⎨− r sin ⎜ ⎝ 2 ⎠ ⎭ ⎩ ⎝ 2 ⎞r ⎟i + r cos⎜ ⎠ ⎟ j⎬ ⎝ 2 ⎠ ⎭
  • 34. ⎛ Δθ ⎞r = 2r sin ⎜ ⎝ 2 ⎟i ⎠ ⎛ Δθ ⎞ Δθ พิจารณา Δθ นอยมากๆ จะได r จะได sin ⎜ ⎝ ⎟≈ 2 ⎠ 2 r Δ r = ( rΔ θ ) i จากนิยามของความเร็ว r Δr r rΔθ r v = Δt = Δt i ให Δ t → 0 ความเร็วขณะใดขณะหนึ่งเขียนไดเปน r rdθ r v = i dt เมอ เมื่อ θ คือระยะทางเชิงมมของการหมนเปนคาคงที่ เมื่อหมนครบ 1 คอระยะทางเชงมุมของการหมุนเปนคาคงท เมอหมุนครบ รอบจะได r ⎛ 2π ⎞ r r 2π r v = r ⎜ T ⎟i ⎝ ⎠ = T i แทนสมการ r π( ) v = 2 0 .1m ˆ i 60 s = ⎛ mm ⎞ ˆ ⎜ 10 . 5 ⎟ i ⎝ s ⎠
  • 35. 6. สมการที่มักพบอยูบอยๆ มีกี่สมการ อะไรบาง ตอบ มี 4 สมการ ไ แก ได v = u + at ( ู ) (สูตร 1) ⎛u+v⎞ s=⎜ ⎟t (สูตร 2) ⎝ 2 ⎠ 1 2 (สูตร 3) s = ut + at 2 และ v 2 − u 2 = 2as (สูตร 4)