More Related Content
More from Pattie Pattie (20)
กระท่อม
- 1. 78 www.thaihealthbook.com
ชี้ทิศ รู้สิทธิ์ในกฎหมายสุขภาพ ไพศาล ลิ้มสถิตย์
สนับสนุนโดย สำ�นักง�นคณะกรรมก�รสุขภ�พแห่งช�ติ (สช.)
กระท่อม... พืชเสพติด
ที่ถูกทำาให้เป็นผู้ร้ายมานานกว่า ๗๐ ปี
ผู้เขียนได้ศึกษ�วิจัยคว�มเป็นม�ของก�รควบคุม
กระท่อมของไทย จึงทร�บว่� เหตุผลที่แท้จริงที่ทำาให้
พืชกระท่อมกลายเป็นยาเสพติดผิดกฎหมายตาม
พ.ร.บ.พืชกะท่อม พ.ศ.๒๔๘๖ เกิดจากรัฐบาลยุคนั้น
มีนโยบายส่งเสริมให้คนเสพฝิ่น แต่ในช่วงสงครามโลก
ครั้งที่ ๒ ประชาชนที่เคยเสพฝิ่นหันไปใช้ใบกระท่อมที่
มีราคาถูกกว่าแทน เพราะภาวะข้าวยากหมากแพง
ทำาให้รัฐบาลสูญเสียรายได้จากภาษีฝิ่นที่เป็นแหล่ง
รายได้สำาคัญเป็นอันมาก จึงต้องออกกฎหมายห้าม
การซื้อขาย ครอบครองและเสพพืชกระท่อม ไม่พบว่�
มีข้อมูลท�งวิช�ก�รหรือก�รศึกษ�ผลกระทบเกี่ยวกับก�ร
ใช้พืชกระท่อมแต่อย่�งใด
กระท่อมเป็นพืชได้รับความสนใจอย่างมาก มี
การศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์พบว่า กระท่อมมีสาร
อัลคาลอยด์ราว ๒๕ ชนิด สารบางตัวมีคุณประโยชน์
ทางการแพทย์ โดยเฉพาะสารมิตรากัยนีน (mitragy-
nine) สามารถใช้รักษาโรคบางชนิดที่มีประสิทธิภาพ
ใกล้เคียงหรือดีกว่ายาปัจจุบัน มีผลข้างเคียงน้อยกว่า
เช่น มีฤทธิ์ระงับปวด (ส�รอัลค�ลอยด์ชื่อ 7-Hydroxymi-
tragynine มีฤทธิ์ระงับปวดดีกว่�มอร์ฟีน) รักษ�อ�ก�ร
ซึมเศร้� บรรเท�อ�ก�รท้องเสีย ลดอ�ก�รปวดเมื่อย
กล้�ยเนื้อ ลดคว�มอย�กของอ�ห�ร ลดระดับน้ำ�ต�ลใน
เลือด ช่วยลดอ�ก�รถอนพิษสุร�ได้ดีกว่�ย�ม�ตรฐ�น
อย่�งฟลูอ็อกซีทิน (fluoxetine) ก�รบริโภคพืชกระท่อม
ต�มปกติจะไม่เป็นอันตร�ยต่อร่�งก�ย เพร�ะใบกระท่อม
มีอัลค�ลอยด์ในปริม�ณน้อยม�ก
เป็นที่ทร�บกันดีว่�ตำ�ร�แพทย์แผนโบร�ณของไทย
ใช้ใบกระท่อมปรุงเป็นย� เรียกว่� ประสะกระท่อม ใช้
รักษ�โรคบิด แก้ปวดมวนท้อง ปวดเบ่ง ปวดเมื่อยร่�งก�ย
ท้องเฟ้อ ท้องเสีย ท้องร่วง ทำ�ให้นอนหลับ ลดอ�ก�รไอ
และระงับประส�ท เกษตรกรในอดีตมักใช้กระท่อมเพื่อที่
จะทำ�ง�นได้น�นกล�งแดด
ประเทศไทยเป็นประเทศแรกของโลกที่บัญญัติให้พืชกระท่อมเป็นยาเสพติดผิดกฎหมายเมื่อปี
พ.ศ.๒๔๘๖ ในสมัยรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม ขณะนั้นยังไม่มีประเทศใดที่มีกฎหมายกำาหนด
ให้พืชกระท่อมเป็นยาเสพติด กฎหมายยาเสพติดปัจจุบันคือ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒
ก็ยังบัญญัติให้พืชกระท่อมเป็นยาเสพติดประเภทที่ ๕
- 2. ปีที่ ๓๘ ฉบับที่ ๔๔๙ กันยายน ๒๕๕๙ 79
ข้อกังวลเกี่ยวกับก�รใช้น้ำ�กระท่อมผสมกับย�แก้ไอ
น้ำ�อัดลม หรือย�เสพติดอื่นจนกล�ยเป็นเครื่องดื่ม
๔×๑๐๐ จะเป็นส�เหตุของก�รกระทำ�ผิดท�งอ�ญ�หรือ
เกิดปัญห�สังคมจริงหรือไม่ ผลก�รศึกษ�วิจัยของ
รศ.สมสมร ชิตตระการ อ�จ�รย์ภ�ควิช�เภสัชวิทย�
คณะวิทย�ศ�สตร์ มห�วิทย�ลัยสงขล�นครินทร์ พบว่�
น้ำ�ต้มใบกระท่อมมีส�รมิตร�กัยนีนในปริม�ณน้อยม�ก
(๙๐ มก./ลิตร) แต่พบโคเดอินในปริม�ณสูงม�กที่สุด
(๒๓๔ มก./ลิตร) นอกนั้นเป็นย�แก้หวัดคลอร์เฟนิร�มีน
ดังนั้น จึงไม่ควรสรุปว่ากระท่อมเป็นต้นเหตุของ
อาชญากรรมหรือก่อปัญหาสังคม ปัญหาความไม่สงบ
เพราะมีปัจจัยแวดล้อมอื่นหลายประการ อีกทั้งยังมีผู้
ที่ดื่มน้ำาต้มใบกระท่อมหรือเคี้ยวใบกระท่อมจำานวน
มากที่ไม่ก่อปัญหาสังคมก็มีอยู่มากมาย ในทางกลับ
กันมีการศึกษาวิจัยที่ยอมรับกันว่า สุราหรือเครื่องดื่ม
แอลกอฮอล์เป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดปัญหาอาชญากรรม
ปัญหาสังคม ความรุนแรง เกิดอุบัติเหตุที่ทำาให้มีผู้เสีย
ชีวิต พิการ บาดเจ็บมากกว่ายาเสพติดหลายชนิด แต่
กฎหมายก็มิได้ห้ามการบริโภคสุราแต่อย่างใด
เมื่อเดือนเมษ�ยน พ.ศ.๒๕๕๙ คณะรัฐมนตรีได้
เห็นชอบร่างประมวลกฎหมายยาเสพติด ที่เสนอโดย
กระทรวงยุติธรรม ผู้เขียนได้ศึกษ�ร่�งกฎหม�ยดังกล่�ว
แล้วเห็นว่� ยังมีเนื้อห�ที่ข�ดคว�มชัดเจนและข�ดคว�ม
สมบูรณ์หล�ยประก�ร เช่น ก�รกำ�หนดประเภทย�เสพติด
คำ�นิย�มที่ไม่ชัดเจนมีปัญห�ในก�รตีคว�ม โครงสร้�ง
คณะกรรมก�รแบบร�ชก�รไทย ก�รกำ�หนดโทษของ
ย�เสพติดประเภท ๕ มีโทษที่รุนแรงม�กขึ้นกว่�กฎหม�ย
ปัจจุบัน สวนท�งกับกระแสโลกที่เห็นคว�มสำ�คัญของ
พืชเสพติดอย่�งกัญช�และกระท่อม
พืชกระท่อมยังมีประโยชน์อื่นๆ อีกที่หล�ยคนอ�จ
ไม่ทร�บคือ ต้นกระท่อมเป็นพืชพื้นถิ่นในแถบเอเชียตะวัน
ออกเฉียงใต้ เป็นไม้ยืนต้นสูงร�ว ๑๐ เมตรหรืออ�จถึง
๒๐-๓๐ เมตรที่โตได้ดีในป่�ดิบชื้น เป็นแหล่งต้นน้ำ�ที่
สำ�คัญ กฎหมายยาเสพติดของไทยเป็นกฎหมาย
ประเทศเดียวในโลกที่ให้มีการตัดฟันต้นกระท่อมทิ้ง
ถือเป็นการทำาลายความหลากหลายทางชีวภาพสมดุล
ของระบบนิเวศ แม้แต่มาเลเซียก็ไม่มีกฎหมายให้ตัด
ฟันต้นกระท่อม ควบคุมเฉพาะใบกระท่อมเท่านั้น
กระท่อมเป็นไม้โตเร็วสามารถ
ปลูกเพื่อทำาเฟอร์นิเจอร์ได้เป็น
อย่างดี มีผู้เสนอให้นำามาปลูก
เพื่อป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง
ของคลื่นลมทะเล อาจช่วยป้อง-
กันสึนามิได้ด้วย
แม้ว่าพืชกระท่อมจะถือเป็นสารเสพติด แต่กลับ
ไม่เป็นยาเสพติดที่ถูกควบคุมตามกฎหมายยาเสพติด
ระหว่างประเทศคือ “อนุสัญญาเดี่ยวว่าด้วยยาเสพติด
ค.ศ.๑๙๖๑” (Single Convention on Narcotic Drugs,
1961) จึงควรพิจารณายกเลิกการให้พืชกระท่อมเป็น
ยาเสพติดประเภท ๕ ผู้เขียนเห็นด้วยกับข้อเสนอของ
คณะกรรมก�รปฏิรูปกฎหม�ย เมื่อปี ๒๕๕๘ ที่เสนอให้
ยกเลิกก�รกำ�หนดโทษอ�ญ�เกี่ยวกับพืชกระท่อม เพร�ะ
ทำ�ให้คดีรกโรงรกศ�ล ไม่สอดคล้องกับหลักก�รลดทอน
อ�ชญ�กรรม (Decriminalisation) ของสหประช�ช�ติ
แนวท�งก�รจัดก�รพืชกระท่อมควรเน้นเรื่องก�ร
กำ�กับดูแล ส่งเสริมสนับสนุนม�กกว่�ก�รลงโทษ ได้แก่
ให้มีคณะกรรมก�รควบคุมพืชเสพติดเป็นองค์กรควบคุม
กำ�กับดูแลเป็นก�รเฉพ�ะ อนุญ�ตให้มีก�รใช้พืชกระท่อม
ในปริม�ณไม่ม�กนักได้ ห�กไม่เกิดผลเสียต่อสุขภ�พ
ส่งเสริมก�รศึกษ�วิจัยและใช้กระท่อมในก�รบำ�บัด
รักษ�โรค ก�รขึ้นทะเบียนผู้ปลูกพืชกระท่อมหรือจำ�หน่�ย
ใบกระท่อม มีม�ตรก�รป้องกันก�รนำ�พืชกระท่อมไปใช้
ในท�งที่มิชอบ โดยเฉพ�ะผู้จำ�หน่�ยเครื่องดื่ม ๔×๑๐๐
ร้�นย� ผู้แทนย�หรือสถ�นพย�บ�ลที่จำ�หน่�ยย�แก้ไอ
ให้กลุ่มเย�วชนโดยไม่มีก�รตรวจสอบวัตถุประสงค์ใน
ก�รใช้ย�
ยาเสพติดทุกชนิดก็เหมือนยารักษาโรคคือ มีทั้ง
คุณและโทษ บางชนิดอาจมีคุณประโยชน์มากกว่าโทษ
หากเรารู้จักใช้ก็จะก่อให้เกิดประโยชน์มากมาย ไม่
แน่ใจว่�ยุคประเทศไทย ๔.๐ จะส�ม�รถเปลี่ยนทัศนคติ
ของผู้บริห�รและเจ้�หน้�ที่บ�งท่�นในสำ�นักง�นคณะ
กรรมก�รอ�ห�รและย� (อย.) สถ�บันธัญญ�รักษ์ หรือ
สำ�นักง�น ป.ป.ส. ที่เคยมองพืชกระท่อมจ�กผู้ร้�ยม�น�น
กว่� ๗๐ ปี ม�เป็นพระเอกได้หรือไม่