1. โค้ชคนให้เป็ นผูนา ไม่ทาไม่ได้แล้ว
้
โดย ศิริรตน์ ศิริวรรณ วิทยากรด้านการพัฒนาผูนาและการโค้ช
ั
้
โค้ชผูบริหารและ Talent (Results Certified Coach)
้
เมื่อพูดถึงผูนา ผูเ้ ขียนหมายถึงพนักงานทุกระดับ เพราะความเป็ นผูนาไม่ใช่เรื่องของตาแหน่ ง แต่
้
้
เป็ นเรื่องของ ‘การเลือกที่จะเป็ น’ ปั จจุบน องค์กรส่วนใหญ่พฒนาผูนาโดยใช้วธีการฝึ กอบรม ซี่ง
ั
ั
้
ิ
ได้ผลลัพธ์ที่เป็ นรูปธรรมน้อยมาก ไม่ใช่เพราะการอบรมนั้นไม่ดี หรือวิทยากรไม่เก่ง แต่การ
พัฒนาคนให้ปรับเปลี่ยนวิธีคิด และพฤติกรรมอย่างยังยืนนั้นไม่ใช่เรื่องที่ทาได้ในช่วงเวลาอันสั้น
่
เพราะอุปนิ สยและความเป็ นตัวตนของบุคคลนั้นฝั งแน่ น ยากที่จะเปลี่ยนแปลงได้โดยง่าย
ั
การโค้ชจึงเป็ นเครื่องมือที่สาคัญและทรงพลังอย่างยิงที่ควรนามาใช้ในการพัฒนาผูนาควบคู่ไปกับ
่
้
การฝึ กอบรม หรือใช้การโค้ชเป็ นเครื่องมือหลักในบางกรณี จากประสบการณ์การเป็ นวิทยากร
ด้านการพัฒนาผูนาและทักษะการโค้ชให้แก่ผบริหารมามากกว่า 2,000 คน และเป็ นโค้ช
้
ู้
ผูบริหารและ Talent ที่ได้รบการรับรองจาก NeuroLeadership Group สถาบันด้านการโค้ชที่มี
้
ั
ชื่อเสียงและได้รบการยอมรับระดับโลก ผูเ้ ขียนสามารถพูดได้วาการฝึ กอบรมเพื่อพัฒนาภาวะผูนา
ั
่
้
ยังคงเป็ นเรื่องจาเป็ นอย่างแน่ นอน เพราะเป็ นการติดอาวุธความรู ้ และเสริมสร้างทักษะ แต่การ
โค้ชเป็ นเครื่องมือที่ทาให้ความรูและทักษะนั้นมีชีวตอยูในตัวบุคคลยาวนาน ยังยืนมากกว่า เพราะ
้
ิ ่
่
การโค้ชเป็ นกระบวนการที่ชวยสร้างการตื่นรูจากภายในตนเอง
่
้
การโค้ชที่กระทาอย่างมีระบบ
และต่อเนื่ องในช่วงระยะเวลายาวนานเพียงพอจะทาให้เกิดการพัฒนาตามลาดับและต่อเนื่ องอย่าง
เป็ นรูปธรรม ทั้งในด้านความคิด อารมณ์ และพฤติกรรม ซึ่งส่งผลต่อการพัฒนาผลการปฏิบติงาน
ั
ในระดับบุคคล หน่ วยงาน และองค์กร

2. จากประสบการณ์ตรงในการทาหน้าที่โค้ชให้แก่ผบริหารและ Talent จานวนหนึ่ ง จานวน 10 ครั้ง
ู้
(ครั้งละ 1.5-2 ชัวโมง) ขึ้ นไป ผูเ้ ขียนพบว่า การโค้ชช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้แก่ผรบ
่
ู้ ั
การโค้ช (โค้ชชี่) และองค์กรที่เป็ นลูกค้าของผูเ้ ขียนในหลายๆแง่มุม
ผลที่มีตอโค้ชชี่:
่
 มีพฒนาการ เติบโตขึ้ นทั้งทางด้านความคิด ความรู ้ และอารมณ์
ั
 มีความมันใจในตนเอง เคารพตนเองเพิ่มขึ้ น
่
 กล้าคิดริเริ่มสร้างสรรค์มากขึ้ น
 ภาวะผูนาเพิ่มขึ้ น มีความสมดุลในตนเองเพิ่มขึ้ น
้
 ตระหนักในจุดแข็งและจุดที่ตนต้องพัฒนา
 มีความสุข ขวัญและกาลังใจในการทางานเพิ่มขึ้ น
 มีความรูสึกมันคงขึ้ น
้ ่
 รับมือกับสถานการณ์ทาทายต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้ น
้
ผลที่มีตอองค์กร:
่
 มีผนาที่มีศกยภาพพร้อมรับผิดชอบงานท้าทายและรองรับการเติบโตขององค์กรมากขึ้ น
ู้
ั
 พนักงานมีขวัญและกาลังใจในการทางานมากขึ้ น
 พนักงานมีความผูกพันต่อองค์กรมากขึ้ น
 เกิดความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรมใหม่ๆ
 พนักงานมีความรับผิดชอบสูงและรูสึกเป็ นเจ้าของงานมากขึ้ น
้
 ผลการปฏิบติงานดีขึ้น
ั
ดังนั้น นอกจากการโค้ชผูบริหารระดับสูง (Executive Coach) ผูเ้ ขียนอยากแนะนาให้องค์กรหัน
้
มาให้ความสาคัญและลงทุนในการโค้ชผูบริหารระดับกลางและระดับต้น
้
รวมถึงพนักงานผูมี
้
ความสามารถพิเศษ หรือ Talent มากขึ้ น เพราะคนกลุ่มนี้ คืออนาคตขององค์กร คือผูนาทัพหน้า
้
เป็ นศักยภาพและขุมพลังในการขับเคลื่อนองค์กรไปสู่การเติบโตอย่างยังยืนในอนาคต รูปแบบการ
่

3. โค้ชสามารถทาได้หลายแนวทาง ไม่วาจะเป็ นการโค้ชแบบตัวต่อตัว การโค้ชเป็ นกลุ่ม การโค้ชหลัง
่
เสร็จสิ้ นการฝึ กอบรม การโค้ชควบคู่ไปกับการให้คาปรึกษาแนะนา (Mentoring) ทั้งนี้ องค์กรจะ
เลือกการโค้ชในรูปแบบใดขึ้ นอยูกบวัตถุประสงค์ ความต้องการ ความคาดหวัง สถานการณ์
่ ั
สภาพปั ญหา สภาพแวดล้อม เงื่อนไขที่เกี่ยวข้อง งบประมาณ และความคุมค่าในระยะสั้นหรือ
้
ระยะยาว
ผูเ้ ขียนหวังเป็ นอย่างยิงว่าบทความนี้ จะช่วยจุดประกายให้แก่ผบริหารในหน่ วยงานต่างๆของ
่
ู้
องค์กร
โดยเฉพาะอย่างยิงฝ่ ายพัฒนาทรัพยากรมนุ ษย์ในการพิจารณานาการโค้ชมาใช้เป็ น
่
เครื่องมือในการพัฒนาผูนาและปลดปล่อยศักยภาพของบุคคล เพราะยิงการโค้ชช่วยปลดปล่อย
้
่
ศักยภาพของบุคคลมาออมากเท่าไร องค์กรยิงได้รบประโยชน์มากเท่านั้น
่ ั
ท่านใดสนใจสอบถามหรือต้องการขอรับคาปรึกษาเกี่ยวกับการโค้ชหรือการฝึ กอบรมด้านการโค้ช
หรือพัฒนาผูนา
้
ส่งอีเมล์มาได้ที่
sirirat@bewinning.biz
หรือเข้าไปเยียมชมเวปไซด์
่
www.bewinning,biz หรือ โทร. 02-4382830