6. • Present Continuous ก็เลยจะเป็น Sub + is/am/are + Ving ดังนั้นเมื่อไหร่เจอ I'm kicks.
I'm loves. ผิดทันที!!! แต่ถ้าเจอ I'm kicked. I'm loved. อาจจะไม่ผิดนะ เป็นรูปประโยคแบบ
Passive Voice ต้องแปลความหมายเอา แต่พวก I'm said....ผิดทันที
• Past Continuous รูปประโยคแบบเดิมเปี๊ยบแต่เราผันตัวis/am/are ให้กลายเป็นอดีตไปซะ
ก็จะได้เป็น Sub + was/were + Ving
• Future Continuous พอเป็นอนาคต เราก็ต้องใช้ “will” มาบอกว่าเรา "จะทา" แล้วหลัง will
มันต้องไม่เปลี่ยน ไม่เติมอะไร เราก็เลยได้เป็น “Sub + will + be + Ving” และ “be”
ตรงกลางนั่นก็มาจาก V. to be ไง จาได้มั้ยรูปประโยคต้องเป็น V.to be + Ving ตลอด
Perfect
• Present Perfect ก็เลยเป็น "Sub + has/have + V3" ถ้าประธานเป็นเอกพจน์ (He, She,I t,
คน สัตว์ ของ 1 อัน) ก็ใช้ "has" ถ้าเป็นพหูพจน์ (You, We, They, คน สัตว์ ของมากกว่า 1) ก็ใช้
"have"
• Past Perfect แบบประโยคเหมือนเดิม แต่เราต้องทา has/haveให้มันเป็น ช่อง 2 เพราะ V2 คือ V
ที่บอกอดีต แล้วช่อง 2 ของ has/have ก็คือ had เราเลยได้เป็น "Sub + had + V3"
• Future Perfect พอเป็นอนาคตก็ต้องบอกว่า "จะ..." เหมือนเดิม ได้เป็น
"Sub + will + have + V3" เพราะหลัง will บอกแล้วว่า verb มันต้องธรรมดา ไม่เติม ไม่เปลี่ยน
เลยต้องกลับมาใช้ have ธรรมดา แล้วก็ตามด้วย V3 ซะ ได้Perfect ด้วย แล้วยังเป็น Future
อีกต่างหาก
Perfect Continuous
• Present Perfect Continuous จากรูปแบบมันเราเลยได้เป็น
"Sub + has/have + been + Ving" โดย has/havebeen ก็บอกความเป็น perfect ส่วน Ving
ก็บอกความเป็น Continuous จับมาต่อกัน
• Past Perfect Continuous จับ has/haveมาทาเป็นอดีตซะ ที่เหลือไม่ต้องเปลี่ยน ก็ได้เป็น
7. “Sub + had + been + Ving” ซึ่ง had ก็บอกว่าเป็นอดีต แล้ว had+been ก็บอกความเป็น
perfect แล้ว Ving ก็บอกความเป็น Continuousครบ!!!
• Future Perfect Continuous เป็น future เมื่อไหร่ ใช้ will เมื่อนั้น! มี will เมื่อไหร่หลัง will
เป็น have เท่านั้น เราก็เลยได้ว่า “Sub + will + have + been + Ving” โดย wil
บอกความเป็นอนาคต have been บอกความเป็น perfect แล้ว Ving ก็บอกความเป็น Continuous
!!