SlideShare a Scribd company logo
1 of 25
Download to read offline
บทที่ 6
การบริการและการเผยแพร่สารสนเทศท้องถิ่น
การบริการและการเผยแพร่สารสนเทศท้องถิ่น เป็นการจัดบริการและส่งเสริมการใช้
เพื่ออานวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้เข้าถึงสารสนเทศท้องถิ่นตามความต้องการ โดยมีปัจจัยสนับสนุน
ให้การจัดบริการสารสนเทศท้องถิ่นบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ และมีการดาเนินการเผยแพร่สารสนเทศ
ท้องถิ่นที่อยู่ในรูปสื่อต่าง ๆ เช่น สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อโสตทัศน์ สื่อดิจิทัล สื่อบุคคล โดยมีวัตถุประสงค์การ
เผยแพร่เพื่อช่วยให้เกิดการถ่ายทอดและอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมภูมิปัญญาท้องถิ่น และประวัติศาสตร์
ท้องถิ่นจากรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่ง ทาให้มีสารสนเทศท้องถิ่นที่เป็นประโยชน์ต่อการศึกษาค้นคว้า
วิจัย การประกอบอาชีพ การพัฒนาท้องถิ่น และการพัฒนาประเทศ
แนวคิดเกี่ยวกับการบริการสารสนเทศท้องถิ่น
การบริการสารสนเทศท้องถิ่นเป็นการจัดกิจกรรมบริการที่ถือว่าเป็นหัวใจสาคัญของการ
ดาเนินงานด้านสารสนเทศท้องถิ่นจึงมีความสาคัญต่อผู้ใช้บริการ ผู้ให้บริการ และองค์กรสารสนเทศ
ท้องถิ่นในด้านต่าง ๆ
1. ความหมายของการบริการสารสนเทศท้องถิ่น
การบริการสารสนเทศท้องถิ่น หมายถึง การจัดบริการเพื่ออานวยความสะดวกให้แก่
ผู้ใช้ได้เข้าถึงและใช้สารสนเทศท้องถิ่นตามความต้องการ เพื่อความรู้ การศึกษาค้นคว้า วิจัย การ
ประกอบอาชีพ การประกอบการตัดสินใจ และการพัฒนาสังคม เช่น องค์กรท้องถิ่นจัดให้มีบริการ
ตอบคาถามช่วยการค้นคว้า บริการสืบค้นสารสนเทศจากฐานข้อมูล บริการยืมคืน บริการส่งเสริม
การใช้สารสนเทศ ฯลฯ สาหรับแหล่งสารสนเทศท้องถิ่นอื่น ๆ เช่น หอศิลปวัฒนธรรม พิพิธภัณฑ์
ท้องถิ่นจัดกิจกรรมและบริการนาชมทรัพยากรสารสนเทศท้องถิ่นที่จัดแสดง โดยผู้ใช้ได้รับ
สารสนเทศที่ถูกต้อง ครบถ้วน สมบูรณ์ และตรงกับความต้องการ (มาลี ล้าสกุล. 2555 :
1-7 ; วรารักษ์ พัฒนเกียรติพงศ์. 2554 : 10-5)
2. ความสาคัญของการบริการสารสนเทศท้องถิ่น
การบริการสารสนเทศเป็นกิจกรรมสาคัญของการดาเนินงานด้านสารสนเทศท้องถิ่น
เนื่องด้วยเป็นกิจกรรมที่ช่วยให้ผู้ใช้ในการเข้าถึงและใช้สารสนเทศท้องถิ่น เพื่อประกอบการศึกษา
ค้นคว้าและวิจัย ช่วยให้เกิดการถ่ายทอดและอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ของคนในท้องถิ่น
ภูมิปัญญาท้องถิ่น และประวัติศาสตร์ท้องถิ่นจากคนกลุ่มหนึ่งไปสู่คนอีกกลุ่มหนึ่ง หรือจากคนรุ่น
หนึ่งไปสู่คนรุ่นหนึ่ง ช่วยให้เกิดการถ่ายทอดความรู้เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น ช่วยใช้ในการ
วางแผนเพื่อพัฒนาประเทศ โดยผ่านกิจกรรม การกระทา หรือผลประโยชน์ที่องค์กรสารสนเทศ
เช่น ห้องสมุด และแหล่งสารสนเทศท้องถิ่นอื่น ๆ เช่น พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น หอศิลปวัฒนธรรม
จัดให้แก่ผู้ใช้บริการ
ดังนั้น บริการสารสนเทศท้องถิ่นจึงมีความสาคัญต่อผู้ใช้ ผู้ให้บริการ และองค์กร
ในด้านต่าง ๆ (มาลี ล้าสกุล. 2555 : 1-7 ; วรารักษ์ พัฒนเกียรติพงศ์. 2554 : 10-5) ดังนี้
2.1 ความสาคัญต่อผู้ใช้ องค์กรสารสนเทศท้องถิ่นต้องมุ่งเน้นผู้ใช้เป็นหลัก และ
จัดบริการให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ขององค์กรและความต้องการของผู้ใช้ จัดบริการต่าง ๆ ที่เอื้อ
ประโยชน์ต่อการศึกษาค้นคว้าและวิจัยแก่ผู้ใช้ เนื่องจากบริการทรัพยากรสารสนเทศท้องถิ่นมี
ความสาคัญต่อผู้ใช้ ดังนี้
2.1.1 ช่วยอานวยความสะดวกแก่ผู้ใช้ได้เข้าถึงและใช้ทรัพยากรเพื่อประกอบ
การศึกษาค้นคว้าวิจัย และการศึกษาตลอดชีวิต เช่น ผู้ใช้สามารถใช้บริการยืม-คืนทรัพยากร
สารสนเทศ บริการสืบค้นสารสนเทศท้องถิ่นจากฐานข้อมูล ใช้บริการตอบคาถามและช่วยการค้นคว้า
เพื่อสอบถาม ขอคาแนะนา คาปรึกษา และขอความช่วยเหลือในการค้นหาสารสนเทศที่ต้องการ
เป็นต้น
2.1.2 ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเรียนรู้และศึกษาค้นคว้าด้วยตนองได้ เช่น การใช้
บริการส่งเสริมการใช้สารสนเทศ ทาให้สามารถค้นหาสารสนเทศท้องถิ่นที่ต้องการด้วยตนเองได้
เป็นต้น
2.1.3 ช่วยผู้ใช้ในการนาความรู้ที่ได้จากสารสนเทศมาพัฒนาความรู้และพัฒนา
อาชีพ และมาใช้ปรับปรุงและพัฒนาการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพ
2.1.4 ช่วยให้มีการถ่ายทอดสารสนเทศไปยังบุคคลอื่น กล่าวคือ ผู้ใช้เป็นผู้
กระจายและถ่ายทอดสารสนเทศที่ได้จากการรับบริการในองค์กรสารสนเทศท้องถิ่นหรือแหล่ง
สารสนเทศท้องถิ่นออกไปยังบุคคลอื่น อาทิ ผู้ใช้ที่เป็นนักเขียนนาสารสนเทศท้องถิ่นมาเรียบเรียง
และสื่อสารผ่านสื่อสิ่งพิมพ์หรือสื่ออื่น ๆ ต่อไปยังผู้อ่าน บุคคลในท้องถิ่น
2.1.5 ทาให้ผู้ใช้เกิดภูมิปัญญาส่งเสริมให้มีการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่สอดคล้อง
กับสังคม และความภาคภูมิใจในความเป็นท้องถิ่นของตนเอง
2.2 ความสาคัญต่อผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการมีหน้าที่เป็นผู้นาส่งบริการสารสนเทศ
ขององค์กรสารสนเทศท้องถิ่นหรือแหล่งสารสนเทศท้องถิ่นให้แก่ผู้ใช้ เป็นผู้ให้ข้อมูลให้ความรู้ ชี้แนะ
และคาปรึกษาแก่ผู้ใช้ จึงเป็นตัวกลางที่ทาให้ผู้ใช้ได้เข้าถึงสารสนเทศตรงกับความต้องการได้
ผู้ให้บริการต้องมีความรู้ความสามารถและทักษะในการให้บริการในงานที่รับผิดชอบ ทักษะในการใช้
เทคโนโลยีประเภทต่าง ๆ ในการจัดการและให้บริการสารสนเทศ โดยเฉพาะเทคโนโลยีสารสนเทศ
ทักษะในการสื่อสารกับผู้ใช้ เนื่องจากในช่วงเวลาให้บริการจะต้องมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้ตลอดเวลา
จึงต้องมีบุคลิกภาพที่ดี เพื่อสร้างความประทับใจแก่ผู้ใช้ ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ใช้กับมาใช้บริการอีก และ
เป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กร
2.3 ความสาคัญต่อองค์กร สารสนเทศท้องถิ่นที่มีให้บริการในองค์กรสารสนเทศ
ท้องถิ่นและแหล่งสารสนเทศท้องถิ่น เป็นบันทึกภูมิปัญญาของคนในท้องถิ่น และเป็นข้อมูล
สารสนเทศที่เกี่ยวกับท้องถิ่นที่กลุ่มผู้ใช้ในองค์กรและประชาชนทั่วไปสามารถนาข้อมูลสารสนเทศไป
ใช้ในการศึกษาค้นคว้าวิจัย และใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิต รวมถึงหน่วยงานภาครัฐและ
ภาคเอกชนสารมารถนามาใช้ในการวางแผนพัฒนาท้องถิ่นและประเทศได้ โดยผ่านการให้บริการ
ขององค์กรสารสนเทศต่าง ๆ ดังนั้น องค์กรสารสนเทศท้องถิ่นจะต้องมีการบริหารจัดการบริหารที่มี
การสารสนเทศท้องถิ่นขององค์การ เพื่อให้มีการบริการสารสนเทศท้องถิ่นที่มีคุณภาพที่ดี
องค์กรสารสนเทศท้องถิ่นจึงต้องกาหนดแนวทางการบริหารจัดการและการ
ให้บริการสารสนเทศท้องถิ่นโดยอาจทาเป็นแผนพัฒนาระยะ 5 ปี ซึ่งต้องสอดคล้องกับแผนพัฒนา
ของหน่วยงานต้นสังกัด หรือแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยกาหนดไว้พันธกิจ
วัตถุประสงค์ กลยุทธ์ เป้าหมายในการให้บริการขององค์การไว้อย่างชัดเจนเพื่อให้มีวิธีการและ
เป้าหมายของแต่ละกลยุทธ์ที่ทาให้องค์การบรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้โดยวิธีที่ถูกต้อง โดยจะต้อง
ทบทวนทั้งพันธกิจ วัตถุประสงค์ และกลยุทธ์ทุกปีให้ทันต่อความเปลี่ยนแปลงของปัจจัยภายในและ
ภายนอกขององค์กร มีการกาหนดขอบเขตเนื้อหาของสารสนเทศท้องถิ่นที่จะจัดเก็บและให้บริการ
พร้อมทั้งแนวปฏิบัติในการดาเนินงานเพื่อใช้เป็นคู่มือ และแนวปฏิบัติในการดาเนินงานให้แก่ฝ่าย
ต่าง ๆ (มาลี ไชยเสนา. 2554 : 213) ได้อธิบายความสาคัญต่อองค์กร ดังนี้
2.3.1 การบริการสารสนเทศเป็นภารกิจหลักขององค์กร ทุกองค์กรต้องจัดให้มี
บริการสารสนเทศตามนโยบายขององค์กร
2.3.2 การบริการสารสนเทศเป็นตัวบ่งชี้คุณภาพการบริหารและการดาเนินงาน
ขององค์กรเพื่อให้มีประสิทธิภาพและความสาเร็จ รวมถึงการพิจารณาจากความพึงพอใจของ
ผู้ใช้บริการสารสนเทศ
2.3.3 การได้รับการยอมรับและศรัทธาในองค์กร นาไปสู่ความร่วมมือและการ
ให้การสนับสนุนจากหน่วยงานทั้งภายในและภายนอกองค์กร
สรุปได้ว่า บริการสารสนเทศท้องถิ่นมีความสาคัญต่อผู้ใช้การช่วยอานวยความ
สะดวกในการเข้าถึงสารสนเทศท้องถิ่น มีความสาคัญต่อผู้ให้บริการ และต่อองค์กรช่วยตอบสนอง
ความต้องการขององค์กร สนับสนุนและเสริมสร้างองค์ความรู้เพื่อนาไปสู่การดาเนินงานอย่างมี
ประสิทธิภาพ
ประเภทและประเด็นสาคัญที่เกี่ยวข้องกับการบริการสารสนเทศท้องถิ่น
องค์กรสารสนเทศท้องถิ่นจัดบริการทรัพยากรสารสนเทศท้องถิ่นตามพันธกิจของ
หน่วยงาน บริการที่จัดอาจมีมากน้อยแตกต่างกันไป เช่น จัดให้มีทั้งบริการพื้นฐาน และบริการ
พิเศษ สาหรับบริการสารสนเทศในแหล่งสารสนเทศท้องถิ่นอื่น ๆ ซึ่งสามารถนาเสนอได้ดังนี้
1. ประเภทของบริการทรัพยากรสารสนเทศท้องถิ่น
บริการสารสนเทศในแหล่งสารสนเทศท้องถิ่น มีบริการหลากหลายรูปแบบ ซึ่ง
สามารถนาเสนอได้ตามประเภทของแหล่งสารสนเทศ 2 ประเภท คือ บริการสารสนเทศในองค์กร
สารสนเทศท้องถิ่น และบริการสารสนเทศท้องถิ่นในแหล่งสารสนเทศท้องถิ่นอื่น ๆ (วรารักษ์
พัฒนเกียรติพงศ์. 2554 : 10-7-10-16) ดังนี้
1.1 บริการสารสนเทศในองค์กรสารสนเทศท้องถิ่น เช่น ห้องสมุด ศูนย์ข้อมูล ศูนย์
เอกสาร เป็นต้น มีการจาแนกบริการออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ด้วยกันคือ
1.1.1 บริการพื้นฐาน ประกอบด้วย บริการตอบคาถามและช่วยการค้นคว้า
บริการอ่าน บริการยืมคืน บริการนาส่งเอกสาร บริการยืมระหว่างห้องสมุด และบริการเพื่อพัฒนา
ทักษะการรู้สารสนเทศโดยมีรายละเอียด ดังนี้
1.1.1.1 บริการตอบคาถามและช่วยการค้นคว้า (Reference service)
เป็นบริการให้ความช่วยเหลือผู้ใช้ในการค้นหาข้อมูลสารสนเทศท้องถิ่นตามคาขอ ทั้งภายในองค์กร
สารสนเทศและแหล่งข้อมูลอื่น รวมทั้งให้บริการแนะนาวิธีการค้นหาข้อมูลสารสนเทศท้องถิ่น การ
ใช้หนังสืออ้างอิงเกี่ยวกับสารสนเทศท้องถิ่น และการเขียนรายการอ้างอิงและบรรณานุกรม การ
ให้บริการตอบคาถามนอกจากจะเป็นการบริการที่ช่วยเหลือผู้ใช้ในการค้นหาสารสนเทศที่ต้องการ
แล้ว ยังช่วยให้ผู้ใช้ได้สารสนเทศตามที่ต้องการ ประหยัดเวลาในการตอบคาถาม ช่วยส่งเสริมให้มี
การใช้สารสนเทศมากขึ้นทาให้เกิดการสานสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้ให้บริการกับผู้ใช้บริการผ่านการ
ให้บริการ การที่จะสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่องค์กรในฐานะเป็นแหล่งวิทยาการ และแหล่งเรียนรู้
ของชุมชน บริการตอบคาถามและช่วยการค้นคว้าสารสนเทศท้องถิ่นที่มีให้บริการในองค์กร
สารสนเทศแต่ละแห่งอาจมีขอบเขตหน้าที่ของงานแตกต่างกันตามประเภทและขนาดขององค์การ
สามารถจาแนกงานออกเป็นการให้ความช่วยเหลือผู้ใช้ในการค้นหาข้อมูลสารสนเทศ และการสอน
ค้นหาสารสนเทศด้วยตนเอง
1.1.1.2 บริการการอ่าน (Reader’service) เป็นบริการที่จัดขึ้นเพื่อ
อานวยความสะดวกในการใช้สถานที่ในการศึกษาค้นคว้าให้แก่ผู้ใช้ ได้แก่ การจัดที่นั่งอ่าน มีทั้งการ
จัดที่นั่งอ่านแบบเดี่ยวสาหรับผู้ใช้ที่ต้องการที่อ่านต้องมีสมาธิในการศึกษาค้นคว้า และที่นั่งอ่านแบบ
กลุ่มสาหรับผู้ที่ต้องการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกันการจัดห้องเฉพาะส่วนบุคคล
(Individual study room) ห้องค้นคว้ากลุ่ม (Group study room) นอกจากจะจัดที่นั่งอ่าน
ดังกล่าวแล้ว หากมีพื้นที่ให้บริการมาก อาจจัดพื้นที่ (Zoning) ให้เหมาะแก่การศึกษาค้นคว้า หรือ
เพื่อแบ่งพื้นที่ให้เหมาะแก่วัตถุประสงค์ของการใช้ เช่น พื้นที่ศึกษาค้นคว้าที่ต้องการความเงียบ
(Silent zone) พื้นที่ศึกษาค้นคว้าแบบให้ผู้ใช้พูดคุยเสียงดังได้แต่ต้องเคารพสิทธิของผู้อื่น (Group
discussion zone) เป็นต้น
1.1.1.3 บริการยืม-คืน (Circulation service) เป็นบริการที่อานวยความ
สะดวกให้ผู้ใช้สามารถยืมสารสนเทศออกนอกอาคารได้ งานบริการสารสนเทศท้องถิ่นของห้องสมุด
ในประเทศไทย มักจะจัดให้ยืมสารสนเทศท้องถิ่นไว้รวมกับบริการยืม-คืนของห้องสมุด เพื่ออานวย
ความสะดวกแก่ผู้ใช้ในการใช้บริการเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว สาหรับสื่อสิ่งพิมพ์ที่ไม่อนุญาตให้ยืมออก
เช่น หนังสืออ้างอิง อาจจัดให้ผู้ใช้กรอกแบบฟอร์ม และต้องมีการลงชื่ออนุญาตจากบรรณารักษ์
หรือเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย นอกจากการให้บริการยืม-คืนในห้องสมุดหรือศูนย์สารสนเทศแล้ว
ยังมีการจัดให้บริการยืม-คืนระหว่างห้องสมุดร่วมกัน (Reciprocal borrowing) ระหว่างห้องสมุด
สมาชิกที่มีความร่วมมือกันเช่น ให้บริการยืม-คืนระหว่างห้องสมุดร่วมกันของห้องสมุดสมาชิก
ข่ายงานห้องสมุดมหาวิทยาลัยส่วนภูมิภาค (Provincial University Library Network : PULINET)
บริการยืม-คืนระหว่างห้องสมุดร่วมกัน (Reciprocal
borrowing) หมายถึง การที่สมาชิกของห้องสมุดหนึ่งไปยืมสิ่งพิมพ์จากอีกห้องสมุดหนึ่งในข่ายงานฯ
ด้วยตนเองโดยใช้บัตรสมาชิกข่ายงานโดยห้องสมุดในข่ายงานมีการจัดทาข้อตกลงร่วมกันในการ
ให้ยืม
สารสนเทศท้องถิ่นบางประเภท เช่น เอกสารมรดก (Heritage
manuscripts) ส่วนใหญ่ไม่จัดให้มีการยืมออกไปใช้นอกสถานที่ โดยจัดให้ใช้บริเวณที่จัดให้
เนื่องจากเป็นเอกสารต้นฉบับตัวเขียนที่มีคุณค่าและหาได้ยาก จึงต้องบารุงรักษา เพื่อป้องกันให้
เสื่อมสภาพ จึงควรจัดให้มีถุงมือไว้ให้แก่ผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการ เนื่องจากมือมีน้ามันที่อาจทาให้
เอกสารมรดกเสื่อมสภาพเร็วขึ้น และผู้ให้บริการต้องให้คาแนะนาในการใช้เอกสารด้วย ในปัจจุบัน
มีการนาเทคโนโลยีมาใช้ในการจัดเก็บและให้บริการเอกสารมรดกในรูปดิจิทัล โดยการแปลงผัน
(Digitization) ให้อยู่ในรูปดิจิทัล จัดสร้างฐานข้อมูล โดยมีการกาหนดเมตาดาตา (Metadata) เพื่อ
บอกรายละเอียดของทรัพยากรสารสนเทศให้เป็นมาตรฐานสากลและให้บริการในรูปแบบสารสนเทศ
ดิจิทัลผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต อันเป็นการอนุรักษ์อกสารต้นฉบับและเผยแพร่ภูมิปัญญาท้องถิ่น
อย่างกว้างขวางต่อไป เช่น ฐานข้อมูล CMUL Digital Heritage Collection ของสานักหอสมุด
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นต้น
1.1.1.4 บริการสืบค้นสารสนเทศฐานข้อมูลและบริการอินเทอร์เน็ต
บริการสืบค้นสารสนเทศฐานข้อมูล (Information retrieval service) เป็นบริการระบบออนไลน์ที่
จัดให้มีเทอร์มินัลหรือเครื่องคอมพิวเตอร์ไว้ให้บริการสืบค้นสารสนเทศจากฐานข้อมูลที่ได้จากการ
จัดหาและสร้างขึ้นเอง ผู้ใช้สามารถสืบค้นสารสนเทศจากฐานข้อมูลฉบับเต็ม และฐานข้อมูลรายชื่อ
ทรัพยากรสารสนเทศ (OPAC)
ในปัจจุบัน การให้บริการสารสนเทศท้องถิ่นในหลายแห่งของ
ประเทศไทย มีการนาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการให้บริการสารสนเทศท้องถิ่นในรูปแบบ
ดิจิทัล ทั้งดาเนินการในรูปแบบของการแปลงผัน (Digitization) เอกสารสิ่งพิมพ์ให้อยู่ในรูปดิจิทัล
โดยนามาเผยแพร่ในรูปของฐานข้อมูลและการสร้างเนื้อหาด้านสารสนเทศท้องถิ่นขึ้นมาใหม่ เพื่อให้
สามารถเผยแพร่ได้อย่างกว้างขวางมากขึ้น เช่น ในรูปแบบของฐานข้อมูล สื่อมัลติมีเดีย เป็นต้น
มีการสร้างฐานข้อมูลฉบับต้นขึ้น เช่น ฐานข้อมูลนนทบุรีศึกษา ของสานักบรรณสารสารสนเทศ
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ฐานข้อมูลอีสานสนเทศของศูนย์สารนิเทศอีสานสิรินธร
มหาวิทยาลัยสารคาม ฐานข้อมูลเอกสารมรดก (CMUL Digital Heritage Collection) ภาพล้านนา
ในอดีตของสานักหอสมุดมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
1.1.1.5 บริการนาส่งเอกสาร (Document delivery service) เป็น
บริการจัดส่งเอกสารจากแบบคาขอของผู้ใช้บริการที่เป็นสมาชิกผ่านเว็บไซต์ขององค์กรสารสนเทศ
หรือแบบฟอร์มการขอใช้โดยไม่ต้องติดต่อขอยืมเอกสารจากห้องสมุด องค์กรสารสนเทศที่มีเอกสาร
จะเป็นผู้นาส่งข่าวสารให้ผู้ใช้บริการ ณ สถาบันปลายทาง เช่น ในห้องสมุดสถาบันอุดมศึกษาที่มี
ห้องสมุดกลางและห้องสมุด คณะสถาบันศูนย์สังกัดสถาบันนั้น ๆ หรือมีห้องสมุดวิทยาเขต
1.1.1.6 บริการยืมระหว่างห้องสมุด (Interlibrary loan) เป็นบริการที่
เกิดจากความร่วมมือระหว่างองค์กรสารสนเทศเพื่อยืมหรือของถ่ายสาเนาเอกสารสิ่งพิมพ์จาก
ห้องสมุดและนามาให้บริการแก่ผู้ใช้ถึงห้องสมุดที่ผู้ใช้ขอใช้บริการ โดยส่วนใหญ่จะให้ผู้ใช้เป็นผู้ออก
ค่าใช้จ่ายทั้งหมด ได้แก่ ค่าถ่ายเอกสารและค่าส่ง องค์การสารสนเทศที่ร่วมมือกันจะออกประกาศ
เกี่ยวกับอัตราค่าบริการเพื่อใช้มาตรฐานในการให้บริการร่วมกัน
1.1.1.7 บริการเพื่อพัฒนาทักษะการรู้สารสนเทศ (Information
literacy) เป็นการจัดกิจกรรมแนะนาเป็นการใช้สารสนเทศแนะนา อบรม การใช้ข้อมูลทาง
อิเล็กทรอนิกส์ การจัดทาคู่มือการใช้บริการตลอดจนการจัดบริการแนะนาวิธีการใช้เอกสารประเภท
ต่าง ๆ การแนะนาวิธีการศึกษาค้นคว้าให้แก่ผู้ใช้ส่วนใหญ่เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นในองค์กรสารสนเทศ
เช่น ห้องสมุดสถาบันอุดมศึกษา มักจะให้สาหรับนักศึกษาเฉพาะสาขาตามคาขอของอาจารย์แต่ละ
กระบวนวิชาโดยจัดฝึกอบรมแก่ผู้ใช้ตามหัวข้อที่เหมาะสมและน่าสนใจ เช่น การปฐมนิเทศ การ
แนะนาการสืบค้นสิ่งพิมพ์การรู้สารสนเทศด้วยตัวเองส่งเสริมการใช้ฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์โดยการ
ฝึกอบรมและสัญจรไปฝึกอบรมที่คณะต่าง ๆ เป็นต้น
1.1.2 บริการพิเศษ เป็นบริการพิเศษที่นิยมจัดให้บริการในองค์การสารสนเทศ
ที่ให้บริการสารสนเทศท้องถิ่นในประเทศ ประกอบด้วย บริการสารสนเทศทันสมัย บริการรวบรวม
บรรณานุกรม บริการแฟ้มสารสนเทศ บริการแปล โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1.1.2.1 บริการสารสนเทศทันสมัย (Current awateness service)
เป็นบริการที่องค์กรสารสนเทศแจ้งใช้ทราบถึงความรู้หรือสารสนเทศใหม่ ๆ ตามความสนใจของผู้ใช้
ทันทีที่องค์กรสารสนเทศได้รับสารสนเทศหรือทราบข่าวสาร เพื่อให้ผู้ใช้ทราบว่ามีสารสนเทศนั้นผลิต
และเผยแพร่ขึ้นใหม่ โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะสนองความต้องการของผู้ใช้ให้สามารถติดตาม
สารสนเทศในเรื่องที่ตนสนใจได้อย่างรวดเร็ว
การจัดบริการสารสนเทศทันสมัยสามารถดาเนินการทั้งอย่าง
เป็นทางการและไม่เป็นทางการโดยจัดให้แก่ผู้ใช้เป็นรายบุคคลหริอกลุ่มบุคคล ในปัจจุบันองค์กร
สารสนเทศมุ่งเน้นการให้บริการสารสนเทศอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเป็นการประหยัดเวลา สามารถ
เผยแพร่ถึงผู้ใช้กลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว ทันต่อความต้องการและสามารถทารูปแบบการ
นาเสนอได้อย่างสวยงามและน่าสนใจ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งเป็นการประหยัดงบประมาณเมื่อ
เทียบกับการจัดพิมพ์ออกมาในรูปแบบสื่อสิ่งพิมพ์ จึงได้บริการสารสนเทศทันสมัยผ่านเว็บไซต์ของ
หน่วยงาน เช่น การประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร การจัดทารายการทรัพยากรสารสนเทศใหม่ การ
ทาสาเนาหน้าสารบัญวารสาร หรือที่เรียกว่า บริการ Journals and current content หรือเรียก
สั้น ๆ ว่า Current content บริการเวียนเอกสาร การจัดแสดงทรัพยากรสารสนเทศใหม่ และ
บริการเลือกสรรสารสนเทศเฉพาะส่วนบุคคล
1.1.2.2 บริการรวบรวมบรรณานุกรม (Bibliograghy service) เป็นการ
รวบรวมรายชื่อสารสนเทศมาเรียงลาดับไว้อย่างมีระเบียบแบบแผนตามหลักเกณฑ์การลงรายการ
สารสนเทศโดยอาจระบุ เลขเรียกหนังสือไว้ด้วย เพื่อใช้เป็นคู่มือในการให้บริการหรือใช้ในการ
ค้นหาสารสนเทศที่ต้องการ ในปัจจุบัน ทั้งผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการมีความสะดวกในการค้นหา
สารสนเทศที่ต้องการหรือเพื่อรวบรวมบรรณานุกรมในหัวข้อที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากผู้ใช้
สามารถค้นหารายชื่อสารสนเทศจากฐานข้อมูลรายชื่อสารสนเทศ (OPAC) ฐานข้อมูลดรรชนีวารสาร
ฐานข้อมูลเฉพาะ เช่น ฐานข้อมูลท้องถิ่นของภาคต่าง ๆ ที่ให้บริการฟรีผ่านเว็บไซต์ ฐานข้อมูล
บทความหนังสือพิมพ์ เช่น Matichon e-library การสืบค้นสารสนเทศได้โดยง่ายด้วยโปรแกรม
ค้นหา (Search engine) เช่น Google อีกทั้งมีการจัดทาบริการสารสนเทศทันสมัยผ่านเว็บไซต์
เช่น การแนะนาสารสนเทศใหม่ เป็นต้น ซึ่งมีผลทาให้การใช้บริการนี้ในงานบริการข้อมูลท้องถิ่นใน
หลายห้องสมุดมหาวิทยาลัยในประเทศมีปริมาณลดลง ในบางแห่งไม่ได้จัดบริการนี้สาหรับให้บริการ
แล้ว โดยหันไปมุ่งเน้นการสร้างเนื้อหา (Content) และการสอนใช้สารสนเทศเพื่อให้ผู้ใช้สามารถ
ค้นหาสารสนเทศได้ด้วยตนเอง
1.1.2.3 บริการแฟ้มสารสนเทศ (Informtion files) เป็นการให้บริการ
สารสนเทศใหม่ ๆ ที่อยู่ในความสนใจ หรือเป็นเรื่องที่มีผู้ใช้ร้องขอเป็นจานวนมาก สารสนเทศที่นามา
จัดทาแฟ้มอาจรวบรวมมาจากบทความจากวารสาร/นิตยสาร/หนังสือพิมพ์ จุลสาร เป็นต้น องค์กร
สารสนเทศที่ให้บริการสารสนเทศท้องถิ่นหลายแห่งนิยมจัดทาแฟ้มสารสนเทศ โดยจัดทาในรูปของ
ข่าว บทความตัดแปะ (Clipping) และรวบรวมบทความจากวารสาร นิตยสาร หนังสือพิมพ์
ข่าวสาร/จุลสารท้องถิ่น แล้วนามารวมเป็นแฟ้มสารสนเทศในหัวข้อใดหัวข้อหนึ่ง ซึ่งช่วยให้มี
สารสนเทศท้องถิ่นที่ทันสมัยและไม่สามารถค้นหาจากที่อื่น ๆ ได้ หากต้องการให้ความสะดวก
รวดเร็วในการให้บริการแก่ผู้ใช้ และประหยัดที่จัดเก็บแฟ้มสารสนเทศ อาจใช้วิธีแปลงผัน
(Digitization) ให้อยู่ในรูปสารสนเทศดิจิทัล แต่สาหรับการให้บริการและเผยแพร่สารสนเทศประเภท
นี้ จะต้องศึกษาและระมัดระวังในเรื่องของกฎหมายลิขสิทธิ์ด้วย ซึ่งอาจะใช้วิธีให้บริการบนเครื่อง
คอมพิวเตอร์แบบ Stand alone คือ จัดให้บริการโดยใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ไม่ได้การเชื่อมต่อกับ
เครื่องอื่น ๆ ในลักษณะเครือข่าย
1.1.2.4 บริการแปล สารสนเทศท้องถิ่นอาจผลิตออกมาในหลากหลาย
ภาษา เช่น เขียนด้วยภาษาท้องถิ่น ภาษาต่างประเทศ ผู้ใช้อาจมีความจาเป็นต้องใช้สารสนเทศที่เป็น
ภาษาที่ตนเองไม่สามารถอ่านออกได้ องค์การสารสนเทศอาจจัดบริการแปล หรือติดต่อหรือแนะนา
ผู้แปลที่มีความเชี่ยวชาญและเชื่อถือได้ให้แก่ผู้ใช้ หรือแนะนาผู้ใช้ให้ไปใช้บริการจากหน่วยงานที่รับ
แปลเอกสาร
1.2 บริการสารสนเทศท้องถิ่นในแหล่งสารสนเทศท้องถิ่นอื่น ๆ เช่น พิพิธภัณฑ์
ท้องถิ่น หอศิลปวัฒนธรรม เป็นต้น
พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น นับเป็นแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิตประเภทหนึ่ง พิพิธภัณฑ์
ท้องถิ่นในประเทศไทยเท่าที่ปรากฏในฐานข้อมูลพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นในประเทศ บริการของพิพิธภัณฑ์
เป็นการให้ข้อมูลสารสนเทศ ความรู้ในเรื่องต่าง ๆ เช่น ประวัติศาสตร์ วิถีชีวิต ศิลปวัฒนธรรม
โบราณสถาน โบราณวัตถุที่สาคัญของท้องถิ่นนั้น ๆ
หอศิลปวัฒนธรรม เป็นแหล่งสารสนเทศท้องถิ่นที่ให้บริการสารสนเทศเกี่ยวกับ
ประวัติศาสตร์วิถีชีวิตของผู้คน ศิลปวัฒนธรรมและประเพณีในท้องถิ่น และทาหน้าที่เป็นศูนย์กลาง
ของการท่องเที่ยวในเชิงอนุรักษ์ในจังหวัดหรือท้องถิ่นนั้น ๆ เช่น หอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่
หอศิลปวัฒนธรรมเมืองขอนแก่น (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น สานักศิลปวัฒนธรรม)
บริการต่าง ๆ ที่จัดให้มีในพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น และหอศิลปวัฒนธรรม มีดังนี้
1.2.1 บริการให้การศึกษาหรือบริการงานชม เป็นบริการหลักของพิพิธภัณฑ์
และหอศิลปวัฒนธรรมจัดบริการนาชมโดยกาหนดวันเวลาเปิดให้ชมที่แน่นอน มีผู้ให้บริการนาชมที่
มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องที่นาชม มีความสามารถในการสื่อสารความรู้ และแนะนาเรื่องราวและให้
ความรู้เกี่ยวกับวัตถุที่จัดแสดง ส่วนใหญ่ไม่คิดค่าเข้าชม แต่มีบางแห่งคิดค่าเข้าชม เพื่อนาไปใช้ใน
กิจการของหน่วยงาน ซึ่งขึ้นอยู่กับนโยบายของหน่วยงาน เช่น หอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่
1.2.2 การจัดแสดงนิทรรศการ เป็นบริการหลักของพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นและ
หอศิลปวัฒนธรรม จัดใน 2 รูปแบบ คือ 1) นิทรรศการถาวร เป็นนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติศาสตร์
ความเป็นมาและวิถีชีวิตของชุมชนศิลปวัฒนธรรมของทองถิ่น ภูมิปัญญาท้องถิ่น บุคคลสาคัญใน
ท้องถิ่น การสะท้อนภาพปัญหาของท้องถิ่น เช่น ด้านสิ่งแวดล้อม เป็นต้น ในห้องแสดงนิทรรศการ
มีการนาเทคโนโลยีและสื่อสมัยใหม่มาใช้ประกอบเพื่อให้นิทรรศการมีความสนใจและสวยงาม และ
2) นิทรรศการหมุนเวียน เป็นบริการที่เปิดให้หน่วยงาน/ประชาชนทั่วไปมาใช้สถานที่แสดงผลงาน
หรือเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่น เช่น บริการของหอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่
1.2.3 การจัดแสดงวัตถุที่มีอยู่ในท้องถิ่น วัตถุที่จัดแสดง เป็นวัตถุหรือสิ่งของที่มี
อยู่ในชุมชนหรือท้องถิ่นนั้น ๆ ซึ่งเป็นวัตถุที่บอกถึงประวัติความเป็นมา วิถีชีวิตของชุมชน
ศิลปวัฒนธรรมภูมิปัญญาของท้องถิ่น อาจเป็นทั้งของมีค่า และไม่ใช่ของมีค่า แต่มีความหมายต่อ
ท้องถิ่น เช่น วัตถุที่เป็นสมบัติของวัดในท้องถิ่นนั้น มาแต่โบราณ เช่น ธรรมาสน์ เครื่องมือเครื่องใช้
ในการจารใบลาน ผ้าหอใบลาน ต้นฉบับหนังสือและตาราต่าง ๆ ตลอดจนเครื่องมือ เครื่องใช้ เช่น
ขวานหิน ขวานสาริด กาไล ลูกปัด เครื่องปั้นและเครื่องเคลือบดินเผา เป็นต้น มีการจัดทา
คาอธิบายประกอบวัตถุอย่างเพียงพอที่จะให้ผู้ชมเข้าใจสาระวัตถุชิ้นนั้น เพื่อให้ผู้เข้าชมได้รักและ
เข้าใจท้องถิ่นได้อย่างรอบด้าน เช่น เครื่องมือเครื่องใช้ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับชื่อเรียก วัสดุที่ใช้ในการทา
ประโยชน์ใช้สอย ผู้ประดิษฐ์ เป็นต้น
1.2.4 บริการให้ยืมนิทรรศการ เป็นบริการให้ยืมสื่อนิทรรศการ และอาจให้ยืม
ภาพถ่าย ภาพถ่าย สไลด์ วิดีทัศน์ หรือสื่ออื่น ๆ ที่พิพิธภัณฑ์และหอศิลปวัฒนธรรมจัดทาขึ้น
เพื่อเผยแพร่สารสนเทศท้องถิ่นออกสู่ชุมชนให้กว้างขวางยิ่งขึ้น เช่น บริการของหอศิลปวัฒนธรรม
จัดทาขึ้น เพื่อเผยแพร่สารสนเทศท้องถิ่นออกสู่ชุมชนให้กว้างขวางยิ่งขึ้น เช่น บริการของหอ
ศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่
1.2.5 การจัดกิจกรรม เป็นการจัดกิจกรรมในหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับท้องถิ่น เพื่อ
ให้บริการความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับท้องถิ่น การพัฒนาท้องถิ่น การทานุบารุงศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น
และเพื่อกิจกรรมส่งเสริมการใช้บริการให้แก่หน่วยงานด้วย เช่น การจัดเสวนาเกี่ยวกับปัญหาของ
ท้องถิ่น การจัดแสดงเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่นการสอนวิธีการประดิษฐ์ศิลปหัตถกรรมของ
ท้องถิ่นตามช่วงที่มีเทศกาลหรือประเพณีที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น
1.2.6 บริการสารสนเทศดิจิทัล ปัจจุบันหลายหน่วยงานทั้งในและต่างประเทศ
นิยมเผยแพร่สารสนเทศเกี่ยวกับวัฒนธรรมของท้องถิ่นหรือชุมชนในรูปสารสนเทศดิจิทัล เนื่องด้วย
สามารถนาเสนอได้อย่างกว้างขวาง ในรูปแบบที่สวยงาม หลากหลายรูปแบบ ทั้งในรูปข้อความ
ภาพประกอบทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว มีความน่าสนใจและประหยัดค่าใช้จ่าย ไม่จาเป็นต้อง
มีสถานที่ให้บริการ ตัวอย่างเช่น การจัดทาพิพิธภัณฑ์ออนไลน์ การจัดทาฐานข้อมูลของหน่วยงาน
วัฒนธรรม
จากที่กล่าวมาสรุปได้ว่า งานบริการสารสนเทศท้องถิ่นสามารถจัดกิจกรรมส่งเสริม
การใช้สารสนเทศท้องถิ่นได้อย่างหลากหลาย เช่น การจัดการนิทรรศการเกี่ยวกับสารสนเทศท้องถิ่น
ในสถานที่และนอกสถานที่ เช่น ศูนย์การค้า เพื่อเผยแพร่สารสนเทศสู่ชุมชนให้กว้างขวางยิ่งขึ้น
การการเยี่ยมชม/ดูงาน บุคลากรในสังกัดรับเชิญเป็นที่ปรึกษาด้านการจัดและการให้บริการ
สารสนเทศท้องถิ่นแก่หน่วยงานอื่น การเป็นวิทยากร/อาจารย์พิเศษ เพื่อเป็นให้บริการวิชาการแก่
ชุมชน และส่งเสริมการใช้บริการสารสนเทศท้องถิ่น ทั้งยังเป็นการประชาสัมพันธ์และทาการตลาด
ให้แก่งานบริการสารสนเทศท้องถิ่นอีกด้วย
2. ประเด็นสาคัญที่เกี่ยวข้องกับการบริการสารสนเทศท้องถิ่น
ประเด็นสาคัญที่เกี่ยวข้องกับการบริการสารสนเทศท้องถิ่นที่เป็นปัจจัยส่งเสริม
สนับสนุนให้งานบริการสารสนเทศท้องถิ่นบรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้ องค์กรสารสนเทศท้องถิ่นต้อง
มีการบริหารจัดการที่ดีในการให้บริการสารสนเทศท้องถิ่นขององค์กร เพื่อให้มีบริการทรัพยากร
สารสนเทศที่มีคุณภาพ (วรารักษ์ พัฒนเกียรติพงศ์. 2554 : 10-20-10-28) ประกอบด้วย
2.1 การกาหนดนโยบายการให้บริการ นโยบายคือ หลักและวิธีการปฏิบัติซึ่งถือเป็น
แนวทางดาเนินการด้านบริการสารสนเทศท้องถิ่น จึงควรมีการกาหนดนโยบายจากฝ่ายบริหารของ
องค์กรไว้เป็นลายลักษณ์อักษรให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ พันธกิจ วัตถุประสงค์ และเป้าหมายของ
องค์กร เพื่อเป็นกอบแนวทางในการปฏิบัติงานของบุคลากร นโยบายที่กาหนดไว้มีขอบเขตเกี่ยวกับ
บุคลากร ภาระหน้าที่ และการจ้างงาน แนวทางการใช้บริการและประเภทของการบริการหรือ
กิจกรรม การจัดหาสาสนเทศ และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการดาเนินงาน โดยมี 3
องค์ประกอบจาแนกได้เป็น 1) เป้าหมายของสิ่งที่ต้องการกระทาที่มีความชัดเจน 2) วิถีทางในการ
ดาเนินงานให้บรรลุเป้าหมาย ซึ่งเป็นแนวทางที่ทาให้สาเร็จได้ และ 3) ปัจจัยสนับสนุนการดาเนินงาน
ซึ่งมีทั้งปัจจัยภายใน เช่น คน เงิน วัสดุอุปกรณ์ เป็นต้น และปัจจัยภายนอก เช่น สภาพแวดล้อม
ทางการเมือง เศรษฐกิจทางสังคม วิทยาการ และเทคโนโลยี เป็นปัจจัยที่อยู่ในวิสัยที่สามารถ
จัดหามาดาเนินและน่าจะเป็นไปได้เพื่อเป็นหลักและวิธีการปฏิบัติสาหรับใช้เป็นแนวทางในการ
ดาเนินกิจกรรมของการให้บริการ ช่วยให้การดาเนินกิจกรรมการให้บริการสอดคล้องและเป็นไปตาม
เป้าหมายในการดาเนินงานที่องค์กรกาหนดไว้
การจาแนกประเภทนโยบาย จาแนกได้หลายวิธี โดยทั่วไปการแบ่งตาม
ระดับชั้นของการบริหาร แบ่งเป็น 3 ระดับ 1) นโยบายขั้นพื้นฐาน เป็นนโยบายที่ใช้เป็นฐานของ
นโยบายประเภทอื่น ๆ 2) นโยบายทั่วไป เป็นนโยบายที่กาหนดขึ้นตามนโยบายขั้นพื้นฐานเพื่อความ
เข้าใจของผู้ปฎิบัติมากยิ่งขึ้น 3) นโยบายเฉพาะแผนกงาน เป็นนโยบายระดับล่างกาหนดขึ้น
เฉพาะงานขององค์กรของตนเองตามนโยบายขั้นพื้นฐานและนโยบายทั่วไป เพื่อให้มีรายละเอียด
ชัดเจนยิ่งขึ้น
การกาหนดนโยบายขั้นพื้นฐาน องค์กรสารสนเทศ เช่น ห้องสมุดมหาวิทยาลัย
ควรกาหนดนโยบายขั้นพื้นฐานในการจัดบริการแต่ละประเภท เช่น กาหนดว่า “ให้บริการแก่
นักศึกษาและบุคลากรของมหาวิทยาลัยตลอดจนบุคคลทั่วไป”
นโยบายทั่วไปในการบริการประเภทต่าง ๆ เช่น กาหนดว่า “พัฒนาระบบการ
บริการ โดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่”
นโยบายเฉพาะ ควรมีกาหนดนโยบายในการดาเนินการเฉพาะบริการแต่ละ
ประเภท ตัวอย่างการกาหนดนโยบายในการสร้างเนื้อหา และการเผยแพร่สารสนเทศท้องถิ่น เช่น
กาหนดว่า “จัดทาและเผยแพร่ข้อมูลท้องถิ่นในรูปแบบต่าง ๆ แก่ชุมชน รวมถึงการสนับสนุนข้อมูล
ทางศิลปวัฒนธรรมภายใต้ขอบเขตและพันธกิจของห้องสมุด”
2.2 การจัดทาแผนพัฒนาองค์กร องค์กรสารสนเทศท้องถิ่นจะต้องกาหนดเกี่ยวกับ
การบริหารการจัดการและการให้บริการสารสนเทศท้องถิ่นไว้ในแผนพัฒนา โดยอาจทาเป็น
แผนพัฒนาระยะ 5 ปี ซึ่งสอดคล้องกับแผนพัฒนาของหน่วยงานต้นสังกัด หรือแผนพัฒนาเศรษฐกิจ
และสังคมแห่งชาติ โดยควรกาหนดพันธกิจ วัตถุประสงค์นโยบายในการให้บริการอย่างเป็นลาย
ลักษณ์และมีความชัดเจน เพื่อให้มีบริการสารสนเทศท้องถิ่นเป็นกิจกรรมหรือสิ่งที่องค์กรต้อง
ดาเนินการ มีการกาหนดกลยุทธ์และเป้าหมายในการให้บริการขององค์กร เพื่อให้มีวิธีการและ
เป้าหมายของแต่ละกลยุทธ์ด้านการให้บริการที่ทาให้องค์บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ด้วยวิธีที่
ถูกต้องโดยจะต้องมีการทบทวนทั้งพันธกิจ วัตถุประสงค์ และกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับการบริการ
สารสนเทศท้องถิ่นทุกปี โดยนาการวิเคราะห์สภาพแวดล้อม (SWOT analysis) มาใช้เป็นเครื่องมือ
ในการวิเคราะห์จุดแข็ง (Stength) จุดอ่อน (Weakness) โอกาส (Opportunities) และภาวะ
คุกคาม (Threats) ของการให้บริการสารนเทศท้องถิ่น และนาผลที่ได้มากาหนดแนวทางการ
พัฒนาการให้บริการในแต่ละด้านประจาปีด้วย เพื่อเป็นแนวทางในการดาเนินงานให้ทันกับความ
เปลี่ยนแปลงของปัจจัยภายในและภายนอกองค์การ และจัดทาโครงการ/กิจกรรมในปีต่อไปเพื่อ
รองรับแนวทางการพัฒนาที่กาหนดไว้
2.3 การกาหนดขอบเขตเนื้อหาของสารสนเทศท้องถิ่นที่จะจัดเก็บและให้บริการ
ขอบเขตเนื้อหาของสารสนเทศท้องถิ่นที่องค์กรสารสนเทศจัดเก็บและให้บริการ สามารถใช้เป็นคู่มือ
และแนวทางในการดาเนินงานเกี่ยวกับงานสารสนเทศท้องถิ่นแก่ฝ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ในการ
กาหนดขอบเขตเนื้อหาของสารสนเทศที่จะจัดเก็บจะต้องจัดทาขอบเขตและแนวปฏิบัติครอบคลุมถึง
การให้บริการด้วย เพื่อให้บริการสารสนเทศท้องถิ่นการปฏิบัติงานของฝ่ายต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพ
และเกิดประสิทธิผลแก่องค์กร ให้ส่วนขอบเขตเนื้อหานี้ ควรกาหนด ดังนี้
ขอบเขตเนื้อหาที่จัดเก็บและให้บริการ ครอบคลุมสาขาและเนื้อหาในด้าน
ใดบ้าง กาหนดขอบเขตภูมิศาสตร์ และขอบเขตด้านวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับสารสนเทศที่จะจัดเก็บ
และให้บริการ เช่น ศูนย์สารสนเทศอีสานสิรินธร สานักวิทยาบริการ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
กาหนดขอบเขตเนื้อหาของสารสนเทศท้องถิ่นที่ให้บริการว่าศูนย์สารนิเทศอีสานสิรินธร เป็นแหล่ง
จัดหา รวบรวม และให้บริการสารสนเทศที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับภาคตะวันออกเฉียงเหนือในทุก ๆ ด้าน
และทุกรูปแบบ ครอบคลุมพื้นที่ 20 จังหวัด ได้แก่ กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครพนม
นครราชสีมา บุรีรัมย์ มหาสารคาม มุกดาหาร ยโสธร ร้อยเอ็ด เลย ศรีษะเกษ สกลนคร สุรินทร์
หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลาภู อานาจเจริญ อุดรธานี และอุบลราชธานี ทาหน้าที่เป็นศูนย์กลาง
การสนับสนุน การศึกษา ค้นคว้า วิจัย ของภูมิภาคอีสาน อีกทั้งเป็นหน่วยประสานงานเรือข่าย
สารสนเทศท้องถิ่นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อมุ่งที่จะดารง รักษา อนุรักษ์ส่งเสริม
เผยแพร่ และสืบทอดเรื่องราววัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่นอีสานของชาวอีสานไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้
ศึกษาต่อไป (คู่มือการให้บริการของศูนย์สารนิเทศอีสานสิรินธร สานักวิทยบริการ มหาวิทยาลัย
มหาสารคาม. 2553)
2.4 ด้านระเบียบการใช้บริการ องค์กรสารสนเทศท้องถิ่นต้องกาหนดระเบียบการใช้
บริการ เพื่อให้เป็นกฎระเบียบ ข้อบังคับ ข้อปฏิบัติในการใช้บริการที่สอดคล้องกับนโยบายในการ
ให้บริการและความเหมาะสมของการให้บริการ เพื่อใช้เป็นกรอบแนวทางในการปฏิบัติงานให้บริการ
สาหรับบุคลากรผู้ปฏิบัติงาน องค์กรสารสนเทศท้องถิ่น ควรจัดระเบียบการใช้บริการให้ครอบคลุม
ทุกด้าน ได้แก่ ระเบียบเกี่ยวกับบริการของสถาบัน การเป็นสมาชิกของผู้ใช้ การให้ยืมทรัพยากร
สารสนเทศ และกาหนดรายรับ รายการ และเงื่อนไข การรับเงินรายได้ขององค์การ ประกอบด้วย
อัตราค่าธรรมเนียม ค่าบริการ และค่าปรับขององค์การ ข้อปฏิบัติเมื่อเข้าใช้บริการขององค์การ
และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
2.5 ด้านบุคลากรผู้ให้บริการ บุคลากรผู้ให้บริการเป็นตัวกลางในการนาส่งบริการ
ขององค์กรสารสนเทศให้แก่ผู้ให้บริการ องค์กรจะต้องจัดให้มีการพัฒนาความรู้ความสามารถของ
บุคคลากรอย่างสม่าเสมอและต่อเนื่อง เพื่อให้บุคลากรมีความรู้ ความชานาญในการให้บริการที่ทัน
ต่อวิทยาการสมัยใหม่ นอกจากความรู้เชิงวิชาการแล้ว ควรต้องมีการฝึกอบรมเรื่องการพัฒนา
บุคลิกภาพและจิตบริการ (Service mind) ให้แก่บุคลากรอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ควรนาหลักของการจัดการความรู้ (Knowledge Management :
KM) มาใช้เป็นเครื่องมือในการพัฒนาบุคลากรด้วย เช่น จัดให้มีกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในงาน
ด้านบริการ การตั้งชุมชนแนวปฏิบัติ COP (Community of Practice) เป็นต้น ด้านการให้บริการ
ข้อมูลท้องถิ่น อาจจัดให้มีชุมชนแนวปฏิบัติบุคลากรผู้ปฏิบัติงานด้านการดาเนินงานด้านสารสนเทศ
ท้องถิ่นขององค์กร เพื่อให้บุคลากรมีเวทีในการรวมกลุ่ม เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้เติมเต็มความรู้ให้กัน
เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาการให้บริการสารสนเทศต่อไป
2.6 ด้านสถานที่บริการ สถานที่ให้บริการสารสนเทศท้องถิ่น เป็นบริเวณที่จัดให้ผู้ใช้
ได้เข้ามาศึกษาค้นคว้า ควรจัดบริเวณให้บริการให้มีพื้นที่อย่างน้อย ดังนี้
2.6.1 พื้นที่สาหรับการจัดชั้นวางและตู้เก็บทรัพยากรสารสนเทศประเภทต่าง ๆ
2.6.2 พื้นที่สาหรับการจัดวางอุปกรณ์ช่วยในการค้นคว้า เช่น เครื่อง
คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ ต่อพ่วง เครื่องอ่านไมโครฟิล์ม เป็นต้น
2.6.3 พื้นที่นั่งอ่าน ซึ่งจะต้องมีการออกแบบ และจัดวางอย่างเหมาะสม
รวมถึงการจัดทาเว็บไซต์เป็นช่องทางในการเผยแพร่บริการ ต้องคานึงถึงสิ่งต่าง ๆ ดังนี้
2.7 ด้านเครื่องมือการเข้าถึงสารสนเทศท้องถิ่น เพื่อให้ผู้ใช้เข้าถึงสารสนเทศท้องถิ่น
ที่องค์กรสารสนเทศจัดเก็บและให้บริการ ควรจัดสร้างฐานข้อมูลเพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการสืบค้น
และอานวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้การสืบค้นเพื่อการศึกษาค้นคว้าอย่างรวดเร็ว และสามารถสืบค้น
ได้อย่างกว้างขวางทุกที่ทุกเวลาผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ฐานข้อมูลที่จัดทาขึ้น เพื่อใช้เป็นเครื่องมือ
เข้าถึงสารสนเทศท้องถิ่น อาจทารวมเข้าไว้ใน ฐานข้อมูลรายชื่อสารสนเทศของทั้งองค์กร เพื่อใช้
สืบค้นรายชื่อสารสนเทศทั้งหมดขององค์กรสารสนเทศที่จัดให้บริการ และในรูปของฐานข้อมูล
เฉพาะ ซึ่งควรให้ข้อมูลฉบับเต็มด้วย เช่น ฐานข้อมูลกฤตภาคอีสานอิเล็กทรอนิกส์ ของศูนย์
สารนิเทศอีสานสิรินธร ฐานข้อมูลเชิดชูผู้รู้นนทบุรี ของสานักบรรณสารสนเทศ
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ฐานข้อมูลภาพเก่า เรื่องเล่าชาวอุบล ของสานักวิทยบริการ
มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เป็นต้น การจัดสร้างฐานข้อมูลด้องเป็นตามมาตรฐานสากล คือมีการใช้
มาตรฐานการบันทึก รายการทางบรรณานุกรม เช่น MARC (Machine-Readable Cataloging)
Metadata เพื่อการเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์มีความสะดวกและง่ายต่อการ
ใช้ ในการให้บริการเกี่ยวกับเครื่องมือในการสืบค้น ควรจัดเครื่องคอมพิวเตอร์พร้อมอุปกรณ์ต่อพ่วง
ให้แก่ผู้ใช้สาหรับสืบค้นสารสนเทศตามความเหมาะสมและมีจานวนเพียงพอกับการใช้
2.8 ด้านความร่วมมือในการบริการ การให้บริการสารสนเทศ ควรมุ่งเน้นการบริการ
ให้แก่ผู้ใช้เป็นสาคัญ จะต้องให้บริการผู้ใช้ได้เข้าถึงสารสนเทศได้อย่างกว้างขวาง การให้บริการควร
เน้นในเชิงรุกมากกว่าเชิงรับ ถึงแม้ผู้ใช้จะพอใจกับสารสนเทศที่มีอยู่ในองค์การของตนเองก็ตาม
หากมีแหล่งสารสนเทศอื่นที่มีอยู่ในองค์กรสารสนเทศอื่น ผู้ให้บริการควรเสนอให้ผู้ใช้ได้ตัดสินใจ
เลือกใช้ เพื่อให้ได้มาซึ่งสารสนเทศที่กว้างและตรงกับความต้องการมากที่สุด ดังนั้น องค์กร
สารสนเทศท้องถิ่นควรมีความร่วมมือกันในด้านต่าง ๆ เพื่อให้การบริการเกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ใช้
ในด้านบริการสารสนเทศท้องถิ่นในปัจจุบัน ที่อาจร่วมมือกันระหว่างองค์การสารสนเทศได้ เช่น
บริการยืมระหว่างองค์กรสารสนเทศ บริการยืม-คืน ระหว่างองค์กรสารสนเทศร่วมกัน (Reciprocal
borrowing) ความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการให้บริการ เป็นต้น
2.9 ด้านการสารวจความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ องค์กรสารสนเทศท้องถิ่น ควรจัด
ให้มีการสารวจความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ เพื่อนาผลมาปรับปรุงและพัฒนาการให้บริการให้มี
คุณภาพยิ่งขึ้น ซึ่งอาจสารวจความพึงพอใจในการให้บริการในภาพรวม หรืออาจสารวจในเชิงลึก
แยกเฉพาะบริการก็ได้ แล้วแต่ความเหมาะสมและนโยบายขององค์กร การดาเนินการสารวจอาจ
จัดทาใน 2 รูปแบบ
2.9.1 การสารวจความพึงพอใจโดยใช้แบบสอบถามออนไลน์ เพื่อให้ทราบความ
พึงพอของผู้ใช้และได้ข้อเสนอแนะ/ข้อคิดเห็นที่มีต่อการให้บริการเป็นประจาทุกวัน โดยให้ผู้ใช้ตอบ
แบบสอบถามผ่านเว็บไซต์หน่วยงาน ควรจัดทาระบบการสารวจให้มีการโต้ตอบระหว่างผู้ใช้และผู้ใช้
ให้บริการด้วย เพื่ออานวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้ในการตอบแบบสอบถาม ให้ข้อคิดเห็นและข้อ
ชี้แนะเกี่ยวกับการให้บริการแก่องค์กร
2.9.2 การสารวจความพึงพอใจของผู้รับบริการในแต่ละปี โดยใช้แบบสอบถาม
เป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล เพื่อให้ผลการสารวจตามหลักการวิจัยที่ถูกต้อง ซึ่งจะต้อง
กาหนดกลุ่มประชาชนและกลุ่มตัวอย่างและต้องการสารวจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลการ
หลักการวิจัย สาหรับข้อเสนอแนะและข้อคิดเห็นที่ได้รับ
แนวคิดเกี่ยวกับการเผยแพร่สารสนเทศท้องถิ่น
การเผยแพร่สารสนเทศท้องถิ่น มีความหมายและความสาคัญ ดังนี้
1. ความหมายของการเผยแพร่สารสนเทศท้องถิ่น
การเผยแพร่สารสนเทศท้องถิ่น หมายถึง กิจกรรมหรือกระบวนการทาเพื่อให้
กลุ่มเป้าหมายได้รับรู้ข้อมูลเผยแพร่ โดยองค์การสารสนเทศท้องถิ่น หรือผู้เขียน หรือโดยผู้ผลิต จัด
หรือขึ้น เพื่อเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร สารสนเทศเกี่ยวกับท้องถิ่น และองค์ความรู้ของชุมชนในท้องถิ่น
จากแหล่งหนึ่งไปสู่อีกแหล่งหนึ่ง เช่น สื่อดิจิทัล และสื่อบุคคล ทาให้เกิดการเผยแพร่สารสนเทศ
ท้องถิ่นจากผู้เขียนไปยังผู้อ่าน ผู้ผลิตไปยังผู้ใช้ จากผู้พูดไปยังผู้ฟัง จากผู้จัดไปยังผู้อ่าน หรือผู้เข้าร่วม
กิจกรรม เป็นต้น (วรารักษ์ พัฒนเกียรติพงศ์. 2554 : 10-30)
ดังนั้น การเผยแพร่สารสนเทศท้องถิ่น จึงเป็นไปตามรูปแบบของการสื่อสารเพื่อให้
ข้อมูลข่าวสารแพร่กระจายไปยังกลุ่มเป้าหมาย รูปแบบของการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารจึงทาได้หลาย
วิธีตามสภาพของสังคม
2. ความสาคัญของการเผยแพร่สารสนเทศท้องถิ่น
สารสนเทศท้องถิ่นเป็นการบันทึกองค์ความรู้ที่เกิดจากภูมิปัญญาของคนในท้องถิ่น
เป็นการบันทึกเกี่ยวกับประวัติความเป็นมา วิธีชีวิตของท้องถิ่น ข้อมูล ข่าวสาร สารสนเทศ ที่
เกี่ยวกับท้องถิ่นในด้านต่าง ๆ ที่มีการเผยแพร่ออกมาในรูปสื่อต่าง ๆ เช่น สื่อตีพิมพ์ สื่อโสตทัศน์ สื่อ
ดิจิทัล และสื่อบุคคล ทาให้เกิดการเผยแพร่สารสนเทศท้องถิ่นที่เป็นประโยชน์ต่อการถ่ายทอด
ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น ภูมิปัญญาท้องถิ่นจากรุ่นหนึ่งไปสู่รุ่นหนึ่งให้คงอยู่คู่กับท้องถิ่น เป็นประโยชน์
ต่อการประกอบอาชีพและการดารงชีวิตของคนในท้องถิ่น และการศึกษาค้นคว้า และวิจัยเกี่ยวกับ
ท้องถิ่น เพื่อการต่อยอดองค์ความรู้ ที่นาไปสู่การพัฒนาท้องถิ่นและพัฒนาประเทศ
วัตถุประสงค์สาคัญของการเผยแพร่สารสนเทศท้องถิ่น คือ การให้ความรู้แก่
กลุ่มเป้าหมายการสร้างภาพพจน์ที่ดีต่อองค์กรและชุมชนท้องถิ่น และการสร้างความน่าเชื่อถือ ทั้งนี้
ความสาคัญของการเผยแพร่สารสนเทศท้องถิ่น ประกอบด้วย 5 ด้านดังนี้
2.1 ด้านการศึกษา ค้นคว้า และวิจัย เป็นตัวกลางในการนาสารสนเทศท้องถิ่นออก
เผยแพร่แก่ผู้สนใจและผู้ที่เกี่ยวข้อง ที่เป็นประโยชน์ต่อการศึกษา ค้นคว้า และวิจัย เพื่อสร้างองค์
ความรู้ใหม่และการต่อยอดองค์ความรู้ เพื่อการพัฒนาท้องถิ่น
2.2 ด้านการทานุบารุงศิลปวัฒนธรรม เป็นตัวกลางในการนาสารสนเทศท้องถิ่นออก
เผยแพร่สู่ชุมชน ทาให้เกิดการถ่ายทอดศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่น ภูมิปัญญาท้องถิ่นจากรุ่นหนึ่งไปสู่
อีกรุ่นให้คงอยู่คู่กับท้องถิ่น
2.3 ด้านการสื่อสาร เป็นตัวกลางในการนาสารสนเทศท้องถิ่นออกเผยแพร่สู่
ประชาชน ทาให้เกิดการสื่อสารทั้งในสังคมเมืองและสังคมท้องถิ่น เพื่อเป็นประโยชน์ในการประกอบ
อาชีพและการดาเนินชีวิต
2.4 ด้านความรู้ความเข้าใจ ช่วยสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่กลุ่มเป้าหมายอย่าง
ถูกต้องจากการเผยแพร่ข้อมูลนโยบาย การดาเนินงาน และกิจกรรมต่าง ๆ ขององค์กร
2.5 ด้านภาพลักษณ์ขององค์กร เพื่อให้มีทัศนคติและภาพลักษณ์ที่ดีแก่ชุมชนท้องถิ่น
วิธีการเผยแพร่สารสนเทศท้องถิ่น
วิธีการเผยแพร่สารสนเทศท้องถิ่นมีการเผยแพร่เชิงรุก และการเผยแพร่เชิงรับ โดยมี
เครื่องมือที่ใช้ในการเผยแพร่ ได้แก่ การให้ข่าว การสัมภาษณ์ การจัดกิจกรรม การประชาสัมพันธ์
การใช้สื่อและเทคโนโลยี วิธีการเผยแพร่สารสนเทศท้องถิ่นที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ผู้
เผยแพร่จะต้องใช้ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ในการดัดแปลงวิธีการเผยแพร่ให้เหมาะกับผู้ใช้ โดย
คานึงถึงความแตกต่างทางด้านภาษาวัฒนธรรม และปัจจัยทางด้านสังคมของแต่ละท้องถิ่น เช่น ใน
ชนบทที่ประชาชนไม่รู้หนังสือ เช่น ชาวเขา อาจใช้การบรรยาย การใช้สื่ออื่นแทน เช่น ภาพยนตร์
วีซีดี/ดีวีดีภาพยนตร์ หรือใช้การสื่อสารโดยการพูด การบรรยายแทน เป็นต้น
วิธีการเผยแพร่สารสนเทศท้องถิ่นมี 4 วิธีการ ได้แก่ 1) วิธีการเผยแพร่เชิงวิชาการ เช่น
การประชุมการสัมมนาเชิงวิชาการ 2) วิธีการเผยแพร่ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ เช่น ละคร บทเพลง การ
เล่านิทาน การแสดง 3) วิธีการเผยแพร่ผ่านสื่อมวลชน เช่น หนังสือพิมพ์ วิทยุ 4) วิธีการเผยแพร่
ผ่านสื่อต่าง ๆ จะเน้นวิธีการเผยแพร่ในรูปสื่อต่าง ๆ เช่น วิธีการเผยแพร่สารสนเทศท้องถิ่นมีทั้งการ
เผยแพร่เชิงรุก และการเผยแพร่เชิงรับ โดยมีเครื่องมือที่ใช้ในการเผยแพร่ ได้แก่ การให้ข่าว การให้
สัมภาษณ์ สื่อมวลชนสัมพันธ์ การจัดกิจกรรมสาธารณประโยชน์ การประชาสัมพันธ์ภายใน และ
การมีสิ่งสร้างเอกลักษณ์องค์การ สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อโสตทัศน์ สื่อดิจิทัล สื่อบุคคล ดังนี้
1. สื่อสิ่งพิมพ์
สื่อสิ่งพิมพ์ หมายถึง สื่อที่ใช้เอกสารการตีพิมพ์ และองค์กรตีพิมพ์ และองค์กรใช้
เป็นสื่อหรือช่องทางในการเผยแพร่ข้อมูล สารสนเทศไปยังประชาชนกลุ่มเป้าหมาย สารสนเทศ
ท้องถิ่นที่เผยแพร่รูปสื่อสิ่งพิมพ์ เช่น รายงานการวิจัย รายงานการสัมมนา/การประชุมวิชาการ
วิทยานิพนธ์ วารสารวิชาการ นิตยสาร หนังสือพิมพ์ ตาราวิชาการ หนังสือ ทั่วไป หนังสืออ้างอิง
จดหมายข่าว แผ่นพับ จุลสาร แผ่นปลิว สูจิบัตร เป็นต้น
2. สื่อโสตทัศน์
สื่อโสตทัศน์ หมายถึง สารสนเทศท้องถิ่นที่ผลิตออกมาในรูปซีดีรอม แผนที่
โปสเตอร์ เป็นต้น
อ.วนิดา บทที่-6-ตำราสารสนเทศท้องถิ่น-20-july-57
อ.วนิดา บทที่-6-ตำราสารสนเทศท้องถิ่น-20-july-57
อ.วนิดา บทที่-6-ตำราสารสนเทศท้องถิ่น-20-july-57
อ.วนิดา บทที่-6-ตำราสารสนเทศท้องถิ่น-20-july-57
อ.วนิดา บทที่-6-ตำราสารสนเทศท้องถิ่น-20-july-57
อ.วนิดา บทที่-6-ตำราสารสนเทศท้องถิ่น-20-july-57

More Related Content

What's hot

บทที่ 1 บทนำ (การจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ)
บทที่ 1 บทนำ (การจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ)บทที่ 1 บทนำ (การจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ)
บทที่ 1 บทนำ (การจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ)Srion Janeprapapong
 
Skill and Competency for Information Professional
Skill and Competency for Information ProfessionalSkill and Competency for Information Professional
Skill and Competency for Information ProfessionalMaykin Likitboonyalit
 
การจัดการมรดกวัฒนธรรม
การจัดการมรดกวัฒนธรรม การจัดการมรดกวัฒนธรรม
การจัดการมรดกวัฒนธรรม Chaloempond Chantong
 
หน่วยที่ 4 การเลือกแหล่งสารสนเทศและทรัพยากรสารสนเทศ
หน่วยที่  4 การเลือกแหล่งสารสนเทศและทรัพยากรสารสนเทศหน่วยที่  4 การเลือกแหล่งสารสนเทศและทรัพยากรสารสนเทศ
หน่วยที่ 4 การเลือกแหล่งสารสนเทศและทรัพยากรสารสนเทศSrion Janeprapapong
 
การจัดการข้อมูลด้วยระบบการจัดการฐานข้อมูล
การจัดการข้อมูลด้วยระบบการจัดการฐานข้อมูลการจัดการข้อมูลด้วยระบบการจัดการฐานข้อมูล
การจัดการข้อมูลด้วยระบบการจัดการฐานข้อมูลchanoot29
 
บทที่ 2 ทักษะการรู้สารสนเทศ
บทที่ 2 ทักษะการรู้สารสนเทศบทที่ 2 ทักษะการรู้สารสนเทศ
บทที่ 2 ทักษะการรู้สารสนเทศSrion Janeprapapong
 
การเขียนรายงานทางวิชาการ ตอนที่ ๑
การเขียนรายงานทางวิชาการ ตอนที่ ๑การเขียนรายงานทางวิชาการ ตอนที่ ๑
การเขียนรายงานทางวิชาการ ตอนที่ ๑bensee
 
การจัดการ..ลอจิสติกส์
การจัดการ..ลอจิสติกส์การจัดการ..ลอจิสติกส์
การจัดการ..ลอจิสติกส์ThoughtTum
 
ประเภทห้องสมุด
ประเภทห้องสมุดประเภทห้องสมุด
ประเภทห้องสมุดSupaporn Khiewwan
 
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ (Introduction to Operating System)
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ (Introduction to Operating System) ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ (Introduction to Operating System)
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ (Introduction to Operating System) Petpayao Yamyindee
 
จิตวิทยาการบริการ
จิตวิทยาการบริการจิตวิทยาการบริการ
จิตวิทยาการบริการPichitpol Chuenchom
 
มารยาทการต้อนรับแขก
มารยาทการต้อนรับแขกมารยาทการต้อนรับแขก
มารยาทการต้อนรับแขกsongsri
 
รายงาน เรื่องเครือข่ายคอมพิวเตอร์
รายงาน เรื่องเครือข่ายคอมพิวเตอร์รายงาน เรื่องเครือข่ายคอมพิวเตอร์
รายงาน เรื่องเครือข่ายคอมพิวเตอร์Rungnapa Tamang
 
การอนุรักษ์ทรัพยากรการท่องเที่ยว
การอนุรักษ์ทรัพยากรการท่องเที่ยวการอนุรักษ์ทรัพยากรการท่องเที่ยว
การอนุรักษ์ทรัพยากรการท่องเที่ยวSomyot Ongkhluap
 

What's hot (20)

บทที่ 1 ประเภทของสารสนเทศท้องถิ่น
บทที่ 1 ประเภทของสารสนเทศท้องถิ่นบทที่ 1 ประเภทของสารสนเทศท้องถิ่น
บทที่ 1 ประเภทของสารสนเทศท้องถิ่น
 
บทที่ 2 แหล่งสารสนเทศท้องถิ่น
บทที่ 2 แหล่งสารสนเทศท้องถิ่นบทที่ 2 แหล่งสารสนเทศท้องถิ่น
บทที่ 2 แหล่งสารสนเทศท้องถิ่น
 
บทที่ 1 บทนำ (การจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ)
บทที่ 1 บทนำ (การจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ)บทที่ 1 บทนำ (การจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ)
บทที่ 1 บทนำ (การจัดเก็บและค้นคืนสารสนเทศ)
 
Skill and Competency for Information Professional
Skill and Competency for Information ProfessionalSkill and Competency for Information Professional
Skill and Competency for Information Professional
 
การจัดเก็บข้อมูลสารสนเทศ
การจัดเก็บข้อมูลสารสนเทศการจัดเก็บข้อมูลสารสนเทศ
การจัดเก็บข้อมูลสารสนเทศ
 
การจัดการมรดกวัฒนธรรม
การจัดการมรดกวัฒนธรรม การจัดการมรดกวัฒนธรรม
การจัดการมรดกวัฒนธรรม
 
หน่วยที่ 4 การเลือกแหล่งสารสนเทศและทรัพยากรสารสนเทศ
หน่วยที่  4 การเลือกแหล่งสารสนเทศและทรัพยากรสารสนเทศหน่วยที่  4 การเลือกแหล่งสารสนเทศและทรัพยากรสารสนเทศ
หน่วยที่ 4 การเลือกแหล่งสารสนเทศและทรัพยากรสารสนเทศ
 
การจัดการข้อมูลด้วยระบบการจัดการฐานข้อมูล
การจัดการข้อมูลด้วยระบบการจัดการฐานข้อมูลการจัดการข้อมูลด้วยระบบการจัดการฐานข้อมูล
การจัดการข้อมูลด้วยระบบการจัดการฐานข้อมูล
 
บทที่ 2 ทักษะการรู้สารสนเทศ
บทที่ 2 ทักษะการรู้สารสนเทศบทที่ 2 ทักษะการรู้สารสนเทศ
บทที่ 2 ทักษะการรู้สารสนเทศ
 
การเขียนรายงานทางวิชาการ ตอนที่ ๑
การเขียนรายงานทางวิชาการ ตอนที่ ๑การเขียนรายงานทางวิชาการ ตอนที่ ๑
การเขียนรายงานทางวิชาการ ตอนที่ ๑
 
การจัดการ..ลอจิสติกส์
การจัดการ..ลอจิสติกส์การจัดการ..ลอจิสติกส์
การจัดการ..ลอจิสติกส์
 
ประเภทห้องสมุด
ประเภทห้องสมุดประเภทห้องสมุด
ประเภทห้องสมุด
 
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ (Introduction to Operating System)
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ (Introduction to Operating System) ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ (Introduction to Operating System)
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ (Introduction to Operating System)
 
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับ Internet
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับ Internetความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับ Internet
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับ Internet
 
จิตวิทยาการบริการ
จิตวิทยาการบริการจิตวิทยาการบริการ
จิตวิทยาการบริการ
 
มารยาทการต้อนรับแขก
มารยาทการต้อนรับแขกมารยาทการต้อนรับแขก
มารยาทการต้อนรับแขก
 
รายงาน เรื่องเครือข่ายคอมพิวเตอร์
รายงาน เรื่องเครือข่ายคอมพิวเตอร์รายงาน เรื่องเครือข่ายคอมพิวเตอร์
รายงาน เรื่องเครือข่ายคอมพิวเตอร์
 
การประมวลผลข้อมูล
การประมวลผลข้อมูลการประมวลผลข้อมูล
การประมวลผลข้อมูล
 
Power Point
Power PointPower Point
Power Point
 
การอนุรักษ์ทรัพยากรการท่องเที่ยว
การอนุรักษ์ทรัพยากรการท่องเที่ยวการอนุรักษ์ทรัพยากรการท่องเที่ยว
การอนุรักษ์ทรัพยากรการท่องเที่ยว
 

Similar to อ.วนิดา บทที่-6-ตำราสารสนเทศท้องถิ่น-20-july-57

Pmt ผลการประชุม ร่างเป้าหมายและยุทธศาสตร์หลัก
Pmt ผลการประชุม ร่างเป้าหมายและยุทธศาสตร์หลักPmt ผลการประชุม ร่างเป้าหมายและยุทธศาสตร์หลัก
Pmt ผลการประชุม ร่างเป้าหมายและยุทธศาสตร์หลักpromboon09
 
1เกี่ยวกับสถาบัน
1เกี่ยวกับสถาบัน1เกี่ยวกับสถาบัน
1เกี่ยวกับสถาบันJib Sridum
 
แผนที่ทางเดินยุทธศาสตร์สำเร็จรูป
แผนที่ทางเดินยุทธศาสตร์สำเร็จรูปแผนที่ทางเดินยุทธศาสตร์สำเร็จรูป
แผนที่ทางเดินยุทธศาสตร์สำเร็จรูปสปสช นครสวรรค์
 
การรู้สารสนเทศเพื่อการก้าวสู่ประชาคม
การรู้สารสนเทศเพื่อการก้าวสู่ประชาคมการรู้สารสนเทศเพื่อการก้าวสู่ประชาคม
การรู้สารสนเทศเพื่อการก้าวสู่ประชาคมjeabjeabloei
 
แผนยุทธศาสตร์
แผนยุทธศาสตร์แผนยุทธศาสตร์
แผนยุทธศาสตร์0884045430
 
กรอบแนวทางกรขับเคลื่อนการดำเนินงานตาม (ร่าง)นโยบายและจุดเน้นการดำเนินงาน สำนั...
กรอบแนวทางกรขับเคลื่อนการดำเนินงานตาม (ร่าง)นโยบายและจุดเน้นการดำเนินงาน สำนั...กรอบแนวทางกรขับเคลื่อนการดำเนินงานตาม (ร่าง)นโยบายและจุดเน้นการดำเนินงาน สำนั...
กรอบแนวทางกรขับเคลื่อนการดำเนินงานตาม (ร่าง)นโยบายและจุดเน้นการดำเนินงาน สำนั...Kosin Jind
 
ยุทธศาสตร์และจุดเน้นการดำเนินงาน ปี 2558
ยุทธศาสตร์และจุดเน้นการดำเนินงาน ปี 2558ยุทธศาสตร์และจุดเน้นการดำเนินงาน ปี 2558
ยุทธศาสตร์และจุดเน้นการดำเนินงาน ปี 2558pakpoom khangtomnium
 
การส่งเสริมการอ่านเพื่อเพิ่มอัตราการอ่านของประชาชน
การส่งเสริมการอ่านเพื่อเพิ่มอัตราการอ่านของประชาชนการส่งเสริมการอ่านเพื่อเพิ่มอัตราการอ่านของประชาชน
การส่งเสริมการอ่านเพื่อเพิ่มอัตราการอ่านของประชาชนKosin Jind
 
๑๔ภาคผนวก๓นโยบายและจุดเน้นการดำเนินงาน สำนักงาน กศน ๕๗
๑๔ภาคผนวก๓นโยบายและจุดเน้นการดำเนินงาน สำนักงาน กศน ๕๗๑๔ภาคผนวก๓นโยบายและจุดเน้นการดำเนินงาน สำนักงาน กศน ๕๗
๑๔ภาคผนวก๓นโยบายและจุดเน้นการดำเนินงาน สำนักงาน กศน ๕๗สัจจา จันทรวิเชียร
 
การจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน Br
การจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน Brการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน Br
การจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน BrProud N. Boonrak
 
หนังสือ KM หนองพอก ปี 2555 (งาน KM ปีที่ 4) Page 1 50
หนังสือ KM หนองพอก ปี 2555 (งาน KM ปีที่ 4)  Page 1 50หนังสือ KM หนองพอก ปี 2555 (งาน KM ปีที่ 4)  Page 1 50
หนังสือ KM หนองพอก ปี 2555 (งาน KM ปีที่ 4) Page 1 50Makin Puttaisong
 

Similar to อ.วนิดา บทที่-6-ตำราสารสนเทศท้องถิ่น-20-july-57 (20)

บทที่ 6
บทที่ 6บทที่ 6
บทที่ 6
 
Pmt ผลการประชุม ร่างเป้าหมายและยุทธศาสตร์หลัก
Pmt ผลการประชุม ร่างเป้าหมายและยุทธศาสตร์หลักPmt ผลการประชุม ร่างเป้าหมายและยุทธศาสตร์หลัก
Pmt ผลการประชุม ร่างเป้าหมายและยุทธศาสตร์หลัก
 
แผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
แผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
แผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
 
1เกี่ยวกับสถาบัน
1เกี่ยวกับสถาบัน1เกี่ยวกับสถาบัน
1เกี่ยวกับสถาบัน
 
แผนที่ทางเดินยุทธศาสตร์สำเร็จรูป
แผนที่ทางเดินยุทธศาสตร์สำเร็จรูปแผนที่ทางเดินยุทธศาสตร์สำเร็จรูป
แผนที่ทางเดินยุทธศาสตร์สำเร็จรูป
 
strategy PR
 strategy PR strategy PR
strategy PR
 
การรู้สารสนเทศเพื่อการก้าวสู่ประชาคม
การรู้สารสนเทศเพื่อการก้าวสู่ประชาคมการรู้สารสนเทศเพื่อการก้าวสู่ประชาคม
การรู้สารสนเทศเพื่อการก้าวสู่ประชาคม
 
แผนยุทธศาสตร์
แผนยุทธศาสตร์แผนยุทธศาสตร์
แผนยุทธศาสตร์
 
กรอบแนวทางกรขับเคลื่อนการดำเนินงานตาม (ร่าง)นโยบายและจุดเน้นการดำเนินงาน สำนั...
กรอบแนวทางกรขับเคลื่อนการดำเนินงานตาม (ร่าง)นโยบายและจุดเน้นการดำเนินงาน สำนั...กรอบแนวทางกรขับเคลื่อนการดำเนินงานตาม (ร่าง)นโยบายและจุดเน้นการดำเนินงาน สำนั...
กรอบแนวทางกรขับเคลื่อนการดำเนินงานตาม (ร่าง)นโยบายและจุดเน้นการดำเนินงาน สำนั...
 
Fertilizer Service
Fertilizer ServiceFertilizer Service
Fertilizer Service
 
การทำแผนของ Cup ปี 2559
การทำแผนของ Cup ปี 2559การทำแผนของ Cup ปี 2559
การทำแผนของ Cup ปี 2559
 
ยุทธศาสตร์ กศน ปี 2560
ยุทธศาสตร์ กศน ปี 2560ยุทธศาสตร์ กศน ปี 2560
ยุทธศาสตร์ กศน ปี 2560
 
Youth clever project
Youth clever                        projectYouth clever                        project
Youth clever project
 
Youth clever project
Youth clever projectYouth clever project
Youth clever project
 
ยุทธศาสตร์และจุดเน้นการดำเนินงาน ปี 2558
ยุทธศาสตร์และจุดเน้นการดำเนินงาน ปี 2558ยุทธศาสตร์และจุดเน้นการดำเนินงาน ปี 2558
ยุทธศาสตร์และจุดเน้นการดำเนินงาน ปี 2558
 
การส่งเสริมการอ่านเพื่อเพิ่มอัตราการอ่านของประชาชน
การส่งเสริมการอ่านเพื่อเพิ่มอัตราการอ่านของประชาชนการส่งเสริมการอ่านเพื่อเพิ่มอัตราการอ่านของประชาชน
การส่งเสริมการอ่านเพื่อเพิ่มอัตราการอ่านของประชาชน
 
๑๔ภาคผนวก๓นโยบายและจุดเน้นการดำเนินงาน สำนักงาน กศน ๕๗
๑๔ภาคผนวก๓นโยบายและจุดเน้นการดำเนินงาน สำนักงาน กศน ๕๗๑๔ภาคผนวก๓นโยบายและจุดเน้นการดำเนินงาน สำนักงาน กศน ๕๗
๑๔ภาคผนวก๓นโยบายและจุดเน้นการดำเนินงาน สำนักงาน กศน ๕๗
 
การจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน Br
การจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน Brการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน Br
การจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน Br
 
551212 moph policy
551212 moph policy551212 moph policy
551212 moph policy
 
หนังสือ KM หนองพอก ปี 2555 (งาน KM ปีที่ 4) Page 1 50
หนังสือ KM หนองพอก ปี 2555 (งาน KM ปีที่ 4)  Page 1 50หนังสือ KM หนองพอก ปี 2555 (งาน KM ปีที่ 4)  Page 1 50
หนังสือ KM หนองพอก ปี 2555 (งาน KM ปีที่ 4) Page 1 50
 

More from นางสาวอัมพร แสงมณี

More from นางสาวอัมพร แสงมณี (20)

คำถามท้ายบทบทที่ 9
คำถามท้ายบทบทที่ 9คำถามท้ายบทบทที่ 9
คำถามท้ายบทบทที่ 9
 
คำถามท้ายบทบทที่ 8
คำถามท้ายบทบทที่ 8คำถามท้ายบทบทที่ 8
คำถามท้ายบทบทที่ 8
 
คำถามท้ายบทบทที่ 7
คำถามท้ายบทบทที่ 7คำถามท้ายบทบทที่ 7
คำถามท้ายบทบทที่ 7
 
คำถามท้ายบทบทที่ 6
คำถามท้ายบทบทที่ 6คำถามท้ายบทบทที่ 6
คำถามท้ายบทบทที่ 6
 
คำถามท้ายบทบทที่ 5
คำถามท้ายบทบทที่ 5คำถามท้ายบทบทที่ 5
คำถามท้ายบทบทที่ 5
 
คำถามท้ายบทบทที่ 4
คำถามท้ายบทบทที่ 4คำถามท้ายบทบทที่ 4
คำถามท้ายบทบทที่ 4
 
คำถามท้ายบทบทที่ 3
คำถามท้ายบทบทที่ 3คำถามท้ายบทบทที่ 3
คำถามท้ายบทบทที่ 3
 
คำถามท้ายบทบทที่ 2
คำถามท้ายบทบทที่ 2คำถามท้ายบทบทที่ 2
คำถามท้ายบทบทที่ 2
 
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 9
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 9แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 9
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 9
 
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 8
แผนบริหารการสอนประจำบทที่  8แผนบริหารการสอนประจำบทที่  8
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 8
 
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 8
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 8แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 8
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 8
 
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 7
แผนบริหารการสอนประจำบทที่  7แผนบริหารการสอนประจำบทที่  7
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 7
 
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 7
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 7แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 7
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 7
 
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 6 new2
แผนบริหารการสอนประจำบทที่  6 new2แผนบริหารการสอนประจำบทที่  6 new2
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 6 new2
 
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 6
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 6แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 6
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 6
 
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 6
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 6แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 6
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 6
 
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 5
แผนบริหารการสอนประจำบทที่  5แผนบริหารการสอนประจำบทที่  5
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 5
 
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 5
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 5แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 5
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 5
 
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 4
แผนบริหารการสอนประจำบทที่  4แผนบริหารการสอนประจำบทที่  4
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 4
 
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 4
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 4แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 4
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 4
 

อ.วนิดา บทที่-6-ตำราสารสนเทศท้องถิ่น-20-july-57

  • 1. บทที่ 6 การบริการและการเผยแพร่สารสนเทศท้องถิ่น การบริการและการเผยแพร่สารสนเทศท้องถิ่น เป็นการจัดบริการและส่งเสริมการใช้ เพื่ออานวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้เข้าถึงสารสนเทศท้องถิ่นตามความต้องการ โดยมีปัจจัยสนับสนุน ให้การจัดบริการสารสนเทศท้องถิ่นบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ และมีการดาเนินการเผยแพร่สารสนเทศ ท้องถิ่นที่อยู่ในรูปสื่อต่าง ๆ เช่น สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อโสตทัศน์ สื่อดิจิทัล สื่อบุคคล โดยมีวัตถุประสงค์การ เผยแพร่เพื่อช่วยให้เกิดการถ่ายทอดและอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมภูมิปัญญาท้องถิ่น และประวัติศาสตร์ ท้องถิ่นจากรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่ง ทาให้มีสารสนเทศท้องถิ่นที่เป็นประโยชน์ต่อการศึกษาค้นคว้า วิจัย การประกอบอาชีพ การพัฒนาท้องถิ่น และการพัฒนาประเทศ แนวคิดเกี่ยวกับการบริการสารสนเทศท้องถิ่น การบริการสารสนเทศท้องถิ่นเป็นการจัดกิจกรรมบริการที่ถือว่าเป็นหัวใจสาคัญของการ ดาเนินงานด้านสารสนเทศท้องถิ่นจึงมีความสาคัญต่อผู้ใช้บริการ ผู้ให้บริการ และองค์กรสารสนเทศ ท้องถิ่นในด้านต่าง ๆ 1. ความหมายของการบริการสารสนเทศท้องถิ่น การบริการสารสนเทศท้องถิ่น หมายถึง การจัดบริการเพื่ออานวยความสะดวกให้แก่ ผู้ใช้ได้เข้าถึงและใช้สารสนเทศท้องถิ่นตามความต้องการ เพื่อความรู้ การศึกษาค้นคว้า วิจัย การ ประกอบอาชีพ การประกอบการตัดสินใจ และการพัฒนาสังคม เช่น องค์กรท้องถิ่นจัดให้มีบริการ ตอบคาถามช่วยการค้นคว้า บริการสืบค้นสารสนเทศจากฐานข้อมูล บริการยืมคืน บริการส่งเสริม การใช้สารสนเทศ ฯลฯ สาหรับแหล่งสารสนเทศท้องถิ่นอื่น ๆ เช่น หอศิลปวัฒนธรรม พิพิธภัณฑ์ ท้องถิ่นจัดกิจกรรมและบริการนาชมทรัพยากรสารสนเทศท้องถิ่นที่จัดแสดง โดยผู้ใช้ได้รับ สารสนเทศที่ถูกต้อง ครบถ้วน สมบูรณ์ และตรงกับความต้องการ (มาลี ล้าสกุล. 2555 : 1-7 ; วรารักษ์ พัฒนเกียรติพงศ์. 2554 : 10-5)
  • 2. 2. ความสาคัญของการบริการสารสนเทศท้องถิ่น การบริการสารสนเทศเป็นกิจกรรมสาคัญของการดาเนินงานด้านสารสนเทศท้องถิ่น เนื่องด้วยเป็นกิจกรรมที่ช่วยให้ผู้ใช้ในการเข้าถึงและใช้สารสนเทศท้องถิ่น เพื่อประกอบการศึกษา ค้นคว้าและวิจัย ช่วยให้เกิดการถ่ายทอดและอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ของคนในท้องถิ่น ภูมิปัญญาท้องถิ่น และประวัติศาสตร์ท้องถิ่นจากคนกลุ่มหนึ่งไปสู่คนอีกกลุ่มหนึ่ง หรือจากคนรุ่น หนึ่งไปสู่คนรุ่นหนึ่ง ช่วยให้เกิดการถ่ายทอดความรู้เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น ช่วยใช้ในการ วางแผนเพื่อพัฒนาประเทศ โดยผ่านกิจกรรม การกระทา หรือผลประโยชน์ที่องค์กรสารสนเทศ เช่น ห้องสมุด และแหล่งสารสนเทศท้องถิ่นอื่น ๆ เช่น พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น หอศิลปวัฒนธรรม จัดให้แก่ผู้ใช้บริการ ดังนั้น บริการสารสนเทศท้องถิ่นจึงมีความสาคัญต่อผู้ใช้ ผู้ให้บริการ และองค์กร ในด้านต่าง ๆ (มาลี ล้าสกุล. 2555 : 1-7 ; วรารักษ์ พัฒนเกียรติพงศ์. 2554 : 10-5) ดังนี้ 2.1 ความสาคัญต่อผู้ใช้ องค์กรสารสนเทศท้องถิ่นต้องมุ่งเน้นผู้ใช้เป็นหลัก และ จัดบริการให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ขององค์กรและความต้องการของผู้ใช้ จัดบริการต่าง ๆ ที่เอื้อ ประโยชน์ต่อการศึกษาค้นคว้าและวิจัยแก่ผู้ใช้ เนื่องจากบริการทรัพยากรสารสนเทศท้องถิ่นมี ความสาคัญต่อผู้ใช้ ดังนี้ 2.1.1 ช่วยอานวยความสะดวกแก่ผู้ใช้ได้เข้าถึงและใช้ทรัพยากรเพื่อประกอบ การศึกษาค้นคว้าวิจัย และการศึกษาตลอดชีวิต เช่น ผู้ใช้สามารถใช้บริการยืม-คืนทรัพยากร สารสนเทศ บริการสืบค้นสารสนเทศท้องถิ่นจากฐานข้อมูล ใช้บริการตอบคาถามและช่วยการค้นคว้า เพื่อสอบถาม ขอคาแนะนา คาปรึกษา และขอความช่วยเหลือในการค้นหาสารสนเทศที่ต้องการ เป็นต้น 2.1.2 ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเรียนรู้และศึกษาค้นคว้าด้วยตนองได้ เช่น การใช้ บริการส่งเสริมการใช้สารสนเทศ ทาให้สามารถค้นหาสารสนเทศท้องถิ่นที่ต้องการด้วยตนเองได้ เป็นต้น 2.1.3 ช่วยผู้ใช้ในการนาความรู้ที่ได้จากสารสนเทศมาพัฒนาความรู้และพัฒนา อาชีพ และมาใช้ปรับปรุงและพัฒนาการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพ 2.1.4 ช่วยให้มีการถ่ายทอดสารสนเทศไปยังบุคคลอื่น กล่าวคือ ผู้ใช้เป็นผู้
  • 3. กระจายและถ่ายทอดสารสนเทศที่ได้จากการรับบริการในองค์กรสารสนเทศท้องถิ่นหรือแหล่ง สารสนเทศท้องถิ่นออกไปยังบุคคลอื่น อาทิ ผู้ใช้ที่เป็นนักเขียนนาสารสนเทศท้องถิ่นมาเรียบเรียง และสื่อสารผ่านสื่อสิ่งพิมพ์หรือสื่ออื่น ๆ ต่อไปยังผู้อ่าน บุคคลในท้องถิ่น 2.1.5 ทาให้ผู้ใช้เกิดภูมิปัญญาส่งเสริมให้มีการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่สอดคล้อง กับสังคม และความภาคภูมิใจในความเป็นท้องถิ่นของตนเอง 2.2 ความสาคัญต่อผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการมีหน้าที่เป็นผู้นาส่งบริการสารสนเทศ ขององค์กรสารสนเทศท้องถิ่นหรือแหล่งสารสนเทศท้องถิ่นให้แก่ผู้ใช้ เป็นผู้ให้ข้อมูลให้ความรู้ ชี้แนะ และคาปรึกษาแก่ผู้ใช้ จึงเป็นตัวกลางที่ทาให้ผู้ใช้ได้เข้าถึงสารสนเทศตรงกับความต้องการได้ ผู้ให้บริการต้องมีความรู้ความสามารถและทักษะในการให้บริการในงานที่รับผิดชอบ ทักษะในการใช้ เทคโนโลยีประเภทต่าง ๆ ในการจัดการและให้บริการสารสนเทศ โดยเฉพาะเทคโนโลยีสารสนเทศ ทักษะในการสื่อสารกับผู้ใช้ เนื่องจากในช่วงเวลาให้บริการจะต้องมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้ตลอดเวลา จึงต้องมีบุคลิกภาพที่ดี เพื่อสร้างความประทับใจแก่ผู้ใช้ ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ใช้กับมาใช้บริการอีก และ เป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กร 2.3 ความสาคัญต่อองค์กร สารสนเทศท้องถิ่นที่มีให้บริการในองค์กรสารสนเทศ ท้องถิ่นและแหล่งสารสนเทศท้องถิ่น เป็นบันทึกภูมิปัญญาของคนในท้องถิ่น และเป็นข้อมูล สารสนเทศที่เกี่ยวกับท้องถิ่นที่กลุ่มผู้ใช้ในองค์กรและประชาชนทั่วไปสามารถนาข้อมูลสารสนเทศไป ใช้ในการศึกษาค้นคว้าวิจัย และใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิต รวมถึงหน่วยงานภาครัฐและ ภาคเอกชนสารมารถนามาใช้ในการวางแผนพัฒนาท้องถิ่นและประเทศได้ โดยผ่านการให้บริการ ขององค์กรสารสนเทศต่าง ๆ ดังนั้น องค์กรสารสนเทศท้องถิ่นจะต้องมีการบริหารจัดการบริหารที่มี การสารสนเทศท้องถิ่นขององค์การ เพื่อให้มีการบริการสารสนเทศท้องถิ่นที่มีคุณภาพที่ดี องค์กรสารสนเทศท้องถิ่นจึงต้องกาหนดแนวทางการบริหารจัดการและการ ให้บริการสารสนเทศท้องถิ่นโดยอาจทาเป็นแผนพัฒนาระยะ 5 ปี ซึ่งต้องสอดคล้องกับแผนพัฒนา ของหน่วยงานต้นสังกัด หรือแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยกาหนดไว้พันธกิจ วัตถุประสงค์ กลยุทธ์ เป้าหมายในการให้บริการขององค์การไว้อย่างชัดเจนเพื่อให้มีวิธีการและ เป้าหมายของแต่ละกลยุทธ์ที่ทาให้องค์การบรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้โดยวิธีที่ถูกต้อง โดยจะต้อง ทบทวนทั้งพันธกิจ วัตถุประสงค์ และกลยุทธ์ทุกปีให้ทันต่อความเปลี่ยนแปลงของปัจจัยภายในและ
  • 4. ภายนอกขององค์กร มีการกาหนดขอบเขตเนื้อหาของสารสนเทศท้องถิ่นที่จะจัดเก็บและให้บริการ พร้อมทั้งแนวปฏิบัติในการดาเนินงานเพื่อใช้เป็นคู่มือ และแนวปฏิบัติในการดาเนินงานให้แก่ฝ่าย ต่าง ๆ (มาลี ไชยเสนา. 2554 : 213) ได้อธิบายความสาคัญต่อองค์กร ดังนี้ 2.3.1 การบริการสารสนเทศเป็นภารกิจหลักขององค์กร ทุกองค์กรต้องจัดให้มี บริการสารสนเทศตามนโยบายขององค์กร 2.3.2 การบริการสารสนเทศเป็นตัวบ่งชี้คุณภาพการบริหารและการดาเนินงาน ขององค์กรเพื่อให้มีประสิทธิภาพและความสาเร็จ รวมถึงการพิจารณาจากความพึงพอใจของ ผู้ใช้บริการสารสนเทศ 2.3.3 การได้รับการยอมรับและศรัทธาในองค์กร นาไปสู่ความร่วมมือและการ ให้การสนับสนุนจากหน่วยงานทั้งภายในและภายนอกองค์กร สรุปได้ว่า บริการสารสนเทศท้องถิ่นมีความสาคัญต่อผู้ใช้การช่วยอานวยความ สะดวกในการเข้าถึงสารสนเทศท้องถิ่น มีความสาคัญต่อผู้ให้บริการ และต่อองค์กรช่วยตอบสนอง ความต้องการขององค์กร สนับสนุนและเสริมสร้างองค์ความรู้เพื่อนาไปสู่การดาเนินงานอย่างมี ประสิทธิภาพ ประเภทและประเด็นสาคัญที่เกี่ยวข้องกับการบริการสารสนเทศท้องถิ่น องค์กรสารสนเทศท้องถิ่นจัดบริการทรัพยากรสารสนเทศท้องถิ่นตามพันธกิจของ หน่วยงาน บริการที่จัดอาจมีมากน้อยแตกต่างกันไป เช่น จัดให้มีทั้งบริการพื้นฐาน และบริการ พิเศษ สาหรับบริการสารสนเทศในแหล่งสารสนเทศท้องถิ่นอื่น ๆ ซึ่งสามารถนาเสนอได้ดังนี้ 1. ประเภทของบริการทรัพยากรสารสนเทศท้องถิ่น บริการสารสนเทศในแหล่งสารสนเทศท้องถิ่น มีบริการหลากหลายรูปแบบ ซึ่ง สามารถนาเสนอได้ตามประเภทของแหล่งสารสนเทศ 2 ประเภท คือ บริการสารสนเทศในองค์กร สารสนเทศท้องถิ่น และบริการสารสนเทศท้องถิ่นในแหล่งสารสนเทศท้องถิ่นอื่น ๆ (วรารักษ์ พัฒนเกียรติพงศ์. 2554 : 10-7-10-16) ดังนี้ 1.1 บริการสารสนเทศในองค์กรสารสนเทศท้องถิ่น เช่น ห้องสมุด ศูนย์ข้อมูล ศูนย์ เอกสาร เป็นต้น มีการจาแนกบริการออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ด้วยกันคือ 1.1.1 บริการพื้นฐาน ประกอบด้วย บริการตอบคาถามและช่วยการค้นคว้า
  • 5. บริการอ่าน บริการยืมคืน บริการนาส่งเอกสาร บริการยืมระหว่างห้องสมุด และบริการเพื่อพัฒนา ทักษะการรู้สารสนเทศโดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.1.1.1 บริการตอบคาถามและช่วยการค้นคว้า (Reference service) เป็นบริการให้ความช่วยเหลือผู้ใช้ในการค้นหาข้อมูลสารสนเทศท้องถิ่นตามคาขอ ทั้งภายในองค์กร สารสนเทศและแหล่งข้อมูลอื่น รวมทั้งให้บริการแนะนาวิธีการค้นหาข้อมูลสารสนเทศท้องถิ่น การ ใช้หนังสืออ้างอิงเกี่ยวกับสารสนเทศท้องถิ่น และการเขียนรายการอ้างอิงและบรรณานุกรม การ ให้บริการตอบคาถามนอกจากจะเป็นการบริการที่ช่วยเหลือผู้ใช้ในการค้นหาสารสนเทศที่ต้องการ แล้ว ยังช่วยให้ผู้ใช้ได้สารสนเทศตามที่ต้องการ ประหยัดเวลาในการตอบคาถาม ช่วยส่งเสริมให้มี การใช้สารสนเทศมากขึ้นทาให้เกิดการสานสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้ให้บริการกับผู้ใช้บริการผ่านการ ให้บริการ การที่จะสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่องค์กรในฐานะเป็นแหล่งวิทยาการ และแหล่งเรียนรู้ ของชุมชน บริการตอบคาถามและช่วยการค้นคว้าสารสนเทศท้องถิ่นที่มีให้บริการในองค์กร สารสนเทศแต่ละแห่งอาจมีขอบเขตหน้าที่ของงานแตกต่างกันตามประเภทและขนาดขององค์การ สามารถจาแนกงานออกเป็นการให้ความช่วยเหลือผู้ใช้ในการค้นหาข้อมูลสารสนเทศ และการสอน ค้นหาสารสนเทศด้วยตนเอง 1.1.1.2 บริการการอ่าน (Reader’service) เป็นบริการที่จัดขึ้นเพื่อ อานวยความสะดวกในการใช้สถานที่ในการศึกษาค้นคว้าให้แก่ผู้ใช้ ได้แก่ การจัดที่นั่งอ่าน มีทั้งการ จัดที่นั่งอ่านแบบเดี่ยวสาหรับผู้ใช้ที่ต้องการที่อ่านต้องมีสมาธิในการศึกษาค้นคว้า และที่นั่งอ่านแบบ กลุ่มสาหรับผู้ที่ต้องการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกันการจัดห้องเฉพาะส่วนบุคคล (Individual study room) ห้องค้นคว้ากลุ่ม (Group study room) นอกจากจะจัดที่นั่งอ่าน ดังกล่าวแล้ว หากมีพื้นที่ให้บริการมาก อาจจัดพื้นที่ (Zoning) ให้เหมาะแก่การศึกษาค้นคว้า หรือ เพื่อแบ่งพื้นที่ให้เหมาะแก่วัตถุประสงค์ของการใช้ เช่น พื้นที่ศึกษาค้นคว้าที่ต้องการความเงียบ (Silent zone) พื้นที่ศึกษาค้นคว้าแบบให้ผู้ใช้พูดคุยเสียงดังได้แต่ต้องเคารพสิทธิของผู้อื่น (Group discussion zone) เป็นต้น 1.1.1.3 บริการยืม-คืน (Circulation service) เป็นบริการที่อานวยความ สะดวกให้ผู้ใช้สามารถยืมสารสนเทศออกนอกอาคารได้ งานบริการสารสนเทศท้องถิ่นของห้องสมุด ในประเทศไทย มักจะจัดให้ยืมสารสนเทศท้องถิ่นไว้รวมกับบริการยืม-คืนของห้องสมุด เพื่ออานวย
  • 6. ความสะดวกแก่ผู้ใช้ในการใช้บริการเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว สาหรับสื่อสิ่งพิมพ์ที่ไม่อนุญาตให้ยืมออก เช่น หนังสืออ้างอิง อาจจัดให้ผู้ใช้กรอกแบบฟอร์ม และต้องมีการลงชื่ออนุญาตจากบรรณารักษ์ หรือเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย นอกจากการให้บริการยืม-คืนในห้องสมุดหรือศูนย์สารสนเทศแล้ว ยังมีการจัดให้บริการยืม-คืนระหว่างห้องสมุดร่วมกัน (Reciprocal borrowing) ระหว่างห้องสมุด สมาชิกที่มีความร่วมมือกันเช่น ให้บริการยืม-คืนระหว่างห้องสมุดร่วมกันของห้องสมุดสมาชิก ข่ายงานห้องสมุดมหาวิทยาลัยส่วนภูมิภาค (Provincial University Library Network : PULINET) บริการยืม-คืนระหว่างห้องสมุดร่วมกัน (Reciprocal borrowing) หมายถึง การที่สมาชิกของห้องสมุดหนึ่งไปยืมสิ่งพิมพ์จากอีกห้องสมุดหนึ่งในข่ายงานฯ ด้วยตนเองโดยใช้บัตรสมาชิกข่ายงานโดยห้องสมุดในข่ายงานมีการจัดทาข้อตกลงร่วมกันในการ ให้ยืม สารสนเทศท้องถิ่นบางประเภท เช่น เอกสารมรดก (Heritage manuscripts) ส่วนใหญ่ไม่จัดให้มีการยืมออกไปใช้นอกสถานที่ โดยจัดให้ใช้บริเวณที่จัดให้ เนื่องจากเป็นเอกสารต้นฉบับตัวเขียนที่มีคุณค่าและหาได้ยาก จึงต้องบารุงรักษา เพื่อป้องกันให้ เสื่อมสภาพ จึงควรจัดให้มีถุงมือไว้ให้แก่ผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการ เนื่องจากมือมีน้ามันที่อาจทาให้ เอกสารมรดกเสื่อมสภาพเร็วขึ้น และผู้ให้บริการต้องให้คาแนะนาในการใช้เอกสารด้วย ในปัจจุบัน มีการนาเทคโนโลยีมาใช้ในการจัดเก็บและให้บริการเอกสารมรดกในรูปดิจิทัล โดยการแปลงผัน (Digitization) ให้อยู่ในรูปดิจิทัล จัดสร้างฐานข้อมูล โดยมีการกาหนดเมตาดาตา (Metadata) เพื่อ บอกรายละเอียดของทรัพยากรสารสนเทศให้เป็นมาตรฐานสากลและให้บริการในรูปแบบสารสนเทศ ดิจิทัลผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต อันเป็นการอนุรักษ์อกสารต้นฉบับและเผยแพร่ภูมิปัญญาท้องถิ่น อย่างกว้างขวางต่อไป เช่น ฐานข้อมูล CMUL Digital Heritage Collection ของสานักหอสมุด มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นต้น 1.1.1.4 บริการสืบค้นสารสนเทศฐานข้อมูลและบริการอินเทอร์เน็ต บริการสืบค้นสารสนเทศฐานข้อมูล (Information retrieval service) เป็นบริการระบบออนไลน์ที่ จัดให้มีเทอร์มินัลหรือเครื่องคอมพิวเตอร์ไว้ให้บริการสืบค้นสารสนเทศจากฐานข้อมูลที่ได้จากการ จัดหาและสร้างขึ้นเอง ผู้ใช้สามารถสืบค้นสารสนเทศจากฐานข้อมูลฉบับเต็ม และฐานข้อมูลรายชื่อ ทรัพยากรสารสนเทศ (OPAC)
  • 7. ในปัจจุบัน การให้บริการสารสนเทศท้องถิ่นในหลายแห่งของ ประเทศไทย มีการนาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการให้บริการสารสนเทศท้องถิ่นในรูปแบบ ดิจิทัล ทั้งดาเนินการในรูปแบบของการแปลงผัน (Digitization) เอกสารสิ่งพิมพ์ให้อยู่ในรูปดิจิทัล โดยนามาเผยแพร่ในรูปของฐานข้อมูลและการสร้างเนื้อหาด้านสารสนเทศท้องถิ่นขึ้นมาใหม่ เพื่อให้ สามารถเผยแพร่ได้อย่างกว้างขวางมากขึ้น เช่น ในรูปแบบของฐานข้อมูล สื่อมัลติมีเดีย เป็นต้น มีการสร้างฐานข้อมูลฉบับต้นขึ้น เช่น ฐานข้อมูลนนทบุรีศึกษา ของสานักบรรณสารสารสนเทศ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ฐานข้อมูลอีสานสนเทศของศูนย์สารนิเทศอีสานสิรินธร มหาวิทยาลัยสารคาม ฐานข้อมูลเอกสารมรดก (CMUL Digital Heritage Collection) ภาพล้านนา ในอดีตของสานักหอสมุดมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 1.1.1.5 บริการนาส่งเอกสาร (Document delivery service) เป็น บริการจัดส่งเอกสารจากแบบคาขอของผู้ใช้บริการที่เป็นสมาชิกผ่านเว็บไซต์ขององค์กรสารสนเทศ หรือแบบฟอร์มการขอใช้โดยไม่ต้องติดต่อขอยืมเอกสารจากห้องสมุด องค์กรสารสนเทศที่มีเอกสาร จะเป็นผู้นาส่งข่าวสารให้ผู้ใช้บริการ ณ สถาบันปลายทาง เช่น ในห้องสมุดสถาบันอุดมศึกษาที่มี ห้องสมุดกลางและห้องสมุด คณะสถาบันศูนย์สังกัดสถาบันนั้น ๆ หรือมีห้องสมุดวิทยาเขต 1.1.1.6 บริการยืมระหว่างห้องสมุด (Interlibrary loan) เป็นบริการที่ เกิดจากความร่วมมือระหว่างองค์กรสารสนเทศเพื่อยืมหรือของถ่ายสาเนาเอกสารสิ่งพิมพ์จาก ห้องสมุดและนามาให้บริการแก่ผู้ใช้ถึงห้องสมุดที่ผู้ใช้ขอใช้บริการ โดยส่วนใหญ่จะให้ผู้ใช้เป็นผู้ออก ค่าใช้จ่ายทั้งหมด ได้แก่ ค่าถ่ายเอกสารและค่าส่ง องค์การสารสนเทศที่ร่วมมือกันจะออกประกาศ เกี่ยวกับอัตราค่าบริการเพื่อใช้มาตรฐานในการให้บริการร่วมกัน 1.1.1.7 บริการเพื่อพัฒนาทักษะการรู้สารสนเทศ (Information literacy) เป็นการจัดกิจกรรมแนะนาเป็นการใช้สารสนเทศแนะนา อบรม การใช้ข้อมูลทาง อิเล็กทรอนิกส์ การจัดทาคู่มือการใช้บริการตลอดจนการจัดบริการแนะนาวิธีการใช้เอกสารประเภท ต่าง ๆ การแนะนาวิธีการศึกษาค้นคว้าให้แก่ผู้ใช้ส่วนใหญ่เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นในองค์กรสารสนเทศ เช่น ห้องสมุดสถาบันอุดมศึกษา มักจะให้สาหรับนักศึกษาเฉพาะสาขาตามคาขอของอาจารย์แต่ละ กระบวนวิชาโดยจัดฝึกอบรมแก่ผู้ใช้ตามหัวข้อที่เหมาะสมและน่าสนใจ เช่น การปฐมนิเทศ การ
  • 8. แนะนาการสืบค้นสิ่งพิมพ์การรู้สารสนเทศด้วยตัวเองส่งเสริมการใช้ฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์โดยการ ฝึกอบรมและสัญจรไปฝึกอบรมที่คณะต่าง ๆ เป็นต้น 1.1.2 บริการพิเศษ เป็นบริการพิเศษที่นิยมจัดให้บริการในองค์การสารสนเทศ ที่ให้บริการสารสนเทศท้องถิ่นในประเทศ ประกอบด้วย บริการสารสนเทศทันสมัย บริการรวบรวม บรรณานุกรม บริการแฟ้มสารสนเทศ บริการแปล โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.1.2.1 บริการสารสนเทศทันสมัย (Current awateness service) เป็นบริการที่องค์กรสารสนเทศแจ้งใช้ทราบถึงความรู้หรือสารสนเทศใหม่ ๆ ตามความสนใจของผู้ใช้ ทันทีที่องค์กรสารสนเทศได้รับสารสนเทศหรือทราบข่าวสาร เพื่อให้ผู้ใช้ทราบว่ามีสารสนเทศนั้นผลิต และเผยแพร่ขึ้นใหม่ โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะสนองความต้องการของผู้ใช้ให้สามารถติดตาม สารสนเทศในเรื่องที่ตนสนใจได้อย่างรวดเร็ว การจัดบริการสารสนเทศทันสมัยสามารถดาเนินการทั้งอย่าง เป็นทางการและไม่เป็นทางการโดยจัดให้แก่ผู้ใช้เป็นรายบุคคลหริอกลุ่มบุคคล ในปัจจุบันองค์กร สารสนเทศมุ่งเน้นการให้บริการสารสนเทศอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเป็นการประหยัดเวลา สามารถ เผยแพร่ถึงผู้ใช้กลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว ทันต่อความต้องการและสามารถทารูปแบบการ นาเสนอได้อย่างสวยงามและน่าสนใจ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งเป็นการประหยัดงบประมาณเมื่อ เทียบกับการจัดพิมพ์ออกมาในรูปแบบสื่อสิ่งพิมพ์ จึงได้บริการสารสนเทศทันสมัยผ่านเว็บไซต์ของ หน่วยงาน เช่น การประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร การจัดทารายการทรัพยากรสารสนเทศใหม่ การ ทาสาเนาหน้าสารบัญวารสาร หรือที่เรียกว่า บริการ Journals and current content หรือเรียก สั้น ๆ ว่า Current content บริการเวียนเอกสาร การจัดแสดงทรัพยากรสารสนเทศใหม่ และ บริการเลือกสรรสารสนเทศเฉพาะส่วนบุคคล 1.1.2.2 บริการรวบรวมบรรณานุกรม (Bibliograghy service) เป็นการ รวบรวมรายชื่อสารสนเทศมาเรียงลาดับไว้อย่างมีระเบียบแบบแผนตามหลักเกณฑ์การลงรายการ สารสนเทศโดยอาจระบุ เลขเรียกหนังสือไว้ด้วย เพื่อใช้เป็นคู่มือในการให้บริการหรือใช้ในการ ค้นหาสารสนเทศที่ต้องการ ในปัจจุบัน ทั้งผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการมีความสะดวกในการค้นหา สารสนเทศที่ต้องการหรือเพื่อรวบรวมบรรณานุกรมในหัวข้อที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากผู้ใช้
  • 9. สามารถค้นหารายชื่อสารสนเทศจากฐานข้อมูลรายชื่อสารสนเทศ (OPAC) ฐานข้อมูลดรรชนีวารสาร ฐานข้อมูลเฉพาะ เช่น ฐานข้อมูลท้องถิ่นของภาคต่าง ๆ ที่ให้บริการฟรีผ่านเว็บไซต์ ฐานข้อมูล บทความหนังสือพิมพ์ เช่น Matichon e-library การสืบค้นสารสนเทศได้โดยง่ายด้วยโปรแกรม ค้นหา (Search engine) เช่น Google อีกทั้งมีการจัดทาบริการสารสนเทศทันสมัยผ่านเว็บไซต์ เช่น การแนะนาสารสนเทศใหม่ เป็นต้น ซึ่งมีผลทาให้การใช้บริการนี้ในงานบริการข้อมูลท้องถิ่นใน หลายห้องสมุดมหาวิทยาลัยในประเทศมีปริมาณลดลง ในบางแห่งไม่ได้จัดบริการนี้สาหรับให้บริการ แล้ว โดยหันไปมุ่งเน้นการสร้างเนื้อหา (Content) และการสอนใช้สารสนเทศเพื่อให้ผู้ใช้สามารถ ค้นหาสารสนเทศได้ด้วยตนเอง 1.1.2.3 บริการแฟ้มสารสนเทศ (Informtion files) เป็นการให้บริการ สารสนเทศใหม่ ๆ ที่อยู่ในความสนใจ หรือเป็นเรื่องที่มีผู้ใช้ร้องขอเป็นจานวนมาก สารสนเทศที่นามา จัดทาแฟ้มอาจรวบรวมมาจากบทความจากวารสาร/นิตยสาร/หนังสือพิมพ์ จุลสาร เป็นต้น องค์กร สารสนเทศที่ให้บริการสารสนเทศท้องถิ่นหลายแห่งนิยมจัดทาแฟ้มสารสนเทศ โดยจัดทาในรูปของ ข่าว บทความตัดแปะ (Clipping) และรวบรวมบทความจากวารสาร นิตยสาร หนังสือพิมพ์ ข่าวสาร/จุลสารท้องถิ่น แล้วนามารวมเป็นแฟ้มสารสนเทศในหัวข้อใดหัวข้อหนึ่ง ซึ่งช่วยให้มี สารสนเทศท้องถิ่นที่ทันสมัยและไม่สามารถค้นหาจากที่อื่น ๆ ได้ หากต้องการให้ความสะดวก รวดเร็วในการให้บริการแก่ผู้ใช้ และประหยัดที่จัดเก็บแฟ้มสารสนเทศ อาจใช้วิธีแปลงผัน (Digitization) ให้อยู่ในรูปสารสนเทศดิจิทัล แต่สาหรับการให้บริการและเผยแพร่สารสนเทศประเภท นี้ จะต้องศึกษาและระมัดระวังในเรื่องของกฎหมายลิขสิทธิ์ด้วย ซึ่งอาจะใช้วิธีให้บริการบนเครื่อง คอมพิวเตอร์แบบ Stand alone คือ จัดให้บริการโดยใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ไม่ได้การเชื่อมต่อกับ เครื่องอื่น ๆ ในลักษณะเครือข่าย 1.1.2.4 บริการแปล สารสนเทศท้องถิ่นอาจผลิตออกมาในหลากหลาย ภาษา เช่น เขียนด้วยภาษาท้องถิ่น ภาษาต่างประเทศ ผู้ใช้อาจมีความจาเป็นต้องใช้สารสนเทศที่เป็น ภาษาที่ตนเองไม่สามารถอ่านออกได้ องค์การสารสนเทศอาจจัดบริการแปล หรือติดต่อหรือแนะนา ผู้แปลที่มีความเชี่ยวชาญและเชื่อถือได้ให้แก่ผู้ใช้ หรือแนะนาผู้ใช้ให้ไปใช้บริการจากหน่วยงานที่รับ แปลเอกสาร
  • 10. 1.2 บริการสารสนเทศท้องถิ่นในแหล่งสารสนเทศท้องถิ่นอื่น ๆ เช่น พิพิธภัณฑ์ ท้องถิ่น หอศิลปวัฒนธรรม เป็นต้น พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น นับเป็นแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิตประเภทหนึ่ง พิพิธภัณฑ์ ท้องถิ่นในประเทศไทยเท่าที่ปรากฏในฐานข้อมูลพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นในประเทศ บริการของพิพิธภัณฑ์ เป็นการให้ข้อมูลสารสนเทศ ความรู้ในเรื่องต่าง ๆ เช่น ประวัติศาสตร์ วิถีชีวิต ศิลปวัฒนธรรม โบราณสถาน โบราณวัตถุที่สาคัญของท้องถิ่นนั้น ๆ หอศิลปวัฒนธรรม เป็นแหล่งสารสนเทศท้องถิ่นที่ให้บริการสารสนเทศเกี่ยวกับ ประวัติศาสตร์วิถีชีวิตของผู้คน ศิลปวัฒนธรรมและประเพณีในท้องถิ่น และทาหน้าที่เป็นศูนย์กลาง ของการท่องเที่ยวในเชิงอนุรักษ์ในจังหวัดหรือท้องถิ่นนั้น ๆ เช่น หอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่ หอศิลปวัฒนธรรมเมืองขอนแก่น (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น สานักศิลปวัฒนธรรม) บริการต่าง ๆ ที่จัดให้มีในพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น และหอศิลปวัฒนธรรม มีดังนี้ 1.2.1 บริการให้การศึกษาหรือบริการงานชม เป็นบริการหลักของพิพิธภัณฑ์ และหอศิลปวัฒนธรรมจัดบริการนาชมโดยกาหนดวันเวลาเปิดให้ชมที่แน่นอน มีผู้ให้บริการนาชมที่ มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องที่นาชม มีความสามารถในการสื่อสารความรู้ และแนะนาเรื่องราวและให้ ความรู้เกี่ยวกับวัตถุที่จัดแสดง ส่วนใหญ่ไม่คิดค่าเข้าชม แต่มีบางแห่งคิดค่าเข้าชม เพื่อนาไปใช้ใน กิจการของหน่วยงาน ซึ่งขึ้นอยู่กับนโยบายของหน่วยงาน เช่น หอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่ 1.2.2 การจัดแสดงนิทรรศการ เป็นบริการหลักของพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นและ หอศิลปวัฒนธรรม จัดใน 2 รูปแบบ คือ 1) นิทรรศการถาวร เป็นนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ความเป็นมาและวิถีชีวิตของชุมชนศิลปวัฒนธรรมของทองถิ่น ภูมิปัญญาท้องถิ่น บุคคลสาคัญใน ท้องถิ่น การสะท้อนภาพปัญหาของท้องถิ่น เช่น ด้านสิ่งแวดล้อม เป็นต้น ในห้องแสดงนิทรรศการ มีการนาเทคโนโลยีและสื่อสมัยใหม่มาใช้ประกอบเพื่อให้นิทรรศการมีความสนใจและสวยงาม และ 2) นิทรรศการหมุนเวียน เป็นบริการที่เปิดให้หน่วยงาน/ประชาชนทั่วไปมาใช้สถานที่แสดงผลงาน หรือเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่น เช่น บริการของหอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่ 1.2.3 การจัดแสดงวัตถุที่มีอยู่ในท้องถิ่น วัตถุที่จัดแสดง เป็นวัตถุหรือสิ่งของที่มี อยู่ในชุมชนหรือท้องถิ่นนั้น ๆ ซึ่งเป็นวัตถุที่บอกถึงประวัติความเป็นมา วิถีชีวิตของชุมชน ศิลปวัฒนธรรมภูมิปัญญาของท้องถิ่น อาจเป็นทั้งของมีค่า และไม่ใช่ของมีค่า แต่มีความหมายต่อ
  • 11. ท้องถิ่น เช่น วัตถุที่เป็นสมบัติของวัดในท้องถิ่นนั้น มาแต่โบราณ เช่น ธรรมาสน์ เครื่องมือเครื่องใช้ ในการจารใบลาน ผ้าหอใบลาน ต้นฉบับหนังสือและตาราต่าง ๆ ตลอดจนเครื่องมือ เครื่องใช้ เช่น ขวานหิน ขวานสาริด กาไล ลูกปัด เครื่องปั้นและเครื่องเคลือบดินเผา เป็นต้น มีการจัดทา คาอธิบายประกอบวัตถุอย่างเพียงพอที่จะให้ผู้ชมเข้าใจสาระวัตถุชิ้นนั้น เพื่อให้ผู้เข้าชมได้รักและ เข้าใจท้องถิ่นได้อย่างรอบด้าน เช่น เครื่องมือเครื่องใช้ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับชื่อเรียก วัสดุที่ใช้ในการทา ประโยชน์ใช้สอย ผู้ประดิษฐ์ เป็นต้น 1.2.4 บริการให้ยืมนิทรรศการ เป็นบริการให้ยืมสื่อนิทรรศการ และอาจให้ยืม ภาพถ่าย ภาพถ่าย สไลด์ วิดีทัศน์ หรือสื่ออื่น ๆ ที่พิพิธภัณฑ์และหอศิลปวัฒนธรรมจัดทาขึ้น เพื่อเผยแพร่สารสนเทศท้องถิ่นออกสู่ชุมชนให้กว้างขวางยิ่งขึ้น เช่น บริการของหอศิลปวัฒนธรรม จัดทาขึ้น เพื่อเผยแพร่สารสนเทศท้องถิ่นออกสู่ชุมชนให้กว้างขวางยิ่งขึ้น เช่น บริการของหอ ศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่ 1.2.5 การจัดกิจกรรม เป็นการจัดกิจกรรมในหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับท้องถิ่น เพื่อ ให้บริการความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับท้องถิ่น การพัฒนาท้องถิ่น การทานุบารุงศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น และเพื่อกิจกรรมส่งเสริมการใช้บริการให้แก่หน่วยงานด้วย เช่น การจัดเสวนาเกี่ยวกับปัญหาของ ท้องถิ่น การจัดแสดงเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่นการสอนวิธีการประดิษฐ์ศิลปหัตถกรรมของ ท้องถิ่นตามช่วงที่มีเทศกาลหรือประเพณีที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น 1.2.6 บริการสารสนเทศดิจิทัล ปัจจุบันหลายหน่วยงานทั้งในและต่างประเทศ นิยมเผยแพร่สารสนเทศเกี่ยวกับวัฒนธรรมของท้องถิ่นหรือชุมชนในรูปสารสนเทศดิจิทัล เนื่องด้วย สามารถนาเสนอได้อย่างกว้างขวาง ในรูปแบบที่สวยงาม หลากหลายรูปแบบ ทั้งในรูปข้อความ ภาพประกอบทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว มีความน่าสนใจและประหยัดค่าใช้จ่าย ไม่จาเป็นต้อง มีสถานที่ให้บริการ ตัวอย่างเช่น การจัดทาพิพิธภัณฑ์ออนไลน์ การจัดทาฐานข้อมูลของหน่วยงาน วัฒนธรรม
  • 12. จากที่กล่าวมาสรุปได้ว่า งานบริการสารสนเทศท้องถิ่นสามารถจัดกิจกรรมส่งเสริม การใช้สารสนเทศท้องถิ่นได้อย่างหลากหลาย เช่น การจัดการนิทรรศการเกี่ยวกับสารสนเทศท้องถิ่น ในสถานที่และนอกสถานที่ เช่น ศูนย์การค้า เพื่อเผยแพร่สารสนเทศสู่ชุมชนให้กว้างขวางยิ่งขึ้น การการเยี่ยมชม/ดูงาน บุคลากรในสังกัดรับเชิญเป็นที่ปรึกษาด้านการจัดและการให้บริการ สารสนเทศท้องถิ่นแก่หน่วยงานอื่น การเป็นวิทยากร/อาจารย์พิเศษ เพื่อเป็นให้บริการวิชาการแก่ ชุมชน และส่งเสริมการใช้บริการสารสนเทศท้องถิ่น ทั้งยังเป็นการประชาสัมพันธ์และทาการตลาด ให้แก่งานบริการสารสนเทศท้องถิ่นอีกด้วย 2. ประเด็นสาคัญที่เกี่ยวข้องกับการบริการสารสนเทศท้องถิ่น ประเด็นสาคัญที่เกี่ยวข้องกับการบริการสารสนเทศท้องถิ่นที่เป็นปัจจัยส่งเสริม สนับสนุนให้งานบริการสารสนเทศท้องถิ่นบรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้ องค์กรสารสนเทศท้องถิ่นต้อง มีการบริหารจัดการที่ดีในการให้บริการสารสนเทศท้องถิ่นขององค์กร เพื่อให้มีบริการทรัพยากร สารสนเทศที่มีคุณภาพ (วรารักษ์ พัฒนเกียรติพงศ์. 2554 : 10-20-10-28) ประกอบด้วย 2.1 การกาหนดนโยบายการให้บริการ นโยบายคือ หลักและวิธีการปฏิบัติซึ่งถือเป็น แนวทางดาเนินการด้านบริการสารสนเทศท้องถิ่น จึงควรมีการกาหนดนโยบายจากฝ่ายบริหารของ องค์กรไว้เป็นลายลักษณ์อักษรให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ พันธกิจ วัตถุประสงค์ และเป้าหมายของ องค์กร เพื่อเป็นกอบแนวทางในการปฏิบัติงานของบุคลากร นโยบายที่กาหนดไว้มีขอบเขตเกี่ยวกับ บุคลากร ภาระหน้าที่ และการจ้างงาน แนวทางการใช้บริการและประเภทของการบริการหรือ กิจกรรม การจัดหาสาสนเทศ และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการดาเนินงาน โดยมี 3 องค์ประกอบจาแนกได้เป็น 1) เป้าหมายของสิ่งที่ต้องการกระทาที่มีความชัดเจน 2) วิถีทางในการ ดาเนินงานให้บรรลุเป้าหมาย ซึ่งเป็นแนวทางที่ทาให้สาเร็จได้ และ 3) ปัจจัยสนับสนุนการดาเนินงาน ซึ่งมีทั้งปัจจัยภายใน เช่น คน เงิน วัสดุอุปกรณ์ เป็นต้น และปัจจัยภายนอก เช่น สภาพแวดล้อม ทางการเมือง เศรษฐกิจทางสังคม วิทยาการ และเทคโนโลยี เป็นปัจจัยที่อยู่ในวิสัยที่สามารถ จัดหามาดาเนินและน่าจะเป็นไปได้เพื่อเป็นหลักและวิธีการปฏิบัติสาหรับใช้เป็นแนวทางในการ ดาเนินกิจกรรมของการให้บริการ ช่วยให้การดาเนินกิจกรรมการให้บริการสอดคล้องและเป็นไปตาม เป้าหมายในการดาเนินงานที่องค์กรกาหนดไว้
  • 13. การจาแนกประเภทนโยบาย จาแนกได้หลายวิธี โดยทั่วไปการแบ่งตาม ระดับชั้นของการบริหาร แบ่งเป็น 3 ระดับ 1) นโยบายขั้นพื้นฐาน เป็นนโยบายที่ใช้เป็นฐานของ นโยบายประเภทอื่น ๆ 2) นโยบายทั่วไป เป็นนโยบายที่กาหนดขึ้นตามนโยบายขั้นพื้นฐานเพื่อความ เข้าใจของผู้ปฎิบัติมากยิ่งขึ้น 3) นโยบายเฉพาะแผนกงาน เป็นนโยบายระดับล่างกาหนดขึ้น เฉพาะงานขององค์กรของตนเองตามนโยบายขั้นพื้นฐานและนโยบายทั่วไป เพื่อให้มีรายละเอียด ชัดเจนยิ่งขึ้น การกาหนดนโยบายขั้นพื้นฐาน องค์กรสารสนเทศ เช่น ห้องสมุดมหาวิทยาลัย ควรกาหนดนโยบายขั้นพื้นฐานในการจัดบริการแต่ละประเภท เช่น กาหนดว่า “ให้บริการแก่ นักศึกษาและบุคลากรของมหาวิทยาลัยตลอดจนบุคคลทั่วไป” นโยบายทั่วไปในการบริการประเภทต่าง ๆ เช่น กาหนดว่า “พัฒนาระบบการ บริการ โดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่” นโยบายเฉพาะ ควรมีกาหนดนโยบายในการดาเนินการเฉพาะบริการแต่ละ ประเภท ตัวอย่างการกาหนดนโยบายในการสร้างเนื้อหา และการเผยแพร่สารสนเทศท้องถิ่น เช่น กาหนดว่า “จัดทาและเผยแพร่ข้อมูลท้องถิ่นในรูปแบบต่าง ๆ แก่ชุมชน รวมถึงการสนับสนุนข้อมูล ทางศิลปวัฒนธรรมภายใต้ขอบเขตและพันธกิจของห้องสมุด” 2.2 การจัดทาแผนพัฒนาองค์กร องค์กรสารสนเทศท้องถิ่นจะต้องกาหนดเกี่ยวกับ การบริหารการจัดการและการให้บริการสารสนเทศท้องถิ่นไว้ในแผนพัฒนา โดยอาจทาเป็น แผนพัฒนาระยะ 5 ปี ซึ่งสอดคล้องกับแผนพัฒนาของหน่วยงานต้นสังกัด หรือแผนพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ โดยควรกาหนดพันธกิจ วัตถุประสงค์นโยบายในการให้บริการอย่างเป็นลาย ลักษณ์และมีความชัดเจน เพื่อให้มีบริการสารสนเทศท้องถิ่นเป็นกิจกรรมหรือสิ่งที่องค์กรต้อง ดาเนินการ มีการกาหนดกลยุทธ์และเป้าหมายในการให้บริการขององค์กร เพื่อให้มีวิธีการและ เป้าหมายของแต่ละกลยุทธ์ด้านการให้บริการที่ทาให้องค์บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ด้วยวิธีที่ ถูกต้องโดยจะต้องมีการทบทวนทั้งพันธกิจ วัตถุประสงค์ และกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับการบริการ สารสนเทศท้องถิ่นทุกปี โดยนาการวิเคราะห์สภาพแวดล้อม (SWOT analysis) มาใช้เป็นเครื่องมือ ในการวิเคราะห์จุดแข็ง (Stength) จุดอ่อน (Weakness) โอกาส (Opportunities) และภาวะ คุกคาม (Threats) ของการให้บริการสารนเทศท้องถิ่น และนาผลที่ได้มากาหนดแนวทางการ
  • 14. พัฒนาการให้บริการในแต่ละด้านประจาปีด้วย เพื่อเป็นแนวทางในการดาเนินงานให้ทันกับความ เปลี่ยนแปลงของปัจจัยภายในและภายนอกองค์การ และจัดทาโครงการ/กิจกรรมในปีต่อไปเพื่อ รองรับแนวทางการพัฒนาที่กาหนดไว้ 2.3 การกาหนดขอบเขตเนื้อหาของสารสนเทศท้องถิ่นที่จะจัดเก็บและให้บริการ ขอบเขตเนื้อหาของสารสนเทศท้องถิ่นที่องค์กรสารสนเทศจัดเก็บและให้บริการ สามารถใช้เป็นคู่มือ และแนวทางในการดาเนินงานเกี่ยวกับงานสารสนเทศท้องถิ่นแก่ฝ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ในการ กาหนดขอบเขตเนื้อหาของสารสนเทศที่จะจัดเก็บจะต้องจัดทาขอบเขตและแนวปฏิบัติครอบคลุมถึง การให้บริการด้วย เพื่อให้บริการสารสนเทศท้องถิ่นการปฏิบัติงานของฝ่ายต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพ และเกิดประสิทธิผลแก่องค์กร ให้ส่วนขอบเขตเนื้อหานี้ ควรกาหนด ดังนี้ ขอบเขตเนื้อหาที่จัดเก็บและให้บริการ ครอบคลุมสาขาและเนื้อหาในด้าน ใดบ้าง กาหนดขอบเขตภูมิศาสตร์ และขอบเขตด้านวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับสารสนเทศที่จะจัดเก็บ และให้บริการ เช่น ศูนย์สารสนเทศอีสานสิรินธร สานักวิทยาบริการ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม กาหนดขอบเขตเนื้อหาของสารสนเทศท้องถิ่นที่ให้บริการว่าศูนย์สารนิเทศอีสานสิรินธร เป็นแหล่ง จัดหา รวบรวม และให้บริการสารสนเทศที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับภาคตะวันออกเฉียงเหนือในทุก ๆ ด้าน และทุกรูปแบบ ครอบคลุมพื้นที่ 20 จังหวัด ได้แก่ กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครพนม นครราชสีมา บุรีรัมย์ มหาสารคาม มุกดาหาร ยโสธร ร้อยเอ็ด เลย ศรีษะเกษ สกลนคร สุรินทร์ หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลาภู อานาจเจริญ อุดรธานี และอุบลราชธานี ทาหน้าที่เป็นศูนย์กลาง การสนับสนุน การศึกษา ค้นคว้า วิจัย ของภูมิภาคอีสาน อีกทั้งเป็นหน่วยประสานงานเรือข่าย สารสนเทศท้องถิ่นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อมุ่งที่จะดารง รักษา อนุรักษ์ส่งเสริม เผยแพร่ และสืบทอดเรื่องราววัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่นอีสานของชาวอีสานไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้ ศึกษาต่อไป (คู่มือการให้บริการของศูนย์สารนิเทศอีสานสิรินธร สานักวิทยบริการ มหาวิทยาลัย มหาสารคาม. 2553) 2.4 ด้านระเบียบการใช้บริการ องค์กรสารสนเทศท้องถิ่นต้องกาหนดระเบียบการใช้ บริการ เพื่อให้เป็นกฎระเบียบ ข้อบังคับ ข้อปฏิบัติในการใช้บริการที่สอดคล้องกับนโยบายในการ ให้บริการและความเหมาะสมของการให้บริการ เพื่อใช้เป็นกรอบแนวทางในการปฏิบัติงานให้บริการ สาหรับบุคลากรผู้ปฏิบัติงาน องค์กรสารสนเทศท้องถิ่น ควรจัดระเบียบการใช้บริการให้ครอบคลุม
  • 15. ทุกด้าน ได้แก่ ระเบียบเกี่ยวกับบริการของสถาบัน การเป็นสมาชิกของผู้ใช้ การให้ยืมทรัพยากร สารสนเทศ และกาหนดรายรับ รายการ และเงื่อนไข การรับเงินรายได้ขององค์การ ประกอบด้วย อัตราค่าธรรมเนียม ค่าบริการ และค่าปรับขององค์การ ข้อปฏิบัติเมื่อเข้าใช้บริการขององค์การ และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง 2.5 ด้านบุคลากรผู้ให้บริการ บุคลากรผู้ให้บริการเป็นตัวกลางในการนาส่งบริการ ขององค์กรสารสนเทศให้แก่ผู้ให้บริการ องค์กรจะต้องจัดให้มีการพัฒนาความรู้ความสามารถของ บุคคลากรอย่างสม่าเสมอและต่อเนื่อง เพื่อให้บุคลากรมีความรู้ ความชานาญในการให้บริการที่ทัน ต่อวิทยาการสมัยใหม่ นอกจากความรู้เชิงวิชาการแล้ว ควรต้องมีการฝึกอบรมเรื่องการพัฒนา บุคลิกภาพและจิตบริการ (Service mind) ให้แก่บุคลากรอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ควรนาหลักของการจัดการความรู้ (Knowledge Management : KM) มาใช้เป็นเครื่องมือในการพัฒนาบุคลากรด้วย เช่น จัดให้มีกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในงาน ด้านบริการ การตั้งชุมชนแนวปฏิบัติ COP (Community of Practice) เป็นต้น ด้านการให้บริการ ข้อมูลท้องถิ่น อาจจัดให้มีชุมชนแนวปฏิบัติบุคลากรผู้ปฏิบัติงานด้านการดาเนินงานด้านสารสนเทศ ท้องถิ่นขององค์กร เพื่อให้บุคลากรมีเวทีในการรวมกลุ่ม เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้เติมเต็มความรู้ให้กัน เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาการให้บริการสารสนเทศต่อไป 2.6 ด้านสถานที่บริการ สถานที่ให้บริการสารสนเทศท้องถิ่น เป็นบริเวณที่จัดให้ผู้ใช้ ได้เข้ามาศึกษาค้นคว้า ควรจัดบริเวณให้บริการให้มีพื้นที่อย่างน้อย ดังนี้ 2.6.1 พื้นที่สาหรับการจัดชั้นวางและตู้เก็บทรัพยากรสารสนเทศประเภทต่าง ๆ 2.6.2 พื้นที่สาหรับการจัดวางอุปกรณ์ช่วยในการค้นคว้า เช่น เครื่อง คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ ต่อพ่วง เครื่องอ่านไมโครฟิล์ม เป็นต้น 2.6.3 พื้นที่นั่งอ่าน ซึ่งจะต้องมีการออกแบบ และจัดวางอย่างเหมาะสม รวมถึงการจัดทาเว็บไซต์เป็นช่องทางในการเผยแพร่บริการ ต้องคานึงถึงสิ่งต่าง ๆ ดังนี้ 2.7 ด้านเครื่องมือการเข้าถึงสารสนเทศท้องถิ่น เพื่อให้ผู้ใช้เข้าถึงสารสนเทศท้องถิ่น ที่องค์กรสารสนเทศจัดเก็บและให้บริการ ควรจัดสร้างฐานข้อมูลเพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการสืบค้น และอานวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้การสืบค้นเพื่อการศึกษาค้นคว้าอย่างรวดเร็ว และสามารถสืบค้น ได้อย่างกว้างขวางทุกที่ทุกเวลาผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ฐานข้อมูลที่จัดทาขึ้น เพื่อใช้เป็นเครื่องมือ
  • 16. เข้าถึงสารสนเทศท้องถิ่น อาจทารวมเข้าไว้ใน ฐานข้อมูลรายชื่อสารสนเทศของทั้งองค์กร เพื่อใช้ สืบค้นรายชื่อสารสนเทศทั้งหมดขององค์กรสารสนเทศที่จัดให้บริการ และในรูปของฐานข้อมูล เฉพาะ ซึ่งควรให้ข้อมูลฉบับเต็มด้วย เช่น ฐานข้อมูลกฤตภาคอีสานอิเล็กทรอนิกส์ ของศูนย์ สารนิเทศอีสานสิรินธร ฐานข้อมูลเชิดชูผู้รู้นนทบุรี ของสานักบรรณสารสนเทศ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ฐานข้อมูลภาพเก่า เรื่องเล่าชาวอุบล ของสานักวิทยบริการ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เป็นต้น การจัดสร้างฐานข้อมูลด้องเป็นตามมาตรฐานสากล คือมีการใช้ มาตรฐานการบันทึก รายการทางบรรณานุกรม เช่น MARC (Machine-Readable Cataloging) Metadata เพื่อการเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์มีความสะดวกและง่ายต่อการ ใช้ ในการให้บริการเกี่ยวกับเครื่องมือในการสืบค้น ควรจัดเครื่องคอมพิวเตอร์พร้อมอุปกรณ์ต่อพ่วง ให้แก่ผู้ใช้สาหรับสืบค้นสารสนเทศตามความเหมาะสมและมีจานวนเพียงพอกับการใช้ 2.8 ด้านความร่วมมือในการบริการ การให้บริการสารสนเทศ ควรมุ่งเน้นการบริการ ให้แก่ผู้ใช้เป็นสาคัญ จะต้องให้บริการผู้ใช้ได้เข้าถึงสารสนเทศได้อย่างกว้างขวาง การให้บริการควร เน้นในเชิงรุกมากกว่าเชิงรับ ถึงแม้ผู้ใช้จะพอใจกับสารสนเทศที่มีอยู่ในองค์การของตนเองก็ตาม หากมีแหล่งสารสนเทศอื่นที่มีอยู่ในองค์กรสารสนเทศอื่น ผู้ให้บริการควรเสนอให้ผู้ใช้ได้ตัดสินใจ เลือกใช้ เพื่อให้ได้มาซึ่งสารสนเทศที่กว้างและตรงกับความต้องการมากที่สุด ดังนั้น องค์กร สารสนเทศท้องถิ่นควรมีความร่วมมือกันในด้านต่าง ๆ เพื่อให้การบริการเกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ใช้ ในด้านบริการสารสนเทศท้องถิ่นในปัจจุบัน ที่อาจร่วมมือกันระหว่างองค์การสารสนเทศได้ เช่น บริการยืมระหว่างองค์กรสารสนเทศ บริการยืม-คืน ระหว่างองค์กรสารสนเทศร่วมกัน (Reciprocal borrowing) ความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการให้บริการ เป็นต้น 2.9 ด้านการสารวจความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ องค์กรสารสนเทศท้องถิ่น ควรจัด ให้มีการสารวจความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ เพื่อนาผลมาปรับปรุงและพัฒนาการให้บริการให้มี คุณภาพยิ่งขึ้น ซึ่งอาจสารวจความพึงพอใจในการให้บริการในภาพรวม หรืออาจสารวจในเชิงลึก แยกเฉพาะบริการก็ได้ แล้วแต่ความเหมาะสมและนโยบายขององค์กร การดาเนินการสารวจอาจ จัดทาใน 2 รูปแบบ 2.9.1 การสารวจความพึงพอใจโดยใช้แบบสอบถามออนไลน์ เพื่อให้ทราบความ พึงพอของผู้ใช้และได้ข้อเสนอแนะ/ข้อคิดเห็นที่มีต่อการให้บริการเป็นประจาทุกวัน โดยให้ผู้ใช้ตอบ
  • 17. แบบสอบถามผ่านเว็บไซต์หน่วยงาน ควรจัดทาระบบการสารวจให้มีการโต้ตอบระหว่างผู้ใช้และผู้ใช้ ให้บริการด้วย เพื่ออานวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้ในการตอบแบบสอบถาม ให้ข้อคิดเห็นและข้อ ชี้แนะเกี่ยวกับการให้บริการแก่องค์กร 2.9.2 การสารวจความพึงพอใจของผู้รับบริการในแต่ละปี โดยใช้แบบสอบถาม เป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล เพื่อให้ผลการสารวจตามหลักการวิจัยที่ถูกต้อง ซึ่งจะต้อง กาหนดกลุ่มประชาชนและกลุ่มตัวอย่างและต้องการสารวจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลการ หลักการวิจัย สาหรับข้อเสนอแนะและข้อคิดเห็นที่ได้รับ แนวคิดเกี่ยวกับการเผยแพร่สารสนเทศท้องถิ่น การเผยแพร่สารสนเทศท้องถิ่น มีความหมายและความสาคัญ ดังนี้ 1. ความหมายของการเผยแพร่สารสนเทศท้องถิ่น การเผยแพร่สารสนเทศท้องถิ่น หมายถึง กิจกรรมหรือกระบวนการทาเพื่อให้ กลุ่มเป้าหมายได้รับรู้ข้อมูลเผยแพร่ โดยองค์การสารสนเทศท้องถิ่น หรือผู้เขียน หรือโดยผู้ผลิต จัด หรือขึ้น เพื่อเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร สารสนเทศเกี่ยวกับท้องถิ่น และองค์ความรู้ของชุมชนในท้องถิ่น จากแหล่งหนึ่งไปสู่อีกแหล่งหนึ่ง เช่น สื่อดิจิทัล และสื่อบุคคล ทาให้เกิดการเผยแพร่สารสนเทศ ท้องถิ่นจากผู้เขียนไปยังผู้อ่าน ผู้ผลิตไปยังผู้ใช้ จากผู้พูดไปยังผู้ฟัง จากผู้จัดไปยังผู้อ่าน หรือผู้เข้าร่วม กิจกรรม เป็นต้น (วรารักษ์ พัฒนเกียรติพงศ์. 2554 : 10-30) ดังนั้น การเผยแพร่สารสนเทศท้องถิ่น จึงเป็นไปตามรูปแบบของการสื่อสารเพื่อให้ ข้อมูลข่าวสารแพร่กระจายไปยังกลุ่มเป้าหมาย รูปแบบของการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารจึงทาได้หลาย วิธีตามสภาพของสังคม 2. ความสาคัญของการเผยแพร่สารสนเทศท้องถิ่น สารสนเทศท้องถิ่นเป็นการบันทึกองค์ความรู้ที่เกิดจากภูมิปัญญาของคนในท้องถิ่น เป็นการบันทึกเกี่ยวกับประวัติความเป็นมา วิธีชีวิตของท้องถิ่น ข้อมูล ข่าวสาร สารสนเทศ ที่ เกี่ยวกับท้องถิ่นในด้านต่าง ๆ ที่มีการเผยแพร่ออกมาในรูปสื่อต่าง ๆ เช่น สื่อตีพิมพ์ สื่อโสตทัศน์ สื่อ ดิจิทัล และสื่อบุคคล ทาให้เกิดการเผยแพร่สารสนเทศท้องถิ่นที่เป็นประโยชน์ต่อการถ่ายทอด ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น ภูมิปัญญาท้องถิ่นจากรุ่นหนึ่งไปสู่รุ่นหนึ่งให้คงอยู่คู่กับท้องถิ่น เป็นประโยชน์
  • 18. ต่อการประกอบอาชีพและการดารงชีวิตของคนในท้องถิ่น และการศึกษาค้นคว้า และวิจัยเกี่ยวกับ ท้องถิ่น เพื่อการต่อยอดองค์ความรู้ ที่นาไปสู่การพัฒนาท้องถิ่นและพัฒนาประเทศ วัตถุประสงค์สาคัญของการเผยแพร่สารสนเทศท้องถิ่น คือ การให้ความรู้แก่ กลุ่มเป้าหมายการสร้างภาพพจน์ที่ดีต่อองค์กรและชุมชนท้องถิ่น และการสร้างความน่าเชื่อถือ ทั้งนี้ ความสาคัญของการเผยแพร่สารสนเทศท้องถิ่น ประกอบด้วย 5 ด้านดังนี้ 2.1 ด้านการศึกษา ค้นคว้า และวิจัย เป็นตัวกลางในการนาสารสนเทศท้องถิ่นออก เผยแพร่แก่ผู้สนใจและผู้ที่เกี่ยวข้อง ที่เป็นประโยชน์ต่อการศึกษา ค้นคว้า และวิจัย เพื่อสร้างองค์ ความรู้ใหม่และการต่อยอดองค์ความรู้ เพื่อการพัฒนาท้องถิ่น 2.2 ด้านการทานุบารุงศิลปวัฒนธรรม เป็นตัวกลางในการนาสารสนเทศท้องถิ่นออก เผยแพร่สู่ชุมชน ทาให้เกิดการถ่ายทอดศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่น ภูมิปัญญาท้องถิ่นจากรุ่นหนึ่งไปสู่ อีกรุ่นให้คงอยู่คู่กับท้องถิ่น 2.3 ด้านการสื่อสาร เป็นตัวกลางในการนาสารสนเทศท้องถิ่นออกเผยแพร่สู่ ประชาชน ทาให้เกิดการสื่อสารทั้งในสังคมเมืองและสังคมท้องถิ่น เพื่อเป็นประโยชน์ในการประกอบ อาชีพและการดาเนินชีวิต 2.4 ด้านความรู้ความเข้าใจ ช่วยสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่กลุ่มเป้าหมายอย่าง ถูกต้องจากการเผยแพร่ข้อมูลนโยบาย การดาเนินงาน และกิจกรรมต่าง ๆ ขององค์กร 2.5 ด้านภาพลักษณ์ขององค์กร เพื่อให้มีทัศนคติและภาพลักษณ์ที่ดีแก่ชุมชนท้องถิ่น
  • 19. วิธีการเผยแพร่สารสนเทศท้องถิ่น วิธีการเผยแพร่สารสนเทศท้องถิ่นมีการเผยแพร่เชิงรุก และการเผยแพร่เชิงรับ โดยมี เครื่องมือที่ใช้ในการเผยแพร่ ได้แก่ การให้ข่าว การสัมภาษณ์ การจัดกิจกรรม การประชาสัมพันธ์ การใช้สื่อและเทคโนโลยี วิธีการเผยแพร่สารสนเทศท้องถิ่นที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ผู้ เผยแพร่จะต้องใช้ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ในการดัดแปลงวิธีการเผยแพร่ให้เหมาะกับผู้ใช้ โดย คานึงถึงความแตกต่างทางด้านภาษาวัฒนธรรม และปัจจัยทางด้านสังคมของแต่ละท้องถิ่น เช่น ใน ชนบทที่ประชาชนไม่รู้หนังสือ เช่น ชาวเขา อาจใช้การบรรยาย การใช้สื่ออื่นแทน เช่น ภาพยนตร์ วีซีดี/ดีวีดีภาพยนตร์ หรือใช้การสื่อสารโดยการพูด การบรรยายแทน เป็นต้น วิธีการเผยแพร่สารสนเทศท้องถิ่นมี 4 วิธีการ ได้แก่ 1) วิธีการเผยแพร่เชิงวิชาการ เช่น การประชุมการสัมมนาเชิงวิชาการ 2) วิธีการเผยแพร่ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ เช่น ละคร บทเพลง การ เล่านิทาน การแสดง 3) วิธีการเผยแพร่ผ่านสื่อมวลชน เช่น หนังสือพิมพ์ วิทยุ 4) วิธีการเผยแพร่ ผ่านสื่อต่าง ๆ จะเน้นวิธีการเผยแพร่ในรูปสื่อต่าง ๆ เช่น วิธีการเผยแพร่สารสนเทศท้องถิ่นมีทั้งการ เผยแพร่เชิงรุก และการเผยแพร่เชิงรับ โดยมีเครื่องมือที่ใช้ในการเผยแพร่ ได้แก่ การให้ข่าว การให้ สัมภาษณ์ สื่อมวลชนสัมพันธ์ การจัดกิจกรรมสาธารณประโยชน์ การประชาสัมพันธ์ภายใน และ การมีสิ่งสร้างเอกลักษณ์องค์การ สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อโสตทัศน์ สื่อดิจิทัล สื่อบุคคล ดังนี้ 1. สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อสิ่งพิมพ์ หมายถึง สื่อที่ใช้เอกสารการตีพิมพ์ และองค์กรตีพิมพ์ และองค์กรใช้ เป็นสื่อหรือช่องทางในการเผยแพร่ข้อมูล สารสนเทศไปยังประชาชนกลุ่มเป้าหมาย สารสนเทศ ท้องถิ่นที่เผยแพร่รูปสื่อสิ่งพิมพ์ เช่น รายงานการวิจัย รายงานการสัมมนา/การประชุมวิชาการ วิทยานิพนธ์ วารสารวิชาการ นิตยสาร หนังสือพิมพ์ ตาราวิชาการ หนังสือ ทั่วไป หนังสืออ้างอิง จดหมายข่าว แผ่นพับ จุลสาร แผ่นปลิว สูจิบัตร เป็นต้น 2. สื่อโสตทัศน์ สื่อโสตทัศน์ หมายถึง สารสนเทศท้องถิ่นที่ผลิตออกมาในรูปซีดีรอม แผนที่ โปสเตอร์ เป็นต้น