More Related Content
Similar to อ.วนิดา บทที่-9-ตำราสารสนเทศท้องถิ่น-22-aug-57
Similar to อ.วนิดา บทที่-9-ตำราสารสนเทศท้องถิ่น-22-aug-57 (20)
More from นางสาวอัมพร แสงมณี
More from นางสาวอัมพร แสงมณี (20)
อ.วนิดา บทที่-9-ตำราสารสนเทศท้องถิ่น-22-aug-57
- 1. 177
บทที่ 9
สารสนเทศท้องถิ่นกับการพัฒนา
สารสนเทศท้องถิ่นเป็นข้อมูลพื้นฐานสาคัญของการพัฒนาองค์ความรู้ของท้องถิ่นและ
การพัฒนาหลักสูตรการศึกษาท้องถิ่น เพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจสภาพวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนและ
ภูมิปัญญาท้องถิ่น ได้แก่ การพัฒนาสังคมเศรษฐกิจฐานความรู้ การพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่นตาม
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แผนพัฒนาการศึกษาแห่งชาติ แผนพัฒนาการศึกษา
แห่งชาติ และยุทธศาสตร์การจัดการสารสนเทศท้องถิ่นแห่งชาติและยุทธศาสตร์หลัก รวมถึงการนา
สารสนเทศท้องถิ่นมาใช้ในการพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อช่วยประกอบการตัดสินใจในการสร้างอาชีพสร้าง
รายได้ให้แก่ครอบครัวและชุมชน โดยการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน และการพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์
สารสนเทศท้องถิ่นกับการพัฒนาสังคมเศรษฐกิจฐานความรู้
สารสนเทศท้องถิ่นเป็นข้อมูลสาคัญในการสร้างสังคมเศรษฐกิจฐานความรู้ เป็นสังคมที่ใช้
ความรู้ในการผลิตเพื่อสร้างรายได้ส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ เป็นการพัฒนาเศรษฐกิจ
และสังคมที่มุ่งเน้นการเรียนรู้จากองค์ความรู้ของท้องถิ่นและการนาความรู้ท้องถิ่นมาใช้ประโยชน์ใน
การวางแผนพัฒนาประเทศให้เป็นสังคมเศรษฐกิจฐานความรู้ การพัฒนาความรู้หรือสารสนเทศ
ท้องถิ่นจึงเป็นข้อมูลพื้นฐานที่ทาให้เข้าใจสภาพและปัญหาของชุมชน เพื่อจะนาไปสู่การวางแผน
พัฒนาศักยภาพของแต่ละท้องถิ่นเพื่อการวางแผนและพัฒนาประเทศ ดังนั้น ความสาคัญของการ
พัฒนาสังคมเศรษฐกิจฐานความรู้เพื่อมุ่งสู่การพัฒนาระบบฐานความรู้เพื่อสร้างนวัตกรรม การพัฒนา
คน และการพัฒนาเศรษฐกิจ (ชลภัสส์ วงษ์ประเสริฐ และน้าทิพย์ วิภาวิน. 2554 : 15-6-15-7)
ดังนี้
1. ด้านการพัฒนาระบบฐานความรู้
การพัฒนาระบบฐานความรู้มุ่งสู่การพัฒนานวัตกรรม ได้แก่ การพัฒนาระบบ
ฐานข้อมูลชุมชนโดยการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเป็นเครื่องมือในการสร้างองค์ความรู้
ที่นามาซึ่งการเปลี่ยนแปลงภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์ (Globalization) องค์ความรู้ในรูปแบบต่าง ๆ
ได้แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว เกิดการเชื่อมโยงเครือข่ายอย่างเป็นระบบมากยิ่งขึ้นในรูปสื่อ
อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ เช่น การจัดเก็บภาษีเงินได้อิเล็กทรอนิกส์ (e-revenue) การค้าอิเล็กทรอนิกส์
(e-commerce) รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (e-government) เป็นต้น ทาให้การใช้สารสนเทศมีบทบาท
- 2. 178
ความสาคัญยิ่งขึ้น และการพัฒนานวัตกรรมอย่างไม่หยุดยั้ง เทคโนโลยีสารสนเทศและโทรคมนาคม
ที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานสาคัญสาหรับการประมวลผล การเก็บรักษา การถ่ายโอน และการสื่อสาร
ข้อมูล การปฏิวัติเทคโนโลยีด้านข้อมูลและสื่อสารทาให้การเข้าถึง การถ่ายโอน และการผลิตข้อมูล
เป็นไปได้ อย่างไรก็ดีการพัฒนาองค์ความรู้ของทุกท้องถิ่นเป็นกระบวนการที่ใช้เวลาและค่าใช้จ่ายที่
สูงในการผลิต เพื่อให้ผู้ใช้เข้าถึงและนาไปใช้ประโยชน์ได้
2. ด้านการพัฒนาคน
คนหรือทรัพยากรมนุษย์ คือ ทุนทรัพย์ทางปัญญา (Intellectual capital) ซึ่งหาก
รู้จักใช้และพัฒนาอย่างเหมาะสมจะเกิดมูลค่าเพิ่มให้กับองค์กร ชุมชน และประเทศนั้น ๆ ได้อย่างไม่
มีที่สิ้นสุด เนื่องจากสารสนเทศท้องถิ่นเป็นองค์ความรู้ที่เกิดจากประสบการณ์ของชีวิต สังคม และ
สภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน ซึ่งสืบทอดต่อกันมาเป็นวัฒนธรรม สารสนเทศท้องถิ่นเป็นเครื่องมือ
และกลไกสาคัญในการพัฒนาและสร้างสรรค์ความคิดและแบบแผนความประพฤติ (พรสวรรค์
สุวัณณศรีย์. 2553 : 154) โดยมีรูปแบบการเรียนรู้เพื่อพัฒนาคนให้มีส่วนรวมในกระบวนการ
แลกเปลี่ยนเรียนรู้ อาทิ การดาเนินชีวิตตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียง ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีและมีความสุข
การพัฒนาคนมีความสัมพันธ์กับระบบการศึกษาที่ต้องเป็นการสร้างระบบการเรียนรู้ตลอดชีวิต
เนื่องจากคนเป็นทรัพยากรหรือปัจจัยการผลิต ที่ต้องมีการฝึกอบรมเพิ่ม ความรู้ ทักษะ
ประสบการณ์เพื่อให้สามารถเพิ่มผลผลิตโดยใช้ต้นทุนต่า เป็นการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ
สูงสุด สังคมเศรษฐกิจฐานความรู้จะต้องขับเคลื่อนด้วยระบบการศึกษาทุกระดับ ตั้งแต่ระดับปฐมวัย
ระดับประถมศึกษา ทั้งในระบบและนอกระบบ ดังนั้น การศึกษาและพัฒนาคนในชาติจึงเป็นการ
วางรากฐานที่สาคัญยิ่งของการพัฒนาประเทศ อีกทั้งการผลิตและพัฒนาคนให้ตรงกับความต้องการ
ของตลาดแรงงาน จึงเป็นประเด็นที่ต้องสร้างและพัฒนาระบบเชื่อมโยงเครือข่ายพันธมิตร ภาคี
หุ้นส่วน การประสานความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษาในการจัดทา
ฐานข้อมูล สาหรับกาหนดแผน นโยบาย ยุทธศาสตร์การผลิตและพัฒนาคนที่มีประสิทธิภาพ ให้เกิด
ผลสัมฤทธิ์ในการปฏิบัติ ที่นาไปสู่การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันได้อย่างยั่งยืน
3. ด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ
การพัฒนาเศรษฐกิจ ประกอบด้วย การจัดทาแผนพัฒนาชุมชน และการพัฒนาธุรกิจ
ชุมชน เนื่องจากสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนไปเกี่ยวข้องกับการใช้เทคโนโลยีมากขึ้น ทาให้
- 3. 179
รูปแบบผลิตภัณฑ์และบริการเน้นความสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น ความจาเป็นในการจัดการ
สารสนเทศท้องถิ่นในสังคมเศรษฐกิจฐานความรู้จึงต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการเผยแพร่
ศิลปวัฒนธรรม การท่องเที่ยว และธุรกิจชุมชน ให้อยู่ในกระแสความต้องการที่สร้างรายได้และ
พัฒนาความเป็นอยู่ที่ดีให้แก่ชุมชน
ดังนั้น สารสนเทศกับการพัฒนาสังคมเศรษฐกิจฐานความรู้เป็นการมุ่งพัฒนาระบบ
ฐานความรู้เพื่อสร้างนวัตกรรม การพัฒนาคน และการพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อสามารถเป็นแรง
ขับเคลื่อนในแข่งขันและพัฒนาอย่างยั่งยืน
สารสนเทศท้องถิ่นกับแผนการพัฒนาประเทศ
แผนการพัฒนาประเทศ เป็นเครื่องมือในการใช้ทรัพยากรของสังคม และเป็นทิศทางหรือ
เป็นแนวทางการพัฒนาประเทศ ซึ่งการจัดทาแผนการพัฒนาประเทศ ในบทนี้จะขอกล่าวเฉพาะ
แผนพัฒนาที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แผนพัฒนาการศึกษาแห่งชาติ
แผนพัฒนาการศึกษาแห่งชาติ และยุทธศาสตร์การจัดการสารสนเทศท้องถิ่นแห่งชาติและ
ยุทธศาสตร์หลัก มีรายละเอียดดังนี้
1. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2555 -2559)
ประเด็นเนื้อหาสาระสาคัญของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11
ได้ประมวลไว้ในวิสัยทัศน์ 3 พันธกิจ 3 วัตถุประสงค์ 4 เปูาหมายหลัก และ 7 ยุทธศาสตร์ ตาม
การศึกษาจากบริบทตลอดจนจุดแข็ง จุดอ่อน โอกาสและภัยคุกคามของประเทศไทย (สานัก
นายกรัฐมนตรี. 2554 : 18-24) ดังนี้คือ
1.1 วิสัยทัศน์ “ประเทศมีความมั่งคง เป็นธรรม และมีภูมิคุ้มกันต่อการ
เปลี่ยนแปลง”
1.2 พันธกิจ 3 ประการ ได้แก่
1.2.1 การพัฒนาฐานการผลิตและบริการ
1.2.2 การสร้างความเป็นธรรม และลดความเหลื่อมล้าทางเศรษฐกิจ สังคม
1.2.3 การสร้างภูมิคุ้มกันจากวิกฤติการณ์
1.3 วัตถุประสงค์ 3 ประการ เพื่อให้
1.3.1 ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมอุดมสมบูรณ์อย่างยั่งยืน
- 4. 180
1.3.2 คนไทยอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข
1.3.2 พร้อมเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างเป็นสุข
1.4 เปูาหมายหลัก 4 ประการ ได้แก่
1.4.1 เศรษฐกิจมีความเข้มแข็งสมดุล
1.4.2 ความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้น
1.4.3 การมีหลักประกันสังคมที่ทั่วถึง
1.4.4 สังคมไทยมีความสุขอย่างมีธรรมาภิบาล
1.5 ยุทธศาสตร์ 7 ประการ ได้แก่
1.5.1 การสร้างฐานการผลิตให้เข้มแข็ง สมดุล อย่างสร้างสรรค์
1.5.2 การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออานวยต่อการผลิต การค้า การลงทุน
1.5.3 การพัฒนาคุณภาพคน ทั้งความรู้คู่คุณธรรม
1.5.4 สังคม มั่นคงเป็นธรรม มีพลังและเอื้ออาทร
1.5.5 การผลิตและบริโภคที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
1.5.6 การมีความมั่นคงของพลังงานและอาหาร
1.5.7 การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นองค์รวมที่แสดงถึงแนวทางนโยบายใน
การพัฒนาประเทศในระยะยาว จึงควรทาให้ประชาชนทุกคนเข้าใจ ตลอดจนหน่วยงานต่าง ๆ ของ
รัฐและเอกชนที่จะพัฒนาประเทศไปในทิศทางเดียวกัน
2. แผนพัฒนาการศึกษาแห่งชาติ ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 2 (พ.ศ. 2555 -2559)
การศึกษามีความสาคัญต่อการพัฒนาคนให้เป็นกาลังสาคัญในการพัฒนาท้องถิ่นและ
การพัฒนาประเทศ การจัดทาแผนการศึกษาแห่งชาติ ฉบับปรับปรุงฯ ยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพียง ยึดทางสายกลางอยู่บนพื้นฐานของความสมดุลพอดี รู้จักพอประมาณอย่างมีเหตุผล มีความ
รอบรู้เท่าทันโลก เพื่อมุ่งให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนและความอยู่ดีมีสุขของคนไทย เกิดการบูรณาการ
แบบองค์รวมที่ยึดคนเป็นศูนย์กลางของการพัฒนาอย่างมีดุลยภาพ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม
การเมือง สิ่งแวดล้อม เป็นแผนที่บูรณาการศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม และกีฬากับการศึกษาทุก
ระดับ รวมทั้งเชื่อมโยงการพัฒนาการศึกษากับการพัฒนาด้านต่าง ๆ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม
- 5. 181
การเมือง การปกครอง วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี โดยคานึงถึงการพัฒนา
อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต แผนการศึกษาแห่งชาติมีเจตนารมณ์เพื่อมุ่งพัฒนาชีวิตให้เป็นมนุษย์ที่
สมบูรณ์ทั้งทางร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู้และคุณธรรม มีจริยธรรม และวัฒนธรรมในการ
ดารงชีวิต สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข และพัฒนาสังคมไทยให้เป็นสังคมที่มีความ
เข้มแข็งและมีดุลยภาพใน 3 ด้าน คือ เป็นสังคมคุณภาพ สังคมแห่งภูมิปัญญาและการเรียนรู้ และ
สังคมสมานฉันท์และเอื้ออาทรต่อกัน
2.1 วัตถุประสงค์ของแผน เพื่อให้บรรลุตามปรัชญาหลักและเจตนารมณ์ของ
แผนการศึกษาแห่งชาติ ฉบับปรับปรุงฯ จึงกาหนดวัตถุประสงค์ของแผนที่สาคัญ 3 ประการ คือ
2.1.1 เพื่อพัฒนาคนอย่างรอบด้านและสมดุลเพื่อเป็นฐานหลักของการพัฒนา
2.1.2 เพื่อสร้างสังคมไทยให้เป็นสังคมคุณธรรม ภูมิปัญญาและการเรียนรู้
2.1.3 เพื่อพัฒนาสภาพแวดล้อมของสังคมเพื่อเป็นฐานในการพัฒนาคน และ
สร้างสังคมคุณธรรม ภูมิปัญญา และการเรียนรู้
2.2 แนวนโยบาย เปูาหมาย และกรอบการดาเนินงาน เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ทั้ง
สามประการดังกล่าว ประกอบกับการคานึงถึงทิศทางการพัฒนาประเทศในอนาคตที่เน้นการใช้
ความรู้เป็นฐานของการพัฒนา ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม ประชากร สิ่งแวดล้อม
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จึงได้กาหนดแนวนโยบายในแต่ละวัตถุประสงค์ ดังนี้
2.2.1 วัตถุประสงค์ 1 พัฒนาคนอย่างรอบด้าน และสมดุล เพื่อเป็นฐานหลัก
ของการพัฒนาแนวนโยบาย
2.1.1.1 พัฒนาคุณภาพการศึกษาและการเรียนรู้ในทุกระดับการศึกษา
และประเภทการศึกษา
2.1.1.2 ปลูกฝังและเสริมสร้างให้ผู้เรียนมีศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรม
ค่านิยม มีจิตสานึกและมีความภูมิใจในความเป็นไทย มีระเบียบวินัย มีจิตสาธารณะ คานึงถึง
ประโยชน์ส่วนรวม และยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น
ประมุข และรังเกียจการทุจริต ต่อต้านการซื้อสิทธิ์ขายเสียง
2.1.1.3 เพิ่มโอกาสทางการศึกษาให้ประชาชนทุกคนตั้งแต่แรกเกิดจน
- 6. 182
ตลอดชีวิตได้มีโอกาสเข้าถึงบริการการศึกษาและการเรียนรู้ โดยเฉพาะผู้ด้อยโอกาส ผู้พิการ หรือ
ทุพพลภาพ ยากจน อยู่ในท้องถิ่นห่างไกลทุรกันดาร
2.1.1.4 ผลิตและพัฒนากาลังคนให้สอดคล้องกับความต้องการของ
ประเทศ และเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขัน และร่วมมือกับนานาประเทศ
2.1.1.5 พัฒนามาตรฐานและระบบการประกันคุณภาพการศึกษา ทั้ง
ระบบประกันคุณภาพภายในและระบบการประกันคุณภาพภายนอก
2.1.1.6 ผลิตและพัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาให้มี
คุณภาพและมาตรฐาน มีคุณธรรม และมีคุณภาพชีวิตที่ดี
2.2.2 วัตถุประสงค์ 2 สร้างสังคมไทยให้เป็นสังคมคุณธรรม ภูมิปัญญาและการ
เรียนรู้แนวนโยบาย
2.2.2.1 ส่งเสริมการจัดการศึกษา อบรม และเรียนรู้ของสถาบันศาสนา
และสถาบันทางสังคม ทั้งการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย
2.2.2.2 ส่งเสริมสนับสนุนเครือข่ายภูมิปัญญา และการเรียนรู้ พลศึกษา
กีฬา ประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม เป็นวิถีชีวิตอย่างมีคุณภาพและตลอดชีวิต
2.2.2.3 ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างองค์ความรู้ นวัตกรรม
และทรัพย์สินทางปัญญา พัฒนาระบบบริหารจัดการความรู้ และสร้างกลไกการนาผลการวิจัยไปใช้
ประโยชน์
2.2.3 วัตถุประสงค์ 3 พัฒนาสภาพแวดล้อมของสังคมเพื่อเป็นฐานในการพัฒนา
คน และสร้างสังคมคุณธรรม ภูมิปัญญาและการเรียนรู้
2.2.3.1 การพัฒนาและนาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้เพื่อการพัฒนา
คุณภาพ เพิ่มโอกาสทางการศึกษา และการเรียนรู้ตลอดชีวิต
2.2.3.2 เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ โดยเร่งรัดกระจายอานาจ
การบริหารและจัดการศึกษาไปสู่สถานศึกษา เขตพื้นที่การศึกษา และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
2.2.3.3 ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคเอกชน ประชาชน ประชาสังคม
และทุกภาคส่วนของสังคมในการบริหารจัดการศึกษา และสนับสนุนส่งเสริมการศึกษา
2.2.3.4 ระดมทรัพยากรจากแหล่งต่าง ๆ และการลงทุนเพื่อการศึกษา
- 9. 185
ภาพที่ 9.1 ยุทธศาสตร์การจัดการสารสนเทศท้องถิ่นแห่งชาติ
ที่มา : ฉวีลักษณ์ บุณยะกาญจน. 2554 : 8.
ยุทธศาสตร์ที่ 1
ยุทธศาสตร์นโยบายการจัดการสารสนเทศท้องถิ่นระดับชาติ
1. กาหนดนโยบายการจัดการสารสนเทศท้องถิ่นระดับชาติ
ให้ชัดเจน ตลอดจนจัดหาทรัพยากรที่เกี่ยวข้องในการ
ปฏิบัติงานทั้งการสร้างความเข้าใจ
2. มีกฎหมายรองรับ
3. มีคณะกรรมการนโยบายการจัดการสารสนเทศท้องถิ่น
แห่งชาติ
4. การประยุกต์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ยุทธศาสตร์ที่ 2
ยุทธศาสตร์ระดับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดการ
สารสนเทศท้องถิ่น
1. สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติกาหนดนโยบาย
การจัดการสารสนเทศท้องถิ่นให้ชัดเจน โดยมี
คณะกรรมการเป็นผู้กาหนด
2. หน่วยงานที่ต้องมีบทบาทในการจัดการสารสนเทศท้องถิ่น
ประกอบด้วย กระทรวงที่เกี่ยวข้อง
2.1 กระทรวงมหาดไทย
2.2 กระทรวงศึกษาธิการ
2.2.1 สถาบันอุดมศึกษา
2.2.2 โรงเรียน
2.2.3 กรมการศึกษานอกโรงเรียน
2.3 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
2.3.1 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดการ
สารสนเทศท้องถิ่น และฐานข้อมูลต่าง ๆ
2.4 กระทรวงสาธารณสุข
2.4.1 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดการ
สารสนเทศท้องถิ่น และฐานข้อมูลต่าง ๆ
2.5 กระทรวงวัฒนธรรม
2.5.1 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดการ
สารสนเทศท้องถิ่น และฐานข้อมูลต่าง ๆ
2.5.2 พิพิธภัณฑ์
2.5.3 จดหมายเหตุ
2.6 กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
2.6.1 ฐานข้อมูล
2.6.2 ระบบฐานข้อมูล
ยุทธศาสตร์ที่ 3
ยุทธศาสตร์ในการสร้างศูนย์กลาง
การจัดการสารสนเทศท้องถิ่นแห่งชาติ
1. ระบบสารสนเทศท้องถิ่น
2. ฐานข้อมูลท้องถิ่น
ยุทธศาสตร์ที่ 4
ยุทธศาสตร์การวางแนวทางการบริหารจัดการ
สารสนเทศท้องถิ่นระดับองค์กรและระดับบุคคล
1. การพัฒนาทรัพยากรสารสนเทศท้องถิ่น
2. การจัดเก็บและการวิเคราะห์ทรัพยากรสารสนเทศ
ท้องถิ่น
3. การอนุรักษ์ สงวน และรักษาสารสนเทศท้องถิ่น
4. การนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาใช้
ในการจัดการทรัพยากรสารสนเทศท้องถิ่น และ
ทาฐานข้อมูล
5. การบริการและการเผยแพร่สารสนเทศท้องถิ่น
- 10. 186
ภาพที่ 9.2 ยุทธศาสตร์หลัก
ที่มา : ฉวีลักษณ์ บุณยะกาญจน. 2554 : 9.
ดังนั้น รัฐต้องมียุทธศาสตร์ที่ชัดเจน แนวทางหรือมาตรการเชิงรุกเพื่อให้บรรลุ
วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้คือนาไปสู่การมีศูนย์กลางการจัดการสารสนเทศท้องถิ่นแห่งชาติ และมีการฟื้นฟู
ที่มีอยู่ให้ดาเนินการต่อไปตรงตามเปูาหมายที่วางไว้ และมีการบริหารจัดการสารสนเทศท้องถิ่นอย่าง
เป็นระบบ การพัฒนา การจัดเก็บ การวิเคราะห์ การนาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ และบริการและ
การเผยแพร่ ตลอดจนอนุรักษ์และสงวนรักษาสารสนเทศท้องถิ่น อันนาไปสู่การจัดการสารสนเทศ
ท้องถิ่น การพัฒนาฐานข้อมูลสารสนเทศท้องถิ่นให้เป็นไปในทิศทางและมาตรฐานเดียวกัน
สารสนเทศท้องถิ่นกับการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน
ความรู้เป็นตัวแปรสาคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ มีการใช้ความรู้ในการพัฒนาและ
แก้ปัญหาชุมชน เริ่มต้นจากการพัฒนาเศรษฐกิจครัวเรือนและเศรษฐกิจชุมชนในการจัดการธุรกิจ
ของชุมชนท้องถิ่นให้ดารงอยู่ในสังคมได้โดยใช้แนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ความรู้และความเข้าใจใน
ภูมิปัญญาท้องถิ่นของไทย ความสามารถในการประยุกต์ภูมิปัญญาให้ต่อยอดองค์ความรู้เพื่อสร้าง
มูลค่าเพิ่มมีความสาคัญยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของชาติ เนื่องจากความรู้และสารสนเทศท้องถิ่น
เป็นข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาเศรษฐกิจ เริ่มจากข้อมูลของแต่ละครอบครัวหรือแต่ละบ้าน หมู่บ้าน
ตาบล อาเภอ จังหวัด สถานภาพของครอบครัวในชุมชนท้องถิ่นในด้านสภาพความเป็นอยู่ วิถีชีวิต
และการประกอบอาชีพมีความจาเป็นต่อการวางแผนพัฒนาประเทศให้สอดคล้องกับสภาพจริงของ
สังคม การพัฒนาระบบฐานข้อมูลท้องถิ่นที่สามารถเชื่อมโยงกันตามมาตรฐานทั่วประเทศจะช่วยให้
ได้ข้อมูลที่จาเป็นต่อการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนที่มีความสาคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ
ดังนั้น การจัดการสารสนเทศท้องถิ่นโดยการผลิตองค์ความรู้ เช่น องค์ความรู้ทางเกษตรกรรม องค์
ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ องค์ความรู้ทางการแพทย์ องค์ความรู้ทางหัตถกรรม องค์ความรู้ทาง
โภชนาการ เป็นต้น การรวบรวมเพื่อปรับแต่งสารสนเทศและเผยแพร่ความรู้ท้องถิ่นอย่างเป็นระบบ
จะเป็นการกระตุ้นให้ประชาชนท้องถิ่นนั้น ๆ มีความรักและภาคภูมิใจในวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์
ของท้องถิ่นที่มีความหลากหลาย เช่นเดียวกับผลงานที่เป็นการแสดงออกด้านศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน
ล้วนมีความสาคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของท้องถิ่นโดยอาศัยมรดกทางวัฒนธรรมอันเป็นต้นทุน
- 11. 187
สาคัญของการพัฒนาประเทศ (ชลภัสส์ วงษ์ประเสริฐ และน้าทิพย์ วิภาวิน. 2554 : 15-8-15-21)
ดังนี้
1. ความหมายของการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน
การพัฒนาเศรษฐกิจเป็นการทาให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ก่อให้เกิดการ
เปลี่ยนแปลงในโครงสร้างการผลิต โครงสร้างทางสังคม ค่านิยม ทัศนคติ การศึกษา การปกครอง
และการใช้ทรัพยากรที่สอดคล้องและเหมาะสมกับความต้องการของประเทศ
การพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน หมายถึง การประกอบอาชีพที่สร้างรายได้ให้แก่
ครอบครัวในแต่ละชุมชนท้องถิ่น เป็นการสร้างธุรกิจชุมชนที่เน้นการสร้างงานในท้องถิ่นเป็นหลัก
โดยมีเปูาหมายเพื่อให้ทุกคนในท้องถิ่นอยู่ได้โดยมีหลักการดาเนินธุรกิจที่ชุมชนเป็นเจ้าของและเป็น
ผู้ดาเนินการ ความสาเร็จของการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนขึ้นอยู่กับความสามารถในการรวมตัว มีการ
ร่วมทุน ร่วมผลิตและดาเนินธุรกิจ ร่วมรับประโยชน์บนหลักการเศรษฐกิจพอเพียง สามารถกระจาย
สวัสดิการสู่คนในชุมชน สามารถขยายเครือข่ายเพื่อให้สามารถอยู่ในตลาดอย่างต่อเนื่องตลอดไปโดย
มีองค์กรร่วมในการวิจัยและพัฒนาให้กับธุรกิจชุมชนอย่างต่อเนื่อง
การพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนมีความสัมพันธ์กับธุรกิจชุมชน หมายถึง ธุรกิจที่คนใน
ชุมชนลงทุนร่วมกันร่วมกันเป็นเจ้าของ ร่วมกันคิด ร่วมกันบริหารจัดการ และร่วมกันรับผิดชอบใน
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากการดาเนินกิจกรรมนั้น ๆ หรือธุรกิจชุมชนเป็นการผลิตสินค้าและบริการเพื่อ
สร้างรายได้และการพึ่งตนเองของครอบครัว ชุมชน และระหว่างชุมชน รวมทั้งธุรกิจขนาดกลางและ
ขนาดย่อมที่ดาเนินการโดยชุมชน ใช้ทุนของชุมชน ได้แก่ เงิน ทรัพยากร ผลผลิต ความรู้ ภูมิปัญญา
ทุนทางวัฒนธรรม และทุนทางสังคม เป็นองค์กรที่รวมตัวด้วยความสมัครใจของประชาชนจานวน
หนึ่งเพื่อทาธุรกิจต่าง ๆ ในชุมชน
2. หลักการเศรษฐกิจพอเพียงและความสาคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียงใน
ชุมชน
การพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียง หมายถึง เศรษฐกิจที่สามารถอุ้มชูตัวเองได้ให้มีความ
พอเพียง โดยไม่สร้างความเดือดร้อนให้ตนเองและผู้อื่น ซึ่งต้องสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจของตนเอง
ให้มีความพอกินพอใช้ สามารถพึ่งพาตนเองได้ ย่อมสามารถสร้างความเจริญก้าวหน้าและฐานะทาง
- 12. 188
เศรษฐกิจของประเทศได้ หลักการของเศรษฐกิจพอเพียงนั้นเน้นถึงความพอเพียงซึ่งหมายถึง การ
บริโภคและการผลิตอยู่บนพื้นฐานของความพอประมาณและเหตุผลไม่ขัดสนแต่ไม่ฟุุมเฟือย
2.1 หลักการเศรษฐกิจพอเพียง (อภิชัย พันธเสน. 2549 : 52-53) มีหลักการสาคัญ
ดังนี้
2.1.1 หลักความสมดุล คือ การพัฒนาอย่างเป็นองค์รวม มีความสมดุลระหว่าง
โลกาภิวัตน์ (Globalization) กับความเป็นท้องถิ่น (Localization) มีความสมดุลระหว่างภาค
เศรษฐกิจและการเงิน และสังคมมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจโครงสร้างการผลิตที่สมดุล มีการผลิตที่
หลากหลายใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
2.1.2 หลักความยั่งยืน คือ ความพอเพียงอย่างต่อเนื่องในทุกด้าน โดยเฉพาะ
ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีภูมิคุ้มกันที่ดี ระบบเศรษฐกิจกับสังคมมีความยืดหยุ่นที่
สามารถก้าวทันและพร้อมรับต่อกระแสโลกาภิวัตน์ตลอดจนปรับตัวให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก
มีการบริหารจัดการที่ดีซึ่งสามารถปูองกันและพร้อมรับวิกฤตได้
2.1.3 คุณภาพของคน ที่จะพัฒนาเศรษฐกิจทางสายกลางได้ ต้องมีพื้นฐานจิตใจ
ที่มีคุณธรรม ซื่อสัตย์ สุจริต มีไมตรี มีความเมตตาหวังดีต่อผู้อื่น มีความอดทน มีความเพียรใช้
สติปัญญาคิดอย่างรอบคอบ มีทักษะความรอบรู้อย่างเหมาะสมกับการประกอบอาชีพ พัฒนาตนเอง
อย่างต่อเนื่อง
ดังนั้น การจัดเตรียมสารสนเทศท้องถิ่น โดยเฉพาะครัวเรือนที่มีความสาเร็จในการ
ดารงชีวิต เพื่อเป็นต้นแบบให้ครัวเรือนอื่น ๆ ได้เป็นแนวปฏิบัติที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง
2.2 ความสาคัญของระบบเศรษฐกิจพอเพียงของชุมชน มีส่วนช่วยพัฒนาเศรษฐกิจ
สังคม และการเมืองมีบทบาทในการพัฒนา ดังนี้
2.2.1 ส่งเสริมการพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรม ธุรกิจอุตสาหกรรมบางประเภท
จาเป็นต้องอาศัยวัตถุดิบหรือชิ้นส่วนประกอบจากหลาย ๆ แห่ง ธุรกิจชุมชนจึงเป็นแหล่งช่วยในการ
ผลิตส่วนประกอบเหล่านี้ และนาส่งให้ธุรกิจขนาดใหญ่เพื่อผลิตเป็นสินค้าที่มีมาตรฐาน
2.2.2 สร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน ทาให้การกระจายอานาจทางเศรษฐกิจไปสู่
ชุมชน อัตราการว่างงานลดน้อยลงและมีการจ้างงานในท้องถิ่น ปัญหาการไม่มีงานทาลดน้อยลง ลด
ปัญหาสังคมที่เป็นภัยคุกคามต่อประเทศชาติ ถ้าธุรกิจชุมชนบรรลุเปูาหมาย สมาชิกในชุมชนมีรายได้
- 13. 189
เพิ่มขึ้น ครอบครัวอบอุ่นเพราะไม่มีการย้ายถิ่นไปทางานที่อื่น ชุมชนมีความเข้มแข็ง ปัญหาอื่น ๆ จะ
ลดน้อยลง ช่วยให้สังคมมีความร่มเย็นเป็นสุข
2.2.3 ก่อให้เกิดการจ้างงาน การพัฒนาธุรกิจชุมชนทาให้เกิดการจ้างงานใน
ท้องถิ่นและให้มีโอกาสพัฒนาฝีมือแรงงานอย่างต่อเนื่องพร้อมกันไปด้วย เพราะทุกคนมีส่วนเป็น
เจ้าของกิจการ จึงสามารถใช้กิจการที่มีเป็นเครื่องมือในการพัฒนาฝีมือของตนเองตามความต้องการ
การเปิดโอกาสให้มีการประกอบการ สมาชิกมีความรู้ความสามารถ มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถ
แสวงหาประสบการณ์
3. แผนพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนและปัจจัยแห่งความสาเร็จ
วัตถุประสงค์ของการวางแผนพัฒนาเศรษฐกิจ ได้แก่ การเพิ่มรายได้ประชาชาติและ
รายได้ที่แท้จริงของบุคคล การยกระดับมาตรฐานการดาเนินชีวิตของประชาชนให้สูงขึ้น การกระจาย
ความเจริญไปสู่ท้องถิ่นอย่างทั่วถึง การกระจายรายได้สู่ประชาชนอย่างยุติธรรม การจ้างงานเพิ่ม
อัตราสูง ปัญหาการว่างงานลดน้อยลง และการมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ
3.1 แผนพัฒนาเศรษฐกิจแบ่งเป็น 3 ประเภท คือ
3.1.1 แผนระยะยาว เป็นแผนระยะยาวที่วางกรอบและทิศทางการดาเนิน
นโยบายอย่างกว้าง ๆ รวมทั้งมีการประมาณการรายการสาคัญ ๆ อย่างกว้าง ๆ อาทิ เปูาหมาย
ผลผลิตมวลรวม การใช้จ่ายในภาครัฐและเอกชน การบริโภคและการลงทุน รวมถึงการนาเข้าและ
ส่งออก สินค้าและบริการต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่งแผนระยะยาวจะเป็นกรอบให้แก่แผนระยะกลาง
3.1.2 แผนระยะกลาง เป็นแผนระยะ 4-6 ปี ซึ่งเป็นแผนที่วางตามกรอบของ
แผนระยะยาว
3.1.3 แผนปรับปรุงประจาปี เป็นแผนที่จะต้องจัดทาขึ้นทุกปี หรือเรียกอีกอย่าง
หนึ่งว่าแผนประจาปี เนื่องจากสถานการณ์ต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
ซึ่งสามารถทาให้การดาเนินการและผลที่ได้รับไม่เป็นไปตามเปูาหมาย ดังนั้นแผนนี้จึงเป็นแผนที่ใช้ใน
การปรับให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ในขณะนั้น และยังใช้ประกอบในการจัดทางบประมาณประจาปี
3.2 ปัจจัยที่มีผลต่อความสาเร็จของระบบเศรษฐกิจชุมชน ได้แก่ ปัจจัยภายใน และ
ปัจจัยภายนอก
3.2.1 ปัจจัยภายใน ได้แก่
- 14. 190
3.2.1.1 ความมุ่งมั่นหรืออุดมการณ์ร่วมในการก่อตั้งกลุ่ม สมาชิกที่
รวมกลุ่มดาเนินธุรกิจมีความมุ่งมั่นหรืออุดมการณ์ร่วมกันที่จะทากิจกรรมของธุรกิจชุมชนเพื่อ
ประโยชน์ของตนเองและชุมชน
3.2.1.2 การใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นในการผลิต เป็นปัจจัยที่ทาให้ธุรกิจ
ชุมชนประสบความสาเร็จอย่างรวดเร็ว เนื่องจากสมาชิกในกลุ่มมีทักษะในการผลิตเป็นพื้นฐานที่ถูก
ถ่ายทอดจากบรรพบุรุษ เป็นภูมิปัญญาที่ถ่ายทอดต่อ ๆ กันมา ทาให้ธุรกิจชุมชนราบรื่น และ
ประสบความสาเร็จได้
3.2.1.3 ความสามัคคี หรือความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างสมาชิกภายในกลุ่ม
สมาชิกทุกคนเต็มใจให้ความร่วมมือร่วมใจกันทากิจกรรมของกลุ่มเต็มกาลังความสามารถ
คุณลักษณะของประธานกลุ่ม หรือผู้นากลุ่ม มีความตั้งใจจริงและเสียสละ อุทิศตนเพื่อกลุ่ม เป็นผู้
ประสานงานที่ดี เป็นผู้มีความสามารถในการติดต่อสื่อสารที่ดี
3.2.1.4 การสร้างจิตสานึกที่ดีของธุรกิจชุมชน การสร้างจิตสานึกที่ดีต่อ
สถาบันหรือหน่วยงานที่ให้การสนับสนุน การสร้างจิตสานึกที่ดีต่อช่องทางการจัดจาหน่าย การสร้าง
จิตสานึกที่ดีต่อสภาพแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติทั้งในชุมชนของตนเองและชุมชนอื่น และการ
สร้างจิตสานึกต่อสังคม วัฒนธรรมและประเพณี
3.2.1.5 ระบบบริหารจัดการกฎระเบียบข้อบังคับของกลุ่ม มีแนวปฏิบัติ
ที่เป็นไปได้ในทิศทางเดียวกัน คือ สมาชิกทุกคนภายในกลุ่มจะต้องยึดถือและปฏิบัติตามกฎกติกา
และระเบียบข้อบังคับ ที่เป็นหลักในการอยู่ร่วมกัน
3.2.2 ปัจจัยภายนอก ได้แก่
3.2.2.1 การส่งเสริมหรือสนับสนุนจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน
ที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือทั้งด้านการเงิน วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องจักร วัตถุดิบ หรือความรู้
ในด้านต่าง ๆ
3.2.2.2 การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อบุคคลและหน่วยงานภายนอก
รวมทั้งเป็นการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รู้จักแก่บุคคลภายนอก
3.2.2.3 กระแสความนิยมและการผลักดันของธุรกิจ จะช่วยผลักดันให้
- 15. 191
ธุรกิจประสบความสาเร็จได้ง่ายขึ้น กระแสความนิยมอาจเกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ฉะนั้นจึงควร
วิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้ทางธุรกิจในอนาคตของสินค้าชนิดนั้นด้วย
3.2.2.4 คู่แข่งขัน ธุรกิจชุมชนที่เป็นคู่แข่งขันกันที่ผลิตสินค้าชนิดเดียวกัน
ธุรกิจใดมีการบริหารจัดการได้ดีกว่า ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพสูงกว่า มีวิธีการจัดการตลาดได้ดีกว่า
จาเป็นต้องรู้เท่าทันคู่แข่งของตนเองว่ากาลังดาเนินกิจกรรมอย่างไร เพื่อจะได้ใช้กลยุทธ์ที่จะสามารถ
เอาชนะคู่แข่งได้
3.2.2.5 ลูกค้าหรือผู้บริโภค จะต้องวิเคราะห์ว่าลูกค้าหรือผู้บริโภคเป็น
ใคร อยู่ที่ใด มีลักษณะอย่างไร จะทาให้สามารถผลิตสินค้าสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่าง
ถูกต้อง
3.2.2.6 คนกลางเป็นปัจจัยสาคัญมากที่จะทาให้ธุรกิจประสบความสาเร็จ
ได้อย่างรวดเร็ว เพราะคนกลางทางการตลาดจะช่วยกระจายสินค้าไปยังผู้บริโภค จึงจาเป็นต้องรักษา
สัมพันธภาพที่การตลาดทุกประเภทให้ดีที่สุด
3.2.2.7 การสร้างเครือข่ายธุรกิจชุมชนจะช่วยให้ธุรกิจชุมชนประสบ
ความสาเร็จได้ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้การดาเนินกิจกรรมของธุรกิจชุมชนเป็นไปอย่างต่อเนื่อง
ดังนั้น ปัจจัยแห่งความสาเร็จของการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน ได้แก่ ปัจจัยภายในและ
ปัจจัยภายนอก