More Related Content
Similar to เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์สมัยใหม่
Similar to เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์สมัยใหม่ (20)
More from jiratchaya sakornphanich
More from jiratchaya sakornphanich (14)
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์สมัยใหม่
- 2. เทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ ที่ได้มีการพัฒนาขึ้นมาใหม่
เรื่อย ๆ เพื่อความสะดวกสะบายในการใช้ในชีวิตประจาวัน และเพื่อความ
สะดวกสบาย รวดเร็วต่อการทางานในด้านต่าง ๆ ดังนั้นมนุษย์จึงได้มีการคิดค้น
ประดิษฐ์ หรือสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ
- 3. ซอฟท์แวร์ / คอมพิวเตอร์สาหรับงานก่อสร้าง
ปัจจัยหลักที่จะก่อให้เกิดเศรษฐกิจฟองสบู่ได้ มีอยู่ 2 ปัจจัย คือ อสังหาริมทรัพย์และตลาดหุ้น
เนื่องจากมีปริมาณเม็ดเงินจานวนมาก และอุตสาหกรรมการก่อสร้างก็มีความสัมพันธ์กันโดยตรงกับ
ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากเป็นสินค้า (Product) ที่จะให้อสังหาริมทรัพย์นาไปขาย และหากมี
การพิจารณาถึงขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ทาให้พบว่า หากมีการพัฒนาศักยภาพและ
ขีดความสามารถในอุตสาหกรรมการก่อสร้างให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้นแล้ว จะทาให้ระบบเศรษฐกิจดีขึ้นได้
ทั้งระบบอย่างยั่งยืนและถาวร
ความสาคัญในการใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์สมัยใหม่
- 6. การใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการทางานจึงเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการทางาน
(Productivity) และขีดความสามารถในการแข่งขัน (Competitive Advantage) ในคราว
เดียวกัน หากทุกคนเข้าใจหลักการนี้แล้วจะทาให้ตระหนักว่า การใช้คอมพิวเตอร์มาช่วยทางานในธุรกิจ
ก่อสร้างนั้นมีความจาเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีปริมาณเม็ดเงินจานวนมาก ทาให้สามารถประหยัดเงินได้
ทันที
ซึ่งระบบ CAD (Computer Aided Design) ที่เอาไว้ช่วยสาหรับการเขียนแบบ ก็มีการ
วิวัฒนาการพอแยกได้เป็น 3 ยุค ดังนี้
1
- ยุคแรก การเขียนแบบด้วยมือลงบนกระดาษ ซึ่งมีข้อจากัดมากไม่สะดวกในการปรับปรุงแบบ ซึ่งเป็นการเขียน
แบบ 2 มิติ คือ เป็นรูปด้าน รูปตัด แปลนอาคาร
– ยุคที่สอง เขียนแบบด้วยโปรแกรม CAD ซึ่งยุคนี้เริ่มได้มาประมาณ 20 ปี แล้ว และปัจจุบันการทางานเกือบ
100 % ในการเรียน การสอน การทางานในวงการก่อสร้างไทยยังใช้ระบบนี้อยู่ ทาให้มีปัญหาเรื่องการเชื่อมโยงข้อมูล
กับระบบอื่นๆ เนื่องจากเป็นแค่การเขียนแบบแต่อย่างเดียว และทาให้การทางานขาดการเชื่อมต่อไปยังระบบอื่น ทาให้
โปรแกรม CAD เป็นเพียงเครื่องมือสาหรับพนักงานเขียนแบบอย่างเดียวเท่านั้น สาหรับผู้จัดการโครงการ เจ้าของ
โครงการ หรือ สถาปนิกเอง จึงไม่ค่อยให้ความสาคัญกับคอมพิวเตอร์เท่าที่ควร
- 7. – ยุคที่สาม จาลองการออกแบบอาคารบนคอมพิวเตอร์ (Building Simulation) ทาให้สถาปนิก
สามารถมองเห็นอาคารเสมือนจริงบนคอมพิวเตอร์ขณะออกแบบ ซึ่งทุกวัตถุ ( Object ) บนระบบ
คอมพิวเตอร์จะมีราคา สี คุณสมบัติวัสดุ เหมือนจริง ทาให้ทราบราคาค่าก่อสร้างทั้งอาคารได้ทุกขณะ
ลดการทางานผิดพลาดลง สามารถใช้โมเดลไปให้วิศวกรออกแบบโครงสร้าง ไฟฟ้า ประปา ได้ทันที
โดยไม่ต้องสร้างโมเดลใหม่ให้เสียเวลา ลดการซ้าซ้อนทั้งระบบ สะดวกในการนาเสนองานและการแก้ไข
แบบอาคาร หากมีการแก้ไขขยายขนาดห้องจาก 4.00 ม. เป็น 4.50 ม. ที่รูปใดรูปหนึ่ง จะทาให้
รูปทั้งหมด ทั้งรูปแปลน รูปด้าน รูปตัด รูปขยาย จะปรับปรุงแบบให้ใหม่ทันที ไม่ต้องเสียเวลาใน
การแก้ไขแบบใหม่เป็นแรมเดือนอีกต่อไป
- 8. และในยุคที่สามของ CAD นี้ ได้มีการกาหนดมาตรฐานการทางานบนระบบคอมพิวเตอร์
เพื่อให้สามารถเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างโปรแกรมต่างๆ ซึ่งเรียกว่า IFC ( Industrial
Foundation Class ) ปัจจุบันมีผู้พัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ชั้นนาของโลกได้เข้าร่วมพัฒนาและ
เป็นสมาชิก เช่น Graphisoft, Microsoft, Autodesk, Bentley เป็นต้น โดยการใช้
เทคโนโลยี XML เป็นมาตรฐานในการแลกเปลี่ยนไฟล์กัน และยังทาให้โปรแกรม CAD ออกแบบ
สถาปัตยกรรม ประมาณราคา วิศวกรโครงสร้าง บริหารโครงการ บริหารทรัพย์สิน หรือแม้กระทั่ง
ระบบบัญชี สามารถเชื่อมโยงและคุยกันได้เป็นอย่างดี
โดยการเชื่อมโยงรูปแบบ IFC นี้จะเป็นการเชื่อมโยงได้ทั้งแบบ (Drawing) และข้อมูลประกอบ
(Attribute) จากรูปแบบเดิมที่สามารถแลกเปลี่ยนได้แค่ Drawing ระหว่างโปรแกรมโดยใช้ไฟล์
DXF (Data Exchange Format) เป็นตัวกลาง
- 9. – ไฟล์แบบก่อสร้างรุ่นใหม่สามารถเก็บรูปแบบแปลนทุกขั้นตอน ตั้งแต่การออกแบบเบื้องต้นจนถึง
แบบก่อสร้างจริง (As- Build Drawing) ได้ในไฟล์เดียว โดยสามารถแยกแบบได้เป็นชุดๆ ซึ่งจาก
เดิมจะต้องเก็บไฟล์หลายสิบหลายร้อยไฟล์ ทาให้ยากในการค้นหา และเรียกใช้งานภายหลัง
การใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ที่รองรับระบบ IFC ทาให้ผู้ใช้งานทั้ง สถาปนิก วิศวกร เจ้าของ
โครงการ ที่ปรึกษาโครงการ สามารถทางานได้สะดวกรวดเร็ว ลดการทางานผิดพลาด สามารถนา
ข้อมูลไปใช้งานได้ทั้งระบบตั้งแต่การออกแบบ ประมาณราคา การก่อสร้าง การติดตั้ง การโฆษณา
ประชาสัมพันธ์
โดยตอนถัดๆไปผมจะอธิบายถึงเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์สมัยใหม่ สาหรับช่วยงาน
สถาปัตยกรรม วิศวกรรม การก่อสร้าง (Construction) การบริหารโครงการ (Project
Management) การบริหารอาคาร (Facilities Management) ที่ช่วยทาให้วงการ
อสังหาริมทรัพย์ สามารถทางานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้ง ลดต้นทุน และทางานได้รวดเร็ว