More Related Content
Similar to บทที่ 12.แนวโน้มของเทคโนโลยีสารสนเทศ
Similar to บทที่ 12.แนวโน้มของเทคโนโลยีสารสนเทศ (20)
บทที่ 12.แนวโน้มของเทคโนโลยีสารสนเทศ
- 1. Introduction to Information Technology
แนวโน้มของเทคโนโลยีสารสนเทศ
แนวโน้มการใช้เทคโนโลยีขององค์การ
ปั จ จุ บั น พัฒ นาการและการนำา เทคโนโลยี ม าประยุ ก ต์ ใ ช้ ใ น
องค์ การ ส่ง ผลให้ เ กิ ดการเปลี่ ย นแปลงทั้ งโดยทางตรงและทาง
อ้ อ ม ซึ่ ง ก่ อ ให้ เ กิ ด ความท้ า ทายแก่ ผู้ บ ริ ห ารในอนาคตให้ นำา
เทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ธุรกิจ โดยผู้บริหารต้อง
มี ความรู้ ความเข้ า ใจ และวิ สัย ทั ศน์ ต่อ แนวโน้ ม ของเทคโนโลยี
เ พื่ อ ใ ห้ ส า ม า ร ถ ตั ด สิ น ใ จ นำา เ ท ค โ น โ ล ยี ม า ใ ช้ ง า น อ ย่ า ง มี
ประสิทธิภาพ ซึ่งเราสามารถจำาแนกผลกระทบของเทคโนโลยีที่มี
ต่อการทำางานขององค์การออกเป็น ٥ ลักษณะ ดังต่อไปนี้
١. ก า ร ป รั บ ป รุ ง รู ป แ บ บ ก า ร ทำา ง า น ข อ ง อ ง ค์ ก า ร
เทคโนโลยีหลายอย่างได้ถูกนำา เข้ามาใช้ภายในองค์การ และส่ง
ผลให้กระบวนการทำางานได้เปลี่ยนรูปแบบไป ตัวอย่างเช่น การนำา
เอาเทคโนโลยีไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (eletronics mail) เข้ามา
ใช้ ภ ายในองค์ ก าร ทำา ให้ ก ารส่ ง ข่ า วสารไม่ ต้ อ งใช้ พ นั ก งานเดิ น
หนังสืออีกต่อไป ตลอดจนลดการใช้กระดาษที่ต้องพิมพ์ข่าวสาร
และสามารถส่งข่าวสารไปถึงบุคคลที่ต้องการได้ เป็ นจำา นวนมาก
แ ล ะ ร ว ด เ ร็ ว ห รื อ เ ท ค โ น โ ล ยี สำา นั ก ง า น อั ต โ น มั ติ (ofice
automation) ที่ เ ปลี่ ย น รู ป แบบ ของกระบ วนการทำา ง า นแ ล ะ
ประสานงานในองค์การให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น และเป็นเครื่อง
มือที่มีประสิทธิภาพในการบริหารงานของผู้บริหารในระดับต่าง ๆ
ขององค์การ
٢. การสนั บ สนุ น การดำา เนิ น งานเชิ ง กลยุ ท ธ์ โดย
เทคโนโลยีสารสนเทศจะผลิตสารสนเทศที่สำาคัญให้แก่ผู้บริหารที่
จะใช้ เ ป็ น แนวทางในการตั ด สิ น ใจและการสร้ า งความได้ เ ปรี ย บ
เหนือกว่าคู่แข่งขัน ในอนาคตการแข่งขันในแต่ละอุตสาหกรรมจะ
มี ความรุ น แรงมากขึ้ น การบริ ห ารงานของผู้ บ ริ ห ารที่ อ าศั ย เพี ย ง
ประสบการณ์ แ ละโชคชะตาอาจจะไม่ เ พี ย งพอ แต่ ถ้ า ผู้ บ ริ ห ารมี
สารสนเทศที่ มี ป ระสิ ท ธิ ภ าพมาประกอบในการตั ด สิ น ใจ ก็ จ ะ
สามารถแก้ไขปัญหาและบริหารงานได้มีประสิทธิภาพขึ้น ดังนั้นผู้
บริหารในอนาคตจะต้องสามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีการสร้าง
สารสนเทศที่ดีให้กับตนเองและองค์การ
1
- 2. Introduction to Information Technology
٣. เครื่ อ งมื อ ในการทำา งาน เทคโนโลยี ถู ก นำา เข้ า มาใช้
ภายในองค์ ก าร เพื่ อ ให้ ก ารทำา งานคล่ อ งตั ว และมี ป ระสิ ท ธิ ภ าพ
เ ช่ น ก า ร อ อ ก เ อ ก ส า ร ต่ า ง ๆ โ ด ย ใ ช้ ค อ ม พิ ว เ ต อ ร์ ก า ร ใ ช้
คอมพิวเตอร์ช่วยในการออกแบบชิ้นส่วนของเครื่องจักร และการ
ควบคุมการผลิต เป็นต้น เราจะเห็นได้ว่าเทคโนโลยีสามารถที่จะ
นำา ม า ป ร ะ ยุ ก ต์ ใ น ห ล า ย ๆ ด้ า น โ ด ย เ ท ค โ น โ ล ยี จ ะ ช่ ว ย
เปลี่ยนแปลงและปรับ ปรุงคุ ณภาพของการที่จ ะนำา มาประยุก ต์ ใ น
หลาย ๆ ด้ า น โดยเทคโนโลยี จ ะช่ ว ยเปลี่ ย นแปลงและปรั บ ปรุ ง
คุณภาพของการทำางานให้ดีขึ้น หรือแม้กระทั่งช่วยลดค่าใช้จ่ายใน
เรื่องของแรงงานและวัสดุสิ้นเปลืองต่าง ๆลง แต่ยังคงรักษาหรือ
เพิ่มคุณภาพในการทำางานหรือการให้บริการลูกค้าที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นที่
แน่ นอนว่า เทคโนโลยีจ ะถู กนำา เข้ า มาใช้ ใ นการเปลี่ ย นแปลงและ
ปรั บ ปรุ ง กระบวนการในการดำา เนิ น งานขององค์ ก ารมากขึ้ น ใน
อนาคต
٤. ก า ร เ พิ่ ม ผ ล ผ ลิ ต ข อ ง ง า น โ ด ย เ ท ค โ น โ ล ยี
คอมพิ ว เตอร์ ส่ ว นบุ ค คล ปั จ จุ บั น คอมพิ ว เตอร์ ส่ ว นบุ ค คลหรื อ
PC ถู ก พั ฒ นาให้ มี ป ระสิ ท ธิ ภ าพมากขึ้ น ตลอดจนการใช้ ง าน
สะดวกและไม่ ซั บ ซ้ อ นเหมื อ นอย่ า งคอมพิ ว เตอร์ ข นาดใหญ่
นอกจากนี้ ใ นท้ อ งตลาดยั ง มี ชุ ด คำา สั่ ง ประยุ ก ต์ (application
software) อี ก มากมายที่ ส ามารถใช้ ง านกั บ เครื่ อ งคอมพิ ว เตอร์
ส่วนบุคคล และสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและผลผลิตของงาน
ได้อย่างมาก และเมื่อต่อคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเข้ากับระบบเครือ
ข่าย ก็จะทำา ให้องค์การสามารถรับ-ส่งข้อมูลและข่าวสารจากทั้ง
ภ า ย ใ น แ ล ะ ภ า ย น อ ก อ ง ค์ ก า ร ไ ด้ อี ก ด้ ว ย ดั ง นั้ น ใ น อ น า ค ต
คอมพิ วเตอร์ส่ วนบุคคลจะกลายเป็น เครื่อ งมื อหลัก ของพนัก งาน
และผู้บริหารขององค์การ
٥. เทคโนโลยี ใ นการติ ด ต่ อ สื่ อ สาร ในช่ ว งแรกของ
การนำา คอมพิวเตอร์มาใช้งานทางธุรกิจคอมพิวเตอร์จะถูกใช้เป็น
เพี ย งอุ ป กรณ์ ห ลั ก ที่ ช่ ว ยในการเก็ บ และคำา นวณข้ อ มู ล ต่ า ง ๆ
เท่ า นั้ น ปั จ จุ บั น คอมพิ ว เตอร์ ไ ด้ ถู ก พั ฒ นาให้ มี ศั ก ยภาพมากขึ้ น
โดยสามารถที่ จ ะต่ อ เป็ น ระบบเครื อ ข่ า ยเพื่ อ แลกเปลี่ ย นข้ อ มู ล
ระหว่ า งคอมพิ ว เตอร์ ปั จ จุ บั น ผู้ ใ ช้ ส ามารถติ ด ต่ อ เพื่ อ ที่ จ ะแลก
เปลี่ยนข้อมูลข่าวสารซึ่งกันและกันได้จากทุกหนทุก แห่ งทั่วโลก
2
- 3. Introduction to Information Technology
คอมพิวเตอร์จึงมีบทบาทที่สำา คัญมากกว่าการเป็นเครื่องมือที่เก็บ
และประมวลผลข้อมูลเหมือนอย่างในอดีตต่อไป
แนวโน้ ม ของการใช้ เ ทคโนโลยี ส ารสนเทศขององค์ ก าร
แสดงให้ เ ราเห็ น ได้ ว่ า ในอนาคต ผู้ ที่ จ ะเป็ น นั ก บริ ห ารและนั ก
วิช าชี พที่ ประสบความสำา เร็ จจะต้อ งไม่เ พีย งแค่ รู้ จั ก คอมพิ ว เตอร์
แต่จ ะต้ องสามารถใช้คอมพิ ว เตอร์ อ ย่ า งมี ป ระสิท ธิ ภาพ และรู้ จั ก
การจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยผู้บริหารในอนาคตจะต้อง
รู้จักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีกับงานของตน มีความคิดในการที่
จะสร้างระบบสารสนเทศที่ตนเองต้องการ เพื่อช่วยในการตัดสินใจ
ใ น ภ า ว ะ ที่ มี ก า ร แ ข่ ง ขั น สู ง ทำา ใ ห้ ก า ร บ ริ ห า ร ข อ ง ต น เ อ ง มี
ประสิทธิภาพและประสบความสำาเร็จอย่างสูง ขณะที่นักวิชาชีพจะ
ใช้ระบบสารสนเทศในการรวบรวมประมวลผล และจัดการข้ อมู ล
อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนการค้นหาและตรวจสอบข้อมูลจาก
แหล่งต่าง ๆ ผ่านระบบเครือข่ายอย่างถูกต้องและรวดเร็ว
เทคโนโลยีสารสนเทศในอนาคต
ปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศได้บูรณาการเข้าสู่ระบบธุรกิจ
ดังนั้นองค์การที่จะอยู่รอดและมีพฒนาการต้องสามารถปรับตัวและ
ั
จั ด การกั บ เทคโนโลยี อ ย่ า งเหมาะสม โดยหั ว ข้ อ นี้ จ ะกล่ า วถึ ง
เทคโนโลยีสารสนเทศที่จะมีผลต่อการดำาเนินธุรกิจในอนาคต เพื่อ
ให้ ผู้ บ ริ ห ารในฐานะหั ว ใจสำา คั ญ ของการพั ฒ นาเทคโนโลยี
สารสนเทศขององค์ การได้ศึกษา แต่ เนื่ องจากการเปลี่ย นแปลง
อย่างรวดเร็ว ของเทคโนโลยี ส ารสนเทศอาจทำา ให้ เ ทคโนโลยี ที่
กล่าวถึงในที่นี้ล้าสมัยได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว ดังนั้นจึงมีความ
จำา เป็นที่ผู้บริหารที่สนใจจะต้องศึกษาติดตามความเปลี่ยนแปลง
อยู่ตลอดเวลา โดยเทคโนโลยีสารสนเทศที่สำา คัญในอนาคตมีดัง
ต่อไปนี้
١. คอมพิ ว เตอร์ (computer) ปั จ จุ บั น คอมพิ ว เตอร์ ไ ด้
พั ฒ นาไปจากยุ ค แรกที่ เ ครื่ อ งมี ข นาดใหญ่ ทำา งานได้ ช้ า ความ
สามารถตำ่า และใช้ พ ลั ง งานสู ง เป็ น การใช้ เ ทคโนโลยี ว งจรรวม
ขนาดใหญ่ (very large scale integrated circuit : VLSI) ในการ
ผลิตไมโครโปรเซสเซอร์ (microprocessor) ทำา ให้ประสิทธิภาพ
3
- 4. Introduction to Information Technology
ของส่วนประมวลผลของเครื่องพัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นอกจาก
นี้ยังได้มีการพัฒนาหน่วยความจำา ให้มี ประสิทธิภาพสูงขึ้น แต่มี
ราคาถูกลง ซึ่งช่วยเพิ่ มศั กยภาพในการทำา งานของคอมพิ วเตอร์
ส่ ว นบุ ค คลในปั จ จุ บั น โดยที่ ค อมพิ ว เตอร์ ส่ ว นบุ ค คลในขณะที่ มี
ความสามารถเท่าเทียมหรือมากกว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่
ในสมั ย ก่ อ น ตลอดจนการนำา คอมพิ ว เตอร์ ช นิ ด ลดชุ ด คำา สั่ ง
(reduced instruction set computer) หรื อ RISC มาใช้ ใ นการ
ออกแบบหน่ ว ยประเมิ น ผล ทำา ให้ เ ครื่ อ งคอมพิ ว เตอร์ ส ามารถ
ทำางานได้เร็วขึ้นโดยใช้คำา สั่งพื้นฐานง่าย ๆ นอกจากนี้พัฒนาการ
และการประยุกต์ความรู้ในสาขาวิชาต่าง ๆ ทั้งสาขาวิทยาศาสตร์
วิ ศ วกรรมศาสตร์ และเทคโนโลยี ส ารสนเทศ ที่ ส่ ง ผลให้ เ ครื่ อ ง
คอมพิ ว เตอร์ มี ก ารประมวลผลตามหลั ก เหตุ ผ ลของมนุ ษ ย์ ห รื อ
ระบบปัญญาประดิษฐ์ ซึงจะกล่าวถึงในหัวข้อต่อไป
่
٢. ปั ญ ญ า ป ร ะ ดิ ษ ฐ์ (artificial intelligence) ห รื อ AI
เป็ น การพั ฒ นาระบบคอมพิ ว เตอร์ ใ ห้ มี ค วามสามารถที่ จ ะคิ ด แก้
ปัญหาและให้เหตุผลได้เหมือนอย่างการใช้ภูมิปัญญาของมนุษย์
จริ ง ปั จ จุ บั น นั ก วิ ท ยาศาสตร์ ใ นหลายสาขาวิ ช าได้ ศึ ก ษาและ
ทดลองที่จะพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ให้สามารถทำางานที่มีเหตุผล
โดยการเลียนแบบการทำางานของสมองมนุษย์ ซึ่งความรู้ทางด้าน
นี้ถ้าได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจะสามารถนำามาประยุกต์ใช้งาน
ต่าง ๆ อย่างมากมาย เช่น ระบบผู้เชี่ยวชาญเป็นระบบคอมพิวเตอร์
ที่ ถู ก พั ฒ นาขึ้ น เพื่ อ ให้ ค วามสามารถในการแก้ ปั ญ หาได้ อ ย่ า งผู้
เชี่ยวชาญ และหุ่นยนต์ (robotics) เป็นการพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ให้
สามารถปฏิ บั ติ ง านและใช้ ทั ก ษะการเคลื่ อ นไหวได้ ใ กล้ เ คี ย งกั บ
การทำางานของมนุษย์ เป็นต้น
٣. ร ะ บ บ ส า ร ส น เ ท ศ สำา ห รั บ ผู้ บ ริ ห า ร (executive
information system) หรือ EIS เป็นการพัฒนาระบบสารสนเทศ
ที่สนับสนุนผู้บริหารในงานระดับวางแผนนโยบายและกลยุทธ์ของ
องค์การโดยที่ EIS จะถูกนำามาให้คำาแนะนำา ผู้บริหารในการตัดสิน
ใจเมื่ อ ประสบปั ญ หาแบบไม่ มี โ ครงสร้ า งหรื อ กึ่ ง โครงสร้ า ง โดย
EIS เป็ น ระบบที่ พั ฒ นาขึ้ น เพื่ อ ตอบสนองความต้ อ งการที่ พิ เ ศษ
ของผู้บริหารในด้านต่าง ๆ เช่น สถานการณ์ต่าง ๆ ทั้งภายในและ
ภายนอกองค์การ รวมทั้งสถานะของคู่แข่งขันด้วย โดยที่ระบบจะ
ต้ องมีความละเอีย ดอ่ อนตลอดจนง่ า ยต่ อ การใช้ ง าน เนื่ อ งจากผู้
4
- 5. Introduction to Information Technology
บริ ห ารระดั บ สู ง จำา นวนมากไม่ เ คยชิ น กั บ การติ ด ต่ อ และสั่ ง งาน
โดยตรงกับระบบคอมพิวเตอร์
٤. ก า ร จ ด จำา เ สี ย ง (voice recognition) เป็ น ค ว า ม
พยายามของนั กวิท ยาศาสตร์ ที่ จ ะทำา ให้ คอมพิ ว เตอร์ จ ดจำา เสี ย ง
ของผู้ใช้ ปัจจุบันการพัฒนาเทคโนโลยีสาขานี้ยังไม่ประสบความ
สำาเร็จตามที่นักวิทยาศาสตร์ต้องการ ถ้าในอนาคตนักวิทยาศาสตร์
ประสบความสำา เร็ จ ในการนำา ความรู้ ต่ า ง ๆ มาใช้ ส ร้ า งระบบการ
จดจำาเสียง ก็จะสามารถสร้างประโยชน์ได้อย่างมหาศาลแก่การใช้
งานคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยที่ผู้ใช้จะสามารถ
ออกคำาสั่งและตอบโต้กับคอมพิวเตอร์แทนการกดแป้นพิมพ์ ซึ่งจะ
ส่ ง ผลให้ ผู้ที่ ไ ม่ เ คยชิ น กั บ การใช้ คอมพิ ว เตอร์ ใ ห้ ส ามารถปรั บ ตั ว
เข้ากับระบบได้ง่าย เช่น ระบบสารสนเทศสำาหรับผู้บริหารระดับสูง
การสั่งงานระบบฐานข้อมูลต่าง ๆ และระบบรักษาความปลอดภัย
ของข้อมูล เป็นต้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำา งานและ
ขยายคุณค่าเพิ่มของเทคโนโลยีสารสนเทศทีมีต่อธุรกิจ ่
٥. การแลกเปลี่ยนข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ (electronics
data interchange) หรือ EDI เป็นการส่งข้อมูลหรือข่าวสารจาก
ระบบคอมพิ ว เตอร์ ห นึ่ ง ไปสู่ ร ะบบคอมพิ ว เตอร์ อื่ น โดยผ่ า นทาง
ระบบสื่อสารข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ เช่น การส่งคำา สั่ง ซื้อ จากผู้ ซื้อ
ไปยังผู้ขายโดยตรง ปัจจุบันระบบแลกเปลียนข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
่
กำา ลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะช่วงลดระยะเวลา
ในการทำางานของแต่ละองค์การลง โดยองค์การจะสามารถส่งและ
รับสารสนเทศในการดำาเนินธุรกิจ เช่น ใบสั่งซื้อและใบตอบรับผ่าน
ระบบสื่อสารโทรคมนาคมที่มีอยู่ ทำาให้ทั้งผู้ส่งและผู้รับไม่ต้องเสีย
เวลาเดินทาง
٦. เส้ น ใยแก้ ว นำา แสง (fiber optics) เป็ น ตั ว กลางที่
สามารถส่ ง ข้ อ มู ล ข่ า วสารได้ อ ย่ า งรวดเร็ ว โดยอาศั ย การส่ ง
สัญญาณแสงผ่านเส้นใยแก้วนำาแสงที่มัดรวมกัน การนำาเส้นใยแก้ว
นำา แสงมาใช้ ใ นการสื่ อ สารก่ อ ให้ เ กิ ด แนวความคิ ด เกี่ ย วกั บ “
ทางด่ ว นข้ อ มู ล (information superhighway)” ที่ จ ะเชื่ อ มโยง
ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกัน เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ได้มี
โอกาสเข้าถึงข้อมูลและสารสนเทศต่าง ๆ ได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น
ปั จ จุ บั น เทคโนโลยี เ ส้ น ใยแก้ ว นำา แสงได้ ส่ง ผลกระทบต่ อ วงการ
5
- 6. Introduction to Information Technology
สื่ อ ส า ร ม ว ล ช น แ ล ะ ก า ร ค้ า ข า ย สิ น ค้ า ผ่ า น ร ะ บ บ เ ค รื อ ข่ า ย
อิเล็กทรอนิกส์
٧. อิ น เทอร์ เ น็ ต (internet) เป็ น เครื อ ข่ า ยคอมพิ ว เตอร์
ขนาดใหญ่ ที่ เ ชื่ อ มโยงไปทั่ ว โลก มี ผู้ ใ ช้ ง านหลายล้ า นคน และ
กำาลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยที่สมาชิกสามารถ
ติดต่อสื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ตลอดจนค้นหาข้อมูลจาก
ห้องสมุดต่าง ๆ ได้ ในปัจจุบันได้มีหลายสถาบันในประเทศไทยที่
เชื่ อ มระบบคอมพิ ว เตอร์ กั บ เครื อ ข่ า ยนี้ เช่ น ศู น ย์ เ ทคโนโลยี
อิเ ล็ก ทรอนิกส์แ ละคอมพิว เตอร์ แห่ งชาติ (Nectec) จุฬ าลงกรณ์
มหาวิทยาลัย และสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย เป็นต้น
٨. ระบบเครื อ ข่ า ย (networking system) โดยเฉพาะ
ระบบเครื อ ข่ า ยเฉพาะพื้ น ที่ (local area network : LAN) เป็ น
ระบบสื่ อ สารเครื อ ข่ า ยที่ ใ ช้ ใ นระยะทางที่ กำา หนด ส่ ว นใหญ่ จ ะ
ภายในอาคารหรือในหน่วยงาน LAN จะมีส่วนช่วยเพิ่มศักยภาพใน
การทำา งานของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลให้ สูง ขึ้น รวมทั้ง การเพิ่ ม
ประสิ ท ธิ ภ าพในการทำา งาน การใช้ ข้ อ มู ล ร่ ว มกั น และการเพิ่ ม
ความเร็ ว ในการติ ด ต่ อ สื่ อ สาร นอกจากนี้ ร ะบบเครื อ ข่ า ยของ
คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลยังผลักดันให้เกิดการกระจายความรับผิด
ชอบในการจั ด การเทคโนโลยี ส ารสนเทศไปยั ง ผู้ ใ ช้ ม ากกว่ า ใน
อดีต
٩. การประชุ ม ทางไกล (teleconference) เป็ น การนำา
เทคโนโลยี ส าขาต่ า ง ๆ เช่ น คอมพิ ว เตอร์ เครื่ อ งถ่ า ยโทรทั ศ น์
และระบบสื่อสารโทรคมนาคมผสมผสาน เพื่อให้สนับสนุนในการ
ประชุมมีประสิทธิภาพ โดยผู้นำา เข้าร่วมประชุมไม่จำา เป็นที่จะต้อง
อยู่ในห้องประชุมและพื้นที่เดียวกัน ซึ่งจะช่วยให้ประหยัดเวลาใน
การเดินทาง โดยเฉพาะในสภาวะการจราจรที่ติดขั ด ตลอดจนผู้
เข้าประชุมอยู่ในเขตที่ห่างไกลกันมาก
١٠. โทรทั ศ น์ ต ามสายและผ่ า นดาวเที ย ม (cable and
sattleite TV) การส่งสัญญาณโทรทัศน์ผ่านสื่อต่าง ๆ ไปยังผู้ชม
จะมี ผ ลทำา ให้ ข้ อมู ล ข่ า วสารสามารถแพร่ ไ ปได้ อ ย่ า งรวดเร็ ว และ
ครอบคลุมพื้นที่กว้างขึ้น โดยที่ผู้ชมสามารถเข้าถึงข้อมูลจากสื่อ
6
- 7. Introduction to Information Technology
ต่ า ง ๆ ได้ ม ากขึ้ น ส่ ง ผลให้ ผู้ ช มรายการมี ท างเลื อ กมากขึ้ น และ
สามารถตัดสินใจในทางเลือกต่าง ๆ ได้เหมาะสมขึ้น
١١. เทคโนโลยี มั ล ติ มี เ ดี ย (multimedia technology)
เป็นการนำา เอาคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เก็บข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
มาจัดเก็ บข้ อมู ลหรือข่าวสารในลั กษณะที่แตกต่ างกั น ทั้ ง รู ป ภาพ
ข้อความ เสียง โดยสามารถเรียกกลับมาใช้เป็นภาพเคลื่อนไหวได้
และยังสามารถโต้ตอบกับผู้ใช้ด้วยการประยุกต์เข้ากับความรู้ทาง
ด้านคอมพิวเตอร์ เช่น หน่วยความจำาแบบอ่านอย่างเดียวที่บันทึก
ในแผ่ น ดิ ส ก์ (CD-ROM) จอภาพที่ มี ค วามละเอี ย ดสู ง (high
resolution) เข้ากับอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อจัดเก็บและนำา เสนอข้อมูล
ภาพ และเสี ย งที่ ส ามารถโต้ ต อบกั บ ผู้ ใ ช้ ไ ด้ ปั จ จุ บั น เทคโนโลยี
มัลติมีเดียเป็นเทคโนโลยีที่ตื่นตัวและได้รับความสนใจจากบุคคล
หลายกลุ่ ม เนื่ องจากเล็ง เห็ น ความสำา คั ญ ว่ า จะเป็ น ประโยชน์ ต่ อ
วงการศึกษา โฆษณา และบันเทิงเป็นอย่างมาก
١٢. การใช้ ค อมพิ ว เตอร์ ใ นการฝึ ก อบรม (computer
base training) เป็ น การนำา เอาระบบคอมพิ ว เตอร์ เ ข้ า มาช่ ว ยใน
การฝึกอบรมในด้านต่าง ๆ หรือการนำา เอาคอมพิวเตอร์มาช่วยใน
ด้ า นการเรี ย นการสอนที่ เ รี ย กว่ า “คอมพิ ว เตอร์ ช่ ว ยการสอน
(computer assisted instruction) ห รื อ CAI” ก า ร ใ ช้
คอมพิวเตอร์ช่วยในการสอนเปิดช่องทางใหม่ในการเรียนรู้ โดยส่ง
เสริ ม ประสิ ท ธิ ภ าพการเรี ย นรู้ ตลอดจนปรั ช ญาการเรี ย นรู้ ด้ ว ย
ตนเอง
١ ٣. ก า ร ใ ช้ ค อ ม พิ ว เ ต อ ร์ ช่ ว ย ใ น ก า ร อ อ ก แ บ บ
(computer aided design) หรือ CAD เป็นการนำา เอาเทคโนโลยี
คอมพิวเตอร์และระบบข้อมูลเข้ามาช่วยในการออกแบบผลิตภัณฑ์
รวมทั้ ง รู ป แบบหี บ ห่ อ ของผลิ ต ภั ณ ฑ์ ห รื อ การนำา คอมพิ ว เตอร์ ม า
ช่วยทางด้านการออกแบบวิศวกรรมและสถาปัตยกรรมให้มีความ
เหมาะสมกั บ ความต้ อ งการและความเป็ น จริ ง ตลอดจนช่ ว ยลด
ต้นทุนการดำาเนินงานในการออกแบบ โดยเฉพาะในเรื่องของเวลา
การแก้ไข และการจัดเก็บแบบ
١٤. การใช้ ค อมพิ ว เตอร์ ช่ ว ยในการผลิ ต (computer
aided manufacturing) หรื อ CAM เป็ น การนำา คอมพิ ว เตอร์ ม า
7
- 8. Introduction to Information Technology
ช่ ว ยในการผลิ ต สิ น ค้ า ในโรงงานอุ ต สาหกรรม เนื่ อ งจากระบบ
คอมพิวเตอร์จะมีความเที่ยงตรงและน่าเชื่อถือได้ในการทำา งานที่
ซำ้า กัน ตลอดจนสามารถตรวจสอบรายละเอี ย ดและข้ อ ผิ ดพลาด
ของผลิตภัณฑ์ได้ตามมาตรฐานที่ต้องการ ซึ่งจะช่วยประหยัดระยะ
เวลาและแรงงาน ประการสำาคัญ ช่วยให้คุณภาพของผลิตภัณฑ์มี
ความสมำ่าเสมอตามที่กำาหนด
١ ٥. ร ะ บ บ ส า ร ส น เ ท ศ ท า ง ภู มิ ศ า ส ต ร์ (geographic
information system) ห รื อ GIS เ ป็ น ก า ร นำา เ อ า ร ะ บ บ
ค อ ม พิ ว เ ต อ ร์ ท า ง ด้ า น รู ป ภ า พ (graphics) แ ล ะ ข้ อ มู ล ท า ง
ภู มิ ศาสตร์ ม าจั ดทำา แผนที่ ใ นบริ เ วณที่ ส นใจ GIS สามารถนำา มา
ประยุ ก ต์ ใ ห้ เ ป็ น ประโยชน์ ใ นการดำา เนิ น กิ จ การต่ า ง ๆ เช่ น การ
วางแผนยุทธศาสตร์ การบริหารการขนส่ง การสำารวจและวางแผน
ป้องกันภัยธรรมชาติ การช่วยเหลือและกู้ภัย เป็นต้น
ที่กล่าวมานี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเทคโนโลยีสารสนเทศที่
ถูกพัฒนาขึ้นในปัจจุบัน และกำา ลังทำา การศึกษาและปรับปรุงให้มี
ประสิทธิภาพเหมาะสมต่อการใช้งานในอนาคต โครงการพัฒ นา
ความรู้ ต่ า ง ๆ เหล่ า นี้ จ ะมี ผ ลไม่ เ พี ย งต้ อ งการเปลี่ ย นแปลง
เทคโนโลยีสารสนเทศเท่านั้น แต่ยังจะส่งผลกระทบต่อการดำาเนิน
งานขององค์การและความเป็นอยู่ของมนุษย์ในสังคมส่วนรวมอีก
ด้ ว ย เราจะเห็ น ว่ า ปั จ จุ บั น เทคโนโลยี ส ารสนเทศจะเข้ า มามี
บทบาทและอิทธิพลต่อชีวิตมนุษย์เพิ่มขึ้น ดังนั้นเราต้องพยายาม
ติดตาม ศึกษา และทำา ความเข้าใจแนวทางและพัฒนาการที่เกิด
ขึ้ น เพื่ อ ที่ จ ะนำา เทคโนโลยี ส ารสนเทศไปประยุ ก ต์ ใ ช้ ใ ห้ เ ป็ น
ประโยชน์ในการดำารงชีวิตอย่างเหมาะสม
การปฏิ บั ติ ต นให้ ทั น ต่ อ การเปลี่ ย นแปลงของเทคโนโลยี
สารสนเทศ
ปั จ จุ บั น ความก้ า วหน้ า ของเทคโนโลยี ส ารสนเทศได้ มี
บทบาทที่ สำา คั ญ ต่ อ วิ ถี ชี วิ ต และสั ง คมของมนุ ษ ย์ เทคโนโลยี
สารสนเทศได้ ส ร้ า งการเปลี่ ย นแปลงและโอกาสให้ แ ก่ อ งค์ ก าร
เ ช่ น เ ป ลี่ ย น โ ค ร ง ส ร้ า ง ค ว า ม สั ม พั น ธ์ แ ล ะ ก า ร แ ข่ ง ขั น ใ น
อุ ต สาหกรรม ปรั บ โครงสร้ า งการดำา เนิ น งานขององค์ ก ารเพิ่ ม
ประสิทธิภาพในการผลิตและบริการ เป็นต้น เนื่องจากเทคโนโลยี
8
- 9. Introduction to Information Technology
สารสนเทศก่ อ ให้ เ กิ ด รู ป แบบใหม่ ใ นการติ ด ต่ อ สื่ อ สารและมี
ปฏิสัมพันธ์ ระหว่า งบุคคล ทำา ให้ มีการพัฒ นาและกระจายตัว ของ
ภูมิปัญญา ซึ่งต้องอาศัยบุคคลที่มีความรู้และความเข้าใจในการใช้
งานเทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ ปัจจุบันองค์การในประเทศไทย
ได้มีการตื่นตัวที่จะนำาเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้งานมากขึ้น เพื่อที่จะ
ทำาให้เราติดตามความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากเทคโนโลยีได้ทัน
และสามารถใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ในการแข่งขัน อย่างไร
ก็ตาม การพัฒนาเทคโนโลยีขององค์การจะขึ้นอยู่กับผู้บริหารเป็น
สำาคัญ โดยที่ผู้บริหารจะต้องเตรียมความพร้อมสำาหรับองค์การดัง
ต่อไปนี้
١. ทำา ค ว า ม เ ข้ า ใ จ ต่ อ บ ท บ า ท ข อ ง เ ท ค โ น โ ล ยี
สารสนเทศที่มีต่อธุรกิจปัจจุบัน เพื่อให้สามารถนำาความรู้ต่าง ๆ
มาประยุกต์ใช้กับงานที่กำาลังทำาอยู่ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและ
ศักยภาพในการแข่งขันขององค์การ เช่น การนำา เอาคอมพิวเตอร์
เข้ามาช่วยในระบบคลังสินค้าของบริษัท การใช้ความก้าวหน้าด้าน
การสื่อสารมาช่วยในการเชื่อมโยงข้อมูลของแผนกต่าง ๆ หรือการ
ใช้ ร ะบบแลกเปลี่ ย นข้ อ มู ล อิ เ ล็ ก ทรอนิ ก ส์ ใ นการเปลี่ ย นข้ อ มู ล
ระหว่างผู้ขายวัตถุดิบ องค์การ และลูกค้า เป็นต้น
٢. ระบบสารสนเทศเกี่ยวข้องกับการจัดการข้อมูลของ
องค์ ก าร นั ก วิ เ คราะห์ ร ะบบและผู้ ใ ช้ จ ะศึ ก ษาหรื อ พิ จ ารณาถึ ง
ข้อมูลและข่าวสารต่าง ๆ ที่องค์การต้องการและใช้ในการดำา เนิน
งานอยู่เป็นประจำา เพื่อที่จะทำาการรวบรวมและจัดระเบียบเก็บไว้ใน
ระบบสารสนเทศ และเมื่ อ มี ความต้ อ งการข้ อ มู ล ก็ ส ามารถเรี ย ก
ออกมาใช้ ไ ด้ ทั น ที โดยการพั ฒ นาระบบต้ อ งให้ ค วามสำา คั ญ กั บ
ภาพรวมและความสอดคล้องในการใช้งานสารสนเทศขององค์การ
เป็นสำาคัญ
٣. วางแผนที่ จ ะสร้ า งและพั ฒ นาระบบ เพื่ อ ให้ ก าร
ดำา เ นิ น ก า ร ส ร้ า ง ห รื อ พั ฒ น า ร ะ บ บ ส า ร ส น เ ท ศ เ ป็ น ไ ป ต า ม
วั ต ถุ ป ระสงค์ ข ององค์ ก ารภายใต้ ง บประมาณและระยะเวลาที่
กำาหนดไว้ การวางแผนถือเป็นสิ่งที่สำาคัญ เพราะระบบสารสนเทศ
จะประกอบด้วยระบบย่อยอื่น ๆ อีกมาก ซึ่งจะต้องสัมพันธ์กันและ
ใช้เวลาในการพัฒนาให้สมบูรณ์
9
- 10. Introduction to Information Technology
โดยที่ ก ารเตรี ย มงานเพื่ อ ให้ ก ารดำา เนิ น การพั ฒ นาระบบ
สารสนเทศขององค์ การประสบความสำา เร็จ สมควรประกอบด้ว ย
การเตรียมการในด้านต่อไปนี้
١. บุคลากร การเตรียมบุคลากรให้พร้อมเป็นสิ่งสำา คัญใน
การที่จะสร้างและพัฒนา ตลอดจนการใช้งานระบบสารสนเทศเมื่อ
จั ดสร้ า งเสร็ จ เรี ยบร้ อยแล้ ว บุคลากรที่ ต้อ งจั ดเตรี ย มควรเป็ น ทั้ ง
ระดับผู้บริหาร นักเทคโนโลยีสารสนเทศ นักวิช าชี พเฉพาะ และ
พนักงานปฏิบัติการ เพื่อให้มีความรู้ ทักษะ และความเข้าใจในขีด
ความสามารถและศักยภาพของเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยการจัด
ฝึ ก อบรมหรื อ บรรยายพิ เ ศษ รวมทั้ ง การสรรหาบุ ค ลากรทาง
สารสนเทศให้ ส อดคล้ อ งกั บ ความต้ อ งการทั้ ง ในปั จ จุ บั น และ
อนาคตของหน่วยงาน
٢. งบประมาณ เตรียมกำาหนดจำานวนเงินและวางแนวทาง
ในการจั ด หาเงิ น ที่ จ ะมาพั ฒ นาระบบสารสนเทศให้ เ พี ย งพอกั บ
แผนที่วางไว้ ตลอดจนจัดทำา งบประมาณสำา หรับการพัฒนาระบบ
ในอนาคต เนื่องจากเทคโนโลยีขององค์การอาจจะล้าสมัยและสูญ
เสียความสามารถในการแข่งขันในระยะเวลาสั้น
٣. การวางแผน ผู้บริหารต้องจัดทำา แผนการจัดสร้างหรือ
พัฒนาระบบทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งอาจจะต้องมีการจัดตั้ง
คณะทำา งาน ซึ่ ง อาจจะประกอบด้ ว ยผู้ บ ริ ห าร ผู้ ใ ช้ นั ก ออกแบบ
ระบบและผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกมาปฏิบัติงานร่วมกัน
องค์ ก ารที่ เ จริ ญ เติ บ โตในอนาคตต้ อ งสามารถประยุ ก ต์
เทคโนโลยี เ ข้ า ไปในโครงสร้ า งการบริ ห ารงานและการติ ด ต่ อ
สื่อสาร โดยเทคโนโลยีสารสนเทศเปรียบเสมือนเส้นประสาทของ
ธุรกิจ แต่การประยุกต์เทคโนโลยีสารสนเทศในองค์การจะส่งผลก
ร ะ ท บ ต่ อ ก า ร ดำา เ นิ น ง า น แ ล ะ บุ ค ล า ก ร ม า ก ก ว่ า ก า ร เ พิ่ ม
ประสิ ท ธิ ภ าพหรื อ การลดขั้ น ตอนในการทำา งาน การจั ด การ
เทคโนโลยี ส ารสนเทศจะเกี่ ย วข้ อ งกั บ จริ ย ธรรมและความรั บ ผิ ด
ชอบต่อส่วนรวม เช่ น การไหลเวี ยนของข้อ มูล ผ่านขอบเขตของ
องค์ การและเขตแดนของประเทศ การติดตามผลและตรวจสอบ
การทำางานกับความเป็นส่วนตัวของพนักงาน การทุจริตหรือฉ้อโกง
ในระบบเครือข่าย การก่อการร้ายหรือการโจรกรรม ซึ่งผู้บริหารจะ
ต้ อ งติ ด ตามทำา ความเข้ า ใจในศั ก ยภาพและผลกระทบของ
10
- 11. Introduction to Information Technology
เทคโนโลยีที่มีต่อองค์การและสังคม เพื่อให้เลือกใช้เทคโนโลยี
ให้ เ กิ ด ประโยชน์ สู ง สุ ด และก่ อ ให้ เ กิ ด ผลกระทบในด้ า นลบน้ อ ย
ที่สุดต่อองค์การและสังคมแวดล้อม
11