การพัฒนาทักษะการพิมพ์ของนักเรียนประถมศึกษา

1. การพัฒนาทักษะการพิมพ์ดีดแบบสัมผัสของ
นักเรียนประถมศึกษาปีที่ 4
นางสาวจิราพร ภูครองจิตร
ครูผู้สอนวิชาคอมพิวเตอร์ ระดับประถมปีที่ 4-6
โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย

2. บทที่ 1
บทนา
• ปัญหาและความสาคัญ
• ในการจัดการเรียนการสอนในวิชาคอมพิวเตอร์ ของนักเรียนระดับชั้น
ประถมศึกษาปีที่ 4
• พบว่า นักเรียนมักมีปัญหาในการพิมพ์ดีด โดยพิมพ์ได้ช้า คือ พิมพ์ดีด
โดยวางนิ้วไม่สัมผัสกับแป้ นเหย้า หรือแป้ นมาตรฐานในการพิมพ์ดีด
หรือใช้นิ้วชี้กดที่ตัวอักษรที่ต้องการ เวลาพิมพ์มักดูแป้ นตัวอักษร แต่ก็
พิมพ์ยังไม่ค่อยถูกต้อง และช้า กว่าที่ครูกาหนด

3. ปัญหาและความสาคัญ (ต่อ)
• ดังนั้น ผู้วิจัยจึงทาการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับนักเรียน วิชา
คอมพิวเตอร์ที่มีปัญหาในการใช้แป้ นพิมพ์ จานวน 10 คน
• ด้วยการพัฒนาทักษะด้านการพิมพ์ ด้วยการใช้โปรแกรมสอนพิมพ์ดีด
โปรแกรม Typing Master
• ที่อยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยผู้วิจัยได้กาหนดเวลาในการฝึกพิมพ์ดีด
ด้วยโปรแกรม Typing Master วันละ 30 นาที จานวน 7 วัน

4. วัตถุประสงค์
1. เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของ โปรแกรม
Typing Master
2. เพื่อเปรียบเทียบทักษะการพิมพ์ของนักเรียน
ก่อนและหลังการฝึกด้วยโปรแกรม Typing
Master

5. ประโยชน์ที่ได้รับ
• นักเรียนพิมพ์ดีดได้เร็วขึ้น
• นักเรียนมีทักษะการพิมพ์สัมผัสเร็วขึ้น
• นักเรียนมีบุคลิกภาพที่ดีในการพิมพ์สัมผัส

6. . ตัวแปรที่ต้องการศึกษา
• ตัวแปรต้น โปรแกรมฝึกพิมพ์ โปรแกรม Typing
master
• ตัวแปรตาม ทักษะการพิมพ์ดีดแบบสัมผัส

7. ขอบเขตงานวิจัย
• ประชากร นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จานวน 42 คน
• กลุ่มตัวอย่าง นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่พิมพ์แบบฝึกช้า
กว่าเวลาที่กาหนด ในการทดสอบพิมพ์ วิชาคอมพิวเตอร์ระดับชั้น
ประถมศึกษาปีที่ 4 มีจานวน 10 คน
• เวลา 7 สัปดาห์ (สัปดาห์ละ 1 วัน) ครั้งละ 30 นาที
• เนื้อหา ทักษะการพิมพ์ดีด แบบฝึกโปรแกรม Typing master

8. สมมุติฐาน
นักเรียนมีการพัฒนาทักษะการพิมพ์สัมผัส หลังการฝึกด้วย
โปรแกรม Typing Master สูงกว่า ก่อนการฝึกพิมพ์ดีด

9. บทที่ 2
แนวคิด ทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
• นวัตกรรมที่นามาใช้ในการเรียนการสอน
• แนวคิดและทฤษฎีเกี่ยวกับแรงจูงใจ
• โปรแกรม Tying Master
• งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

10. โปรแกรม Typing Master
• สาหรับโปรแกรม ชุดนี้จะมี 3 ส่วน คือ
1.แบบฝึกหัด
2.แบบทดสอบ
3.เกม

11. โปรแกรม Typing master
• โปรแกรม Typing Master
พัฒนาโดย คุณเชิญศิริ รุ่งสบแสง
• หนังสือมีชื่อว่า"คู่มือพิมพ์ดีดสัมผัส"
(ภายใน 7 วัน) + CD ฝึกพิมพ์ ฝึก
พิมพ์ดีดแบบสัมผัส
• มีทั้งแบบเรียนภาษาไทยและ
ภาษาอังกฤษ

12. 1.แบบฝึกหัด

13. 1.แบบฝึกหัด (ต่อ)

14. 2.แบบทดสอบ

15. 3.เกม

16. เกม 5 วินาที

17. เกมเสือปืนไว

18. 4. งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
• บทเรียนแบบโปรแกรม- สามารถช่วยส่งเสริมนักเรียนให้สามารถ
เรียนรู้ด้วยตนเอง สามารถตอบสนองความสามารถ และความ
แตกต่างของแต่ละบุคคลได้เป็นอย่างดี
• งานวิจัยที่ศึกษาส่วนมากทาการวิจัยกับนักเรียน ระดับอาชีวะ
ศึกษา เนื่องจากมีเรียน รายวิชาพิมพ์ดีด

19. 4. งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง (ต่อ)
• เรื่องของแรงจูงใจ - จะเป็นงานวิจัยระดับมหาวิทยาลัยมุ่ง
ผลสัมฤทธิ์ในการเรียนของนักศึกษาชั้นปี ที่ 1 คณะบัญชี
มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
• แต่ยังไม่พบงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับนักเรียนระดับประถมศึกษา จึง
ทาสนใจทาวิจัยเรื่องนี้
• นอกจากนี้แล้ว โปรแกรมฝึกพิมพ์ยังช่วยแบ่งเบาภาระครูผู้สอน
ช่วยแก้ไขปัญหาการขาดแคลนครู ทางการเรียนวิชาคอมพิวเตอร์
ให้กับนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 4 อีกด้วย

20. บทที่ 3
วิธีดาเนินงานวิจัย
3.1 ประชากร นักเรียนระดับชั้น ประถมศึกษาปีที่ 4 จานวน 42 คน
3.2 กลุ่มตัวอย่าง นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่พิมพ์แบบฝึกช้า
กว่าเวลาที่กาหนด ในการทดสอบพิมพ์ วิชาคอมพิวเตอร์ระดับชั้น
ประถมศึกษาปีที่ 4 มีจานวน
3.3 ตัวแปรต้น โปรแกรมฝึกพิมพ์ โปรแกรม Typing master
3.4 ตัวแปรตาม ทักษะการพิมพ์ดีดแบบสัมผัส

21. เครื่องมือที่ใช้ในงานวิจัย
1. แบบฝึกพิมพ์ Typing Master
2. เอกสารประกอบการสอน แบบพิมพ์ คีย์บอร์ดตัวอักษร
3. แบบทดสอบ ก่อนและหลังฝึก จับเวลาพิมพ์
4. แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนพิมพ์ดีดแบบ
สัมผัส

22. วิธีดาเนินงานวิจัย
1. ทดสอบก่อนเรียน โดยให้นักเรียนชั้น ป.4 พิมพ์บทความ
แบบทดสอบโดยการทดสอบจับเวลา 5 นาที ว่าจะพิมพ์ได้กี่คาต่อ
นาที
2. ฝึกพิมพ์ดีด แบบสัมผัสตามแบบฝึกโปรแกรม Typing Master
โดยเริ่มจากแบบฝึกหัดที่ 1 – แบบฝึกหัดที่ 7 เริ่มจากพิมพ์แป้ นเหย้า
ถึงตัวอักษรทุกแป้ นพิมพ์
3. ทดสอบหลังเรียน โดยจับเวลาในการพิมพ์ บทความตั้งแต่ เริ่มพิมพ์
ได้กี่คาต่อนาที

23. เกณฑ์การให้คะแนน
• ด้านความเร็ว
– พิมพ์ได้คา 0-2.5 คาขึ้นไป ได้ 1 คะแนน
– พิมพ์ได้คา 2.51-5.0 คาขึ้นไป ได้ 2 คะแนน
– พิมพ์ได้คา 5.01-7.5 คาขึ้นไป ได้ 3 คะแนน
– พิมพ์ได้คา 7.51-10.0 คาขึ้นไป ได้ 4 คะแนน
– พิมพ์ได้คา 10.01-13.5 คาขึ้นไป ได้ 5 คะแนน
– พิมพ์ได้คา 13.51-15.0 คาขึ้นไป ได้ 6 คะแนน
– พิมพ์ได้คา 15.01-17.5 คาขึ้นไป ได้ 7 คะแนน
– พิมพ์ได้คา 17.51-20.0 คาขึ้นไป ได้ 8 คะแนน
– พิมพ์ได้คา 20.01-22.5 คาขึ้นไป ได้ 9 คะแนน
– พิมพ์ได้คา 22.51-25.0 คาขึ้นไป ได้ 10 คะแนน
• ด้านความถูกต้อง ถ้าพิมพ์ไม่ถูกต้องไม่นับคะแนน

24. การวิเคราะห์ข้อมูล
• สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล (แสดงในรูปแบบสถิติ)
• สถิติขั้นพื้นฐาน ที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่
• ค่าร้อยละ (percent)
• ค่าเฉลี่ย (Average)
• ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (standard deviation: SD)
• และอันตรภาคชั้น (Class Interval) เป็นต้น

25. การวิเคราะห์ข้อมูล (ต่อ)
• สถิติการเปรียบเทียบ ที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่
• t-test เปรียบเทียบคะแนน ก่อนเรียนหลังเรียน

26. บทที่ 4
ผลการวิจัย
การหาค่าร้อยละ = 17
t-test = 4.29
คะแนนเฉลี่ย ก่อนเรียน คะแนนเฉลี่ย หลังเรียน
3.8 5.5

27. บทที่ 5
สรุปผลการวิจัย
• การจัดการศึกษา การฝึกพิมพ์แบบสัมผัส โดยใช้นักเรียนระดับชั้น
ประถมศึกษาปีที่ 4 จานวน 10 คน
• โดยวิธีการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน พบว่า การทดสอบก่อนเรียน ได้
คะแนนเฉลี่ย 3.8 ส่วนการทดสอบหลังเรียนนักเรียนได้คะแนนเฉลี่ย 5.5
• จากการเปรียบเทียบผลการสัมฤทธิ์ทางการเรียนการฝึกพิมพ์แบบสัมผัส
พบว่าค่าเฉลี่ยก่อนเรียนและหลังเรียนแตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่
ระดับ 0.01 (t=4.29)
• ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้แบบฝึก
สูงขึ้น ร้อยละ 17

28. บรรยากาศการจัดกิจกรรม

29. ขอขอบพระคุณ
• อาจารย์ ดร.ปรีชา เจริญกิจขจร อาจารย์ผู้สอนวิชาวิจัยการศึกษา
หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพครู
• คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเซนต์จอห์น
• ท่านผู้อานวยการโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย
• และขอบใจ นักเรียนประถมศึกษาปีที่ 4 ทุกคนให้ความร่วมมือเป็น
อย่างดี
นางสาวจิราพร ภูครองจิตร
ผู้วิจัย (ครูผู้สอนวิชาคอมพิวเตอร์ระดับประถมศึกษา)

30. ลิ้งสารอง
• http://www.slideshare.net/jirapornkru/4-
47406415
คลิกที่รูปภาพ