SlideShare a Scribd company logo
1 of 15
Download to read offline
1
รายงาน พัฒนาตนเอง
เรื่อง การติด Facebook มากเกินไป
จัดทาโดย
นายชัยณรงค์ มะหารักษ์
รหัสนักศึกษา 57003126051 สาขา คอมพิวเตอร์ศึกษา1
รายงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาวิชาจิตวิทยากับการพัฒนาตน (AGE123)
คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557
2
คานา
รายงานการพัฒนาตนเอง เรื่อง การติด Facebook มากเกินไปนี้ เป็นส่วน
หนึ่งของการศึกษาวิชาจิตวิทยากับการพัฒนาตน (AGE123) คณะครุศาสตร์
มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ โดยขอบเขตเนื้อหาของรายงานฉบับนี้
นาเสนอเรื่องราวที่ต้องการพัฒนาตนเองของผม ซึ่งผมได้เลือกหัวข้อที่จะพัฒนา
คือการที่ติด Facebook มากจนเกินไป
ผมขอขอบคุณผู้ช่วยศาสตราจารย์เกื้อกูล สถาพรวจนา ที่ให้คาแนะนา
การพัฒนาตนเองในแต่ละด้าน อธิบายการเข้าถึงแหล่งข้อมูล ตลอดจน
สนับสนุนเอกสารใช้ประกอบการจัดทารายงานฉบับนี้
นายชัยณรงค์มะหารักษ์
12 เมษายน 2558
3
สารบัญ
หน้า
คานา.................................................................................................................ข
สารบัญ.............................................................................................................ค
การพัฒนาตนเอง 7 ขั้นตอน.............................................................................2
1 การสารวจพิจารณาตนเอง..........................................................................2
2 การวิเคราะห์ข้อดีข้อบกพร่องของตนเอง...................................................4
3 การกาหนดปัญหาและพฤติกรรมเป้าหมายของการพัฒนาตนเอง...............5
4 การรวบรวมข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับสาเหตุของพฤติกรรมปัญหา................5
5 การเลือกเทคนิควิธีการเพื่อวางแผนพัฒนาตนเอง ......................................6
6 ลงมือปฏิบัติการพัฒนาตนเอง....................................................................8
7 การประเมินผล และขยายผลการพัฒนาตนเอง.........................................10
รายการอ้างอิง.................................................................................................11
ภาคผนวก.......................................................................................................12
1
การพัฒนาตนเอง เรื่อง การติด Facebook มากจนเกินไป
Facebook หมายถึง บริการบนอินเทอร์เน็ตบริการหนึ่ง ที่จะทาให้ผู้ใช้สามารถ
ติดต่อสื่อสารและร่วมทากิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่ง หรือหลายๆ กิจกรรมกับผู้ใช้
Facebook คนอื่นๆ ได้
สาเหตุที่ทาให้ติด Facebook หลายครั้งที่รู้สึกเบื่อหน่าย ไร้หัวข้อคุยในวงสนทนา
ในปัจจุบันจะเห็นว่าจะมีคนกลุ่มหนึ่ง เลือกที่จะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาพร้อมกับ
Login เข้า social network เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการพูดคุยกับเพื่อนๆ ในสังคม
ออนไลน์ ก็นับว่าเป็นข้อดีในการที่จะสามารถติดต่อ พูดคุยแก้เหงากับเพื่อนเก่าและ
เพื่อนใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง เชื่อมความสัมพันธ์ แสดงทรรศนะ แต่ทว่าในกลุ่มสนทนาใน
ชีวิตจริง กลับจะทาให้ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลแย่ลง จนกลายเป็นคนที่ไร้มนุษย์
สัมพันธ์ เพราะให้เวลากับการใช้อินเทอร์เน็ตในปริมาณมากเกินไป และนี่อาจทาให้เข้า
ข่าย ติด Facebook โดยไม่รู้ตัวเกิดอาการติด หลงตัวเอง มีอารมณ์ก้าวร้าวไม่มีสมาธิใน
การเรียน ขาดเรียนเพิ่มขึ้น ผลการเรียนแย่ลง วิตกกังวล ตกอยู่ในภาวะซึมเศร้า เสพติด
อินเตอร์เน็ตในชีวิตประจาวัน เช่น ติดChat ติดเกม เป็นต้น
ทาให้มีปัญหานอนดึกมากขึ้น พักผ่อนไม่เพียงพอ ควรแบ่งเวลาและตั้งเป้ าหมาย
การเล่นไว้ก็ เพียงพอแล้ว ให้ Facebook นั้นมันเป็นแค่ส่วนหนึ่งของชีวิต อย่าให้มันเป็น
ทั้งหมดของชีวิตของเราได้
2
การพัฒนาตนเองของผม แบ่งออกเป็น 7 ขั้นตอน ตามแนวทางการ
พัฒนาตน ดังนี้ คือ
1) การสารวจพิจารณาตนเอง
2) การวิเคราะห์ข้อดีข้อบกพร่องของตนเอง
3) การกาหนดปัญหาและพฤติกรรมเป้าหมายของการพัฒนาตนเอง
4) การรวบรวมข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับสาเหตุของพฤติกรรมปัญหา
5) การเลือกเทคนิควิธีการเพื่อวางแผนพัฒนาตนเอง
6) ลงมือปฏิบัติการพัฒนาตนเอง
7) การประเมินผล และขยายผลการพัฒนาตนเอง
ซึ่งในแต่ละขั้นตอนของการพัฒนาตนเองที่ผมจะเขียนต่อไปนี้ เป็นการ
สะท้อนเพียงส่วนเดียวของชีวิตผมเท่านั้น และต่อไปนี้เป็นรายละเอียดของแต่
ละขั้นตอนในการพัฒนาตนเองเรื่อง การติด Facebook มากเกินไป
1) ขั้นการสารวจตนเอง ผมขอแนะนาตัวผมเองเพื่อให้ท่านได้รู้จัก คือ
- เกี่ยวกับสภาพทางกาย
สุขภาพ ร่างกาย ผมมีอวัยวะครบทั้ง 32 ประการ น้าหนักและ
ส่วนสูงอยู่ในเกณฑ์ที่สมส่วน ผมเคยมีโรคประจาตัว คือโรคไต แต่
ตอนนี้หายแล้ว และมักมีอาการปวดศรีษะ และปวดท้องอยู่เป็น
ประจา
กริยา ท่าทาง ผมเป็นคนที่เข้ากับผู้อื่นได้ดี แต่ก็มักที่จะชอบอยู่ตัว
คนเดียวมากกว่า
บุคลิกภาพโดยรวม ผมเป็นคนที่ชอบเก็บตัวในบางครั้ง แต่
เหตุการณ์รอบๆตัวแล้วก็มักจะทาให้เป็นคนที่เปิดเผย และส่วนมาก
แล้วจะชอบมีลักษณะเป็นผู้นามากกว่าผู้ตาม แต่ทั้งนี้ผมก็ชอบที่จะ
ทางานเดี่ยวมากกว่างานกลุ่ม เพราะมันทาให้ผมสามารถที่จะคิดและ
ตัดสินใจได้เอง หากมีปัญหาก็รับไว้ที่ตนเอง โดยที่ไม่ทาให้คนอื่น
3
เดือดร้อนด้วย และผมมักเป็นคนที่ชอบเก็บอะไรเล็กๆน้อยๆมาคิด
เสมอ แล้วก็มีความวิตกกังวลกับเหตุการณ์ที่ยังมาไม่ถึงด้วย
- เกี่ยวกับอารมณ์ และจิตใจ
สุขภาพจิต ผมเป็นคนที่อดทนต่อปัญหาต่างๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิต
ได้ดี และสามารถหาทางออกหรือสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้เสมอ
อุปนิสัยใจคอ ผมคิดว่าผมเป็นคนเจ้าระเบียบ ละเอียดรอบคอบ ถ้า
ตั้งใจทาอะไรก็มักจะทาให้เสร็จ โดยไม่รออะไร (ขยัน หมั่นเพียร)
การควบคุมตนเอง ผมสามารถที่จะควบคุมตนเองให้กระทางาน
ต่างๆ ตามเป้าหมายไว้ได้และสามารถยอมรับฟังผู้อื่นได้ ถึงแม้ว่าผม
จะไม่เห็นด้วยก็ตาม
- เกี่ยวกับพัฒนาการทางสังคม
 ผมกล้าที่จะพูดคุยกับคนที่ไม่รู้จัก ถึงแม้จะมีความกลัวก็ตาม
 สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้เล็กน้อย
 สามารถทากิจกรรมร่วมกับผู้อื่นได้
- เกี่ยวกับสติปัญญา
ความรู้ทั่วไป ผมสามารถนาความรู้ต่างๆ ที่ได้มาจากการฟัง การ
อ่าน ในอดีตที่ผ่านมา มาใช้เป็นความรู้ที่อ้างอิงกับเหตุการณ์ต่างๆได้
การตัดสินใจและแก้ปัญหา ผมชอบที่จะทาอะไรด้วยตนเอง และ
สามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้เป็นอย่างดี
การบริหารเวลา ผมมักจะจัดสรรเวลาในการทากิจกรรมต่างๆไว้
ก่อนเสมอ แต่เมื่อเล่น Facebook ก็ทาให้เวลาในการทากิจกรรมต่างๆ
ของผมนั้นเปลี่ยนไป
4
2) ขั้นการวิเคราะห์ข้อดีข้อบกพร่อง
ผมขอสรุปเป็นตาราง ดังนี้
ข้อดี ข้อบกพร่อง ข้อควรพัฒนา
ขยัน หมั่นเพียร
ติด Facebook มากจน
ไม่อ่านหนังสือเรียน
ลดการเล่น Facebook
มีความรับผิดชอบ หงุดหงิดง่าย
ปรับปรุงการพูด
การสนทนา
มองโลกในแง่ดี
คิดบวก
เงียบ คิดมาก ไม่ค่อยพูด
พัฒนาความมั่นใจ
ในตนเอง
ใส่ใจความรู้สึก
ของผู้อื่น
สงสัย และลืมง่าย ฝึกความอดทน
จากตารางแสดงข้อมูลข้อดีข้อบกพร่องของผมนั้น ในด้านข้อดีนั้นก็มี
หลายข้อ แต่มีอยู่ข้อหนึ่งที่ผมภูมิใจในตัวของผมเองมากที่สุด คือ ความ
ขยันหมั่นเพียร ซึ่งผมมักจะตั้งใจทางาน ทาการบ้านให้เสร็จก่อนเสมอ แม้ว่า
จะยังไม่ถึงเวลากาหนดส่งก็ตาม เพราะตัวผมคิดว่า ถ้าเราทาเสร็จก่อนจะได้
มีเวลาที่จะทาอย่างอื่น และก็ไม่ต้องมาเร่งมือทาตอนที่จะส่งไม่กี่ชั่วโมงด้วย
และถ้าทาเสร็จก่อน แล้วนามาตรวจทาน แล้วเกิดข้อผิดพลาดก็ยังมีเวลาที่จะ
แก้ไขได้อีกด้วย
และในส่วนข้อบกพร่องของผมจากในตารางนั้นก็มีหลายเรื่องเช่นกัน แต่
ข้อบกพร่องที่ผมเห็นว่าสาคัญที่ควรจะได้รับการแก้ไขโดยเร็วก็คือ การที่ผม
นั้น ติด Facebook มากจนเกินไปจนไม่มีเวลาที่จะอ่านหนังสือทบทวนการ
เรียน โดยที่ผมจะชอบเล่น Facebook มาก ไม่ว่าจะทาอะไร ที่ไหนก็ต้อง
โพสต์แสดงสถานะ ใน Facebook ตลอด และจะต้องเล่น Facebook ทุกวัน
ตั้งแต่ตื่นนอน จนกระทั่งนอนหลับ ถ้าวันไหนไม่ได้เล่นจะเหมือนว่าขาด
5
อะไรไปในชีวิต ในส่วนข้อบกพร่องนี้ก็มีผลต่อสุขภาพทางร่างกายเป็นอย่าง
มาก เพราะต้องต้องใช้สายตาจดจ่ออยู่กับหน้าจอตลอด ทาให้เสียสายตา
และมีอาการปวดตาตามมา จนกระทั่งเป็นต้อ หรือสูญเสียการมองเห็นได้
3) ขั้นกาหนดพฤติกรรมที่เป็นปัญหา และพฤติกรรมเป้ าหมาย
จากข้อมูลในขั้นที่ 2 นั้น พฤติกรรมที่เป็นปัญหาของผม คือ การติด
Facebook มากจนเกินไปจนไม่มีเวลาอ่านหนังสือทบทวนการเรียน
พฤติกรรมเป้ าหมายของผมที่ต้องการพัฒนาตนเอง คือ ลดการเล่น
Facebook ในแต่ละวันให้น้อยลง โดยที่จะต้องมีการวางแผนแก้ไขปัญหา
และดาเนินการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ในทางด้านสาเหตุของปัญหานี้ ผม
ศึกษาแล้วว่า มาจากพฤติกรรมความเคยชินของตัวผมเองมากกว่า ดังจะเห็น
ได้จากรายละเอียดของปัญหานี้ ในขั้นที่ 4 ต่อไป
4) ขั้นรวบรวมข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับสาเหตุของปัญหา
การเล่น Facebook มากจนเกินไปของผม ทาให้ไม่มีเวลาที่จะอ่าน
หนังสือทบทวนตาราเรียน ผมจาได้ว่า มีอยู่วันหนึ่งผมเล่น Facebook ตั้งแต่
เช้า ไม่ได้ทาอะไรที่มีสาระเลย ได้แต่นั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์แล้วก็เล่น
เกมส์ใน Facebook บ้าง สนทนาผ่านทาง Facebook บ้าง ทาอย่างนี้
จนกระทั่งถึงตอนเย็น จนทาให้ไม่ได้ทาการบ้าน และอ่านหนังสือเลย
ผมขอสรุปสาเหตุของการเล่น Facebook ดังนี้
1. นั่งวิตกจริตว่าทาไมเขาถึงไม่ส่งข้อความกลับ
นี่เป็นอาการเริ่มต้นของโรคติด Facebook เลยครับ คือการนั่งรอ
คอยให้มีคนมาตอบข้อความ โดยนั่งเฝ้าแต่ Facebook นั่งกด ไปเรื่อยๆ จน
ผมไม่เป็นอันทาอะไร เดี๋ยวก็มานั่งดูแต่ Facebook อยู่เรื่อยๆ
6
2. ใช้เวลาอยู่กับ Facebook มากกว่า 1 ชม. ต่อวัน
การใช้งาน Facebook เกิน 1 ถึง 2 ชั่วโมงต่อวันถือว่ามากเกินไป
ครับ สาหรับคนทั่วไป ไม่รวมคนที่ใช้ Facebook ในการทางานนะครับ
3. เกิดอาการสับสนระหว่างชีวิตจริง กับ Facebook
จากที่ผมอ่านข้อความต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสถานะ หรือคอมเมนท์
ของคนต่างๆ มากไป ทั้งที่เรื่องนั้นๆ เป็นทั้งเรื่องจริง และไม่จริง แต่ผมเริ่ม
ไม่สามารถแยกแยะได้ว่าโลกแห่งความจริง กับโลกออนไลน์นั้นมันคนละ
อันกัน และเก็บเรื่องนั้นๆ มาเป็นอารมณ์ของตนเอง
4. รู้สึกกระวนกระวายใจถ้าไม่ได้เล่น Facebook
เหมือนกับเป็นคนติดยาเมื่อไม่ได้เสพ Facebook ต้องคอยหา
อุปกรณ์มาเปิดดูสถานะล่าสุดของ Facebook ตลอดเวลา และผมจะรู้สึก
โมโห, หงุดหงิด, หรือซึมเศร้า เมื่อไม่ได้เล่น Facebook
5) ขั้นเลือกเทคนิคเพื่อวางแผนพัฒนาตนเอง
จากข้อมูลบนเว็บไซต์ http://tech.mthai.com/software/23288.html ที่มี
เกร็ดความรู้เกี่ยวกับ “ 5 วิธีบาบัด อาการติด Facebook ” ซึ่งให้แนวทางใน
การแก้ไขปัญหาการติด Facebook ไว้และบวกกับประสบการณ์ของผม ผม
จึงเลือกเทคนิคเพื่อวางแผนพัฒนาตนเอง เป็นดังนี้
1. ค่อยๆเล่น Facebook ในแต่ละวันให้น้อยลง
จากเดิมที่ผมเล่นFacebook ตลอดทั้งวัน ก็ลดเวลาการเล่น Facebook โดย
กาหนดไว้เพียงวันละ 1 ชั่วโมง
7
2. ให้คนที่ผมไว้ใจช่วยดูการเข้าของFacebook ผม
หลายครั้งที่ผมตั้งปฏิญาณอะไรไว้แล้วสุดท้ายต้องจบด้วยการทา
ผิดซ้าซาก อันเกิดมาจากความเคยชินส่วนตัว ผมก็ต้องให้คนที่ผมไว้ใจได้มี
ส่วนในการทักท้วง และแก้ปัญหา
3. ชัตดาวน์การเข้าถึงอินเตอร์เน็ต (ปิดอินเทอร์เน็ต)
หากผมต้องใช้คอมพิวเตอร์แล้วกลัวจะอดใจจาก Facebook ไม่ได้
ให้ผมจัดการปิดการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต เพื่อที่จะไม่ให้ได้เล่น Facebook
4. ปิด Facebook App บนมือถือ
เทคโนโลยีสมาร์ทโฟน ช่วยสนับสนุนการเข้าถึงFacebook ผ่าน
แอพพลิเคชั่น จงทาให้แน่ใจว่าปิดแอพพลิเคชั่นเหล่านั้นไปแล้ว หรือถอด
การติดตั้งออกไปเลยดีกว่า
5. ออกไปทากิจกรรมกลางแจ้ง
หากิจกรรมทาร่วมกับเพื่อนๆ เพื่อลืมเรื่องราว Facebook บ้าง โดย
ที่ผมจะได้นาเอาเวลาในส่วนนี้ไปอ่านหนังสือทบทวนตาราเรียน
6. เตือนตัวเองว่าเล่น Facebook เป็นอะไรที่เสียเวลา
Facebook อาจช่วยให้การติดต่อสื่อสารกับเพื่อนฝูง ญาติสนิท
มิตรเลิฟ ที่ห่างหาย กันได้อย่างง่ายๆ แต่มันเทียบไม่ได้สักเศษเสี้ยว กับการ
พูดคุยพบปะกันในชีวิตจริงและยิ่งติดมากขึ้น ก็ลดโอกาสการพบเจอเพื่อนๆ
มากขึ้น
8
6) ขั้นลงมือปฏิบัติเพื่อพัฒนาพฤติกรรมการติด Facebook
ครั้งที่ 1
(ว/ด/ป)
สถานการณ์นา
พฤติกรรมการ
เล่น Facebook
ผลของ
พฤติกรรม
หมายเหตุ
4/ เม.ย./
2558
เริ่มมีการอยากเล่น
Facebook เกิดขึ้น
จึงบอกกับตัวเองว่า
ให้เล่น ประมาณ 1
ชั่วโมง
พุดคุยกับเพื่อน
แล้วนั่งดูโพสต์
ต่างๆที่มีคนแชร์
เข้ามา
เล่นเกินเวลามา
30 นาที
*ส ถ า น ที่
บ้าน
ครั้งที่ 2
(ว/ด/ป)
สถานการณ์นา
พฤติกรรมการ
เล่น Facebook
ผลของ
พฤติกรรม
หมายเหตุ
5/ เม.ย./
2558
เริ่มมีการอยากเล่น
Facebook เกิดขึ้น
จึงบอกกับตัวเองว่า
ให้เล่น ประมาณ 1
ชั่วโมง
นั่งดูโพสต์ต่างๆ
ที่มีคนแชร์เข้า
มา
ใช้เวลาการเล่น
50 นาที แต่ใจ
ยังอยากเล่นอยู่
แต่ก็พยายามทา
ใจ ที่จะไม่เล่น
ได้
*ส ถ า น ที่
บ้าน
*ใช้เวลาที่
เหลือมาอ่าน
หนังสือ
ครั้งที่ 3
(ว/ด/ป)
สถานการณ์นา
พฤติกรรมการ
เล่น Facebook
ผลของ
พฤติกรรม
หมายเหตุ
6/ เม.ย./
2558
มีการเล่น Facebook
เกิดขึ้น เพื่อติดต่อ
กับเพื่อน เรื่องงาน
เมื่อพูดคุยกัน
เสร็จแล้ว ผมจึง
ปิด อินเทอร์เน็ต
ลงทันที
เศร้าใจที่จะปิด
อินเทอร์เน็ตลง
แต่ก็ทาให้ผม
ตั้งใจอ่าน
หนังสือมากขึ้น
*ส ถ า น ที่
บ้าน
*ใช้เวลาที่
เหลือมาอ่าน
หนังสือ
9
ครั้งที่ 4
(ว/ด/ป)
สถานการณ์นา
พฤติกรรมการ
เล่น Facebook
ผลของ
พฤติกรรม
หมายเหตุ
7/ เม.ย./
2558
เริ่มมีการอยากเล่น
Facebook เกิดขึ้น
เล่น Facebook
แค่ 30 นาที จึง
ปิด อินเทอร์เน็ต
ลงทันที
ทาให้ผมมีเวลา
อ่านหนังสือ
มากขึ้น
*สถานที่
มหาวิทยาลัย
ราชภัฎราช
นครินทร์
ครั้งที่ 5
(ว/ด/ป)
สถานการณ์นา
พฤติกรรมการ
เล่น Facebook
ผลของ
พฤติกรรม
หมายเหตุ
7/ เม.ย./
2558
เริ่มมีการอยากเล่น
Facebook เกิดขึ้น
แต่ผมลบ App
Facebook ออกจาก
โทรศัพท์มือถือ
เพื่อที่จะไม่เล่น
ก็ไม่มีการเล่น
Facebook
เกิดขึ้น สาหรับ
ผม
ทาให้ผมมีเวลา
อ่านหนังสือ
เรียนมากขึ้น
*สถานที่
มหาวิทยาลัย
ราชภัฎราช
นครินทร์
สรุป การลงมือปฏิบัติเพื่อพัฒนาพฤติกรรมการติด Facebook ของผม
นั้น ในช่วงวันแรกที่ลงมือปฏิบัติผมก็เล่น Facebook เกินเวลาที่ผมบอกกับ
ตัวเองไว้ซึ่งเป็นมาจากความเคยชินที่ผมเคยเล่นตลอดเวลาในอดีตที่ผ่านมา แต่
พอมาถึงวันที่ 2 ผมเริ่มปรับตัวได้ก็ทาให้ผมเล่น Facebook ได้น้อยลงจากเดิม
และมาถึงวันที่ 3 กับ 4 เมื่อมีการเล่น Facebook ผมจึงมีการปิดอินเทอร์เน็ต
เพื่อที่จะไม่มีการเชื่อมต่อ จึงทาให้ผมสามารถเอาเวลาที่ไม่ได้เล่น Facebookนั้น
มาสนใจการอ่านหนังสือทบทวนเวลาเรียนมากขึ้น แล้วก็มาถึงวันที่ 5 ของการ
ลงมือปฏิบัติ ผมได้ทาการลบ App Facebook ขึ้น เพื่อที่จะไม่ต้องเข้าไปเล่น
Facebookในขณะที่ผมกาลังเรียนอยู่ด้วย
10
7) ขั้นประเมินผลและขยายผล
ผลจากการพัฒนาการติด Facebook มากจนเกินไป ของผมประสบ
ความสาเร็จประมาณ 80% เนื่องจากผมมีการใช้ Facebook น้อยลงจากเดิม และ
ทาให้ผมมีความตั้งใจอ่านหนังสือเพื่อทบทวนการเรียนมากขึ้นด้วย และส่วนอีก
20% ที่เหลือนั้นเพราะผมต้องเข้าไปใช้งาน Facebook เพื่อไปพูดคุยทั่วไป ทั้ง
ในส่วนของการเรียน การพูดคุยทั่วไป จากเพื่อน และญาติพี่น้อง
สิ่งที่เป็นตัวสนับสนุนการพัฒนาตนเองครั้งนี้คือ เวลาที่ใช้เล่น Facebook
นั้น เอาไปใช้อ่านหนังสือเพื่อทบทวนตาราเรียนมากขึ้น และสิ่งที่เป็นอุปสรรค
การพัฒนาตนเองครั้งนี้คือ ความเคยชินจากในอดีตที่ผ่านมา ที่จะเล่น Facebook
ตลอดเวลานั่นเอง
ผมตั้งใจว่าจะสามารถขยายผลการพัฒนาตนเอง เรื่องการติด Facebook
มากจนเกินไป โดยที่จะเล่น Facebook ประมาร 15-20 นาทีต่อวัน หรือจะไม่
เล่น Facebook ตลอดไป ซึ่งรายงานครั้งนี้ผมก็ได้ประโยชน์เป็นอย่างยิ่งในเรื่อง
ของการมีเวลาที่จะทบทวนการเรียน ทาการบ้านของผมเองมากขึ้นด้วย
11
รายการอ้างอิง
5 วิธีหักดิบพฤติกรรมผี facebook ของคุณ[ออนไลน์]. เข้าถึงเมื่อวันที่ 3
เมษายน 2558.จาก http://tech.mthai.com/software/23288.html
12

More Related Content

What's hot

เฉลยเอกสารประกอบสื่อสังคมออนไลน์เรื่องคลื่นกลและเสียง
เฉลยเอกสารประกอบสื่อสังคมออนไลน์เรื่องคลื่นกลและเสียงเฉลยเอกสารประกอบสื่อสังคมออนไลน์เรื่องคลื่นกลและเสียง
เฉลยเอกสารประกอบสื่อสังคมออนไลน์เรื่องคลื่นกลและเสียงโรงเรียนเทพลีลา
 
หน่วยที่ 3 เศรษฐกิจพอเพียงกับการพัฒนาเศรษฐกิจไทย
หน่วยที่ 3 เศรษฐกิจพอเพียงกับการพัฒนาเศรษฐกิจไทยหน่วยที่ 3 เศรษฐกิจพอเพียงกับการพัฒนาเศรษฐกิจไทย
หน่วยที่ 3 เศรษฐกิจพอเพียงกับการพัฒนาเศรษฐกิจไทยPaew Tongpanya
 
เทียนหอมสมุนไพรไล่ยุง
เทียนหอมสมุนไพรไล่ยุงเทียนหอมสมุนไพรไล่ยุง
เทียนหอมสมุนไพรไล่ยุงBoomCNC
 
รูปเล่มวิชาโครงงาน
รูปเล่มวิชาโครงงานรูปเล่มวิชาโครงงาน
รูปเล่มวิชาโครงงานAjBenny Pong
 
โครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง สมุนไพรกำจัดปลวก
โครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง สมุนไพรกำจัดปลวกโครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง สมุนไพรกำจัดปลวก
โครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง สมุนไพรกำจัดปลวกพัน พัน
 
โครงการจิตอาสาพัฒนาวัด
โครงการจิตอาสาพัฒนาวัดโครงการจิตอาสาพัฒนาวัด
โครงการจิตอาสาพัฒนาวัดพัน พัน
 
ระบบหมุนเวียนเลือด
ระบบหมุนเวียนเลือด ระบบหมุนเวียนเลือด
ระบบหมุนเวียนเลือด Thitaree Samphao
 
โครงงานการประดิษฐ์กระถางจากขวดพลาสติก
โครงงานการประดิษฐ์กระถางจากขวดพลาสติกโครงงานการประดิษฐ์กระถางจากขวดพลาสติก
โครงงานการประดิษฐ์กระถางจากขวดพลาสติกพัน พัน
 
โครงงานใบย่านางผง
โครงงานใบย่านางผงโครงงานใบย่านางผง
โครงงานใบย่านางผงChok Ke
 
ข้อสอบวิชาชีววิทยา+เฉลย By: Meriya Lertsirikarn
ข้อสอบวิชาชีววิทยา+เฉลย By: Meriya Lertsirikarnข้อสอบวิชาชีววิทยา+เฉลย By: Meriya Lertsirikarn
ข้อสอบวิชาชีววิทยา+เฉลย By: Meriya Lertsirikarnflimgold
 
โครงงาน เพาว์เวอร์พอย
โครงงาน เพาว์เวอร์พอยโครงงาน เพาว์เวอร์พอย
โครงงาน เพาว์เวอร์พอยNick Nook
 
เค้าโครงโครงงานวิทยาศาสตร์
เค้าโครงโครงงานวิทยาศาสตร์เค้าโครงโครงงานวิทยาศาสตร์
เค้าโครงโครงงานวิทยาศาสตร์โทโต๊ะ บินไกล
 
แบบทดสอบ บทที่ 6 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรม
แบบทดสอบ บทที่  6  การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรมแบบทดสอบ บทที่  6  การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรม
แบบทดสอบ บทที่ 6 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรมdnavaroj
 
บทที่ 2 ระบบต่างๆในร่างกายมนุษย์ หมุนเวียนเลือด
บทที่  2  ระบบต่างๆในร่างกายมนุษย์   หมุนเวียนเลือดบทที่  2  ระบบต่างๆในร่างกายมนุษย์   หมุนเวียนเลือด
บทที่ 2 ระบบต่างๆในร่างกายมนุษย์ หมุนเวียนเลือดPinutchaya Nakchumroon
 
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้องบทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้องKittichai Pinlert
 
ใบความรู้+แผนการสอนและใบกิจกรรม ประถม4-6 เรื่อง วรจรไฟฟ้า+ป.6+290+dltvscip6+P...
ใบความรู้+แผนการสอนและใบกิจกรรม ประถม4-6 เรื่อง วรจรไฟฟ้า+ป.6+290+dltvscip6+P...ใบความรู้+แผนการสอนและใบกิจกรรม ประถม4-6 เรื่อง วรจรไฟฟ้า+ป.6+290+dltvscip6+P...
ใบความรู้+แผนการสอนและใบกิจกรรม ประถม4-6 เรื่อง วรจรไฟฟ้า+ป.6+290+dltvscip6+P...Prachoom Rangkasikorn
 
โครงงานเเยมกล้วย(Complete)
โครงงานเเยมกล้วย(Complete)โครงงานเเยมกล้วย(Complete)
โครงงานเเยมกล้วย(Complete)Pongpan Pairojana
 
แบบสอบถามความพึงพอใจ
แบบสอบถามความพึงพอใจแบบสอบถามความพึงพอใจ
แบบสอบถามความพึงพอใจDuangnapa Inyayot
 

What's hot (20)

เฉลยเอกสารประกอบสื่อสังคมออนไลน์เรื่องคลื่นกลและเสียง
เฉลยเอกสารประกอบสื่อสังคมออนไลน์เรื่องคลื่นกลและเสียงเฉลยเอกสารประกอบสื่อสังคมออนไลน์เรื่องคลื่นกลและเสียง
เฉลยเอกสารประกอบสื่อสังคมออนไลน์เรื่องคลื่นกลและเสียง
 
หน่วยที่ 3 เศรษฐกิจพอเพียงกับการพัฒนาเศรษฐกิจไทย
หน่วยที่ 3 เศรษฐกิจพอเพียงกับการพัฒนาเศรษฐกิจไทยหน่วยที่ 3 เศรษฐกิจพอเพียงกับการพัฒนาเศรษฐกิจไทย
หน่วยที่ 3 เศรษฐกิจพอเพียงกับการพัฒนาเศรษฐกิจไทย
 
เทียนหอมสมุนไพรไล่ยุง
เทียนหอมสมุนไพรไล่ยุงเทียนหอมสมุนไพรไล่ยุง
เทียนหอมสมุนไพรไล่ยุง
 
คำนำ
คำนำคำนำ
คำนำ
 
รูปเล่มวิชาโครงงาน
รูปเล่มวิชาโครงงานรูปเล่มวิชาโครงงาน
รูปเล่มวิชาโครงงาน
 
โครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง สมุนไพรกำจัดปลวก
โครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง สมุนไพรกำจัดปลวกโครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง สมุนไพรกำจัดปลวก
โครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง สมุนไพรกำจัดปลวก
 
โครงการจิตอาสาพัฒนาวัด
โครงการจิตอาสาพัฒนาวัดโครงการจิตอาสาพัฒนาวัด
โครงการจิตอาสาพัฒนาวัด
 
ระบบหมุนเวียนเลือด
ระบบหมุนเวียนเลือด ระบบหมุนเวียนเลือด
ระบบหมุนเวียนเลือด
 
โครงงานการประดิษฐ์กระถางจากขวดพลาสติก
โครงงานการประดิษฐ์กระถางจากขวดพลาสติกโครงงานการประดิษฐ์กระถางจากขวดพลาสติก
โครงงานการประดิษฐ์กระถางจากขวดพลาสติก
 
บทที่ 4.ผลการดำเนินงาน
บทที่ 4.ผลการดำเนินงานบทที่ 4.ผลการดำเนินงาน
บทที่ 4.ผลการดำเนินงาน
 
โครงงานใบย่านางผง
โครงงานใบย่านางผงโครงงานใบย่านางผง
โครงงานใบย่านางผง
 
ข้อสอบวิชาชีววิทยา+เฉลย By: Meriya Lertsirikarn
ข้อสอบวิชาชีววิทยา+เฉลย By: Meriya Lertsirikarnข้อสอบวิชาชีววิทยา+เฉลย By: Meriya Lertsirikarn
ข้อสอบวิชาชีววิทยา+เฉลย By: Meriya Lertsirikarn
 
โครงงาน เพาว์เวอร์พอย
โครงงาน เพาว์เวอร์พอยโครงงาน เพาว์เวอร์พอย
โครงงาน เพาว์เวอร์พอย
 
เค้าโครงโครงงานวิทยาศาสตร์
เค้าโครงโครงงานวิทยาศาสตร์เค้าโครงโครงงานวิทยาศาสตร์
เค้าโครงโครงงานวิทยาศาสตร์
 
แบบทดสอบ บทที่ 6 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรม
แบบทดสอบ บทที่  6  การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรมแบบทดสอบ บทที่  6  การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรม
แบบทดสอบ บทที่ 6 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธูกรรม
 
บทที่ 2 ระบบต่างๆในร่างกายมนุษย์ หมุนเวียนเลือด
บทที่  2  ระบบต่างๆในร่างกายมนุษย์   หมุนเวียนเลือดบทที่  2  ระบบต่างๆในร่างกายมนุษย์   หมุนเวียนเลือด
บทที่ 2 ระบบต่างๆในร่างกายมนุษย์ หมุนเวียนเลือด
 
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้องบทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
 
ใบความรู้+แผนการสอนและใบกิจกรรม ประถม4-6 เรื่อง วรจรไฟฟ้า+ป.6+290+dltvscip6+P...
ใบความรู้+แผนการสอนและใบกิจกรรม ประถม4-6 เรื่อง วรจรไฟฟ้า+ป.6+290+dltvscip6+P...ใบความรู้+แผนการสอนและใบกิจกรรม ประถม4-6 เรื่อง วรจรไฟฟ้า+ป.6+290+dltvscip6+P...
ใบความรู้+แผนการสอนและใบกิจกรรม ประถม4-6 เรื่อง วรจรไฟฟ้า+ป.6+290+dltvscip6+P...
 
โครงงานเเยมกล้วย(Complete)
โครงงานเเยมกล้วย(Complete)โครงงานเเยมกล้วย(Complete)
โครงงานเเยมกล้วย(Complete)
 
แบบสอบถามความพึงพอใจ
แบบสอบถามความพึงพอใจแบบสอบถามความพึงพอใจ
แบบสอบถามความพึงพอใจ
 

Similar to รายงาน การพัฒนาตนเอง

ความขี้เกียจจงออกไปเอาความขยันกลับคืนมา
ความขี้เกียจจงออกไปเอาความขยันกลับคืนมาความขี้เกียจจงออกไปเอาความขยันกลับคืนมา
ความขี้เกียจจงออกไปเอาความขยันกลับคืนมาThanakorn Intrarat
 
ไม่เหนื่อยไม่ท้อ ไม่เครียด เมื่อรู้จักตนเอง
ไม่เหนื่อยไม่ท้อ ไม่เครียด เมื่อรู้จักตนเองไม่เหนื่อยไม่ท้อ ไม่เครียด เมื่อรู้จักตนเอง
ไม่เหนื่อยไม่ท้อ ไม่เครียด เมื่อรู้จักตนเองBiobiome
 
Project com
Project comProject com
Project compixppd
 
โครงงานคอม
โครงงานคอมโครงงานคอม
โครงงานคอมonnicha611
 
แผนการจัดการเรียนรู้เพศศึกษาหน่วยที่ 4
แผนการจัดการเรียนรู้เพศศึกษาหน่วยที่ 4แผนการจัดการเรียนรู้เพศศึกษาหน่วยที่ 4
แผนการจัดการเรียนรู้เพศศึกษาหน่วยที่ 4tassanee chaicharoen
 
2015รายงานปฏิบัติงาน255738หน้า
2015รายงานปฏิบัติงาน255738หน้า2015รายงานปฏิบัติงาน255738หน้า
2015รายงานปฏิบัติงาน255738หน้าKruthai Kidsdee
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์Phimwaree
 
1อนุชิตเผยแพร่
1อนุชิตเผยแพร่1อนุชิตเผยแพร่
1อนุชิตเผยแพร่somdetpittayakom school
 
1อนุชิตเผยแพร่
1อนุชิตเผยแพร่1อนุชิตเผยแพร่
1อนุชิตเผยแพร่somdetpittayakom school
 
โครงงาน Blog 5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในแต่ละประเทศสมาชิกอาเซียน
โครงงาน Blog 5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในแต่ละประเทศสมาชิกอาเซียนโครงงาน Blog 5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในแต่ละประเทศสมาชิกอาเซียน
โครงงาน Blog 5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในแต่ละประเทศสมาชิกอาเซียนBlogAseanTraveler
 
โครงงานบอร์ดอาหารไทยสี่ภาค
โครงงานบอร์ดอาหารไทยสี่ภาคโครงงานบอร์ดอาหารไทยสี่ภาค
โครงงานบอร์ดอาหารไทยสี่ภาคMontra Songsee
 
บทที่ 5
บทที่ 5บทที่ 5
บทที่ 5jittraphorn
 

Similar to รายงาน การพัฒนาตนเอง (20)

ความขี้เกียจจงออกไปเอาความขยันกลับคืนมา
ความขี้เกียจจงออกไปเอาความขยันกลับคืนมาความขี้เกียจจงออกไปเอาความขยันกลับคืนมา
ความขี้เกียจจงออกไปเอาความขยันกลับคืนมา
 
ทักษะการขอความช่วยเหลือ
ทักษะการขอความช่วยเหลือทักษะการขอความช่วยเหลือ
ทักษะการขอความช่วยเหลือ
 
ไม่เหนื่อยไม่ท้อ ไม่เครียด เมื่อรู้จักตนเอง
ไม่เหนื่อยไม่ท้อ ไม่เครียด เมื่อรู้จักตนเองไม่เหนื่อยไม่ท้อ ไม่เครียด เมื่อรู้จักตนเอง
ไม่เหนื่อยไม่ท้อ ไม่เครียด เมื่อรู้จักตนเอง
 
Computer project
Computer projectComputer project
Computer project
 
Project com
Project comProject com
Project com
 
โครงงานคอม
โครงงานคอมโครงงานคอม
โครงงานคอม
 
2015รายงานปฏิบัติงาน255738หน้า
2015รายงานปฏิบัติงาน255738หน้า2015รายงานปฏิบัติงาน255738หน้า
2015รายงานปฏิบัติงาน255738หน้า
 
แผนการจัดการเรียนรู้เพศศึกษาหน่วยที่ 4
แผนการจัดการเรียนรู้เพศศึกษาหน่วยที่ 4แผนการจัดการเรียนรู้เพศศึกษาหน่วยที่ 4
แผนการจัดการเรียนรู้เพศศึกษาหน่วยที่ 4
 
2015รายงานปฏิบัติงาน255738หน้า
2015รายงานปฏิบัติงาน255738หน้า2015รายงานปฏิบัติงาน255738หน้า
2015รายงานปฏิบัติงาน255738หน้า
 
2015รายงานปฏิบัติงาน255738หน้า
2015รายงานปฏิบัติงาน255738หน้า2015รายงานปฏิบัติงาน255738หน้า
2015รายงานปฏิบัติงาน255738หน้า
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
 
ทักษะการปฏิเสธ
ทักษะการปฏิเสธทักษะการปฏิเสธ
ทักษะการปฏิเสธ
 
1อนุชิตเผยแพร่
1อนุชิตเผยแพร่1อนุชิตเผยแพร่
1อนุชิตเผยแพร่
 
1อนุชิตเผยแพร่
1อนุชิตเผยแพร่1อนุชิตเผยแพร่
1อนุชิตเผยแพร่
 
AT1
AT1AT1
AT1
 
โครงงาน Blog 5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในแต่ละประเทศสมาชิกอาเซียน
โครงงาน Blog 5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในแต่ละประเทศสมาชิกอาเซียนโครงงาน Blog 5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในแต่ละประเทศสมาชิกอาเซียน
โครงงาน Blog 5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในแต่ละประเทศสมาชิกอาเซียน
 
ทักษะการบอกความต้องการ
ทักษะการบอกความต้องการทักษะการบอกความต้องการ
ทักษะการบอกความต้องการ
 
โครงงานบอร์ดอาหารไทยสี่ภาค
โครงงานบอร์ดอาหารไทยสี่ภาคโครงงานบอร์ดอาหารไทยสี่ภาค
โครงงานบอร์ดอาหารไทยสี่ภาค
 
portfolio
portfolioportfolio
portfolio
 
บทที่ 5
บทที่ 5บทที่ 5
บทที่ 5
 

More from Chainarong Maharak

การจัดการเรียนการสอนผ่านเว็บ Schoology
การจัดการเรียนการสอนผ่านเว็บ Schoologyการจัดการเรียนการสอนผ่านเว็บ Schoology
การจัดการเรียนการสอนผ่านเว็บ SchoologyChainarong Maharak
 
โปรแกรม Edraw Mind map
โปรแกรม Edraw Mind mapโปรแกรม Edraw Mind map
โปรแกรม Edraw Mind mapChainarong Maharak
 
การติดต่อสื่อสารในองค์กร
การติดต่อสื่อสารในองค์กรการติดต่อสื่อสารในองค์กร
การติดต่อสื่อสารในองค์กรChainarong Maharak
 
กฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง : ฟ้องแย้ง
กฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง : ฟ้องแย้งกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง : ฟ้องแย้ง
กฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง : ฟ้องแย้งChainarong Maharak
 
ผู้จัดการมรดก
ผู้จัดการมรดกผู้จัดการมรดก
ผู้จัดการมรดกChainarong Maharak
 
ไวรัสคอมพิวเตอร์ เวิร์ม ม้าโทรจัน สแปม
ไวรัสคอมพิวเตอร์ เวิร์ม ม้าโทรจัน สแปมไวรัสคอมพิวเตอร์ เวิร์ม ม้าโทรจัน สแปม
ไวรัสคอมพิวเตอร์ เวิร์ม ม้าโทรจัน สแปมChainarong Maharak
 
ไวรัสคอมพิวเตอร์ เวิร์ม ม้าโทรจัน สแปม
ไวรัสคอมพิวเตอร์ เวิร์ม ม้าโทรจัน สแปมไวรัสคอมพิวเตอร์ เวิร์ม ม้าโทรจัน สแปม
ไวรัสคอมพิวเตอร์ เวิร์ม ม้าโทรจัน สแปมChainarong Maharak
 
การสร้างการ์ดอวยพรด้วยโปรแกรม Microsoft Word
การสร้างการ์ดอวยพรด้วยโปรแกรม Microsoft Wordการสร้างการ์ดอวยพรด้วยโปรแกรม Microsoft Word
การสร้างการ์ดอวยพรด้วยโปรแกรม Microsoft WordChainarong Maharak
 
บทที่9 การประเมินผลการเรียนรู้
บทที่9 การประเมินผลการเรียนรู้บทที่9 การประเมินผลการเรียนรู้
บทที่9 การประเมินผลการเรียนรู้Chainarong Maharak
 
โปรแกรม Sketch up
โปรแกรม Sketch upโปรแกรม Sketch up
โปรแกรม Sketch upChainarong Maharak
 
การสื่อสารแบบ Analog
การสื่อสารแบบ Analogการสื่อสารแบบ Analog
การสื่อสารแบบ AnalogChainarong Maharak
 
คู่มือการใช้งาน โปรแกรมคำนวณสถิติขั้นพื้นฐาน
คู่มือการใช้งาน โปรแกรมคำนวณสถิติขั้นพื้นฐานคู่มือการใช้งาน โปรแกรมคำนวณสถิติขั้นพื้นฐาน
คู่มือการใช้งาน โปรแกรมคำนวณสถิติขั้นพื้นฐานChainarong Maharak
 
บริการจัดวางตัวบุคคล
บริการจัดวางตัวบุคคลบริการจัดวางตัวบุคคล
บริการจัดวางตัวบุคคลChainarong Maharak
 
คู่มือการใช้บทเรียนมัลติมีเดียช่วยสอน
คู่มือการใช้บทเรียนมัลติมีเดียช่วยสอนคู่มือการใช้บทเรียนมัลติมีเดียช่วยสอน
คู่มือการใช้บทเรียนมัลติมีเดียช่วยสอนChainarong Maharak
 
ระบบฐานข้อมูลการซื้อขายสินค้าของสหกรณ์
ระบบฐานข้อมูลการซื้อขายสินค้าของสหกรณ์ระบบฐานข้อมูลการซื้อขายสินค้าของสหกรณ์
ระบบฐานข้อมูลการซื้อขายสินค้าของสหกรณ์Chainarong Maharak
 
ทฤษฎีการเชื่อมโยงของธอร์นไดค์
ทฤษฎีการเชื่อมโยงของธอร์นไดค์ทฤษฎีการเชื่อมโยงของธอร์นไดค์
ทฤษฎีการเชื่อมโยงของธอร์นไดค์Chainarong Maharak
 
การเยี่ยมบ้าน
การเยี่ยมบ้านการเยี่ยมบ้าน
การเยี่ยมบ้านChainarong Maharak
 
หลักสูตรท้องถิ่นนี้ เรื่อง การทำไม้กวาดทางมะพร้าว
หลักสูตรท้องถิ่นนี้ เรื่อง การทำไม้กวาดทางมะพร้าวหลักสูตรท้องถิ่นนี้ เรื่อง การทำไม้กวาดทางมะพร้าว
หลักสูตรท้องถิ่นนี้ เรื่อง การทำไม้กวาดทางมะพร้าวChainarong Maharak
 
หลักสูตรท้องถิ่น เรื่อง การทำไม้กวาดทางมะพร้าว
หลักสูตรท้องถิ่น เรื่อง การทำไม้กวาดทางมะพร้าวหลักสูตรท้องถิ่น เรื่อง การทำไม้กวาดทางมะพร้าว
หลักสูตรท้องถิ่น เรื่อง การทำไม้กวาดทางมะพร้าวChainarong Maharak
 

More from Chainarong Maharak (20)

ขนมไทย
ขนมไทยขนมไทย
ขนมไทย
 
การจัดการเรียนการสอนผ่านเว็บ Schoology
การจัดการเรียนการสอนผ่านเว็บ Schoologyการจัดการเรียนการสอนผ่านเว็บ Schoology
การจัดการเรียนการสอนผ่านเว็บ Schoology
 
โปรแกรม Edraw Mind map
โปรแกรม Edraw Mind mapโปรแกรม Edraw Mind map
โปรแกรม Edraw Mind map
 
การติดต่อสื่อสารในองค์กร
การติดต่อสื่อสารในองค์กรการติดต่อสื่อสารในองค์กร
การติดต่อสื่อสารในองค์กร
 
กฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง : ฟ้องแย้ง
กฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง : ฟ้องแย้งกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง : ฟ้องแย้ง
กฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง : ฟ้องแย้ง
 
ผู้จัดการมรดก
ผู้จัดการมรดกผู้จัดการมรดก
ผู้จัดการมรดก
 
ไวรัสคอมพิวเตอร์ เวิร์ม ม้าโทรจัน สแปม
ไวรัสคอมพิวเตอร์ เวิร์ม ม้าโทรจัน สแปมไวรัสคอมพิวเตอร์ เวิร์ม ม้าโทรจัน สแปม
ไวรัสคอมพิวเตอร์ เวิร์ม ม้าโทรจัน สแปม
 
ไวรัสคอมพิวเตอร์ เวิร์ม ม้าโทรจัน สแปม
ไวรัสคอมพิวเตอร์ เวิร์ม ม้าโทรจัน สแปมไวรัสคอมพิวเตอร์ เวิร์ม ม้าโทรจัน สแปม
ไวรัสคอมพิวเตอร์ เวิร์ม ม้าโทรจัน สแปม
 
การสร้างการ์ดอวยพรด้วยโปรแกรม Microsoft Word
การสร้างการ์ดอวยพรด้วยโปรแกรม Microsoft Wordการสร้างการ์ดอวยพรด้วยโปรแกรม Microsoft Word
การสร้างการ์ดอวยพรด้วยโปรแกรม Microsoft Word
 
บทที่9 การประเมินผลการเรียนรู้
บทที่9 การประเมินผลการเรียนรู้บทที่9 การประเมินผลการเรียนรู้
บทที่9 การประเมินผลการเรียนรู้
 
โปรแกรม Sketch up
โปรแกรม Sketch upโปรแกรม Sketch up
โปรแกรม Sketch up
 
การสื่อสารแบบ Analog
การสื่อสารแบบ Analogการสื่อสารแบบ Analog
การสื่อสารแบบ Analog
 
คู่มือการใช้งาน โปรแกรมคำนวณสถิติขั้นพื้นฐาน
คู่มือการใช้งาน โปรแกรมคำนวณสถิติขั้นพื้นฐานคู่มือการใช้งาน โปรแกรมคำนวณสถิติขั้นพื้นฐาน
คู่มือการใช้งาน โปรแกรมคำนวณสถิติขั้นพื้นฐาน
 
บริการจัดวางตัวบุคคล
บริการจัดวางตัวบุคคลบริการจัดวางตัวบุคคล
บริการจัดวางตัวบุคคล
 
คู่มือการใช้บทเรียนมัลติมีเดียช่วยสอน
คู่มือการใช้บทเรียนมัลติมีเดียช่วยสอนคู่มือการใช้บทเรียนมัลติมีเดียช่วยสอน
คู่มือการใช้บทเรียนมัลติมีเดียช่วยสอน
 
ระบบฐานข้อมูลการซื้อขายสินค้าของสหกรณ์
ระบบฐานข้อมูลการซื้อขายสินค้าของสหกรณ์ระบบฐานข้อมูลการซื้อขายสินค้าของสหกรณ์
ระบบฐานข้อมูลการซื้อขายสินค้าของสหกรณ์
 
ทฤษฎีการเชื่อมโยงของธอร์นไดค์
ทฤษฎีการเชื่อมโยงของธอร์นไดค์ทฤษฎีการเชื่อมโยงของธอร์นไดค์
ทฤษฎีการเชื่อมโยงของธอร์นไดค์
 
การเยี่ยมบ้าน
การเยี่ยมบ้านการเยี่ยมบ้าน
การเยี่ยมบ้าน
 
หลักสูตรท้องถิ่นนี้ เรื่อง การทำไม้กวาดทางมะพร้าว
หลักสูตรท้องถิ่นนี้ เรื่อง การทำไม้กวาดทางมะพร้าวหลักสูตรท้องถิ่นนี้ เรื่อง การทำไม้กวาดทางมะพร้าว
หลักสูตรท้องถิ่นนี้ เรื่อง การทำไม้กวาดทางมะพร้าว
 
หลักสูตรท้องถิ่น เรื่อง การทำไม้กวาดทางมะพร้าว
หลักสูตรท้องถิ่น เรื่อง การทำไม้กวาดทางมะพร้าวหลักสูตรท้องถิ่น เรื่อง การทำไม้กวาดทางมะพร้าว
หลักสูตรท้องถิ่น เรื่อง การทำไม้กวาดทางมะพร้าว
 

รายงาน การพัฒนาตนเอง

  • 1. 1 รายงาน พัฒนาตนเอง เรื่อง การติด Facebook มากเกินไป จัดทาโดย นายชัยณรงค์ มะหารักษ์ รหัสนักศึกษา 57003126051 สาขา คอมพิวเตอร์ศึกษา1 รายงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาวิชาจิตวิทยากับการพัฒนาตน (AGE123) คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557
  • 2. 2 คานา รายงานการพัฒนาตนเอง เรื่อง การติด Facebook มากเกินไปนี้ เป็นส่วน หนึ่งของการศึกษาวิชาจิตวิทยากับการพัฒนาตน (AGE123) คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ โดยขอบเขตเนื้อหาของรายงานฉบับนี้ นาเสนอเรื่องราวที่ต้องการพัฒนาตนเองของผม ซึ่งผมได้เลือกหัวข้อที่จะพัฒนา คือการที่ติด Facebook มากจนเกินไป ผมขอขอบคุณผู้ช่วยศาสตราจารย์เกื้อกูล สถาพรวจนา ที่ให้คาแนะนา การพัฒนาตนเองในแต่ละด้าน อธิบายการเข้าถึงแหล่งข้อมูล ตลอดจน สนับสนุนเอกสารใช้ประกอบการจัดทารายงานฉบับนี้ นายชัยณรงค์มะหารักษ์ 12 เมษายน 2558
  • 3. 3 สารบัญ หน้า คานา.................................................................................................................ข สารบัญ.............................................................................................................ค การพัฒนาตนเอง 7 ขั้นตอน.............................................................................2 1 การสารวจพิจารณาตนเอง..........................................................................2 2 การวิเคราะห์ข้อดีข้อบกพร่องของตนเอง...................................................4 3 การกาหนดปัญหาและพฤติกรรมเป้าหมายของการพัฒนาตนเอง...............5 4 การรวบรวมข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับสาเหตุของพฤติกรรมปัญหา................5 5 การเลือกเทคนิควิธีการเพื่อวางแผนพัฒนาตนเอง ......................................6 6 ลงมือปฏิบัติการพัฒนาตนเอง....................................................................8 7 การประเมินผล และขยายผลการพัฒนาตนเอง.........................................10 รายการอ้างอิง.................................................................................................11 ภาคผนวก.......................................................................................................12
  • 4. 1 การพัฒนาตนเอง เรื่อง การติด Facebook มากจนเกินไป Facebook หมายถึง บริการบนอินเทอร์เน็ตบริการหนึ่ง ที่จะทาให้ผู้ใช้สามารถ ติดต่อสื่อสารและร่วมทากิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่ง หรือหลายๆ กิจกรรมกับผู้ใช้ Facebook คนอื่นๆ ได้ สาเหตุที่ทาให้ติด Facebook หลายครั้งที่รู้สึกเบื่อหน่าย ไร้หัวข้อคุยในวงสนทนา ในปัจจุบันจะเห็นว่าจะมีคนกลุ่มหนึ่ง เลือกที่จะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาพร้อมกับ Login เข้า social network เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการพูดคุยกับเพื่อนๆ ในสังคม ออนไลน์ ก็นับว่าเป็นข้อดีในการที่จะสามารถติดต่อ พูดคุยแก้เหงากับเพื่อนเก่าและ เพื่อนใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง เชื่อมความสัมพันธ์ แสดงทรรศนะ แต่ทว่าในกลุ่มสนทนาใน ชีวิตจริง กลับจะทาให้ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลแย่ลง จนกลายเป็นคนที่ไร้มนุษย์ สัมพันธ์ เพราะให้เวลากับการใช้อินเทอร์เน็ตในปริมาณมากเกินไป และนี่อาจทาให้เข้า ข่าย ติด Facebook โดยไม่รู้ตัวเกิดอาการติด หลงตัวเอง มีอารมณ์ก้าวร้าวไม่มีสมาธิใน การเรียน ขาดเรียนเพิ่มขึ้น ผลการเรียนแย่ลง วิตกกังวล ตกอยู่ในภาวะซึมเศร้า เสพติด อินเตอร์เน็ตในชีวิตประจาวัน เช่น ติดChat ติดเกม เป็นต้น ทาให้มีปัญหานอนดึกมากขึ้น พักผ่อนไม่เพียงพอ ควรแบ่งเวลาและตั้งเป้ าหมาย การเล่นไว้ก็ เพียงพอแล้ว ให้ Facebook นั้นมันเป็นแค่ส่วนหนึ่งของชีวิต อย่าให้มันเป็น ทั้งหมดของชีวิตของเราได้
  • 5. 2 การพัฒนาตนเองของผม แบ่งออกเป็น 7 ขั้นตอน ตามแนวทางการ พัฒนาตน ดังนี้ คือ 1) การสารวจพิจารณาตนเอง 2) การวิเคราะห์ข้อดีข้อบกพร่องของตนเอง 3) การกาหนดปัญหาและพฤติกรรมเป้าหมายของการพัฒนาตนเอง 4) การรวบรวมข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับสาเหตุของพฤติกรรมปัญหา 5) การเลือกเทคนิควิธีการเพื่อวางแผนพัฒนาตนเอง 6) ลงมือปฏิบัติการพัฒนาตนเอง 7) การประเมินผล และขยายผลการพัฒนาตนเอง ซึ่งในแต่ละขั้นตอนของการพัฒนาตนเองที่ผมจะเขียนต่อไปนี้ เป็นการ สะท้อนเพียงส่วนเดียวของชีวิตผมเท่านั้น และต่อไปนี้เป็นรายละเอียดของแต่ ละขั้นตอนในการพัฒนาตนเองเรื่อง การติด Facebook มากเกินไป 1) ขั้นการสารวจตนเอง ผมขอแนะนาตัวผมเองเพื่อให้ท่านได้รู้จัก คือ - เกี่ยวกับสภาพทางกาย สุขภาพ ร่างกาย ผมมีอวัยวะครบทั้ง 32 ประการ น้าหนักและ ส่วนสูงอยู่ในเกณฑ์ที่สมส่วน ผมเคยมีโรคประจาตัว คือโรคไต แต่ ตอนนี้หายแล้ว และมักมีอาการปวดศรีษะ และปวดท้องอยู่เป็น ประจา กริยา ท่าทาง ผมเป็นคนที่เข้ากับผู้อื่นได้ดี แต่ก็มักที่จะชอบอยู่ตัว คนเดียวมากกว่า บุคลิกภาพโดยรวม ผมเป็นคนที่ชอบเก็บตัวในบางครั้ง แต่ เหตุการณ์รอบๆตัวแล้วก็มักจะทาให้เป็นคนที่เปิดเผย และส่วนมาก แล้วจะชอบมีลักษณะเป็นผู้นามากกว่าผู้ตาม แต่ทั้งนี้ผมก็ชอบที่จะ ทางานเดี่ยวมากกว่างานกลุ่ม เพราะมันทาให้ผมสามารถที่จะคิดและ ตัดสินใจได้เอง หากมีปัญหาก็รับไว้ที่ตนเอง โดยที่ไม่ทาให้คนอื่น
  • 6. 3 เดือดร้อนด้วย และผมมักเป็นคนที่ชอบเก็บอะไรเล็กๆน้อยๆมาคิด เสมอ แล้วก็มีความวิตกกังวลกับเหตุการณ์ที่ยังมาไม่ถึงด้วย - เกี่ยวกับอารมณ์ และจิตใจ สุขภาพจิต ผมเป็นคนที่อดทนต่อปัญหาต่างๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ได้ดี และสามารถหาทางออกหรือสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้เสมอ อุปนิสัยใจคอ ผมคิดว่าผมเป็นคนเจ้าระเบียบ ละเอียดรอบคอบ ถ้า ตั้งใจทาอะไรก็มักจะทาให้เสร็จ โดยไม่รออะไร (ขยัน หมั่นเพียร) การควบคุมตนเอง ผมสามารถที่จะควบคุมตนเองให้กระทางาน ต่างๆ ตามเป้าหมายไว้ได้และสามารถยอมรับฟังผู้อื่นได้ ถึงแม้ว่าผม จะไม่เห็นด้วยก็ตาม - เกี่ยวกับพัฒนาการทางสังคม  ผมกล้าที่จะพูดคุยกับคนที่ไม่รู้จัก ถึงแม้จะมีความกลัวก็ตาม  สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้เล็กน้อย  สามารถทากิจกรรมร่วมกับผู้อื่นได้ - เกี่ยวกับสติปัญญา ความรู้ทั่วไป ผมสามารถนาความรู้ต่างๆ ที่ได้มาจากการฟัง การ อ่าน ในอดีตที่ผ่านมา มาใช้เป็นความรู้ที่อ้างอิงกับเหตุการณ์ต่างๆได้ การตัดสินใจและแก้ปัญหา ผมชอบที่จะทาอะไรด้วยตนเอง และ สามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้เป็นอย่างดี การบริหารเวลา ผมมักจะจัดสรรเวลาในการทากิจกรรมต่างๆไว้ ก่อนเสมอ แต่เมื่อเล่น Facebook ก็ทาให้เวลาในการทากิจกรรมต่างๆ ของผมนั้นเปลี่ยนไป
  • 7. 4 2) ขั้นการวิเคราะห์ข้อดีข้อบกพร่อง ผมขอสรุปเป็นตาราง ดังนี้ ข้อดี ข้อบกพร่อง ข้อควรพัฒนา ขยัน หมั่นเพียร ติด Facebook มากจน ไม่อ่านหนังสือเรียน ลดการเล่น Facebook มีความรับผิดชอบ หงุดหงิดง่าย ปรับปรุงการพูด การสนทนา มองโลกในแง่ดี คิดบวก เงียบ คิดมาก ไม่ค่อยพูด พัฒนาความมั่นใจ ในตนเอง ใส่ใจความรู้สึก ของผู้อื่น สงสัย และลืมง่าย ฝึกความอดทน จากตารางแสดงข้อมูลข้อดีข้อบกพร่องของผมนั้น ในด้านข้อดีนั้นก็มี หลายข้อ แต่มีอยู่ข้อหนึ่งที่ผมภูมิใจในตัวของผมเองมากที่สุด คือ ความ ขยันหมั่นเพียร ซึ่งผมมักจะตั้งใจทางาน ทาการบ้านให้เสร็จก่อนเสมอ แม้ว่า จะยังไม่ถึงเวลากาหนดส่งก็ตาม เพราะตัวผมคิดว่า ถ้าเราทาเสร็จก่อนจะได้ มีเวลาที่จะทาอย่างอื่น และก็ไม่ต้องมาเร่งมือทาตอนที่จะส่งไม่กี่ชั่วโมงด้วย และถ้าทาเสร็จก่อน แล้วนามาตรวจทาน แล้วเกิดข้อผิดพลาดก็ยังมีเวลาที่จะ แก้ไขได้อีกด้วย และในส่วนข้อบกพร่องของผมจากในตารางนั้นก็มีหลายเรื่องเช่นกัน แต่ ข้อบกพร่องที่ผมเห็นว่าสาคัญที่ควรจะได้รับการแก้ไขโดยเร็วก็คือ การที่ผม นั้น ติด Facebook มากจนเกินไปจนไม่มีเวลาที่จะอ่านหนังสือทบทวนการ เรียน โดยที่ผมจะชอบเล่น Facebook มาก ไม่ว่าจะทาอะไร ที่ไหนก็ต้อง โพสต์แสดงสถานะ ใน Facebook ตลอด และจะต้องเล่น Facebook ทุกวัน ตั้งแต่ตื่นนอน จนกระทั่งนอนหลับ ถ้าวันไหนไม่ได้เล่นจะเหมือนว่าขาด
  • 8. 5 อะไรไปในชีวิต ในส่วนข้อบกพร่องนี้ก็มีผลต่อสุขภาพทางร่างกายเป็นอย่าง มาก เพราะต้องต้องใช้สายตาจดจ่ออยู่กับหน้าจอตลอด ทาให้เสียสายตา และมีอาการปวดตาตามมา จนกระทั่งเป็นต้อ หรือสูญเสียการมองเห็นได้ 3) ขั้นกาหนดพฤติกรรมที่เป็นปัญหา และพฤติกรรมเป้ าหมาย จากข้อมูลในขั้นที่ 2 นั้น พฤติกรรมที่เป็นปัญหาของผม คือ การติด Facebook มากจนเกินไปจนไม่มีเวลาอ่านหนังสือทบทวนการเรียน พฤติกรรมเป้ าหมายของผมที่ต้องการพัฒนาตนเอง คือ ลดการเล่น Facebook ในแต่ละวันให้น้อยลง โดยที่จะต้องมีการวางแผนแก้ไขปัญหา และดาเนินการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ในทางด้านสาเหตุของปัญหานี้ ผม ศึกษาแล้วว่า มาจากพฤติกรรมความเคยชินของตัวผมเองมากกว่า ดังจะเห็น ได้จากรายละเอียดของปัญหานี้ ในขั้นที่ 4 ต่อไป 4) ขั้นรวบรวมข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับสาเหตุของปัญหา การเล่น Facebook มากจนเกินไปของผม ทาให้ไม่มีเวลาที่จะอ่าน หนังสือทบทวนตาราเรียน ผมจาได้ว่า มีอยู่วันหนึ่งผมเล่น Facebook ตั้งแต่ เช้า ไม่ได้ทาอะไรที่มีสาระเลย ได้แต่นั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์แล้วก็เล่น เกมส์ใน Facebook บ้าง สนทนาผ่านทาง Facebook บ้าง ทาอย่างนี้ จนกระทั่งถึงตอนเย็น จนทาให้ไม่ได้ทาการบ้าน และอ่านหนังสือเลย ผมขอสรุปสาเหตุของการเล่น Facebook ดังนี้ 1. นั่งวิตกจริตว่าทาไมเขาถึงไม่ส่งข้อความกลับ นี่เป็นอาการเริ่มต้นของโรคติด Facebook เลยครับ คือการนั่งรอ คอยให้มีคนมาตอบข้อความ โดยนั่งเฝ้าแต่ Facebook นั่งกด ไปเรื่อยๆ จน ผมไม่เป็นอันทาอะไร เดี๋ยวก็มานั่งดูแต่ Facebook อยู่เรื่อยๆ
  • 9. 6 2. ใช้เวลาอยู่กับ Facebook มากกว่า 1 ชม. ต่อวัน การใช้งาน Facebook เกิน 1 ถึง 2 ชั่วโมงต่อวันถือว่ามากเกินไป ครับ สาหรับคนทั่วไป ไม่รวมคนที่ใช้ Facebook ในการทางานนะครับ 3. เกิดอาการสับสนระหว่างชีวิตจริง กับ Facebook จากที่ผมอ่านข้อความต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสถานะ หรือคอมเมนท์ ของคนต่างๆ มากไป ทั้งที่เรื่องนั้นๆ เป็นทั้งเรื่องจริง และไม่จริง แต่ผมเริ่ม ไม่สามารถแยกแยะได้ว่าโลกแห่งความจริง กับโลกออนไลน์นั้นมันคนละ อันกัน และเก็บเรื่องนั้นๆ มาเป็นอารมณ์ของตนเอง 4. รู้สึกกระวนกระวายใจถ้าไม่ได้เล่น Facebook เหมือนกับเป็นคนติดยาเมื่อไม่ได้เสพ Facebook ต้องคอยหา อุปกรณ์มาเปิดดูสถานะล่าสุดของ Facebook ตลอดเวลา และผมจะรู้สึก โมโห, หงุดหงิด, หรือซึมเศร้า เมื่อไม่ได้เล่น Facebook 5) ขั้นเลือกเทคนิคเพื่อวางแผนพัฒนาตนเอง จากข้อมูลบนเว็บไซต์ http://tech.mthai.com/software/23288.html ที่มี เกร็ดความรู้เกี่ยวกับ “ 5 วิธีบาบัด อาการติด Facebook ” ซึ่งให้แนวทางใน การแก้ไขปัญหาการติด Facebook ไว้และบวกกับประสบการณ์ของผม ผม จึงเลือกเทคนิคเพื่อวางแผนพัฒนาตนเอง เป็นดังนี้ 1. ค่อยๆเล่น Facebook ในแต่ละวันให้น้อยลง จากเดิมที่ผมเล่นFacebook ตลอดทั้งวัน ก็ลดเวลาการเล่น Facebook โดย กาหนดไว้เพียงวันละ 1 ชั่วโมง
  • 10. 7 2. ให้คนที่ผมไว้ใจช่วยดูการเข้าของFacebook ผม หลายครั้งที่ผมตั้งปฏิญาณอะไรไว้แล้วสุดท้ายต้องจบด้วยการทา ผิดซ้าซาก อันเกิดมาจากความเคยชินส่วนตัว ผมก็ต้องให้คนที่ผมไว้ใจได้มี ส่วนในการทักท้วง และแก้ปัญหา 3. ชัตดาวน์การเข้าถึงอินเตอร์เน็ต (ปิดอินเทอร์เน็ต) หากผมต้องใช้คอมพิวเตอร์แล้วกลัวจะอดใจจาก Facebook ไม่ได้ ให้ผมจัดการปิดการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต เพื่อที่จะไม่ให้ได้เล่น Facebook 4. ปิด Facebook App บนมือถือ เทคโนโลยีสมาร์ทโฟน ช่วยสนับสนุนการเข้าถึงFacebook ผ่าน แอพพลิเคชั่น จงทาให้แน่ใจว่าปิดแอพพลิเคชั่นเหล่านั้นไปแล้ว หรือถอด การติดตั้งออกไปเลยดีกว่า 5. ออกไปทากิจกรรมกลางแจ้ง หากิจกรรมทาร่วมกับเพื่อนๆ เพื่อลืมเรื่องราว Facebook บ้าง โดย ที่ผมจะได้นาเอาเวลาในส่วนนี้ไปอ่านหนังสือทบทวนตาราเรียน 6. เตือนตัวเองว่าเล่น Facebook เป็นอะไรที่เสียเวลา Facebook อาจช่วยให้การติดต่อสื่อสารกับเพื่อนฝูง ญาติสนิท มิตรเลิฟ ที่ห่างหาย กันได้อย่างง่ายๆ แต่มันเทียบไม่ได้สักเศษเสี้ยว กับการ พูดคุยพบปะกันในชีวิตจริงและยิ่งติดมากขึ้น ก็ลดโอกาสการพบเจอเพื่อนๆ มากขึ้น
  • 11. 8 6) ขั้นลงมือปฏิบัติเพื่อพัฒนาพฤติกรรมการติด Facebook ครั้งที่ 1 (ว/ด/ป) สถานการณ์นา พฤติกรรมการ เล่น Facebook ผลของ พฤติกรรม หมายเหตุ 4/ เม.ย./ 2558 เริ่มมีการอยากเล่น Facebook เกิดขึ้น จึงบอกกับตัวเองว่า ให้เล่น ประมาณ 1 ชั่วโมง พุดคุยกับเพื่อน แล้วนั่งดูโพสต์ ต่างๆที่มีคนแชร์ เข้ามา เล่นเกินเวลามา 30 นาที *ส ถ า น ที่ บ้าน ครั้งที่ 2 (ว/ด/ป) สถานการณ์นา พฤติกรรมการ เล่น Facebook ผลของ พฤติกรรม หมายเหตุ 5/ เม.ย./ 2558 เริ่มมีการอยากเล่น Facebook เกิดขึ้น จึงบอกกับตัวเองว่า ให้เล่น ประมาณ 1 ชั่วโมง นั่งดูโพสต์ต่างๆ ที่มีคนแชร์เข้า มา ใช้เวลาการเล่น 50 นาที แต่ใจ ยังอยากเล่นอยู่ แต่ก็พยายามทา ใจ ที่จะไม่เล่น ได้ *ส ถ า น ที่ บ้าน *ใช้เวลาที่ เหลือมาอ่าน หนังสือ ครั้งที่ 3 (ว/ด/ป) สถานการณ์นา พฤติกรรมการ เล่น Facebook ผลของ พฤติกรรม หมายเหตุ 6/ เม.ย./ 2558 มีการเล่น Facebook เกิดขึ้น เพื่อติดต่อ กับเพื่อน เรื่องงาน เมื่อพูดคุยกัน เสร็จแล้ว ผมจึง ปิด อินเทอร์เน็ต ลงทันที เศร้าใจที่จะปิด อินเทอร์เน็ตลง แต่ก็ทาให้ผม ตั้งใจอ่าน หนังสือมากขึ้น *ส ถ า น ที่ บ้าน *ใช้เวลาที่ เหลือมาอ่าน หนังสือ
  • 12. 9 ครั้งที่ 4 (ว/ด/ป) สถานการณ์นา พฤติกรรมการ เล่น Facebook ผลของ พฤติกรรม หมายเหตุ 7/ เม.ย./ 2558 เริ่มมีการอยากเล่น Facebook เกิดขึ้น เล่น Facebook แค่ 30 นาที จึง ปิด อินเทอร์เน็ต ลงทันที ทาให้ผมมีเวลา อ่านหนังสือ มากขึ้น *สถานที่ มหาวิทยาลัย ราชภัฎราช นครินทร์ ครั้งที่ 5 (ว/ด/ป) สถานการณ์นา พฤติกรรมการ เล่น Facebook ผลของ พฤติกรรม หมายเหตุ 7/ เม.ย./ 2558 เริ่มมีการอยากเล่น Facebook เกิดขึ้น แต่ผมลบ App Facebook ออกจาก โทรศัพท์มือถือ เพื่อที่จะไม่เล่น ก็ไม่มีการเล่น Facebook เกิดขึ้น สาหรับ ผม ทาให้ผมมีเวลา อ่านหนังสือ เรียนมากขึ้น *สถานที่ มหาวิทยาลัย ราชภัฎราช นครินทร์ สรุป การลงมือปฏิบัติเพื่อพัฒนาพฤติกรรมการติด Facebook ของผม นั้น ในช่วงวันแรกที่ลงมือปฏิบัติผมก็เล่น Facebook เกินเวลาที่ผมบอกกับ ตัวเองไว้ซึ่งเป็นมาจากความเคยชินที่ผมเคยเล่นตลอดเวลาในอดีตที่ผ่านมา แต่ พอมาถึงวันที่ 2 ผมเริ่มปรับตัวได้ก็ทาให้ผมเล่น Facebook ได้น้อยลงจากเดิม และมาถึงวันที่ 3 กับ 4 เมื่อมีการเล่น Facebook ผมจึงมีการปิดอินเทอร์เน็ต เพื่อที่จะไม่มีการเชื่อมต่อ จึงทาให้ผมสามารถเอาเวลาที่ไม่ได้เล่น Facebookนั้น มาสนใจการอ่านหนังสือทบทวนเวลาเรียนมากขึ้น แล้วก็มาถึงวันที่ 5 ของการ ลงมือปฏิบัติ ผมได้ทาการลบ App Facebook ขึ้น เพื่อที่จะไม่ต้องเข้าไปเล่น Facebookในขณะที่ผมกาลังเรียนอยู่ด้วย
  • 13. 10 7) ขั้นประเมินผลและขยายผล ผลจากการพัฒนาการติด Facebook มากจนเกินไป ของผมประสบ ความสาเร็จประมาณ 80% เนื่องจากผมมีการใช้ Facebook น้อยลงจากเดิม และ ทาให้ผมมีความตั้งใจอ่านหนังสือเพื่อทบทวนการเรียนมากขึ้นด้วย และส่วนอีก 20% ที่เหลือนั้นเพราะผมต้องเข้าไปใช้งาน Facebook เพื่อไปพูดคุยทั่วไป ทั้ง ในส่วนของการเรียน การพูดคุยทั่วไป จากเพื่อน และญาติพี่น้อง สิ่งที่เป็นตัวสนับสนุนการพัฒนาตนเองครั้งนี้คือ เวลาที่ใช้เล่น Facebook นั้น เอาไปใช้อ่านหนังสือเพื่อทบทวนตาราเรียนมากขึ้น และสิ่งที่เป็นอุปสรรค การพัฒนาตนเองครั้งนี้คือ ความเคยชินจากในอดีตที่ผ่านมา ที่จะเล่น Facebook ตลอดเวลานั่นเอง ผมตั้งใจว่าจะสามารถขยายผลการพัฒนาตนเอง เรื่องการติด Facebook มากจนเกินไป โดยที่จะเล่น Facebook ประมาร 15-20 นาทีต่อวัน หรือจะไม่ เล่น Facebook ตลอดไป ซึ่งรายงานครั้งนี้ผมก็ได้ประโยชน์เป็นอย่างยิ่งในเรื่อง ของการมีเวลาที่จะทบทวนการเรียน ทาการบ้านของผมเองมากขึ้นด้วย
  • 14. 11 รายการอ้างอิง 5 วิธีหักดิบพฤติกรรมผี facebook ของคุณ[ออนไลน์]. เข้าถึงเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2558.จาก http://tech.mthai.com/software/23288.html
  • 15. 12