SlideShare a Scribd company logo
1 of 8
Download to read offline
1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33201-33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6
ปีการศึกษา 2560
ชื่อโครงงาน ความขี้เกียจจงออกไป เอาความขยันกลับคืนมา !!
ชื่อผู้ทาโครงงาน
1. นางสาว มารีอา ด้วงทรง เลขที่ 1 ชั้น ม.6 ห้อง 13
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2560
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม
1 นางสาว มารีอา ด้วงทรง เลขที่ 1
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
ความขี้เกียจจงออกไป เอาความขยันกลับคืนมา !!
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
Lazy get out give study hard comeback
ประเภทโครงงาน เพื่อการศึกษา
ชื่อผู้ทาโครงงาน นางสาว มารีอา ด้วงทรง
ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนการศึกษาที่1
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน (อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการทาโครงงาน)
ขยัน คือ ความตั้งใจเพียรพยายามทาหน้าที่การงานอย่างต่อเนื่อง สม่าเสมอ อดทน ไม่ท้อถอยเมื่อพบอุปสรรค
ความขยันต้องควบคู่กับการใช้ปัญญาแก้ปัญหาจนเกิดผลสาเร็จตามความมุ่งหมาย เด็กที่มีความขยัน คือ เด็กที่
ตั้งใจทาอย่างจริงจังต่อ เนื่องในเรื่องที่ถูกที่ควร เป็นคนสู้งาน มีความพยายาม ไม่ท้อถอย กล้าเผชิญอุปสรรค รัก
งานที่ทา ตั้งใจทาหน้าที่อย่างจริงจัง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อตัวเด็กเอง ดังพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จ
พระเจ้าอยู่หัวฯ พระราชทานเพื่อเชิญลงพิมพ์ในหนังสือวันเด็ก ประจาปี 2530 ความว่า “เด็กๆนอกจากจะต้อง
เรียนความรู้แล้ว ยังต้องหัดทาการงานและทาความดีด้วย เพราะการทางานจะช่วยให้มีความสามารถ มีความ
ขยัน อดทน พึ่งตนเองได้ และการทาดีนั้นจะช่วยให้มีความสุข ความเจริญ ทั้งป้องกันตนไว้ไม่ให้ตกต่า”
ความขยันจะทาให้เด็กเป็นที่รักของคนอื่น เด็กขยันจะเป็นผู้สร้างประโยชน์ได้มาก ถ้าไม่ขยัน สิ่งที่ควรจะได้จาก
ชีวิตจะไม่เกิด ทั้งๆที่ฉลาด รู้ เข้าใจทุกอย่าง ถ้าเกียจคร้านก็คงไม่ประสบความสาเร็จ เราจึงควรมุ่งสอนเด็กให้มี
ความขยัน ทางานอย่างมีความสุข มีความตั้งอกตั้งใจทาจริง เห็นคุณค่าของสิ่งที่ทา และอดทนต่ออุปสรรคผู้ใหญ่
ควรปลูกฝังให้เด็กเห็นว่า “ไม่มีใครเคยประสบความสาเร็จ ทั้งที่ยังเกียจคร้าน” ความขี้เกียจ ความเกียจคร้าน
เป็นสิ่งน่ากลัว เป็นมลทินชีวิต เป็นอุปสรรคสาคัญที่ต้องเอาชนะด้วยวิริยะ ความมีจิตริเริ่ม ไม่ปล่อยตามสบาย
เลื่อนลอยไปเรื่อยๆ แต่เด็กๆจะต้องมีจิตริเริ่มที่จะทาสิ่งที่ควรทา พยายาม และมีความอดทนต่ออุปสรรคที่เกิดขึ้น
ระหว่างการทางานนั้นๆ เด็กทุกคนจึงควรได้รับอบรมเลี้ยงดูให้รู้จักงดเว้น รู้จักควบคุม รู้จักเอาชนะใจตัวเอง ฝึก
ให้เป็นผู้มีสติ มีความสันโดษ มีความอดทน มีระเบียบวินัย มีความขยัน หลีกละความชั่ว ประกอบความดี ไม่ย่อ
ท้อ ไม่ละเลยทอดทิ้งธุระหน้าที่ มีจิตใจที่รักการสู้เพื่อสิ่งที่ถูกต้อง มีการพัฒนาในทุกๆด้าน และมีความมุ่งมั่นที่จะ
ชนะตัวเอง ที่จะทาตัวเองให้ดีที่สุด
3
วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเป็นข้อ)
1.เพื่อให้มีความเชื่อมั่นในตัวเอง
2.เพื่อให้เราได้เปลี่ยนแปลงตัวเองจากหน้ามือเป็นหลังมือกลายเป็นคนขยัน
3.ทำให ้เรำรู้จักรับผิดชอบหน้ำที่ หรืองำนที่ได ้รับมอบหมำย
4.ทำให ้เรำเป็นคนซื่อสัตย์ สุจริต
5.มีหลักฐำนมั่นคง มีเกียรติดี เป็นที่ยอมรับของคนทั่วไป
6.สำมำรถเจริญก ้ำวหน้ำในชีวิตกำรงำน
7.ทาให้เป็นคนที่ประสบความสาเร็จในชีวิต
8.เป็นการฝึกตนเองให้มีความอดทน และฝึกวินัยให้ขยันหมั่นเพียร
9.มีความกระตือรือร้นและเพียรพยายามที่จะก้าวไปสู่จุดมุ่งหมาย
10.มีการตั้งเป้าหมายหรือจุดมุ่งหมายไว้ชัดเจน
11.สนใจใฝ่หาความรู้และประสบการณ์อยู่เสมอเพื่อนามาพัฒนางานอาชีพของเรา
12.พยายามศึกษาหรือแบบอย่างปฏิบัติตามจากผู้ที่ประสบความสาเร็จในชีวิต
ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน)
1.ใช้ข้อมูลที่เป็นจริงและมีข้อพิสูจน์แล้ว
2.มีเนื้อหาที่เข้าใจง่ายและละเอียด
3.มีการอธิบายอย่างเป็นขั้นเป็นตอน
4.บอกวิธีที่ทาให้เป็นคนขยัน
หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน)
วิธีที่จะช่วยสร้างความขยันและขจัดความขี้เกียจ
1.ค่อยๆทาทีละอย่าง หลายๆครั้งที่ตัวผมเองเริ่มมีตัวขี้เกียจคอยกัดกินจิตใจ มันเป็นเพราะว่าผมพยายามจะทา
อะไรหลายๆอย่างมากเกินไป ตอนแรกก็นึกว่าจะเป็นเฉพาะกับผมคนเดียว พอถามๆคนรอบข้างดู ผมก็ได้ค้นพบ
ว่าผมไม่ได้เป็นอยู่คนเดียว การพยายามจะทาอะไรหลายๆอย่างให้มันเสร็จพร้อมๆกันทาให้ไม่สูญเสียพลังงาน
และสมาธิอย่างรวดเร็ว คุณจาเป็นต้องเลือกว่าตอนนี้ ณ ขณะนี้ คุณจะทาอะไร แล้วก็ทาซะ โดยอย่าแบ่งจิตใจ
หรือความกังวลใดๆทั้งสิ้นไปให้กับอย่างอื่นเด็ดขาด ผมรู้ดีครับว่ามันยาก แต่อย่างไรก็ตาม ในความคิดของผม
แล้ว นีีีคือทางเลือกที่ดีที่สุด
2.หาแรงบันดาลใจ โดยส่วนตัวแล้ว แรงบันดาลใจของผมมาจากการที่มองเห็นผู้อื่นประสบความสาเร็จในสิ่งที่ผม
อยากจะทา ผมจะหมั่นหาเรื่องราวเหล่านี้มาอ่านอยู่เสมอๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวจาก blog จากนิตยสาร จาก
google จากทุกที่ที่ผมสามารถหาได้
3.ตื่นเต้นกันหน่อย ผมเชื่อว่าทุกๆคนรู้ดีอยู่แล้วตรงข้อนี้ แต่ผมก็เห็นคนเหล่านั้นจานวนมากละเลยข้อนี้เช่นกัน
แต่มันก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่นัก (ตัวผมเองก็เป็นอยู่บ่อยๆ) เราจะตื่นเต้นได้ยังไงกันเล่าในเมื่อ ณ เวลานี้ เราี
กาลังเต็มไปด้วยตัวขี้เกียจทุกรูขุมขน คาตอบที่มัน work กับตัวผมก็คือ ต้องเริ่มจากการได้รับแรงบันดาลใจมา
ก่อน (กล่าวไปแล้วในข้างต้น) หลังจากที่ได้แรงบันดาลใจแล้ว ผมก็จะพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่ผมได้รับแรงบันดาลใจนี้
กับทุกคนที่อยู่รอบข้าง (ฟังผมโม้กันจนเบื่อ) หลังจากนั้น ผมก็จะนั่งเพ้อฝันนึกจินตนาการถึงภาพตัวผมเองตอนที่
ประสบความสาเร็จในสิ่งที่ต้องการเป็นครึ่งชั่วโมง รู้ตัวอีกที ผมก็แทบอยากจะรีบกระโจนเข้าใส่งานทันที
4
4.สร้างความคาดหวัง มันอาจจะฟังดูยากสักหน่อย และหลายๆคนก็มักจะไม่ทาข้อนี้กัน แต่มันสามารถทาให้ผม
เลิกสูบบุหรี่ได้ หลังจากที่ผมพยายามและล้มเหลวอยู่ตั้งหลายครั้งก่อนหน้านี้ ถ้าคุณพบแรงบันดาลใจของคุณแล้ว
คุณจะตื่นเต้น และอยากที่จะเริ่มทาทันที นี่คือความผิดพลาดใหญ่หลวง คุณต้องกาหนดวันที่ในอนาคต อาจจะ
หนึ่งสัปดาห์ สองสัปดาห์ หรือแม้กระทั่งหนึ่งเดือน กาหนดไว้ทาไมเหรอครับ กาหนดไว้เพื่อที่จะเป็นวันที่คุณจะ
เริ่มต้นทาในสิ่งที่คุณอยากจะทา หลังจากกาหนดวันนั้นไว้แล้ว ก็ให้สร้างความคาดหวังกับมันไว้มากๆ ทาให้วัน
นั้นมีความสาคัญในชีวิตยิ่งกว่าวันเกิดของตัวคุณเองได้ยิ่งดี และระหว่างที่จะรอให้วันมาถึง ก็ขอให้ใช้เวลานี้ของ
คุณวางแผนการขั้นตอนซะ นี่เป็นเทคนิคสาคัญที่จะช่วยสร้างสมาธิและพลังงานทีคุณต้องใช้ในการที่จะบรรลุ
เป้าหมายของคุณ
5.แปะเป้าหมายของคุณให้อยู่ทุกที่ เขียนตัวใหญ่ๆเลยครับ เอาให้ตัวหนังสือใหญ่กว่าีบัตรประชาชนไปเลย
หลังจากนั้นก็นาเป้าหมายที่พิมพ์ออกมาไปแปะไว้ทุกที่ที่คุณจะต้องเดินผ่าน ไม่ว่าจะเป็นกระจกในห้องน้า ตู้เย็น
โต๊ะที่ทางาน ทาเป็นภาพ background บนเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ คุณจาเป็นต้องย้าเตือนตัวเองให้บ่อย
ที่สุดและสร้างความตื่นเต้นของคุณให้มากที่สุด ถ้าไม่เป็นตัวหนังสือ ใช้ภาพแทนก็ได้นะครับ (บางคนที่อยากลด
ความอ้วน ก็ให้ติดภาพสาวเอวบางร่างน้อยเอาไว้ทุกซอกทุกมุมเลยก็ดีครับ)
6.ป่าวประกาศให้ชาวบ้านรับรู้ ไม่มีใครหรอกครับที่อยากจะมีภาพลักษณ์แย่ๆในสายตาชาวบ้าน พวกเราทุกคน
จะยอมทุ่มทุกอย่างเพื่อที่จะทาให้อะไรสักอย่างสาเร็จ ถ้าหากว่าเราสัญญากับสาธารณชนไว้ (ยกเว้นนักการเมือง
บางคน) ถ้าจะให้ยกตัวอย่างก็คือ ตอนที่ผมจะวิ่งมาราธอน ผมได้เขียนถึงความมุ่งมั่นของผมข้อนี้ลงใน
หนังสือพิมพ์ประจาหมู่บ้านของผม ประชากรเป็นร้อยคนรับรู้ว่าผมจะวิ่งมาราธอน ผมติดอยู่ในสถานะที่ผม
จาเป็นต้องวิ่งมาราธอนให้ได้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม และมันกได้ผลครับ สุดท้าย ผมก็สามารถกัดฟันวิ่ง
มาราธอนเข้าเส้นชัยจนได้ ไม่ครับ ผมไม่ได้บอกว่าคุณต้องทาถึงขนาดนี้ แต่คุณสามารถป่าวประกาศให้ครอบครัว
และเพื่อนร่วมงานของคุณทราบได้ หรือไม่ก็ คุณก็สามารถเขียนมันลงไปใน blog ก็ได้นครับ (ถ้ามี) แล้วไม่ใช่แค่
พูดครั้งเดียวแล้วจบกันนะครับ คุณต้องคอยรายงานความก้าวหน้าเรื่อยๆ เป็นการบังคับตัวคุณเองทางอ้อมที่
ได้ผลมากๆเลยทีเดียว
7.คิดถึงเป้าหมายทุกวัน ถ้าคุณคิดถึงเป้าหมายของคุณทุกวัน โอกาสที่มันจะกลายเป็นความจริงจะมีสูงมาก การ
พิมพ์เป้าหมายของคุณด้วยตัวหนังสือตัวใหญ่ๆแล้วนาไปแปะให้คุณเห็นอยู่ตลอด (ที่กล่าวไว้ข้างต้น) ไม่ว่าคุณจะ
อยู่ที่ไหนก็ตาม สามารถช่วยได้มาก แบ่งเวลาสักวันละ 5 นาทีก็ได้ครับ เพื่อที่จะปล่อยให้ความคิดของคุณ
ล่องลอยไปกับเป้าหมายทีใฝ่ฝันเอาไว้ มันจะมีผลมหาศาลเลยทีเดียวในระยะยาว
8.ต้องมี Support มันเป็นอะไรที่ยากมากๆที่จะบรรลุเป้าหมายได้ หากคุณต้องทาอยู่คนเดียว ตอนที่ผมตัดสินใจ
จะวิ่งแข่งมาราธอน ผมได้รับกาลังใจอย่างมากจากเพื่อนๆและครอบครัว รวมไปถึงสมาชิกในชมรมนักวิ่งทุกคน
ตอนที่ผมตัดสินใจจะเลิกสูบบุหรี่ ผมได้รับกาลังอย่างมากอีกเช่นเดียวกันจากเพื่อนๆในเว็บบอร์ด และแน่นอน
ภรรยาของผมก็คอยให้กาลังใจทุกเช้าทุกเย็น คุณเองเวลาจะทาอะไรอย่างนึง ก็จาเป็นต้องหา support ของคุณ
ไม่ว่าจะเป็น support ในออนไลน์หรือออฟไลน์ก็ตาม
9.ทุกอย่างมีขึ้นมีลง ความขยันและความมุ่งมั่นใช่ว่าจะมีอยู่ตลอดเวลา ถ้าจะให้เปรียบ มันก็เหมือนน้าขึ้นน้าลง
นั่นแหละครับ เวลาที่เรารู้สึกท้อแท้ ตระหนักไว้เลยครับว่าเดี๋ยวมันก็หาย ระหว่างที่รอให้ตัวคุณเองกลับมารู้สึกฟิต
5
อีกครั้ง ก็ขอให้คุณลองอ่านเรื่องราวที่ประสบความเร็จของผู้อื่นไปพลางๆ หรือไม่ก็ขอความช่วยเหลือจาก idol
ของคุณดูก็ได้ครับ ขอให้อดทนต่อไปสักหน่อย อีกไม่นาน ตัวขี้เกียจพวกนี้มันก็จะหลุดไปจนหมดเอง
10.อย่าออกนอกเส้นทาง ไีม่ว่าคุณจะทาอะไรอยู่ก็ตาม อย่ายอมแพ้หรือเลิกกลางคันเด็ดขาด ถึงแม้ว่าวันนี้ คุณจะ
รู้สึกขี้เกียจสุดๆ (หรืออาจจะรู้สึกขี้เกียจเป็นสัปดาห์เลยก็ได้) ขอให้รอสักหน่อย เดี๋ยวตัวขี้เกียจมันจะหลุดของมัน
ไปเอง ให้ลองคิดว่าเป้าหมายของคุณคือการเดินทางไป Mordor เพื่อทาลายแหวนของ Frodo ใน Lord of the
Rings ก็ได้ครับ ส่วนตัวขี้เกียจที่แวะมาเยือนเป็นครั้งคราวก็เปรียบเหมือนอุปสรรคนานัปการที่ Frodo กับ Sam
ต้องเจอะเจอ แล้วคุณจะพบว่า การถอดใจตอนนี้เพียงเพราะว่าปัญหาขี้ปะติ๋วเหล่านี้ มันเป็นเรื่องที่น่าอายมากๆ
เลยทีเดียว
11.ก้าวสั้นๆ ถ้าคุณกาลังรู้สึกว่ามันยากเหลือเกินที่จะเริ่มต้นทาอะไรสักอย่าง มันอาจจะเป็นสาเหตุมาจากการที่
คุณคิดจะเริ่มทาสิ่งที่ใหญ่เกินไป ถ้าคุณต้องการจะเริ่มออกกาลังกาย คุณอาจจะคิดว่า คุณต้องออกกาลังกายวัน
หนึ่งชั่วโมง สัปดาห์ละห้าวัน การคิดแบบนี้มันจะทาให้คุณรู้สึกท้อแท้ ถอดใจ และขี้เกียจเอาง่ายๆ แทนที่จะเป็น
เช่นนั้น ทาไมถึงไม่ลองคิดจะออกกาลังกายวันละ 2 นาทีดูละครับ ใช่ครับ 2 นาทีเท่านั้น! ใครกันละครับที่จะออก
กาลังกายวันละ 2 นาที ทุกๆวันไม่ได้ (ถ้าคุณคือคนๆนั้น ผมต้องขอโทษด้วยจริงๆครับ) มันน้อยเสียจนคุณอาจจะ
อยากเพิ่งเวลาให้กับมัน แต่อย่าเพิ่งครับ เอาแค่ 2 นาทีนี่แหละครับ แล้วทาไปเรื่อยๆติดต่อกันหนึ่งสัปดาห์ พอ
ผ่านไปครบ 1 สัปดาห์แล้ว อาทิตย์นี้ เรามาลองออกกาลังกายวันละ 5 นาทีกัน แล้วก็ทาแบบนี้เป็นเวลาอีก 7 วัน
แล้วก็ทาไปเรื่อยๆๆๆๆๆๆ เพียงเวลาแค่ 2-3 เดือน คุณก็จะพบว่าตัวเองกาลังออกกาลังกายวันละ 30 นาที ทุก
วัน โดยไม่ต้องใช้ความพยายามเลยแม้แต่นิดเดียว อีกตัวอย่างหนึ่งก็คือการตื่นนอนตอนเช้า อย่าเพิ่งเริ่มโดยการ
คิดว่า จากนี้ไป เราจะตื่นตอนตี 5 ทุกวัน แต่ให้เราเริ่มจากการตื่นนอนเร็วขึ้นกว่าปกติสัก 10 นาทีเป็นเวลาสัก
หนึ่งอาทิตย์ หลังจากกนั้นก็ค่อยๆเพิ่มไปเรื่อยๆจนกระทั่งถึง ตี 5 ก้าวทีละสั้นๆ แต่ได้ผลอย่างยั่งยืนจริงๆครับ
12.นาความสาเร็จที่ได้รับมาแปลงเป็นพลังให้ก้าวต่อไป การที่เราเริ่มทาอะไรเล็กๆน้อยๆอย่างที่ยกตัวอย่างไปใน
ข้างต้นนี้ มันจะทาให้เราประสบความสาเร็จตามที่ตั้งเป้าหมายไว้อย่างแน่นอน และเมื่อเราทาสาเร็จ จงเก็บเอา
ความรู้สึก ณ ช่วงเวลาแห่งความสาเร็จนั้นไว้ และเปลี่ยนมันให้กลายเป็นพลังในการก้าวเดินไปบนถนนสายที่เรา
เลือกต่อไป มันจะทาให้การเดินทางของเราบนถนนสายนี้เป็นการเดินทางที่เต็มไปด้วยความสาเร็จระหว่างจริงๆ
พอรู้ตัวอีกที ว้าว! นี่ทุกวันนี้ เราออกกาลังกายได้วันละ 50 นาทีเลยหรือนี่!
13.อ่านอะไรก็ได้เกี่ยวกับเป้าหมายของคุณทุกวัน เมื่อไหร่ก็ตามที่ผมรู้สึกขี้เกียจขึ้นมา ผมก็มักจะบังคับให้ตัวเอง
อ่านเรื่องราวความสาเร็จของคนอื่น มันจะทาให้ผมรู้สึกมีกาลังใจและมีแรงที่จะสู้ต่อไปได้อย่างน่ามหัศจรรย์
นอกจากนี้ มันยังทาให้ผมรู้สึกมีสมาธิในสิ่งที่ผมอ่านถึงมากกว่าเดิมอีกด้วย เพราะฉะนั้น คุณน่าจะอ่านเป้าหมาย
ของคุณทุกวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาที่คุณรู้สึกว่าตัวเองกาลังโดนตัวขี้เกียจดูดเอาความขยันออกไป
14.คุยเวลาขี้เกียจ คุณกาลังรู้สึกขี้เกียจอยู่รึเปล่า ถ้าใช่ โทรหาแม่ โทรหาแฟน ตั้งกระทู้ในเว็บนี้ E-Mail หาผม
หรือจะติดต่อใครก็ได้ จากนั้นก็ขอความช่วยเหลือ ขอคาแนะนา ส่วนมากแล้ว สิ่งที่เราได้ทามักจะเป็นการบ่น
ตัวเองให้ชาวบ้านฟังมากกว่าว่า "เอ๊ะ! ทาไมวันนี้ขี้เกียจจังวะ" มันดูเหมือนจะช่วยถ่ายความขี้เกียจออกจากตัว
เราไปได้บ้างอยู่เหมือนกันนะครับ
6
15.คิดถึงแต่ด้านดี อย่าไปใส่ใจกับความยากลาบาก นี่คือหนึ่งในปัญหายอดฮิตเลยทีเดียว ออกกาลังกายทุกวัน?
แค่พิมพ์ก็ฟังดูยากแล้ว เรียกได้ว่า ยังไม่ทันเหงื่อออก ผมก็รู้สึกเหนื่อยซะแล้ว สุดท้าย ผมก็เลยไม่ได้ออกกาลังกาย
ไปซะอย่างนั้น แต่ถ้าผมคิดดูว่า ออกกาลังกายทุกวัน มันจะทาให้ผมไม่ต้องโดนหมอฉีดยา มันจะทาให้ผมรูปร่างดี
สมส่วน ถ้าผมคิดแบบนี้ มันก็จะทาให้ผมมีกาลังใจขึ้นมา และสลัดตัวขี้เกียจออกไปได้
16.ขยี้ความคิดแง่ลบซะ แล้วแทนที่มันด้วยความคิดในแง่บวก มันเป็นเรื่องสาคัญมากนะครับที่คุณจาเป็นต้องเริ่ม
สารวจดูความคิดของตนเอง เมื่อไหร่ที่คุณรู้ตัวว่ากาลังคิดความคิดที่มีประจุลบอยู่ เมื่อนั้นแหละครับที่คุณจะรู้สึก
หมดอาลัยตายอยาก อยากจะขี้เกียจตลอดชาติ ลองใช้เวลาสักสองสามวันสารวจความคิดของตัวคุณเองดูนะครับ
ดูสิว่าในเวลาที่กาหนดนี้ คุณคิดอะไรลบๆบ้าง หลังจากนั้นก็ใช้เวลาอีกสองสามวัน นั่งสารวจ
17.คิดเเล้วทาเลย
ตัดคาว่า”เดี๋ยว” ออกไป ถ้าคิดจะทา ก็ขอให้เริ่มตั้งเเต่เดี๋ยวนี้เลย ถ้ายิ่งรีรอไม่ยอมทามันสักที คุณก็จะเริ่มขี้เกียจ
จนสุดท้ายก็ไม่ได้ทา
18.เชื่อมั่นในตัวเอง
เอาทัศนคติที่ว่า “เราทาไม่ได้หรอก” ออกไปจากความคิด เพราะก่อนที่เราจะประสบความสาเร็จได้นั้น คุณต้อง
ลงมือทาซะก่อน ต้องลองผิดลองถูกกันบ้าง
19. เตรียมร่างกายเเละสมองให้พร้อม
กินอาหารที่ดี มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ เพราะถ้าร่างกายไม่พร้อม อะไรๆ ก็ดูไม่พร้อมไปเสียหมด
20.เลือกทาในสิ่งที่เรารักหรือสิ่งที่ฝันก่อน
เพราะถ้าเราทาอะไรในสิ่งที่ชอบ โดยไม่ถูกบีบบังคับ เราก็จะมีความุข เเละจะทาในสิ่งนั้นให้ดีที่สุด เเละมี
ประสิทธิภาพ
21.สร้างเเรงบันดาลใจ
ลองหาเเรงจูงใจหรือเเรงบันดาลใจ ว่าสิ่งที่ทานั้น ทาไปเพื่ออะไร เเละทาไปเพื่อใคร เป้าหมายคืออะไร ทาเเล้วมี
ผลดีอย่างกับตัวเราเเละคนรอบข้าง
22.เขียนตารางบันทึก
ลองทาตารางบันทึก เช็คลิสท์ว่าเราต้องทาอะไรบ้างในวันนี้ เเละทาเเล้วได้อะไร เรื่องนี้จะช่วยให้คุณใช้ชีวิตอย่าง
มีระบบระเบียบมากขึ้น
23.อย่าตั้งเป้าหมายสูงไว้เกินไป
การตั้งเป้าหมายไว้สูง เวลาที่ผิดหวังจะทาให้เราเสียใจมากตามไปด้วย เรียกว่าได้ว่าตั้งเป้าหมาย ค่อยๆ ไต่ไปที
ละเล็กละน้อย ค่อยเป็นค่อยไปจะดีกว่านะคะ
24.ให้รางวัลกับตัวเองบ้าง
เช่น ถ้าตั้งใจลดน้าหนัก เเละได้ทามาหลายวันเเล้ว เราอาจจะอยากกินอะไรที่เป็นของชอบสักมื้อ เพื่อให้การใช้
ชีวตอย่างมีความสุข
ใครที่กาลังรู้สึกว่าตัวเอง "ขี้เกียจ" ซะเหลือเกิน ต้องเเริ่มปฏิวัติตัวเองให้หลุดจากขี้เกียจสักที เพราะความขี้เกียจ
จะเป็นอุปสรรคในการทาสิ่งต่างๆ ในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการเรียน การทางาน น้องๆ หลายคนมักจะติดคาว่า
"เดี๋ยว" เดี๋ยวค่อยทา เดี๋ยวค่อยอ่าน เดี๋ยวค่อย....สารพัดเดี๋ยว
วันนี้เรามาดูกันดีกว่า ว่าเราจะขจัดความขี้เกียจนี้ออกไปได้ยังไง มาดูกันเลยย
7
25. ตัดคาว่า "เดี๋ยว" ออกไปจากชีวิต
26. ลบความคิดที่ว่าเรา "ทาไม่ได้" ออกจากความคิด เพราะก่อนที่จะประสบความสาเร็จ มันก็ต้องมีลองผิดลอง
ถูกกันบ้าง อย่างที่เค้าว่าไว้ว่า "ผิดเป็นครู" ไงค่ะน้องๆ
27. เตรียมร่างกายและสมองให้พร้อม ทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ
28. เลือกทาในสิ่งที่รักหรือสิ่งที่ฝันก่อน เพราะถ้าเราทาอะไรในสิ่งที่ชอบโดยไม่ถูกบังคับเราก็จะมีความสุขและทา
ในสิ่งนั้นได้ดี
29. สร้างแรงบันดาลหรือแรงจูงใจ ว่าจะทาเพื่อใคร หรือทาแล้วจะดีอย่างไร
30. เขียนตารางบันทึก ว่าเราต้องทาอะไรในวันนี้บ้าง และได้ทาอะไรไปแล้วบ้าง เพื่อเป็นการทบทวนและกันลืม
ไปในตัว และทาให้ชีวิตมีระบบระเบียบมากขึ้น
31. อย่าตั้งเป้าหมายไว้สูงจนเกินไป เพราะถ้าผิดหวังหรือทาพลาดเราก็จะเสียใจมากตามไปด้วย เรียกว่าค่อยเป็น
ค่อยไป เช่นถ้าวันนี้เราตั้งใจอ่านหนังสือ10 หน้า พรุ่งนี้และวันถัดไปเราก็ค่อยเพิ่มจานวนหน้าขึ้นตามลาดับ
32. ให้รางวัลกับตัวเองบ้าง เช่น ถ้าตั้งใจลดน้าหนักและทามาได้หลายวันแล้ว เราอาจจะกินอะไรที่เป็นของชอบ
บ้างสักมื้อ
33. ลงมือปฏิบัติ เพราะถ้าเราแค่คิด ต่อให้มีความคิดสร้างสรรค์สักแค่ไหนแต่ถ้าไม่ลงมือทาทุกอย่างก็เท่ากับศูนย์
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
-ปรึกษาเลือกหัวข้อ
-นาเสนอหัวข้อกับครูผู้สอน
-ศึกษารวบรวมข้อมูล
-จัดทารายงาน
-นาเสนอครู
-ปรับปรุงแก้ไข
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
-อินเตอร์เน็ต
-คอมพิวเตอร์
-โทรศัพท์
งบประมาณ
ไม่ใช้ งบประมาณ____________________________________________________
__________________________________________________________________
8
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดับ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9
1
0
1
1
12
1
3
1
4
1
5
16 17
1 คิดหัวข้อโครงงาน / / /
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล / / /
3 จัดทาโครงร่างงาน / / /
4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน / / /
5 ปรับปรุงทดสอบ / / /
6 การทาเอกสารรายงาน / / /
7 ประเมินผลงาน / / /
8 นาเสนอโครงงาน / / /
ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทาโครงงาน)
1.ผู้จัดทามีความเข้าใจในหัวข้อที่สนใจ
2.สามารถนาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน
3.สามารถนาความรู้ไปเผยแผ่ให้เพื่อนนักเรียน
4.ผู้จัดทามีความเข้าใจในการทางานมากขึ้น
สถานที่ดาเนินการ
-ห้องคอมพิวเตอร์โรงเรียนยุพราช
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
-กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษา
-กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
-กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่นามาใช้การทาโครงงาน)

More Related Content

What's hot

Ppt.งานนำเสนอ1จิตอาสาพัฒนาตนเองด้านการอ่าน
Ppt.งานนำเสนอ1จิตอาสาพัฒนาตนเองด้านการอ่านPpt.งานนำเสนอ1จิตอาสาพัฒนาตนเองด้านการอ่าน
Ppt.งานนำเสนอ1จิตอาสาพัฒนาตนเองด้านการอ่านAmonrat Ratcharak
 
รายงานเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
รายงานเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์รายงานเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
รายงานเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์พัน พัน
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงาน
แบบเสนอโครงร่างโครงงานแบบเสนอโครงร่างโครงงาน
แบบเสนอโครงร่างโครงงานChamp Wachwittayakhang
 
โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่อง การออกแบบอาคาร บ้าน เรือน ด้วยโปรแกรม 3 มิติ
โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่อง การออกแบบอาคาร บ้าน เรือน ด้วยโปรแกรม 3 มิติโครงงานคอมพิวเตอร์เรื่อง การออกแบบอาคาร บ้าน เรือน ด้วยโปรแกรม 3 มิติ
โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่อง การออกแบบอาคาร บ้าน เรือน ด้วยโปรแกรม 3 มิติพัน พัน
 
เรื่อง การดำรงชีวิตอย่างมีความสุข
เรื่อง  การดำรงชีวิตอย่างมีความสุขเรื่อง  การดำรงชีวิตอย่างมีความสุข
เรื่อง การดำรงชีวิตอย่างมีความสุขwann555
 
โครงงาน ระดับ ปวช. วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น
โครงงาน ระดับ ปวช. วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่นโครงงาน ระดับ ปวช. วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น
โครงงาน ระดับ ปวช. วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่นkvcthidarat
 
แบบทดสอบ ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.3
แบบทดสอบ ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.3แบบทดสอบ ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.3
แบบทดสอบ ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.3teerachon
 
ประโยคตามเจตนา 7
ประโยคตามเจตนา 7ประโยคตามเจตนา 7
ประโยคตามเจตนา 7Nongkran Jarurnphong
 
บันทึกข้อความขออนุญาตประชุมสามัญสภานักเรียนครั้งที่ 1/2560
บันทึกข้อความขออนุญาตประชุมสามัญสภานักเรียนครั้งที่ 1/2560บันทึกข้อความขออนุญาตประชุมสามัญสภานักเรียนครั้งที่ 1/2560
บันทึกข้อความขออนุญาตประชุมสามัญสภานักเรียนครั้งที่ 1/2560สภานักเรียน ส.ป. samutprakanstudentcouncil
 
เฉลยฝึกหัดการแต่งโคลงสี่สุภาพ
เฉลยฝึกหัดการแต่งโคลงสี่สุภาพเฉลยฝึกหัดการแต่งโคลงสี่สุภาพ
เฉลยฝึกหัดการแต่งโคลงสี่สุภาพกึม จันทิภา
 
เฉลยแบบฝึกหัดหน่วยที่ 4
เฉลยแบบฝึกหัดหน่วยที่ 4เฉลยแบบฝึกหัดหน่วยที่ 4
เฉลยแบบฝึกหัดหน่วยที่ 4Thanawut Rattanadon
 
โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่อง การใช้โปรแกรม สเก็ตอัพ 2014 (sketchup 2014 )
โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่อง  การใช้โปรแกรม สเก็ตอัพ 2014 (sketchup 2014 )โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่อง  การใช้โปรแกรม สเก็ตอัพ 2014 (sketchup 2014 )
โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่อง การใช้โปรแกรม สเก็ตอัพ 2014 (sketchup 2014 )พัน พัน
 
แบบประเมินการนำเสนอผลงาน
แบบประเมินการนำเสนอผลงานแบบประเมินการนำเสนอผลงาน
แบบประเมินการนำเสนอผลงานKhemjira_P
 
โครงร่างรายงาน6/5
โครงร่างรายงาน6/5โครงร่างรายงาน6/5
โครงร่างรายงาน6/5ChutimaKerdpom
 
สรุปหัวใจชายหนุ่ม
สรุปหัวใจชายหนุ่มสรุปหัวใจชายหนุ่ม
สรุปหัวใจชายหนุ่มNattha-aoy Unchai
 
แบบประเมินโครงการแสดงความยินดี
แบบประเมินโครงการแสดงความยินดีแบบประเมินโครงการแสดงความยินดี
แบบประเมินโครงการแสดงความยินดีmaethaya
 

What's hot (20)

Ppt.งานนำเสนอ1จิตอาสาพัฒนาตนเองด้านการอ่าน
Ppt.งานนำเสนอ1จิตอาสาพัฒนาตนเองด้านการอ่านPpt.งานนำเสนอ1จิตอาสาพัฒนาตนเองด้านการอ่าน
Ppt.งานนำเสนอ1จิตอาสาพัฒนาตนเองด้านการอ่าน
 
หน่วย 1
หน่วย 1หน่วย 1
หน่วย 1
 
รายงานเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
รายงานเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์รายงานเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
รายงานเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงาน
แบบเสนอโครงร่างโครงงานแบบเสนอโครงร่างโครงงาน
แบบเสนอโครงร่างโครงงาน
 
โครงงานวุ้นกะทิ
โครงงานวุ้นกะทิโครงงานวุ้นกะทิ
โครงงานวุ้นกะทิ
 
โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่อง การออกแบบอาคาร บ้าน เรือน ด้วยโปรแกรม 3 มิติ
โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่อง การออกแบบอาคาร บ้าน เรือน ด้วยโปรแกรม 3 มิติโครงงานคอมพิวเตอร์เรื่อง การออกแบบอาคาร บ้าน เรือน ด้วยโปรแกรม 3 มิติ
โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่อง การออกแบบอาคาร บ้าน เรือน ด้วยโปรแกรม 3 มิติ
 
เรื่อง การดำรงชีวิตอย่างมีความสุข
เรื่อง  การดำรงชีวิตอย่างมีความสุขเรื่อง  การดำรงชีวิตอย่างมีความสุข
เรื่อง การดำรงชีวิตอย่างมีความสุข
 
โครงงาน ระดับ ปวช. วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น
โครงงาน ระดับ ปวช. วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่นโครงงาน ระดับ ปวช. วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น
โครงงาน ระดับ ปวช. วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น
 
แบบทดสอบ ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.3
แบบทดสอบ ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.3แบบทดสอบ ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.3
แบบทดสอบ ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.3
 
ประโยคตามเจตนา 7
ประโยคตามเจตนา 7ประโยคตามเจตนา 7
ประโยคตามเจตนา 7
 
บันทึกข้อความขออนุญาตประชุมสามัญสภานักเรียนครั้งที่ 1/2560
บันทึกข้อความขออนุญาตประชุมสามัญสภานักเรียนครั้งที่ 1/2560บันทึกข้อความขออนุญาตประชุมสามัญสภานักเรียนครั้งที่ 1/2560
บันทึกข้อความขออนุญาตประชุมสามัญสภานักเรียนครั้งที่ 1/2560
 
คค
 
ปกโครงงานคณิตศาสตร์
ปกโครงงานคณิตศาสตร์ปกโครงงานคณิตศาสตร์
ปกโครงงานคณิตศาสตร์
 
เฉลยฝึกหัดการแต่งโคลงสี่สุภาพ
เฉลยฝึกหัดการแต่งโคลงสี่สุภาพเฉลยฝึกหัดการแต่งโคลงสี่สุภาพ
เฉลยฝึกหัดการแต่งโคลงสี่สุภาพ
 
เฉลยแบบฝึกหัดหน่วยที่ 4
เฉลยแบบฝึกหัดหน่วยที่ 4เฉลยแบบฝึกหัดหน่วยที่ 4
เฉลยแบบฝึกหัดหน่วยที่ 4
 
โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่อง การใช้โปรแกรม สเก็ตอัพ 2014 (sketchup 2014 )
โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่อง  การใช้โปรแกรม สเก็ตอัพ 2014 (sketchup 2014 )โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่อง  การใช้โปรแกรม สเก็ตอัพ 2014 (sketchup 2014 )
โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่อง การใช้โปรแกรม สเก็ตอัพ 2014 (sketchup 2014 )
 
แบบประเมินการนำเสนอผลงาน
แบบประเมินการนำเสนอผลงานแบบประเมินการนำเสนอผลงาน
แบบประเมินการนำเสนอผลงาน
 
โครงร่างรายงาน6/5
โครงร่างรายงาน6/5โครงร่างรายงาน6/5
โครงร่างรายงาน6/5
 
สรุปหัวใจชายหนุ่ม
สรุปหัวใจชายหนุ่มสรุปหัวใจชายหนุ่ม
สรุปหัวใจชายหนุ่ม
 
แบบประเมินโครงการแสดงความยินดี
แบบประเมินโครงการแสดงความยินดีแบบประเมินโครงการแสดงความยินดี
แบบประเมินโครงการแสดงความยินดี
 

Similar to ความขี้เกียจจงออกไปเอาความขยันกลับคืนมา

Project com
Project comProject com
Project compixppd
 
โครงร่างโครงงาน
โครงร่างโครงงานโครงร่างโครงงาน
โครงร่างโครงงานwisita42
 
2562 final-project (32)
2562 final-project  (32)2562 final-project  (32)
2562 final-project (32)mrpainaty
 
โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ rujira plumjit
 
How to set a bedroom to health. TH
How to set a bedroom to health. THHow to set a bedroom to health. TH
How to set a bedroom to health. THpattharawan putthong
 
เทคนิคการจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษ
เทคนิคการจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษเทคนิคการจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษ
เทคนิคการจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษsakaratyo
 
2557 โครงงาน คอม
2557 โครงงาน คอม2557 โครงงาน คอม
2557 โครงงาน คอมJaturaphun
 
2562 final-project 11-thunyarat
2562 final-project 11-thunyarat2562 final-project 11-thunyarat
2562 final-project 11-thunyaratthunyaratnatai
 
2562 final-project 11-thunyarat
2562 final-project 11-thunyarat2562 final-project 11-thunyarat
2562 final-project 11-thunyaratthunyaratnatai
 

Similar to ความขี้เกียจจงออกไปเอาความขยันกลับคืนมา (20)

AT1
AT1AT1
AT1
 
Project com
Project comProject com
Project com
 
Work1
Work1Work1
Work1
 
Project2222
Project2222Project2222
Project2222
 
Computer project
Computer projectComputer project
Computer project
 
W.111
W.111W.111
W.111
 
Com final
Com finalCom final
Com final
 
W.1
W.1W.1
W.1
 
โครงร่างโครงงาน
โครงร่างโครงงานโครงร่างโครงงาน
โครงร่างโครงงาน
 
Adtivities1
Adtivities1Adtivities1
Adtivities1
 
2560 project
2560 project 2560 project
2560 project
 
2562 final-project (32)
2562 final-project  (32)2562 final-project  (32)
2562 final-project (32)
 
โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
 
The Deep work
The Deep workThe Deep work
The Deep work
 
How to set a bedroom to health. TH
How to set a bedroom to health. THHow to set a bedroom to health. TH
How to set a bedroom to health. TH
 
เทคนิคการจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษ
เทคนิคการจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษเทคนิคการจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษ
เทคนิคการจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษ
 
2557 โครงงาน คอม
2557 โครงงาน คอม2557 โครงงาน คอม
2557 โครงงาน คอม
 
2562 final-project 11-thunyarat
2562 final-project 11-thunyarat2562 final-project 11-thunyarat
2562 final-project 11-thunyarat
 
2562 final-project 11-thunyarat
2562 final-project 11-thunyarat2562 final-project 11-thunyarat
2562 final-project 11-thunyarat
 
2560 project
2560 project 2560 project
2560 project
 

More from Thanakorn Intrarat

More from Thanakorn Intrarat (7)

โครงงานเปรม
โครงงานเปรมโครงงานเปรม
โครงงานเปรม
 
แบบนำเสนอโครงร่างคอมพิวเตอร์
แบบนำเสนอโครงร่างคอมพิวเตอร์แบบนำเสนอโครงร่างคอมพิวเตอร์
แบบนำเสนอโครงร่างคอมพิวเตอร์
 
2560 project
2560 project 2560 project
2560 project
 
TRAPPIST-1
TRAPPIST-1TRAPPIST-1
TRAPPIST-1
 
พ.ร.บ คอม
พ.ร.บ คอมพ.ร.บ คอม
พ.ร.บ คอม
 
Phanupit mahawanchai
Phanupit mahawanchaiPhanupit mahawanchai
Phanupit mahawanchai
 
Thanakorn 9 613
Thanakorn 9 613Thanakorn 9 613
Thanakorn 9 613
 

ความขี้เกียจจงออกไปเอาความขยันกลับคืนมา

  • 1. 1 แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ รหัสวิชา ง33201-33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6 ปีการศึกษา 2560 ชื่อโครงงาน ความขี้เกียจจงออกไป เอาความขยันกลับคืนมา !! ชื่อผู้ทาโครงงาน 1. นางสาว มารีอา ด้วงทรง เลขที่ 1 ชั้น ม.6 ห้อง 13 ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์ ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
  • 2. 2 ใบงาน การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์ สมาชิกในกลุ่ม 1 นางสาว มารีอา ด้วงทรง เลขที่ 1 คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้ ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย) ความขี้เกียจจงออกไป เอาความขยันกลับคืนมา !! ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ) Lazy get out give study hard comeback ประเภทโครงงาน เพื่อการศึกษา ชื่อผู้ทาโครงงาน นางสาว มารีอา ด้วงทรง ชื่อที่ปรึกษา ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์ ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนการศึกษาที่1 ที่มาและความสาคัญของโครงงาน (อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการทาโครงงาน) ขยัน คือ ความตั้งใจเพียรพยายามทาหน้าที่การงานอย่างต่อเนื่อง สม่าเสมอ อดทน ไม่ท้อถอยเมื่อพบอุปสรรค ความขยันต้องควบคู่กับการใช้ปัญญาแก้ปัญหาจนเกิดผลสาเร็จตามความมุ่งหมาย เด็กที่มีความขยัน คือ เด็กที่ ตั้งใจทาอย่างจริงจังต่อ เนื่องในเรื่องที่ถูกที่ควร เป็นคนสู้งาน มีความพยายาม ไม่ท้อถอย กล้าเผชิญอุปสรรค รัก งานที่ทา ตั้งใจทาหน้าที่อย่างจริงจัง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อตัวเด็กเอง ดังพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวฯ พระราชทานเพื่อเชิญลงพิมพ์ในหนังสือวันเด็ก ประจาปี 2530 ความว่า “เด็กๆนอกจากจะต้อง เรียนความรู้แล้ว ยังต้องหัดทาการงานและทาความดีด้วย เพราะการทางานจะช่วยให้มีความสามารถ มีความ ขยัน อดทน พึ่งตนเองได้ และการทาดีนั้นจะช่วยให้มีความสุข ความเจริญ ทั้งป้องกันตนไว้ไม่ให้ตกต่า” ความขยันจะทาให้เด็กเป็นที่รักของคนอื่น เด็กขยันจะเป็นผู้สร้างประโยชน์ได้มาก ถ้าไม่ขยัน สิ่งที่ควรจะได้จาก ชีวิตจะไม่เกิด ทั้งๆที่ฉลาด รู้ เข้าใจทุกอย่าง ถ้าเกียจคร้านก็คงไม่ประสบความสาเร็จ เราจึงควรมุ่งสอนเด็กให้มี ความขยัน ทางานอย่างมีความสุข มีความตั้งอกตั้งใจทาจริง เห็นคุณค่าของสิ่งที่ทา และอดทนต่ออุปสรรคผู้ใหญ่ ควรปลูกฝังให้เด็กเห็นว่า “ไม่มีใครเคยประสบความสาเร็จ ทั้งที่ยังเกียจคร้าน” ความขี้เกียจ ความเกียจคร้าน เป็นสิ่งน่ากลัว เป็นมลทินชีวิต เป็นอุปสรรคสาคัญที่ต้องเอาชนะด้วยวิริยะ ความมีจิตริเริ่ม ไม่ปล่อยตามสบาย เลื่อนลอยไปเรื่อยๆ แต่เด็กๆจะต้องมีจิตริเริ่มที่จะทาสิ่งที่ควรทา พยายาม และมีความอดทนต่ออุปสรรคที่เกิดขึ้น ระหว่างการทางานนั้นๆ เด็กทุกคนจึงควรได้รับอบรมเลี้ยงดูให้รู้จักงดเว้น รู้จักควบคุม รู้จักเอาชนะใจตัวเอง ฝึก ให้เป็นผู้มีสติ มีความสันโดษ มีความอดทน มีระเบียบวินัย มีความขยัน หลีกละความชั่ว ประกอบความดี ไม่ย่อ ท้อ ไม่ละเลยทอดทิ้งธุระหน้าที่ มีจิตใจที่รักการสู้เพื่อสิ่งที่ถูกต้อง มีการพัฒนาในทุกๆด้าน และมีความมุ่งมั่นที่จะ ชนะตัวเอง ที่จะทาตัวเองให้ดีที่สุด
  • 3. 3 วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเป็นข้อ) 1.เพื่อให้มีความเชื่อมั่นในตัวเอง 2.เพื่อให้เราได้เปลี่ยนแปลงตัวเองจากหน้ามือเป็นหลังมือกลายเป็นคนขยัน 3.ทำให ้เรำรู้จักรับผิดชอบหน้ำที่ หรืองำนที่ได ้รับมอบหมำย 4.ทำให ้เรำเป็นคนซื่อสัตย์ สุจริต 5.มีหลักฐำนมั่นคง มีเกียรติดี เป็นที่ยอมรับของคนทั่วไป 6.สำมำรถเจริญก ้ำวหน้ำในชีวิตกำรงำน 7.ทาให้เป็นคนที่ประสบความสาเร็จในชีวิต 8.เป็นการฝึกตนเองให้มีความอดทน และฝึกวินัยให้ขยันหมั่นเพียร 9.มีความกระตือรือร้นและเพียรพยายามที่จะก้าวไปสู่จุดมุ่งหมาย 10.มีการตั้งเป้าหมายหรือจุดมุ่งหมายไว้ชัดเจน 11.สนใจใฝ่หาความรู้และประสบการณ์อยู่เสมอเพื่อนามาพัฒนางานอาชีพของเรา 12.พยายามศึกษาหรือแบบอย่างปฏิบัติตามจากผู้ที่ประสบความสาเร็จในชีวิต ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน) 1.ใช้ข้อมูลที่เป็นจริงและมีข้อพิสูจน์แล้ว 2.มีเนื้อหาที่เข้าใจง่ายและละเอียด 3.มีการอธิบายอย่างเป็นขั้นเป็นตอน 4.บอกวิธีที่ทาให้เป็นคนขยัน หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน) วิธีที่จะช่วยสร้างความขยันและขจัดความขี้เกียจ 1.ค่อยๆทาทีละอย่าง หลายๆครั้งที่ตัวผมเองเริ่มมีตัวขี้เกียจคอยกัดกินจิตใจ มันเป็นเพราะว่าผมพยายามจะทา อะไรหลายๆอย่างมากเกินไป ตอนแรกก็นึกว่าจะเป็นเฉพาะกับผมคนเดียว พอถามๆคนรอบข้างดู ผมก็ได้ค้นพบ ว่าผมไม่ได้เป็นอยู่คนเดียว การพยายามจะทาอะไรหลายๆอย่างให้มันเสร็จพร้อมๆกันทาให้ไม่สูญเสียพลังงาน และสมาธิอย่างรวดเร็ว คุณจาเป็นต้องเลือกว่าตอนนี้ ณ ขณะนี้ คุณจะทาอะไร แล้วก็ทาซะ โดยอย่าแบ่งจิตใจ หรือความกังวลใดๆทั้งสิ้นไปให้กับอย่างอื่นเด็ดขาด ผมรู้ดีครับว่ามันยาก แต่อย่างไรก็ตาม ในความคิดของผม แล้ว นีีีคือทางเลือกที่ดีที่สุด 2.หาแรงบันดาลใจ โดยส่วนตัวแล้ว แรงบันดาลใจของผมมาจากการที่มองเห็นผู้อื่นประสบความสาเร็จในสิ่งที่ผม อยากจะทา ผมจะหมั่นหาเรื่องราวเหล่านี้มาอ่านอยู่เสมอๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวจาก blog จากนิตยสาร จาก google จากทุกที่ที่ผมสามารถหาได้ 3.ตื่นเต้นกันหน่อย ผมเชื่อว่าทุกๆคนรู้ดีอยู่แล้วตรงข้อนี้ แต่ผมก็เห็นคนเหล่านั้นจานวนมากละเลยข้อนี้เช่นกัน แต่มันก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่นัก (ตัวผมเองก็เป็นอยู่บ่อยๆ) เราจะตื่นเต้นได้ยังไงกันเล่าในเมื่อ ณ เวลานี้ เราี กาลังเต็มไปด้วยตัวขี้เกียจทุกรูขุมขน คาตอบที่มัน work กับตัวผมก็คือ ต้องเริ่มจากการได้รับแรงบันดาลใจมา ก่อน (กล่าวไปแล้วในข้างต้น) หลังจากที่ได้แรงบันดาลใจแล้ว ผมก็จะพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่ผมได้รับแรงบันดาลใจนี้ กับทุกคนที่อยู่รอบข้าง (ฟังผมโม้กันจนเบื่อ) หลังจากนั้น ผมก็จะนั่งเพ้อฝันนึกจินตนาการถึงภาพตัวผมเองตอนที่ ประสบความสาเร็จในสิ่งที่ต้องการเป็นครึ่งชั่วโมง รู้ตัวอีกที ผมก็แทบอยากจะรีบกระโจนเข้าใส่งานทันที
  • 4. 4 4.สร้างความคาดหวัง มันอาจจะฟังดูยากสักหน่อย และหลายๆคนก็มักจะไม่ทาข้อนี้กัน แต่มันสามารถทาให้ผม เลิกสูบบุหรี่ได้ หลังจากที่ผมพยายามและล้มเหลวอยู่ตั้งหลายครั้งก่อนหน้านี้ ถ้าคุณพบแรงบันดาลใจของคุณแล้ว คุณจะตื่นเต้น และอยากที่จะเริ่มทาทันที นี่คือความผิดพลาดใหญ่หลวง คุณต้องกาหนดวันที่ในอนาคต อาจจะ หนึ่งสัปดาห์ สองสัปดาห์ หรือแม้กระทั่งหนึ่งเดือน กาหนดไว้ทาไมเหรอครับ กาหนดไว้เพื่อที่จะเป็นวันที่คุณจะ เริ่มต้นทาในสิ่งที่คุณอยากจะทา หลังจากกาหนดวันนั้นไว้แล้ว ก็ให้สร้างความคาดหวังกับมันไว้มากๆ ทาให้วัน นั้นมีความสาคัญในชีวิตยิ่งกว่าวันเกิดของตัวคุณเองได้ยิ่งดี และระหว่างที่จะรอให้วันมาถึง ก็ขอให้ใช้เวลานี้ของ คุณวางแผนการขั้นตอนซะ นี่เป็นเทคนิคสาคัญที่จะช่วยสร้างสมาธิและพลังงานทีคุณต้องใช้ในการที่จะบรรลุ เป้าหมายของคุณ 5.แปะเป้าหมายของคุณให้อยู่ทุกที่ เขียนตัวใหญ่ๆเลยครับ เอาให้ตัวหนังสือใหญ่กว่าีบัตรประชาชนไปเลย หลังจากนั้นก็นาเป้าหมายที่พิมพ์ออกมาไปแปะไว้ทุกที่ที่คุณจะต้องเดินผ่าน ไม่ว่าจะเป็นกระจกในห้องน้า ตู้เย็น โต๊ะที่ทางาน ทาเป็นภาพ background บนเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ คุณจาเป็นต้องย้าเตือนตัวเองให้บ่อย ที่สุดและสร้างความตื่นเต้นของคุณให้มากที่สุด ถ้าไม่เป็นตัวหนังสือ ใช้ภาพแทนก็ได้นะครับ (บางคนที่อยากลด ความอ้วน ก็ให้ติดภาพสาวเอวบางร่างน้อยเอาไว้ทุกซอกทุกมุมเลยก็ดีครับ) 6.ป่าวประกาศให้ชาวบ้านรับรู้ ไม่มีใครหรอกครับที่อยากจะมีภาพลักษณ์แย่ๆในสายตาชาวบ้าน พวกเราทุกคน จะยอมทุ่มทุกอย่างเพื่อที่จะทาให้อะไรสักอย่างสาเร็จ ถ้าหากว่าเราสัญญากับสาธารณชนไว้ (ยกเว้นนักการเมือง บางคน) ถ้าจะให้ยกตัวอย่างก็คือ ตอนที่ผมจะวิ่งมาราธอน ผมได้เขียนถึงความมุ่งมั่นของผมข้อนี้ลงใน หนังสือพิมพ์ประจาหมู่บ้านของผม ประชากรเป็นร้อยคนรับรู้ว่าผมจะวิ่งมาราธอน ผมติดอยู่ในสถานะที่ผม จาเป็นต้องวิ่งมาราธอนให้ได้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม และมันกได้ผลครับ สุดท้าย ผมก็สามารถกัดฟันวิ่ง มาราธอนเข้าเส้นชัยจนได้ ไม่ครับ ผมไม่ได้บอกว่าคุณต้องทาถึงขนาดนี้ แต่คุณสามารถป่าวประกาศให้ครอบครัว และเพื่อนร่วมงานของคุณทราบได้ หรือไม่ก็ คุณก็สามารถเขียนมันลงไปใน blog ก็ได้นครับ (ถ้ามี) แล้วไม่ใช่แค่ พูดครั้งเดียวแล้วจบกันนะครับ คุณต้องคอยรายงานความก้าวหน้าเรื่อยๆ เป็นการบังคับตัวคุณเองทางอ้อมที่ ได้ผลมากๆเลยทีเดียว 7.คิดถึงเป้าหมายทุกวัน ถ้าคุณคิดถึงเป้าหมายของคุณทุกวัน โอกาสที่มันจะกลายเป็นความจริงจะมีสูงมาก การ พิมพ์เป้าหมายของคุณด้วยตัวหนังสือตัวใหญ่ๆแล้วนาไปแปะให้คุณเห็นอยู่ตลอด (ที่กล่าวไว้ข้างต้น) ไม่ว่าคุณจะ อยู่ที่ไหนก็ตาม สามารถช่วยได้มาก แบ่งเวลาสักวันละ 5 นาทีก็ได้ครับ เพื่อที่จะปล่อยให้ความคิดของคุณ ล่องลอยไปกับเป้าหมายทีใฝ่ฝันเอาไว้ มันจะมีผลมหาศาลเลยทีเดียวในระยะยาว 8.ต้องมี Support มันเป็นอะไรที่ยากมากๆที่จะบรรลุเป้าหมายได้ หากคุณต้องทาอยู่คนเดียว ตอนที่ผมตัดสินใจ จะวิ่งแข่งมาราธอน ผมได้รับกาลังใจอย่างมากจากเพื่อนๆและครอบครัว รวมไปถึงสมาชิกในชมรมนักวิ่งทุกคน ตอนที่ผมตัดสินใจจะเลิกสูบบุหรี่ ผมได้รับกาลังอย่างมากอีกเช่นเดียวกันจากเพื่อนๆในเว็บบอร์ด และแน่นอน ภรรยาของผมก็คอยให้กาลังใจทุกเช้าทุกเย็น คุณเองเวลาจะทาอะไรอย่างนึง ก็จาเป็นต้องหา support ของคุณ ไม่ว่าจะเป็น support ในออนไลน์หรือออฟไลน์ก็ตาม 9.ทุกอย่างมีขึ้นมีลง ความขยันและความมุ่งมั่นใช่ว่าจะมีอยู่ตลอดเวลา ถ้าจะให้เปรียบ มันก็เหมือนน้าขึ้นน้าลง นั่นแหละครับ เวลาที่เรารู้สึกท้อแท้ ตระหนักไว้เลยครับว่าเดี๋ยวมันก็หาย ระหว่างที่รอให้ตัวคุณเองกลับมารู้สึกฟิต
  • 5. 5 อีกครั้ง ก็ขอให้คุณลองอ่านเรื่องราวที่ประสบความเร็จของผู้อื่นไปพลางๆ หรือไม่ก็ขอความช่วยเหลือจาก idol ของคุณดูก็ได้ครับ ขอให้อดทนต่อไปสักหน่อย อีกไม่นาน ตัวขี้เกียจพวกนี้มันก็จะหลุดไปจนหมดเอง 10.อย่าออกนอกเส้นทาง ไีม่ว่าคุณจะทาอะไรอยู่ก็ตาม อย่ายอมแพ้หรือเลิกกลางคันเด็ดขาด ถึงแม้ว่าวันนี้ คุณจะ รู้สึกขี้เกียจสุดๆ (หรืออาจจะรู้สึกขี้เกียจเป็นสัปดาห์เลยก็ได้) ขอให้รอสักหน่อย เดี๋ยวตัวขี้เกียจมันจะหลุดของมัน ไปเอง ให้ลองคิดว่าเป้าหมายของคุณคือการเดินทางไป Mordor เพื่อทาลายแหวนของ Frodo ใน Lord of the Rings ก็ได้ครับ ส่วนตัวขี้เกียจที่แวะมาเยือนเป็นครั้งคราวก็เปรียบเหมือนอุปสรรคนานัปการที่ Frodo กับ Sam ต้องเจอะเจอ แล้วคุณจะพบว่า การถอดใจตอนนี้เพียงเพราะว่าปัญหาขี้ปะติ๋วเหล่านี้ มันเป็นเรื่องที่น่าอายมากๆ เลยทีเดียว 11.ก้าวสั้นๆ ถ้าคุณกาลังรู้สึกว่ามันยากเหลือเกินที่จะเริ่มต้นทาอะไรสักอย่าง มันอาจจะเป็นสาเหตุมาจากการที่ คุณคิดจะเริ่มทาสิ่งที่ใหญ่เกินไป ถ้าคุณต้องการจะเริ่มออกกาลังกาย คุณอาจจะคิดว่า คุณต้องออกกาลังกายวัน หนึ่งชั่วโมง สัปดาห์ละห้าวัน การคิดแบบนี้มันจะทาให้คุณรู้สึกท้อแท้ ถอดใจ และขี้เกียจเอาง่ายๆ แทนที่จะเป็น เช่นนั้น ทาไมถึงไม่ลองคิดจะออกกาลังกายวันละ 2 นาทีดูละครับ ใช่ครับ 2 นาทีเท่านั้น! ใครกันละครับที่จะออก กาลังกายวันละ 2 นาที ทุกๆวันไม่ได้ (ถ้าคุณคือคนๆนั้น ผมต้องขอโทษด้วยจริงๆครับ) มันน้อยเสียจนคุณอาจจะ อยากเพิ่งเวลาให้กับมัน แต่อย่าเพิ่งครับ เอาแค่ 2 นาทีนี่แหละครับ แล้วทาไปเรื่อยๆติดต่อกันหนึ่งสัปดาห์ พอ ผ่านไปครบ 1 สัปดาห์แล้ว อาทิตย์นี้ เรามาลองออกกาลังกายวันละ 5 นาทีกัน แล้วก็ทาแบบนี้เป็นเวลาอีก 7 วัน แล้วก็ทาไปเรื่อยๆๆๆๆๆๆ เพียงเวลาแค่ 2-3 เดือน คุณก็จะพบว่าตัวเองกาลังออกกาลังกายวันละ 30 นาที ทุก วัน โดยไม่ต้องใช้ความพยายามเลยแม้แต่นิดเดียว อีกตัวอย่างหนึ่งก็คือการตื่นนอนตอนเช้า อย่าเพิ่งเริ่มโดยการ คิดว่า จากนี้ไป เราจะตื่นตอนตี 5 ทุกวัน แต่ให้เราเริ่มจากการตื่นนอนเร็วขึ้นกว่าปกติสัก 10 นาทีเป็นเวลาสัก หนึ่งอาทิตย์ หลังจากกนั้นก็ค่อยๆเพิ่มไปเรื่อยๆจนกระทั่งถึง ตี 5 ก้าวทีละสั้นๆ แต่ได้ผลอย่างยั่งยืนจริงๆครับ 12.นาความสาเร็จที่ได้รับมาแปลงเป็นพลังให้ก้าวต่อไป การที่เราเริ่มทาอะไรเล็กๆน้อยๆอย่างที่ยกตัวอย่างไปใน ข้างต้นนี้ มันจะทาให้เราประสบความสาเร็จตามที่ตั้งเป้าหมายไว้อย่างแน่นอน และเมื่อเราทาสาเร็จ จงเก็บเอา ความรู้สึก ณ ช่วงเวลาแห่งความสาเร็จนั้นไว้ และเปลี่ยนมันให้กลายเป็นพลังในการก้าวเดินไปบนถนนสายที่เรา เลือกต่อไป มันจะทาให้การเดินทางของเราบนถนนสายนี้เป็นการเดินทางที่เต็มไปด้วยความสาเร็จระหว่างจริงๆ พอรู้ตัวอีกที ว้าว! นี่ทุกวันนี้ เราออกกาลังกายได้วันละ 50 นาทีเลยหรือนี่! 13.อ่านอะไรก็ได้เกี่ยวกับเป้าหมายของคุณทุกวัน เมื่อไหร่ก็ตามที่ผมรู้สึกขี้เกียจขึ้นมา ผมก็มักจะบังคับให้ตัวเอง อ่านเรื่องราวความสาเร็จของคนอื่น มันจะทาให้ผมรู้สึกมีกาลังใจและมีแรงที่จะสู้ต่อไปได้อย่างน่ามหัศจรรย์ นอกจากนี้ มันยังทาให้ผมรู้สึกมีสมาธิในสิ่งที่ผมอ่านถึงมากกว่าเดิมอีกด้วย เพราะฉะนั้น คุณน่าจะอ่านเป้าหมาย ของคุณทุกวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาที่คุณรู้สึกว่าตัวเองกาลังโดนตัวขี้เกียจดูดเอาความขยันออกไป 14.คุยเวลาขี้เกียจ คุณกาลังรู้สึกขี้เกียจอยู่รึเปล่า ถ้าใช่ โทรหาแม่ โทรหาแฟน ตั้งกระทู้ในเว็บนี้ E-Mail หาผม หรือจะติดต่อใครก็ได้ จากนั้นก็ขอความช่วยเหลือ ขอคาแนะนา ส่วนมากแล้ว สิ่งที่เราได้ทามักจะเป็นการบ่น ตัวเองให้ชาวบ้านฟังมากกว่าว่า "เอ๊ะ! ทาไมวันนี้ขี้เกียจจังวะ" มันดูเหมือนจะช่วยถ่ายความขี้เกียจออกจากตัว เราไปได้บ้างอยู่เหมือนกันนะครับ
  • 6. 6 15.คิดถึงแต่ด้านดี อย่าไปใส่ใจกับความยากลาบาก นี่คือหนึ่งในปัญหายอดฮิตเลยทีเดียว ออกกาลังกายทุกวัน? แค่พิมพ์ก็ฟังดูยากแล้ว เรียกได้ว่า ยังไม่ทันเหงื่อออก ผมก็รู้สึกเหนื่อยซะแล้ว สุดท้าย ผมก็เลยไม่ได้ออกกาลังกาย ไปซะอย่างนั้น แต่ถ้าผมคิดดูว่า ออกกาลังกายทุกวัน มันจะทาให้ผมไม่ต้องโดนหมอฉีดยา มันจะทาให้ผมรูปร่างดี สมส่วน ถ้าผมคิดแบบนี้ มันก็จะทาให้ผมมีกาลังใจขึ้นมา และสลัดตัวขี้เกียจออกไปได้ 16.ขยี้ความคิดแง่ลบซะ แล้วแทนที่มันด้วยความคิดในแง่บวก มันเป็นเรื่องสาคัญมากนะครับที่คุณจาเป็นต้องเริ่ม สารวจดูความคิดของตนเอง เมื่อไหร่ที่คุณรู้ตัวว่ากาลังคิดความคิดที่มีประจุลบอยู่ เมื่อนั้นแหละครับที่คุณจะรู้สึก หมดอาลัยตายอยาก อยากจะขี้เกียจตลอดชาติ ลองใช้เวลาสักสองสามวันสารวจความคิดของตัวคุณเองดูนะครับ ดูสิว่าในเวลาที่กาหนดนี้ คุณคิดอะไรลบๆบ้าง หลังจากนั้นก็ใช้เวลาอีกสองสามวัน นั่งสารวจ 17.คิดเเล้วทาเลย ตัดคาว่า”เดี๋ยว” ออกไป ถ้าคิดจะทา ก็ขอให้เริ่มตั้งเเต่เดี๋ยวนี้เลย ถ้ายิ่งรีรอไม่ยอมทามันสักที คุณก็จะเริ่มขี้เกียจ จนสุดท้ายก็ไม่ได้ทา 18.เชื่อมั่นในตัวเอง เอาทัศนคติที่ว่า “เราทาไม่ได้หรอก” ออกไปจากความคิด เพราะก่อนที่เราจะประสบความสาเร็จได้นั้น คุณต้อง ลงมือทาซะก่อน ต้องลองผิดลองถูกกันบ้าง 19. เตรียมร่างกายเเละสมองให้พร้อม กินอาหารที่ดี มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ เพราะถ้าร่างกายไม่พร้อม อะไรๆ ก็ดูไม่พร้อมไปเสียหมด 20.เลือกทาในสิ่งที่เรารักหรือสิ่งที่ฝันก่อน เพราะถ้าเราทาอะไรในสิ่งที่ชอบ โดยไม่ถูกบีบบังคับ เราก็จะมีความุข เเละจะทาในสิ่งนั้นให้ดีที่สุด เเละมี ประสิทธิภาพ 21.สร้างเเรงบันดาลใจ ลองหาเเรงจูงใจหรือเเรงบันดาลใจ ว่าสิ่งที่ทานั้น ทาไปเพื่ออะไร เเละทาไปเพื่อใคร เป้าหมายคืออะไร ทาเเล้วมี ผลดีอย่างกับตัวเราเเละคนรอบข้าง 22.เขียนตารางบันทึก ลองทาตารางบันทึก เช็คลิสท์ว่าเราต้องทาอะไรบ้างในวันนี้ เเละทาเเล้วได้อะไร เรื่องนี้จะช่วยให้คุณใช้ชีวิตอย่าง มีระบบระเบียบมากขึ้น 23.อย่าตั้งเป้าหมายสูงไว้เกินไป การตั้งเป้าหมายไว้สูง เวลาที่ผิดหวังจะทาให้เราเสียใจมากตามไปด้วย เรียกว่าได้ว่าตั้งเป้าหมาย ค่อยๆ ไต่ไปที ละเล็กละน้อย ค่อยเป็นค่อยไปจะดีกว่านะคะ 24.ให้รางวัลกับตัวเองบ้าง เช่น ถ้าตั้งใจลดน้าหนัก เเละได้ทามาหลายวันเเล้ว เราอาจจะอยากกินอะไรที่เป็นของชอบสักมื้อ เพื่อให้การใช้ ชีวตอย่างมีความสุข ใครที่กาลังรู้สึกว่าตัวเอง "ขี้เกียจ" ซะเหลือเกิน ต้องเเริ่มปฏิวัติตัวเองให้หลุดจากขี้เกียจสักที เพราะความขี้เกียจ จะเป็นอุปสรรคในการทาสิ่งต่างๆ ในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการเรียน การทางาน น้องๆ หลายคนมักจะติดคาว่า "เดี๋ยว" เดี๋ยวค่อยทา เดี๋ยวค่อยอ่าน เดี๋ยวค่อย....สารพัดเดี๋ยว วันนี้เรามาดูกันดีกว่า ว่าเราจะขจัดความขี้เกียจนี้ออกไปได้ยังไง มาดูกันเลยย
  • 7. 7 25. ตัดคาว่า "เดี๋ยว" ออกไปจากชีวิต 26. ลบความคิดที่ว่าเรา "ทาไม่ได้" ออกจากความคิด เพราะก่อนที่จะประสบความสาเร็จ มันก็ต้องมีลองผิดลอง ถูกกันบ้าง อย่างที่เค้าว่าไว้ว่า "ผิดเป็นครู" ไงค่ะน้องๆ 27. เตรียมร่างกายและสมองให้พร้อม ทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ 28. เลือกทาในสิ่งที่รักหรือสิ่งที่ฝันก่อน เพราะถ้าเราทาอะไรในสิ่งที่ชอบโดยไม่ถูกบังคับเราก็จะมีความสุขและทา ในสิ่งนั้นได้ดี 29. สร้างแรงบันดาลหรือแรงจูงใจ ว่าจะทาเพื่อใคร หรือทาแล้วจะดีอย่างไร 30. เขียนตารางบันทึก ว่าเราต้องทาอะไรในวันนี้บ้าง และได้ทาอะไรไปแล้วบ้าง เพื่อเป็นการทบทวนและกันลืม ไปในตัว และทาให้ชีวิตมีระบบระเบียบมากขึ้น 31. อย่าตั้งเป้าหมายไว้สูงจนเกินไป เพราะถ้าผิดหวังหรือทาพลาดเราก็จะเสียใจมากตามไปด้วย เรียกว่าค่อยเป็น ค่อยไป เช่นถ้าวันนี้เราตั้งใจอ่านหนังสือ10 หน้า พรุ่งนี้และวันถัดไปเราก็ค่อยเพิ่มจานวนหน้าขึ้นตามลาดับ 32. ให้รางวัลกับตัวเองบ้าง เช่น ถ้าตั้งใจลดน้าหนักและทามาได้หลายวันแล้ว เราอาจจะกินอะไรที่เป็นของชอบ บ้างสักมื้อ 33. ลงมือปฏิบัติ เพราะถ้าเราแค่คิด ต่อให้มีความคิดสร้างสรรค์สักแค่ไหนแต่ถ้าไม่ลงมือทาทุกอย่างก็เท่ากับศูนย์ วิธีดาเนินงาน แนวทางการดาเนินงาน -ปรึกษาเลือกหัวข้อ -นาเสนอหัวข้อกับครูผู้สอน -ศึกษารวบรวมข้อมูล -จัดทารายงาน -นาเสนอครู -ปรับปรุงแก้ไข เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ -อินเตอร์เน็ต -คอมพิวเตอร์ -โทรศัพท์ งบประมาณ ไม่ใช้ งบประมาณ____________________________________________________ __________________________________________________________________
  • 8. 8 ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน ลาดับ ที่ ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 1 0 1 1 12 1 3 1 4 1 5 16 17 1 คิดหัวข้อโครงงาน / / / 2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล / / / 3 จัดทาโครงร่างงาน / / / 4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน / / / 5 ปรับปรุงทดสอบ / / / 6 การทาเอกสารรายงาน / / / 7 ประเมินผลงาน / / / 8 นาเสนอโครงงาน / / / ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทาโครงงาน) 1.ผู้จัดทามีความเข้าใจในหัวข้อที่สนใจ 2.สามารถนาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน 3.สามารถนาความรู้ไปเผยแผ่ให้เพื่อนนักเรียน 4.ผู้จัดทามีความเข้าใจในการทางานมากขึ้น สถานที่ดาเนินการ -ห้องคอมพิวเตอร์โรงเรียนยุพราช กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง -กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษา -กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ -กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่นามาใช้การทาโครงงาน)