วิทยาศาสตร์พื้นฐาน ม.2

2. เมื่ออาหารผ่านกระบวนการย่อยอาหารจนได้สารอาหาร
ที่สามารถผ่านผนังลาไส้เล็กโดยเข้าสู่เส้นเลือดฝอย
แล้วไปเลี้ยงส่วนต่างๆโดยผ่านน้าเลือด
นอกจากสารอาหารแล้วยังมีของเสีย แก๊ส และสารอื่นๆด้วย

4. โดยการไหลเวียนเลือดจะเกิดขึ้นจากการทางานของหัวใจ
คล้ายกับเป็นเครื่องปั๊มน้า (ผ่านการเต้นของหัวใจ)

5. ให้นักเรียนศึกษากิจกรรมที่ 2.2หน้า45
แล้วตอบคาถามในกรอบสีเหลี่ยมสีเขียวลงสมุด

6. อัตราการเต้นของชีพจรของคนปกติอยู่ที่ประมาณ60-100ครั้ง/นาที
หากเต้นเร็ว/ช้าผิดปกติ/ไม่สม่าเสมออาจสันนิษฐานได้ว่าร่างกายผิดปกติ

8. หัวใจอยู่ระหว่างปอดทั้ง2 ข้าง ค่อนมาทางซ้ายเล็กน้อย
มีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงทาหน้าที่สูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกาย
มี 4 ห้อง ประกอบด้วยห้องบนซ้าย บนขวา ล่างซ้ายและล่างขวา
โดยระหว่างห้องบนและห้องล่างจะมีลิ้นหัวใจกั้นกันเลือดไหลย้อนกลับ

9. หลอดเลือดที่นาเลือดออกจากหัวใจเรียกว่าหลอดเลือดอาร์เทอรี(หลอดเลือดแดง)
หลอดเลือดที่นาเลือดเข้าหัวใจ เรียกว่าหลอดเลือดเวน(หลอดเลือดดา)
หลอดเลือดจะค่อยแตกแขนงเล็กลงเรื่อยๆจนเล็กที่สุดเรียกว่า เส้นเลือดฝอย

11. 1)หลอดเลือดอาร์เทอรี มีผนังเลือดหนา ยืดหยุ่นมากรับแรงดันเลือดได้ดี
2) หลอดเลือดเวนมีผนังเลือดบางกว่ายืดหยุ่นน้อยรับแรงดันเลือดได้น้อย
3) หลอดเลือดฝอย มีผนังบางมากโดยปลายของหลอดเลือดฝอยอาร์เทอรีจะเชื่อม
กับปลายของหลอดเลือดฝอยเวน เป็นร่างแห เพื่อแลกเปลี่ยนแก๊ส

12. หลักการจา“บนรับ ล่างส่ง ขวาดา ซ้ายแดง”
1. เลือดที่หัวใจส่งไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายต้องเป็นเลือดดี (แดง)ก็
คือส่งแดง ได้แก่ห้องล่างซ้าย
2. เลือดที่กลับมาจากส่วนต่างๆของร่างกายก็จะเป็นเลือดเสีย(ดา)
เพราะใช้แล้ว ก็จะกลับคืนมาหัวใจก็คือรับ ดา ได้แก่ห้องบนขวา
หลักการจา“บนรับ ล่างส่ง ขวาดา ซ้ายแดง”
3. หัวใจจะส่งเลือดเสีย (ดา)ไปฟอกที่ปอด ต้องเป็นเลือดเสีย(ดา)ก็คือส่งดา
ได้แก่ห้องล่างขวา
4. เลือดที่ฟอกจากปอดจะส่งกลับมาให้หัวใจไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายก็
จะเป็นเลือดดี (แดง)เพราะฟอกแล้ว ก็คือรับ แดง ได้แก่ห้องบนซ้าย

13. หลักการจา“บนรับ ล่างส่ง ขวาดา ซ้ายแดง”
3. หัวใจจะส่งเลือดเสีย(ดา)ไปฟอกที่ปอด ต้องเป็นเลือดเสีย(ดา)ก็คือส่งดา
ได้แก่ห้องล่างขวา
4. เลือดที่ฟอกจากปอดจะส่งกลับมาให้หัวใจไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายก็
จะเป็นเลือดดี (แดง)เพราะฟอกแล้ว ก็คือรับ แดง ได้แก่ห้องบนซ้าย

14. ลิ้นหัวใจ
บนขวา บนซ้าย
ล่างขวา ล่างซ้าย
ร่างกาย
เส้นเลือดเวน
ลิ้นหัวใจ
ปอด
เส้นเลือดอาร์เตอรี
เส้นเลือดเวน
ลิ้นหัวใจ
เส้นเลือดอาร์เตอรี

18. ในการวัดความดันเลือดจะมีตัวเลข2 ค่า มีหน่วยคือมิลลิเมตรของปรอท
โดยตัวเลขแรกแสดงค่าความดันเลือดสูงสุดขณะหัวใจบีบตัว(ออก)
และตัวที่2 แสดงค่าความดันเลือดต่าสุดขณะหัวใจคลายตัว(เข้า)
ความดันปกติ อยู่ที่ 90–120และ 60–80

19. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่มกลุ่มละ6 คนไปสืบค้นข้อมูลตามกิจกรรม2.4 ในหนังสือ
เรียนหน้า52 และสรุปความรู้ในรูปของใบความรู้ พร้อมเคลือบพลาสติกหรือ
จัดทาในรูปของแผ่นพับ
โดยข้อมูลต้องสรุปให้อยู่ในเนื้อหา2 หน้ากระดาษA4
ส่งภายในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2558
คะแนนเก็บ10 คะแนน

21. ร่างกายประกอบด้วยของเหลว60 – 70%ของน้าหนักตัว
โดยเป็นเลือดประมาณ7 %
เลือดประกอบด้วยน้าเลือด เซลล์เม็ดเลือดและเกล็ดเลือด

23. เป็นของเหลวใสสีเหลืองอ่อนมีน้าเป็นตัวทาละลาย
และสารอื่นๆเช่นอาหาร เอนไซม์ ฮอร์โมนของเสีย

24. 1) เม็ดเลือดแดง
มีลักษณะกลมแบนสร้างจากไขกระดูกมีฮีโมโกลบิน(มีธาตุเหล็ก)เป็นองค์ประกอบ
ทาหน้าที่ลาเลียงออกซิเจนมาอายุ 100-120วัน จะทาลายที่ตับและม้าม

26. สร้างที่ไขกระดูกและม้ามมีขนาดใหญ่กว่าเม็ดเลือดแดงมีหลายชนิด
มีหน้าที่จับและทาลายเชื้อโรคบางชนิดสร้างแอนติบอดีที่ทาให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกัน
จานวนเม็ดเลือดขาวที่เปลี่ยนไปสามารถบอกอาการเจ็บป่วยได้

30. สร้างที่ไขกระดูกมีส่วนช่วยในการแข็งตัวของเลือด
หรือทาให้เลือดหยุดไหลเมื่อเกิดบาดแผล

34. เป็นเชื้อโรคที่ตายแล้ว/ถูกทาให้อ่อนฤทธิ์ลง
ให้เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างแอนติบอดี ทาให้มีภูมิคุ้มกันต่อโรคนั้นๆ
ต้องใช้เวลาในการสร้างภูมคุ้มกันเช่นการฉีดวัคซีนตามช่วงอายุ

35. ทาโดยฉีดเชื้อโรคที่อ่อนกาลังเข้าไปในสัตว์พวกม้า/กระต่าย
แล้วนาเลือดเฉพาะส่วนน้าใสๆเรียกว่าเซรุ่มซึ่งมีแอนติบอดีอยู่
เมื่อนามาฉีดร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกันทันทีแต่จะอยู่ในช่วงสั้นๆ

36. ให้นักเรียนสรุปความรู้เรื่องการหมุนเวียนเลือดของปลาและแมลง (ตามหนังสือ
เรียนหน้า56 )
ตามหนังสือเรียนหน้า56 ลงสมุดให้เรียบร้อย
ส่งในคาบเรียนหน้า

37. การหมุนเวียนเลือดของปลาและแมลง

38. การหมุนเวียนเลือดของปลาและแมลง

39. การหมุนเวียนเลือดของปลาและแมลง