More Related Content
Similar to อาณาจักรโพรทิสตา
Similar to อาณาจักรโพรทิสตา (20)
อาณาจักรโพรทิสตา
- 3. 2. ไม่มีระยะตัวอ่อน (Embryo) ซึ่งต่างจากพืชและสัตว์
ที่มีระยะตัวอ่อนก่อนที่จะเจริญเติบโตเป็นตัวเต็มวัย
3. การดารงชีพ มีทั้งชนิดที่เป็น
ผู้ผลิต (Autotroph) เพราะมีคลอโรฟิลล์ เป็นผู้บริโภค
(Consumer)
และเป็นผู้ย่อยสลายอินทรียสาร (Decomposer)
- 5. 6. การสืบพันธุ์ ทั้งแบบไม่อาศัยเพศ (Asexual
reproduction) และแบบอาศัยเพศ (Sexual reproduction)
แบบอาศัยเพศมีทั้งชนิดคอนจูเกชัน (Conjugation) ซึ่งเกิด
จากเซลล์สืบพันธุ์ที่มีรูปร่างและขนาดเหมือนกัน มารวมกัน พบใน
พารามีเซียม ราดา เป็นต้น
ชนิดปฏิสนธิ (fertilization) ซึ่งเกิดจากเซลล์สืบพันธุ์
ที่มีรูปร่างและขนาดต่างกันมารวมกัน ดังเช่นที่พบในสาหร่ายเป็น
ส่วนใหญ่ เป็นต้น
- 6. สิ่งมีชีวิตในอาณาจักรนี้แบ่งเป็น 9 ไฟลัม คือ
1. ไฟลัมโพรโทซัว (Phylum Protazoa)
2. ไฟลัมคลอโรไฟตา (Phylum Chlorophyta)
3. ไฟลัมคริสโซไฟตา (Phylum Chrysophyta)
4. ไฟลัมยูกลีโนไฟตา (Phylum Euglenophyta)
5. ไฟลัมเฟโอไฟตา (Phylum Phaeophyta)
6. ไฟลัมไพรโรไฟตา (Phylum Pyrrophyta)
7. ไฟลัมโรโดไฟตา (Phylum Rhodophyta)
8. ไฟลัมยูไมโคไฟตา (Phylum Eumycophyta)
9. ไฟลัมมิกโซไมโคไฟตา (Phylum Myxomycophyta)
- 10. 2. ยูกลีโนซัว ( Euglenozoa )
เป็นโปรติสต์กลุ่มที่เคลื่อนที่ได้โดยใช้แฟลกเจลลา เช่น
- ยูกลีนา (ดารงชีวิตอิสระ)
- ทริปพาโนโซม ดารงชีวิตเป็นปรสิตในเลือดของสัตว์ ทาให้เกิดโรค
เหงาหลับ
ทริปพาโนโซม
ยูกลีนา
แมลงเซทซิ พาหะของโรคเหงาหลับ
- 12. 3.แอลวีโอลาตา ( Alveolata )
เป็นโพรติสต์เซลล์เดียวที่มีลักษณะร่วมกันคือมีช่องว่างเล็กๆ
ใต้เยื่อหุ้มเซลล์เรียก alveoli ประกอบด้วย
3.1 ไดโนแฟลกเจลเลต เป็นโพรทิสต์เซลล์เดียวที่มีสารแคโรทีน
และคลอโรฟิลล์ในเม็ดพลาสติด บางชนิดมีการสะสมสารพิษในตัวเมื่อในน้า
ทะเลมีสารอินทรีย์จากมลภาวะ ซึ่งเป็นแหล่งอาหารของไดโนแฟลกเจลเลต
ไดโนแฟลกเจลเลต จะมีการเพิ่มจานวนขึ้นอย่างรวดเร็วทาให้ทะเล
เป็นสีแดง เกิดปรากฏการณ์ขี้ปลาวาฬ (red tide) ทาให้เพิ่มปริมาณสารพิษใน
โซ่อาหารในทะเลเป็นอันตรายต่อสัตว์น้าเป็นจานวนมาก
- 14. 3.2 เอพิคอมเพลซา ( Apicomplexa ) เป็นโพรติสต์ขนาด
เล็ก ส่วนใหญ่ดารงชีวิตแบบปรสิต ไม่มีโครงสร้างในการเคลื่อนที่ ได้แก่
พลาสโมเดียม
พลาสโมเดียม พลาสโมเดียม
- 16. 3.3 ซิลิเอต ( Ciliates )เป็นโปรติสที่ใช้ซีเลียในการเคลื่อนที่
เช่น พารามีเซียม วอร์ติเซลลา
พารามีเซียม วอร์ติเซลล์
- 18. 4. สตรามีโนไพลส์ ( Stramenopila )
ส่วนใหญ่มีกระบวนการสังเคราะห์แสง จึงเรียก
โพรทิสกลุ่มนี้ว่า “สาหร่ายหรือ algae”
มีลักษณะร่วมกันคือ เซลล์สืบพันธุ์มีแฟลกเจลลัมที่มี
ขนและไม่มีขน
ตัวอย่างโปรติสกลุ่มนี้ที่สาคัญ เช่น
- 19. 4.1 สาหร่ายสีน้าตาล ( Brown algae )
- มีสารสีน้าตาลเรียกว่า ฟิวโคแซนทิน
- เป็นสาหร่ายที่มีขนาดใหญ่ มีโครงสร้างซับซ้อน เช่น สาหร่ายเคลป์
(Kelp) สาหร่ายทุ่น หรือ sagassum ลามินาเรีย พาไดนา ฟิวกัส
สาหร่ายสีน้าตาลมีคุณค่าทางเศรษฐกิจ เช่น
สาหร่ายทุ่น เป็นสาหร่ายที่มีธาตุไอโอดีนสูง
ลามินาเรีย พาไดนา ฟิวกัส นามาใช้ผลิตปุ๋ ยโพแทสเซียม
- 21. 4.2 ไดอะตอม ( Diatoms ) เป็นสาหร่ายที่มีสารสีชนิด
เดียวกับสาหร่ายสีน้าตาล ทาให้มีสีเหลืองหรือน้าตาลแกมเหลือง มีผนัง
เซลล์ประกอบด้วยซิลิกา
- 23. 5.สาหร่ายสีแดง ( Rhodophyta )
มีสารสีไฟโคอีรีทริน แคโรทีนและคลอโรฟิลล์
- จีฉ่ายหรือพอไฟรา (นามาทาเป็นอาหาร)
- สาหร่ายผมนางหรือกราซิลลาเรีย (ใช้ผลิตวุ้น)
จีฉ่ายหรือพอไฟรา สาหร่ายผมนางหรือกราซิลลาเรีย
- 29. นอกจากโพรทิสต์ทั้ง 7 กลุ่มที่ได้กล่าวมาแล้ว ยังมีโพรทิสต์
อีกกลุ่มหนึ่งที่มีการศึกษาเกี่ยวกับวิวัฒนาการน้อยมาก ทาให้
นักวิทยาศาสตร์ไม่สามารถจัดอยู่ในสายวิวัฒนาการของโพรทิสต์กลุ่ม
ใดกลุ่มหนึ่งได้ ได้แก่ ไรโซโพดา(Rhizopoda)
- 37. 7. สตามีโนไพลส์ หรือ สาหร่าย(algae)
มีลักษณะร่วมกันคือ
เซลล์สืบพันธุ์ มีแฟกเจลลัม
ที่มีขนและไม่มีขน