SlideShare a Scribd company logo
...เกมเติมคํา ...
...สํานวนไทย....
โดย นางมยุรา ถาพรผาด
ครูกลุมสาระการเรียนรูภาษาไทย
โรงเรียนรัตนบุรี อําเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร
สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต ๓๓
คํานํา
สุภาษิต คําพังเพยและสํานวนไทย เปนคําที่แสดงถึงความคิดและวัฒนธรรม
ทางภาษาที่สืบทอดมาแตโบราณ โดยมีที่มาจากเหตุการณ เรื่องราวหรือความเปนไป
ในวิถีชีวิตของคนรุนกอน นับเปนสิ่งที่ควรเรียนรูและจดจําไวเพื่อนํามาประยุกตใน
ชีวิตประจําวันของเราไดเปนอยางดี เพราะถอยคําเหลานี้มักแฝงขอคิดและคติสอนใจ
เพื่อการปฏิบัติตนในโอกาสตาง ๆ ไดเปนอยางดี
“เกมเติมคํา...สํานวนไทย” เรียบเรียงขึ้นเพื่อใชประกอบการเรียนการสอน
วิชาภาษาไทย โดยไดรวบรวมความหมายของสํานวนไทยที่มีคําขึ้นตนในหมวดคําตาง ๆ
เพื่อใหผูอานไดรูจักคิด วิเคราะหความหมายและหาสํานวนที่ถูกตองตรงความหมาย
และทําใหการทายสํานวนสนุกสนานและนาสนใจยิ่งขึ้น
ผูจัดทําหวังเปนอยางยิ่งวา “เกมเติมคํา...สํานวนไทย” เลมนี้จะเกิดประโยชน
แกผูอานที่สนใจเรื่องสํานวนไทย เพื่อนําไปใชใหเกิดประโยชนตอไป
นางมยุรา ถาพรผาด
สารบัญ
เรื่อง หนา
เกมเติมคําสํานวนไทย
ชุดที่ ๑ หมวดคําวา หัว ๑
ชุดที่ ๒ หมวดคําวา กิน ๒
ชุดที่ ๓ หมวดคําวา น้ํา ๓
ชุดที่ ๔ หมวดคําวา ตก ๔
ชุดที่ ๕หมวดคําวา ตา ๕
ชุดที่ ๖หมวดคําวา หมา ๖
ชุดที่ ๗ หมวดคําวา เสือ ๗
ชุดที่ ๘ หมวดคําวา เปน ๘
ชุดที่ ๙ หมวดคําวา เอา ๙
ชุดที่ ๑๐ หมวดคําวา ไม ๑๐
ชุดที่ ๑๑ หมวดคําวา รู ๑๑
ชุดที่ ๑๒ หมวดคําวา กระ ๑๒
ชุดที่ ๑๓ หมวดคําวา เขา ๑๓
ชุดที่ ๑๔ หมวดคําวา ปาก ๑๔
ชุดที่ ๑๕ หมวดคําวา เห็น ๑๕
ชุดที่ ๑๖ หมวดคําวา ไม ๑๖
ชุดที่ ๑๗ หมวดคําวา ตี ๑๗
ชุดที่ ๑๘ หมวดคําวา ตัด ๑๘
เฉลยเกมเติมคําสํานวนไทย ๑๙
ชุดที่ ๑ หมวดคําวา หัว ๒๐
ชุดที่ ๒ หมวดคําวา กิน ๒๑
ชุดที่ ๓ หมวดคําวา น้ํา ๒๒
ชุดที่ ๔ หมวดคําวา ตก ๒๓
ชุดที่ ๕หมวดคําวา ตา ๒๔
ชุดที่ ๖หมวดคําวา หมา ๒๕
สารบัญ (ตอ)
เรื่อง หนา
ชุดที่ ๗ หมวดคําวา เสือ ๒๖
ชุดที่ ๘ หมวดคําวา เปน ๒๗
ชุดที่ ๙ หมวดคําวา เอา ๒๘
ชุดที่ ๑๐ หมวดคําวา ไม ๒๙
ชุดที่ ๑๑ หมวดคําวา รู ๓๐
ชุดที่ ๑๒ หมวดคําวา กระ ๓๑
ชุดที่ ๑๓ หมวดคําวา เขา ๓๒
ชุดที่ ๑๔ หมวดคําวา ปาก ๓๓
ชุดที่ ๑๕ หมวดคําวา เห็น ๓๔
ชุดที่ ๑๖ หมวดคําวา ไม ๓๕
ชุดที่ ๑๗ หมวดคําวา ตี ๓๖
ชุดที่ ๑๘ หมวดคําวา ตัด ๓๗
เอกสารอางอิง ๓๘
ชุดที่ ๑ หมวดคําวา “หัว”
๑. ผูที่ไดสิ่งซึ่งไมเปนประโยชนแกตน
๒. ที่รักใครเอ็นดูมาก
๓. สวนที่ถือวาดีกวาสวนอื่นแหงสิ่งของตาง ๆ
๔. มีแขกมาเยี่ยมเยือนอยูเสมอ
๕. อาการที่ทํางานอยูตลอดเวลาโดยไมมีเวลาหยุดพัก
๖. อาการที่ซน เลนไปตามความพอใจ ไมตองเกรงใจใคร
๗. ไมเขากัน, ไมกลมกลืนกัน, มีหลายแบบหลายอยาง
๘. คนเดียวไมมีพวก
๙. นิยมตามแบบเกา
๑๐. ผูเปนกําลังสําคัญในการทํากิจการ
สํานวนใดบางจะ ที่ขึ้นตนดวยคําวา “หัว”
๑ หัว.................................................. ๖ หัว......................................................
๒ หัว.................................................. ๗ หัว......................................................
๓ หัว.................................................. ๘ หัว......................................................
๔ หัว................................................. ๙ หัว......................................................
๕ หัว................................................. ๑๐ หัว......................................................
ชุดที่ ๒ หมวดคําวา “กิน”
๑. รูดีอยูแลวแสรงทําเปนไมรู
๒. รูสึกตะขิดตะขวงใจ
๓. ทํางานเมื่อจวนตัว
๔. ไดรับผลแหงความดีที่ทําไวแตชาติปางกอน
๕. รองไห เศราโศกจนไมเปนอันกิน
๖. เนรคุณ
๗. มีอารมณเสียแลวเอะอะโวยวายเกินกวาเหตุ
๘. ทําอาการมีพิรุธขึ้นเอง, แสดงอาการเดือดรอนขึ้นเอง
๙. อยูกับเมียคนเดียว
๑๐. ไมไดประโยชนอะไรเลย
สํานวนใดบางจะ ที่ขึ้นตนดวยคําวา “กิน”
๑ กิน.................................................. ๖ กิน......................................................
๒ กิน.................................................. ๗ กิน......................................................
๓ กิน.................................................. ๘ กิน......................................................
๔ กิน................................................. ๙ กิน......................................................
๕ กิน................................................. ๑๐ กิน......................................................
๒
ชุดที่ ๓ หมวดคําวา “น้ํา”
๑. มีความคิดเห็นเปนอันหนึ่งอันเดียวกัน
๒. หาไดมาเรื่อย ๆ
๓. เมื่อมีโอกาสดีควรรีบทํา
๔. พูดไมออก เพราะเกรงจะมีภัยแตตนหรือผูอื่น
๕. การพึ่งพาอาศัยกัน
๖. เสียใจ เพราะช้ําใจหรือตองผิดหวังอยางหนัก
๗. สั่งเสียเปนครั้งสุดทาย
๘. เมื่อหมดอํานาจ ความชั่วที่ทําไวก็ปรากฏ
๙. พูดมาก แตไดเนื้อหาสาระนอย
๑๐. คนที่มีทาหงิม ๆ มักจะมีความคิดลึกซึ้ง
สํานวนใดบางจะ ที่ขึ้นตนดวยคําวา “น้ํา”
๑ น้ํา.................................................. ๖ น้ํา..................................................
๒ น้ํา.................................................. ๗ น้ํา..................................................
๓ น้ํา.................................................. ๘ น้ํา..................................................
๔ น้ํา.................................................. ๙ น้ํา..................................................
๕ น้ํา.................................................. ๑๐ น้ํา..................................................
๓
ชุดที่ ๔ หมวดคําวา “ตก”
๑. ตกนรกขุมต่ําที่สุด
๒. ตัดสินใจที่จะรวมมือหรือรวมชีวิตดวย
๓. จําเปนตองเขาไปเกี่ยวของโดยไมมีทางเลี่ยง
๔. ไมชวยเหลือตัวเอง
๕. ตกอยูในที่คับขันอยางไรก็ไมเปนอันตราย
๖. ไดรับความลําบากแสนสาหัส
๗. ถูกลวงดวยเลหกลหรืออุบาย
๘. เสียเปรียบเขา
๙. วางงาน, ไมมีงานทํา
๑๐. ตกลง, รับรอง
สํานวนใดบางจะ...ที่ขึ้นตนดวยคําวา “ตก”
๑ ตก.................................................. ๖ ตก..................................................
๒ ตก.................................................. ๗ ตก..................................................
๓ ตก.................................................. ๘ ตก..................................................
๔ ตก.................................................. ๙ ตก..................................................
๕ ตก.................................................. ๑๐ ตก..................................................
๔
ชุดที่ ๕ หมวดคําวา “ตา”
๑. อาการที่ตาเบิกกวาง เพราะอยากไดเมื่อเห็นเงิน
๒. อวดรูในเรื่องที่ตนไมรู
๓. ไมรูจักของดี
๔. อาการรีบรอนลนลาน, ตื่นกลัว
๕. ผูที่ไดสิ่งซึ่งไมเปนประโยชนแกตน
๖. คนที่รูอะไรดานเดียวแลวเขาใจวาสิ่งนั้นเปนอยางนั้น
๗. มีพรรคพวกที่คอยสอดสองเหตุการณใหอยูรอบขาง
๘. อาการที่จับตาจองดูสิ่งที่ตองใจอยางจดจอ
๙. ผูมีอายุที่ไดรับการศึกษานอย
๑๐. ตาที่แสดงอาการกรุมกริ่มเปนเชิงทอดไมตรีในทางชูสาว
สํานวนใดบางจะ...ที่ขึ้นตนดวยคําวา “ตา”
๑ ตา.................................................. ๖ ตา..................................................
๒ ตา.................................................. ๗ ตา..................................................
๓ ตา.................................................. ๘ ตา..................................................
๔ ตา.................................................. ๙ ตา..................................................
๕ ตา.................................................. ๑๐ ตา..................................................
๕
ชุดที่ ๖ หมวดคําวา “หมา”
๑. คนที่หวงของที่ตนไมมีสิทธิ์
๒. คนที่ไมมีใครรักหรือคบหา
๓. คนที่เกงแตพูด
๔. คนโออวด
๕. คนที่ตอสูหรือตอบโตโดยไมเตือนลวงหนา
๖. คนที่ลอบทํารายหรือกลั่นแกลงผูอื่นลับหลัง
๗. คนที่ฮึดสูอยางสุดชีวิตเพราะไมมีทางเลือก
๘. อาการที่ชายหยอกลอหญิงในทํานองชูสาว ทีเลนทีจริง
๙. คนที่มีความเดือดรอน, กระวนกระวาย, วิ่งพลานไปหาที่พึ่งตาง ๆ
๑๐. คนที่ดีแตสงเสียงเอะอะอวดเกงแตไมยอมตอสูหรือตอบโต
สํานวนใดบางจะ...ที่ขึ้นตนดวยคําวา “หมา”
๑ หมา............................................... ๖ หมา...............................................
๒ หมา............................................... ๗ หมา...............................................
๓ หมา............................................... ๘ หมา...............................................
๔ หมา............................................... ๙ หมา...............................................
๕ หมา............................................... ๑๐ หมา...............................................
๖
ชุดที่ ๗ หมวดคําวา “เสือ”
๑. คนที่ทําเปนเซื่องซึมใหผูอื่นตายใจแลวทําการอยางใดอยางหนึ่ง
โดยไมทันใหรูตัว
๒. คนที่แสดงกิริยาเอะอะ ตึงตัง
๓. คนที่ฮึดสูอยางไมคิดชีวิต
๔. คนที่ไดรับผลประโยชนโดยที่ตองลงทุนลงแรง
๕. คนที่มีไหวพริบหรือฉลาด รูจักเอาตัวรอด
๖. ไมมีทางเลือก, หมดทางไป
๗. คนรายที่ปลอมมาในรางของคนดี
๘. คนที่มีอํานาจพอ ๆ กัน อยูรวมกันไมได
๙. คนที่มีทาทีสงบเสงี่ยม แตมีเลหเหลี่ยมมาก
๑๐. ผูที่มีความเกงกลาสามารถแตไมยอมแสดงออกมาใหปรากฏ
สํานวนใดบางจะ...ที่ขึ้นตนดวยคําวา “เสือ”
๑ เสือ............................................... ๖ เสือ...............................................
๒ เสือ............................................... ๗ เสือ...............................................
๓ เสือ............................................... ๘ เสือ...............................................
๔ เสือ............................................... ๙ เสือ...............................................
๕ เสือ............................................... ๑๐ เสือ...............................................
๗
ชุดที่ ๘ หมวดคําวา “เปน”
๑. อยูในฐานะหรือตําแหนงที่ตองทําตามที่เขาสั่ง
๒. ยืดยาว, ตาง ๆ นานา (ใชแกกริยาพูด)
๓. คอยติดตามอยูตลอดเวลา
๔. มีผิวพรรณผุดผองสวยงาม
๕. ถูกคอกัน, เขากันไดดี
๖. รุนแรง, เต็มที่ (ใชแกกริยาโกรธ)
๗. ชวยสดับตรับฟงและดูแลรักษาแทน
๘. คอยออกหนาปองกัน
๙. ไมรูจักจบจักสิ้น
๑๐. เอาจริงเอาจังเกินไป
สํานวนใดบางจะ...ที่ขึ้นตนดวยคําวา “เปน”
๑ เปน............................................... ๖ เปน...............................................
๒ เปน............................................... ๗ เปน...............................................
๓ เปน............................................... ๘ เปน...............................................
๔ เปน............................................... ๙ เปน...............................................
๕ เปน............................................... ๑๐ เปน...............................................
๘
ชุดที่ ๙ หมวดคําวา “เอา”
๑. แสรงทําเปนไมรูไมเห็น ไมสนใจ
๒. ใชคําพูดออนหวานหวานลอม
๓. ผูกอาฆาตไว, คาดโทษไว
๔. ใหรูจักเห็นใจผูอื่น
๕. ลงทุนนอยหวังผลกําไรมาก
๖. แสดงความรูหรืออวดรูกับผูที่รูเรื่องดีกวา
๗. เอาทรัพยหรือสิ่งของจากคนที่มีนอยไปใหแกผูที่มีมากกวา
๘. โตตอบหรือทะเลาะกับคนพาล มีแตทางเสีย
๙. อดทนในยามยากโดยกินน้ําแทนขาว
๑๐. อาศัยผูอื่นมักไมสะดวก
สํานวนใดบางจะ...ที่ขึ้นตนดวยคําวา “เอา”
๑ เอา............................................... ๖ เอา...............................................
๒ เอา............................................... ๗ เอา...............................................
๓ เอา............................................... ๘ เอา...............................................
๔ เอา............................................... ๙ เอา...............................................
๕ เอา............................................... ๑๐ เอา...............................................
๙
ชุดที่ ๑๐ หมวดคําวา “ไม”
๑. ไมตกลง, ไมยินยอม
๒. ไมมีเหตุ ยอมไมมีผล
๓. ไมรูเรื่องราวที่เกิดขึ้น
๔. ไมรอใหชักชา, ทันทีทันใด
๕. ไมเกินความสามารถที่จะทําได
๖. ไมไดเรื่อง, ไมไดความ
๗. ไมมีสวนไดอะไรดวย แลวยังตองเสียผลประโยชนไปอีก
๘. ดวนทําไปทั้ง ๆ ที่ยังไมถึงเวลาอันสมควร
๙. บา ๆ บอ ๆ , มีสติไมสมบูรณ
๑๐. ไมพิจารณาใหรอบคอบ
สํานวนใดบางจะ...ที่ขึ้นตนดวยคําวา “ไม”
๑ ไม............................................... ๖ ไม...............................................
๒ ไม............................................... ๗ ไม...............................................
๓ ไม............................................... ๘ ไม...............................................
๔ ไม............................................... ๙ ไม...............................................
๕ ไม............................................... ๑๐ ไม...............................................
๑๐
ชุดที่ ๑๑ หมวดคําวา “รู”
๑. ไมรูจริงสักอยางเดียว
๒. รูมากเกินไปจนทําใหยุงยากใจ
๓. เรียนรูไว ไมหนักเรี่ยวหนักแรงหรือเสียหายอะไร
๔. รูจักเอาตัวรอด หรือปรับตัวใหเขากับเหตุการณ
๕. รูกําพืด, รูนิสัยใจคอ
๖. รูเล็ก ๆ นอย ๆ , รูไมจริง
๗. รูจักเก็บรักษาขาวของ
๘. รูนอยไมเขาใจ ทําใหเกิดความรําคาญใจ
๙. รูจักผอนสั้นผอนยาว
๑๐. รูจักสะสม, รูจักหา
สํานวนใดบางจะ...ที่ขึ้นตนดวยคําวา “รู”
๑ รู............................................... ๖ รู...............................................
๒ รู............................................... ๗ รู...............................................
๓ รู............................................... ๘ รู...............................................
๔ รู............................................... ๙ รู...............................................
๕ รู............................................... ๑๐ รู...............................................
๑๑
ชุดที่ ๑๒ หมวดคําวา “กระ”
๑. สุรุยสุราย, ไมรูจักเก็บหอมรอมริบ
๒. ไมตายงาย ๆ
๓. หนาเปน
๔. ผูที่ใคร ๆ ก็พากันรุมใชอยูคนเดียว
๕. ผูชายที่หมายปองผูหญิงที่มีฐานะดีกวา
๖. ใชเปรียบเทียบคนที่แสดงอาการตื่นตกใจงายโดยไมทันสํารวจใหถองแทกอน
๗. เจ็บปวยงาย
๘. ผลสะทอนของฆาตกรรมที่ทําใหจับตัวผูกระทําผิดมาลงโทษได
๙. สวนสําคัญ, สวนที่เปนพลังค้ําจุน, มักหมายถึง ชาวนา
๑๐. คนที่แสดงอาการดีอกดีใจ ตื่นเตนจนตัวสั่น
สํานวนใดบางจะ...ที่ขึ้นตนดวยคําวา “กระ”
๑ กระ............................................... ๖ กระ...............................................
๒ กระ............................................... ๗ กระ...............................................
๓ กระ............................................... ๘ กระ...............................................
๔ กระ............................................... ๙ กระ...............................................
๕ กระ............................................... ๑๐ กระ...............................................
๑๒
ชุดที่ ๑๓ หมวดคําวา “เขา”
๑. ทําตามธรรมเนียมประเพณี
๒. แสดงบทเกี้ยวพาราสี
๓. ถูกกับแบบแผน
๔. ใหมีสติ อยาประมาท
๕. บอกหรือสอนไมไดผล
๖. ประพฤติตนใหเหมาะสมกับกาลเทศะ
๗. เอาไวเปนของสวนตัว
๘. พูดหรือทําไมถูกตองกับเรื่อง เพราะขาดความชํานาญในเรื่องนั้น
๙. เวลาสําคัญถามีอะไรมาขัดจังหวะ แมเพียงเล็กนอยก็เสียการ
๑๐. สามารถติดตอหรือคบหาสมาคมกับใคร ๆ ได
สํานวนใดบางจะ...ที่ขึ้นตนดวยคําวา “เขา”
๑ เขา............................................... ๖ เขา...............................................
๒ เขา............................................... ๗ เขา...............................................
๓ เขา............................................... ๘ เขา...............................................
๔ เขา............................................... ๙ เขา...............................................
๕ เขา............................................... ๑๐ เขา...............................................
๑๓
ชุดที่ ๑๔ หมวดคําวา “ปาก”
๑. ชอบนินทาเล็กนินทานอย
๒. พอพูดก็ทําเลย
๓. ชอบพูดคําหยาบ
๔. พูดดีแตใจคิดราย
๕. วากลาวสั่งสอนไมรูจักหยุด
๖. พูดจาออนหวาน แตไมจริงใจ
๗. การกลาวตักเตือนซ้ําแลวซ้ําเลา ก็ยังไมไดผลตามที่มุงหมาย
๘. พูดอยางหนึ่งแตทําอีกอยางหนึ่ง, ปากกับใจไมตรงกัน
๙. ยังเปนเด็ก
๑๐. ภัยอันตราย
สํานวนใดบางจะ...ที่ขึ้นตนดวยคําวา “ปาก”
๑ ปาก............................................... ๖ ปาก...............................................
๒ ปาก............................................... ๗ ปาก...............................................
๓ ปาก............................................... ๘ ปาก...............................................
๔ ปาก............................................... ๙ ปาก...............................................
๕ ปาก............................................... ๑๐ ปาก...............................................
๑๔
ชุดที่ ๑๕ หมวดคําวา “เห็น”
๑. ถึงขั้นแตกหัก
๒. รวมรูสึกในใจ
๓. เห็นคนอื่นดีกวาญาติพี่นอง
๔. เริ่มเห็นผลงานที่ไดลงทุนลงแรงไป
๕. ทําเลียนแบบคนใหญคนโตทั้ง ๆ ที่ตนไมมีกําลังทรัพยพอ
๖. มีโอกาสไดจัดการบวชลูกหลานในพระพุทธศาสนา
๗. เห็นผิดเปนชอบ
๘. เห็นประจักษฝมือ
๙. เห็นฝายตรงขามที่ตัวใหญกวาไมนาเกรงขามในเวลาที่โกรธมากจนลืมตัว
๑๐. ลําเอียงในบุคคล, มุงเฉพาะตน
สํานวนใดบางจะ...ที่ขึ้นตนดวยคําวา “เห็น”
๑ เห็น............................................... ๖ เห็น...............................................
๒ เห็น............................................... ๗ เห็น...............................................
๓ เห็น............................................... ๘ เห็น...............................................
๔ เห็น............................................... ๙ เห็น...............................................
๕ เห็น............................................... ๑๐ เห็น...............................................
๑๕
ชุดที่ ๑๖ หมวดคําวา “ไม”
๑. พวกเดียวกัน
๒. ขัดกันตะพึด เพราะใจโกรธกันมากอน
๓. ผูมีวาสนายอมมีคนมาพึ่งบารมี
๔. แกใกลจะตาย
๕. คนที่เคยมีวาสนา เมื่อตกต่ําลง ผูที่มาพึ่งบารมีก็หายหนาไป
๖. หญิงสวยมักไมบริสุทธิ์
๗. โลเล, ไมแนนอน
๘. อบรมสั่งสอนเด็กใหประพฤติไดงายกวาอบรมสั่งสอนผูใหญ
๙. คนที่ประพฤตินอกแบบแผนของวงศตระกูล
๑๐. ทาสําคัญที่ใชในการตอสู ทําใหคูตอสูไมสามารถจะสูไดอีก
สํานวนใดบางจะ...ที่ขึ้นตนดวยคําวา “ไม”
๑ ไม............................................... ๖ ไม...............................................
๒ ไม............................................... ๗ ไม...............................................
๓ ไม............................................... ๘ ไม...............................................
๔ ไม............................................... ๙ ไม...............................................
๕ ไม............................................... ๑๐ ไม...............................................
๑๖
ชุดที่ ๑๗ หมวดคําวา “ตี”
๑. ขูใหกลัว
๒. ตลบตะแลง, กลับกลอก
๓. พูดหรือทําใหกิจการของผูอื่นซึ่งกําลังดําเนินไปดวยดีกลับเสียไป
๔. ทําสิ่งใด ๆ ไวแลว แตผลไปตกแกผูอื่น
๕. กังวลทุกขรอนหรือหวาดกลัวในเรื่องที่ยังไมเกิดขึ้น
๖. กระทําการสิ่งใดแกศัตรูโดยไมเด็ดขาดจริงจัง ยอมไดรับผลรายในภายหลัง
๗. เขาทําในตอนหลังหรือในระยะหลัง
๘. พูดใชสํานวนโวหารเปนเชิงอวดฉลาด
๙. ทําหนาเฉยเหมือนไมมีความรูสึกหรือไมรูเรื่อง
๑๐. อวดแสดงคารม
สํานวนใดบางจะ...ที่ขึ้นตนดวยคําวา “ตี”
๑ ตี............................................... ๖ ตี...............................................
๒ ตี............................................... ๗ ตี...............................................
๓ ตี............................................... ๘ ตี...............................................
๔ ตี............................................... ๙ ตี...............................................
๕ ตี............................................... ๑๐ ตี...............................................
๑๗
ชุดที่ ๑๘ หมวดคําวา “ตัด”
๑. ชิงทําเสียกอน
๒. ทําลายใหถึงตนตอ
๓. ลดราคาใหต่ํากวาคูแขงขัน
๔. เอาตัวรอดแตผูเดียว
๕. ตัดขาดจากกันอยางเด็ดขาด
๖. ตัดตนเหตุเพื่อไมใหเหตุการณลุกลามตอไป
๗. ตัดขาดไมเกี่ยวของ ไมเอาเปนธุระอีกตอไป
๘. ลักลอบเขาไปในบานของผูอื่นเพื่อขโมยของ
๙. ตัดความสัมพันธ ไมยอมใหความชวยเหลืออีกตอไป
๑๐. หามใจไมใหคิดในเหตุที่เกิดขึ้น, ตกลงใจ
สํานวนใดบางจะ...ที่ขึ้นตนดวยคําวา “ตัด”
๑ ตัด............................................... ๖ ตัด...............................................
๒ ตัด............................................... ๗ ตัด...............................................
๓ ตัด............................................... ๘ ตัด...............................................
๔ ตัด............................................... ๙ ตัด...............................................
๕ ตัด............................................... ๑๐ ตัด...............................................
๑๘
เฉลย
เกมเติมคํา...สํานวนไทย
๑๙
ชุดที่ ๑ หมวดคําวา “หัว”
๑. ผูที่ไดสิ่งซึ่งไมเปนประโยชนแกตน
๒. ที่รักใครเอ็นดูมาก
๓. สวนที่ถือวาดีกวาสวนอื่นแหงสิ่งของตาง ๆ
๔. มีแขกมาเยี่ยมเยือนอยูเสมอ
๕. อาการที่ทํางานอยูตลอดเวลาโดยไมมีเวลาหยุดพัก
๖. อาการที่ซน เลนไปตามความพอใจ ไมตองเกรงใจใคร
๗. ไมเขากัน, ไมกลมกลืนกัน, มีหลายแบบหลายอยาง
๘. คนเดียวไมมีพวก
๙. นิยมตามแบบเกา
๑๐. ผูเปนกําลังสําคัญในการทํากิจการ
สํานวนใดบางจะ ที่ขึ้นตนดวยคําวา “หัว”
๑ หัวลานไดหวี ๖ หัวหกกนขวิด
๒ หัวแกวหัวแหวน ๗ หัวมังกุทายมังกร
๓ หัวพุงหัวมัน ๘ หัวเดียวกระเทียมลีบ
๔ หัวกระไดไมแหง ๙ หัวโบราณ
๕ หัวไมวางหางไมเวน ๑๐ หัวเรือใหญ
๒๐
ชุดที่ ๒ หมวดคําวา “กิน”
๑. รูดีอยูแลวแสรงทําเปนไมรู
๒. รูสึกตะขิดตะขวงใจ
๓. ทํางานเมื่อจวนตัว
๔. ไดรับผลแหงความดีที่ทําไวแตชาติปางกอน
๕. รองไห เศราโศกจนไมเปนอันกิน
๖. เนรคุณ
๗. มีอารมณเสียแลวเอะอะโวยวายเกินกวาเหตุ
๘. ทําอาการมีพิรุธขึ้นเอง, แสดงอาการเดือดรอนขึ้นเอง
๙. อยูกับเมียคนเดียว
๑๐. ไมไดประโยชนอะไรเลย
สํานวนใดบางจะ ที่ขึ้นตนดวยคําวา “กิน”
๑ กินอยูกับปากอยากอยูกับทอง ๖ กินบนเรือนขี้บนหลังคา
๒ กินน้ําเห็นปลิง ๗ กินรังแตน
๓ กินแกงรอน ๘ กินปูนรอนทอง
๔ กินบุญเกา ๙ กินน้ําพริกถวยเดียว
๕ กินน้ําตาตางขาว ๑๐ กินลมกินแลง
๒๑
ชุดที่ ๓ หมวดคําวา “น้ํา”
๑. มีความคิดเห็นเปนอันหนึ่งอันเดียวกัน
๒. หาไดมาเรื่อย ๆ
๓. เมื่อมีโอกาสดีควรรีบทํา
๔. พูดไมออก เพราะเกรงจะมีภัยแตตนหรือผูอื่น
๕. การพึ่งพาอาศัยกัน
๖. เสียใจ เพราะช้ําใจหรือตองผิดหวังอยางหนัก
๗. สั่งเสียเปนครั้งสุดทาย
๘. เมื่อหมดอํานาจ ความชั่วที่ทําไวก็ปรากฏ
๙. พูดมาก แตไดเนื้อหาสาระนอย
๑๐. คนที่มีทาหงิม ๆ มักจะมีความคิดลึกซึ้ง
สํานวนใดบางจะ ที่ขึ้นตนดวยคําวา “น้ํา”
๑ น้ําหนึ่งใจเดียวกัน ๖ น้ําตาเช็ดหัวเขา
๒ น้ําซึมบอทราย ๗ น้ําสั่งฟา ปลาสั่งฝน
๓ น้ําขึ้นใหรีบตัก ๘ น้ําลดตอผุด
๔ น้ําทวมปาก ๙ น้ําทวมทุงผักบุงโหรงเหรง
๕ น้ําพึ่งเรือเสือพึ่งปา ๑๐ น้ํานิ่งไหลลึก
๒๒
ชุดที่ ๔ หมวดคําวา “ตก”
๑. ตกนรกขุมต่ําที่สุด
๒. ตัดสินใจที่จะรวมมือหรือรวมชีวิตดวย
๓. จําเปนตองเขาไปเกี่ยวของโดยไมมีทางเลี่ยง
๔. ไมชวยเหลือตัวเอง
๕. ตกอยูในที่คับขันอยางไรก็ไมเปนอันตราย
๖. ไดรับความลําบากแสนสาหัส
๗. ถูกลวงดวยเลหกลหรืออุบาย
๘. เสียเปรียบเขา
๙. วางงาน, ไมมีงานทํา
๑๐. ตกลง, รับรอง
สํานวนใดบางจะ...ที่ขึ้นตนดวยคําวา “ตก”
๑ ตกใตเถรเทวทัต ๖ ตกนรกทั้งเปน
๒ ตกลองปลองชิ้น ๗ ตกหลุม, ตกหลุมพราง
๓ ตกกระไดพลอยโจน ๘ ตกเปนเบี้ยลาง
๔ ตกน้ําไมวาย ๙ ตกงาน
๕ ตกน้ําไมไหล ตกไฟไมไหม ๑๐ ตกปากรับคํา, ตกปากลงคํา
๒๓
ชุดที่ ๕ หมวดคําวา “ตา”
๑. อาการที่ตาเบิกกวาง เพราะอยากไดเมื่อเห็นเงิน
๒. อวดรูในเรื่องที่ตนไมรู
๓. ไมรูจักของดี
๔. อาการรีบรอนลนลาน, ตื่นกลัว
๕. ผูที่ไดสิ่งซึ่งไมเปนประโยชนแกตน
๖. คนที่รูอะไรดานเดียวแลวเขาใจวาสิ่งนั้นเปนอยางนั้น
๗. มีพรรคพวกที่คอยสอดสองเหตุการณใหอยูรอบขาง
๘. อาการที่จับตาจองดูสิ่งที่ตองใจอยางจดจอ
๙. ผูมีอายุที่ไดรับการศึกษานอย
๑๐. ตาที่แสดงอาการกรุมกริ่มเปนเชิงทอดไมตรีในทางชูสาว
สํานวนใดบางจะ...ที่ขึ้นตนดวยคําวา “ตา”
๑ ตาโต, ตาพอง ๖ ตาบอดคลําชาง
๒ ตาบอดสอดตาเห็น ๗ ตาเปนสับปะรด
๓ ตาไมมีแวว ๘ ตาเปนมัน
๔ ตาลีตาเหลือก ๙ ตามีตามา, ตาสีตาสา
๕ ตาบอดไดแวน ๑๐ ตาเจาชู
๒๔
ชุดที่ ๖ หมวดคําวา “หมา”
๑. คนที่หวงของที่ตนไมมีสิทธิ์
๒. คนที่ไมมีใครรักหรือคบหา
๓. คนที่เกงแตพูด
๔. คนโออวด
๕. คนที่ตอสูหรือตอบโตโดยไมเตือนลวงหนา
๖. คนที่ลอบทํารายหรือกลั่นแกลงผูอื่นลับหลัง
๗. คนที่ฮึดสูอยางสุดชีวิตเพราะไมมีทางเลือก
๘. อาการที่ชายหยอกลอหญิงในทํานองชูสาว ทีเลนทีจริง
๙. คนที่มีความเดือดรอน, กระวนกระวาย, วิ่งพลานไปหาที่พึ่งตาง ๆ
๑๐. คนที่ดีแตสงเสียงเอะอะอวดเกงแตไมยอมตอสูหรือตอบโต
สํานวนใดบางจะ...ที่ขึ้นตนดวยคําวา “หมา”
๑ หมาหวงกาง ๖ หมาลอบกัด
๒ หมาหัวเนา ๗ หมาจนตรอก
๓ หมาเหาใบตองแหง ๘ หมาหยอกไก
๔ หมาขี้ไมมีใครยกหาง ๙ หมาถูกน้ํารอน
๕ หมากัดไมเหา ๑๐ หมาเหาไมกัด
๒๕
ชุดที่ ๗ หมวดคําวา “เสือ”
๑. คนที่ทําเปนเซื่องซึมใหผูอื่นตายใจแลวทําการอยางใดอยางหนึ่ง
โดยไมทันใหรูตัว
๒. คนที่แสดงกิริยาเอะอะ ตึงตัง
๓. คนที่ฮึดสูอยางไมคิดชีวิต
๔. คนที่ไดรับผลประโยชนโดยที่ตองลงทุนลงแรง
๕. คนที่มีไหวพริบหรือฉลาด รูจักเอาตัวรอด
๖. ไมมีทางเลือก, หมดทางไป
๗. คนรายที่ปลอมมาในรางของคนดี
๘. คนที่มีอํานาจพอ ๆ กัน อยูรวมกันไมได
๙. คนที่มีทาทีสงบเสงี่ยม แตมีเลหเหลี่ยมมาก
๑๐. ผูที่มีความเกงกลาสามารถแตไมยอมแสดงออกมาใหปรากฏ
สํานวนใดบางจะ...ที่ขึ้นตนดวยคําวา “เสือ”
๑ เสือลากหาง ๖ เสือจนทา ขาจนทาง
๒ เสือทลายหาง ชางทลายโรง ๗ เสือในรางสมัน
๓ เสือสิ้นตวัก ๘ เสือสองตัวอยูในถ้ําเดียวกันไมได
๔ เสือนอนกิน ๙ เสือเฒาจําศีล
๕ เสือรู ๑๐ เสือซอนเล็บ
๒๖
ชุดที่ ๘ หมวดคําวา “เปน”
๑. อยูในฐานะหรือตําแหนงที่ตองทําตามที่เขาสั่ง
๒. ยืดยาว, ตาง ๆ นานา (ใชแกกริยาพูด)
๓. คอยติดตามอยูตลอดเวลา
๔. มีผิวพรรณผุดผองสวยงาม
๕. ถูกคอกัน, เขากันไดดี
๖. รุนแรง, เต็มที่ (ใชแกกริยาโกรธ)
๗. ชวยสดับตรับฟงและดูแลรักษาแทน
๘. คอยออกหนาปองกัน
๙. ไมรูจักจบจักสิ้น
๑๐. เอาจริงเอาจังเกินไป
สํานวนใดบางจะ...ที่ขึ้นตนดวยคําวา “เปน”
๑ เปนหุนใหเชิด ๖ เปนฟนเปนไฟ
๒ เปนคุงเปนแคว ๗ เปนหูเปนตา
๓ เปนเงาตามตัว ๘ เปนดั้งหนา
๔ เปนน้ําเปนนวล ๙ เปนวรรคเปนเวร
๕ เปนปเปนขลุย ๑๐ เปนบาเปนหลัง
๒๗
ชุดที่ ๙ หมวดคําวา “เอา”
๑. แสรงทําเปนไมรูไมเห็น ไมสนใจ
๒. ใชคําพูดออนหวานหวานลอม
๓. ผูกอาฆาตไว, คาดโทษไว
๔. ใหรูจักเห็นใจผูอื่น
๕. ลงทุนนอยหวังผลกําไรมาก
๖. แสดงความรูหรืออวดรูกับผูที่รูเรื่องดีกวา
๗. เอาทรัพยหรือสิ่งของจากคนที่มีนอยไปใหแกผูที่มีมากกวา
๘. โตตอบหรือทะเลาะกับคนพาล มีแตทางเสีย
๙. อดทนในยามยากโดยกินน้ําแทนขาว
๑๐. อาศัยผูอื่นมักไมสะดวก
สํานวนใดบางจะ...ที่ขึ้นตนดวยคําวา “เอา”
๑ เอาหูไปนา เอาตาไปไร ๖ เอามะพราวหาวไปขายสวน
๒ เอาน้ําเย็นเขาลูบ ๗ เอาเนื้อหนูไปปะเนื้อชาง
๓ เอาปูนหมายหัว ๘ เอาไมสั้นไปรันขี้
๔ เอาใจเขามาใสใจเรา ๙ เอาน้ําลูบทอง
๕ เอากุงฝอยไปตกปลากะพง ๑๐ เอาจมูกคนอื่นมาหายใจ
๒๘
ชุดที่ ๑๐ หมวดคําวา “ไม”
๑. ไมตกลง, ไมยินยอม
๒. ไมมีเหตุ ยอมไมมีผล
๓. ไมรูเรื่องราวที่เกิดขึ้น
๔. ไมรอใหชักชา, ทันทีทันใด
๕. ไมเกินความสามารถที่จะทําได
๖. ไมไดเรื่อง, ไมไดความ
๗. ไมมีสวนไดอะไรดวย แลวยังตองเสียผลประโยชนไปอีก
๘. ดวนทําไปทั้ง ๆ ที่ยังไมถึงเวลาอันสมควร
๙. บา ๆ บอ ๆ , มีสติไมสมบูรณ
๑๐. ไมพิจารณาใหรอบคอบ
สํานวนใดบางจะ...ที่ขึ้นตนดวยคําวา “ไม”
๑ ไมเออออหอหมก ๖ ไมเขายา
๒ ไมมีมูลหมาไมขี้ ๗ ไมไดเบี้ยออกขาว
๓ ไมรูอิโหนอิเหน ๘ ไมเห็นน้ําตัดกระบอก
ไมเห็นกระรอกกงหนาไม
๔ ไมพูดพร่ําทําเพลง ๙ ไมเต็มเต็ง, ไมเต็มบาท
๕ ไมเหลือบากวาแรง ๑๐ ไมดูตามาตาเรือ
๒๙
ชุดที่ ๑๑ หมวดคําวา “รู”
๑. ไมรูจริงสักอยางเดียว
๒. รูมากเกินไปจนทําใหยุงยากใจ
๓. เรียนรูไว ไมหนักเรี่ยวหนักแรงหรือเสียหายอะไร
๔. รูจักเอาตัวรอด หรือปรับตัวใหเขากับเหตุการณ
๕. รูกําพืด, รูนิสัยใจคอ
๖. รูเล็ก ๆ นอย ๆ , รูไมจริง
๗. รูจักเก็บรักษาขาวของ
๘. รูนอยไมเขาใจ ทําใหเกิดความรําคาญใจ
๙. รูจักผอนสั้นผอนยาว
๑๐. รูจักสะสม, รูจักหา
สํานวนใดบางจะ...ที่ขึ้นตนดวยคําวา “รู”
๑ รูอยางเปด ๖ รูงู ๆ ปลา ๆ
๒ รูมากยากนาน ๗ รูจักเก็บรูจักงํา
๓ รูไวใชวาใสบาแบกหาม ๘ รูนอยพลอยรําคาญ
๔ รูหลบเปนปกรูหลีกเปนหาง ๙ รูยาวรูสั้น
๕ รูเชนเห็นชาติ ๑๐ รูจักเก็บรูจักเขี่ย
๓๐
ชุดที่ ๑๒ หมวดคําวา “กระ”
๑. สุรุยสุราย, ไมรูจักเก็บหอมรอมริบ
๒. ไมตายงาย ๆ
๓. หนาเปน
๔. ผูที่ใคร ๆ ก็พากันรุมใชอยูคนเดียว
๕. ผูชายที่หมายปองผูหญิงที่มีฐานะดีกวา
๖. ใชเปรียบเทียบคนที่แสดงอาการตื่นตกใจงายโดยไมทันสํารวจใหถองแทกอน
๗. เจ็บปวยงาย
๘. ผลสะทอนของฆาตกรรมที่ทําใหจับตัวผูกระทําผิดมาลงโทษได
๙. สวนสําคัญ, สวนที่เปนพลังค้ําจุน, มักหมายถึง ชาวนา
๑๐. คนที่แสดงอาการดีอกดีใจ ตื่นเตนจนตัวสั่น
สํานวนใดบางจะ...ที่ขึ้นตนดวยคําวา “กระ”
๑ กระเชอกนรั่ว ๖ กระตายตื่นตูม
๒ กระดูกแข็ง ๗ กระหมอมบาง
๓ กระแตวับ ๘ กระดูกรองได
๔ กระโถนทองพระโรง ๙ กระดูกสันหลังของชาติ
๕ กระตายหมายจันทร ๑๐ กระดี่ไดน้ํา
๓๑
ชุดที่ ๑๓ หมวดคําวา “เขา”
๑. ทําตามธรรมเนียมประเพณี
๒. แสดงบทเกี้ยวพาราสี
๓. ถูกกับแบบแผน
๔. ใหมีสติ อยาประมาท
๕. บอกหรือสอนไมไดผล
๖. ประพฤติตนใหเหมาะสมกับกาลเทศะ
๗. เอาไวเปนของสวนตัว
๘. พูดหรือทําไมถูกตองกับเรื่อง เพราะขาดความชํานาญในเรื่องนั้น
๙. เวลาสําคัญถามีอะไรมาขัดจังหวะ แมเพียงเล็กนอยก็เสียการ
๑๐. สามารถติดตอหรือคบหาสมาคมกับใคร ๆ ได
สํานวนใดบางจะ...ที่ขึ้นตนดวยคําวา “เขา”
๑ เขาตามตรอกออกตามประตู ๖ เขาเมืองตาหลิ่ว ตองหลิ่วตาตาม
๒ เขาพระเขานาง ๗ เขาพกเขาหอ
๓ เขารูปเขารอย ๘ เขารกเขาพง
๔ เขาเถื่อนอยาลืมพรา ๙ เขาดายเขาเข็ม
๕ เขาหูซายทะลุหูขวา ๑๐ เขาไหนเขาได
๓๒
ชุดที่ ๑๔ หมวดคําวา “ปาก”
๑. ชอบนินทาเล็กนินทานอย
๒. พอพูดก็ทําเลย
๓. ชอบพูดคําหยาบ
๔. พูดดีแตใจคิดราย
๕. วากลาวสั่งสอนไมรูจักหยุด
๖. พูดจาออนหวาน แตไมจริงใจ
๗. การกลาวตักเตือนซ้ําแลวซ้ําเลา ก็ยังไมไดผลตามที่มุงหมาย
๘. พูดอยางหนึ่งแตทําอีกอยางหนึ่ง, ปากกับใจไมตรงกัน
๙. ยังเปนเด็ก
๑๐. ภัยอันตราย
สํานวนใดบางจะ...ที่ขึ้นตนดวยคําวา “ปาก”
๑ ปากหอยปากปู ๖ ปากหวานกนเปรี้ยว
๒ ปากวามือถึง ๗ ปากเปยกปากแฉะ
๓ ปากปลารา ๘ ปากวาตาขยิบ
๔ ปากปราศรัยน้ําใจเชือดคอ ๙ ปากไมสิ้นกลิ่นน้ํานม
๕ ปากเปนชักยนต ๑๐ ปากเหยี่ยวปากกา
๓๓
ชุดที่ ๑๕ หมวดคําวา “เห็น”
๑. ถึงขั้นแตกหัก
๒. รวมรูสึกในใจ
๓. เห็นคนอื่นดีกวาญาติพี่นอง
๔. เริ่มเห็นผลงานที่ไดลงทุนลงแรงไป
๕. ทําเลียนแบบคนใหญคนโตทั้ง ๆ ที่ตนไมมีกําลังทรัพยพอ
๖. มีโอกาสไดจัดการบวชลูกหลานในพระพุทธศาสนา
๗. เห็นผิดเปนชอบ
๘. เห็นประจักษฝมือ
๙. เห็นฝายตรงขามที่ตัวใหญกวาไมนาเกรงขามในเวลาที่โกรธมากจนลืมตัว
๑๐. ลําเอียงในบุคคล, มุงเฉพาะตน
สํานวนใดบางจะ...ที่ขึ้นตนดวยคําวา “เห็น”
๑ เห็นดําเห็นแดง ๖ เห็นชายผาเหลือง
๒ เห็นใจ ๗ เห็นกงจักรเปนดอกบัว
๓ เห็นขี้ดีกวาไส ๘ เห็นดี
๔ เห็นหนาเห็นหลัง ๙ เห็นชางเทาหมู
๕ เห็นชางขี้ขี้ตามชาง ๑๐ เห็นแกหนา
๓๔
ชุดที่ ๑๖ หมวดคําวา “ไม”
๑. พวกเดียวกัน
๒. ขัดกันตะพึด เพราะใจโกรธกันมากอน
๓. ผูมีวาสนายอมมีคนมาพึ่งบารมี
๔. แกใกลจะตาย
๕. คนที่เคยมีวาสนา เมื่อตกต่ําลง ผูที่มาพึ่งบารมีก็หายหนาไป
๖. หญิงสวยมักไมบริสุทธิ์
๗. โลเล, ไมแนนอน
๘. อบรมสั่งสอนเด็กใหประพฤติไดงายกวาอบรมสั่งสอนผูใหญ
๙. คนที่ประพฤตินอกแบบแผนของวงศตระกูล
๑๐. ทาสําคัญที่ใชในการตอสู ทําใหคูตอสูไมสามารถจะสูไดอีก
สํานวนใดบางจะ...ที่ขึ้นตนดวยคําวา “ไม”
๑ ไมปาเดียวกัน ๖ ไมงามกระรอกเจาะ
๒ ไมเบื่อไมเมา ๗ ไมหลักปกขี้ควาย / ไมหลักปกเลน
๓ ไมรมนกจับ ๘ ไมออนดัดงาย ไมแกดัดยาก
๔ ไมใกลฝง ๙ ไมนอกกอ
๕ ไมลมเงาหาย ๑๐ ไมเด็ด / ไมตาย
๓๕
ชุดที่ ๑๗ หมวดคําวา “ตี”
๑. ขูใหกลัว
๒. ตลบตะแลง, กลับกลอก
๓. พูดหรือทําใหกิจการของผูอื่นซึ่งกําลังดําเนินไปดวยดีกลับเสียไป
๔. ทําสิ่งใด ๆ ไวแลว แตผลไปตกแกผูอื่น
๕. กังวลทุกขรอนหรือหวาดกลัวในเรื่องที่ยังไมเกิดขึ้น
๖. กระทําการสิ่งใดแกศัตรูโดยไมเด็ดขาดจริงจัง ยอมไดรับผลรายในภายหลัง
๗. เขาทําในตอนหลังหรือในระยะหลัง
๘. พูดใชสํานวนโวหารเปนเชิงอวดฉลาด
๙. ทําหนาเฉยเหมือนไมมีความรูสึกหรือไมรูเรื่อง
๑๐. อวดแสดงคารม
สํานวนใดบางจะ...ที่ขึ้นตนดวยคําวา “ตี”
๑ ตีปาใหเสือกลัว ๖ ตีงูใหหลังหัก
๒ ตีหลายหนา ๗ ตีทายน้ํา
๓ ตีปลาหนาไซ ๘ ตีสํานวน
๔ ตีงูใหกากิน ๙ ตีหนาตาย
๕ ตีตนกอนไข / ตีตนตายกอนไข ๑๐ ตีฝปาก
๓๖
ชุดที่ ๑๘ หมวดคําวา “ตัด”
๑. ชิงทําเสียกอน
๒. ทําลายใหถึงตนตอ
๓. ลดราคาใหต่ํากวาคูแขงขัน
๔. เอาตัวรอดแตผูเดียว
๕. ตัดขาดจากกันอยางเด็ดขาด
๖. ตัดตนเหตุเพื่อไมใหเหตุการณลุกลามตอไป
๗. ตัดขาดไมเกี่ยวของ ไมเอาเปนธุระอีกตอไป
๘. ลักลอบเขาไปในบานของผูอื่นเพื่อขโมยของ
๙. ตัดความสัมพันธ ไมยอมใหความชวยเหลืออีกตอไป
๑๐. หามใจไมใหคิดในเหตุที่เกิดขึ้น, ตกลงใจ
สํานวนใดบางจะ...ที่ขึ้นตนดวยคําวา “ตัด”
๑ ตัดหนา ๖ ตัดไฟตนลม / ตัดไฟหัวลม
๒ ตัดหนามอยาไวหนอ ๗ ตัดหางปลอยวัด
๓ ตัดราคา ๘ ตัดชองยองเบา
๔ ตัดชองนอยแตพอตัว ๙ ตัดเชือก
๕ ตัดเปนตัดตาย ๑๐ ตัดใจ
๓๗
เอกสารอางอิง
ราชบัญฑิตยสถาน. (๒๕๕๓). ภาษิต คําพังเพย สํานวนไทย. กรุงเทพฯ :
ราชบัณฑิตยสถาน.
เอกรัตน อุดมพร. (๒๕๕๑). ๒,๐๐๐ อุปมาอุไมย. กรุงเทพฯ : พัฒนาศึกษา.
ไอคิว พลัส. (๒๕๕๒). สนุกใชสุภาษิต-คําพังเพยและสํานวนไทย. กรุงเทพฯ :
พีเอ็นเอ็น กรุป.
๓๘
เกมเติมคำ สำนวนไทย

More Related Content

What's hot

การลบแบบมีการยืม 3 หลัก สำหรับ ป.1
การลบแบบมีการยืม 3 หลัก สำหรับ ป.1การลบแบบมีการยืม 3 หลัก สำหรับ ป.1
การลบแบบมีการยืม 3 หลัก สำหรับ ป.1
กวดวิชา บ้านครูจอย
 
พยางค์และคำ 2
พยางค์และคำ 2พยางค์และคำ 2
พยางค์และคำ 2
Aunop Nop
 
สารพันเลือกสรรตีความ
สารพันเลือกสรรตีความสารพันเลือกสรรตีความ
สารพันเลือกสรรตีความพัน พัน
 
แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านภาษาไทย
แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านภาษาไทยแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านภาษาไทย
แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านภาษาไทยพัน พัน
 
ระดับภาษา 2
ระดับภาษา 2ระดับภาษา 2
โครงงานภาษาไทยเรื่องนิทาน
โครงงานภาษาไทยเรื่องนิทานโครงงานภาษาไทยเรื่องนิทาน
โครงงานภาษาไทยเรื่องนิทานRawinnipha Joy
 
โครงสร้างหลักสูตรประถม
โครงสร้างหลักสูตรประถมโครงสร้างหลักสูตรประถม
โครงสร้างหลักสูตรประถมwangasom
 
ใบงานที่ 1.1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง เครื่องมือเกษตร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ใบงานที่ 1.1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง เครื่องมือเกษตร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4ใบงานที่ 1.1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง เครื่องมือเกษตร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ใบงานที่ 1.1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง เครื่องมือเกษตร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
Thanawut Rattanadon
 
แบบฝึกทักษะวิชาวิทยาศาสตร์ป.1สิ่งมีชีวิต
แบบฝึกทักษะวิชาวิทยาศาสตร์ป.1สิ่งมีชีวิตแบบฝึกทักษะวิชาวิทยาศาสตร์ป.1สิ่งมีชีวิต
แบบฝึกทักษะวิชาวิทยาศาสตร์ป.1สิ่งมีชีวิต
sripayom
 
รามเกียรติ์ ตอนนารายณ์ปราบนนทก พร้อมแบบฝึกหัด
รามเกียรติ์ ตอนนารายณ์ปราบนนทก พร้อมแบบฝึกหัดรามเกียรติ์ ตอนนารายณ์ปราบนนทก พร้อมแบบฝึกหัด
รามเกียรติ์ ตอนนารายณ์ปราบนนทก พร้อมแบบฝึกหัดMethaporn Meeyai
 
ความรู้พื้นฐานด้านวรรณคดี
ความรู้พื้นฐานด้านวรรณคดีความรู้พื้นฐานด้านวรรณคดี
ความรู้พื้นฐานด้านวรรณคดี
Watcharapol Wiboolyasarin
 
บทสรภัญญะบูชาพระคุณบิดามารดา
บทสรภัญญะบูชาพระคุณบิดามารดาบทสรภัญญะบูชาพระคุณบิดามารดา
บทสรภัญญะบูชาพระคุณบิดามารดา
niralai
 
เอกสารประกอบการสอนงานประดิษฐ์ดอกไม้
เอกสารประกอบการสอนงานประดิษฐ์ดอกไม้เอกสารประกอบการสอนงานประดิษฐ์ดอกไม้
เอกสารประกอบการสอนงานประดิษฐ์ดอกไม้
Ploykarn Lamdual
 
ห้องสีขาว 1.1
ห้องสีขาว 1.1ห้องสีขาว 1.1
ห้องสีขาว 1.1
peter dontoom
 
142968777910465
142968777910465142968777910465
142968777910465
YingZaa TK
 
แบบฝึกทักษะการเขียนเรียงความ
แบบฝึกทักษะการเขียนเรียงความแบบฝึกทักษะการเขียนเรียงความ
แบบฝึกทักษะการเขียนเรียงความ
sripayom
 

What's hot (20)

ใบงาน อเมริกาเหนือ
ใบงาน อเมริกาเหนือใบงาน อเมริกาเหนือ
ใบงาน อเมริกาเหนือ
 
การลบแบบมีการยืม 3 หลัก สำหรับ ป.1
การลบแบบมีการยืม 3 หลัก สำหรับ ป.1การลบแบบมีการยืม 3 หลัก สำหรับ ป.1
การลบแบบมีการยืม 3 หลัก สำหรับ ป.1
 
พยางค์และคำ 2
พยางค์และคำ 2พยางค์และคำ 2
พยางค์และคำ 2
 
สารพันเลือกสรรตีความ
สารพันเลือกสรรตีความสารพันเลือกสรรตีความ
สารพันเลือกสรรตีความ
 
แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านภาษาไทย
แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านภาษาไทยแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านภาษาไทย
แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านภาษาไทย
 
ระดับภาษา 2
ระดับภาษา 2ระดับภาษา 2
ระดับภาษา 2
 
โครงงานภาษาไทยเรื่องนิทาน
โครงงานภาษาไทยเรื่องนิทานโครงงานภาษาไทยเรื่องนิทาน
โครงงานภาษาไทยเรื่องนิทาน
 
โครงสร้างหลักสูตรประถม
โครงสร้างหลักสูตรประถมโครงสร้างหลักสูตรประถม
โครงสร้างหลักสูตรประถม
 
ใบงานที่ 1.1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง เครื่องมือเกษตร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ใบงานที่ 1.1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง เครื่องมือเกษตร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4ใบงานที่ 1.1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง เครื่องมือเกษตร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ใบงานที่ 1.1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง เครื่องมือเกษตร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
 
ไทย
ไทยไทย
ไทย
 
แบบฝึกทักษะวิชาวิทยาศาสตร์ป.1สิ่งมีชีวิต
แบบฝึกทักษะวิชาวิทยาศาสตร์ป.1สิ่งมีชีวิตแบบฝึกทักษะวิชาวิทยาศาสตร์ป.1สิ่งมีชีวิต
แบบฝึกทักษะวิชาวิทยาศาสตร์ป.1สิ่งมีชีวิต
 
รามเกียรติ์ ตอนนารายณ์ปราบนนทก พร้อมแบบฝึกหัด
รามเกียรติ์ ตอนนารายณ์ปราบนนทก พร้อมแบบฝึกหัดรามเกียรติ์ ตอนนารายณ์ปราบนนทก พร้อมแบบฝึกหัด
รามเกียรติ์ ตอนนารายณ์ปราบนนทก พร้อมแบบฝึกหัด
 
ม.5 เทอม 1 หน่วย 1
ม.5 เทอม 1 หน่วย 1ม.5 เทอม 1 หน่วย 1
ม.5 เทอม 1 หน่วย 1
 
ความรู้พื้นฐานด้านวรรณคดี
ความรู้พื้นฐานด้านวรรณคดีความรู้พื้นฐานด้านวรรณคดี
ความรู้พื้นฐานด้านวรรณคดี
 
บทสรภัญญะบูชาพระคุณบิดามารดา
บทสรภัญญะบูชาพระคุณบิดามารดาบทสรภัญญะบูชาพระคุณบิดามารดา
บทสรภัญญะบูชาพระคุณบิดามารดา
 
เอกสารประกอบการสอนงานประดิษฐ์ดอกไม้
เอกสารประกอบการสอนงานประดิษฐ์ดอกไม้เอกสารประกอบการสอนงานประดิษฐ์ดอกไม้
เอกสารประกอบการสอนงานประดิษฐ์ดอกไม้
 
ห้องสีขาว 1.1
ห้องสีขาว 1.1ห้องสีขาว 1.1
ห้องสีขาว 1.1
 
มาตรแม่กก ป2
มาตรแม่กก ป2มาตรแม่กก ป2
มาตรแม่กก ป2
 
142968777910465
142968777910465142968777910465
142968777910465
 
แบบฝึกทักษะการเขียนเรียงความ
แบบฝึกทักษะการเขียนเรียงความแบบฝึกทักษะการเขียนเรียงความ
แบบฝึกทักษะการเขียนเรียงความ
 

Similar to เกมเติมคำ สำนวนไทย

First grasp the_fundamentals_then_study_and_teach_to_best_results
First grasp the_fundamentals_then_study_and_teach_to_best_resultsFirst grasp the_fundamentals_then_study_and_teach_to_best_results
First grasp the_fundamentals_then_study_and_teach_to_best_resultsNanthawat Tabngern
 
แผนการเรียนรู้สุภาษิต
แผนการเรียนรู้สุภาษิตแผนการเรียนรู้สุภาษิต
แผนการเรียนรู้สุภาษิต
yaowarat Lertpipatkul
 
สนอง วรอุไร สนทนาภาษาธรรม เล่ม 17
สนอง วรอุไร   สนทนาภาษาธรรม เล่ม 17สนอง วรอุไร   สนทนาภาษาธรรม เล่ม 17
สนอง วรอุไร สนทนาภาษาธรรม เล่ม 17Tongsamut vorasan
 
คิหิปฎิบัติ
คิหิปฎิบัติคิหิปฎิบัติ
คิหิปฎิบัติWataustin Austin
 
ชุดการเรียน
ชุดการเรียนชุดการเรียน
ชุดการเรียน
Kay Pakham
 
แผนปฐมนิเทศ 1
แผนปฐมนิเทศ  1แผนปฐมนิเทศ  1
แผนปฐมนิเทศ 1watdang
 
สรุปการปฏิบัติหน้าที่ครู นายกอบวิทย์ พิริยะวัฒน์
สรุปการปฏิบัติหน้าที่ครู นายกอบวิทย์  พิริยะวัฒน์สรุปการปฏิบัติหน้าที่ครู นายกอบวิทย์  พิริยะวัฒน์
สรุปการปฏิบัติหน้าที่ครู นายกอบวิทย์ พิริยะวัฒน์Kobwit Piriyawat
 
สนอง วรอุไร สนทนาภาษาธรรม เล่ม 13
สนอง วรอุไร   สนทนาภาษาธรรม เล่ม 13สนอง วรอุไร   สนทนาภาษาธรรม เล่ม 13
สนอง วรอุไร สนทนาภาษาธรรม เล่ม 13Tongsamut vorasan
 
สนอง วรอุไร สนทนาภาษาธรรม เล่ม 16
สนอง วรอุไร   สนทนาภาษาธรรม เล่ม 16สนอง วรอุไร   สนทนาภาษาธรรม เล่ม 16
สนอง วรอุไร สนทนาภาษาธรรม เล่ม 16Tongsamut vorasan
 
สนอง วรอุไร สนทนาภาษาธรรม เล่ม 18
สนอง วรอุไร   สนทนาภาษาธรรม เล่ม 18สนอง วรอุไร   สนทนาภาษาธรรม เล่ม 18
สนอง วรอุไร สนทนาภาษาธรรม เล่ม 18Tongsamut vorasan
 
แผ่นพับกาพย์ยานี๑๑
แผ่นพับกาพย์ยานี๑๑แผ่นพับกาพย์ยานี๑๑
แผ่นพับกาพย์ยานี๑๑peerapit
 
สนอง วรอุไร สนทนาภาษาธรรม เล่ม 15
สนอง วรอุไร   สนทนาภาษาธรรม เล่ม 15สนอง วรอุไร   สนทนาภาษาธรรม เล่ม 15
สนอง วรอุไร สนทนาภาษาธรรม เล่ม 15Tongsamut vorasan
 
สนอง วรอุไร สนทนาภาษาธรรม เล่ม 19
สนอง วรอุไร   สนทนาภาษาธรรม เล่ม 19สนอง วรอุไร   สนทนาภาษาธรรม เล่ม 19
สนอง วรอุไร สนทนาภาษาธรรม เล่ม 19Tongsamut vorasan
 
สำนวน สุภาษิต คำพังเพย
สำนวน สุภาษิต คำพังเพยสำนวน สุภาษิต คำพังเพย
สำนวน สุภาษิต คำพังเพย
Rattana Dumsakul
 
เล่มที่ 1 พระรัตนตรัย
 เล่มที่ 1 พระรัตนตรัย เล่มที่ 1 พระรัตนตรัย
เล่มที่ 1 พระรัตนตรัย
Decha Sirigulwiriya
 
โครงงาน5.doc
โครงงาน5.docโครงงาน5.doc
โครงงาน5.doc
ssuserc535fa
 

Similar to เกมเติมคำ สำนวนไทย (20)

First grasp the_fundamentals_then_study_and_teach_to_best_results
First grasp the_fundamentals_then_study_and_teach_to_best_resultsFirst grasp the_fundamentals_then_study_and_teach_to_best_results
First grasp the_fundamentals_then_study_and_teach_to_best_results
 
แผนการเรียนรู้สุภาษิต
แผนการเรียนรู้สุภาษิตแผนการเรียนรู้สุภาษิต
แผนการเรียนรู้สุภาษิต
 
สนอง วรอุไร สนทนาภาษาธรรม เล่ม 17
สนอง วรอุไร   สนทนาภาษาธรรม เล่ม 17สนอง วรอุไร   สนทนาภาษาธรรม เล่ม 17
สนอง วรอุไร สนทนาภาษาธรรม เล่ม 17
 
คิหิปฎิบัติ
คิหิปฎิบัติคิหิปฎิบัติ
คิหิปฎิบัติ
 
โครงงานคอม
โครงงานคอมโครงงานคอม
โครงงานคอม
 
แผนการจัดการเรียนรู้
แผนการจัดการเรียนรู้แผนการจัดการเรียนรู้
แผนการจัดการเรียนรู้
 
ชุดการเรียน
ชุดการเรียนชุดการเรียน
ชุดการเรียน
 
การเขียนป.5 ชุด1.
การเขียนป.5 ชุด1.การเขียนป.5 ชุด1.
การเขียนป.5 ชุด1.
 
แผนปฐมนิเทศ 1
แผนปฐมนิเทศ  1แผนปฐมนิเทศ  1
แผนปฐมนิเทศ 1
 
สรุปการปฏิบัติหน้าที่ครู นายกอบวิทย์ พิริยะวัฒน์
สรุปการปฏิบัติหน้าที่ครู นายกอบวิทย์  พิริยะวัฒน์สรุปการปฏิบัติหน้าที่ครู นายกอบวิทย์  พิริยะวัฒน์
สรุปการปฏิบัติหน้าที่ครู นายกอบวิทย์ พิริยะวัฒน์
 
สนอง วรอุไร สนทนาภาษาธรรม เล่ม 13
สนอง วรอุไร   สนทนาภาษาธรรม เล่ม 13สนอง วรอุไร   สนทนาภาษาธรรม เล่ม 13
สนอง วรอุไร สนทนาภาษาธรรม เล่ม 13
 
สนอง วรอุไร สนทนาภาษาธรรม เล่ม 16
สนอง วรอุไร   สนทนาภาษาธรรม เล่ม 16สนอง วรอุไร   สนทนาภาษาธรรม เล่ม 16
สนอง วรอุไร สนทนาภาษาธรรม เล่ม 16
 
สนอง วรอุไร สนทนาภาษาธรรม เล่ม 18
สนอง วรอุไร   สนทนาภาษาธรรม เล่ม 18สนอง วรอุไร   สนทนาภาษาธรรม เล่ม 18
สนอง วรอุไร สนทนาภาษาธรรม เล่ม 18
 
แผ่นพับกาพย์ยานี๑๑
แผ่นพับกาพย์ยานี๑๑แผ่นพับกาพย์ยานี๑๑
แผ่นพับกาพย์ยานี๑๑
 
สนอง วรอุไร สนทนาภาษาธรรม เล่ม 15
สนอง วรอุไร   สนทนาภาษาธรรม เล่ม 15สนอง วรอุไร   สนทนาภาษาธรรม เล่ม 15
สนอง วรอุไร สนทนาภาษาธรรม เล่ม 15
 
สนอง วรอุไร สนทนาภาษาธรรม เล่ม 19
สนอง วรอุไร   สนทนาภาษาธรรม เล่ม 19สนอง วรอุไร   สนทนาภาษาธรรม เล่ม 19
สนอง วรอุไร สนทนาภาษาธรรม เล่ม 19
 
สำนวน สุภาษิต คำพังเพย
สำนวน สุภาษิต คำพังเพยสำนวน สุภาษิต คำพังเพย
สำนวน สุภาษิต คำพังเพย
 
บทที่ 1
บทที่ 1บทที่ 1
บทที่ 1
 
เล่มที่ 1 พระรัตนตรัย
 เล่มที่ 1 พระรัตนตรัย เล่มที่ 1 พระรัตนตรัย
เล่มที่ 1 พระรัตนตรัย
 
โครงงาน5.doc
โครงงาน5.docโครงงาน5.doc
โครงงาน5.doc
 

More from SAKANAN ANANTASOOK

วารสารและอนุสรณ์ปีการศึกษา 2562 นารายณ์คำผงวิทยา
วารสารและอนุสรณ์ปีการศึกษา 2562 นารายณ์คำผงวิทยา วารสารและอนุสรณ์ปีการศึกษา 2562 นารายณ์คำผงวิทยา
วารสารและอนุสรณ์ปีการศึกษา 2562 นารายณ์คำผงวิทยา
SAKANAN ANANTASOOK
 
ชุดฝึกทักษะสร้างสรรค์การออกแบบ เรื่อง เรียนรู้ Adobe photoshop cs6
ชุดฝึกทักษะสร้างสรรค์การออกแบบ เรื่อง เรียนรู้ Adobe photoshop cs6ชุดฝึกทักษะสร้างสรรค์การออกแบบ เรื่อง เรียนรู้ Adobe photoshop cs6
ชุดฝึกทักษะสร้างสรรค์การออกแบบ เรื่อง เรียนรู้ Adobe photoshop cs6
SAKANAN ANANTASOOK
 
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ทฤษฎีของแสงและอัตราเร็วแสง
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ทฤษฎีของแสงและอัตราเร็วแสง ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ทฤษฎีของแสงและอัตราเร็วแสง
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ทฤษฎีของแสงและอัตราเร็วแสง
SAKANAN ANANTASOOK
 
การสร้างองค์ความรู้ใหม่ทางประวัติศาสตร์ไทย
การสร้างองค์ความรู้ใหม่ทางประวัติศาสตร์ไทยการสร้างองค์ความรู้ใหม่ทางประวัติศาสตร์ไทย
การสร้างองค์ความรู้ใหม่ทางประวัติศาสตร์ไทย
SAKANAN ANANTASOOK
 
ชุดกิจกรรม เรื่อง รายงานการศึกษาค้นคว้า ชุด รูปแบบและจุดมุ่งหมายของรายงาน
ชุดกิจกรรม เรื่อง รายงานการศึกษาค้นคว้า  ชุด รูปแบบและจุดมุ่งหมายของรายงานชุดกิจกรรม เรื่อง รายงานการศึกษาค้นคว้า  ชุด รูปแบบและจุดมุ่งหมายของรายงาน
ชุดกิจกรรม เรื่อง รายงานการศึกษาค้นคว้า ชุด รูปแบบและจุดมุ่งหมายของรายงาน
SAKANAN ANANTASOOK
 
ชุดการสอน เรื่อง ภูมิศาสตร์ทวีปอเมริกาเหนือ
ชุดการสอน เรื่อง ภูมิศาสตร์ทวีปอเมริกาเหนือชุดการสอน เรื่อง ภูมิศาสตร์ทวีปอเมริกาเหนือ
ชุดการสอน เรื่อง ภูมิศาสตร์ทวีปอเมริกาเหนือ
SAKANAN ANANTASOOK
 
บทเรียนการ์ตูน วิชาภาษาไทย ชุด เสียงในภาษา เรื่อง อักษรสามหมู่
บทเรียนการ์ตูน วิชาภาษาไทย ชุด เสียงในภาษา เรื่อง อักษรสามหมู่บทเรียนการ์ตูน วิชาภาษาไทย ชุด เสียงในภาษา เรื่อง อักษรสามหมู่
บทเรียนการ์ตูน วิชาภาษาไทย ชุด เสียงในภาษา เรื่อง อักษรสามหมู่
SAKANAN ANANTASOOK
 
สะเต็มศึกษากับดาราศาสตร์
สะเต็มศึกษากับดาราศาสตร์สะเต็มศึกษากับดาราศาสตร์
สะเต็มศึกษากับดาราศาสตร์
SAKANAN ANANTASOOK
 
Eratosthenes-on-vernal-equinox-report-thai-version
Eratosthenes-on-vernal-equinox-report-thai-versionEratosthenes-on-vernal-equinox-report-thai-version
Eratosthenes-on-vernal-equinox-report-thai-version
SAKANAN ANANTASOOK
 
Korcorsor2557 รายชื่อผู้สมัคร ก.ค.ศ.
Korcorsor2557 รายชื่อผู้สมัคร ก.ค.ศ.Korcorsor2557 รายชื่อผู้สมัคร ก.ค.ศ.
Korcorsor2557 รายชื่อผู้สมัคร ก.ค.ศ.
SAKANAN ANANTASOOK
 
PISA2015THAILAND
PISA2015THAILANDPISA2015THAILAND
PISA2015THAILAND
SAKANAN ANANTASOOK
 
TSMT Manual (คู่มือการปฏิบัติตนของครู สควค. ครูผู้สร้างสังคมแห่งการเรียนรู้)
TSMT Manual (คู่มือการปฏิบัติตนของครู สควค. ครูผู้สร้างสังคมแห่งการเรียนรู้)TSMT Manual (คู่มือการปฏิบัติตนของครู สควค. ครูผู้สร้างสังคมแห่งการเรียนรู้)
TSMT Manual (คู่มือการปฏิบัติตนของครู สควค. ครูผู้สร้างสังคมแห่งการเรียนรู้)
SAKANAN ANANTASOOK
 
TSMT Journal16 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 16)
TSMT Journal16 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 16)TSMT Journal16 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 16)
TSMT Journal16 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 16)
SAKANAN ANANTASOOK
 
TSMT Journal15 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 15)
TSMT Journal15 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 15)TSMT Journal15 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 15)
TSMT Journal15 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 15)
SAKANAN ANANTASOOK
 
TSMT Journal14 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 14)
TSMT Journal14 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 14)TSMT Journal14 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 14)
TSMT Journal14 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 14)
SAKANAN ANANTASOOK
 
TSMT Journal13 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 13)
TSMT Journal13 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 13)TSMT Journal13 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 13)
TSMT Journal13 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 13)
SAKANAN ANANTASOOK
 
TSMT Journal12 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 12)
TSMT Journal12 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 12)TSMT Journal12 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 12)
TSMT Journal12 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 12)
SAKANAN ANANTASOOK
 
TSMT Journal11 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 11)
TSMT Journal11 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 11)TSMT Journal11 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 11)
TSMT Journal11 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 11)
SAKANAN ANANTASOOK
 
TSMT Journal10 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 10)
TSMT Journal10 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 10)TSMT Journal10 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 10)
TSMT Journal10 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 10)
SAKANAN ANANTASOOK
 
TSMT Journal09 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 9)
TSMT Journal09 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 9)TSMT Journal09 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 9)
TSMT Journal09 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 9)
SAKANAN ANANTASOOK
 

More from SAKANAN ANANTASOOK (20)

วารสารและอนุสรณ์ปีการศึกษา 2562 นารายณ์คำผงวิทยา
วารสารและอนุสรณ์ปีการศึกษา 2562 นารายณ์คำผงวิทยา วารสารและอนุสรณ์ปีการศึกษา 2562 นารายณ์คำผงวิทยา
วารสารและอนุสรณ์ปีการศึกษา 2562 นารายณ์คำผงวิทยา
 
ชุดฝึกทักษะสร้างสรรค์การออกแบบ เรื่อง เรียนรู้ Adobe photoshop cs6
ชุดฝึกทักษะสร้างสรรค์การออกแบบ เรื่อง เรียนรู้ Adobe photoshop cs6ชุดฝึกทักษะสร้างสรรค์การออกแบบ เรื่อง เรียนรู้ Adobe photoshop cs6
ชุดฝึกทักษะสร้างสรรค์การออกแบบ เรื่อง เรียนรู้ Adobe photoshop cs6
 
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ทฤษฎีของแสงและอัตราเร็วแสง
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ทฤษฎีของแสงและอัตราเร็วแสง ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ทฤษฎีของแสงและอัตราเร็วแสง
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ทฤษฎีของแสงและอัตราเร็วแสง
 
การสร้างองค์ความรู้ใหม่ทางประวัติศาสตร์ไทย
การสร้างองค์ความรู้ใหม่ทางประวัติศาสตร์ไทยการสร้างองค์ความรู้ใหม่ทางประวัติศาสตร์ไทย
การสร้างองค์ความรู้ใหม่ทางประวัติศาสตร์ไทย
 
ชุดกิจกรรม เรื่อง รายงานการศึกษาค้นคว้า ชุด รูปแบบและจุดมุ่งหมายของรายงาน
ชุดกิจกรรม เรื่อง รายงานการศึกษาค้นคว้า  ชุด รูปแบบและจุดมุ่งหมายของรายงานชุดกิจกรรม เรื่อง รายงานการศึกษาค้นคว้า  ชุด รูปแบบและจุดมุ่งหมายของรายงาน
ชุดกิจกรรม เรื่อง รายงานการศึกษาค้นคว้า ชุด รูปแบบและจุดมุ่งหมายของรายงาน
 
ชุดการสอน เรื่อง ภูมิศาสตร์ทวีปอเมริกาเหนือ
ชุดการสอน เรื่อง ภูมิศาสตร์ทวีปอเมริกาเหนือชุดการสอน เรื่อง ภูมิศาสตร์ทวีปอเมริกาเหนือ
ชุดการสอน เรื่อง ภูมิศาสตร์ทวีปอเมริกาเหนือ
 
บทเรียนการ์ตูน วิชาภาษาไทย ชุด เสียงในภาษา เรื่อง อักษรสามหมู่
บทเรียนการ์ตูน วิชาภาษาไทย ชุด เสียงในภาษา เรื่อง อักษรสามหมู่บทเรียนการ์ตูน วิชาภาษาไทย ชุด เสียงในภาษา เรื่อง อักษรสามหมู่
บทเรียนการ์ตูน วิชาภาษาไทย ชุด เสียงในภาษา เรื่อง อักษรสามหมู่
 
สะเต็มศึกษากับดาราศาสตร์
สะเต็มศึกษากับดาราศาสตร์สะเต็มศึกษากับดาราศาสตร์
สะเต็มศึกษากับดาราศาสตร์
 
Eratosthenes-on-vernal-equinox-report-thai-version
Eratosthenes-on-vernal-equinox-report-thai-versionEratosthenes-on-vernal-equinox-report-thai-version
Eratosthenes-on-vernal-equinox-report-thai-version
 
Korcorsor2557 รายชื่อผู้สมัคร ก.ค.ศ.
Korcorsor2557 รายชื่อผู้สมัคร ก.ค.ศ.Korcorsor2557 รายชื่อผู้สมัคร ก.ค.ศ.
Korcorsor2557 รายชื่อผู้สมัคร ก.ค.ศ.
 
PISA2015THAILAND
PISA2015THAILANDPISA2015THAILAND
PISA2015THAILAND
 
TSMT Manual (คู่มือการปฏิบัติตนของครู สควค. ครูผู้สร้างสังคมแห่งการเรียนรู้)
TSMT Manual (คู่มือการปฏิบัติตนของครู สควค. ครูผู้สร้างสังคมแห่งการเรียนรู้)TSMT Manual (คู่มือการปฏิบัติตนของครู สควค. ครูผู้สร้างสังคมแห่งการเรียนรู้)
TSMT Manual (คู่มือการปฏิบัติตนของครู สควค. ครูผู้สร้างสังคมแห่งการเรียนรู้)
 
TSMT Journal16 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 16)
TSMT Journal16 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 16)TSMT Journal16 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 16)
TSMT Journal16 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 16)
 
TSMT Journal15 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 15)
TSMT Journal15 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 15)TSMT Journal15 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 15)
TSMT Journal15 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 15)
 
TSMT Journal14 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 14)
TSMT Journal14 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 14)TSMT Journal14 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 14)
TSMT Journal14 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 14)
 
TSMT Journal13 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 13)
TSMT Journal13 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 13)TSMT Journal13 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 13)
TSMT Journal13 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 13)
 
TSMT Journal12 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 12)
TSMT Journal12 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 12)TSMT Journal12 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 12)
TSMT Journal12 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 12)
 
TSMT Journal11 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 11)
TSMT Journal11 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 11)TSMT Journal11 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 11)
TSMT Journal11 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 11)
 
TSMT Journal10 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 10)
TSMT Journal10 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 10)TSMT Journal10 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 10)
TSMT Journal10 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 10)
 
TSMT Journal09 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 9)
TSMT Journal09 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 9)TSMT Journal09 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 9)
TSMT Journal09 (วารสาร สควค. ฉบับที่ 9)
 

Recently uploaded

3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
สุเมธี​​​​ ตี่พนมโอรัล / សុមេធី ទីភ្នំឱរ៉ាល់ (Sumedhi TyPhnomAoral)
 
รายงานโครงงานการออกแบบลายเสื่อโดยใช้รูปเรขาคณิต ระดับประเทศ.pdf
รายงานโครงงานการออกแบบลายเสื่อโดยใช้รูปเรขาคณิต ระดับประเทศ.pdfรายงานโครงงานการออกแบบลายเสื่อโดยใช้รูปเรขาคณิต ระดับประเทศ.pdf
รายงานโครงงานการออกแบบลายเสื่อโดยใช้รูปเรขาคณิต ระดับประเทศ.pdf
NitayataNuansri
 
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
สุเมธี​​​​ ตี่พนมโอรัล / សុមេធី ទីភ្នំឱរ៉ាល់ (Sumedhi TyPhnomAoral)
 
การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
Prachyanun Nilsook
 
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
สุเมธี​​​​ ตี่พนมโอรัล / សុមេធី ទីភ្នំឱរ៉ាល់ (Sumedhi TyPhnomAoral)
 
แนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdf
แนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdfแนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdf
แนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdf
Faculty of BuddhismMahachulalongkornrajavidyalaya Roi Et Buddhist College
 
ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนาภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
Faculty of BuddhismMahachulalongkornrajavidyalaya Roi Et Buddhist College
 
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
สุเมธี​​​​ ตี่พนมโอรัล / សុមេធី ទីភ្នំឱរ៉ាល់ (Sumedhi TyPhnomAoral)
 
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
สุเมธี​​​​ ตี่พนมโอรัล / សុមេធី ទីភ្នំឱរ៉ាល់ (Sumedhi TyPhnomAoral)
 

Recently uploaded (9)

3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
 
รายงานโครงงานการออกแบบลายเสื่อโดยใช้รูปเรขาคณิต ระดับประเทศ.pdf
รายงานโครงงานการออกแบบลายเสื่อโดยใช้รูปเรขาคณิต ระดับประเทศ.pdfรายงานโครงงานการออกแบบลายเสื่อโดยใช้รูปเรขาคณิต ระดับประเทศ.pdf
รายงานโครงงานการออกแบบลายเสื่อโดยใช้รูปเรขาคณิต ระดับประเทศ.pdf
 
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
4_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลไทยเป็นมคธ ประโยค ป.ธ.4 (2505-2567).pdf
 
การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
การเขียนข้อเสนอโครงการวิจัย (Research Proposal)
 
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา บาลีไวยากรณ์ ประโยค 1-2 (2511-2567).pdf
 
แนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdf
แนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdfแนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdf
แนวความเชื่อ วิธีการปฎิบัติ พระพุทธศาสนามหายาน.pdf
 
ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนาภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
ภาษาอังกฤษเพื่อการปฏิบัติกรรมฐานในพระพุทธศาสนา
 
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
3_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา สัมพันธ์ไทย ประโยค ป.ธ.3 (2500-2567).pdf
 
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
1-2_ปัญหาและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง วิชา แปลมคธเป็นไทย ประโยค 1-2 (2510-2567).pdf
 

เกมเติมคำ สำนวนไทย

  • 1. ...เกมเติมคํา ... ...สํานวนไทย.... โดย นางมยุรา ถาพรผาด ครูกลุมสาระการเรียนรูภาษาไทย โรงเรียนรัตนบุรี อําเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต ๓๓
  • 2. คํานํา สุภาษิต คําพังเพยและสํานวนไทย เปนคําที่แสดงถึงความคิดและวัฒนธรรม ทางภาษาที่สืบทอดมาแตโบราณ โดยมีที่มาจากเหตุการณ เรื่องราวหรือความเปนไป ในวิถีชีวิตของคนรุนกอน นับเปนสิ่งที่ควรเรียนรูและจดจําไวเพื่อนํามาประยุกตใน ชีวิตประจําวันของเราไดเปนอยางดี เพราะถอยคําเหลานี้มักแฝงขอคิดและคติสอนใจ เพื่อการปฏิบัติตนในโอกาสตาง ๆ ไดเปนอยางดี “เกมเติมคํา...สํานวนไทย” เรียบเรียงขึ้นเพื่อใชประกอบการเรียนการสอน วิชาภาษาไทย โดยไดรวบรวมความหมายของสํานวนไทยที่มีคําขึ้นตนในหมวดคําตาง ๆ เพื่อใหผูอานไดรูจักคิด วิเคราะหความหมายและหาสํานวนที่ถูกตองตรงความหมาย และทําใหการทายสํานวนสนุกสนานและนาสนใจยิ่งขึ้น ผูจัดทําหวังเปนอยางยิ่งวา “เกมเติมคํา...สํานวนไทย” เลมนี้จะเกิดประโยชน แกผูอานที่สนใจเรื่องสํานวนไทย เพื่อนําไปใชใหเกิดประโยชนตอไป นางมยุรา ถาพรผาด
  • 3. สารบัญ เรื่อง หนา เกมเติมคําสํานวนไทย ชุดที่ ๑ หมวดคําวา หัว ๑ ชุดที่ ๒ หมวดคําวา กิน ๒ ชุดที่ ๓ หมวดคําวา น้ํา ๓ ชุดที่ ๔ หมวดคําวา ตก ๔ ชุดที่ ๕หมวดคําวา ตา ๕ ชุดที่ ๖หมวดคําวา หมา ๖ ชุดที่ ๗ หมวดคําวา เสือ ๗ ชุดที่ ๘ หมวดคําวา เปน ๘ ชุดที่ ๙ หมวดคําวา เอา ๙ ชุดที่ ๑๐ หมวดคําวา ไม ๑๐ ชุดที่ ๑๑ หมวดคําวา รู ๑๑ ชุดที่ ๑๒ หมวดคําวา กระ ๑๒ ชุดที่ ๑๓ หมวดคําวา เขา ๑๓ ชุดที่ ๑๔ หมวดคําวา ปาก ๑๔ ชุดที่ ๑๕ หมวดคําวา เห็น ๑๕ ชุดที่ ๑๖ หมวดคําวา ไม ๑๖ ชุดที่ ๑๗ หมวดคําวา ตี ๑๗ ชุดที่ ๑๘ หมวดคําวา ตัด ๑๘ เฉลยเกมเติมคําสํานวนไทย ๑๙ ชุดที่ ๑ หมวดคําวา หัว ๒๐ ชุดที่ ๒ หมวดคําวา กิน ๒๑ ชุดที่ ๓ หมวดคําวา น้ํา ๒๒ ชุดที่ ๔ หมวดคําวา ตก ๒๓ ชุดที่ ๕หมวดคําวา ตา ๒๔ ชุดที่ ๖หมวดคําวา หมา ๒๕
  • 4. สารบัญ (ตอ) เรื่อง หนา ชุดที่ ๗ หมวดคําวา เสือ ๒๖ ชุดที่ ๘ หมวดคําวา เปน ๒๗ ชุดที่ ๙ หมวดคําวา เอา ๒๘ ชุดที่ ๑๐ หมวดคําวา ไม ๒๙ ชุดที่ ๑๑ หมวดคําวา รู ๓๐ ชุดที่ ๑๒ หมวดคําวา กระ ๓๑ ชุดที่ ๑๓ หมวดคําวา เขา ๓๒ ชุดที่ ๑๔ หมวดคําวา ปาก ๓๓ ชุดที่ ๑๕ หมวดคําวา เห็น ๓๔ ชุดที่ ๑๖ หมวดคําวา ไม ๓๕ ชุดที่ ๑๗ หมวดคําวา ตี ๓๖ ชุดที่ ๑๘ หมวดคําวา ตัด ๓๗ เอกสารอางอิง ๓๘
  • 5. ชุดที่ ๑ หมวดคําวา “หัว” ๑. ผูที่ไดสิ่งซึ่งไมเปนประโยชนแกตน ๒. ที่รักใครเอ็นดูมาก ๓. สวนที่ถือวาดีกวาสวนอื่นแหงสิ่งของตาง ๆ ๔. มีแขกมาเยี่ยมเยือนอยูเสมอ ๕. อาการที่ทํางานอยูตลอดเวลาโดยไมมีเวลาหยุดพัก ๖. อาการที่ซน เลนไปตามความพอใจ ไมตองเกรงใจใคร ๗. ไมเขากัน, ไมกลมกลืนกัน, มีหลายแบบหลายอยาง ๘. คนเดียวไมมีพวก ๙. นิยมตามแบบเกา ๑๐. ผูเปนกําลังสําคัญในการทํากิจการ สํานวนใดบางจะ ที่ขึ้นตนดวยคําวา “หัว” ๑ หัว.................................................. ๖ หัว...................................................... ๒ หัว.................................................. ๗ หัว...................................................... ๓ หัว.................................................. ๘ หัว...................................................... ๔ หัว................................................. ๙ หัว...................................................... ๕ หัว................................................. ๑๐ หัว......................................................
  • 6. ชุดที่ ๒ หมวดคําวา “กิน” ๑. รูดีอยูแลวแสรงทําเปนไมรู ๒. รูสึกตะขิดตะขวงใจ ๓. ทํางานเมื่อจวนตัว ๔. ไดรับผลแหงความดีที่ทําไวแตชาติปางกอน ๕. รองไห เศราโศกจนไมเปนอันกิน ๖. เนรคุณ ๗. มีอารมณเสียแลวเอะอะโวยวายเกินกวาเหตุ ๘. ทําอาการมีพิรุธขึ้นเอง, แสดงอาการเดือดรอนขึ้นเอง ๙. อยูกับเมียคนเดียว ๑๐. ไมไดประโยชนอะไรเลย สํานวนใดบางจะ ที่ขึ้นตนดวยคําวา “กิน” ๑ กิน.................................................. ๖ กิน...................................................... ๒ กิน.................................................. ๗ กิน...................................................... ๓ กิน.................................................. ๘ กิน...................................................... ๔ กิน................................................. ๙ กิน...................................................... ๕ กิน................................................. ๑๐ กิน...................................................... ๒
  • 7. ชุดที่ ๓ หมวดคําวา “น้ํา” ๑. มีความคิดเห็นเปนอันหนึ่งอันเดียวกัน ๒. หาไดมาเรื่อย ๆ ๓. เมื่อมีโอกาสดีควรรีบทํา ๔. พูดไมออก เพราะเกรงจะมีภัยแตตนหรือผูอื่น ๕. การพึ่งพาอาศัยกัน ๖. เสียใจ เพราะช้ําใจหรือตองผิดหวังอยางหนัก ๗. สั่งเสียเปนครั้งสุดทาย ๘. เมื่อหมดอํานาจ ความชั่วที่ทําไวก็ปรากฏ ๙. พูดมาก แตไดเนื้อหาสาระนอย ๑๐. คนที่มีทาหงิม ๆ มักจะมีความคิดลึกซึ้ง สํานวนใดบางจะ ที่ขึ้นตนดวยคําวา “น้ํา” ๑ น้ํา.................................................. ๖ น้ํา.................................................. ๒ น้ํา.................................................. ๗ น้ํา.................................................. ๓ น้ํา.................................................. ๘ น้ํา.................................................. ๔ น้ํา.................................................. ๙ น้ํา.................................................. ๕ น้ํา.................................................. ๑๐ น้ํา.................................................. ๓
  • 8. ชุดที่ ๔ หมวดคําวา “ตก” ๑. ตกนรกขุมต่ําที่สุด ๒. ตัดสินใจที่จะรวมมือหรือรวมชีวิตดวย ๓. จําเปนตองเขาไปเกี่ยวของโดยไมมีทางเลี่ยง ๔. ไมชวยเหลือตัวเอง ๕. ตกอยูในที่คับขันอยางไรก็ไมเปนอันตราย ๖. ไดรับความลําบากแสนสาหัส ๗. ถูกลวงดวยเลหกลหรืออุบาย ๘. เสียเปรียบเขา ๙. วางงาน, ไมมีงานทํา ๑๐. ตกลง, รับรอง สํานวนใดบางจะ...ที่ขึ้นตนดวยคําวา “ตก” ๑ ตก.................................................. ๖ ตก.................................................. ๒ ตก.................................................. ๗ ตก.................................................. ๓ ตก.................................................. ๘ ตก.................................................. ๔ ตก.................................................. ๙ ตก.................................................. ๕ ตก.................................................. ๑๐ ตก.................................................. ๔
  • 9. ชุดที่ ๕ หมวดคําวา “ตา” ๑. อาการที่ตาเบิกกวาง เพราะอยากไดเมื่อเห็นเงิน ๒. อวดรูในเรื่องที่ตนไมรู ๓. ไมรูจักของดี ๔. อาการรีบรอนลนลาน, ตื่นกลัว ๕. ผูที่ไดสิ่งซึ่งไมเปนประโยชนแกตน ๖. คนที่รูอะไรดานเดียวแลวเขาใจวาสิ่งนั้นเปนอยางนั้น ๗. มีพรรคพวกที่คอยสอดสองเหตุการณใหอยูรอบขาง ๘. อาการที่จับตาจองดูสิ่งที่ตองใจอยางจดจอ ๙. ผูมีอายุที่ไดรับการศึกษานอย ๑๐. ตาที่แสดงอาการกรุมกริ่มเปนเชิงทอดไมตรีในทางชูสาว สํานวนใดบางจะ...ที่ขึ้นตนดวยคําวา “ตา” ๑ ตา.................................................. ๖ ตา.................................................. ๒ ตา.................................................. ๗ ตา.................................................. ๓ ตา.................................................. ๘ ตา.................................................. ๔ ตา.................................................. ๙ ตา.................................................. ๕ ตา.................................................. ๑๐ ตา.................................................. ๕
  • 10. ชุดที่ ๖ หมวดคําวา “หมา” ๑. คนที่หวงของที่ตนไมมีสิทธิ์ ๒. คนที่ไมมีใครรักหรือคบหา ๓. คนที่เกงแตพูด ๔. คนโออวด ๕. คนที่ตอสูหรือตอบโตโดยไมเตือนลวงหนา ๖. คนที่ลอบทํารายหรือกลั่นแกลงผูอื่นลับหลัง ๗. คนที่ฮึดสูอยางสุดชีวิตเพราะไมมีทางเลือก ๘. อาการที่ชายหยอกลอหญิงในทํานองชูสาว ทีเลนทีจริง ๙. คนที่มีความเดือดรอน, กระวนกระวาย, วิ่งพลานไปหาที่พึ่งตาง ๆ ๑๐. คนที่ดีแตสงเสียงเอะอะอวดเกงแตไมยอมตอสูหรือตอบโต สํานวนใดบางจะ...ที่ขึ้นตนดวยคําวา “หมา” ๑ หมา............................................... ๖ หมา............................................... ๒ หมา............................................... ๗ หมา............................................... ๓ หมา............................................... ๘ หมา............................................... ๔ หมา............................................... ๙ หมา............................................... ๕ หมา............................................... ๑๐ หมา............................................... ๖
  • 11. ชุดที่ ๗ หมวดคําวา “เสือ” ๑. คนที่ทําเปนเซื่องซึมใหผูอื่นตายใจแลวทําการอยางใดอยางหนึ่ง โดยไมทันใหรูตัว ๒. คนที่แสดงกิริยาเอะอะ ตึงตัง ๓. คนที่ฮึดสูอยางไมคิดชีวิต ๔. คนที่ไดรับผลประโยชนโดยที่ตองลงทุนลงแรง ๕. คนที่มีไหวพริบหรือฉลาด รูจักเอาตัวรอด ๖. ไมมีทางเลือก, หมดทางไป ๗. คนรายที่ปลอมมาในรางของคนดี ๘. คนที่มีอํานาจพอ ๆ กัน อยูรวมกันไมได ๙. คนที่มีทาทีสงบเสงี่ยม แตมีเลหเหลี่ยมมาก ๑๐. ผูที่มีความเกงกลาสามารถแตไมยอมแสดงออกมาใหปรากฏ สํานวนใดบางจะ...ที่ขึ้นตนดวยคําวา “เสือ” ๑ เสือ............................................... ๖ เสือ............................................... ๒ เสือ............................................... ๗ เสือ............................................... ๓ เสือ............................................... ๘ เสือ............................................... ๔ เสือ............................................... ๙ เสือ............................................... ๕ เสือ............................................... ๑๐ เสือ............................................... ๗
  • 12. ชุดที่ ๘ หมวดคําวา “เปน” ๑. อยูในฐานะหรือตําแหนงที่ตองทําตามที่เขาสั่ง ๒. ยืดยาว, ตาง ๆ นานา (ใชแกกริยาพูด) ๓. คอยติดตามอยูตลอดเวลา ๔. มีผิวพรรณผุดผองสวยงาม ๕. ถูกคอกัน, เขากันไดดี ๖. รุนแรง, เต็มที่ (ใชแกกริยาโกรธ) ๗. ชวยสดับตรับฟงและดูแลรักษาแทน ๘. คอยออกหนาปองกัน ๙. ไมรูจักจบจักสิ้น ๑๐. เอาจริงเอาจังเกินไป สํานวนใดบางจะ...ที่ขึ้นตนดวยคําวา “เปน” ๑ เปน............................................... ๖ เปน............................................... ๒ เปน............................................... ๗ เปน............................................... ๓ เปน............................................... ๘ เปน............................................... ๔ เปน............................................... ๙ เปน............................................... ๕ เปน............................................... ๑๐ เปน............................................... ๘
  • 13. ชุดที่ ๙ หมวดคําวา “เอา” ๑. แสรงทําเปนไมรูไมเห็น ไมสนใจ ๒. ใชคําพูดออนหวานหวานลอม ๓. ผูกอาฆาตไว, คาดโทษไว ๔. ใหรูจักเห็นใจผูอื่น ๕. ลงทุนนอยหวังผลกําไรมาก ๖. แสดงความรูหรืออวดรูกับผูที่รูเรื่องดีกวา ๗. เอาทรัพยหรือสิ่งของจากคนที่มีนอยไปใหแกผูที่มีมากกวา ๘. โตตอบหรือทะเลาะกับคนพาล มีแตทางเสีย ๙. อดทนในยามยากโดยกินน้ําแทนขาว ๑๐. อาศัยผูอื่นมักไมสะดวก สํานวนใดบางจะ...ที่ขึ้นตนดวยคําวา “เอา” ๑ เอา............................................... ๖ เอา............................................... ๒ เอา............................................... ๗ เอา............................................... ๓ เอา............................................... ๘ เอา............................................... ๔ เอา............................................... ๙ เอา............................................... ๕ เอา............................................... ๑๐ เอา............................................... ๙
  • 14. ชุดที่ ๑๐ หมวดคําวา “ไม” ๑. ไมตกลง, ไมยินยอม ๒. ไมมีเหตุ ยอมไมมีผล ๓. ไมรูเรื่องราวที่เกิดขึ้น ๔. ไมรอใหชักชา, ทันทีทันใด ๕. ไมเกินความสามารถที่จะทําได ๖. ไมไดเรื่อง, ไมไดความ ๗. ไมมีสวนไดอะไรดวย แลวยังตองเสียผลประโยชนไปอีก ๘. ดวนทําไปทั้ง ๆ ที่ยังไมถึงเวลาอันสมควร ๙. บา ๆ บอ ๆ , มีสติไมสมบูรณ ๑๐. ไมพิจารณาใหรอบคอบ สํานวนใดบางจะ...ที่ขึ้นตนดวยคําวา “ไม” ๑ ไม............................................... ๖ ไม............................................... ๒ ไม............................................... ๗ ไม............................................... ๓ ไม............................................... ๘ ไม............................................... ๔ ไม............................................... ๙ ไม............................................... ๕ ไม............................................... ๑๐ ไม............................................... ๑๐
  • 15. ชุดที่ ๑๑ หมวดคําวา “รู” ๑. ไมรูจริงสักอยางเดียว ๒. รูมากเกินไปจนทําใหยุงยากใจ ๓. เรียนรูไว ไมหนักเรี่ยวหนักแรงหรือเสียหายอะไร ๔. รูจักเอาตัวรอด หรือปรับตัวใหเขากับเหตุการณ ๕. รูกําพืด, รูนิสัยใจคอ ๖. รูเล็ก ๆ นอย ๆ , รูไมจริง ๗. รูจักเก็บรักษาขาวของ ๘. รูนอยไมเขาใจ ทําใหเกิดความรําคาญใจ ๙. รูจักผอนสั้นผอนยาว ๑๐. รูจักสะสม, รูจักหา สํานวนใดบางจะ...ที่ขึ้นตนดวยคําวา “รู” ๑ รู............................................... ๖ รู............................................... ๒ รู............................................... ๗ รู............................................... ๓ รู............................................... ๘ รู............................................... ๔ รู............................................... ๙ รู............................................... ๕ รู............................................... ๑๐ รู............................................... ๑๑
  • 16. ชุดที่ ๑๒ หมวดคําวา “กระ” ๑. สุรุยสุราย, ไมรูจักเก็บหอมรอมริบ ๒. ไมตายงาย ๆ ๓. หนาเปน ๔. ผูที่ใคร ๆ ก็พากันรุมใชอยูคนเดียว ๕. ผูชายที่หมายปองผูหญิงที่มีฐานะดีกวา ๖. ใชเปรียบเทียบคนที่แสดงอาการตื่นตกใจงายโดยไมทันสํารวจใหถองแทกอน ๗. เจ็บปวยงาย ๘. ผลสะทอนของฆาตกรรมที่ทําใหจับตัวผูกระทําผิดมาลงโทษได ๙. สวนสําคัญ, สวนที่เปนพลังค้ําจุน, มักหมายถึง ชาวนา ๑๐. คนที่แสดงอาการดีอกดีใจ ตื่นเตนจนตัวสั่น สํานวนใดบางจะ...ที่ขึ้นตนดวยคําวา “กระ” ๑ กระ............................................... ๖ กระ............................................... ๒ กระ............................................... ๗ กระ............................................... ๓ กระ............................................... ๘ กระ............................................... ๔ กระ............................................... ๙ กระ............................................... ๕ กระ............................................... ๑๐ กระ............................................... ๑๒
  • 17. ชุดที่ ๑๓ หมวดคําวา “เขา” ๑. ทําตามธรรมเนียมประเพณี ๒. แสดงบทเกี้ยวพาราสี ๓. ถูกกับแบบแผน ๔. ใหมีสติ อยาประมาท ๕. บอกหรือสอนไมไดผล ๖. ประพฤติตนใหเหมาะสมกับกาลเทศะ ๗. เอาไวเปนของสวนตัว ๘. พูดหรือทําไมถูกตองกับเรื่อง เพราะขาดความชํานาญในเรื่องนั้น ๙. เวลาสําคัญถามีอะไรมาขัดจังหวะ แมเพียงเล็กนอยก็เสียการ ๑๐. สามารถติดตอหรือคบหาสมาคมกับใคร ๆ ได สํานวนใดบางจะ...ที่ขึ้นตนดวยคําวา “เขา” ๑ เขา............................................... ๖ เขา............................................... ๒ เขา............................................... ๗ เขา............................................... ๓ เขา............................................... ๘ เขา............................................... ๔ เขา............................................... ๙ เขา............................................... ๕ เขา............................................... ๑๐ เขา............................................... ๑๓
  • 18. ชุดที่ ๑๔ หมวดคําวา “ปาก” ๑. ชอบนินทาเล็กนินทานอย ๒. พอพูดก็ทําเลย ๓. ชอบพูดคําหยาบ ๔. พูดดีแตใจคิดราย ๕. วากลาวสั่งสอนไมรูจักหยุด ๖. พูดจาออนหวาน แตไมจริงใจ ๗. การกลาวตักเตือนซ้ําแลวซ้ําเลา ก็ยังไมไดผลตามที่มุงหมาย ๘. พูดอยางหนึ่งแตทําอีกอยางหนึ่ง, ปากกับใจไมตรงกัน ๙. ยังเปนเด็ก ๑๐. ภัยอันตราย สํานวนใดบางจะ...ที่ขึ้นตนดวยคําวา “ปาก” ๑ ปาก............................................... ๖ ปาก............................................... ๒ ปาก............................................... ๗ ปาก............................................... ๓ ปาก............................................... ๘ ปาก............................................... ๔ ปาก............................................... ๙ ปาก............................................... ๕ ปาก............................................... ๑๐ ปาก............................................... ๑๔
  • 19. ชุดที่ ๑๕ หมวดคําวา “เห็น” ๑. ถึงขั้นแตกหัก ๒. รวมรูสึกในใจ ๓. เห็นคนอื่นดีกวาญาติพี่นอง ๔. เริ่มเห็นผลงานที่ไดลงทุนลงแรงไป ๕. ทําเลียนแบบคนใหญคนโตทั้ง ๆ ที่ตนไมมีกําลังทรัพยพอ ๖. มีโอกาสไดจัดการบวชลูกหลานในพระพุทธศาสนา ๗. เห็นผิดเปนชอบ ๘. เห็นประจักษฝมือ ๙. เห็นฝายตรงขามที่ตัวใหญกวาไมนาเกรงขามในเวลาที่โกรธมากจนลืมตัว ๑๐. ลําเอียงในบุคคล, มุงเฉพาะตน สํานวนใดบางจะ...ที่ขึ้นตนดวยคําวา “เห็น” ๑ เห็น............................................... ๖ เห็น............................................... ๒ เห็น............................................... ๗ เห็น............................................... ๓ เห็น............................................... ๘ เห็น............................................... ๔ เห็น............................................... ๙ เห็น............................................... ๕ เห็น............................................... ๑๐ เห็น............................................... ๑๕
  • 20. ชุดที่ ๑๖ หมวดคําวา “ไม” ๑. พวกเดียวกัน ๒. ขัดกันตะพึด เพราะใจโกรธกันมากอน ๓. ผูมีวาสนายอมมีคนมาพึ่งบารมี ๔. แกใกลจะตาย ๕. คนที่เคยมีวาสนา เมื่อตกต่ําลง ผูที่มาพึ่งบารมีก็หายหนาไป ๖. หญิงสวยมักไมบริสุทธิ์ ๗. โลเล, ไมแนนอน ๘. อบรมสั่งสอนเด็กใหประพฤติไดงายกวาอบรมสั่งสอนผูใหญ ๙. คนที่ประพฤตินอกแบบแผนของวงศตระกูล ๑๐. ทาสําคัญที่ใชในการตอสู ทําใหคูตอสูไมสามารถจะสูไดอีก สํานวนใดบางจะ...ที่ขึ้นตนดวยคําวา “ไม” ๑ ไม............................................... ๖ ไม............................................... ๒ ไม............................................... ๗ ไม............................................... ๓ ไม............................................... ๘ ไม............................................... ๔ ไม............................................... ๙ ไม............................................... ๕ ไม............................................... ๑๐ ไม............................................... ๑๖
  • 21. ชุดที่ ๑๗ หมวดคําวา “ตี” ๑. ขูใหกลัว ๒. ตลบตะแลง, กลับกลอก ๓. พูดหรือทําใหกิจการของผูอื่นซึ่งกําลังดําเนินไปดวยดีกลับเสียไป ๔. ทําสิ่งใด ๆ ไวแลว แตผลไปตกแกผูอื่น ๕. กังวลทุกขรอนหรือหวาดกลัวในเรื่องที่ยังไมเกิดขึ้น ๖. กระทําการสิ่งใดแกศัตรูโดยไมเด็ดขาดจริงจัง ยอมไดรับผลรายในภายหลัง ๗. เขาทําในตอนหลังหรือในระยะหลัง ๘. พูดใชสํานวนโวหารเปนเชิงอวดฉลาด ๙. ทําหนาเฉยเหมือนไมมีความรูสึกหรือไมรูเรื่อง ๑๐. อวดแสดงคารม สํานวนใดบางจะ...ที่ขึ้นตนดวยคําวา “ตี” ๑ ตี............................................... ๖ ตี............................................... ๒ ตี............................................... ๗ ตี............................................... ๓ ตี............................................... ๘ ตี............................................... ๔ ตี............................................... ๙ ตี............................................... ๕ ตี............................................... ๑๐ ตี............................................... ๑๗
  • 22. ชุดที่ ๑๘ หมวดคําวา “ตัด” ๑. ชิงทําเสียกอน ๒. ทําลายใหถึงตนตอ ๓. ลดราคาใหต่ํากวาคูแขงขัน ๔. เอาตัวรอดแตผูเดียว ๕. ตัดขาดจากกันอยางเด็ดขาด ๖. ตัดตนเหตุเพื่อไมใหเหตุการณลุกลามตอไป ๗. ตัดขาดไมเกี่ยวของ ไมเอาเปนธุระอีกตอไป ๘. ลักลอบเขาไปในบานของผูอื่นเพื่อขโมยของ ๙. ตัดความสัมพันธ ไมยอมใหความชวยเหลืออีกตอไป ๑๐. หามใจไมใหคิดในเหตุที่เกิดขึ้น, ตกลงใจ สํานวนใดบางจะ...ที่ขึ้นตนดวยคําวา “ตัด” ๑ ตัด............................................... ๖ ตัด............................................... ๒ ตัด............................................... ๗ ตัด............................................... ๓ ตัด............................................... ๘ ตัด............................................... ๔ ตัด............................................... ๙ ตัด............................................... ๕ ตัด............................................... ๑๐ ตัด............................................... ๑๘
  • 24. ชุดที่ ๑ หมวดคําวา “หัว” ๑. ผูที่ไดสิ่งซึ่งไมเปนประโยชนแกตน ๒. ที่รักใครเอ็นดูมาก ๓. สวนที่ถือวาดีกวาสวนอื่นแหงสิ่งของตาง ๆ ๔. มีแขกมาเยี่ยมเยือนอยูเสมอ ๕. อาการที่ทํางานอยูตลอดเวลาโดยไมมีเวลาหยุดพัก ๖. อาการที่ซน เลนไปตามความพอใจ ไมตองเกรงใจใคร ๗. ไมเขากัน, ไมกลมกลืนกัน, มีหลายแบบหลายอยาง ๘. คนเดียวไมมีพวก ๙. นิยมตามแบบเกา ๑๐. ผูเปนกําลังสําคัญในการทํากิจการ สํานวนใดบางจะ ที่ขึ้นตนดวยคําวา “หัว” ๑ หัวลานไดหวี ๖ หัวหกกนขวิด ๒ หัวแกวหัวแหวน ๗ หัวมังกุทายมังกร ๓ หัวพุงหัวมัน ๘ หัวเดียวกระเทียมลีบ ๔ หัวกระไดไมแหง ๙ หัวโบราณ ๕ หัวไมวางหางไมเวน ๑๐ หัวเรือใหญ ๒๐
  • 25. ชุดที่ ๒ หมวดคําวา “กิน” ๑. รูดีอยูแลวแสรงทําเปนไมรู ๒. รูสึกตะขิดตะขวงใจ ๓. ทํางานเมื่อจวนตัว ๔. ไดรับผลแหงความดีที่ทําไวแตชาติปางกอน ๕. รองไห เศราโศกจนไมเปนอันกิน ๖. เนรคุณ ๗. มีอารมณเสียแลวเอะอะโวยวายเกินกวาเหตุ ๘. ทําอาการมีพิรุธขึ้นเอง, แสดงอาการเดือดรอนขึ้นเอง ๙. อยูกับเมียคนเดียว ๑๐. ไมไดประโยชนอะไรเลย สํานวนใดบางจะ ที่ขึ้นตนดวยคําวา “กิน” ๑ กินอยูกับปากอยากอยูกับทอง ๖ กินบนเรือนขี้บนหลังคา ๒ กินน้ําเห็นปลิง ๗ กินรังแตน ๓ กินแกงรอน ๘ กินปูนรอนทอง ๔ กินบุญเกา ๙ กินน้ําพริกถวยเดียว ๕ กินน้ําตาตางขาว ๑๐ กินลมกินแลง ๒๑
  • 26. ชุดที่ ๓ หมวดคําวา “น้ํา” ๑. มีความคิดเห็นเปนอันหนึ่งอันเดียวกัน ๒. หาไดมาเรื่อย ๆ ๓. เมื่อมีโอกาสดีควรรีบทํา ๔. พูดไมออก เพราะเกรงจะมีภัยแตตนหรือผูอื่น ๕. การพึ่งพาอาศัยกัน ๖. เสียใจ เพราะช้ําใจหรือตองผิดหวังอยางหนัก ๗. สั่งเสียเปนครั้งสุดทาย ๘. เมื่อหมดอํานาจ ความชั่วที่ทําไวก็ปรากฏ ๙. พูดมาก แตไดเนื้อหาสาระนอย ๑๐. คนที่มีทาหงิม ๆ มักจะมีความคิดลึกซึ้ง สํานวนใดบางจะ ที่ขึ้นตนดวยคําวา “น้ํา” ๑ น้ําหนึ่งใจเดียวกัน ๖ น้ําตาเช็ดหัวเขา ๒ น้ําซึมบอทราย ๗ น้ําสั่งฟา ปลาสั่งฝน ๓ น้ําขึ้นใหรีบตัก ๘ น้ําลดตอผุด ๔ น้ําทวมปาก ๙ น้ําทวมทุงผักบุงโหรงเหรง ๕ น้ําพึ่งเรือเสือพึ่งปา ๑๐ น้ํานิ่งไหลลึก ๒๒
  • 27. ชุดที่ ๔ หมวดคําวา “ตก” ๑. ตกนรกขุมต่ําที่สุด ๒. ตัดสินใจที่จะรวมมือหรือรวมชีวิตดวย ๓. จําเปนตองเขาไปเกี่ยวของโดยไมมีทางเลี่ยง ๔. ไมชวยเหลือตัวเอง ๕. ตกอยูในที่คับขันอยางไรก็ไมเปนอันตราย ๖. ไดรับความลําบากแสนสาหัส ๗. ถูกลวงดวยเลหกลหรืออุบาย ๘. เสียเปรียบเขา ๙. วางงาน, ไมมีงานทํา ๑๐. ตกลง, รับรอง สํานวนใดบางจะ...ที่ขึ้นตนดวยคําวา “ตก” ๑ ตกใตเถรเทวทัต ๖ ตกนรกทั้งเปน ๒ ตกลองปลองชิ้น ๗ ตกหลุม, ตกหลุมพราง ๓ ตกกระไดพลอยโจน ๘ ตกเปนเบี้ยลาง ๔ ตกน้ําไมวาย ๙ ตกงาน ๕ ตกน้ําไมไหล ตกไฟไมไหม ๑๐ ตกปากรับคํา, ตกปากลงคํา ๒๓
  • 28. ชุดที่ ๕ หมวดคําวา “ตา” ๑. อาการที่ตาเบิกกวาง เพราะอยากไดเมื่อเห็นเงิน ๒. อวดรูในเรื่องที่ตนไมรู ๓. ไมรูจักของดี ๔. อาการรีบรอนลนลาน, ตื่นกลัว ๕. ผูที่ไดสิ่งซึ่งไมเปนประโยชนแกตน ๖. คนที่รูอะไรดานเดียวแลวเขาใจวาสิ่งนั้นเปนอยางนั้น ๗. มีพรรคพวกที่คอยสอดสองเหตุการณใหอยูรอบขาง ๘. อาการที่จับตาจองดูสิ่งที่ตองใจอยางจดจอ ๙. ผูมีอายุที่ไดรับการศึกษานอย ๑๐. ตาที่แสดงอาการกรุมกริ่มเปนเชิงทอดไมตรีในทางชูสาว สํานวนใดบางจะ...ที่ขึ้นตนดวยคําวา “ตา” ๑ ตาโต, ตาพอง ๖ ตาบอดคลําชาง ๒ ตาบอดสอดตาเห็น ๗ ตาเปนสับปะรด ๓ ตาไมมีแวว ๘ ตาเปนมัน ๔ ตาลีตาเหลือก ๙ ตามีตามา, ตาสีตาสา ๕ ตาบอดไดแวน ๑๐ ตาเจาชู ๒๔
  • 29. ชุดที่ ๖ หมวดคําวา “หมา” ๑. คนที่หวงของที่ตนไมมีสิทธิ์ ๒. คนที่ไมมีใครรักหรือคบหา ๓. คนที่เกงแตพูด ๔. คนโออวด ๕. คนที่ตอสูหรือตอบโตโดยไมเตือนลวงหนา ๖. คนที่ลอบทํารายหรือกลั่นแกลงผูอื่นลับหลัง ๗. คนที่ฮึดสูอยางสุดชีวิตเพราะไมมีทางเลือก ๘. อาการที่ชายหยอกลอหญิงในทํานองชูสาว ทีเลนทีจริง ๙. คนที่มีความเดือดรอน, กระวนกระวาย, วิ่งพลานไปหาที่พึ่งตาง ๆ ๑๐. คนที่ดีแตสงเสียงเอะอะอวดเกงแตไมยอมตอสูหรือตอบโต สํานวนใดบางจะ...ที่ขึ้นตนดวยคําวา “หมา” ๑ หมาหวงกาง ๖ หมาลอบกัด ๒ หมาหัวเนา ๗ หมาจนตรอก ๓ หมาเหาใบตองแหง ๘ หมาหยอกไก ๔ หมาขี้ไมมีใครยกหาง ๙ หมาถูกน้ํารอน ๕ หมากัดไมเหา ๑๐ หมาเหาไมกัด ๒๕
  • 30. ชุดที่ ๗ หมวดคําวา “เสือ” ๑. คนที่ทําเปนเซื่องซึมใหผูอื่นตายใจแลวทําการอยางใดอยางหนึ่ง โดยไมทันใหรูตัว ๒. คนที่แสดงกิริยาเอะอะ ตึงตัง ๓. คนที่ฮึดสูอยางไมคิดชีวิต ๔. คนที่ไดรับผลประโยชนโดยที่ตองลงทุนลงแรง ๕. คนที่มีไหวพริบหรือฉลาด รูจักเอาตัวรอด ๖. ไมมีทางเลือก, หมดทางไป ๗. คนรายที่ปลอมมาในรางของคนดี ๘. คนที่มีอํานาจพอ ๆ กัน อยูรวมกันไมได ๙. คนที่มีทาทีสงบเสงี่ยม แตมีเลหเหลี่ยมมาก ๑๐. ผูที่มีความเกงกลาสามารถแตไมยอมแสดงออกมาใหปรากฏ สํานวนใดบางจะ...ที่ขึ้นตนดวยคําวา “เสือ” ๑ เสือลากหาง ๖ เสือจนทา ขาจนทาง ๒ เสือทลายหาง ชางทลายโรง ๗ เสือในรางสมัน ๓ เสือสิ้นตวัก ๘ เสือสองตัวอยูในถ้ําเดียวกันไมได ๔ เสือนอนกิน ๙ เสือเฒาจําศีล ๕ เสือรู ๑๐ เสือซอนเล็บ ๒๖
  • 31. ชุดที่ ๘ หมวดคําวา “เปน” ๑. อยูในฐานะหรือตําแหนงที่ตองทําตามที่เขาสั่ง ๒. ยืดยาว, ตาง ๆ นานา (ใชแกกริยาพูด) ๓. คอยติดตามอยูตลอดเวลา ๔. มีผิวพรรณผุดผองสวยงาม ๕. ถูกคอกัน, เขากันไดดี ๖. รุนแรง, เต็มที่ (ใชแกกริยาโกรธ) ๗. ชวยสดับตรับฟงและดูแลรักษาแทน ๘. คอยออกหนาปองกัน ๙. ไมรูจักจบจักสิ้น ๑๐. เอาจริงเอาจังเกินไป สํานวนใดบางจะ...ที่ขึ้นตนดวยคําวา “เปน” ๑ เปนหุนใหเชิด ๖ เปนฟนเปนไฟ ๒ เปนคุงเปนแคว ๗ เปนหูเปนตา ๓ เปนเงาตามตัว ๘ เปนดั้งหนา ๔ เปนน้ําเปนนวล ๙ เปนวรรคเปนเวร ๕ เปนปเปนขลุย ๑๐ เปนบาเปนหลัง ๒๗
  • 32. ชุดที่ ๙ หมวดคําวา “เอา” ๑. แสรงทําเปนไมรูไมเห็น ไมสนใจ ๒. ใชคําพูดออนหวานหวานลอม ๓. ผูกอาฆาตไว, คาดโทษไว ๔. ใหรูจักเห็นใจผูอื่น ๕. ลงทุนนอยหวังผลกําไรมาก ๖. แสดงความรูหรืออวดรูกับผูที่รูเรื่องดีกวา ๗. เอาทรัพยหรือสิ่งของจากคนที่มีนอยไปใหแกผูที่มีมากกวา ๘. โตตอบหรือทะเลาะกับคนพาล มีแตทางเสีย ๙. อดทนในยามยากโดยกินน้ําแทนขาว ๑๐. อาศัยผูอื่นมักไมสะดวก สํานวนใดบางจะ...ที่ขึ้นตนดวยคําวา “เอา” ๑ เอาหูไปนา เอาตาไปไร ๖ เอามะพราวหาวไปขายสวน ๒ เอาน้ําเย็นเขาลูบ ๗ เอาเนื้อหนูไปปะเนื้อชาง ๓ เอาปูนหมายหัว ๘ เอาไมสั้นไปรันขี้ ๔ เอาใจเขามาใสใจเรา ๙ เอาน้ําลูบทอง ๕ เอากุงฝอยไปตกปลากะพง ๑๐ เอาจมูกคนอื่นมาหายใจ ๒๘
  • 33. ชุดที่ ๑๐ หมวดคําวา “ไม” ๑. ไมตกลง, ไมยินยอม ๒. ไมมีเหตุ ยอมไมมีผล ๓. ไมรูเรื่องราวที่เกิดขึ้น ๔. ไมรอใหชักชา, ทันทีทันใด ๕. ไมเกินความสามารถที่จะทําได ๖. ไมไดเรื่อง, ไมไดความ ๗. ไมมีสวนไดอะไรดวย แลวยังตองเสียผลประโยชนไปอีก ๘. ดวนทําไปทั้ง ๆ ที่ยังไมถึงเวลาอันสมควร ๙. บา ๆ บอ ๆ , มีสติไมสมบูรณ ๑๐. ไมพิจารณาใหรอบคอบ สํานวนใดบางจะ...ที่ขึ้นตนดวยคําวา “ไม” ๑ ไมเออออหอหมก ๖ ไมเขายา ๒ ไมมีมูลหมาไมขี้ ๗ ไมไดเบี้ยออกขาว ๓ ไมรูอิโหนอิเหน ๘ ไมเห็นน้ําตัดกระบอก ไมเห็นกระรอกกงหนาไม ๔ ไมพูดพร่ําทําเพลง ๙ ไมเต็มเต็ง, ไมเต็มบาท ๕ ไมเหลือบากวาแรง ๑๐ ไมดูตามาตาเรือ ๒๙
  • 34. ชุดที่ ๑๑ หมวดคําวา “รู” ๑. ไมรูจริงสักอยางเดียว ๒. รูมากเกินไปจนทําใหยุงยากใจ ๓. เรียนรูไว ไมหนักเรี่ยวหนักแรงหรือเสียหายอะไร ๔. รูจักเอาตัวรอด หรือปรับตัวใหเขากับเหตุการณ ๕. รูกําพืด, รูนิสัยใจคอ ๖. รูเล็ก ๆ นอย ๆ , รูไมจริง ๗. รูจักเก็บรักษาขาวของ ๘. รูนอยไมเขาใจ ทําใหเกิดความรําคาญใจ ๙. รูจักผอนสั้นผอนยาว ๑๐. รูจักสะสม, รูจักหา สํานวนใดบางจะ...ที่ขึ้นตนดวยคําวา “รู” ๑ รูอยางเปด ๖ รูงู ๆ ปลา ๆ ๒ รูมากยากนาน ๗ รูจักเก็บรูจักงํา ๓ รูไวใชวาใสบาแบกหาม ๘ รูนอยพลอยรําคาญ ๔ รูหลบเปนปกรูหลีกเปนหาง ๙ รูยาวรูสั้น ๕ รูเชนเห็นชาติ ๑๐ รูจักเก็บรูจักเขี่ย ๓๐
  • 35. ชุดที่ ๑๒ หมวดคําวา “กระ” ๑. สุรุยสุราย, ไมรูจักเก็บหอมรอมริบ ๒. ไมตายงาย ๆ ๓. หนาเปน ๔. ผูที่ใคร ๆ ก็พากันรุมใชอยูคนเดียว ๕. ผูชายที่หมายปองผูหญิงที่มีฐานะดีกวา ๖. ใชเปรียบเทียบคนที่แสดงอาการตื่นตกใจงายโดยไมทันสํารวจใหถองแทกอน ๗. เจ็บปวยงาย ๘. ผลสะทอนของฆาตกรรมที่ทําใหจับตัวผูกระทําผิดมาลงโทษได ๙. สวนสําคัญ, สวนที่เปนพลังค้ําจุน, มักหมายถึง ชาวนา ๑๐. คนที่แสดงอาการดีอกดีใจ ตื่นเตนจนตัวสั่น สํานวนใดบางจะ...ที่ขึ้นตนดวยคําวา “กระ” ๑ กระเชอกนรั่ว ๖ กระตายตื่นตูม ๒ กระดูกแข็ง ๗ กระหมอมบาง ๓ กระแตวับ ๘ กระดูกรองได ๔ กระโถนทองพระโรง ๙ กระดูกสันหลังของชาติ ๕ กระตายหมายจันทร ๑๐ กระดี่ไดน้ํา ๓๑
  • 36. ชุดที่ ๑๓ หมวดคําวา “เขา” ๑. ทําตามธรรมเนียมประเพณี ๒. แสดงบทเกี้ยวพาราสี ๓. ถูกกับแบบแผน ๔. ใหมีสติ อยาประมาท ๕. บอกหรือสอนไมไดผล ๖. ประพฤติตนใหเหมาะสมกับกาลเทศะ ๗. เอาไวเปนของสวนตัว ๘. พูดหรือทําไมถูกตองกับเรื่อง เพราะขาดความชํานาญในเรื่องนั้น ๙. เวลาสําคัญถามีอะไรมาขัดจังหวะ แมเพียงเล็กนอยก็เสียการ ๑๐. สามารถติดตอหรือคบหาสมาคมกับใคร ๆ ได สํานวนใดบางจะ...ที่ขึ้นตนดวยคําวา “เขา” ๑ เขาตามตรอกออกตามประตู ๖ เขาเมืองตาหลิ่ว ตองหลิ่วตาตาม ๒ เขาพระเขานาง ๗ เขาพกเขาหอ ๓ เขารูปเขารอย ๘ เขารกเขาพง ๔ เขาเถื่อนอยาลืมพรา ๙ เขาดายเขาเข็ม ๕ เขาหูซายทะลุหูขวา ๑๐ เขาไหนเขาได ๓๒
  • 37. ชุดที่ ๑๔ หมวดคําวา “ปาก” ๑. ชอบนินทาเล็กนินทานอย ๒. พอพูดก็ทําเลย ๓. ชอบพูดคําหยาบ ๔. พูดดีแตใจคิดราย ๕. วากลาวสั่งสอนไมรูจักหยุด ๖. พูดจาออนหวาน แตไมจริงใจ ๗. การกลาวตักเตือนซ้ําแลวซ้ําเลา ก็ยังไมไดผลตามที่มุงหมาย ๘. พูดอยางหนึ่งแตทําอีกอยางหนึ่ง, ปากกับใจไมตรงกัน ๙. ยังเปนเด็ก ๑๐. ภัยอันตราย สํานวนใดบางจะ...ที่ขึ้นตนดวยคําวา “ปาก” ๑ ปากหอยปากปู ๖ ปากหวานกนเปรี้ยว ๒ ปากวามือถึง ๗ ปากเปยกปากแฉะ ๓ ปากปลารา ๘ ปากวาตาขยิบ ๔ ปากปราศรัยน้ําใจเชือดคอ ๙ ปากไมสิ้นกลิ่นน้ํานม ๕ ปากเปนชักยนต ๑๐ ปากเหยี่ยวปากกา ๓๓
  • 38. ชุดที่ ๑๕ หมวดคําวา “เห็น” ๑. ถึงขั้นแตกหัก ๒. รวมรูสึกในใจ ๓. เห็นคนอื่นดีกวาญาติพี่นอง ๔. เริ่มเห็นผลงานที่ไดลงทุนลงแรงไป ๕. ทําเลียนแบบคนใหญคนโตทั้ง ๆ ที่ตนไมมีกําลังทรัพยพอ ๖. มีโอกาสไดจัดการบวชลูกหลานในพระพุทธศาสนา ๗. เห็นผิดเปนชอบ ๘. เห็นประจักษฝมือ ๙. เห็นฝายตรงขามที่ตัวใหญกวาไมนาเกรงขามในเวลาที่โกรธมากจนลืมตัว ๑๐. ลําเอียงในบุคคล, มุงเฉพาะตน สํานวนใดบางจะ...ที่ขึ้นตนดวยคําวา “เห็น” ๑ เห็นดําเห็นแดง ๖ เห็นชายผาเหลือง ๒ เห็นใจ ๗ เห็นกงจักรเปนดอกบัว ๓ เห็นขี้ดีกวาไส ๘ เห็นดี ๔ เห็นหนาเห็นหลัง ๙ เห็นชางเทาหมู ๕ เห็นชางขี้ขี้ตามชาง ๑๐ เห็นแกหนา ๓๔
  • 39. ชุดที่ ๑๖ หมวดคําวา “ไม” ๑. พวกเดียวกัน ๒. ขัดกันตะพึด เพราะใจโกรธกันมากอน ๓. ผูมีวาสนายอมมีคนมาพึ่งบารมี ๔. แกใกลจะตาย ๕. คนที่เคยมีวาสนา เมื่อตกต่ําลง ผูที่มาพึ่งบารมีก็หายหนาไป ๖. หญิงสวยมักไมบริสุทธิ์ ๗. โลเล, ไมแนนอน ๘. อบรมสั่งสอนเด็กใหประพฤติไดงายกวาอบรมสั่งสอนผูใหญ ๙. คนที่ประพฤตินอกแบบแผนของวงศตระกูล ๑๐. ทาสําคัญที่ใชในการตอสู ทําใหคูตอสูไมสามารถจะสูไดอีก สํานวนใดบางจะ...ที่ขึ้นตนดวยคําวา “ไม” ๑ ไมปาเดียวกัน ๖ ไมงามกระรอกเจาะ ๒ ไมเบื่อไมเมา ๗ ไมหลักปกขี้ควาย / ไมหลักปกเลน ๓ ไมรมนกจับ ๘ ไมออนดัดงาย ไมแกดัดยาก ๔ ไมใกลฝง ๙ ไมนอกกอ ๕ ไมลมเงาหาย ๑๐ ไมเด็ด / ไมตาย ๓๕
  • 40. ชุดที่ ๑๗ หมวดคําวา “ตี” ๑. ขูใหกลัว ๒. ตลบตะแลง, กลับกลอก ๓. พูดหรือทําใหกิจการของผูอื่นซึ่งกําลังดําเนินไปดวยดีกลับเสียไป ๔. ทําสิ่งใด ๆ ไวแลว แตผลไปตกแกผูอื่น ๕. กังวลทุกขรอนหรือหวาดกลัวในเรื่องที่ยังไมเกิดขึ้น ๖. กระทําการสิ่งใดแกศัตรูโดยไมเด็ดขาดจริงจัง ยอมไดรับผลรายในภายหลัง ๗. เขาทําในตอนหลังหรือในระยะหลัง ๘. พูดใชสํานวนโวหารเปนเชิงอวดฉลาด ๙. ทําหนาเฉยเหมือนไมมีความรูสึกหรือไมรูเรื่อง ๑๐. อวดแสดงคารม สํานวนใดบางจะ...ที่ขึ้นตนดวยคําวา “ตี” ๑ ตีปาใหเสือกลัว ๖ ตีงูใหหลังหัก ๒ ตีหลายหนา ๗ ตีทายน้ํา ๓ ตีปลาหนาไซ ๘ ตีสํานวน ๔ ตีงูใหกากิน ๙ ตีหนาตาย ๕ ตีตนกอนไข / ตีตนตายกอนไข ๑๐ ตีฝปาก ๓๖
  • 41. ชุดที่ ๑๘ หมวดคําวา “ตัด” ๑. ชิงทําเสียกอน ๒. ทําลายใหถึงตนตอ ๓. ลดราคาใหต่ํากวาคูแขงขัน ๔. เอาตัวรอดแตผูเดียว ๕. ตัดขาดจากกันอยางเด็ดขาด ๖. ตัดตนเหตุเพื่อไมใหเหตุการณลุกลามตอไป ๗. ตัดขาดไมเกี่ยวของ ไมเอาเปนธุระอีกตอไป ๘. ลักลอบเขาไปในบานของผูอื่นเพื่อขโมยของ ๙. ตัดความสัมพันธ ไมยอมใหความชวยเหลืออีกตอไป ๑๐. หามใจไมใหคิดในเหตุที่เกิดขึ้น, ตกลงใจ สํานวนใดบางจะ...ที่ขึ้นตนดวยคําวา “ตัด” ๑ ตัดหนา ๖ ตัดไฟตนลม / ตัดไฟหัวลม ๒ ตัดหนามอยาไวหนอ ๗ ตัดหางปลอยวัด ๓ ตัดราคา ๘ ตัดชองยองเบา ๔ ตัดชองนอยแตพอตัว ๙ ตัดเชือก ๕ ตัดเปนตัดตาย ๑๐ ตัดใจ ๓๗
  • 42. เอกสารอางอิง ราชบัญฑิตยสถาน. (๒๕๕๓). ภาษิต คําพังเพย สํานวนไทย. กรุงเทพฯ : ราชบัณฑิตยสถาน. เอกรัตน อุดมพร. (๒๕๕๑). ๒,๐๐๐ อุปมาอุไมย. กรุงเทพฯ : พัฒนาศึกษา. ไอคิว พลัส. (๒๕๕๒). สนุกใชสุภาษิต-คําพังเพยและสํานวนไทย. กรุงเทพฯ : พีเอ็นเอ็น กรุป. ๓๘