More Related Content
Similar to โครงสร้างที่ใช้ในการเคลื่อนที่ของคน
Similar to โครงสร้างที่ใช้ในการเคลื่อนที่ของคน (20)
More from Wan Ngamwongwan
More from Wan Ngamwongwan (20)
โครงสร้างที่ใช้ในการเคลื่อนที่ของคน
- 1. โครงสร้างที่ใช้ใน
การเคลื่อนที่ของคน
ครูฉวีวรรณ นาคบุตร โรงเรียนบ้านสวน(จั่นอนุสรณ์) ชลบุรี
- 3. โครงกระดูก Skeleton
โครงกระดูกทาหน้าทีค้าจุนร่างกายให้คงรูปร่างช่วยป้องกัน
่
อวัยวะภายในที่บอบบาง เช่น หัวใจ มิให้ได้รับอันตราย
เป็นที่ยึดเกาะสาหรับ เอ็น กล้ามเนื้อในการเคลื่อนไหว
ร่างกาย สร้างเม็ดเลือด โดยไขกระดูกที่อยู่ภายในกระดูกจะ
ทาหน้าที่สร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงและเม็ดเลือดขาว
เป็นแหล่งสะสมสาคัญของธาตุแคลเซียมและฟอสฟอรัส
http://www.bknowledge.org/pum/object/blog/access/bshow/srch/1/blid/2
ฉวีวรรณ นาคบุตร
- 5. 2.เนื้อกระดูก (compact bone) ประกอบด้วยกลุ่มของเซลล์
กระดูก (osteocyte) เรียงตัวซ้อนกันเป็นวงรอบๆท่อ ภายใน
มีเส้นเลือดและเส้นประสาทที่หล่อเลี้ยงและควบคุมการทางาน
ของเซลล์กระดูก
3. โพรงกระดูก(marrow cavity) พบที่ส่วนปลายของ
กระดูกยาว ภายในโพรงกระดูกของกระดูกต้นแขน กระดูกต้นขา
และกระดูกอก มีไขกระดูก (bone marrow) ทาหน้าที่ผลิต
เซลล์เม็ดเลือดแดงและเซลล์เม็ดเลือดขาว
ฉวีวรรณ นาคบุตร
- 9. กระดูกฟ่าม (Spongy bone) มีเนื้อกระดูกลักษณะเป็นกิ่งประสานกันเป็น
ร่างแหเรียกว่า เสี้ยนกระดูก (trabeculae) จึงมีช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างเนื้อ
กระดูก เนื้อเยื่อที่เบาและแข็งแรงนี้มักพบในกระดูกสั้น กระดูกแบน และที่
ปลายของกระดูกยาว
ฉวีวรรณ นาคบุตร
- 10. กระดูกเนื้อแน่น (Compact bone) มีเนือกระดูกเป็นแผ่นเรียงซ้อนกัน
้
แน่นเป็นวง ชันนอกของกระดูกร่างกายทั้งหมดเป็นกระดูกเนื้อแน่น
้
เซลล์กระดูกอยู่ในช่องเล็ก ๆ
เรียกว่า ลาคูน่า (Lacuna)
ช่องโวล์กแมน (Volkmann's
canal) ประกอบด้วยหลอดเลือดเล็กๆ
และเส้นประสาทที่ไปเลี้ยงเซลล์กระดูก
ช่องฮาเวอร์เซียน (Haversian
canal) เป็นช่องทางเดินหลอดเลือดใน
กระดูก
ฉวีวรรณ นาคบุตร
- 12. 2. กระดูก (Bone) เป็นโครงสร้างที่เจริญมาจากเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (Membrane
Bone) หรือกระดูกอ่อน (Cartilagenous Bone) ก็ได้ ประกอบด้วยเซลล์
กระดูก (Osteocyte) เส้นใยชนิดต่าง ๆ และสารระหว่างเซลล์
ซึ่งมีผลึกไฮดรอกซีอะพาไทต์
(Hydroxyapatite ;
Ca10(PO4)6(OH)2)
มาเสริมทาให้กระดูก
มีความแข็งแรงมากกว่า
กระดูกอ่อน
ฉวีวรรณ นาคบุตร
- 14. กระดูกข้อมือ กระโหลกศีรษะ
ไหปลาร้า กระดูก
กระดูกฝ่ามือ สะบัก ไหล่
กระดูกนิ้วมือ กระดูกอก
กระดูกซี่โครง กระดูกต้นแขน
กระดูกท่อนสันหลัง ปลายแขนอันใน
กระดูกเชิงกราน ปลายแขนอันนอก
กระดูกข้อเท้า
กระดูกต้นขา
กระดูกฝ่าเท้า กระดูกก้นกบ กระดูกสะบ้า
กระดูกนิ้วเท้า กระดูกหน้าแข้ง
กระดูกน่อง
ฉวีวรรณ นาคบุตร
- 15. การจาแนกโครงกระดูก โครงกระดูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่
โครงกระดูกแกน (สีเหลือง)ประกอบด้วย
กะโหลกศีรษะ กระดูกสันหลัง และ
กระดูกซี่โครง ซึ่งเรียงตัวตามแนวดิ่งของ
เส้นสมมุติกลางลาตัว มีทั้งหมด 80 ชิ้น
โครงกระดูกรยางค์ (สีขาว) ประกอบด้วย
กระดูกที่เรียงตัวอยู่ข้างใดข้างหนึ่งของเส้น
สมมุติกลางลาตัว ได้แก่ กระดูกแขน
กระดูกขา กระดูกหัวไหล่ กระดูกเชิง
กราน มีทั้งหมด 126 ชิ้น
ฉวีวรรณ นาคบุตร
- 17. กระดูกแกน มีจานวน 80 ชิ้น ประกอบด้วย กระดูกกะโหลกศีรษะ
กระดูกสันหลัง กระดูกหน้าอก และกระดูกซี่โครง
ก.กระดูกสันหลัง ข.กระดูกซี่โครง
ฉวีวรรณ นาคบุตร
- 18. คาถาม
- การที่โครงกระดูกของคนมีจานวนมากชิ้นและไม่ต่อเป็นชินเดียว
้
มีประโยชน์ต่อการเคลื่อนไหวอย่างไร
ตอบ
ช่วยทาให้เกิดการเคลื่อนไหวได้หลายทิศทาง
คาถาม
- ถ้าหมอนรองกระดูกเสื่อมจะเกิดผลอย่างไร
ตอบ
ถ้าหมอนรองกระดูกเสื่อมอาจมีผลทาให้ร่างการเคลื่อนไหวไม่สะดวก
เกิดความเจ็บปวดตรงระหว่างข้อต่อของกระดูกสันหลังในขณะเคลื่อนไหว
ฉวีวรรณ นาคบุตร
- 19. คาถาม
กระดูกซี่โครงและกล้ามเนื้อยึดซี่โครงเกี่ยวข้องกับการหายใจอย่างไร
ตอบ
กล้ามเนื้อยึดซี่โครงแถบนอกหดตัว ทาให้กระดูกซี่โครงยกตัวสูงขึ้น
มีผลทาให้ปริมาตรช่องอกเพิ่มขึ้นอากาศจึงเคลื่อนที่เข้าสู่ปอดได้ทาให้
เกิดการหายใจเข้าและถ้าเกิดกลไกการทางานของกล้ามเนื้อยึดซี่โครงและ
กระดูกซี่โครงในทิศทางตรงกันข้ามกับที่กล่าวมาแล้วจะทาให้เกิดการ
หายใจออก
ฉวีวรรณ นาคบุตร
- 20. ข้อต่อ
และ
เอ็นยึดกระดูก
ฉวีวรรณ นาคบุตร
- 22. คาถามท้ายกิจกรรม
คาถาม
ทุกส่วนของร่างการทีทดลองมีขอบเขตในการเคลื่อนไหว
่
เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร
ตอบ
ข้อต่อบริเวณต่าง ๆ มีขอบเขตในการเคลื่อนไหวไปใน
ทิศทางแตกต่างกัน บางส่วนเคลื่อนไหวได้เพียงทิศทางเดียว
หรือรอบทิศทาง และเคลื่อนไหวไม่ได้
ฉวีวรรณ นาคบุตร
- 23. คาถาม นักเรียนคิดว่าสิ่งที่จากัดขอบเขตในการเคลื่อนไหวของร่างกาย
ส่วนที่ทดลองคืออะไร
ตอบ ลักษณะการเคลื่อนที่ของข้อต่อ
คาถาม จากการทดลองนักเรียนแบ่งชนิดของข้อต่อได้เป็นกี่ชนิด
อะไรบ้าง และใช้อะไรเป็นเกณฑ์
ตอบ
แบ่งได้เป็น3ชนิด คือ 1.เคลื่อนไหวได้ในทิศทางเดียว 2.เคลื่อนไหว
ได้อย่างอิสระหลายทิศทางและ 3.เคลื่อนไหวไม่ได้หรือเคลือนไหวได้
่
เพียงเล็กน้อย ดังนั้นเกณฑ์ที่ใช้แบ่งข้อต่อจึงเป็นทิศทางการเคลื่อนที่
ของกระดูกที่ข้อต่อนั้น
ฉวีวรรณ นาคบุตร
- 24. คาถาม
- เมื่อทดลองเคลื่อนไหวนิ้วเท้า หัวเข่า และต้นขา นักเรียนบอกได้
หรือไม่ว่าข้อต่อส่วนนั้นเป็นข้อต่อชนิดใดและส่วนใดบ้างที่เคลื่อนไหวไม่ได้
ตอบ
ข้อต่อของนิ้วเท้าเป็นแบบบานพับ ข้อต่อของหัวเข่าเป็นแบบบานพับ
ข้อต่อของต้นขาเป็นแบบลูกกลมในเบ้ากระดูก ข้อต่อในร่างกายบริเวณ
ที่เคลื่อนไหวไม่ได้ คือข้อต่อของกระดูกสันหลัง ข้อต่อของกระดูกฝ่ามือ
ฉวีวรรณ นาคบุตร
- 25. คาถาม
- การเคลื่อนไหวของกระดูกหัวเข่า กระดูกโคนขาและกระดูกเชิงกราน
เหมือนกันหรือไม่อย่างไร
ตอบ
การเคลื่อนไหวของกระดูกหัวเข่า สามารถพับไปด้านหลัง ส่วนกระดูกโคน
ขาสามารถเคลื่อนไหวในลักษณะหมุนได้รอบ เนื่องจากข้อต่อเป็นแบบลูก
กลมในเบ้ากระดูก ส่วนกระดูกเชิงกรานไม่สามารถเคลื่อนไหวได้
ฉวีวรรณ นาคบุตร
- 27. 2. ข้อต่อกระดูกอ่อน (cartilagenous joint) เป็นข้อต่อที่
เคลื่อนไหวได้เล็กน้อย โดยกระดูกที่มาเชื่อมต่อกันมีกระดูกอ่อนหุ้ม
อยู่ที่ปลายกระดูกทาหน้าที่ประสาน เช่น ข้อต่อของกระดูกซี่โครง
กับกระดูกหน้าอก ข้อต่อระหว่างกระดูกท่อนสันหลัง ข้อต่อ
ระหว่างกระดูกเชิงกรานซีกซ้ายและซีกขวา
ฉวีวรรณ นาคบุตร
- 28. 3. ข้อต่อที่เคลือนไหวได้ (Movable Joint) หรือ ข้อต่อซิลโนเวียล
่
(Sylnovial joint ) เป็นข้อต่อที่เชื่อมต่อกระดูกแล้วทาให้เคลื่อนไหวได้
ซึ่งมีอยู่หลายรูปแบบ เช่น ข้อต่อที่ทาให้เคลื่อนไหวเพียงทิศทางเดียว
เหมือนบานพับ (Hinge) พบที่ข้อต่อกระดูกนิ้วมือ นิ้วเท้า ส่วนข้อต่อที่
ทาให้เคลื่อนไหวได้อิสระหลายทิศทาง เนื่องจากมีการเชื่อมต่อของกระดูก
คล้ายลูกกลมในเบ้า (Ball and Socket) พบที่ข้อต่อของหัวไหล่และ
สะโพก สาหรับข้อต่อที่ต้นคอกับฐานของกะโหลกศีรษะนั้นเป็นข้อต่อที่มี
เดือยสวมประกบกัน (Pivotal) ทาให้สามารถก้มเงยและบิดไปซ้ายขวา
ได้ ส่วนข้อต่อที่ข้อมือนั้นก็หมุนได้หลายทิศทางเช่นกัน แต่เป็นข้อต่อ
แบบที่เรียกว่า Gliding
ฉวีวรรณ นาคบุตร
- 29. บริเวณข้อต่อจะมีโพรงของข้อต่อ (joint cavity) ภายในโพรงมี
เยื่อบุซิลโนเวียล (sylnovial membrane) บุอยู่ เยือบุนี้จะสร้าง
่
ของเหลวเป็นเมือกคล้ายไข่ขาว เรียกว่า น้าไขข้อ (sylnovial fluid)
หล่อลื่นอยู่ เพื่อไม่ให้กระดูกเสียดสีกันและทาให้เคลื่อนไหวได้
สะดวก นอกจากนี้บริเวณข้อต่อยังมีเส้นเอ็น (Tendon) หรือ
ลิกาเมนต์ (Ligament) ซึ่งเป็นเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่เหนียวแน่นและ
ทนทานช่วยยึดกระดูกไว้อีกด้วย
แหล่งอ้างอิง: เรื่องประเภทของข้อต่อ
http://school.obec.go.th/padad/scien32101/BODY/9BODY.html
ฉวีวรรณ นาคบุตร
- 31. ลิกาเมนต์ (ligament) หรือ เอ็นยึด
ข้อ คือ เอ็นที่ยึดกระดูกกับกระดูก
เทนดอน (tendon) หรือ เอ็นยึดกระดูก
คือ เอ็นที่ยึดระหว่างกระดูกกับกล้ามเนื้อ
ฉวีวรรณ นาคบุตร
- 32. ชนิดของข้อต่อ (Joint)
Ball and socket joint ข้อต่อสะโพก และข้อต่อบริเวณ
หัวไหล่เป็นข้อต่อแบบ "ลูกกลม
ในเบ้า" ปลายกระดูกข้างหลังมี
ลักษณะเป็นหัวกลม สวมอยู่ใน
เบ้ารูปร่างคล้ายถ้วยของปลาย
กระดูกอีกชิ้น ทาให้หมุนขาและ
แขนได้หลายทิศทาง
ฉวีวรรณ นาคบุตร
- 33. Hing joint
ข้อเข่า และ ข้อศอก รวมทังข้อนิ้วมือ เป็น
้
ข้อต่อแบบ "บานพับ" มีลักษณะคล้าย
บานพับ ทาให้เคลื่อนไหวขาได้เพียง
สองทิศทางคือ งอขาและเหยียด
Gliding joint
ข้อมือ ข้อเท้า เป็นข้อต่อแบบ"บด
เลื่อน" มีพื้นผิวแบนเรียบและกระดูก
เคลื่อนที่ในลักษณะไถลเลื่อนบดกันไปมา
ฉวีวรรณ นาคบุตร
- 34. Pivot joint
กระดูกคอ ข้อต่อแบบ "เดือยหมุน" พบใน
ข้อต่อระหว่างกระดูกคอ ชิ้นที่ 1 และชิ้นที่ 2
โดยกระดูกคอชิ้นที่ 2 มีลักษณะเป็นเดือยตั้ง
ให้กระดูกคือชิ้นที่ 1
ฉวีวรรณ นาคบุตร
- 35. คาถาม
- เพราะเหตุใดคนชราจึงเคลื่อนไหวได้ไม่คล่องแคล่ว และมีอาการ
กระดูกลั่นขณะที่มีการเคลื่อนไหว
ตอบ
เนื่องจากการสึกกร่อนหรือเสื่อมของกระดูก หมอนรองกระดูกและข้อต่อ
รวมทั้งปริมาณของน้าไขข้อในข้อต่อลดลง จึงเกิดการเสียดสีของกระดูก
บริเวณข้อต่อในขณะที่มีการเคลื่อนไหวทาให้เกิดเสียงลั่น
ฉวีวรรณ นาคบุตร