SlideShare a Scribd company logo
1 of 26
Download to read offline
อาศัย
 ระบบประสาทควบคุม
- cerebrum
- cerebellum
 ระบบโครงกระดูก
 ระบบกล้ามเนื้ อ
ระบบโครงกระดูก
• กระดูกแข็ง (bone) มี 206 ชิ้น
จำแนกได้ 2 จำพวก ได้แก่
- กระดูกแกน 80 ชิ้น
(axial skeleton)
- กระดูกรยำงค์ (ยื่น) 126 ชิ้น
(appendicular skeleton)
• กะโหลกศีรษะ (skull)
• กระดูกสันหลัง (vertebra)
• กระดูกอก (sternum)
• กระดูกซี่โครง (rib cage)
• กระดูกสะบัก (pectoral girdle)
• รยางค์คู่หน้า (แขน)
• กระดูกเชิงกราน (pelvic girdle)
• รยางค์คู่หลัง (ขา)
ข้อต่อแบบเบ้า
(ball and socket
joint)
ข้อต่อแบบบานพับ
(hinge joint)
ข้อต่อแบบหมุน
(pivot joint)
ข้อต่อมีน้าไขข้อ (synovial fluid)
ล่อเลื่อนป้องกันกระดูกเสียดสี
Skull
Clavicle
Scapula
Shoulder
girdle
Sternum
Rib
Humerus
Radius
Ulna
Carpals
Metacarpals
Phalanges
Fibula
Tarsals
Metatarsals
Phalanges
Vertebra
Pelvic
girdle
เซลล์ในระบบโครงกระดูก
เซลล์ Chondrocyte
ช่อง Lacuna
เส้นใยอิลาสติก (elastic fiber)
มี Chondroitin sulfate
เซลล์ Osteocyte
Canaliculi
Calcified
extracellular
matrix
กระดูกฟองน้า (Spongy Bone)
กระดูกเนื้ อแน่น (compact bone)
Haversian systems
………………………………………………………..
....................................................
กระดูกอ่อน Cartilage กระดูกแข็ง Bone
ตำแหน่ง ปลำยกระดูกซี่โครง, หู, จมูก, ฝำปิดกล่อง
เสียง (epiglottis)
กระดูกแขน, ขำ, กะโหลก
เซลล์ Chondrocyte อยู่ใน……………………..………
……………………………………………………………
……………………………………………………………
…………………………………………………………….
……………………………………………………………
……………………………………………………………
……………………………………………………………
…………. วง Haversian system
ลักษณะ
Osteocyte
เซลล์
Chondrocyte
ช่อง Lacuna
กระดูกต้นแขน
(humerus)
กระดูกปลำยแขน
ท่อนนอก (radius)
กระดูกปลำย
แขนท่อนใน
(ulna)
กระดูกข้อมือ
(carpals)
กระดูกฝ่ำมือ
(metacarpals)
กระดูกข้อนิ้วมือ
(phalanges)
แขนมนุษย์ ปีกค้ำงคำว
มีจุดกำเนิดทำงวิวัฒนำกำรร่วมกัน
Homo = เหมือน + logous = ตำแหน่ง
Ana = ต่ำง
Pelvis
Femur
Vermiform appendix (ไส้ติ่ง)
Coccyx
(รูปเปลี่ยน
ของกระดูกหำง)
Spinous
tubercle
Vertebral column
Ala
โครงสร้ำงที่ถูกลดรูปผ่ำนกำรวิวัฒนำกำร
ขำของวำฬ
หำงของมนุษย์
ขำของงู Spurs
Pelvis
Femur
• กำรเดินแบบ 2 เท้ำ (bipedal locomotion = bi - สอง
+ pedal - เท้ำ) อนุรักษ์พลังงำนได้ดีกว่ำกำรเดินแบบ 4
เท้ำ (quadrupedal locomotion)
• กำรเดินแบบ 2 เท้ำ เอื้อต่อกำรวิวัฒนำกำร
 รยางค์คู่หลังของมนุษย์ประกอบด้วยกระดูกอะไร และจานวน
เท่าใดบ้าง? วาดภาพ + ชี้ระบุชื่อ + ระบุจานวน
 Homologous structure; Analogous structure; Vestigial structure
คืออะไร? จงอธิบายพร้อมยกตัวอย่างประกอบ
 ในเชิงวิวัฒนาการ bipedal locomotion มีข้อดีกว่า quadrupedal
locomotion ในแง่ใดบ้าง จงอธิบาย?
ระบบกล้ามเนื้อ กล้ำมเนื้อ (muscle) มี 3 ชนิด ได้แก่
1. ……………………………………………….
2. ……………………………………………….
3. ……………………………………………….
ข้อเปรียบเทียบ ………………………………….. ………………………. …………………………
1. รูปร่ำง,
ตำแหน่ง
รูปทรงกระบอก, มีลำยขวำง,
พบที่กล้ำมเนื้อติดกระดูก
รูปกระสวยไม่มีลำย,
พบที่อวัยวะภำยใน
รูปทรงกระบอกมีลำยขวำง, แตก
แขนงเชื่อมกัน, พบที่กล้ำมเนื้อ
หัวใจ
2. นิวเคลียส มำกกว่ำ 1 1 นิวเคลียส 1-2 นิวเคลียส
3. กำรทำงำน หดตัวแรง, คลำยตัวเร็ว หดและคลำยช้ำ หดคลำยเป็นจังหวะ
เส้นลาย
striation
Nucleus Nucleus
Nucleus
Intercalated
discs
อยู่เหนืออำนำจจิตใจ
(Involuntary)
อยู่ใต้อำนำจจิตใจ
(Voluntary)
1. A, B, C คือโครงสร้ำงอะไร?
_________________
2. พบ nucleus จำนวนเท่ำใด?
_________________
3. กล้ำมเนื้อชนิดนี้คือ? สังเกต
จำกอะไร?
_________________
_________________
A B C
การทางานของกล้ามเนื้อ เสนอโดย Huxley (1954)
• ทฤษฎี …………………………………………………………………………
………………………………………………..
- ใยแอคทิน (actin) เลื่อนเข้ำหำกัน
- ใยแอคทินเลื่อนออกจำกกัน
ช่อง Sarcomere
สั้นลง
ช่อง Sarcomere
เป็นปกติ
กล้ำมเนื้อ
หดตัว
กล้ำมเนื้อ
คลำยตัว
กล้ำมเนื้อหดตัว กล้ำมเนื้อคลำยตัว
กล้ามเนื้ อมัดใหญ่
(muscle)
มัดกล้ามเนื้ อ
(bundle of
muscle fiber)
เซลล์กล้ามเนื้ อ
(muscle fiber)
Nucleus
เส้นใยไมโอไฟบริล
(myofibril)
Sarcomere
Z line
Z line Z line
ซาร์โคเมียร์ (sarcomere): ช่วงระหว่าง Z line
Z line Z line
A band
H band I band
M line
M line
Z
line
Z
line
เส้นใยหนา = Myosin
เส้นใยบาง = Actin
กล้ำมเนื้อหดตัวเต็มที่
กล้ำมเนื้อหดตัว
กล้ำมเนื้อคลำยตัว
แถบหนำ (thick filaments) คือโปรตีนไมโอซิน (myosin)
แถบจำง (thin filaments) คือโปรตีนแอคทิน (actin)
Myosin protein ทำงำนอย่ำงไร?
ซาร์โคเมียร์ (sarcomere): ช่วงระหว่าง Z line
Thick filament
Thin filament
ไมโอซิน
(myosin)
แอคทิน (actin)
สายโทรโปไมโอซิน
(tropomyosin)
โทรโปนินคอมเพล็กซ์
(troponin complex)
Myosin head
Ca2+ = ⚫
Thick filament
Thin filament
1 Myosin head จับ ATP
(สถานะพลังงานต่า)
Myosin head
ATP
ATP
ADP
ADP
ADP P P
P
2 ATP ถูกสลายได้
พลังงาน, P และ
ADP (สถานะ
พลังงานสูง)
3 Myosin head จับกับ
Actin เรียก cross-
bridge
cross-bridge
4 Myosin head ปล่อย ADP และ P ทาให้พลังงานลดลงและลาก Actin ไป (ด้านขวา)
Actin
แถบจางเคลื่อนที่เข้าสู่ตรงกลาง sarcomere
ตาแหน่งจับของ
Myosin บน Actin
การควบคุมการหดตัวของกล้ามเนื้อลาย
ขึ้นอยู่กับ ATP และ Ca2+
สำรสื่อประสำท Acetylcholine (ACh) ถูกปล่อยจำก
ปลำย Axon ของเซลล์ประสำทกระตุ้น Action
potential ของเซลล์กล้ำมเนื้อ

Action potential ทำให้ SER ปลดปล่อย Ca2+ ออกมำ

Ca2+ จับ troponin ทำให้มันเปิด “ตำแหน่งจับของ
myosin” ออก, เกิด myosin cross-bridge (สไลด์ก่อน)

เมื่อไม่มี Action potential, Ca2+ จะถูกนำกลับ

ตำแหน่งจับของ myosin บน troponin ปิด, myosin จับ
กับ ATP เข้ำสู่สถำนะพลังงำนต่ำ (เอนรำบ)
Synaptic
terminal
Axon ของเซลล์ประสำท
T tubule
Sarcoplasmic
reticulum
(SR; SER)
Mitochondrion
Sarcomere
Myofibril
Synaptic
terminal ACh
plasma membrane
T tubule
SER
Ca2+
ATP
สายโทรโปไมโอซิน
(tropomyosin)
โทรโปนินคอมเพล็กซ์
(troponin complex)
Cross
-bridge
1
2
3
4
5
ตาแหน่งจับ myosin
ข้อควรทรำบพิเศษ
1. กล้ำมเนื้อหัวใจและกล้ำมเนื้อลำย ถูกควบคุมด้วย Autonomic
nervous system จึงทำงำนนอกอำนำจจิตใจ เรียก Involuntary
system (หดตัวได้โดยระบบประสำทไม่ได้สั่งกำร) e.g. เจ้ำหญิง
นิทรำ หรือ คนเป็นอัมพำต ซึ่งอวัยวะภำยในทำงำนปกติ แต่
กล้ำมเนื้อลำยจะลีบลงเลื่อย ๆ
2. ขณะวิ่ง ซึ่งจะใช้พลังงำนจำนวนมำกจะได้ ATP จำก
- Aerobic respiration 2-3 นำทีแรก
- Anaerobic respiration 5-10 นำทีต่อมำ เกิด lactate ทำให้
เลือดเป็นกรด เป็นตะคริว
- กำรสลำย Creatine phosphate (ส่วนใหญ่) หลังนำทีที่ 10
ข้อควรทรำบพิเศษ (ต่อ)
3. Botulinum toxin ออกฤทธิ์ยับยั้งสำร
สื่อประสำท Acetylcholine กล้ำมเนื้อ
จึงอ่อนปวกเปียก (Botulism)
กล้ำมเนื้อจึงเป็น อัมพำตต้องให้ยำ
antitoxin
4. [ในทำงตรงข้ำม] พิษของ Clostridium
tetani พบตำมปุ๋ยคอก (ก่อโรคบำดทะ
ยัก) ยับยั้งเอนไซม์ที่กำจัดสำรสื่อ
ประสำท กล้ำมเนื้อจึงเกร็งตลอดเวลำ
เกร็งหลังแอ่น (opisthotonos) →
ข้อควรทรำบพิเศษ (ต่อ)
5. Mitochondria จะเพิ่มจำนวนขึ้นถ้ำออก
กำลังกำยสม่ำเสมอ (ใช้ O2) ร่ำงกำยจะ
แข็งแรงขึ้น ในทำงตรงข้ำมกำรออกกำลัง
กำยอย่ำงหนักช่วงสั้น ๆ จะกระตุ้นเฉพำะ
เอนไซม์ที่ใช้สลำยไกลโคเจน ดังนั้น
กล้ำมเนื้อจึงโป่งพอง, เหนื่อยง่ำย, ไม่ทน
6. เนื้อเยื่อกล้ำมเนื้อสีแดงเข้มเพรำะมี
Myoglobin (จับ O2 ได้ดีกว่ำ Hb) ซึ่งจะ
ปลดปล่อย O2 เมื่อควำมเข้มข้นของ CO2
สูงเท่ำนั้น
• กระดูกประกอบด้วยเซลล์กระดูกที่สำคัญ 2 ชนิด
- กระดูกอ่อนมีเซลล์ chondrocyte สะสม chondroitin sulfate
- กระดูกแข็งมีเซลล์ osteocyte สะสม Ca2+ ใน Haversian system
• กล้ำมเนื้อมีโปรตีน actin และ myosin เป็นหน่วยทำงำน, กล้ำมเนื้อมี
เซลล์ 3 ประเภท ได้แก่ กล้ำมเนื้อลำยทำงำนแบบ voluntary
กล้ำมเนื้อเรียบและหัวใจทำงำนแบบ involuntary
• ทฤษฎี Sliding filament theory อธิบำยกำรหดตัวของกล้ำมเนื้อ
• การควบคุมการหดตัวของกล้ามเนื้อลายขึ้นอยู่กับ ATP และ Ca2+
ory
ตัวอย่ำงข้อสอบเข้ำ
มหำวิทยำลัย
TEST YOUR UNDERSTANDING
ใช้แผนภำพนี้ตอบคำถำมข้อ 1 และ 2
A B
ข้อควำมใดถูกต้องเกี่ยวกับ
แผนภำพนี้?
ก = เป็นส่วนของกล้ำมเนื้อลำย
ข = A คือ Actin
ค = B คือ Myosin
ง = A และ B คือ Microtubule
จ = A 1 ใยมี B ล้อมรอบ 6 ใย
1
(1) ก, จ (2) ง (3) ก, ง (4) ก, ข, ค
ใช้แผนภำพนี้ตอบคำถำมข้อ 1 และ 2
A B
2
(1) B เคลื่อนเข้าหากัน (2) A หดตัว B คลายตัว
(3) A และ B เลื่อนเข้ำหำกัน (4) A และ B หดตัว
กำรหดตัวของกล้ำมเนื้อดังภำพ
เกิดขึ้นจำกข้อใด?
3 จำกแผนภำพแสดงโครงสร้ำงของมนุษย์ ซึ่งประกอบด้วยกล้ำมเนื้อ A
และ B อะไรจะเกิดขึ้นกับ A และ B ถ้ำปลำยขำเคลื่อนจำกตำแหน่ง 1
ไป 2 และกำรทำงำนของกล้ำมเนื้อเป็นแบบใด?
A B การทางานของกล้ามเนื้อ
(1) หดตัว คลำยตัว แอนตำโกนิซึม, ใต้อำนำจจิตใจ
(2) หดตัว หดตัว แอนตำโกนิซึม, นอกอำนำจจิตใจ
(3) คลำยตัว หดตัว ไม่แอนตำโกนิซึม, นอกอำนำจ
จิตใจ
(4) คลำยตัว คลำยตัว ไม่แอนตำโกนิซึม, ใต้อำนำจจิตใจ
4 ภำพนี้เป็นภำพแสดง (1)……..ของ (2)........?
(1) (2)
ก. Myofibrils Skeletal muscle
ข. Muscular fiber Skeletal muscle
ค. Intercalated disc Cardiac muscle
ง. Myofibrils Cardiac muscle

More Related Content

Similar to บทที่ 2.1 การเคลื่อนไหวของมนุษย์ ST.pdf

การเคลื่อนที่
การเคลื่อนที่การเคลื่อนที่
การเคลื่อนที่Thanyamon Chat.
 
skeletal system
skeletal systemskeletal system
skeletal systemRungsaritS
 
ข้อสอบกายวิภาคศาสตร์ (บันทึกอัตโนมัติ)
ข้อสอบกายวิภาคศาสตร์ (บันทึกอัตโนมัติ)ข้อสอบกายวิภาคศาสตร์ (บันทึกอัตโนมัติ)
ข้อสอบกายวิภาคศาสตร์ (บันทึกอัตโนมัติ)Aom S
 
บทที่ 2 การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต
บทที่ 2 การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิตบทที่ 2 การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต
บทที่ 2 การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิตTa Lattapol
 
การประเมินระบบกระดูก กล้ามเนื้อและข้อ
การประเมินระบบกระดูก กล้ามเนื้อและข้อการประเมินระบบกระดูก กล้ามเนื้อและข้อ
การประเมินระบบกระดูก กล้ามเนื้อและข้อUtai Sukviwatsirikul
 
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิตการเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิตPodjaman Jongkaijak
 
ระบบประสาท - Nervous system
ระบบประสาท - Nervous systemระบบประสาท - Nervous system
ระบบประสาท - Nervous systemsupreechafkk
 
โครงสร้างที่ใช้ในการเคลื่อนที่ของคน
โครงสร้างที่ใช้ในการเคลื่อนที่ของคนโครงสร้างที่ใช้ในการเคลื่อนที่ของคน
โครงสร้างที่ใช้ในการเคลื่อนที่ของคนnokbiology
 
ชีววิทยาเรื่องระบบไหลเวียนเลือด circulatory system
ชีววิทยาเรื่องระบบไหลเวียนเลือด circulatory systemชีววิทยาเรื่องระบบไหลเวียนเลือด circulatory system
ชีววิทยาเรื่องระบบไหลเวียนเลือด circulatory systemkasidid20309
 

Similar to บทที่ 2.1 การเคลื่อนไหวของมนุษย์ ST.pdf (20)

การเคลื่อนที่ของคน
การเคลื่อนที่ของคนการเคลื่อนที่ของคน
การเคลื่อนที่ของคน
 
ระบบกระดูก
ระบบกระดูกระบบกระดูก
ระบบกระดูก
 
vbvb
vbvbvbvb
vbvb
 
การเคลื่อนที่
การเคลื่อนที่การเคลื่อนที่
การเคลื่อนที่
 
Skeleton
SkeletonSkeleton
Skeleton
 
การเคลื่อนที่
การเคลื่อนที่การเคลื่อนที่
การเคลื่อนที่
 
skeletal system
skeletal systemskeletal system
skeletal system
 
ข้อสอบกายวิภาคศาสตร์ (บันทึกอัตโนมัติ)
ข้อสอบกายวิภาคศาสตร์ (บันทึกอัตโนมัติ)ข้อสอบกายวิภาคศาสตร์ (บันทึกอัตโนมัติ)
ข้อสอบกายวิภาคศาสตร์ (บันทึกอัตโนมัติ)
 
Back pain
Back painBack pain
Back pain
 
บทที่ 2 การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต
บทที่ 2 การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิตบทที่ 2 การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต
บทที่ 2 การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต
 
anatomyspine.pdf
anatomyspine.pdfanatomyspine.pdf
anatomyspine.pdf
 
Spinal Injury (Thai)
Spinal Injury (Thai)Spinal Injury (Thai)
Spinal Injury (Thai)
 
Spinal Injury (Thai)
Spinal Injury (Thai)Spinal Injury (Thai)
Spinal Injury (Thai)
 
การประเมินระบบกระดูก กล้ามเนื้อและข้อ
การประเมินระบบกระดูก กล้ามเนื้อและข้อการประเมินระบบกระดูก กล้ามเนื้อและข้อ
การประเมินระบบกระดูก กล้ามเนื้อและข้อ
 
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิตการเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต
 
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิตการเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต
การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต
 
ระบบประสาท - Nervous system
ระบบประสาท - Nervous systemระบบประสาท - Nervous system
ระบบประสาท - Nervous system
 
โครงสร้างที่ใช้ในการเคลื่อนที่ของคน
โครงสร้างที่ใช้ในการเคลื่อนที่ของคนโครงสร้างที่ใช้ในการเคลื่อนที่ของคน
โครงสร้างที่ใช้ในการเคลื่อนที่ของคน
 
Movement
MovementMovement
Movement
 
ชีววิทยาเรื่องระบบไหลเวียนเลือด circulatory system
ชีววิทยาเรื่องระบบไหลเวียนเลือด circulatory systemชีววิทยาเรื่องระบบไหลเวียนเลือด circulatory system
ชีววิทยาเรื่องระบบไหลเวียนเลือด circulatory system
 

More from Ratarporn Ritmaha

Vertebrates_Part 4 Aves and Mammal.pdf
Vertebrates_Part 4 Aves and Mammal.pdfVertebrates_Part 4 Aves and Mammal.pdf
Vertebrates_Part 4 Aves and Mammal.pdfRatarporn Ritmaha
 
Vertebrates_Part 3 Amphibian and Reptile.pdf
Vertebrates_Part 3 Amphibian and Reptile.pdfVertebrates_Part 3 Amphibian and Reptile.pdf
Vertebrates_Part 3 Amphibian and Reptile.pdfRatarporn Ritmaha
 
Vertebrates_Part 2 Pisces.pdf
Vertebrates_Part 2 Pisces.pdfVertebrates_Part 2 Pisces.pdf
Vertebrates_Part 2 Pisces.pdfRatarporn Ritmaha
 
Vertebrates_Part 1 Protochordate.pdf
Vertebrates_Part 1 Protochordate.pdfVertebrates_Part 1 Protochordate.pdf
Vertebrates_Part 1 Protochordate.pdfRatarporn Ritmaha
 
โครงสร้างและการเจริญเติบโตของพืชดอก
โครงสร้างและการเจริญเติบโตของพืชดอกโครงสร้างและการเจริญเติบโตของพืชดอก
โครงสร้างและการเจริญเติบโตของพืชดอกRatarporn Ritmaha
 

More from Ratarporn Ritmaha (6)

Dissection of Pisces_ST.pdf
Dissection of Pisces_ST.pdfDissection of Pisces_ST.pdf
Dissection of Pisces_ST.pdf
 
Vertebrates_Part 4 Aves and Mammal.pdf
Vertebrates_Part 4 Aves and Mammal.pdfVertebrates_Part 4 Aves and Mammal.pdf
Vertebrates_Part 4 Aves and Mammal.pdf
 
Vertebrates_Part 3 Amphibian and Reptile.pdf
Vertebrates_Part 3 Amphibian and Reptile.pdfVertebrates_Part 3 Amphibian and Reptile.pdf
Vertebrates_Part 3 Amphibian and Reptile.pdf
 
Vertebrates_Part 2 Pisces.pdf
Vertebrates_Part 2 Pisces.pdfVertebrates_Part 2 Pisces.pdf
Vertebrates_Part 2 Pisces.pdf
 
Vertebrates_Part 1 Protochordate.pdf
Vertebrates_Part 1 Protochordate.pdfVertebrates_Part 1 Protochordate.pdf
Vertebrates_Part 1 Protochordate.pdf
 
โครงสร้างและการเจริญเติบโตของพืชดอก
โครงสร้างและการเจริญเติบโตของพืชดอกโครงสร้างและการเจริญเติบโตของพืชดอก
โครงสร้างและการเจริญเติบโตของพืชดอก
 

บทที่ 2.1 การเคลื่อนไหวของมนุษย์ ST.pdf

  • 1. อาศัย  ระบบประสาทควบคุม - cerebrum - cerebellum  ระบบโครงกระดูก  ระบบกล้ามเนื้ อ
  • 2. ระบบโครงกระดูก • กระดูกแข็ง (bone) มี 206 ชิ้น จำแนกได้ 2 จำพวก ได้แก่ - กระดูกแกน 80 ชิ้น (axial skeleton) - กระดูกรยำงค์ (ยื่น) 126 ชิ้น (appendicular skeleton) • กะโหลกศีรษะ (skull) • กระดูกสันหลัง (vertebra) • กระดูกอก (sternum) • กระดูกซี่โครง (rib cage) • กระดูกสะบัก (pectoral girdle) • รยางค์คู่หน้า (แขน) • กระดูกเชิงกราน (pelvic girdle) • รยางค์คู่หลัง (ขา) ข้อต่อแบบเบ้า (ball and socket joint) ข้อต่อแบบบานพับ (hinge joint) ข้อต่อแบบหมุน (pivot joint) ข้อต่อมีน้าไขข้อ (synovial fluid) ล่อเลื่อนป้องกันกระดูกเสียดสี Skull Clavicle Scapula Shoulder girdle Sternum Rib Humerus Radius Ulna Carpals Metacarpals Phalanges Fibula Tarsals Metatarsals Phalanges Vertebra Pelvic girdle
  • 3. เซลล์ในระบบโครงกระดูก เซลล์ Chondrocyte ช่อง Lacuna เส้นใยอิลาสติก (elastic fiber) มี Chondroitin sulfate เซลล์ Osteocyte Canaliculi Calcified extracellular matrix กระดูกฟองน้า (Spongy Bone) กระดูกเนื้ อแน่น (compact bone) Haversian systems ……………………………………………………….. ....................................................
  • 4. กระดูกอ่อน Cartilage กระดูกแข็ง Bone ตำแหน่ง ปลำยกระดูกซี่โครง, หู, จมูก, ฝำปิดกล่อง เสียง (epiglottis) กระดูกแขน, ขำ, กะโหลก เซลล์ Chondrocyte อยู่ใน……………………..……… …………………………………………………………… …………………………………………………………… ……………………………………………………………. …………………………………………………………… …………………………………………………………… …………………………………………………………… …………. วง Haversian system ลักษณะ Osteocyte เซลล์ Chondrocyte ช่อง Lacuna
  • 5.
  • 7. Pelvis Femur Vermiform appendix (ไส้ติ่ง) Coccyx (รูปเปลี่ยน ของกระดูกหำง) Spinous tubercle Vertebral column Ala โครงสร้ำงที่ถูกลดรูปผ่ำนกำรวิวัฒนำกำร ขำของวำฬ หำงของมนุษย์ ขำของงู Spurs Pelvis Femur
  • 8. • กำรเดินแบบ 2 เท้ำ (bipedal locomotion = bi - สอง + pedal - เท้ำ) อนุรักษ์พลังงำนได้ดีกว่ำกำรเดินแบบ 4 เท้ำ (quadrupedal locomotion) • กำรเดินแบบ 2 เท้ำ เอื้อต่อกำรวิวัฒนำกำร
  • 9.  รยางค์คู่หลังของมนุษย์ประกอบด้วยกระดูกอะไร และจานวน เท่าใดบ้าง? วาดภาพ + ชี้ระบุชื่อ + ระบุจานวน  Homologous structure; Analogous structure; Vestigial structure คืออะไร? จงอธิบายพร้อมยกตัวอย่างประกอบ  ในเชิงวิวัฒนาการ bipedal locomotion มีข้อดีกว่า quadrupedal locomotion ในแง่ใดบ้าง จงอธิบาย?
  • 10. ระบบกล้ามเนื้อ กล้ำมเนื้อ (muscle) มี 3 ชนิด ได้แก่ 1. ………………………………………………. 2. ………………………………………………. 3. ………………………………………………. ข้อเปรียบเทียบ ………………………………….. ………………………. ………………………… 1. รูปร่ำง, ตำแหน่ง รูปทรงกระบอก, มีลำยขวำง, พบที่กล้ำมเนื้อติดกระดูก รูปกระสวยไม่มีลำย, พบที่อวัยวะภำยใน รูปทรงกระบอกมีลำยขวำง, แตก แขนงเชื่อมกัน, พบที่กล้ำมเนื้อ หัวใจ 2. นิวเคลียส มำกกว่ำ 1 1 นิวเคลียส 1-2 นิวเคลียส 3. กำรทำงำน หดตัวแรง, คลำยตัวเร็ว หดและคลำยช้ำ หดคลำยเป็นจังหวะ เส้นลาย striation Nucleus Nucleus Nucleus Intercalated discs อยู่เหนืออำนำจจิตใจ (Involuntary) อยู่ใต้อำนำจจิตใจ (Voluntary)
  • 11. 1. A, B, C คือโครงสร้ำงอะไร? _________________ 2. พบ nucleus จำนวนเท่ำใด? _________________ 3. กล้ำมเนื้อชนิดนี้คือ? สังเกต จำกอะไร? _________________ _________________ A B C
  • 12. การทางานของกล้ามเนื้อ เสนอโดย Huxley (1954) • ทฤษฎี ………………………………………………………………………… ……………………………………………….. - ใยแอคทิน (actin) เลื่อนเข้ำหำกัน - ใยแอคทินเลื่อนออกจำกกัน ช่อง Sarcomere สั้นลง ช่อง Sarcomere เป็นปกติ กล้ำมเนื้อ หดตัว กล้ำมเนื้อ คลำยตัว กล้ำมเนื้อหดตัว กล้ำมเนื้อคลำยตัว
  • 13. กล้ามเนื้ อมัดใหญ่ (muscle) มัดกล้ามเนื้ อ (bundle of muscle fiber) เซลล์กล้ามเนื้ อ (muscle fiber) Nucleus เส้นใยไมโอไฟบริล (myofibril) Sarcomere Z line Z line Z line ซาร์โคเมียร์ (sarcomere): ช่วงระหว่าง Z line Z line Z line A band H band I band M line M line Z line Z line เส้นใยหนา = Myosin เส้นใยบาง = Actin
  • 14. กล้ำมเนื้อหดตัวเต็มที่ กล้ำมเนื้อหดตัว กล้ำมเนื้อคลำยตัว แถบหนำ (thick filaments) คือโปรตีนไมโอซิน (myosin) แถบจำง (thin filaments) คือโปรตีนแอคทิน (actin) Myosin protein ทำงำนอย่ำงไร?
  • 16. ไมโอซิน (myosin) แอคทิน (actin) สายโทรโปไมโอซิน (tropomyosin) โทรโปนินคอมเพล็กซ์ (troponin complex) Myosin head Ca2+ = ⚫ Thick filament Thin filament 1 Myosin head จับ ATP (สถานะพลังงานต่า) Myosin head ATP ATP ADP ADP ADP P P P 2 ATP ถูกสลายได้ พลังงาน, P และ ADP (สถานะ พลังงานสูง) 3 Myosin head จับกับ Actin เรียก cross- bridge cross-bridge 4 Myosin head ปล่อย ADP และ P ทาให้พลังงานลดลงและลาก Actin ไป (ด้านขวา) Actin แถบจางเคลื่อนที่เข้าสู่ตรงกลาง sarcomere ตาแหน่งจับของ Myosin บน Actin
  • 17. การควบคุมการหดตัวของกล้ามเนื้อลาย ขึ้นอยู่กับ ATP และ Ca2+ สำรสื่อประสำท Acetylcholine (ACh) ถูกปล่อยจำก ปลำย Axon ของเซลล์ประสำทกระตุ้น Action potential ของเซลล์กล้ำมเนื้อ  Action potential ทำให้ SER ปลดปล่อย Ca2+ ออกมำ  Ca2+ จับ troponin ทำให้มันเปิด “ตำแหน่งจับของ myosin” ออก, เกิด myosin cross-bridge (สไลด์ก่อน)  เมื่อไม่มี Action potential, Ca2+ จะถูกนำกลับ  ตำแหน่งจับของ myosin บน troponin ปิด, myosin จับ กับ ATP เข้ำสู่สถำนะพลังงำนต่ำ (เอนรำบ) Synaptic terminal Axon ของเซลล์ประสำท T tubule Sarcoplasmic reticulum (SR; SER) Mitochondrion Sarcomere Myofibril Synaptic terminal ACh plasma membrane T tubule SER Ca2+ ATP สายโทรโปไมโอซิน (tropomyosin) โทรโปนินคอมเพล็กซ์ (troponin complex) Cross -bridge 1 2 3 4 5 ตาแหน่งจับ myosin
  • 18. ข้อควรทรำบพิเศษ 1. กล้ำมเนื้อหัวใจและกล้ำมเนื้อลำย ถูกควบคุมด้วย Autonomic nervous system จึงทำงำนนอกอำนำจจิตใจ เรียก Involuntary system (หดตัวได้โดยระบบประสำทไม่ได้สั่งกำร) e.g. เจ้ำหญิง นิทรำ หรือ คนเป็นอัมพำต ซึ่งอวัยวะภำยในทำงำนปกติ แต่ กล้ำมเนื้อลำยจะลีบลงเลื่อย ๆ 2. ขณะวิ่ง ซึ่งจะใช้พลังงำนจำนวนมำกจะได้ ATP จำก - Aerobic respiration 2-3 นำทีแรก - Anaerobic respiration 5-10 นำทีต่อมำ เกิด lactate ทำให้ เลือดเป็นกรด เป็นตะคริว - กำรสลำย Creatine phosphate (ส่วนใหญ่) หลังนำทีที่ 10
  • 19. ข้อควรทรำบพิเศษ (ต่อ) 3. Botulinum toxin ออกฤทธิ์ยับยั้งสำร สื่อประสำท Acetylcholine กล้ำมเนื้อ จึงอ่อนปวกเปียก (Botulism) กล้ำมเนื้อจึงเป็น อัมพำตต้องให้ยำ antitoxin 4. [ในทำงตรงข้ำม] พิษของ Clostridium tetani พบตำมปุ๋ยคอก (ก่อโรคบำดทะ ยัก) ยับยั้งเอนไซม์ที่กำจัดสำรสื่อ ประสำท กล้ำมเนื้อจึงเกร็งตลอดเวลำ เกร็งหลังแอ่น (opisthotonos) →
  • 20. ข้อควรทรำบพิเศษ (ต่อ) 5. Mitochondria จะเพิ่มจำนวนขึ้นถ้ำออก กำลังกำยสม่ำเสมอ (ใช้ O2) ร่ำงกำยจะ แข็งแรงขึ้น ในทำงตรงข้ำมกำรออกกำลัง กำยอย่ำงหนักช่วงสั้น ๆ จะกระตุ้นเฉพำะ เอนไซม์ที่ใช้สลำยไกลโคเจน ดังนั้น กล้ำมเนื้อจึงโป่งพอง, เหนื่อยง่ำย, ไม่ทน 6. เนื้อเยื่อกล้ำมเนื้อสีแดงเข้มเพรำะมี Myoglobin (จับ O2 ได้ดีกว่ำ Hb) ซึ่งจะ ปลดปล่อย O2 เมื่อควำมเข้มข้นของ CO2 สูงเท่ำนั้น
  • 21. • กระดูกประกอบด้วยเซลล์กระดูกที่สำคัญ 2 ชนิด - กระดูกอ่อนมีเซลล์ chondrocyte สะสม chondroitin sulfate - กระดูกแข็งมีเซลล์ osteocyte สะสม Ca2+ ใน Haversian system • กล้ำมเนื้อมีโปรตีน actin และ myosin เป็นหน่วยทำงำน, กล้ำมเนื้อมี เซลล์ 3 ประเภท ได้แก่ กล้ำมเนื้อลำยทำงำนแบบ voluntary กล้ำมเนื้อเรียบและหัวใจทำงำนแบบ involuntary • ทฤษฎี Sliding filament theory อธิบำยกำรหดตัวของกล้ำมเนื้อ • การควบคุมการหดตัวของกล้ามเนื้อลายขึ้นอยู่กับ ATP และ Ca2+ ory
  • 23. ใช้แผนภำพนี้ตอบคำถำมข้อ 1 และ 2 A B ข้อควำมใดถูกต้องเกี่ยวกับ แผนภำพนี้? ก = เป็นส่วนของกล้ำมเนื้อลำย ข = A คือ Actin ค = B คือ Myosin ง = A และ B คือ Microtubule จ = A 1 ใยมี B ล้อมรอบ 6 ใย 1 (1) ก, จ (2) ง (3) ก, ง (4) ก, ข, ค
  • 24. ใช้แผนภำพนี้ตอบคำถำมข้อ 1 และ 2 A B 2 (1) B เคลื่อนเข้าหากัน (2) A หดตัว B คลายตัว (3) A และ B เลื่อนเข้ำหำกัน (4) A และ B หดตัว กำรหดตัวของกล้ำมเนื้อดังภำพ เกิดขึ้นจำกข้อใด?
  • 25. 3 จำกแผนภำพแสดงโครงสร้ำงของมนุษย์ ซึ่งประกอบด้วยกล้ำมเนื้อ A และ B อะไรจะเกิดขึ้นกับ A และ B ถ้ำปลำยขำเคลื่อนจำกตำแหน่ง 1 ไป 2 และกำรทำงำนของกล้ำมเนื้อเป็นแบบใด? A B การทางานของกล้ามเนื้อ (1) หดตัว คลำยตัว แอนตำโกนิซึม, ใต้อำนำจจิตใจ (2) หดตัว หดตัว แอนตำโกนิซึม, นอกอำนำจจิตใจ (3) คลำยตัว หดตัว ไม่แอนตำโกนิซึม, นอกอำนำจ จิตใจ (4) คลำยตัว คลำยตัว ไม่แอนตำโกนิซึม, ใต้อำนำจจิตใจ
  • 26. 4 ภำพนี้เป็นภำพแสดง (1)……..ของ (2)........? (1) (2) ก. Myofibrils Skeletal muscle ข. Muscular fiber Skeletal muscle ค. Intercalated disc Cardiac muscle ง. Myofibrils Cardiac muscle