More Related Content Similar to บทที่ 1 แนวคิดทั่วไปเกี่ยวกับฐานข้อมูล
Similar to บทที่ 1 แนวคิดทั่วไปเกี่ยวกับฐานข้อมูล (20) More from Rungnapa Rungnapa
More from Rungnapa Rungnapa (20) บทที่ 1 แนวคิดทั่วไปเกี่ยวกับฐานข้อมูล4. บทนา
ข้อมูล หมายถึง ข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับสงิ่ต่าง ๆ ทัว่ไป ที่เกิดขึ้นใน
ชีวิตประจา วัน
4
ข้อมูลคือทรัพยากรที่สา คัญขององค์กร
และ
องค์กรต้องใช้ข้อมูลร่วมกันและทุกฝ่าย
ดังนั้น
ข้อมูลจา เป็นต้องถูกจัดการ และสามารถแบ่งปันข้อมูลร่วมกันได้
6. 2. โครงสร้างแฟ้มข้อมูล (File Structure)
6
“แฟ้มข้อมูล” (file) หมายถึง ข้อสนเทศหรือข้อมูลทั้งหมดที่เก็บไว้ใน
สื่อที่มีคุณสมบัติเป็นแม่เหล็กไม่ว่าจะเป็นจานบันทึกธ รรมดาหรือ
จานแข็ง (hard disk) ก็ตาม ข้อสนเทศที่นาไปเก็บนั้นจะถูกนาไปเก็บไว้
เป็นเรื่อง ๆ ไป อาจจะเป็นโปรแกรม ข้อมูล หรือภาพ (graphics) กไ็ด้
แ ต่ล ะ เ รื่อ ง ต่า ง ก็ต้อ ง มีชื่อ เ ป็น ข อ ง ต น เ อ ง ที่ต้อ ง ไ ม่ซ้า กัน
(ทักษิณา สวนานนท์ 2544, หน้า 249)
7. โครงสร้างแฟ้มข้อมูล
7
“ โครงสร้างแฟ้มข้อมูล ” (data structure) หมายถึง รูปแบบของ
การจัดระเบียบของข้อมูล ซึ่งมีอยู่หลายรูปแบบ (ทักษิณา สวนานนท์,
2544, หน้า 161) ประกอบด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่ลาดับจากหน่วยที่
เล็กที่สุดไปยังหน่วยที่ใหญ่ขึ้นตามลา ดับต่อไปนี้
8. File Structure
[Name] [Number] [Period] [Cost per Minute]
John 0815400516 10 3
Jim 0815611133 30 1
Nan 0815966645 25 3
Marry 0815985111 45 1
Read File: Charge = Period * Cost per Minute
= Field[3] * Field[4]
What happens if data are changed?
What happens if you share data?
8
ตัวอย่างโครงสร้างแฟ้มข้อมูล
Record
Field
10. โครงสร้างแฟ้มข้อมูล
10
1. บิต (Bit : Binary Digit) คือ หน่วยของข้อมูลที่เล็กที่สุดที่เก็บอยู่ใน
หน่วยความจา ภายในคอมพิวเตอร์ ซึ่ง Bit จะแทนด้วยตัวเลขหนึ่งตัว คือ 0
หรือ 1 อย่างใดอย่างหนึ่ง เรียกตัวเลข 0 หรือ 1 ว่าเป็น บิต 1 บิต
2. ไบท์ (Byte) คือ หน่วยของข้อมูลที่นาบิทหลายๆ บิทมารวมกัน แทน
ตัวอักษรแต่ละตัว เช่น A, B, …, Z, 0, 1, 2, … ,9 และสัญลักษณ์พิเศษอื่น ๆ
เช่น $, &, +, -, *, / ฯลฯ โดยตัวอักษร 1 ตัวจะแทนด้วยบิท 7 บิท หรือ 8 บิท
ซึ่งตัวอักษรแต่ละตัวจะเรียกว่า ไบท์ เช่น ตัว A เมื่อเก็บอยู่ในคอมพิวเตอร์จะ
เก็บเป็น 1000001 ส่วนตัว B จะเก็บเป็น 1000010 เป็นต้น
11. โครงสร้างแฟ้มข้อมูล
3. เขตข้อมูล (Field) คือ หน่วยของข้อมูลที่เกิดจากการนาตัวอักขระหลาย ๆ
ตัวมารวมกัน เป็นคา ที่มีความหมาย เช่น รหัสนักศึกษา ชื่อนักศึกษา นามสกุล
ที่อยู่ คณะ และสาขาวิชา เป็นต้น (ภาพที่ 1.1)
4. ระเบียน (Record) คือ หน่วยของข้อมูลที่มีการนาเขตข้อมูลหลาย ๆ
เขตข้อมูล ที่มีความสัมพันธ์กันมารวมกัน หรือค่าของข้อมูลในแต่ละเขตข้อมูล
เช่น ระเบียนนักศึกษาคนที่ 1 ประกอบด้วยเขตข้อมูล รหัส
นักศึกษา 4800111, ชื่อ : สาธิต, นามสกุล : กิตติพงศ์, โปรแกรมวิชา :
บรรณารักษศาสตร์, คณะ : มนุษยศาสตร์ เป็นต้น (ภาพที่ 1.1)
11
12. โครงสร้างแฟ้มข้อมูล
12
5. ไฟล์ (File) คือ หน่วยของข้อมูลที่มีการนาระเบียนหลาย ๆ ระเบียนที่มี
ความสัมพันธ์กันมารวมกัน เช่น แฟ้มข้อมูลนักศึกษา (ภาพที่1.1)
ซึ่งประกอบไปด้วย ระเบียนจา นวน 5 ระเบียน หรือ 5 แถว ซึ่งก็คือ
รายละเอียดของนักศึกษาจานวน 5 คน
14. 2. ชนิดของข้อมูล (Type of Data)
14
ชนิดของข้อมูล มีหลายรูปแบบดังนี้ คือ
ข้อความ (Text) เป็นข้อมูลที่เป็นอักขระในแบบข้อความ โดยไม่มี
รูปแบบที่แน่นอน ความหมายจะอยู่ในข้อความ เช่น ชื่อพนักงาน
ข้อมูลที่ถูกกา หนดเป็นรูปแบบ (Formatted Data) เป็นข้อมูลที่เป็น
อักขระในแบบข้อความ โดยมีรูปแบบที่แน่นอน ซึ่งปกติจะถูกกา หนดให้
อยู่ในรูปแบบของรหัส เช่น รหัสสาขา CS ใช้แทนสาขาวิทยาการคอมฯ
ข้อมูลแบบรูปภาพ (Images) เป็นข้อมูลที่เป็นภาพหรือเป็นกราฟ
ข้อมูลแบบเสียง (Audio/Sound) เป็นไฟล์ข้อมูลชนิดหนึ่งที่ใช้จัดเก็บ
เสียงแบบดิจิตอล เช่น การแปลงเสียงพูดของมนุษย์
15. 15
3. ประเภทของแฟ้มข้อมูล
(Types of Conventional Files)
แบ่งออกเป็น 6 ชนิดด้วยกัน ดังต่อไปนี้
แฟ้มข้อมูลหลัก (Master File)
แฟ้มข้อมูลรายการเปลี่ยนแปลง (Transaction File)
แฟ้มเอกสาร (Document File)
แฟ้มประวัติ (Archival File)
แฟ้มตารางอ้างอิง (Table Look-up File)
แฟ้มเพื่อการตรวจสอบ (Audit File)
16. 16
ประเภทของแฟ้มข้อมูล
แฟ้มข้อมูลหลัก (Master File) เป็นแฟ้มข้อมูลที่ใช้สา หรับจัดเก็บ
ข้อมูลที่ค่อนข้างคงที่ เช่น แฟ้มข้อมูลสมาชิก เป็นต้น มี3 รูปแบบ คือ
การเพมิ่ (Add)
การลบ (Delete)
การแก้ไขปรับปรุง (Modify)
17. 17
ประเภทของแฟ้มข้อมูล
แฟ้มรายการเปลี่ยนแปลง (Transaction File) เป็นแฟ้มข้อมูลที่ใช้
จัดเก็บรายการข้อมูลประจา วันที่มีการเคลื่อนไหวอยู่เสมอ เช่น
แฟ้มข้อมูลการลงทะเบียนเรียนของนักศึกษา เป็นต้น
แฟ้มเอกสาร (Document File) หรือไฟล์รายงาน (Report File)
เคยผ่านการประมวลผลมาแล้วครัง้หนึ่งด้วยโปรแกรม เช่น
การสัง่ประมวลผลโปรแกรม
แฟ้มประวัติ (Archival File) เช่น การเคลื่อนย้ายข้อมูลแฟ้มประวัติ
ลูกค้าเก่าจากฮาร์ดดิสก์แล้วนาไปบันทึกลงเทป เป็นต้น
18. 18
ประเภทของแฟ้มข้อมูล
แฟ้มตารางอ้างอิง (Table Look-up File) เป็นไฟล์หรือตารางที่ใช้เพื่อ
การอ้างอิงข้อมูล ข้อมูลที่จัดเก็บลงในแฟ้มตารางค่อนข้างที่คงที่หรือมัก
ไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ เช่น ตารางภาษี เป็นต้น
แฟ้มเพื่อการตรวจสอบ (Audit File) เป็นไฟล์พิเศษชนิดหนึ่งที่ใช้เก็บ
ประวัติการบันทึกเรคอร์ดต่าง ๆ ที่ถูกอัพเดตลงในไฟล์ต่าง ๆ หรือ
เรียกว่า Log File
19. 19
3. ระบบแฟ้มข้อมูล (Files-Based System)
Personnel Department
Employees
Database
Production
Database
Personal
Database
Accounting
Database
Financial
Database
Accounting Department
Accounts
Database
Sales Department
20. 20
ระบบฐานข้อมูล (Database System)
File system
Employees
Database
Database
Inventory
Database
Database system
Personal
Department
Inventory
Department
Sales
Department
Ssleman
Database
Customer
Database
DBMS
Personal
Department
Inventory
Department
Sales Department
Employ
ee
Invent
ory
Salesm
an
Custo
mer
21. 4. การจัดโครงสร้างแฟ้มข้อมูล (Files Organizations)
21
วัตถุประสงค์ของการจัดโครงสร้างแฟ้มข้อมูล คือ
เพื่อดึงข้อมูลให้มีความรวดเร็วขึ้น
เพื่อการประมวลผลข้อมูลที่ดี
เพื่อใช้งานอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ป้องกันความเสียหายหรือความสูญเสียของข้อมูล
เพื่อรองรับอัตราการเติบโตของข้อมูลที่เพมิ่ขึ้น
เพื่อความปลอดภัยจากผู้ใช้งานที่ไม่มีสิทธิใ์นการใช้งานข้อมูล
22. 22
การจัดโครงสร้างแฟ้มข้อมูล
การจัดโครงสร้างแฟ้มข้อมูล ประกอบด้วยรูปแบบ ดังนี้
โครงสร้างแฟ้มข้อมูลแบบเรียงลา ดับ (Sequential File Organizations)
โครงสร้างแฟ้มข้อมูลแบบเข้าถึงโดยตรง (Directed File Organizations)
โครงสร้างแฟ้มข้อมูลแบบเรียงลา ดับดัชนี
(Indexed Sequential File Organizations)
23. 23
การจัดโครงสร้างแฟ้มข้อมูล
โครงสร้างแฟ้มข้อมูลแบบเรียงลา ดับ (Sequential File Organizations)
Start of file
Arunee
Bangkok
Dumrong
Hansa
…
Manop
Somying
…
Scan
26. 26
การจัดโครงสร้างแฟ้มข้อมูล
ข้อจา กัดของวิธีแฟ้มข้อมูล มีรายละเอียด ดังนี้
ข้อมูลมีการเก็บแยกจากกัน (Separation and Isolation of Data)
ข้อมูลมีความซา้ซ้อน (Duplication of Data)
ข้อมูลมีความขึ้นต่อกัน (Data Dependence)
มีรูปแบบที่ไม่ตรงกัน (Incompatible File Formats)
รายงานต่าง ๆ ถูกกาหนดไว้อย่างจากัด (Fixed Queries)
27. 27
การจัดโครงสร้างแฟ้มข้อมูล
ข้อมูลมีการเก็บแยกจากกัน (Separation and Isolation of Data)
แฟ้มพนักงาน (EMPLOYEES)
empNo name Address birthDate salary depart phone
EMP001 นายพิชัย รัตนะ
10/201 ถ.วิภาวดีรังสิต
หลักสี่ กรุงเทพฯ 10210 1/5/2510 25000 แผนกขาย 02-9791112
EMP002 นายสมยศ สุขศรี
403 ถ.เลียบคลอง หลัก
สอง กรุงเทพฯ 10160 12/11/2507 30000 แผนกบุคลากร 02-2308987
EMP003 น.ส.นงนุช อินทรา
105 ถ.ห้วยแก้ว อ.เมือง
เชียงใหม่ 50300 20/02/2520 18000 แผนกขาย 081-8881400
แฟ้มพนักงานขาย (SALESMAN)
saleNo name phone pagingNo level
EMP001 นายพิชัย รัตนะ 02-9791112 152-4445689 1
EMP002 น.ส.นงนุช อินทรา 081-8881400 152-210000 3
28. 28
การจัดโครงสร้างแฟ้มข้อมูล
ข้อมูลมีความซา้ซ้อน (Duplication of Data)
แฟ้มพนักงาน (EMPLOYEES)
empNo name Address birthDate salary depart phone
EMP001 นายพิชัย รัตนะ
10/201 ถ.วิภาวดีรังสิต
หลักสี่ กรุงเทพฯ 10210 1/5/2510 25000 แผนกขาย 02-9791112
EMP002 นายสมยศ สุขศรี
403 ถ.เลียบคลอง หลัก
สอง กรุงเทพฯ 10160 12/11/2507 30000 แผนกบุคลากร 02-2308987
EMP003 น.ส.นงนุช อินทรา
105 ถ.ห้วยแก้ว อ.เมือง
เชียงใหม่ 50300 20/02/2520 18000 แผนกขาย 081-8881400
Insertion Anomalies
แฟ้มพนักงานขาย (SALESMAN)
saleNo name phone pagingNo level
EMP001 นายพิชัย รัตนะ 02-9791112 152-4445689 4
EMP002 น.ส.นงนุช อินทรา 081-8881400 152-210000 2
EMP009 นายองอาจ สุขเกษม 081-5412000 152-2500581 1
29. 29
การจัดโครงสร้างแฟ้มข้อมูล
ข้อมูลมีความซา้ซ้อน (Duplication of Data)
แฟ้มพนักงาน (EMPLOYEES)
empNo name Address birthDate salary depart phone
EMP002 นายสมยศ สุขศรี
403 ถ.เลียบคลอง หลัก
สอง กรุงเทพฯ 10160 12/11/2507 30000 แผนกบุคลากร 02-2308987
EMP003 น.ส.นงนุช อินทรา
105 ถ.ห้วยแก้ว อ.เมือง
เชียงใหม่ 50300 20/02/2520 18000 แผนกขาย 081-8881400
Deletion Anomalies
แฟ้มพนักงานขาย (SALESMAN)
saleNo name phone pagingNo level
EMP001 นายพิชัย รัตนะ 02-9791112 152-4445689 4
EMP002 น.ส.นงนุช อินทรา 081-8881400 152-210000 2
EMP009 นายองอาจ สุขเกษม 081-5412000 152-2500581 1
30. 30
การจัดโครงสร้างแฟ้มข้อมูล
ข้อมูลมีความซา้ซ้อน (Duplication of Data)
แฟ้มพนักงาน (EMPLOYEES)
empNo name Address birthDate salary depart phone
EMP002 นายสมยศ สุขศรี
403 ถ.เลียบคลอง หลัก
สอง กรุงเทพฯ 10160 12/11/2507 30000 แผนกบุคลากร 02-2308987
EMP003 น.ส.ระวิวรรณ อินทรา
105 ถ.ห้วยแก้ว อ.เมือง
เชียงใหม่ 50300 20/02/2520 18000 แผนกขาย 081-8881400
Modification Anomalies
แฟ้มพนักงานขาย (SALESMAN)
saleNo name phone pagingNo level
EMP001 นายพิชัย รัตนะ 02-9791112 152-4445689 4
EMP002 น.ส.นงนุช อินทรา 081-8881400 152-210000 2
EMP009 นายองอาจ สุขเกษม 081-5412000 152-2500581 1
31. 5. ระบบฐานข้อมูล (Database Systems)
กล่าวคือ ฐานข้อมูลคือศูนย์รวมของข้อมูลต่าง ๆ ที่มีความสัมพันธ์กัน
โดยจะมีกระบวนการจัดหมวดหมู่ข้อมูลอย่างมีระเบียบแบบแผน ก่อให้เกิด
ฐานข้อมูลที่เป็นแหล่งรวมของข้อมูลจากแผนกต่าง ๆ ซึ่งถูกจัดเก็บไว้
อย่างมีระบบภายในฐานข้อมูลชุดเดียว โดยผู้ใช้งานแต่ละแผนกสามารถ
เข้าถึงข้อมูลส่วนกลางนี้ เพื่อนาไปประมวลผลร่วมกันได้
31
32. ระบบฐานข้อมูล
32
Personnel Department
Sales Department
Accounting Department
DBMS
Database
Employees
Customers
Sales
Inventory
Accounts
DBMS manages
data resources Database containing
Centralized shared data
33. แนวคิดเกี่ยวกับระบบฐานข้อมูล
ความจา เป็นที่ทา ให้เกิดการใช้งานโดยระบบฐานข้อมูล
ข้อมูล ฐานข้อมูล และระบบจัดการฐานข้อมูล
ความสา คัญของระบบฐานข้อมูล
ประโยชน์ของระบบจัดการฐานข้อมูล
33
34. แนวคิดเกี่ยวกับระบบฐานข้อมูล
ความจา เป็นที่ทา ให้เกิดการใช้งานโดยระบบฐานข้อมูล
การประมวลผลกับระบบแฟ้มข้อมูลยุ่งยาก
แฟ้มข้อมูลไม่มีความเป็นอิสระของข้อมูล
แฟ้มข้อมูลมีความซับซ้อนมาก
แฟ้มข้อมูลมีความถูกต้องของข้อมูลน้อย
แฟ้มข้อมูลมีความปลอดภัยน้อย
ไม่มีการควบคุมจากศูนย์กลาง
34
35. ข้อมูล สารสนเทศ ฐานข้อมูล และระบบจัดการฐานข้อมูล
ข้อมูล หมายถึง ข้อเท็จจริง วัตถุ หรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
สารสนเทศ หมายถึง ข้อมูลที่ผ่านการประมวลผลแล้ว
และสามารถนาไปใช้ให้เกิดประโยชน์ตามแต่ละบุคคลที่ต้องการได้
ฐานข้อมูล หมายถึง กล่มุของข้อมูลที่มีการเก็บรวบรวมไว้
โดยมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน
35
แนวคิดเกี่ยวกับระบบฐานข้อมูล
36. ระบบการจัดการฐานข้อมูล มีหน้าที่ดังนี้ คือ
ดูแลการใช้งานให้กับผู้ใช้งาน
ควบคุมระบบความปลอดภัยของข้อมูล
ควบคุมการใช้ข้อมูลในสภาพที่มีผู้ใช้งานพร้อมกันหลายคน
หน้าที่ของผู้บริหารฐานข้อมูล
กาหนดโครงสร้างหรือรูปแบบของฐานข้อมูล
กาหนดโครงสร้างของอุปกรณ์เก็บข้อมูลและวิธีการเข้าถึงข้อมูล
กาหนดขอบเขตการเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้
36
แนวคิดเกี่ยวกับระบบฐานข้อมูล
37. ความสา คัญของระบบฐานข้อมูล
ลดการเก็บข้อมูลที่ซ้า ซ้อน
รักษาความถูกต้องของข้อมูล
การป้องกันและการรักษาความปลอดภัยให้กับข้อมูล ทา ได้สะดวก
สามารถใช้ข้อมูลร่วมกันได้
มีความเป็นอิสระของข้อมูล
สามารถขยายงานได้ง่าย
ทา ให้ข้อมูลบูรณะกลับสู่สภาพปกติได้อย่างรวดเร็วและมีมาตรฐาน
37
แนวคิดเกี่ยวกับระบบฐานข้อมูล
38. ประโยชน์ของระบบจัดการฐานข้อมลู
ลดความซ้า ซ้อนของข้อมูล
รักษาความถูกต้องของข้อมูล
มีความเป็นอิสระของข้อมูล
มีความปลอดภัยของข้อมูลสูง
ใช้ข้อมูลร่วมกันโดยมีการควบคุมจากศูนย์กลาง
38
แนวคิดเกี่ยวกับระบบฐานข้อมูล
39. 6. ระบบจัดการฐานข้อมูล
(Database Management Systems) : DBMS
39
กล่าวคือ DBMS คือ ซอฟต์แวร์ที่ใช้เป็นเครื่องมือของผู้ใช้เพื่อโต้ตอบกับ
ฐานข้อมูล ซึ่งจะประกอบไปด้วยฟัง
ก์ชันหน้าที่ต่าง ๆ ในการจัดการกับ
ข้อมูล รวมทั้งภาษาที่ใช้ทางานกับข้อมูล โดยมักใช้ภาษา SQL
ในการโต้ตอบระหว่างกันกับผู้ใช้
40. ระบบจัดการฐานข้อมูล
40
Application
Request
DBMS
Metadata
Employees
Customers
Sales
Inventory
Accounts
End User #1
End User #2
Database Structure
End User
Data
Application Data
Request
Data
41. MySQL
- A multithreaded, multi-user, SQL DBMS
Microsoft SQL Server
- Relational DBMS produced by Microsoft
Oracle
- Object-relational DBMS
Sybase
- Sybase Corporation's primary relational DBMS product
DB2
- IBM's family of information management software products
Microsoft Access
- A relational DBMS from Microsoft, packaged with Microsoft Office 50-51 Professional
41
ระบบจัดการฐานข้อมูล
42. ภาษาที่ใช้ในระบบของฐานข้อมูล
ภาษานิยามข้อมูล (Data Definition Language : DDL) เป็นภาษาที่ใช้ใน
การกาหนด Schema
ภาษาจัดการข้อมูล (Data Manipulation Language : DML) เป็นภาษาที่ใช้
ในการจัดการข้อมูลภายในระบบฐานข้อมูล
ภาษาที่ใช้ในการควบคุมข้อมูล (Data Control Language : DCL)
เป็นภาษาที่ใช้ในการควบคุมความถูกต้องและความปลอดภัยของข้อมูล
42
ระบบจัดการฐานข้อมูล
44. 44
บทบาทหน้าที่ของบุคลากรในระบบฐานข้อมูล
สามารถแบ่งกลุ่มผู้ใช้งานเหล่านี้ออกเป็น 4 ตาแหน่งหลัก ๆ ด้วยกัน คือ
ผู้บริหารข้อมูลและผู้บริหารฐานข้อมูล (Data and Database Administrators)
นักออกแบบฐานข้อมูล (Database Designers)
ระดับตรรกะ (Logical Database Designer)
ระดับกายภาพ (Physical Database Designer)
นักวิเคราะห์ระบบและโปรแกรมเมอร์(System Analysis and Programmers)
ผู้ใช้ปลายทาง (End-Users)
ผู้ใช้ทัว่ไป (Naive Users)
ผู้ใช้สมัยใหม่(Sophisticated Users)
45. 45
การประยุกต์ใช้งานฐานข้อมูล
โดยสามารถแบ่งประเภทการประยุกต์ใช้งานฐานข้อมูลเป็น 5 ประเภท คือ
ฐานข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Databases)
ฐานข้อมูลระดับเวิร์กกรปุ๊ (Workgroup Databases)
ฐานข้อมูลระดับแผนก (Department Databases)
ฐานข้อมูลระดับเอ็นเตอร์ไพรส์(Enterprise Databases)
ฐานข้อมูลอินเทอร์เน็ต (Internet Databases)
46. 46
ข้อดีของวิธีฐานข้อมูล
1. ความอิสระของโปรแกรมและข้อมูล
2. ลดความซ้า ซ้อนในข้อมูล
3. ข้อมูลมีความสอดคล้องตรงกัน
4. การใช้ข้อมูลร่วมกัน
5. เพมิ่คุณประโยชน์สา หรับการพัฒนาแอปพลิเคชัน่
6. ความเป็นมาตรฐานเดียวกัน
7. ข้อมูลมีคุณภาพขึ้น
8. การเข้าถึงและผลการตอบรับข้อมูลเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น
9. ช่วยลดเวลาการบา รุงรักษาโปรแกรม
47. 47
ข้อเสียของวิธีฐานข้อมูล
1. ความซับซ้อนที่เพมิ่ขึ้น
2. มีขนาดความจุที่เพมิ่มากขึ้น
3. ต้นทุนของ DBMS มีราคาสูง
4. ต้นทุนด้านอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ที่เพมิ่ขึ้น
5. ต้นทุนเกี่ยวกับการแปลงข้อมูล
6. สมรรถนะการทางาน
7. ผลกระทบต่อความเสียหายสูง
48. 48
คาถามท้ายบทที่ 1
1. จงบอกเหตุผลว่า เหตุใดในยุคปัจ
จุบันฐานข้อมูลจึงมีความสา คัญต่อองค์กรธุรกิจทัว่ไป
2. อยากทราบว่าในชีวิตประจา วันของนักศึกษามีกิจกรรมใดที่เกี่ยวข้องกับระบบฐานข้อมูลบ้าง
จงยกตัวอย่างมา 2 ตัวอย่าง พร้อมคาอธิบาย
3. จงอธิบายความแตกต่างระหว่างการจัดการข้อมูลด้วยวิธีแฟ้มข้อมูลกับวิธีฐานข้อมูล
4. DBMS คืออะไร มีส่วนสา คัญอย่างไรในระบบฐานข้อมูล
5. จงสรุปข้อดีและข้อเสียของวิธีฐานข้อมูลมาให้พอเข้าใจ
Editor's Notes โครงสร้างเช่นมีทั้งหมดกี่ฟิลด์ กี่เรคคอร์ด ผู้ใช้ที่เรียกใช้ข้อมูลจากฐานข้อมูลโดยอาศัยโปรแกรมที่พัฒนาขึ้น
2. ใช้คำสั่ง SQL ในการเรียกใช้งาน หรือ ผู้ดูแลระบบฐานข้อมูล