More Related Content Similar to Bloom’s Taxonomy for Designing Achievement Test (in Thai)
Similar to Bloom’s Taxonomy for Designing Achievement Test (in Thai) (20) More from khon Kaen University
More from khon Kaen University (20) Bloom’s Taxonomy for Designing Achievement Test (in Thai)1. การสร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนตามระดับพฤติกรรมการเรียนรู้ของบลูม
Bloom’s Taxonomy for Designing Achievement Test
บลูม (Bloom) ได้จัดจุดมุง่หมายทางการศึกษาไว้3 ด้านคือ ด้านพุทธิพิสัย จิตพิสัย และทักษะพิสัย
ซึ่งในด้านพุทธิพิสัย (Cognitive Domain) นั้น บลูมได้จัดระดับจุดมุง่หมายตามระดับความรู้จากต่า ไปสูงไว้6
ระดับคือ ระดับความรู้ความจา ความเข้าใจ การนาไปใช้ การวิเคราะห์ การสังเคราะห์ และการประเมินผล
ซึ่งผู้สอนสามารถนาไปใช้เป็นแนวในการตั้งคา ถาม เพื่อกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดการคิดในระดับที่สูงขึ้นไปเรื่อย ๆ
ตัวอยา่งเชน่ เมอื่ถามคา ถามแล้วพบวา่ ผู้เรียนมีความรู้ในเรื่องใดเรื่องหนึ่งแล้ว
ผู้สอนควรตั้งคา ถามในระดับที่สูงขึ้น คือระดับความเข้าใจ หรือถ้าผู้เรียนมีความเข้าใจแล้ว
ผู้สอนก็ควรตั้งคา ถามในระดับที่สูงขึ้นไปอีก
คือระดับการนาไปใช้การที่ผู้สอนจะสามารถตั้งคาถามเพื่อกระตุ้นความคิดของผู้เรียนตามจุดมุง่หมายทางด้านพุ
ทธิพิสัยของบลูมให้สูงขึ้นนั้น ผู้สอนจา เป็นต้องมีความเข้าใจในความหมายของระดับความรู้ทั้ง 6 ประการ
ผู้สอนจา เป็นต้องเข้าใจลักษณะของความรู้แตล่ะระดับ
และพฤติกรรมการเรียนรู้ที่แสดงออกตามระดับขั้นการเรียนรู้ของ Revised Bloom’s Taxonomy ดังนี้
1. ระดับความรู้ความจา
(Remembering) การเรียนรู้ในระดับนี้เป็นการเรียนรู้ที่ผู้เรียนสามารถตอบได้วา่สิ่งที่ได้เรียนรู้มามีสาระอะไรบ้า
ง ซึ่งการที่สามารถตอบได้นั้น ได้มาจากการจดจา เป็นสาคัญ ดังนั้น
2. 2
คา ถามที่ใช้ในการทดสอบการเรียนรู้ในระดับนี้ จึงมกัเป็นคา ถามที่ถามถึงข้อมูล สาระ
รายละเอียดของสิ่งที่เรียนรู้ และให้ผู้เรียนแสดงพฤติกรรมที่บง่ชี้วา่ตนมีความรู้ความจา ในเรื่องนั้น ๆ
ดังตัวอยา่งดังนี้
พฤติกรรมทบี่่งชี้ถึงการเรียนรู้ เนื้อหา/สิ่งทถี่ามถึง
- บอก - รวบรวม
- ศัพท์ - วิธีการ
- เลา่ - ประมวล
- เกณฑ์ - หมวดหมู่
- ชี้ - จัดลา ดับ
- กระบวนการ - ระบบ
- ระบุ - ให้ความหมาย
- รายละเอียด - แบบแผน
- จา แนก - ให้คา นิยาม
- ระเบียบ -บุคคล
- ทอ่ง - เลือก
- ความสัมพันธ์ -สาเหตุ
- เหตุการณ์ - หลักการ
- ทฤษฎี - โครงสร้าง
- สถานที่ - องค์ประกอบ
- สัญลักษณ์ - เวลา
- กฎ - คุณลักษณะ
2. ระดับความเข้าใจ
(Understanding) หมายถึงการเรียนรู้ในระดับที่ผู้เรียนเข้าใจความหมายความสัมพันธ์และโครงสร้างของสิ่งที่เรี
ยนและสามารถอธิบายสิ่งที่เรียนรู้นั้นได้ด้วยคาพูดของตนเอง ผู้เรียนที่มีความเข้าใจในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง
หลังจากได้ความรู้ในเรื่องนั้นมาแล้ว จะสามารถแสดงออกได้หลายทาง เชน่สามารถตีความได้ แปลความได้
เปรียบเทียบได้ บอกความแตกตา่งได้ เป็นต้น ดังนั้น
คา ถามในระดับนี้จึงมกัเป็นคา ถามที่ชว่ยให้ผู้เรียนแสดงพฤติกรรมที่บง่ชี้ถึงความเข้าใจของตนในเรื่องนั้น ๆ
ดังตัวอยา่งตอ่ไปนี้
พฤติกรรมทบี่่งชี้ถึงการเรียนรู้ เนื้อหา/สิ่งทถี่ามถึง
- อธิบาย (โดยใช้คา พูด) - ขยายความ
- เปรียบเทียบ - ลงความเห็น
- แปลความหมาย - แสดงความคิดเห็น
- ตีความหมาย - คาดการณ์
คาดคะเน
- สรุป ยอ่ - ทา นาย
- บอกใจความสาคัญ - กะประมาณ
- ศัพท์ - วิธีการ
- ความหมาย
- กระบวนการ
- คา นิยาม
- ทฤษฎี หลักการ
- สิ่งที่เป็นนามธรรม
- แบบแผน โครงสร้าง
- ผลที่จะเกิดขึ้น
- ความสัมพันธ์
- ผลกระทบ
- เหตุการณ์ สถานการณ์
- เรื่องราวที่ผา่นมา
3. ระดับการนาไปใช้ (Applying) หมายถึงการเรียนรู้ในระดับที่ผู้เรียนสามารถนาข้อมูล ความรู้
และความเข้าใจที่ได้เรียนรู้มาไปใช้ในการหาคา ตอบและแก้ปัญหาในสถานการณ์ตา่ง ๆ
ดังนั้นคา ถามในระดับนี้จึงมกัประกอบด้วยสถานการณ์ที่ผู้เรียนจะต้องดึงความรู้ ความเข้าใจ
มาใช้ในการหาคา ตอบ โดยผู้เรียนมีพฤติกรรมที่บง่ชี้ถึงการเรียนรู้ในระดับสามารถนาไปใช้ได้
ดังตัวอยา่งตอ่ไปนี้
พฤติกรรมทบี่่งชี้ถึงการเรียนรู้ เนื้อหา/สิ่งทถี่ามถึง
3. 3
- ประยุกต์ ปรับปรุง - แกปั้ญหา
- เลือก - จัดแสดง
- ทา - ปฏิบัติ
- แสดง - สาธิต
- ผลิต - ฝึกหัด
- กฎ - วิธีการ
- หลักการ - กระบวนการ
- ทฤษฎี - ปัญหา
- ปรากฏการณ์ - ข้อสรุป
- สิ่งที่เป็นนามธรรม - ข้อเท็จจริง
4. ระดับการวิเคราะห์
(Analyzing) หมายถึงการเรียนรู้ในระดับที่ผู้เรียนต้องใช้การคิดอย่างมีวิจารณญาณและการคิดที่ลึกซึ้งขึ้นเนื่องจา
กไมส่ามารถหาคา ตอบได้จากข้อมูลที่มีอยูโ่ดยตรง
ผู้เรียนต้องใช้ความคิดหาคา ตอบจากการแยกแยะข้อมูลและหาความสัมพันธ์ของข้อมูลที่แยกแยะนั้น
หรืออีกนัยหนึ่งคือการเรียนรู้ในระดับที่ผู้เรียนสามารถจับได้วา่อะไรเป็นสาเหตุ
เหตุผลหรือแรงจูงใจที่อยูเ่บื้องหลังปรากฏการณ์ใดปรากฏการณ์หนึ่งการวิเคราะห์โดยทั่วไป มี 2 ลักษณะคือ
4.1 การวิเคราะห์จากข้อมูลที่มีอยูเ่พื่อให้ได้ข้อสรุป/หลักการที่สามารถนาไปใช้ในสถานการณ์อื่น ๆ ได้
4.2 การวิเคราะห์ข้อสรุป ข้ออ้างอิง หรือหลักการตา่ง ๆ
เพื่อหาหลักฐานที่สามารถสนับสนุนหรือปฏิเสธข้อความนั้นตัวอยา่งพฤติกรรมที่สามารถบง่ชี้ถึงการเรียนรู้ในระ
ดับวิเคราะห์ได้ มีดังนี้
พฤติกรรมทบี่่งชี้ถึงการเรียนรู้ เนื้อหา/สิ่งทถี่ามถึง
- จา แนกแยกแยะ - หาข้ออ้างอิง
- หาเหตุและผล - หาหลักฐาน
- หาความสัมพันธ์ - ตรวจสอบ
- หาข้อสรุป - จัดกลุม่
- หาหลักการ - ระบุหรือชี้ชัด
- ข้อมูล ข้อความ เรื่องราว เหตุการณ์
- เหตุและผล องค์ประกอบ ความคิดเห็น
- สมมติฐาน ข้อยุติ ความมุง่หมาย
- รูปแบบ ระบบ โครงสร้าง
- วิธีการ กระบวนการ
5. การเรียนรู้ในระดับการประเมินผล
(Evaluating) หมายถึงการเรียนรู้ในระดับที่ผู้เรียนต้องใช้การตัดสินคุณคา่ ซึ่งก็หมายความวา่
ผู้เรียนจะต้องสามารถตั้งเกณฑ์ในการประเมินหรือตัดสินคุณคา่ตา่ง ๆ ได้
และแสดงความคิดเห็นในเรื่องนั้นได้ พฤติกรรมบง่ชี้การเรียนรู้ในระดับนี้มีตัวอยา่งดังนี้
พฤติกรรมทบี่่งชี้ถึงการเรียนรู้ เนื้อหา/สิ่งทถี่ามถึง
- วิพากษ์วิจารณ์ ตัดสิน ประเมินคา่
- ตีคา่ สรุป
- เปรียบเทียบ จัดอันดับ
- ข้อมูล ข้อเท็จจริง การกระทา ความคิดเห็น
- ความถูกต้อง ความแมน่ยา
- มาตรฐาน เกณฑ์ หลักการ ทฤษฎี
4. 4
- กา หนดเกณฑ์/กา หนดมาตรฐาน
- ตัดสินใจ แสดงความคิดเห็น
- ให้เหตุผล บอกหลักฐาน
- คุณภาพ ประสิทธิภาพ
- ความเชื่อมนั่ ความคลาดเคลื่อน อคติ
- วิธีการ ประโยชน์ คา่นิยม
6. การเรียนรู้ในระดับการสร้างสรรค์ (Creating) หมายถึง การเรียนรู้ที่เน้นให้ผู้เรียนสามารถ (1) คิด
ประดิษฐ์ สิ่งใหมข่ึ้นมาได้ ซึ่งอาจอยูใ่นรูปของสิ่งประดิษฐ์ ความคิด (2)
ทา นายสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้ (3) คิดวิธีการแกปั้ญหาได้
แตแ่ตกตา่งจากการแกปั้ญหาในขั้นการนาไปใช้ ซึ่งจะมีคา ตอบถูกเพียงคา ตอบเดียว
แตวิ่ธีการแกปั้ญหาในขั้นนี้ อาจมีคา ตอบได้หลายคา ตอบ)
พฤติกรรมที่สามารถบง่ชี้การเรียนรู้ในระดับนี้ มีดังนี้
พฤติกรรมทบี่่งชี้ถึงการเรียนรู้ เนื้อหา/สิ่งทถี่ามถึง
- เขียนบรรยาย อธิบาย เลา่ บอก เรียบเรียง
- สร้าง จัด ประดิษฐ์ แตง่ ดัดแปลง
- ปรับปรุง แกไ้ข ทา ใหม่ออกแบบ ปฏิบัติ
- คิดริเริ่ม ตั้งสมมติฐาน
- ตั้งจุดมุง่หมาย ทา นาย
- แจกแจงรายละเอียด จัดหมวดหมู่
- สถานการณ์ วิธีแกปั้ญหา
- ความคิด การศึกษาค้นควา้
- แผนงาน
- สมมติฐาน จุดมุง่หมาย
- ทฤษฎี หลักการ โครงสร้าง
- รูปแบบ แบบแผน
- ส่วนประกอบ ความสัมพันธ์
- แผนภาพ แผนภูมิ ผังกราฟิก
ตัวอย่างการตั้งคาถาม ตามระดับจุดมุ่งหมายทางด้านพุทธิพิสัยของบลูม เรื่อง ประเทศอาเซียน
1. เมืองหลวงของราชอาณาจักรกมัพูชา ชอื่อะไร (Remembering)
ก. ฮานอย
ข. ร่างกุง้
ค. พนมเปญ
ง. เวียงจันทน์
2. ประเทศใดต่อไปนี้ไม่ได้ต้งัอยู่ในอนุภูมิภาคลุ่มน้าโขง (Understanding)
ก. พม่า
ข. ลาว
ค. เวียดนาม
ง. มาเลเซีย
3. หากท่านจะเดินทางจากประเทศไทยไปนครหลวงเวียงจันทน์ในเส้นทางทสี่ะดวกทสีุ่ด
ท่านตอ้งผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองของไทยทจีั่งหวดัใด (Applying)
5. 5
ก. หนองคาย
ข. มุกดาหาร
ค. เชียงราย
ง. อุบลราชธานี
4. ประเทศอาเซียนทอี่ยู่บนแผ่นดินใหญ่ของทวีปเอเชียมีหลายประเทศ
ข้อใดต่อไปนี้เรียงลา ดับการมองเห็นดวงอาทิตย์ขึ้นก่อนหลังตามลา ดับได้ถูกตอ้ง (Analyzing)
ก. เวียดนาม ลาว ไทย และพม่า
ข. ลาว เวียดนาม ไทย และพม่า
ค. เวียดนาม ลาว พม่า และไทย
ง. พม่า ไทย ลาว และเวียดนาม
5. ประชากรรวมกลุ่มประเทศประชาคมอาเซียนท้งัหมดประมาณเท่าไร (พ.ศ.2557) (Evaluating)
ก. 375 ล้านคน
ข. 425 ล้านคน
ค. 585 ล้านคน
ง. 615 ล้านคน
6. หากท่านได้รับมอบหมายให้ออกแบบฉากหลังเวทีประชุมสัมมนาเกยี่วกบัความร่วมมือด้านเศรษฐกิจของประเทศอาเซี
ยน ท่านจะเขียนภาพฉากหลังเวทีตามข้อใด (Creating)
ก. แผ่นทปี่ระเทศอาเซียน
ข. ชุดประจาชาติอาเซียน
ค. ดอกไม้ประจาชาติอาเซียน
ง. สกุลเงินของประเทศอาเซียน
---------------------------------
หนังสืออ้างอิง
ทิศนา แขมมณี. 2545. ศาสตร์การสอน: องค์ความรู้เพอื่จัดกระบวนการเรียนรู้ทมีี่ประสิทธิภาพ.
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย , กรุงเทพฯ.