งานนำเสนอPPTพืชตัวอย่างในสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาตามโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จัดทำโดย กลุ่ม 2 ม.5 ห้อง 834 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 เสนอ ครูวิชัย ลิขิตพรรักษ์ ตำแหน่ง ครู คศ.1 สาขาชีววิทยา กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา

2. สมาชิกกลุ่ม
1. ณพล ลินลาวรรณ เลขที่12 ห้อง834
2. ทนุธรรม ชัยพันธเศรษฐ์ เลขที่15 ห้อง834
3. ภัคพล อุประกูล เลขที่23 ห้อง834
4. สมิทธ์ เจนธัญญารักษ์ เลขที่30 ห้อง834

3. ครูผู้สอน
นายวิชัย ลิขิตพรรักษ์

4. คานา
รายงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาชีววิทยา 3 รหัสวิชา ว 30243.ระดับชั้น
มัธยมศึกษาปีที่ 3 ในเรื่อง HERBARIUM เป็นการบูรณาการชีววิทยากับ
สวนพฤษศาสตร์
โดยคณะผู้จัดทา ได้ใส่รายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับพรรณไม้ที่ศึกษา นั้นคือต้น
มะม่วง เช่น แหล่งที่พบ ประโยชน์และมีรูปประกอบขั้นตอนการทาherbarium
อย่างชัดเจน หวังว่ารายงานชุดนี้จะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย
คณะผู้จัดทา

5. สารบัญ
ชื่อสามัญ/ชื่อเรียกทั่วไป 1
ชื่อวิทยาศาสตร์ 1
ข้อมูลทั่วไป 2
ข้อมูลบริเวณที่พบโดยทั่วไป 3
ข้อมูลลักษณะของลาต้น 5

6. สารบัญ
ข้อมูลลักษณะของราก 6
ข้อมูลลักษณะของใบ 7
ข้อมูลลักษณะของผล 8
ข้อมูลลักษณะของเมล็ด 9
ข้อมูลลักษณะของดอก 10
ประโยชน์ 11

7. ชื่อสามัญ : Mango Tree
ชื่ออื่น ๆ : มะม่วงบ้าน (ทั่วไป), แป (ละว้า-เชียงใหม่), หมักโม่ง (เงี้ยว-
ภาคเหนือ), ส่าเคาะส่า, สะเคาะ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน), มะม่วงสวน (ภาค
กลาง), โตรัก (ชาวบน-นครราชสีมา), เจาะช้อก, ช้อก (ชอง-จันทบุรี), ขุ
(กะเหรี่ยง-กาญจนบุรี), โคกและ (ละว้า-กาญจนบุรี),เปา (มลายู-ภาคใต้), สะ
วาย (เขมร), มั่วก้วย (จีน)
ชื่อวิทยาศาสตร์
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Mangifera indica Linn.
ชื่อสามัญ/ชื่อเรียกทั่วไป

8. ข้อมูลทั่วไป
มะม่วงตามทาเนียบต้นไม้ของกรมป่าไม้จัดได้ว่าเป็นต้นไม้จากต่างประเทศ
แต่คนไทยส่วนใหญ่เข้าใจว่าเป็นไม้ดั้งเดิมของไทยซึ่งความจริงแล้วมะม่วง
มีถิ่นกาเนิดมาจากประเทศอินเดียและพม่าและ ได้เข้ามาเป็น ที่นิยมใน
ประเทศไทยเมื่อหลายร้อยปีก่อนจึงทาให้กลายเป็นไม้พื้นเมืองไปส่วนใน
ประเทศอินเดียที่เป็นถิ่นกาเนิดถือว่ามะม่วง เป็นผลไม้ โบราณที่สุดของ
อินเดีย

9. บริเวณที่พบ
สภาพพื้นที่ที่เหมาะสม
-ควรเป็นพื้นที่มีความสูงจากระดับน้าทะเล 10-300 เมตร
-ปลูกได้ทั้งพื้นที่ดอนและที่ลุ่ม
น้าไม่ท่วมขัง
-พื้นที่มีความลาดเอียงไม่เกิน 15 เปอร์เซ็นต์
-มีการคมนาคมและการขนส่งสะดวก
ลักษณะดิน
-ดินที่เหมาะสมควรเป็นดินร่วมปนทราย มีการระบายน้าได้ดี
-มีความเป็นกรดปานกลางถึงด่างเล็กน้อยประมาณ 5.5-7.5 ซึ่งโดยทั่วไปแล้วมะม่วงมีความสามารถ ใน
การเจริญเติบโต และให้ผลผลิตได้ดีในสภาพความเป็นกรด - ด่าง ของดินที่ค่อนข้างจะกว้าง

10. สภาพภูมิอากาศ
-อุณหภูมิที่เหมาะสมเฉลี่ยทั้งปีประมาณ 20-34 องศาเซลเซียส
-ต้องการช่วงแล้งก่อนการออกดอกประมาณ 2 เดือน และอุณหภูมิต่าประมาณ 15-20 องศาเซลเซียส
ต่อเนื่องกันประมาณ 2 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับพันธุ์
-มะม่วงบางพันธุ์ ไม่ต้องการอุณหภูมิต่าเพื่อกระตุ้นการสร้างตาดอก เช่นพันธุ์ที่มีนิสัยการออกดอก
ทะวาย
-ปริมาณน้าฝนที่เหมาะสมควรอยู่ระหว่าง 700-1500 มิลลิเมตรต่อปี และการตกของฝนกระจายตัว
สม่าเสมอในฤดูฝน
แหล่งน้า
•ควรมีแหล่งน้าที่สะอาด
-ไม่มีสารที่เป็นพิษปนเปื้อน
-น้ามีความเป็นกรดเป็นด่างที่เหมาะสมประมาณ 6.0-7.5
-ต้องมีน้าใช้อย่างเพียงพอ โดยเฉพาะในระยะพัฒนาผล

11. ข้อมูลลักษณะของลาต้น
แตกกิ่งก้านสาขาออกไปรอบต้นมากมายจนดูหนาทึบ เปลือกของลาต้นจะมีสีน้าตาล
อมดา พื้นผิวเปลือกขรุขระ

12. ข้อมูลลักษณะของใบ
ลักษณะของใบเป็นรูปหอก มีสีเขียวเข้ม เป็นไม้ใบเดี่ยวจะออกเรียง
กันเป็นคู่ ๆ ไปตาม
ก้านใบ ขอบใบเรียบไม่มีหยัก ปลายใบแหลม ส่วนโคนใบมน เนื้อใบ
ค่อนข้างจะหนา

13. ข้อมูลลักษณะของดอก
ดอกออกเป็นช่อ ช่อหนึ่งมีประมาณ 15-20 ดอก ลักษณะของ
ดอกเป็นสีเหลืองอ่อน หรือสีนวล ๆ เป็นดอกที่มีขนาดเล็ก

14. ข้อมูลลักษณะของผล
เมื่อดอกโรยก็จะติดผล มีลักษณะต่างกันแล้วแต่ละพรรณ
เช่น บางทีมีเป็นรูปมนรี ยาวรี หรือเป็นรูปกลมป้อม ผล
อ่อนมีเป็นสีเขียว เมื่อแก่หรือสุกเต็มที่จะเปลี่ยนเป็นสี
เหลืองสด

15. ข้อมูลลักษณะของเมล็ด
คล้ายรูปหัวใจ ค่อนข้างไปทางแบน มีเปลือกหุ้มเมล็ดหนาแข็ง
มีเสี้ยนติดเปลือกเมล็ดใน 1 เมล็ด เมื่อเพาะจะได้ต้นกล้าหลาย
ต้น (polyembyonic)

16. การใช้ประโยชน์
ผล : ท้องถิ่นทางภาคใต้นิยมใช้ผลดิบมาเป็นอาหารมากกว่าผลสุก ในทางสมุนไพรเหมือนกับมะม่วง
ทั่วไปคือ ผลสดแก่ รับประทานแก้คลื่นไส้อาเจียน วิงเวียน กระหายน้า ผลสุก หลังรับประทานแล้ว
ล้างเมล็ดตากแห้ง ต้มเอาน้าดื่ม หรือบดเป็นผง รับประทานแก้ท้องอืดแน่น ขับพยาธิ ใบสด 15–30
กรัม ต้มเอาน้าดื่ม แก้ลาไส้อักเสบเรื้อรัง ท้องอืดแน่น เอาน้าต้มล้างบาดแผลภายนอกได้
เปลือกต้น : ต้มเอาน้าดื่ม แก้ไข้ตัวร้อน เปลือกผลดิบ คั่วรับประทานร่วมกับน้าตาล แก้อาการปวด
เมื่อยเมื่อมีประจาเดือน แก้ปวดประจาเดือน

17. บรรณานุกรม
https://sites.google.com/a/benchama.ac.th/chotikan48617/info
http://www.rspg.or.th/plants_data/kp_bot_garden/kpb_02-3.htm
www.il.mahidol.ac.th/e-media/plants/webcontent3/interactive_key/.../mamuang.htm

18. ภาคผนวก

19. เลือกพืชตัวอย่างในการทาHerbarium
เลือกเก็บตัวอย่างส่วนประกอบของพืช

20. การเก็บรักษาพืช

21. การส่งตรวจครั้งที่1

22. การส่งตรวจครั้งที่2