ใบงานกฎหมาย
- 1. ตัวชี้วัดชั้นปี อธิบายและปฏิบัติตนตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับตนเอง ครอบครัว ชุมชน และประเทศ (ส 2.1 ม. 2/1)
ตอนที่ 1 เรื่อง ความหมาย ความสาคัญ และประเภทของกฎหมาย คาชี้แจง จงตอบคาถาม
1. กฎหมายคืออะไร
กฎหมาย คือ กฎ ระเบียบ ข้อบังคับของรัฐหรือประเทศ ซึ่งใช้บังคับความประพฤติของคนในประเทศนั้น หากฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติ
ตามจะมีความผิดและถูกลงโทษตามที่ได้กาหนดไว้
2. กฎหมายมีความสาคัญอย่างไรบ้าง
กฎหมายเป็นเครื่องมือหนึ่งที่นามาใช้ในการจัดระเบียบสังคม เพื่อให้สังคมเกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย และสงบสุข เนื่องจาก
กฎหมายเป็นสิ่งที่ใช้บังคับให้คนในสังคมปฏิบัติตามแนวทางที่สังคมกาหนด เพื่อมิให้สังคมเกิดความวุ่นวาย สับสน เป็นสังคมที่สันติ
สุข
3. กฎหมายแบ่งเป็นกี่ประเภท อะไรบ้าง
กฎหมายแบ่งได้หลายประเภทขึ้นอยู่กับว่าแบ่งโดยใช้หลักเกณฑ์ใด ในที่นี้จะขออธิบายโดยการแบ่งตามเนื้อหาของกฎหมาย แบ่ง
ได้ 3 ประเภท ได้แก่
1) กฎหมายเอกชน เป็นกฎหมายว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างเอกชนกับเอกชน ทั้งสองฝ่ายอยู่ในฐานะเท่าเทียมกัน เป็นกฎหมายที่
กาหนดเกี่ยวกับสิทธิทางแพ่ง
2) กฎหมายมหาชน คือ กฎหมายที่กาหนดความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับประชาชน ในฐานะที่รัฐเป็นฝ่ายปกครอง และมีอานาจ
เหนือกว่า ส่วนประชาชนเป็นผู้อยู่ใต้อานาจปกครอง
3) กฎหมายระหว่างประเทศ คือ กฎหมายที่กาหนดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับรัฐ
ตอนที่ 2 เรื่อง การตรากฎหมาย คาชี้แจง เติมคาหรือข้อความลงในช่องว่าง
1. ในการตราพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ผู้มีสิทธิเสนอร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ได้แก่ คณะรัฐมนตรี
สมาชิกรัฐสภา และศาลรัฐธรรมนูญ ศาลฎีกา หรือองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ
2. หลังจากที่เสนอร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญต่อรัฐสภาแล้ว จะมีกระบวนการพิจารณาแบ่งออกเป็น 3 วาระ ได้แก่
วาระที่ 1 ขั้นรับหลักการ วาระที่ 2 ขั้นพิจารณาเรียงลาดับมาตรา และวาระที่ 3 ขั้นการออกเสียงลงคะแนนว่าเห็นชอบในร่างฯ นั้นหรือไม่
3. เมื่อรัฐสภาให้ความเห็นชอบในร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญแล้ว ก่อนนาขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อทรงลงพระ
ปรมาภิไธย ต้องส่งให้ ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ
4. ขั้นตอนในการตราพระราชบัญญัติ ได้แก่ ผู้มีสิทธิเสนอร่างพระราชบัญญัติทาการเสนอร่างพระราชบัญญัติต่อรัฐสภา หลังจากนั้น
รัฐสภาจะพิจารณาร่างพระราชบัญญัตินั้น โดยเมื่อสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาร่างพระราชบัญญัตินั้นและลงมติเห็นชอบแล้ว จะส่งไปให้
วุฒิสภาพิจารณา โดยหากวุฒิสภาเห็นชอบในร่างพระราชบัญญัตินั้น ก็จะนาขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยประกาศใช้
เป็นกฎหมายต่อไป แต่หากวุฒิสภาไม่เห็นชอบก็จะต้องยับยั้งร่างพระราชบัญญัตินั้นไว้ก่อน แล้วจึงดาเนินการต่อไปตามขั้นตอนที่
รัฐธรรมนูญกาหนดไว้
5. ผู้มีสิทธิเสนอร่างพระราชกาหนด คือ รัฐมนตรีผู้จะรักษาการตามพระราชกาหนดนั้น
6. คณะรัฐมนตรี เป็นผู้ทาหน้าที่พิจารณาร่างพระราชกาหนด
8. ผู้มีสิทธิเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการสานักงานปลัดกระทรวง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พ.ศ. 2535 คือ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
9. ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 10,000 คน มีสิทธิเข้าชื่อเสนอร่างพระราชบัญญัติได้
10.ในการเสนอร่างข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตาบล เมื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งเข้าชื่อกันครบตามจานวนที่กฎหมายกาหนดแล้ว
จะต้องยื่นเรื่องเสนอต่อ สภาองค์การบริหารส่วนตาบล เพื่อพิจารณาตราเป็นข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตาบล
ใบงานที่ 1 เรื่อง ความหมาย ความสาคัญ ประเภทของกฎหมาย และการตรากฤหมาย
ชื่อ.....................................................................................................ชั้น ม.2/........ เลขที่............
- 2. ให้นักเรียนเขียนสรุปเกี่ยวกับประเภทกฎหมาย โดยยกตัวอย่างกฎหมายแต่ละประเภทมาอย่างละ 3 ตัวอย่าง และ
อธิบายจุดประสงค์และผลดีของการบัญญัติกฎหมายที่เกี่ยวกับการดาเนินชีวิตในสังคม
แล้วบันทึกข้อมูลลงแผนภาพ
ประเภทกฎหมาย / กฎหมาย จุดประสงค์ของการบัญญัติ ผลดีของการบัญญัติ
1. กฎหมายที่เกี่ยวกับ
ตนเองและครอบครัว
1.
2.
3.
______________________
______________________
______________________
______________________
______________________
______________________
______________________
______________________
______________________
______________________
______________________
______________________
2. กฎหมายที่เกี่ยวกับ
ชุมชนและประเทศชาติ 1.
2.
3.
______________________
______________________
______________________
______________________
______________________
______________________
______________________
______________________
______________________
______________________
______________________
______________________
เรื่อง กฎหมายที่ควรรู้
- 3. ชื่อ.......................................................................................ชั้น ม.2/....... เลขที่.........
ใบงาน เรื่อง กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับตนเองและครอบครัว
ตัวชี้วัดที่ ส 2.1 ม.2/1 อธิบายและปฏิบัติตนตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับตนเอง ครอบครัว ชุมชน และประเทศ
คาชี้แจง ให้นักเรียนอ่านกรณีศึกษา แล้วตอบคาถาม
กรณีศึกษาที่ 1
เปิ้ลอายุ 16 ปี ชวนเจฟฟี่ซึ่งเป็นเพื่อนอายุ 17 ปี ซึ่งทาการสมรสแล้วไปซื้อรถจักรยานยนต์เพื่อไว้ใช้ขับขี่ไปทาธุระในที่ต่างๆ ที่
อยู่ห่างไกลจากหมู่บ้าน เจ้าของร้านจาหน่ายรถจักรยานยนต์ไม่ยอมขายรถจักรยานยนต์ให้ทั้ง 2 คน แต่เจฟฟี่ได้แสดงหลักฐานการ
สมรสให้เจ้าของร้านดู
คาถาม
1. ถ้านักเรียนเป็นเจ้าของร้านจาหน่ายรถจักรยานยนต์ จะขายรถจักรยานยนต์ให้กับใคร จงอธิบาย เหตุผล
ขายรถจักรยานยนต์ให้กับเจฟฟี่ เพราะเจฟฟี่เป็นผู้บรรลุนิติภาวะแล้ว โดยการสมรสจึงสามารถทานิติกรรมได้
2. ใครไม่สามารถซื้อรถจักรยานยนต์ได้ เพราะอะไร แต่ถ้าเขาต้องการซื้อรถจักรยานยนต์ เขาควรปฏิบัติอย่างไร
เปิ้ลไม่สามารถซื้อรถจักรยานยนต์ได้ เพราะเป็นผู้เยาว์ อายุไม่ครบ 20 ปีบริบูรณ์ แต่ถ้าเปิ้ลต้องการซื้อ
รถจักรยานยนต์ เขาควรให้พ่อแม่ หรือผู้ปกครอง หรือผู้แทนโดยชอบธรรมเป็นผู้ซื้อให้หรือให้ได้รับความ
ยินยอมก่อน
กรณีศึกษาที่ 2
เต้ย ตาล ฝน และฟูา ซึ่งมีอายุระหว่าง 15-17 ปี นั่งสนทนากัน
เต้ย : เพื่อนรู้ไหมว่า ฉันกลุ้มใจมากเลย ฉันลักลอบได้เสียกับกุ้ง กุ้งท้องแล้วคลอดลูกเป็นผู้ชายเราอยากให้ลูกเป็นลูกที่ถูกต้อง
ตามกฎหมาย เราจะทาอย่างไรดี
นักเรียน : ช่วยตอบคาถามเต้ยด้วย
เต้ยสามารถไปจดทะเบียนรับเด็กเป็นบุตรได้ตามกฎหมาย เพราะเป็นกิจการที่ผู้เยาว์สามารถ
ทาได้เองเฉพาะตัว
ตาล : ตาลไปหารายได้พิเศษหลังเลิกเรียนด้วยการไปช่วยรดน้าต้นไม้ที่บ้านของลุงชาติตลอดปีลุงชาติใจดีมากได้มอบเงินให้ตาล
ตั้ง 10,000 บาท ตาลไม่ค่อยแน่ใจว่า จะรับเงินได้ไหม
นักเรียน : ช่วยตอบคาถามตาลด้วย
ตาลรับเงินจากลุงชาติได้ เพราะเป็นกิจการที่เป็นประโยชน์แก่ผู้เยาว์ฝ่ายเดียว ไม่มีทางเสีย
ฝน : ปิดภาคเรียนปีนี้แม่ให้เงินฝน 5,000 บาท เพื่อซื้อกระเป๋าและรองเท้านักเรียน นอกจากนั้นยังให้ซื้อรถจักรยานสาหรับขี่ไป
โรงเรียนด้วย พวกเธอลองคิดดูว่า ฉันสามารถทาได้ตามกฎหมายหรือไม่ เพราะอะไร
นักเรียน : ช่วยตอบคาถามฝนด้วย
ทาได้ เพราะเป็นกิจการสมควรแห่งฐานานุรูป และเป็นการจาเป็นเพื่อการเลี้ยงชีพตามสมควร
ซึ่งผู้เยาว์สามารถทาได้
ฟ้า : เพื่อนสนิทของฉันคนหนึ่งชื่อแตน อายุ 16 ปี มีรายได้ค่อนข้างสูงจากการเป็นดารานักร้อง มีเงินทองจานวนมาก แต่
สุขภาพของแตนไม่ดี แตนบอกกับฉันว่า อยากเขียนพินัยกรรมยกเงินส่วนหนึ่งให้เต้ เพื่อนที่แตนรักมาก พวกเธอคิดว่า
แตนทาได้ไหม บอกเหตุผลด้วย
นักเรียน : ช่วยตอบคาถามฟ้าด้วย
ได้ เพราะผู้เยาว์สามารถทาพินัยกรรมได้เมื่ออายุครบ 15 ปีบริบูรณ์
- 4. ชื่อ.......................................................................................ชั้น ม.2/....... เลขที่.........
ใบงานที่ 1.1 เรื่อง กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับตนเองและครอบครัว
ตัวชี้วัดที่ ส 2.1 ม.2/1 อธิบายและปฏิบัติตนตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับตนเอง ครอบครัว ชุมชน และประเทศ
คาชี้แจง ให้นักเรียนอ่านกรณีศึกษา แล้วตอบคาถาม
กรณีศึกษาที่ 4
กานดาและชัยทาการหมั้นกันเมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ชัยมอบของหมั้น คือ แหวนเพชร 1 วง และสร้อยคอ 1 เส้น
ให้แก่กานดา และมอบเงินสด 100,000 บาท ให้แก่พ่อแม่ของกานดา
กานดาเตรียมซื้อที่นอน หมอนมุ้งเครื่องนอน เป็นจานวนเงิน 10,000 บาท เพื่อเตรียมการสมรส แต่ชัยกลับไม่ยอมสมรส
คาถาม
1. กานดามีสิทธิในทรัพย์สินใดบ้าง
แหวนเป็นสิทธิของกานดา เพราะเป็นของหมั้น
2. กานดาหรือฝุายหญิงมีสิทธิได้รับค่าทดแทนอะไรบ้าง
มีสิทธิได้รับการทดแทนความเสียหายจากการเตรียมการสมรสจานวน10,000 บาท
กรณีศึกษาที่ 3
น้องหวานเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีความสนใจเรื่องการทาบัตรประจาตัวประชาชน เพราะอีกไม่กี่วันน้อง
หวานจะอายุครบทาบัตรประจาตัวประชาชนได้แล้ว จึงไปสนทนาขอความรู้จากพี่ชายชื่อโต้ง ซึ่งเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
น้องหวาน : พี่โต้งคะ น้องหวานจะอายุครบ 7 ปีบริบูรณ์ ในวันที่ 19 สิงหาคมนี้ น้องหวานจะต้องยื่น คาขอผู้มีบัตรต่อพนักงาน
เจ้าหน้าที่ภายในเวลากี่วัน นับตั้งแต่วันที่อายุครบ 7 ปีบริบูรณ์
พี่โต้ง : 60 วัน
น้องหวาน : คนที่มีอายุเท่าไร ไม่ต้องทาบัตรประจาตัวประชาชนคะ
พี่โต้ง : 70 ปีบริบูรณ์
น้องหวาน : บัตรประจาตัวประชาชนมีอายุการใช้งานกี่ปีคะ นับแต่วันออกบัตร
พี่โต้ง : 8 ปี
น้องหวาน : ถ้าทาบัตรประจาตัวประชาชนหาย จะต้องยื่นขอทาบัตรใหม่ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ภายใน กี่วัน นับ
พี่โต้ง : 60 วัน
น้องหวาน : บัตรประจาตัวประชาชนจาเป็นต้องใช้เมื่อไรบ้างคะ
พี่โต้ง : ใช้ในการติดต่อกับหน่วยงานทั้งทางราชการ และเอกชนที่ต้องการหลักฐานแสดงว่าเป็นใคร อายุ
ภูมิลาเนาของผู้ถือบัตร เช่น ฝากเงินธนาคารในตอนเปิด-ปิด บัญชี การใช้สิทธิเลือกตั้ง การรับสมัครงาน
กรณีศึกษาที่ 5
ปัญหาที่ 1 ชาญกับขวัญรักใคร่ชอบพอกันมาก ชาญอายุ18 ปี ขวัญอายุ 17 ปีบริบูรณ์ ทั้งสองทางานร้านอาหาร พอเก็บเงินได้จานวน
หนึ่ง ตั้งใจจะทาการสมรสกัน และเตรียมการติดต่อสถานที่จัดงานสมรส
ปัญหาที่ 2 นนท์อายุ 26 ปี และน้าอายุ20 ปี เป็นสามีภรรยากัน ทั้งสองคนไม่มีบุตรจึงไปขอเด็กชายต้อม อายุ10 ปี ซึ่งเป็นบุตรของ
น้อมและนิด
คาถาม
1. ชาญกับขวัญจะทาการสมรสกันได้หรือไม่
จะสมรสกันได้ก็ต่อเมื่อพ่อแม่ของทั้งสองฝุายให้ความยินยอม
2. การสมรสของชาญและขวัญจะสมบูรณ์นั้น จะต้องปฏิบัติอย่างไร
จะต้องจดทะเบียนสมรส
3. นนท์และน้าสามารถรับต้อมเป็นบุตรบุญธรรมได้หรือไม่ อธิบายเหตุผล
นนท์สามารถรับต้อมเป็นบุตรบุญธรรมได้ เพราะนนท์อายุไม่ต่ากว่า25 ปีบริบูรณ์ และมีอายุแก่กว่าต้อม
อย่างน้อย 15 ปี แต่น้าไม่สามารถรับต้อมเป็นบุตรบุญธรรมได้ เพราะอายุไม่ครบ25 ปีบริบูรณ์ และมีอายุแก่กว่า
ต้อมไม่ถึง 15 ปี
4. การที่นนท์จะรับต้อมเป็นบุตรบุญธรรมได้ตามกฎหมายนั้น จะต้องปฏิบัติอย่างไร
นนท์จะต้องได้รับการยินยอมจากคู่สมรส คือ น้า ก่อน และจะต้องจดทะเบียนรับต้อมเป็นบุตรบุญธรรม
- 5. ชื่อ.......................................................................................ชั้น ม.2/....... เลขที่.........
ใบงานที่ 1.2 เรื่อง กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับตนเองและครอบครัว
ตัวชี้วัดที่ ส 2.1 ม.2/1 อธิบายและปฏิบัติตนตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับตนเอง ครอบครัว ชุมชน และประเทศ
คาชี้แจง ให้นักเรียนอ่านกรณีศึกษา แล้วตอบคาถาม
กรณีศึกษาที่ 6
โชคมีภรรยาชื่อฝน จดทะเบียนสมรสกัน ทั้งสองมีบุตรชื่อ หนึ่งและสอง โชคมีพ่อชื่อเม่น มีแม่ชื่อนุ่ม ส่วนฝน
มีแม่ชื่อฟูา และมีพ่อชื่อหมอก ทั้งโชคและฝนทามาหากินร่วมกันจนสามารถซื้อที่ดินได้ 30 ไร่ ต่อมาโชคถึงแก่กรรม
คาถาม ใครเป็นผู้ได้ส่วนแบ่งที่ดิน และแบ่งกันอย่างไร
ฝนได้ที่ดินเป็นสินสมรสครึ่งหนึ่ง คือ 15 ไร่ และได้รับมรดก 1 ส่วน คือ 3 ไร่ รวมเป็น 18 ไร่ หนึ่ง สอง เม่น นุ่ม
ได้รับคนละส่วน คือ คนละ 3 ไร่
กรณีศึกษาที่ 7
แตง เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 คบกับรุ่นพี่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และมีความสัมพันธุ์เกินเลยกัน
จนกระทั่งตั้งครรภ์ แตงจะทาอย่างไรดีตามพระราชบัญญัติการปูองกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ.
2559 ระเบียบเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ พ.ร.บ. ฉบับนี้มีสาระสาคัญ อาทิ มาตรา 5
คาถาม
ตามพระราชบัญญัติการปูองกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. 2559 ระเบียบเพื่อปฏิบัติการ
ตามพระราชบัญญัตินี้ มาตรา 5 แตงมีสิทธิอย่างไร
แตงมีสิทธิตัดสินใจด้วยตนเอง และมีสิทธิได้รับข้อมูลข่าวสารและความรู้ ได้รับการบริการอนามัยการเจริญพันธุ์ ได้รับการ
รักษาความลับและความเป็นส่วนตัว ได้รับการจัดสวัสดิการสังคม อย่างเสมอภาคและไม่ถูกเลือกปฏิบัติ และได้รับสิทธิอื่นใดที่เป็นไป
เพื่อประโยชน์ตาม พ.ร.บ. นี้อย่างถูกต้อง ครบถ้วน และเพียงพอ
แตงมีสิทธิที่จะได้รับการศึกษาต่อหรือไม่ อย่างไร
แตงมีสิทธิที่จะได้รับการศึกษาต่อตาม มาตรา 6 ให้สถานศึกษาดาเนินการปูองกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น โดย
(1) จัดให้มีการเรียนการสอนเรื่องเพศวิถีศึกษาให้เหมาะสมกับช่วงวัยของนักเรียนหรือนักศึกษา (2) จัดหาและพัฒนาครูผู้สอนให้
สามารถสอนเพศวิถีศึกษาและให้คาปรึกษาในเรื่องการปูองกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นแก่นักเรียนหรือนักศึกษา (3) จัด
ให้มีระบบการดูแล ช่วยเหลือ และคุ้มครองนักเรียนหรือนักศึกษาซึ่งตั้งครรภ์ให้ได้รับการศึกษาด้วยรูปแบบที่เหมาะสมและต่อเนื่อง
รวมทั้งจัดให้มีระบบการส่งต่อให้ได้รับบริการอนามัยการเจริญพันธุ์และการจัดสวัสดิการสังคมอย่างเหมาะสม
แตงมีสิทธิได้รับความช่วยเหลือจากท้องถิ่น อย่างไรบ้าง
แตงมีสิทธิได้รับสวัดิการ มาตรา 9 ข้อ (3) จัดให้มีการฝึกอาชีพตามความสนใจและความถนัดแก่วัยรุ่นที่ตั้งครรภ์ก่อนและ
หลังคลอดที่ประสงค์จะเข้ารับฝึกอาชีพ และประสานงานเพื่อจัดหางานให้ได้ประกอบอาชีพตามความเหมาะสม (4) จัดหาครอบครัว
ทดแทนในกรณีที่วัยรุ่นไม่สามารถเลี้ยงดูบุตรด้วยตนเองได้ (5) การจัดสวัสดิการสังคมในด้านอื่น ๆ เพื่อส่งเสริมการปูองกันและแก้ไข
ปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น
กรณีศึกษาที่ 8
โย ติดตามข่าวสารข้อมูลจากชมรมคนรักแมว และขอแมวมาเลี้ยงทุกวัน เมื่อแมวมาอยู่ร่วมกันมากๆ จึงมี
การทะเลาะกัน กัดกัน จนโยทนไม่ได้ จากนั้นจึงทุบตีและนาไปฆ่าทิ้งบ้าง
คาถาม
โย กระทาได้หรือไม่ เพราะเหตุใด
ทาไม่ได้เพราะผิด พ.ร.บ.ปูองกันการทารุณกรรมสัตว์ มีผลบังคับใช้แล้ว 27 ธ.ค. 2557 ผู้ที่กระทาการอันเป็นการทารุณ
กรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันสมควร ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจาทั้งปรับ
- 6. ชื่อ.......................................................................................ชั้น ม.2/....... เลขที่.........
ใบงานที่ 2 เรื่อง กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับชุมชนและประเทศชาติ
ตัวชี้วัดที่ ส 2.1 ม.2/1 อธิบายและปฏิบัติตนตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับตนเอง ครอบครัว ชุมชน และประเทศ
ตอนที่ 1 คาชี้แจง ให้นักเรียนตอบคาถามต่อไปนี้
1.ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา คือใคร
1) บุคคลธรรมดา
2) ห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล
3) กองมรดกที่ยังไม่ได้แบ่ง
2.การคานวณเงินได้สุทธิ สามารถทาได้อย่างไร
เงินได้พึงประเมินหักด้วยค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน
3.ผู้มีเงินได้ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ภายในกาหนดเวลาใดของทุกปี
ภายในวันที่ 31 มีนาคม ของทุกปี ถัดจากปีที่มีรายได้
4.การชาระภาษี สามารถชาระได้ที่ใดบ้าง
สานักงานสรรพากรพื้นที่สาขา ธนาคารพาณิชย์ไทย ตามหลักเกณฑ์ที่กาหนด
5.การปฏิบัติตนตามกฎหมายภาษีอากร มีผลดีต่อสังคมและประเทศชาติอย่างไร
รัฐบาลสามารถนาไปใช้ในการพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าในด้านต่างๆ เช่น การคมนาคม สาธารณูปโภค
ด้านสาธารณสุข ด้านการศึกษา ความมั่นคงของประเทศ เป็นต้น
ตอนที่ 2 คาชี้แจง ให้นักเรียนอ่านกรณีศึกษา แล้วตอบคาถาม
กรณีศึกษาที่ 1
บริษัทไทยเจริญ เป็นบริษัทที่ผลิตเสื้อผ้าสาเร็จรูปไปจาหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ผู้จัดการของบริษัทได้ให้ลูกจ้างทุกคน
ลงชื่อปฏิบัติงานก่อนเวลา 8.00 น. ถึงเวลา 17.00 น. ถ้าใครมาสายจะถูกหักเงินชั่วโมงละ 30 บาท
ลูกจ้างชายสามารถมีวันหยุด 2 วันต่อสัปดาห์ แต่ถ้าลูกจ้างหญิงจะมีวันหยุด 1 วันต่อสัปดาห์ เวลากลางวันให้ลูกจ้างทุกคนพักผ่อน
ได้วันละ 1 ชั่วโมง ประกาศให้วันสงกรานต์ วันขึ้นปีใหม่ วันแรงงานแห่งชาติ เป็นวันหยุดประจาปี และให้หยุดพักผ่อนได้ปีละ 15 วัน ให้ลา
ปุวยได้เท่าที่ปุวยจริง
คาถาม
1. ในกรณีศึกษานี้แสดงว่า นายจ้างปฏิบัติตนตามบทบัญญัติของกฎหมายคุ้มครองแรงงานในเรื่องใด
1) ลูกจ้างทุกคน ทางานวันละ 8 ชั่วโมง
2) ลูกจ้างทุกคนมีเวลาพักระหว่างการทางาน วันละไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง
3) ประกาศกาหนดวันหยุดตามประเพณีให้ลูกจ้างทราบ
4) ลูกจ้างซึ่งทางานติดต่อกันครบ 1 ปี มีสิทธิหยุดพักผ่อนประจาปีได้ไม่น้อยกว่า 6 วันทางานต่อปี
2. การกระทาของบริษัทในข้อใดไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติของกฎหมายคุ้มครองแรงงาน
การที่บริษัทให้ลูกจ้างชายมีวันหยุด 2 วันต่อสัปดาห์ แต่ลูกจ้างหญิงจะมีวันหยุด 1 วันต่อสัปดาห์ แสดงถึงการปฏิบัติไม่
เท่าเทียมกัน
กรณีศึกษาที่ 2
โรงงานผลิตตุ๊กตาได้ผลิตตุ๊กตาออกจาหน่ายมีรายได้ให้แก่โรงงานปีละมากๆ คนงานของโรงงานส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก เพราะ
ค่าแรงจะราคาถูก เด็กส่วนใหญ่จะอายุประมาณ 16 ปี เวลาทางานเริ่มตั้งแต่ 8.00 น. – 17.00 น. บางครั้งต้องผลิตตุ๊กตาจานวนมากใน
เวลาจากัด เพราะผู้บริโภคต้องการสินค้าด่วน จึงต้องให้ลูกจ้างทุกคนทางานล่วงเวลาถึง 23.00 น. และทางานในวันอาทิตย์ ดวงตาเป็นสตรี
ท้องแก่ใกล้คลอด ค่อนข้างเหนื่อยมากที่ต้องทางานในวันหยุดจึงไปบอกต่อผู้จัดการฝุายผลิตตุ๊กตา ขอไม่ทางานในวันหยุด ดังนั้นทาง
ผู้จัดการจึงเลิกจ้างดวงตา เพราะการตั้งครรภ์ทาให้ทางานได้ไม่เต็มที่
คาถาม
1. โรงงานผลิตตุ๊กตาปฏิบัติตามบทบัญญัติของกฎหมายแรงงานเกี่ยวกับการว่าจ้างแรงงานเด็กและ แรงงานหญิงอย่างไร
1) ให้ลูกจ้างทางาน วันละ 8 ชั่วโมงตามกฎหมาย
2) ใช้แรงงานเด็กอายุมากกว่า 15 ปี
2. โรงงานผลิตตุ๊กตาฝุาฝืนกฎหมายแรงงานในเรื่องใด
1) ใช้แรงงานเด็กอายุต่ากว่า 18 ปี ทางานในวันหยุด และทางานล่วงเวลา ระหว่าง 22.00 น.- 06.00 น.
2) ใช้แรงงานสตรีมีครรภ์ทางานในวันหยุด และทางานล่วงเวลา ระหว่าง 22.00 น.- 06.00 น.
3) เลิกจ้างคนงานหญิงเพราะเหตุมีครรภ์
- 7. ชื่อ.......................................................................................ชั้น ม.2/....... เลขที่.........
ใบงานที่ 2.1 เรื่อง กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับชุมชนและประเทศชาติ
ตัวชี้วัดที่ ส 2.1 ม.2/1 อธิบายและปฏิบัติตนตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับตนเอง ครอบครัว ชุมชน และประเทศ
ตอนที่ 2 คาชี้แจง ให้นักเรียนอ่านกรณีศึกษา แล้วตอบคาถาม
ตอนที่ 3 คาชี้แจง ให้นักเรียนตอบคาถามต่อไปนี้
1. บุคคลที่หลีกเลี่ยงไม่ไปลงบัญชีทหารกองเกิน จะต้องได้รับโทษเช่นไร
บุคคลที่หลีกเลี่ยงไม่ไปลงบัญชีทหารกองเกินต้องระวางโทษจาคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 300 บาท หรือทั้งจา
ทั้งปรับ
2. ผู้ใดบ้างที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องมาตรวจเลือกเข้ารับราชการทหารกองประจาการ
1. พระภิกษุ สามเณร และนักบวชในพระพุทธศาสนาที่กร ะทรวงศึกษาธิการรับรอง 2. นักบวชศาสนาอื่น 3. นักเรียน
โรงเรียนเตรียมทหาร 4. ครูประจาซึ่งทาการสอนหนังสือวิชาการต่างๆ 5. นักศึกษาของศูนย์กลางอบรมการศึกษาผู้ใหญ่
ของกระทรวงศึกษาธิการ 6. นักศึกษาของศูนย์ฝึกการบินพลเรือนของกระทรวงคมนาคม 7. บุคคลซึ่งได้สัญชาติ ไทยโดย
การแปลงสัญชาติ 8. บุคคลซึ่งได้รับโทษจาคุกโดยคาพิพากษาถึงที่สุดให้จาคุกครั้งเดียวตั้งแต่สิบปีขึ้นไป หรือให้จาคุกหลาย
ครั้งรวมกันตั้งแต่สิบปีขึ้นไป
3. โทษของทหารกองหนุนที่หลีกเลี่ยงไม่เข้าไปรับการระดมพลหรือฝึกวิชาทหารคืออะไร
1. พระภิกษุ สามเณร และนักบวชในพระพุทธศาสนาที่กร ะทรวงศึกษาธิการรับรอง 2. นักบวชศาสนาอื่น 3. นักเรียน
โรงเรียนเตรียมทหาร 4. ครูประจาซึ่งทาการสอนหนังสือวิชาการต่างๆ 5. นักศึกษาของศูนย์กลางอบรมการศึกษาผู้ใหญ่
ของกระทรวงศึกษาธิการ 6. นักศึกษาของศูนย์ฝึกการบินพลเรือนของกระทรวงคมนาคม 7. บุคคลซึ่งได้สัญชาติ ไทยโดย
การแปลงสัญชาติ 8. บุคคลซึ่งได้รับโทษจาคุกโดยคาพิพากษาถึงที่สุดให้จาคุกครั้งเดียวตั้งแต่สิบปีขึ้นไป หรือให้จาคุกหลาย
ครั้งรวมกันตั้งแต่สิบปีขึ้นไป
4. การรับราชการทหารมีประโยชน์ต่อตนเองและประเทศชาติอย่างไร
1. พระภิกษุ สามเณร และนักบวชในพระพุทธศาสนาที่กร ะทรวงศึกษาธิการรับรอง 2. นักบวชศาสนาอื่น 3. นักเรียน
โรงเรียนเตรียมทหาร 4. ครูประจาซึ่งทาการสอนหนังสือวิชาการต่างๆ 5. นักศึกษาของศูนย์กลางอบรมการศึกษาผู้ใหญ่
ของกระทรวงศึกษาธิการ 6. นักศึกษาของศูนย์ฝึกการบินพลเรือนของกระทรวงคมนาคม 7. บุคคลซึ่งได้สัญชาติ ไทยโดย
การแปลงสัญชาติ 8. บุคคลซึ่งได้รับโทษจาคุกโดยคาพิพากษาถึงที่สุดให้จาคุกครั้งเดียวตั้งแต่สิบปีขึ้นไป หรือให้จาคุกหลาย
ครั้งรวมกันตั้งแต่สิบปีขึ้นไป
กรณีศึกษาที่ 3
เอกชัยเล่าให้ประเวศฟังว่า บริษัทไทยโก้ที่เขามีหุ้นส่วนอยู่นั้นได้รับอนุญาตให้เข้าไปทาเหมืองแร่ ในเขตปุาสงวน
แห่งชาติ ประเวศมีความสนใจจะเข้าไปทาการวิจัยเกี่ยวกับพันธุ์ไม้ในเขตปรับปรุงปุาสงวนแห่งชาติในบริเวณใกล้เคียงกับ
ที่บริษัทไทยโก้ทาเหมืองแร่
คาถาม
1. บริษัทไทยโก้เข้าไปทาเหมืองแร่ในเขตปุาสงวนนั้น จะต้องได้รับอนุญาตจากใครและจะขออนุญาต ภายในเวลาเท่าไร
ต้องได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช (โดยการอนุมัติจากรัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์) ได้รับอนุญาตคราวละไม่เกิน 10 ปี
2. ประเวศจะไปขออนุญาตทาการวิจัยในเขตปรับปรุงปุาสงวนแห่งชาตินั้น สามารถทาได้หรือไม่ อธิบายเหตุผล
ได้ เพราะเพื่อประโยชน์ในทางการศึกษาหรือวิจัยทางวิชาการ
- 8. ชื่อ.......................................................................................ชั้น ม.2/....... เลขที่.........
ใบงานที่ 3 เรื่อง กาเนิดอาเซียน วัตถุประสงค์ และกฎบัตรอาเซียน
ผลการเรียนรู้ ข้อ 1 อธิบายเกี่ยวกับการก่อตั้งอาเซียนและวัตถุประสงค์ในการก่อตั้งอาเซียน
ข้อ 2 วิเคราะห์สาระสาคัญของกฎบัตรอาเซียน โครงสร้างและกลไกการดาเนินงานของอาเซียน
ตอนที่ 1 คาชี้แจง ให้นักเรียนตอบคาถามต่อไปนี้
1. สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน (Association of South East Asian Nations : ASEAN)
จัดตั้งขึ้นโดยข้อตกลงใด
ปฏิญญากรุงเทพฯ (Bangkok Declaration) หรือปฏิญญาอาเซียน (ASEAN Declaration)
2. การร่วมมือกันเป็นประชาคมอาเซียนนั้น มีวัตถุประสงค์สาคัญอย่างไรบ้าง
เพื่อส่งเสริมสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค ประสานความร่วมมือในการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ สังคม และ
วัฒนธรรมในภูมิภาค ช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการฝึกอบรมและวิจัยในด้านการศึกษา วิชาชีพ วิชาการ และการบริหาร
และความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดกับองค์การระหว่างประเทศในส่วนภูมิภาค
3. ปัญหาสาคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก่อนตั้งอาเซียน คืออะไร
1. การถูกกีดกันทางการค้าอย่างรุนแรง
2. การตกเป็นอาณานิคมของประเทศทางตะวันตก)
4. กฎบัตรอาเซียน มีความสาคัญอย่างไร
เป็นการยืนยันฐานะของอาเซียนให้เป็นองค์การระหว่างประเทศและเป็นที่ยอมรับในเวทีระหว่างประเทศ
ตอนที่ 2 คาชี้แจง ให้นักเรียนวิเคราะห์ข่าวแล้วตอบคาถามต่อไปนี้
1. ข่าวนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร
การค้าและข้อพิพาทในทะเลจีนใต้
2. การดาเนินงานต่างๆ ในข่าวนี้สอดคล้องกับกฎบัตรอาเซียนหมวดใด ในประเด็นใด
หมวด 4 ที่ประชุมสุดยอดอาเซียน
3. นักเรียนคิดว่า การประชุมครั้งนี้จะส่งผลดีต่ออาเซียนอย่างไร จงอธิบาย
(พิจารณาตามคาตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ในดุลยพินิจของครูผู้สอน)
ข่าวที่ 1
“อาเซียนซัมมิท” เริ่มประชุมวันนี้ ที่บรูไน ถก “การค้าเสรี”
24 เม.ย. 56 ผู้นาประเทศอาเซียนเตรียมเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน วันนี้ที่ประเทศบรูไน คาดวาระการประชุมเป็นเรื่อง
การค้า และปัญหาข้อพิพาทในทะเลจีนใต้
การประชุมสุดยอดผู้นาอาเซียน หรือ “อาเซียนซัมมิท” ครั้งที่ 22 ในปีนี้จัดขึ้นที่บันดาร์เสรีเบกาวัน ประเทศบรูไน เป็นเวลา 2
วัน โดยวาระการประชุมคาดว่า จะหารือถึงความตกลงพันธมิตรทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรือRegional Comprehensive
Economic Partnership ซึ่งเป็นกรอบความร่วมมือการค้าเสรีขนาดใหญ่ เพื่อรองรับการเปิดประชาคมอาเซียนในอีก2 ปี ข้างหน้า โดย
ความร่วมมือการค้าดังกล่าวจะมีประเทศนอกภูมิภาคเข้าร่วมด้วย อาทิ ออสเตรเลีย จีน อินเดีย ญี่ปุุน นิวซีแลนด์ และเกาหลีใต้
นอกจากนี้ที่ประชุมยังเตรียมหารือถึงปัญหาข้อพิพาทในทะลจีนใต้ ที่มีหลายประเทศสมาชิกอาเซียนเกี่ยวข้องเช่น เวียดนาม
ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย บรูไน และไต้หวัน โดยหลายฝุายเชื่อว่า บรูไนในฐานะประธานอาเซียนปีนี้ เตรียมนาเรื่อง การลงนาม Code of
Conduct หรือ หลักปฎิบัติที่มีผลผูกมัดมาหารือเพื่อยุติปัญดังกล่าว แม้กัมพูชาชาติพันธมิตรที่ใกล้ชิดกับจีน อาจคัดค้านก็ตาม
สาหรับการประชุมครั้งนี้ ผู้นามาเลเซียไม่ได้เดินทางเข้าร่วมด้วยเนื่องจากติดการหาเสียงเลือกตั้งครั้งใหญ่ แต่ส่งเจ้าหน้าที่
ระดับสูงเข้าร่วมประชุมแทน
ที่มา : http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1366766127&grpid=03&catid=03