1. 4.6 โมเมนต์ (Moment)
โมเมนต์ คือ ผลหมุนของวัตถุมีขนาดเท่ากับ ผลคูณของแรงกับการขจัดจากจุดหมุนตั้งฉาก
กับแนวแรง เป็นปริมาณเวกเตอร์ มีทั้งขนาดและทิศทาง หน่วยของโมเมนต์คือนิวตันต่อตารางเมตร
ทิศทางของโมเมนต์ได้แก่ ทิศการเคลื่อนที่ของตะปูเกลียวนั่นเอง
การหาโมเมนต์ แยกพิจารณาได้ 2 แบบ คือ
4.6.1โมเมนต์เนื่องจากแรงใดๆ โดยทั่วไปการหาโมเมนต์เนื่องจากแรงใดๆ เรา
มักจะแตกแรงให้ตั้งฉากกับแนวคานที่กระทา ดังตัวอย่างในรูป ต้องการหาโมเมนต์รอบจุด O อัน
เนื่องจากแรง P กระทากับประแจเลื่อน
วิธีทา แตกแรง P ให้อยู่ในแนวราบและแนวดิ่ง
ดังนั้น ผลรวมโมเมนต์รอบจุด O จะได้
M O
= (Pcos)l + (Psin)O
M O = Plcos
มีทิศพุ่งเข้ากระดาษ
4.6.2โมเมนต์เนื่องจากแรงคู่ควบ โมเมนต์เนื่องจากแรงคู่ควบมีค่าเท่ากับผลคูณของ
แรงกับการขจัด ตั้งฉากระหว่างแนวแรงทั้งสอง
กาหนดให้คาน AB ยาว l ถูกกระทาด้วยแรงคู่ควบ P ต้องการหาโมเมนต์เนื่องจากแรงคู่ควบ
ถ้าจุด O เป็นจุดที่อยู่ระหว่าง AB จะได้
M O = P(AO) + P(OB)
M O = P(AO+OB) = P.AB = P.l
2. มีทิศทวนเข็มนาฬิกา
นั่นคือ โมเมนต์แรงคู่ควบมีค่าเท่ากับแรงคูณด้วยการขจัดตั้งฉากระหว่างแนวแรงทั้งสอง
ถ้าจุด O เป็นจุดที่อยู่ภายนอก AB จะได้
M O
= P(OB) - P(AO)
M O
= P(OA+AB) - P(AO)
= P.AB = P.l
มีทิศทวนเข็มนาฬิกา
แสดงว่าโมเมนต์แรงคู่ควบมีค่าเท่ากับแรงคูณด้วย การขจัดตั้งฉากระหว่างแนวแรงทั้งสอง
ดังนั้นโมเมนต์จากแรงคู่ควบจึงเป็นโมเมนต์รอบจุดใดๆ ก็ได้ย่อมมีค่าเท่ากับแรงคูณด้วย
การขจัดระหว่างแนวแรงทั้งสอง
4.7สมดุลต่อการหมุน
คือ สภาวะการไม่หมุนของวัตถุ ณ สภาวะนี้โมเมนต์ของวัตถุจะต้องมีค่าเท่ากับศูนย์
สภาพสมดุล สภาพสมดุลที่สมบูรณ์ของวัตถุใด ๆ จะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อวัตถุนั้นจะต้องไม่
เคลื่อนที่และไม่หมุน ดังนั้นวัตถุจะอยู่ในสภาวะสมดุลที่สมบูรณ์ได้ต่อมื่อเงื่อนไขของแรงและ
โมเมนต์จะเป็นศูนย์ ( F = 0, M = 0)
4.8การคานวณสมดุลต่อการหมุนและการเคลื่อนที่
โดยทั่วไปการสมดุลของโจทย์ในลักษณะนี้มักจะเป็นการสมดุลของระบบที่มีแนวแรงตัด
กันหลายจุด หรือเป็นการสมดุลของระบบที่ถูกกระทาด้วยแรงคู่ควบ การคานวณโจทย์ลักษณะนี้
ต้องใช้สมการคานวณ 3 สมการ คือ M = 0, F = 0 , F = 0 มีขั้นตอนการคานวณดังนี้
x y
1.หยิบวัตถุที่ต้องการหาแรงออกมาเขียนแรงกระทาต่างๆ ให้ครบ
2.เลือก take moment รอบจุดที่ไม่ทราบค่าแรงมากที่สุดเสียก่อน
3.คานวณหาค่าที่ต้องการจากสมการ F = 0 และ F = 0
x y
4.ต้องการหาแรงปฏิกิริยาที่ใดให้รวมกันแบบ เวกเตอร์ได้
ขนาดของแรง R = R R 2
x
2
y
3. R
ทิศทาง tan = y
R x
ตัวอย่างที่ 40 AC เป็นท่อนไม้ท่อนหนึ่งโตเท่ากันตลอดหนัก 30 กก. ที่ปลาย A มีบานพับยึดไม้ AC
นี้อยู่ในระดับนอนและที่ปลาย C มีลวดทามุม 600 กับไม้ ให้หาแรงดึงในลวดและแรงปฏิกิริยาของ
บานพับ
วิธีทา เขียนแรงกระทาทั้งหมดที่คาน AC
เพราะจุด A มีแรงที่ไม่ทราบค่ามากที่สุด ดังนั้น Take โมเมนต์ที่ A
MA = 0 จะได้ (Tsin600)AC = 300 x AC
2
T 3
= 300
2 2
T = 173.2 นิวตัน
จาก F = 0 จะได้
x RX = Tcos600
และ Fy = 0 จะได้ Tsin600 + R y = 300
T 3
+ R y = 300
2
173 . 2 3
+ Ry = 300
2
Ry = 150
RA = Rx R
2 2
y = 150
2
86 . 6
2
= 173.2 นิวตัน ตอบ
ตัวอย่างที่ 41 ตามรูป xy เป็นแท่งไม้ยาว L มีขนาดสม่าเสมอและมีมวล m กรัม ปลายคานในยัน
กาแพงซึ่งมีสัมประสิทธิ์ความเสียดทาน ไว้เฉยๆ ในแนวตั้งได้ฉากกับกาแพงโดยการผูกปลาย
ด้านนอกไว้ด้วยเชือก y จงหามุม อย่างเล็กสุด ที่ทาให้อยู่ในสมดุลได้พอดี
5. ตัวอย่างที่ 43 ถังหนักใบหนึ่งกว้าง 1 เมตร วางตั้ งบนพื้นระดับไม้คานเบายาว 3 เมตร ปลายบนมี
น้าหนักก้อนหนึ่งแขวนไว้ เมื่อคานอยู่ในภาวะสมดุล จงหามุมที่ไม้คานกระทากับแนวระดับ สมมติ
แรงเสียดทานที่คานกระทากับถังน้อยมาก
วิธีทา เขียนแรงที่คาน
MA = 0 จะได้ R C( 1
) = (Wcos)3
cos
RC = 3Wcos2 ………….. (1)
Fy = 0 จะได้RCcos = W ………….. (2)
(2) / (1) cos = W
2
3 W cos
cos3 = 1
3
cos = 3
1
3
= cos-1 3
1
ตอบ
3
ตัวอย่างที่ 44 คานสม่าเสมอ AB ยาว 4 ฟุต หนัก 10 กก. ปลาย A ติดบานพับกับกาแพงที่จุด C
เหนือจุด A 4 ฟุต มีมวลดึงคานให้อยู่ในแนวระดับที่จุดซึ่งห่างจากจุด A เป็นระยะ 3 ฟุต ดังรูปมีก้อน
น้าหนัก 10 กก. ผูกที่ปลาย B จงหาแรงตึงในเชือกและแรงปฏิกิริยาที่ A
6. วิธีทา เขียนแรงที่กระทาที่คาน AB
MA = 0
3Tsin = (100 x 4) + (100 x 2)
3Tx 4
= 600
5
T = 250 นิวตัน
Fx = 0 จะได้ HA = Tcos = 250 x 3
= 150 นิวตัน
5
Fy = 0 จะได้ VA + Tsin = 100 + 100
VA + (250 x 4 ) = 200
5
VA = 0
RA = VA H A
2 2
= 0 HA
2
RA = HA = 150 นิวตัน
ตัวอย่างที่ 45 รถบรรทุก 10 ล้อ มีการกระจายน้าหนักที่เพลาดังแสดงในรูป แรงปฏิกิริยาของตอม่อ
B จะมีค่าเท่ากับ
วิธีทา เขียนแรงกระทาที่คาน AB
หาแรงที่ตอม่อ B จาก M = 0 จะได้ A
20RB = 2 x 10 + 10 x 15 + 10 x 16
= 20 + 150 + 160
RB = 33
นิวตัน ตอบ
2
7. ตัวอย่างที่ 46 คาน ขค ยึดรั้งไว้ด้วยลวด กค คานวณหาแรงตึงในลวด กค เมื่อมีแรงกระทาใน
แนวดิ่งที่จุด ค P = 200 กิโลกรัม
วิธีทา พิจารณาแรงที่คาน ขค
M A = 0 จะได้
(Tsin300)L = 200 x L
T
= 200
2
T = 400 kg.
ตัวอย่างที่ 47 จากรูปที่กาหนดให้ จะต้องออกแรง F เท่าใดเพื่อที่จะยกรถเขนทรายที่บรรทุกทราย
หนัก 700 นิวตัน โดยตาแหน่งของน้าหนักปรากฏดังรูป ให้ตอบในเทอมของ a และ b
วิธีทา เขียนแรงกระทาที่รถ
จากรูป M = 0 จะได้
B
F(a + b) = 700b
F = 700 b
ab
8. ตัวอย่างที่ 48 คานสม่าเสมอยาว 8 เมตร หนัก 500 นิวตัน อยู่ในแนวระดับ โดยผูกเชือกห่างจาก
ปลายที่ติดบานพับ 3 เมตร ดังรูป ชายคนหนึ่งหนัก 500 นิวตันเดินบนคาน ถ้าเชือกรับแรงดึงได้
เต็มที่ 2000 นิวตัน ชายคนนี้จะเดินไปได้ไกลเท่าใดจึงปลอดภัย
วิธีทา เขียนแรงที่กระทาที่คานดังรูป และให้คนเดินห่างจาก A = X
จากรูป M = 0 จะได้
A
500X + 500x 4 = (Tsin530)x 3
500X + 2000 = 2000 x 4
x3
5
X = 5.6 เมตร
ตัวอย่างที่ 49 ใช้แรง F ดึงปลายเชือกที่พันรอบทรงกระบอกอันหนึ่งเพื่อให้ทรงกระบอกอยู่นิ่ง
สัมผัสกับผนังแนวดิ่งได้ดังรูป ถ้า F ทามุม กับแนวระดับ จงหาสัมประสิทธิ์ของความเสียด
ทานสถิตที่น้อยที่สุดระหว่างทรงกระบอกกับผนังขณะนั้น
วิธีทา เขียนแรงที่เกิดกับทรงกระบอก
แตกแรง F ในแนวราบและดิ่ง
MO = 0 จะได้ F.r = Nr
F = N ……….. (1)
9. Fx = 0 จะได้Fcos = N …………. (2)
(1) / (2) 1
=
cos
= sec ตอบ
ตัวอย่างที่ 50 จงหาขนาดของแรง P ที่มากที่สุดที่กระทากับทรงกระบอกมวล m แล้วทรงกระบอก
ไม่หมุน กาหนดค่าสัมประสิทธิ์ของความเสียดทานทุกผิวสัมผัสเท่ากับ รัศมีของทรงกระบอก
ยาว R ค่านิจของความโน้มถ่วงของโลกเท่ากับ g
วิธีทา เขียนแรงกระทาที่ทรงกลม ถ้าทรงกลมหมุนมันจะหมุนทวยเข็มนาฬิกา ดังนั้นแรงเสียด
ทานมีทศตามเข็มนาฬิกา
จาก M = 0 จะได้ P x r = f1 x r + f2 x r
O
P = N1 + N2 ……….. (1)
F = 0 จะได้
x N2 = N1 ….……. (2)
F = 0 จะได้f2 + P + N1
y = mg
N1 + P + N1 = mg
แทนค่า N2 จะได้ (N1) + P + N1 = mg
N1(2 + 1) = mg - P
mg P
N1 =
1
2
( mg P )
แทนค่า (2) จะได้ N2 =
1
2
P ( mg P )
แทนค่า N1 และ N2 ใน (1) จะได้ P = mg + .
1 1
2 2
P (2+1) = mg - P + 2mg - 2P
P(22 + + 1) = mg( 1 + )
mg (1 )
P = ตอบ
2 1
2
10. ตัวอย่างที่ 51 จงหาขนาดของแรง P ที่จะดึงกล่องมวล 2000 นิวตัน ดังรูป ให้มีความเร่ง 1 เมตร/
วินาที2 เมื่อ P กระทาผ่านจุดศูนย์กลางมวล จงหาตาแหน่งของแรงกระทาตั้งฉากกับพื้นที่กระทา
ต่อวัตถุด้วย
วิธีทา เขียนแรงที่เกิดขึ้นกับกล่อง
F = ma
P - f = ma
P - mg = ma
P - (0.3 x 200 x 10) = 200x 1
P = 800 นิวตัน
M C .M = 0
N.x = f x 40
2000x = mg.40
= 0.3 x 200 x 10x 40
x = 12 cm
ตาแหน่งแรงกระทาตั้งฉากห่างจากขอบฐานด้านที่แรง P กระทาเป็นระยะ = 20 - 12 = 8 cm
4.9 จุดศูนย์กลางมวล (C.M) และจุดศูนย์ถ่วง(C.G)
จุดศูนย์กลางมวลของวัตถุ (C.M) คือ ตาแหน่งที่มวลรวมของวัตถุอยู่ซึ่งจุดนี้อาจจะอยู่ใน
หรือนอกวัตถุก็ได้
จุดศูนย์ถ่วงของวัตถุ (C.G) คือ ตาแหน่งที่น้าหนักรวมของวัตถุอยู่ ซึ่งจุดนี้ อาจจะอยู่ใน
หรือนอกวัตถุก็ได้
โดยทั่วไป ถ้าวัตถุมีความสูงไม่มากนักจุด C.G และจุด C.M จะอยู่ที่ตาแหน่งเดียวกัน และ
ถ้าวัตถุมีความสูงมากๆ จุด C.M และจุด C.G จะอยู่คนละจุด โดย C.G จะอยู่ตาแหน่งต่ากว่าจุด C.M
เสมอ เช่น จุด C.M และจุด C.G ของภูเขา เป็นต้น
จุด C.M หรือจุด C.G ของวัตถุรูปทรงเรขาที่ควรทราบ
13. จากรูป จะได้
m 1x1 m 2 x 2 m 3x 3
My = 0 จะได้ x =
m1 m 2 m 3
mx
=
m
m 1y1 m 2 y 2 m 3 y 3
Mx = 0 จะได้ y =
m1 m 2 m 3
my
=
m
ข้อสังเกต : เนื่องจากมวลวัตถุมีค่าแปรผันตามพื้นที่ของวัตถุ(A) ซึ่งเขียนเป็นความสัมพันธ์ได้
ดังนี้ m A หรือ m = kA ดังนั้นสมการของตาแหน่งจุด C.G เขียนใหม่ได้
mx Ax
x = =
m A
my Ay
y = =
m A
4.9.2 การพิจารณาเงื่อนไขการล้มของวัตถุ
วัตถุจะล้มก็ต่อเมื่อแนวน้าหนักของวัตถุตกผ่านขอบฐานดังรูป
ถ้าวัตถุอยู่ดังรูปที่ 1. และ 2. วัตถุจะยังไม่ล้มเพราะแนวน้าหนักวัตถุอยู่ในฐาน
ถ้าวัตถุอยู่ดังรูปที่ 3 วัตถุสมดุลครั้งสุดท้าย ถ้าแนวน้า หนักเลยตาแหน่งนี้ออกไปแม้เพียง
เล็กน้อยจะล้มทันที
ถ้าวัตถุอยู่ดังรูปที่ 4 วัตถุจะล้มทันที
ดังนั้นการคานวณ ถ้าวัตถุอยู่ในตาแหน่งที่พอดีล้ม แสดงว่าน้าหนักตกผ่านขอบฐานพอดี
21. จะได้ f = mgsin
mgcos = mgsin
= tan
มุมพื้นเอียงจะได้ tan = = 0.45 ตอบ
ข.ถ้าวัตถุล้มแสดงว่าแนวน้าหนักตกที่มุมฐานพอดี ดังรูป
จากรูปจะได้ tan = 5
= 0.5
10
ดังนั้นมุมพื้นเอียง tan = 0.5
ค.จากกรณีข้างบนแสดงว่าวัตถุไถลลงก่อนที่จะล้ม
ตัวอย่างที่ 59 โต๊ะจัตุรัสตัวหนึ่งมี 4 ขา อยู่ที่กึ่งกลางของด้านทั้ง 4 ตามลาดับ จงหาน้าหนักที่มาก
ที่สุดที่จะเอามาวางที่มุมมุมหนึ่ง เพื่อทาให้โต๊ะตัวนั้นยังไม่ล้ม
วิธีทา โต๊ะล้มก็ต่อเมื่อแนวน้าหนักรวมตกอยู่ที่ฐานพอดี
ให้ออกแรงกดโต๊ะที่มุม F = X
MG = 0
X x GF = W x GE
X = W ( GF = GE)
ต้องออกแรงกดโต๊ะมากที่สุดเท่ากับน้าหนักโต๊ะ
ตัวอย่างที่ 60 มีอิฐอยู่จานวนหนึ่งทุกก้อนเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมและมีขนาดเท่าๆ กัน ซึ่งกว้าง 4 นิ้ว ยาว
8 นิ้ว ถ้านาอิฐเหล่านี้มาวางซ้อนกันให้ด้านข้างเสมอกัน แต่เหลื่อมกันทางด้านยาวแผ่นละ 1 นิ้ว ให้
หาว่าจะเรียงก้อนอิฐเหล่านี้ให้ซ้อนกันได้อย่างมากกี่แผ่น จึงจะล้มพอดี
22. วิธีทา ให้น้าหนักของอิฐแต่ละแผ่น = W
ให้เรียงอิฐ = n แผ่น (ไม่คิดแผ่นล่าง)
ให้อิฐยาว = L และเหลี่ยมกัน = x
อิฐจะไม่ล้มเมื่อน้าหนักอิฐรวมตั้งแต่แผ่นที่ 2 เป็นต้นไปตกอยู่ที่จุด B
MA = 0 จะได้
L(nW) = W( L + x) + W( L + 2x)+ ….. + W( L + nx)
2 2 2
nL = nL
+ (x + 2x + 3x +….+ nx)
2
nL
= x n (1+n)
2 2
L = x (1+ n)
n = L
-1
x
L = 8 นิ้ว, x = 1 นิ้ว ; n = 8
1 = 7
1
เพราะฉะนั้นจานวนแผ่นอิฐทั้งหมดเท่ากับ 7 + 1 = 8 แผ่น
4.11ตัวอย่างการใช้หลักสมดุล
หลักสมดุลของแรงและโมเมนต์นั้นมีอยู่มากมายในชีวิตประจาวัน เช่น ใช้กับเครื่องผ่อน
แรงชนิดต่างๆ ได้แก่ ไขควง คีมตัดลวด กว้าน ระบบรอก คานงัด เป็นต้น
การผ่อนแรงของเครื่องมือชนิดต่างๆ แยกพิจารณาได้ดังนี้
คีมตัดลวด
ให้ F1 คือ แรงที่กระทากับด้ามจับของคีมตัดลวด
F2 คือ แรงที่ลวดกระทากับคีม ณ จุดที่คีมตัดลวด
พิจารณาแรงที่รูป ข. จะได้
MO = 0
23. F1.D = F2.d
F2
= D
F1 d
กรณีไขควง
ให้ F1 คือ แรงที่กระทากับด้ามของไขควง และ R คือรัศมีของด้ามไขควง
F2 คือ เป็นแรงที่ตะปูควงทากับปลายไขควง และ r คือรัศมีของปลายไขควง
พิจารณาแรงที่รูป ข. จะได้
MO = 0
F1(2R) = F2(2r)
F2
= R
F1 r
อัตราส่วนระหว่าง F2
ในคีมตัดลวด และไขควงเรียกว่า การได้เปรียบเชิงกล
F1
24. การผ่อนแรงของกว้าน
ให้ออกแรง F ที่แขนของกว้านเพื่อยกน้าหนัก W
แขนของกว้านยาว l และรัศมีของเพลาเท่ากับ r
จากรูป ข. จะได้
MO = 0
W. r = F . l
W
= l
F r
อัตราส่วนระหว่าง W
เรียกว่า การได้เปรียบเชิงกล
F
ตัวอย่างที่ 61 มีดควั่นอ้อยอันหนึ่ง มีด้ามจับห่างจากจุดหมุน 25 เซนติเมตร ตา แหน่งที่วางอ้อยห่าง
จากจุดหมุน 5 เซนติเมตร ถ้าอ้อยแต่ละท่อนต้องใช้แรงตัด 30 นิวตัน เราต้องใช้แรงกดที่มีด
ควั่นอ้อยน้อยที่สุดเท่าไรจึงจะทาให้อ้อยขาดพอดี (ไม่คิดน้าหนักของตัวมีด)
25. วิธีทา พิจารณาแรงที่รูป ข.
MO = 0
F x 25 = 30 x 5
F = 30 x 5
= 6 นิวตัน
25
ตัวอย่างที่ 62 กว้านดังรูปมีแขนหมุน 2 ฟุต ถ้าไม่คิดความเสียดทาน การได้เปรียบเชิงกลจะเป็น
เท่าใดถ้าออกแรง 50 นิวตัน ยกน้าหนักได้จริง 150 นิวตัน ประสิทธิภาพเป็นเท่าใด ?
วิธีทา การได้เปรียบเชิงกล = l
= 2
= 8 เท่า
r 0 . 25
หาน้าหนักที่ควรจะยกได้จาก M O = 0
จากรูป W.r = F.l
W x 0.25 = 50 x 2
W = 400
กว้านดังรูป ควรจะยกน้าหนักได้ = 400 นิวตัน
แต่กว้านนี้ยกน้าหนักได้เพียง = 150 นิวตัน
ดังนั้นประสิทธิภาพ = 150
x 100 = 37.5 %
400
*****************************************************************************