SlideShare a Scribd company logo
1 of 20
Download to read offline
37
บทที่ 3
แหล่งเรียนรู้ในชุมชน
แหล่งเรียนรู้ในชุมชนมีบทบาทสาคัญในการจัดการศึกษา ซึ่งเป็นขุมพลังทาให้เกิดการ
ขับเคลื่อนในสังคมแห่งการเรียนรู้ยุคปฏิรูปการศึกษา โดยสอดคล้องกับแนวการจัดการศึกษาตาม
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2545 หมวดที่ 4 มาตรา
2 กล่าวว่า การจัดการเรียนรู้ในห้องเรียนอย่างเดียวไม่เพียงพอ การสร้างบรรยากาศสภาพแวดล้อมที่
เอื้อต่อการเรียนรู้ให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ทุกเวลา การส่งเสริมการดาเนินงานและการจัดตั้งแหล่ง
เรียนรู้ตลอดชีวิตทุกรูปแบบและหลากหลาย ได้แก่ ห้องสมุดประชาชน พิพิธภัณฑ์ หอศิลป์
สวนสาธารณะ สวนสัตว์ สวนพฤกษศาสตร์ อุทยานแห่งชาติและเทคโนโลยี ศูนย์กีฬาและ
นันทนาการ แหล่งข้อมูลและแหล่งเรียนรู้อื่นอย่างพอเพียงและมีประสิทธิภาพ อันเป็นแนวทาง
ปฏิบัติที่สาคัญและจาเป็นที่จะช่วยให้การปฏิรูปการศึกษาสาเร็จได้ ดังนั้นการจัดการเรียนการสอน
เน้นส่งเสริมให้ผู้เรียนรู้จักค้นคว้าหาความรู้ด้วยตนเองโดยใช้แหล่งเรียนรู้ในชุมชนให้เกิดประโยชน์
โดยแหล่งเรียนรู้ในชุมชนจาแนกตามประเภทบุคคล ประเภททรัพยากรธรรมชาติ ประเภทสิ่งที่มนุษย์
สร้างขึ้น และประเภทกิจกรรมทางสังคม ประเพณีและความเชื่อ เพื่อส่งเสริมให้การเรียนการสอนมี
ประสิทธิภาพเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการจัดการศึกษา
ความหมายของแหล่งเรียนรู้ในชุมชน
แหล่งเรียนรู้ในชุมชน หรือแหล่งวิทยาการในชุมชน ซึ่งตรงกับคาภาษาอังกฤษว่า
Community resources หรือ Local resource โดยมีความหมายที่คล้ายคลึงกันดังนี้
เกษมสันติ์ ศรีคาแซง (2553 : 40) สรุปว่า แหล่งความรู้ในชุมชน หมายถึง สิ่งที่มีชีวิต
และไม่มีชีวิต ได้แก่ บุคคล สถานที่ สถาบันต่าง ๆ สิ่งของ ธรรมชาติแวดล้อม สภาพสังคม
เศรษฐกิจ การเมือง วัฒนธรรม และเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ผู้เรียนเข้าไปปฏิสัมพันธ์และเรียนรู้ได้ด้วย
ตนเองโดยประสบการณ์ตรง และได้ความรู้ใหม่ ๆ ที่มีคุณค่า สามารถนาไปใช้ประโยชน์ใน
ชีวิตประจาวันได้
38
ทวีป อภิสิทธิ์ (2554 : 67) กล่าวว่า แหล่งเรียนรู้จัดเป็นสถานที่ที่เพิ่มเติมความรู้และ
ประสบการณ์ให้แก่ผู้สนใจศึกษาเรียนรู้ตามความต้องการของผู้ใช้แต่ละคนที่แตกต่างกัน
ธาตรี สุภเสถียร (2552 : 12) สรุปไว้ว่า แหล่งการเรียนรู้ในชุมชน หมายถึง สิ่งที่มีอยู่
ในชุมชนที่มีคุณค่าต่อการศึกษาที่โรงเรียนสามารถนามาจัดการเรียนการสอนให้ผู้เรียนมีความรู้ตาม
จุดประสงค์ได้ ซึ่งได้แก่ แหล่งโบราณสถาน แหล่งโบราณวัตถุ สถานที่ทางราชการ บุคคลสาคัญ
ภูมิปัญญาท้องถิ่น ทรัพยากรธรรมชาติและขนบธรรมเนียมประเพณี
จากความหมายข้างต้น สรุปได้ว่า แหล่งเรียนรู้ในชุมชน คือ ทุกสิ่งทุกอย่างที่มีอยู่ใน
ชุมชน ไม่ว่าจะเป็นบุคคล สถานที่ สถาบัน องค์กร ตลอดจนทั้งวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่มนุษย์สร้าง
ขึ้น สิ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ตลอดจนวัฒนธรรม ประเพณี ความเชื่อที่จัดขึ้นในชุมชนที่มี
คุณค่าเป็นประโยชน์ต่อการเรียนการสอน เพื่อให้เกิดการเรียนรู้และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน
ระหว่างกลุ่มเพื่อน ระหว่างครูกับผู้เรียน ระหว่างวิทยากรประจาแหล่งการเรียนรู้กับครูและผู้เรียน
รวมทั้งเป็นแหล่งที่ผู้เรียนอาจอาศัยการสืบค้นของตนเองเพื่อแสวงหาความรู้เพิ่มเติมและเพิ่มพูน
ประสบการณ์ตรง และสามารถนาไปเป็นส่วนหนึ่งของการจัดกระบวนการเรียนรู้ เพื่อการพัฒนา
ความรู้ความสามารถของผู้เรียนได้
ความสาคัญของแหล่งเรียนรู้ในชุมชน
แหล่งเรียนรู้ในชุมชนมีความสาคัญ ดังนี้
ชุติมา ศิริวงศ์ (2551 : 17) กล่าวว่า การใช้แหล่งเรียนรู้ในชุมชนมีความสาคัญต่อการ
เรียนรู้ของผู้เรียนเป็นอย่างยิ่ง เพราะการได้รับประสบการณ์ตรงจากแหล่งเรียนรู้ในชุมชน จะทาให้
ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ และตระหนักถึงคุณค่าทรัพยากรที่มีอยู่ในท้องถิ่นของตน เป็นโอกาสที่ดีที่
ผู้เรียนได้รับความรู้เพิ่มเติมควบคู่กับการฝึกความสามารถในการเรียนรู้ต่าง ๆ อาทิ การสังเกต การ
ตั้งคาถาม การปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น ซึ่งความรู้ความเข้าใจ รวมถึงความสามารถที่ผู้เรียนได้รับจาก
กระบวนการเรียนรู้โดยใช้แหล่งเรียนรู้นั้น ล้วนเป็นสิ่งที่ผู้เรียนสามารถนาไปใช้ประโยชน์ใน
ชีวิตประจาวันได้ ทาให้ผู้เรียนเห็นคุณค่าของความรู้และความสามารถที่ตนได้เรียนรู้ ส่งผลให้ผู้เรียน
เกิดความรักและความเพลิดเพลินในการเรียนรู้มากยิ่งขึ้น
ดาริ บุญชู (2548 : 28) ได้กล่าวถึงความสาคัญของแหล่งการเรียนรู้ ไว้ดังนี้
39
1. เป็นแหล่งที่รวมขององค์ความรู้อันหลากหลาย พร้อมที่จะให้ผู้เรียนเข้าไปศึกษา
ค้นคว้าด้วยกระบวนการจัดการเรียนรู้ที่แตกต่างกันของแต่ละบุคคล และเป็นการส่งเสริมการเรียนรู้
ตลอดชีวิต
2. เป็นแหล่งเชื่อมโยงให้สถานศึกษาและชุมชนมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกัน ทาให้คนใน
ชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาแก่บุตรหลานของตน
3. เป็นแหล่งข้อมูลที่ทาให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อย่างมีความสุข เกิดความสนุกสนาน
และมีความสนใจที่จะเรียนรู้ ไม่เกิดความเบื่อหน่าย
4. ทาให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้จากการคิดได้เอง ปฏิบัติเองและสร้างความรู้ด้วยตนเอง
ขณะเดียวกันก็สามารถเข้าร่วมกิจกรรม และทางานร่วมกับผู้อื่นได้
5. ทาให้ผู้เรียนได้รับการปลูกฝังให้รู้และรักท้องถิ่นของตน มองเห็นคุณค่าและตระหนัก
ถึงปัญหาในชุมชนของตน พร้อมที่จะเป็นสมาชิกที่ดีของชุมชนทั้งในปัจจุบันและอนาคต
บรรเจิด มีกุล (2555 : 22) กล่าวถึง แหล่งเรียนรู้ในชุมชนว่ามีความสาคัญต่อการเรียน
การสอนเป็นอย่างมากเพราะทาให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ และสภาพชุมชนที่ตนอาศัยอยู่ได้อย่าง
แท้จริงเป็นการได้รับประสบการณ์ตรงอย่างแท้จริง ส่งผลให้การเรียนการสอนบรรลุตามจุดประสงค์
ตามที่ตั้งไว้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล
ประสิทธิ์ พิทักษ์คชวงค์ (2554 : 30) แหล่งการเรียนรู้ในชุมชนมีความสาคัญและจาเป็น
ต่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่ยึดเด็กเป็นศูนย์กลาง โดยเน้นการศึกษาหาความรู้สร้างองค์ความรู้ได้
ด้วยตนเอง จากสื่อและแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลายส่งเสริมการศึกษาตลอดชีวิตอย่างต่อเนื่อง โดย
อาศัยการบริหารจัดการที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพ
สรุปได้ว่า แหล่งเรียนรู้ในชุมชนมีความสาคัญเป็นแหล่งสร้างเสริมความรู้ ความคิด
แลกเปลี่ยนประสบการณ์ตรง หรือลงมือปฏิบัติได้จริง โดยอาศัยการมีปฏิสัมพันธ์เพื่อกระตุ้นให้เกิด
การเรียนรู้ การแสวงหาความรู้ด้วยตนเองตลอดเวลา และส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างคนใน
ท้องถิ่นกับผู้เข้าศึกษาในการทากิจกรรมร่วมกัน ช่วยสร้างความรู้สึกของการเป็นส่วนหนึ่งของการมี
ส่วนร่วม เกิดความตระหนักและเห็นคุณค่าของแหล่งเรียนรู้
40
ประเภทของแหล่งเรียนรู้ในชุมชน
แหล่งเรียนรู้ในชุมชนมีการจาแนกตามลักษณะ ออกเป็น 5 ประเภท ดังนี้
1. แหล่งเรียนรู้ในชุมชนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
แหล่งเรียนรู้ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติที่เป็นประสบการณ์ให้ผู้เรียนสามารถสร้างองค์
ความรู้ได้จากสภาพจริง เช่น ภูเขา ดิน ทุ่งนา ป่าไม้ แร่ธาตุ ทะเล เกาะ แม่น้า ลาคลอง น้าตก
อุทยานแห่งชาติ วนอุทยาน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า สวนพฤกษศาสตร์ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติ เป็นต้น
ได้กล่าวถึง (เกษม คาบุตดา. 2550 : 10-11 ; ดาริ บุญชู. 2548 : 28 ; ทวีป อภิสิทธิ์. 2554 :
41 ; สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. 2547 : 3-4 ; สุจิตรา ภักดีสงคราม. 2551 :
145)
1.1 อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไทยประกาศ
จัดตั้งเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2505 ตั้งอยู่บริเวณเทือกเขาพนมดงรักหรือบริเวณขอบทางด้านทิศ
ตะวันตกเฉียงใต้ของที่ราบสูงโคราช มีเนื้อที่ประมาณ 2,168 ตารางกิโลเมตร หรือ 1,355,396 ไร่
ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ มีอาณาเขตติดต่อกันถึง 11 อาเภอ 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัด
ปราจีนบุรี นครนายก นครราชสีมา และสระบุรี ได้รับสมญานามว่าเป็น “อุทยานมรดกของอาเซียน”
เป็นผืนป่าใหญ่ต้นกาเนิดของต้นน้าลาธารที่สาคัญหลายสาย เช่น แม่น้านครนายก และแม่น้ามูล
อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพันธุ์ไม้และสัตว์ป่านานาชนิด เช่น ช้างป่า กวางป่า เก้ง กระทิง เสือ ตลอดจนมี
ลักษณะทางธรรมชาติที่สวยงาม
41
ภาพที่ 3.1 เว็บไซต์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
ที่มา : สานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (ปราจีนบุรี). ออนไลน์. 2558.
1.2 อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ตั้งอยู่ตาบลเมืองเก่า อาเภอเมืองสุโขทัย จังหวัด
สุโขทัย บริเวณพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยครอบคลุมพื้นที่กว่า 70 ตารางกิโลเมตร ในอดีต
เมืองสุโขทัยเคยเป็นราชธานีของไทยมีความเจริญรุ่งเรือง เป็นศูนย์กลางการปกครอง ศาสนา และ
เศรษฐกิจ ภายในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย มีสถานที่สาคัญที่เป็นพระราชวัง ศาสนสถาน
โบราณสถานสาคัญที่น่าชมมากมาย เช่น วัดมหาธาตุ วัดชนะสงคราม เนินปราสาทพระร่วง หรือ
เขตพระราชวังในสมัยสุโขทัย วัดตระพังเงิน วัดสระศรี วัดศรีสวาย ศาลตาผาแดง วัดพระพายหลวง
วัดศรีชุม วัดช้างรอบ วัดสะพานหิน วัดเชตุพน วัดเจดีย์สี่ห้อง วัดช้างล้อม วัดตระพังทองหลาง โดย
มีคูเมือง กาแพงเมืองสุโขทัย และประตูเมืองโบราณล้อมรอบอยู่ในรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส
42
ภาพที่ 3.2 โบราณสถานภายในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย
ที่มา : ถ่ายเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2557 ณ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย
พระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคาแหงมหาราช สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2518
ตั้งอยู่ริมถนนจรดวิถีถ่อง ทางทิศเหนือของวัดมหาธาตุ ลักษณะพระบรมรูปพ่อขุนรามคาแหง
มหาราชเป็นพระบรมรูปหล่อด้วยโลหะทองเหลืองผสมทองแดงรมดา ขนาด 2 เท่าขององค์จริง สูง
3 เมตร ประทับนั่งห้อยพระบาทบนแท่นมนังคศิลาบาตร พระหัตถ์ขวาถือคัมภีร์ พระหัตถ์ซ้ายอยู่
ในท่าทรงสั่งสอนประชาชน แท่นด้านซ้ายมีพานวางพระขรรค์ไว้ข้าง ๆ ลักษณะพระพักตร์เหมือน
อย่างพระพุทธรูปสมัยสุโขทัยตอนต้นที่ถ่ายทอดความรู้สึกว่า พ่อขุนรามคาแหงมหาราชมีน้าพระทัย
เมตตากรุณา ยุติธรรม มีความเด็ดขาดในการปกครองแบบพ่อปกครองลูก ที่ด้านข้างมีภาพแผ่น
จาหลักจารึกเหตุการณ์เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระองค์ตามที่อ้างถึงในจารึกสุโขทัย
43
ภาพที่ 3.3 พระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคาแหงมหาราช
ที่มา : ถ่ายเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2557 ณ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย
ภาพที่ 3.4 ศิลาจารึกพ่อขุนรามคาแหง
ที่มา : ถ่ายเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2557 ณ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย
44
2. แหล่งเรียนรู้ในชุมชนที่สร้างขึ้น
แหล่งเรียนรู้ที่มนุษย์สร้างเพื่อสืบทอดศิลปวัฒนธรรม ตลอดจนเทคโนโลยีและสิ่ง
อานวยความสะดวกของมนุษย์ เช่น สถานที่สาคัญทางด้านประวัติศาสตร์ โบราณสถาน โบราณวัตถุ
สถานที่ราชการ สถาบันทางการศึกษา สถาบันทางศาสนา อุทยาน ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน ศูนย์
วัฒนธรรม พิพิธภัณฑ์ ห้องสมุดประชาชน ตลาด ศูนย์การค้า บริษัท ธนาคาร โรงมหรสพ
โรงงานอุตสาหกรรม สะพาน เขื่อน ฝายทดน้า สวนสาธารณะ สวนผัก สวนผลไม้ สวนสัตว์
สนามกีฬา สนามบิน เป็นต้น
2.1 ห้องสมุดสีเขียว หรือ “Green Library” ห้องสมุดประชาชนต้นแบบประหยัด
พลังงานแห่งแรกในไทยและเอเชีย
ห้องสมุดสีเขียว ตั้งอยู่ ณ สวนเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ
ในชุมชนร่มเกล้า เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร เปิดให้บริการประชาชนทุกวันอังคาร-วัน
อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น. (หยุดวันจันทร์และวันนักขัตฤกษ์) ห้องสมุดสีเขียวก่อสร้าง
ขึ้นมาเพื่อให้เป็นแหล่งศึกษาหาความรู้ และมีเป้าหมายให้เป็นอาคารต้นแบบสาหรับประชาชนและ
เยาวชนได้เข้ามาศึกษาวิธีการประหยัดพลังงานและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในการใช้
ชีวิตประจาวันอย่างง่าย ๆ ซึ่งสามารถนาแนวคิดนี้ไปต่อยอดปรับปรุงบ้านของตัวเองให้น่าอยู่ขึ้น
จุดเด่นอีกประการของห้องสมุดสีเขียวคือ มีโซนนิทรรศการที่รวมเกร็ดความรู้
ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสภาวะโลกร้อน และรวมรายละเอียดการประหยัดพลังงานและสิ่งแวดล้อมให้ผู้มา
เยือนได้ทราบ และมีการแยกโซนห้องอ่านหนังสือของเด็กและผู้ใหญ่ออกจากกัน โดยในห้องอ่าน
หนังสือสาหรับเยาวชนจะเต็มไปด้วยหนังสือเยาวชนที่น่าสนใจมากมาย รวมทั้งมีคอมพิวเตอร์ที่
เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และโทรทัศน์สาหรับฉายภาพยนตร์ต่าง ๆ มีเบาะนั่งสบาย ๆ สาหรับเด็ก
และในช่วงวันหยุดยังมีการจัดกิจกรรมที่ให้ความรู้เรื่องการประหยัดพลังงานและการนาวัสดุรีไซเคิล
มาใช้ประโยชน์ เพื่อสร้างบรรยากาศแห่งการเรียนรู้ ทากิจกรรมร่วมกันระหว่างครอบครัวพ่อ-แม่-
ลูก ให้เกิดขึ้นอีกด้วย
45
ภาพที่ 3.5 บรรยากาศห้องสมุดสีเขียว
ที่มา : ห้องสมุดสีเขียว. ออนไลน์. 2557.
2.2 พิพิธภัณฑ์ภาพ 3 มิติ โคราช ตั้งอยู่ในโครงการไพลินสแควร์ (ตะวันแดงสาดแสง
เดือน) ติดทางรถไฟถนนสืบศิริ อาเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา มีลักษณะเป็นงานศิลปะมากกว่า
100 ภาพ สามารถเข้าไปมีส่วนร่วมถ่ายภาพ ผลงานทั้งหมดสร้างสรรค์โดยศิลปินชาวโคราช 8 ท่าน
มีแก่นเรื่องที่หลากหลายทั้งแนวธรรมชาติ ฉากจากภาพยนตร์ ไปจนถึงงานศิลปะที่สะท้อนกลิ่นอาย
ของความเป็นจังหวัดนครราชสีมา เช่น ภาพหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ภาพพลเอกชาติชาย ชุณหะวัน
ขี่ชอปเปอร์ ภาพนักมวยสมจิตร จงจอหอ ปราสาทหินพิมาย หรือน้าตกเหวสุวัตที่เขาใหญ่ จึง
แน่ใจว่าภาพศิลปะของที่นี่ไม่ซ้าแบบกับแกลอรี่ในจังหวัดอื่น ๆ
46
ภาพที่ 3.6 ภาพหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ณ พิพิธภัณฑ์ภาพ 3 มิติ โคราช ณ พิพิธภัณฑ์ภาพ 3 มิติ
โคราช
ที่มา : ถ่ายเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2557 ณ พิพิธภัณฑ์ภาพ 3 มิติ โคราช
ภาพที่ 3.7 ภาพปราสาทหินพิมาย ณ พิพิธภัณฑ์ภาพ 3 มิติ โคราช
ที่มา : ถ่ายเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2557 ณ พิพิธภัณฑ์ภาพ 3 มิติ โคราช
47
2.3 สวนสัตว์นครราชสีมา หรือที่เรียกว่า ซาฟารีอีสาน ตั้งอยู่ที่ 111 หมู่ที่ 1 ตาบล
ไชยมงคล อาเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา รหัสไปรษณีย์ 30000 ด้วยพื้นที่ทั้งหมด 545 ไร่ ซึ่งมี
การแสดงสัตว์ป่านานาชนิด อยู่ในความดูแลทั้งหมดประมาณ 1,800 ตัว สภาพภูมิอากาศเหมาะสม
ตามหลักภูมิศาสตร์ การนาสัตว์ต่าง ๆ จากแอฟริกามาจัดแสดง ได้แก่ 5 สัตว์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งทุ่งหญ้า
แอฟริกา ได้แก่ สิงโต เสือดาว-เสือดา ช้างแอฟริกา แรดขาว ควายป่าแอฟริกา ทั้งยังมียีราฟ
ม้าลาย กลุ่มแอนติโลป ครอบครัวลิงซิมแปนซีใหญ่ที่สุด อาคารสัตว์หากินกลางคืน สัตว์สะเทินน้า
สะเทินบก
ภาพที่ 3.8 บรรยากาศภายในสวนสัตว์นครราชสีมา
ที่มา : ถ่ายเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2553 ณ สวนสัตว์นครราชสีมา
การแสดงความสามารถของแมวน้า พบกับการแสดงความสามารถของแมวน้า
สายพันธุ์เคปเฟอร์ซีล นอกจากได้รับความสนุกสนานและเสียงหัวเราะจากแมวน้าแสนรู้แล้วยังได้รับ
ความรู้ทางธรรมชาติของแมวน้าและยังเป็นมหาวิทยาลัยแมวน้าแห่งแรกในประเทศไทยที่ฝึกสอน
แมวน้าจากสวนสัตว์ทั่วประเทศ เปิดทาการแสดงทุกวัน วันจันทร์ - ศุกร์ 2 รอบ เวลา 11.00 น.
และ 14 .00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ 4 รอบ เวลา 10.30 น. 11.30 น. 13.30 น. และ 15.30 น.
บริการศูนย์ประชุมสัมมนา พร้อมอุปกรณ์นาเสนองานที่ทันสมัย ความจุ 150-
200 คน บริการบ้านพักรับรอง บ้านพักทรงไทยริมสระน้า จานวน 22 หลัง พร้อมด้วยสิ่งอานวย
ความสะดวกครบครัน บริการด้านการเที่ยวชม ได้แก่ การให้บริการจักรยาน รถกอล์ฟให้เช่า
รถรางนาชม รถเอทีวีสาหรับเด็ก รถมอร์เตอ์ไซต์จิ๋ว เรือเล็กเจ็ทโบ๊ท เครื่องเล่นหยอดเหรียญ
48
ร้านนวดแผนโบราณ ร้านถ่ายภาพที่ระลึก ร้านจาหน่ายสินค้าที่ระลึก และสวนน้า "korat Zoo
Lagoon" สวนน้าสันทนาการเพื่อการเรียนรู้สาหรับทุกคนในครอบครัวที่ใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน
พร้อมกับโลมาปลาหมึก และช้างพ่นน้า สระน้าวนที่ใสสะอาด
บริการโครงการนานักเรียนเข้าศึกษาเรียนรู้ในสวนสัตว์ มี 2 โปรแกรม คือ 1
โปรแกรม 1 วัน และโปรแกรม 2 วัน 1 คืน เป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องสัตว์ป่าโดยมีหลักสูตรการเรียนใน
ด้านการอนุรักษ์และธรรมชาติวิทยา อันเป็นการปลูกฝังให้เยาวชนมีจิตสานึกในการร่วมอนุรักษ์สัตว์
ป่า ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย หรือสนับสนุนในด้านค่าบัตรผ่านประตู ค่าบัตร
เข้าชมการแสดงความสามารถของสัตว์ อาหาร ที่พัก และแบบเรียนรู้ มีอาคารค่ายพักแรมที่
สามารถรองรับได้ถึง 500 คน
ศูนย์การเรียนรู้เพื่อการอนุรักษ์และโรงภาพยนตร์ขนาดเล็ก เพื่อให้นักเรียน
นักศึกษา และประชาชนทั่วไปได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้ชีวิตสัตว์ป่าธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีการ
ออกแบบและมีสื่อการเรียนรู้ที่ทันสมัย นอกจากนั้นยังมีโรงภาพยนตร์ขนาดเล็กเปิดให้ชมสารคดี
เกี่ยวกับธรรมชาติสัตว์ป่า และสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ผู้ที่สนใจเข้าชมโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย จุได้
ประมาณ 100 คน
3. แหล่งเรียนรู้ในชุมชนที่เป็นบุคคล
บุคคลเป็นแหล่งเรียนรู้ที่ถ่ายทอดองค์ความรู้ ความสามารถ คุณธรรม จริยธรรม
ภูมิปัญญาท้องถิ่นทั้งด้านการประกอบอาชีพ การสืบสานวัฒนธรรม ตลอดจนนักคิด นักประดิษฐ์
และผู้มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ในด้านต่าง ๆ ที่มีความเชี่ยวชาญหลากหลายสาขาวิชาชีพ บางท่าน
เป็นปราชญ์ชาวบ้าน บางท่านเป็นอดีตข้าราชการที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะด้าน บางท่านเป็น
ผู้นาทางศาสนา และบุคลากรในสถานศึกษา ซึ่งเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ตนมีอยู่ให้ผู้สนใจหรือผู้
ต้องการเรียนรู้
องค์ความรู้ของ นายจันทร์ที ประทุมภา ปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน ประจาปี 2554
สาขาปราชญ์เกษตรเศรษฐกิจพอเพียง อาเภอชุมพวง จังหวัดนครราชสีมา อาชีพเกษตรกรรม
อายุ 73 ปี อยู่บ้านเลขที่ 138 บ้านโนนรัง หมู่ที่ 6 ตาบลตลาดไทร อาเภอชุมพวง จังหวัด
นครราชสีมา
49
ผลงานดีเด่น
1. บุคคลที่มีความสามารถนาความรู้เรื่องเกษตรทฤษฎีใหม่มาใช้กับตนเองจนประสบ
ความสาเร็จและยังสามารถถ่ายทอดความรู้ และขยายผลให้แก่ชาวบ้านจนประสบความสาเร็จ
2. แปลงเกษตรแบบประณีตในพื้นที่ 1 ไร่
หลังจากได้น้อมนาปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้แล้วประสบผลสาเร็จ ทาให้
จัดตั้งบ้านเป็นศูนย์เรียนรู้และถ่ายทอดความรู้เรื่องทฤษฎีใหม่ของพระองค์ ซึ่งขณะนี้เปิดเป็นศูนย์
การเรียนรู้ที่ใช้อบรมให้กับสานักงานเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเป็นศูนย์การเรียนรู้หนึ่งในจานวน 151
ศูนย์การเรียนรู้ทั่วประเทศ ผู้ที่เข้าอบรมคือเกษตรกรที่สนใจในเรื่องเกษตรทฤษฎีใหม่ มาอบรมเพื่อ
ปรับเปลี่ยนแนวความคิดเปลี่ยนจิตสานึกให้รู้จักพึ่งตนเองและพึ่งพากันเองในชุมชนได้ ถ้าเกษตรกร
อยากจะลดรายจ่ายในการทาเกษตร ก็ต้องให้ความรู้ในด้านต่าง ๆ เช่น การขยายพันธุ์พืช เพาะ
เมล็ด ติดตา ทาบกิ่ง เสียบยอด การขยายเพาะพันธุ์ปลาเลี้ยงเอง และสอนวิธีทาหัวอาหารเลี้ยง
ปลา ซึ่งเป็นการประหยัดและลดรายจ่ายเป็นอย่างมาก วัตถุดิบที่ทาหัวอาหารปลาก็นามาจาก
การเกษตรทั้งนั้น เช่น ถั่ว มัน ข้าวโพด ทุกอย่างที่เกษตรกรทาและอีกส่วนหนึ่งคือสอนการทาปุ๋ย
ชีวภาพ และทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับการเกษตรหรือเกี่ยวกับการลดรายจ่าย และจากการทางาน
เพื่อสังคมที่ถ่ายทอดจากประสบการณ์จริงที่ได้สั่งสมมานั้น ทาให้นายจันทร์ทีได้รับการยอมรับให้
เป็นปราชญ์อีสานที่ทาหน้าที่ถ่ายทอดความรู้ให้แก่ผู้สนใจทั่วไป และในปีหนึ่งมีผู้เข้ามาเรียนรู้และ
ชื่นชมผลงานของนายจันทร์ทีไม่ต่ากว่า 2-3 พันคน จากความมุ่งมั่นและจริงใจในการให้ความรู้
เนื่องจากนายจันทร์ทีคิดว่าการที่รู้แล้วไม่ควรเก็บไว้เพียงผู้เดียว ควรถ่ายทอดสิ่งดี ๆ ให้กับชุมชน
เพราะคิดว่าตนเองเคยตกทุกข์ได้ยากมาจึงรู้ว่าถ้าทาอย่างถูกต้องจะทาให้สาเร็จ ดังนั้นจึงต้องขยาย
ความรู้ให้กับคนอื่นและชุมชนต่อไป
50
ภาพที่ 3.9 นายจันทร์ที ประทุมภา ปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน ประจาปี 2554
ที่มา : กระทรวงเกษตรและสหกรณ์. ออนไลน์. 2558.
4. แหล่งเรียนรู้ในชุมชนตามกิจกรรมทางสังคม ประเพณีและความเชื่อ
การปฏิบัติการด้านประเพณีวัฒนธรรม ตลอดจนการปฏิบัติการ ความเคลื่อนไหว
เพื่อแก้ปัญหาและปรับปรุงพัฒนาสภาพต่าง ๆ ในท้องถิ่น การที่มนุษย์เข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรม
ต่าง ๆ เช่น ขนบธรรมเนียมประเพณีพื้นบ้าน การละเล่นพื้นบ้าน กีฬาพื้นบ้าน วรรณกรรม
ท้องถิ่น ศิลปะพื้นบ้าน ดนตรีพื้นบ้าน วิถีชีวิตความเป็นอยู่ประจาวัน เป็นต้น
5. แหล่งเรียนรู้ในชุมชนตามประเภทสื่อสารสนเทศ
แหล่งเรียนรู้ที่ทาหน้าที่เป็นสื่อกลางในการถ่ายทอดเนื้อหาความรู้สารสนเทศให้ถึงกัน
แหล่งเรียนรู้ประเภทนี้ ทาให้ขบวนการเรียนรู้เป็นไปได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพสูง เช่น วิทยุ
วิทยุชุมชน หอกระจายข่าว โทรทัศน์ เคเบิลทีวี สื่อนวัตกรรม รวมทั้งเทคโนโลยีโสตทัศนวัสดุ
สื่อสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ สื่ออิเล็กทรอนิคส์ผ่านอินเทอร์เน็ต เป็นต้น (ทวีป อภิสิทธิ์. 2554 : 42)
สรุปได้ว่า ประเภทของแหล่งเรียนรู้ในชุมชน สามารถจาแนกได้ 5 ประเภท คือ
1) แหล่งเรียนรู้ในชุมชนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ คือ สิ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและอยู่รอบ ๆ
ตัวเราที่ครูผู้สอนสามารถนาไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้สื่อธรรมชาติ 2) แหล่งเรียนรู้ใน
ชุมชนที่สร้างขึ้น คือ สถานที่ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูล ให้บริการความรู้ในเรื่องต่าง ๆ ฝึกปฏิบัติ
51
และอบรมเกี่ยวกับงานและอาชีพต่าง ๆ ที่มีอยู่ในชุมชน 3) แหล่งเรียนรู้ในชุมชนที่เป็นบุคคล คือ
บุคคลที่มีความรู้ความสามารถในการทางานและการประกอบอาชีพด้านต่าง ๆ ที่เกิดจากการสั่งสม
ความรู้ประสบการณ์จนเกิดความชานาญและเชี่ยวชาญในอาชีพสาขานั้น ๆ 4) แหล่งเรียนรู้ในชุมชน
ตามกิจกรรมทางสังคม ประเพณีและความเชื่อ คือ การปฏิบัติการด้านประเพณีวัฒนธรรม ตลอดจน
การมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชน 5) แหล่งเรียนรู้ในชุมชนตาม
ประเภทสื่อสารสนเทศ คือ สื่อนวัตกรรม รวมทั้งเทคโนโลยีโสตทัศนวัสดุ สื่ออิเล็กทรอนิคส์ สื่อ
สิ่งพิมพ์ต่าง ๆ
กรณีศึกษาแหล่งเรียนรู้ในชุมชน
จิมทอมป์สันฟาร์ม ตั้งอยู่อาเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา พื้นที่กว่า 600 ไร่ บน
เชิงเขาพญาปราบ ตาบลตะขบ โดยเริ่มจากเป็นแหล่งผลิตไข่ไหมจาหน่ายให้สมาชิกเกษตรกรเพื่อ
รับซื้อรังสดในการผลิตเส้นไหมและเป็นพื้นที่ปลูกหม่อนอันเป็นอาหารหลักของหนอนไหม และเป็น
แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรปีละครั้งในเดือนธันวาคมให้บุคคลทั่วไปที่หลงใหลในธรรมชาติได้ชื่นชม
บรรยากาศอันงดงาม และเรียนรู้ประสบการณ์ด้านการเกษตรพร้อมเรียนรู้วงจรชีวิตของหนอนไหม
ชมแปลงพืชผัก และดอกไม้นานาชนิด รวมถึงเลือกซื้อไม้ดอกไม้ประดับ และผลผลิตทางการ
เกษตรปลอดสารพิษ จิมทอมป์สันฟาร์มมีเจตนารมณ์ที่จะอนุรักษ์และถ่ายทอดมรดกทางวัฒนธรรม
อันทรงคุณค่าของชาวไทยเชื้อสายลาวซึ่งอาศัยอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือสู่สายตาชาวไทยและ
ชาวต่างชาติ เพื่อสร้างสานึกในคุณค่าของประเพณีและวัฒนธรรมอีสานอันเก่าแก่และงดงาม
52
ภาพที่ 3.10 เว็บไซต์จิมทอมป์สันฟาร์ม
ที่มา : จิมทอมป์สันฟาร์ม. ออนไลน์. 2558.
บริการจุดท่องเที่ยวต่าง ๆ ภายในจิมทอมป์สันฟาร์ม มี 5 จุด ดังนี้
จุดที่ 1 ทุ่งคอสมอสและแปลงเก็บผักปลอดสารพิษ บนพื้นที่กว่า 50 ไร่ พร้อมชม
แปลงผักปลอดสารพิษ ที่นักท่องเที่ยวสามารถเลือกเก็บผักสด ๆ จากแปลงได้ด้วยตนเองและซื้อ
กลับบ้านได้ พร้อมด้วยจุดบริการให้นักท่องเที่ยวทุกท่านได้เลือกรับประทานอาหารและเครื่องดื่ม
ตามอัธยาศัย ก่อนขึ้นรถนาชมไปยังจุดท่องเที่ยวต่าง ๆ ต่อไปภายในฟาร์ม
ภาพที่ 3.11 ทุ่งคอสมอสและแปลงเก็บผักปลอดสารพิษ
ที่มา : ถ่ายเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2556 ณ จิมทอมป์สันฟาร์ม
53
จุดที่ 2 ลานฟักทองและทุ่งไม้ดอกหลากสี ชื่นชมผลงานศิลปะจากหลากหลายศิลปินใน
โครงการศิลปะในฟาร์ม ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติที่ล้อมรอบด้วยภูเขาพญาปราบและอ่างเก็บ
น้าลาสาลาย ตระการตากับทุ่งดอกไม้หลากสีสดใสของธรรมชาติที่รังสรรค์ความสวยงามไว้อย่างน่า
ตื่นตาตื่นใจกับลานฟักทองยักษ์สีสันสดใส ฟักทองแฟนซีรูปร่างแปลกตา และฟักทองอีกกว่า 30
สายพันธุ์ ที่พร้อมให้นักท่องเที่ยวได้เก็บภาพความประทับใจอย่างใกล้ชิด
ภาพที่ 3.12 ลานฟักทองและทุ่งไม้ดอกหลากสี
ที่มา : ถ่ายเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2556 ณ จิมทอมป์สันฟาร์ม
จุดที่ 3 หมู่บ้านอีสาน เป็นสถาปัตยกรรมไทยอีสานที่เป็นเอกลักษณ์มารวบรวมไว้บน
พื้นที่กว่า 10 ไร่ อาทิ บ้านโคราช บ้านภูไท และเรือนเหย้า ซึ่ง “หมู่บ้านอีสาน” แห่งนี้ได้กลายเป็น
อีกหนึ่งจุดต้อนรับนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในสถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่าและ วัฒนธรรมประเพณีอัน
ดีงามของภาคอีสาน โดยมีการจาลองวิถีชีวิต และประเพณีวัฒนธรรมของชาวอีสาน การละเล่น
อาหารการกิน และการประกอบอาชีพของชาวบ้านในอดีตให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสความเป็นอยู่ของ
ชาวอีสานอันเรียบง่ายและพอเพียง และได้สร้างและรวบรวม “หมู่บ้านโคราช” เพิ่มในบริเวณ
ใกล้เคียงเพื่อเป็นการสะท้อนสถาปัตยกรรมอันหลากหลายของภาคอีสานได้ชัดเจนยิ่งขึ้น แล้ว
ทักทาย “บุญหลาย” และ “บุญล้อม” ควายไทยแสนรู้ที่รอต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกท่านที่กระท่อม
ปลายนา ก่อนขึ้นรถเพื่อไปยังจุดท่องเที่ยวต่อไป
54
ภาพที่ 3.13 หมู่บ้านอีสาน
ที่มา : ถ่ายเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2556 ณ จิมทอมป์สันฟาร์ม
จุดที่ 4 หมู่บ้านจิม ร่วมชมและเรียนรู้กระบวนการผลิตผ้าไหมอันเลื่องชื่อและเป็น
เอกลักษณ์ของจิมทอมป์สัน ตั้งแต่วงจรชีวิตหนอนไหมที่สร้างเส้นใยธรรมชาติ การสาวไหม การฟอก
ย้อมเส้นไหม การทอผ้าไหมและการพิมพ์ผ้าไหม
ภาพที่ 3.14 หมู่บ้านจิมทอมป์สัน
ที่มา : ถ่ายเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2556 ณ จิมทอมป์สันฟาร์ม
55
จุดที่ 5 ตลาดจิม สัมผัสความสวยงามของธรรมชาติกับสวนไม้ดอกและสวนสับปะรดสี
ชมแปลงผักไร้ดินแบบปลอดสาร และส่งท้ายกิจกรรมความสนุกสนาน ณ ตลาดจิมด้วยการเลือกซื้อ
ผลผลิตทางการเกษตรจากจิมทอมป์สันฟาร์ม เช่น เห็ดนางรม เห็ดหอมสด และเห็ดโคนญี่ปุ่น
พืชผักประเภทแตงและน้าเต้า ฟักทองนา ๆ พันธุ์ แคนตาลูปพันธุ์เจดดิว เป็นต้น พร้อมด้วย
ผลิตภัณฑ์แปรรูปของจิมทอมป์สันฟาร์มทุกชนิด เช่น น้าผึ้งบริสุทธิ์ ผลิตภัณฑ์จากกล้วยหอมและชา
ใบหม่อน ล้วนผลิตและใช้วัตถุดิบจากผลผลิตทางการเกษตรที่ปลูกบนพื้นที่ในฟาร์มของจิมทอมป์สัน
จึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพปลอดสารพิษ พิเศษสุดคือ ชาใบหม่อนธรรมชาติจากจิมทอมป์สัน
ฟาร์มที่มีให้เลือกถึง 3 รสชาติ ได้แก่ ชาเขียว ชาจีน และชาฝรั่ง ต้นไม้ ไม้ดอกกระถางหลากหลาย
สายพันธุ์ ไม้ดอกระบบไฮโดรโพนิกส์ ตลอดจนผ้าไหม ผลิตภัณฑ์จากผ้าไหม และผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ
มากมายจากจิมทอมป์สัน ก่อนอาลาจิมทอมป์สันฟาร์ม
ภาพที่ 3.15 ผลผลิตทางการเกษตรตลาดจิมทอมป์สัน
ที่มา : ถ่ายเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2556 ณ จิมทอมป์สันฟาร์ม
56
ภาพที่ 3.16 ผักปลอดสาร
ที่มา : ถ่ายเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2556 ณ จิมทอมป์สันฟาร์ม
สรุป
แหล่งเรียนรู้ในชุมชนนามาซึ่งการพัฒนาการเรียนรู้ทั้งในเรื่องความคิด ความเข้าใจใน
คุณค่าและทัศนคติได้อย่างกว้างขวางทั้งในระบบโรงเรียน นอกระบบ ตามอัธยาศัยและยังพัฒนาการ
เรียนรู้ (Learning) และการศึกษา (Education) โดยเน้นความสาคัญทั้งความรู้ คุณธรรม
กระบวนการเรียนรู้และมีปฏิสัมพันธ์เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างคนในท้องถิ่นกับผู้เข้า
ศึกษาในการทากิจกรรมร่วมกัน ช่วยสร้างความรู้สึกของการเป็นส่วนหนึ่งของการมีส่วนร่วม เกิด
ความตระหนักและเห็นคุณค่าของแหล่งเรียนรู้ในชุมชน โดยจาแนกได้ 5 ประเภท คือ แหล่งเรียนรู้ใน
ชุมชนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แหล่งเรียนรู้ในชุมชนที่สร้างขึ้น แหล่งเรียนรู้ในชุมชนที่เป็นบุคคล
แหล่งเรียนรู้ในชุมชนตามกิจกรรมทางสังคม ประเพณีและความเชื่อ และแหล่งเรียนรู้ในชุมชนตาม
ประเภทสื่อสารสนเทศต่าง ๆ ตลอดจนกรณีศึกษาแหล่งเรียนรู้ในชุมชน จิมทอมป์สันฟาร์ม อาเภอ
ปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา

More Related Content

What's hot

ศูนย์วิจัยพรรณไม้หายากภาคใต้ 2553 07-28 (ตรวจครั้งที่2)
ศูนย์วิจัยพรรณไม้หายากภาคใต้ 2553 07-28 (ตรวจครั้งที่2)ศูนย์วิจัยพรรณไม้หายากภาคใต้ 2553 07-28 (ตรวจครั้งที่2)
ศูนย์วิจัยพรรณไม้หายากภาคใต้ 2553 07-28 (ตรวจครั้งที่2)maneerat
 
ศูนย์วิจัยพรรณไม้หายากภาคใต้ 2553 07-14
ศูนย์วิจัยพรรณไม้หายากภาคใต้ 2553 07-14ศูนย์วิจัยพรรณไม้หายากภาคใต้ 2553 07-14
ศูนย์วิจัยพรรณไม้หายากภาคใต้ 2553 07-14maneerat
 
โครงงานเรื่อง การศึกษาต้นไม้ในโรงเรียน
โครงงานเรื่อง การศึกษาต้นไม้ในโรงเรียนโครงงานเรื่อง การศึกษาต้นไม้ในโรงเรียน
โครงงานเรื่อง การศึกษาต้นไม้ในโรงเรียนพัน พัน
 
ความหมายของห้องสมุด
ความหมายของห้องสมุดความหมายของห้องสมุด
ความหมายของห้องสมุดพัน พัน
 
ศูนย์วิจัยพรรณไม้หายากภาคใต้ 2553 07-07 (ตรวจครั้งที่1)
ศูนย์วิจัยพรรณไม้หายากภาคใต้ 2553 07-07 (ตรวจครั้งที่1)ศูนย์วิจัยพรรณไม้หายากภาคใต้ 2553 07-07 (ตรวจครั้งที่1)
ศูนย์วิจัยพรรณไม้หายากภาคใต้ 2553 07-07 (ตรวจครั้งที่1)maneerat
 
ศูนย์วิจัยพรรณไม้หายากภาคใต้ 2553 07-07 (ตรวจครั้งที่1)
ศูนย์วิจัยพรรณไม้หายากภาคใต้ 2553 07-07 (ตรวจครั้งที่1)ศูนย์วิจัยพรรณไม้หายากภาคใต้ 2553 07-07 (ตรวจครั้งที่1)
ศูนย์วิจัยพรรณไม้หายากภาคใต้ 2553 07-07 (ตรวจครั้งที่1)maneerat
 
ารศึกษาแหล่งเรียนรู้ที่จัดแสดงโบราณวัตถุในหลุมขุดค้นทางโบราณคดีในพนื้ที่ภาคกล...
ารศึกษาแหล่งเรียนรู้ที่จัดแสดงโบราณวัตถุในหลุมขุดค้นทางโบราณคดีในพนื้ที่ภาคกล...ารศึกษาแหล่งเรียนรู้ที่จัดแสดงโบราณวัตถุในหลุมขุดค้นทางโบราณคดีในพนื้ที่ภาคกล...
ารศึกษาแหล่งเรียนรู้ที่จัดแสดงโบราณวัตถุในหลุมขุดค้นทางโบราณคดีในพนื้ที่ภาคกล...Poramin Insomniaz
 
ศูนย์วิจัยและศึกษาธรรมชาติป่าพรุสิริน
ศูนย์วิจัยและศึกษาธรรมชาติป่าพรุสิรินศูนย์วิจัยและศึกษาธรรมชาติป่าพรุสิริน
ศูนย์วิจัยและศึกษาธรรมชาติป่าพรุสิรินmoddodcom
 
ศูนย์วิจัยพรรณไม้หายากภาคใต้ 2553 07-07 (ตรวจครั้งที่1)
ศูนย์วิจัยพรรณไม้หายากภาคใต้ 2553 07-07 (ตรวจครั้งที่1)ศูนย์วิจัยพรรณไม้หายากภาคใต้ 2553 07-07 (ตรวจครั้งที่1)
ศูนย์วิจัยพรรณไม้หายากภาคใต้ 2553 07-07 (ตรวจครั้งที่1)maneerat
 
ศูนย์วิจัยพรรณไม้หายากภาคใต้ 2553 07-07 (ตรวจครั้งที่1)
ศูนย์วิจัยพรรณไม้หายากภาคใต้ 2553 07-07 (ตรวจครั้งที่1)ศูนย์วิจัยพรรณไม้หายากภาคใต้ 2553 07-07 (ตรวจครั้งที่1)
ศูนย์วิจัยพรรณไม้หายากภาคใต้ 2553 07-07 (ตรวจครั้งที่1)maneerat
 
บทที่ 1น้ำบาดาล2003
บทที่ 1น้ำบาดาล2003บทที่ 1น้ำบาดาล2003
บทที่ 1น้ำบาดาล2003bussayamas Baengtid
 

What's hot (14)

ศูนย์วิจัยพรรณไม้หายากภาคใต้ 2553 07-28 (ตรวจครั้งที่2)
ศูนย์วิจัยพรรณไม้หายากภาคใต้ 2553 07-28 (ตรวจครั้งที่2)ศูนย์วิจัยพรรณไม้หายากภาคใต้ 2553 07-28 (ตรวจครั้งที่2)
ศูนย์วิจัยพรรณไม้หายากภาคใต้ 2553 07-28 (ตรวจครั้งที่2)
 
ศูนย์วิจัยพรรณไม้หายากภาคใต้ 2553 07-14
ศูนย์วิจัยพรรณไม้หายากภาคใต้ 2553 07-14ศูนย์วิจัยพรรณไม้หายากภาคใต้ 2553 07-14
ศูนย์วิจัยพรรณไม้หายากภาคใต้ 2553 07-14
 
โครงงานเรื่อง การศึกษาต้นไม้ในโรงเรียน
โครงงานเรื่อง การศึกษาต้นไม้ในโรงเรียนโครงงานเรื่อง การศึกษาต้นไม้ในโรงเรียน
โครงงานเรื่อง การศึกษาต้นไม้ในโรงเรียน
 
ความหมายของห้องสมุด
ความหมายของห้องสมุดความหมายของห้องสมุด
ความหมายของห้องสมุด
 
ศูนย์วิจัยพรรณไม้หายากภาคใต้ 2553 07-07 (ตรวจครั้งที่1)
ศูนย์วิจัยพรรณไม้หายากภาคใต้ 2553 07-07 (ตรวจครั้งที่1)ศูนย์วิจัยพรรณไม้หายากภาคใต้ 2553 07-07 (ตรวจครั้งที่1)
ศูนย์วิจัยพรรณไม้หายากภาคใต้ 2553 07-07 (ตรวจครั้งที่1)
 
ศูนย์วิจัยพรรณไม้หายากภาคใต้ 2553 07-07 (ตรวจครั้งที่1)
ศูนย์วิจัยพรรณไม้หายากภาคใต้ 2553 07-07 (ตรวจครั้งที่1)ศูนย์วิจัยพรรณไม้หายากภาคใต้ 2553 07-07 (ตรวจครั้งที่1)
ศูนย์วิจัยพรรณไม้หายากภาคใต้ 2553 07-07 (ตรวจครั้งที่1)
 
ารศึกษาแหล่งเรียนรู้ที่จัดแสดงโบราณวัตถุในหลุมขุดค้นทางโบราณคดีในพนื้ที่ภาคกล...
ารศึกษาแหล่งเรียนรู้ที่จัดแสดงโบราณวัตถุในหลุมขุดค้นทางโบราณคดีในพนื้ที่ภาคกล...ารศึกษาแหล่งเรียนรู้ที่จัดแสดงโบราณวัตถุในหลุมขุดค้นทางโบราณคดีในพนื้ที่ภาคกล...
ารศึกษาแหล่งเรียนรู้ที่จัดแสดงโบราณวัตถุในหลุมขุดค้นทางโบราณคดีในพนื้ที่ภาคกล...
 
By Colorfuls Mk22
By Colorfuls Mk22By Colorfuls Mk22
By Colorfuls Mk22
 
ใบงาน1
ใบงาน1ใบงาน1
ใบงาน1
 
ศูนย์วิจัยและศึกษาธรรมชาติป่าพรุสิริน
ศูนย์วิจัยและศึกษาธรรมชาติป่าพรุสิรินศูนย์วิจัยและศึกษาธรรมชาติป่าพรุสิริน
ศูนย์วิจัยและศึกษาธรรมชาติป่าพรุสิริน
 
ศูนย์วิจัยพรรณไม้หายากภาคใต้ 2553 07-07 (ตรวจครั้งที่1)
ศูนย์วิจัยพรรณไม้หายากภาคใต้ 2553 07-07 (ตรวจครั้งที่1)ศูนย์วิจัยพรรณไม้หายากภาคใต้ 2553 07-07 (ตรวจครั้งที่1)
ศูนย์วิจัยพรรณไม้หายากภาคใต้ 2553 07-07 (ตรวจครั้งที่1)
 
ศูนย์วิจัยพรรณไม้หายากภาคใต้ 2553 07-07 (ตรวจครั้งที่1)
ศูนย์วิจัยพรรณไม้หายากภาคใต้ 2553 07-07 (ตรวจครั้งที่1)ศูนย์วิจัยพรรณไม้หายากภาคใต้ 2553 07-07 (ตรวจครั้งที่1)
ศูนย์วิจัยพรรณไม้หายากภาคใต้ 2553 07-07 (ตรวจครั้งที่1)
 
บทที่ 2
บทที่ 2บทที่ 2
บทที่ 2
 
บทที่ 1น้ำบาดาล2003
บทที่ 1น้ำบาดาล2003บทที่ 1น้ำบาดาล2003
บทที่ 1น้ำบาดาล2003
 

Viewers also liked

อ.วนิดา บทที่-6-ตำราสารสนเทศท้องถิ่น-20-july-57
อ.วนิดา บทที่-6-ตำราสารสนเทศท้องถิ่น-20-july-57อ.วนิดา บทที่-6-ตำราสารสนเทศท้องถิ่น-20-july-57
อ.วนิดา บทที่-6-ตำราสารสนเทศท้องถิ่น-20-july-57นางสาวอัมพร แสงมณี
 
อ.วนิดา บทที่-5-ตำราสารสนเทศท้องถิ่น-14-july-57
อ.วนิดา บทที่-5-ตำราสารสนเทศท้องถิ่น-14-july-57อ.วนิดา บทที่-5-ตำราสารสนเทศท้องถิ่น-14-july-57
อ.วนิดา บทที่-5-ตำราสารสนเทศท้องถิ่น-14-july-57นางสาวอัมพร แสงมณี
 
อ.วนิดา บทที่ 4 (ตำราสารสนเทศท้องถิ่น) 10 july 57
อ.วนิดา  บทที่ 4 (ตำราสารสนเทศท้องถิ่น) 10 july 57อ.วนิดา  บทที่ 4 (ตำราสารสนเทศท้องถิ่น) 10 july 57
อ.วนิดา บทที่ 4 (ตำราสารสนเทศท้องถิ่น) 10 july 57นางสาวอัมพร แสงมณี
 
Learning style 260658
Learning style 260658Learning style 260658
Learning style 260658Pairnat' Xcx
 
อ.วนิดา บทที่-9-ตำราสารสนเทศท้องถิ่น-22-aug-57
อ.วนิดา บทที่-9-ตำราสารสนเทศท้องถิ่น-22-aug-57อ.วนิดา บทที่-9-ตำราสารสนเทศท้องถิ่น-22-aug-57
อ.วนิดา บทที่-9-ตำราสารสนเทศท้องถิ่น-22-aug-57นางสาวอัมพร แสงมณี
 
อ.วนิดา บทที่-8-ตำราสารสนเทศท้องถิ่น-19-aug-57
อ.วนิดา บทที่-8-ตำราสารสนเทศท้องถิ่น-19-aug-57อ.วนิดา บทที่-8-ตำราสารสนเทศท้องถิ่น-19-aug-57
อ.วนิดา บทที่-8-ตำราสารสนเทศท้องถิ่น-19-aug-57นางสาวอัมพร แสงมณี
 
บทที่ 4 การสานปลาตะเพียนจากก้านมะพร้าว
บทที่ 4 การสานปลาตะเพียนจากก้านมะพร้าวบทที่ 4 การสานปลาตะเพียนจากก้านมะพร้าว
บทที่ 4 การสานปลาตะเพียนจากก้านมะพร้าวนางสาวอัมพร แสงมณี
 
อ.วนิดา บทที่ 2 (ตำราสารสนเทศท้องถิ่น) 10 july 57
อ.วนิดา  บทที่ 2 (ตำราสารสนเทศท้องถิ่น) 10 july 57อ.วนิดา  บทที่ 2 (ตำราสารสนเทศท้องถิ่น) 10 july 57
อ.วนิดา บทที่ 2 (ตำราสารสนเทศท้องถิ่น) 10 july 57นางสาวอัมพร แสงมณี
 

Viewers also liked (20)

อ.วนิดา บทที่-6-ตำราสารสนเทศท้องถิ่น-20-july-57
อ.วนิดา บทที่-6-ตำราสารสนเทศท้องถิ่น-20-july-57อ.วนิดา บทที่-6-ตำราสารสนเทศท้องถิ่น-20-july-57
อ.วนิดา บทที่-6-ตำราสารสนเทศท้องถิ่น-20-july-57
 
อ.วนิดา บทที่-5-ตำราสารสนเทศท้องถิ่น-14-july-57
อ.วนิดา บทที่-5-ตำราสารสนเทศท้องถิ่น-14-july-57อ.วนิดา บทที่-5-ตำราสารสนเทศท้องถิ่น-14-july-57
อ.วนิดา บทที่-5-ตำราสารสนเทศท้องถิ่น-14-july-57
 
อ.วนิดา บทที่ 4 (ตำราสารสนเทศท้องถิ่น) 10 july 57
อ.วนิดา  บทที่ 4 (ตำราสารสนเทศท้องถิ่น) 10 july 57อ.วนิดา  บทที่ 4 (ตำราสารสนเทศท้องถิ่น) 10 july 57
อ.วนิดา บทที่ 4 (ตำราสารสนเทศท้องถิ่น) 10 july 57
 
บทที่ 4 การจัดการสารสนเทศท้องถิ่น
บทที่ 4 การจัดการสารสนเทศท้องถิ่นบทที่ 4 การจัดการสารสนเทศท้องถิ่น
บทที่ 4 การจัดการสารสนเทศท้องถิ่น
 
Learning style 260658
Learning style 260658Learning style 260658
Learning style 260658
 
อ.วนิดา บทที่-9-ตำราสารสนเทศท้องถิ่น-22-aug-57
อ.วนิดา บทที่-9-ตำราสารสนเทศท้องถิ่น-22-aug-57อ.วนิดา บทที่-9-ตำราสารสนเทศท้องถิ่น-22-aug-57
อ.วนิดา บทที่-9-ตำราสารสนเทศท้องถิ่น-22-aug-57
 
บทที่ 4 สารสนเทศท้องถิ่น2637 288-1-sm
บทที่ 4 สารสนเทศท้องถิ่น2637 288-1-smบทที่ 4 สารสนเทศท้องถิ่น2637 288-1-sm
บทที่ 4 สารสนเทศท้องถิ่น2637 288-1-sm
 
อ.วนิดา บทที่-8-ตำราสารสนเทศท้องถิ่น-19-aug-57
อ.วนิดา บทที่-8-ตำราสารสนเทศท้องถิ่น-19-aug-57อ.วนิดา บทที่-8-ตำราสารสนเทศท้องถิ่น-19-aug-57
อ.วนิดา บทที่-8-ตำราสารสนเทศท้องถิ่น-19-aug-57
 
บทที่ 4 การสานปลาตะเพียนจากก้านมะพร้าว
บทที่ 4 การสานปลาตะเพียนจากก้านมะพร้าวบทที่ 4 การสานปลาตะเพียนจากก้านมะพร้าว
บทที่ 4 การสานปลาตะเพียนจากก้านมะพร้าว
 
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 4
แผนบริหารการสอนประจำบทที่  4แผนบริหารการสอนประจำบทที่  4
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 4
 
อ.วนิดา บทที่ 2 (ตำราสารสนเทศท้องถิ่น) 10 july 57
อ.วนิดา  บทที่ 2 (ตำราสารสนเทศท้องถิ่น) 10 july 57อ.วนิดา  บทที่ 2 (ตำราสารสนเทศท้องถิ่น) 10 july 57
อ.วนิดา บทที่ 2 (ตำราสารสนเทศท้องถิ่น) 10 july 57
 
Learning Style
Learning StyleLearning Style
Learning Style
 
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 4
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 4แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 4
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 4
 
ลักษณะของสารสนเทศท้องถิ่น
ลักษณะของสารสนเทศท้องถิ่นลักษณะของสารสนเทศท้องถิ่น
ลักษณะของสารสนเทศท้องถิ่น
 
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 3
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 3แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 3
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 3
 
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 6 new2
แผนบริหารการสอนประจำบทที่  6 new2แผนบริหารการสอนประจำบทที่  6 new2
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 6 new2
 
ประเภทของสารสนเทศท้องถิ่น
ประเภทของสารสนเทศท้องถิ่นประเภทของสารสนเทศท้องถิ่น
ประเภทของสารสนเทศท้องถิ่น
 
คำถามท้ายบทบทที่ 8
คำถามท้ายบทบทที่ 8คำถามท้ายบทบทที่ 8
คำถามท้ายบทบทที่ 8
 
คำถามท้ายบทบทที่ 9
คำถามท้ายบทบทที่ 9คำถามท้ายบทบทที่ 9
คำถามท้ายบทบทที่ 9
 
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 8
แผนบริหารการสอนประจำบทที่  8แผนบริหารการสอนประจำบทที่  8
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 8
 

Similar to อ.วนิดา บทที่ 3 (ตำราสารสนเทศท้องถิ่น) 10 july 57

การพัฒนาแหล่งการเรียนรู้
การพัฒนาแหล่งการเรียนรู้การพัฒนาแหล่งการเรียนรู้
การพัฒนาแหล่งการเรียนรู้fonrin
 
การพัฒนาแหล่งการเรียนรู้
การพัฒนาแหล่งการเรียนรู้การพัฒนาแหล่งการเรียนรู้
การพัฒนาแหล่งการเรียนรู้fonrin
 
แผนการจัดการเรียนรู้ ป.4-6 หน่วย 6+477+dltvsocp5+T2 p4 6-u06-soc
แผนการจัดการเรียนรู้ ป.4-6 หน่วย 6+477+dltvsocp5+T2 p4 6-u06-socแผนการจัดการเรียนรู้ ป.4-6 หน่วย 6+477+dltvsocp5+T2 p4 6-u06-soc
แผนการจัดการเรียนรู้ ป.4-6 หน่วย 6+477+dltvsocp5+T2 p4 6-u06-socPrachoom Rangkasikorn
 
แผนการจัดการเรียนรู้ ป.4-6 หน่วย 6+494+dltvsocp6+T2 p4 6-u06-soc
แผนการจัดการเรียนรู้ ป.4-6 หน่วย 6+494+dltvsocp6+T2 p4 6-u06-socแผนการจัดการเรียนรู้ ป.4-6 หน่วย 6+494+dltvsocp6+T2 p4 6-u06-soc
แผนการจัดการเรียนรู้ ป.4-6 หน่วย 6+494+dltvsocp6+T2 p4 6-u06-socPrachoom Rangkasikorn
 
รูปเล่มโครงงานสำรวจป่าไม้ในตำบลคำนาดี
รูปเล่มโครงงานสำรวจป่าไม้ในตำบลคำนาดีรูปเล่มโครงงานสำรวจป่าไม้ในตำบลคำนาดี
รูปเล่มโครงงานสำรวจป่าไม้ในตำบลคำนาดีอาภัสรา ยิ่งคำแหง
 
โครงร่างโครงงาน
โครงร่างโครงงานโครงร่างโครงงาน
โครงร่างโครงงาน09nattakarn
 
โครงร่างโครงงาน
โครงร่างโครงงานโครงร่างโครงงาน
โครงร่างโครงงาน09nattakarn
 
โครงการเขาหินซ้อน
โครงการเขาหินซ้อนโครงการเขาหินซ้อน
โครงการเขาหินซ้อนCook-butter
 
ส่วนที่ 1 ข้อมูลพื้นฐาน 11
ส่วนที่ 1   ข้อมูลพื้นฐาน 11ส่วนที่ 1   ข้อมูลพื้นฐาน 11
ส่วนที่ 1 ข้อมูลพื้นฐาน 11aj_moo
 
โครงการรักชาติถูกทางสร้างเสริมความซื่อสัตย์สุจริต ประจำปี 2555
โครงการรักชาติถูกทางสร้างเสริมความซื่อสัตย์สุจริต ประจำปี 2555โครงการรักชาติถูกทางสร้างเสริมความซื่อสัตย์สุจริต ประจำปี 2555
โครงการรักชาติถูกทางสร้างเสริมความซื่อสัตย์สุจริต ประจำปี 2555พงษ์ขจร บุญพงษ์
 
โครงการรักชาติถูกทางสร้างเสริมความซื่อสัตย์สุจริต ประจำปี 2556
โครงการรักชาติถูกทางสร้างเสริมความซื่อสัตย์สุจริต ประจำปี 2556โครงการรักชาติถูกทางสร้างเสริมความซื่อสัตย์สุจริต ประจำปี 2556
โครงการรักชาติถูกทางสร้างเสริมความซื่อสัตย์สุจริต ประจำปี 2556พงษ์ขจร บุญพงษ์
 
หน้าหลักรวม1
หน้าหลักรวม1หน้าหลักรวม1
หน้าหลักรวม1kurorma Bent
 

Similar to อ.วนิดา บทที่ 3 (ตำราสารสนเทศท้องถิ่น) 10 july 57 (20)

$Rvri4 lq
$Rvri4 lq$Rvri4 lq
$Rvri4 lq
 
แผนการจัดการเรียนรู้ที่๗
แผนการจัดการเรียนรู้ที่๗แผนการจัดการเรียนรู้ที่๗
แผนการจัดการเรียนรู้ที่๗
 
การพัฒนาแหล่งการเรียนรู้
การพัฒนาแหล่งการเรียนรู้การพัฒนาแหล่งการเรียนรู้
การพัฒนาแหล่งการเรียนรู้
 
การพัฒนาแหล่งการเรียนรู้
การพัฒนาแหล่งการเรียนรู้การพัฒนาแหล่งการเรียนรู้
การพัฒนาแหล่งการเรียนรู้
 
krongkan
krongkankrongkan
krongkan
 
แผนการจัดการเรียนรู้ ป.4-6 หน่วย 6+477+dltvsocp5+T2 p4 6-u06-soc
แผนการจัดการเรียนรู้ ป.4-6 หน่วย 6+477+dltvsocp5+T2 p4 6-u06-socแผนการจัดการเรียนรู้ ป.4-6 หน่วย 6+477+dltvsocp5+T2 p4 6-u06-soc
แผนการจัดการเรียนรู้ ป.4-6 หน่วย 6+477+dltvsocp5+T2 p4 6-u06-soc
 
แผนการจัดการเรียนรู้ ป.4-6 หน่วย 6+494+dltvsocp6+T2 p4 6-u06-soc
แผนการจัดการเรียนรู้ ป.4-6 หน่วย 6+494+dltvsocp6+T2 p4 6-u06-socแผนการจัดการเรียนรู้ ป.4-6 หน่วย 6+494+dltvsocp6+T2 p4 6-u06-soc
แผนการจัดการเรียนรู้ ป.4-6 หน่วย 6+494+dltvsocp6+T2 p4 6-u06-soc
 
รูปเล่มโครงงานสำรวจป่าไม้ในตำบลคำนาดี
รูปเล่มโครงงานสำรวจป่าไม้ในตำบลคำนาดีรูปเล่มโครงงานสำรวจป่าไม้ในตำบลคำนาดี
รูปเล่มโครงงานสำรวจป่าไม้ในตำบลคำนาดี
 
หน้าที่พลเมือง
หน้าที่พลเมืองหน้าที่พลเมือง
หน้าที่พลเมือง
 
ใบงานที่3
ใบงานที่3ใบงานที่3
ใบงานที่3
 
โครงร่างโครงงาน
โครงร่างโครงงานโครงร่างโครงงาน
โครงร่างโครงงาน
 
โครงร่างโครงงาน
โครงร่างโครงงานโครงร่างโครงงาน
โครงร่างโครงงาน
 
โครงการเขาหินซ้อน
โครงการเขาหินซ้อนโครงการเขาหินซ้อน
โครงการเขาหินซ้อน
 
โครงการส่งเสริมการอ่าน ๒๕๕๖
โครงการส่งเสริมการอ่าน ๒๕๕๖โครงการส่งเสริมการอ่าน ๒๕๕๖
โครงการส่งเสริมการอ่าน ๒๕๕๖
 
ส่วนที่ 1 ข้อมูลพื้นฐาน 11
ส่วนที่ 1   ข้อมูลพื้นฐาน 11ส่วนที่ 1   ข้อมูลพื้นฐาน 11
ส่วนที่ 1 ข้อมูลพื้นฐาน 11
 
โครงการรักชาติถูกทางสร้างเสริมความซื่อสัตย์สุจริต ประจำปี 2555
โครงการรักชาติถูกทางสร้างเสริมความซื่อสัตย์สุจริต ประจำปี 2555โครงการรักชาติถูกทางสร้างเสริมความซื่อสัตย์สุจริต ประจำปี 2555
โครงการรักชาติถูกทางสร้างเสริมความซื่อสัตย์สุจริต ประจำปี 2555
 
โครงการรักชาติถูกทางสร้างเสริมความซื่อสัตย์สุจริต ประจำปี 2556
โครงการรักชาติถูกทางสร้างเสริมความซื่อสัตย์สุจริต ประจำปี 2556โครงการรักชาติถูกทางสร้างเสริมความซื่อสัตย์สุจริต ประจำปี 2556
โครงการรักชาติถูกทางสร้างเสริมความซื่อสัตย์สุจริต ประจำปี 2556
 
Payalithai journal 2557
Payalithai journal 2557Payalithai journal 2557
Payalithai journal 2557
 
หน้าหลักรวม1
หน้าหลักรวม1หน้าหลักรวม1
หน้าหลักรวม1
 
ความสำคัญของพระมหากษัตริย์ต่อชาติไทย
ความสำคัญของพระมหากษัตริย์ต่อชาติไทยความสำคัญของพระมหากษัตริย์ต่อชาติไทย
ความสำคัญของพระมหากษัตริย์ต่อชาติไทย
 

More from นางสาวอัมพร แสงมณี

อ.วนิดา บทที่-7-ตำราสารสนเทศท้องถิ่น-20-july-57
อ.วนิดา บทที่-7-ตำราสารสนเทศท้องถิ่น-20-july-57อ.วนิดา บทที่-7-ตำราสารสนเทศท้องถิ่น-20-july-57
อ.วนิดา บทที่-7-ตำราสารสนเทศท้องถิ่น-20-july-57นางสาวอัมพร แสงมณี
 

More from นางสาวอัมพร แสงมณี (17)

คำถามท้ายบทบทที่ 7
คำถามท้ายบทบทที่ 7คำถามท้ายบทบทที่ 7
คำถามท้ายบทบทที่ 7
 
คำถามท้ายบทบทที่ 6
คำถามท้ายบทบทที่ 6คำถามท้ายบทบทที่ 6
คำถามท้ายบทบทที่ 6
 
คำถามท้ายบทบทที่ 5
คำถามท้ายบทบทที่ 5คำถามท้ายบทบทที่ 5
คำถามท้ายบทบทที่ 5
 
คำถามท้ายบทบทที่ 4
คำถามท้ายบทบทที่ 4คำถามท้ายบทบทที่ 4
คำถามท้ายบทบทที่ 4
 
คำถามท้ายบทบทที่ 3
คำถามท้ายบทบทที่ 3คำถามท้ายบทบทที่ 3
คำถามท้ายบทบทที่ 3
 
คำถามท้ายบทบทที่ 2
คำถามท้ายบทบทที่ 2คำถามท้ายบทบทที่ 2
คำถามท้ายบทบทที่ 2
 
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 9
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 9แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 9
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 9
 
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 8
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 8แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 8
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 8
 
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 7
แผนบริหารการสอนประจำบทที่  7แผนบริหารการสอนประจำบทที่  7
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 7
 
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 7
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 7แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 7
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 7
 
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 6
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 6แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 6
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 6
 
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 6
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 6แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 6
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 6
 
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 5
แผนบริหารการสอนประจำบทที่  5แผนบริหารการสอนประจำบทที่  5
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 5
 
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 5
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 5แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 5
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 5
 
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 3
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 3แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 3
แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 3
 
อ.วนิดา บทที่-7-ตำราสารสนเทศท้องถิ่น-20-july-57
อ.วนิดา บทที่-7-ตำราสารสนเทศท้องถิ่น-20-july-57อ.วนิดา บทที่-7-ตำราสารสนเทศท้องถิ่น-20-july-57
อ.วนิดา บทที่-7-ตำราสารสนเทศท้องถิ่น-20-july-57
 
บทที่2 ระบบการเรียนการสอน
บทที่2  ระบบการเรียนการสอนบทที่2  ระบบการเรียนการสอน
บทที่2 ระบบการเรียนการสอน
 

อ.วนิดา บทที่ 3 (ตำราสารสนเทศท้องถิ่น) 10 july 57

  • 1. 37 บทที่ 3 แหล่งเรียนรู้ในชุมชน แหล่งเรียนรู้ในชุมชนมีบทบาทสาคัญในการจัดการศึกษา ซึ่งเป็นขุมพลังทาให้เกิดการ ขับเคลื่อนในสังคมแห่งการเรียนรู้ยุคปฏิรูปการศึกษา โดยสอดคล้องกับแนวการจัดการศึกษาตาม พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2545 หมวดที่ 4 มาตรา 2 กล่าวว่า การจัดการเรียนรู้ในห้องเรียนอย่างเดียวไม่เพียงพอ การสร้างบรรยากาศสภาพแวดล้อมที่ เอื้อต่อการเรียนรู้ให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ทุกเวลา การส่งเสริมการดาเนินงานและการจัดตั้งแหล่ง เรียนรู้ตลอดชีวิตทุกรูปแบบและหลากหลาย ได้แก่ ห้องสมุดประชาชน พิพิธภัณฑ์ หอศิลป์ สวนสาธารณะ สวนสัตว์ สวนพฤกษศาสตร์ อุทยานแห่งชาติและเทคโนโลยี ศูนย์กีฬาและ นันทนาการ แหล่งข้อมูลและแหล่งเรียนรู้อื่นอย่างพอเพียงและมีประสิทธิภาพ อันเป็นแนวทาง ปฏิบัติที่สาคัญและจาเป็นที่จะช่วยให้การปฏิรูปการศึกษาสาเร็จได้ ดังนั้นการจัดการเรียนการสอน เน้นส่งเสริมให้ผู้เรียนรู้จักค้นคว้าหาความรู้ด้วยตนเองโดยใช้แหล่งเรียนรู้ในชุมชนให้เกิดประโยชน์ โดยแหล่งเรียนรู้ในชุมชนจาแนกตามประเภทบุคคล ประเภททรัพยากรธรรมชาติ ประเภทสิ่งที่มนุษย์ สร้างขึ้น และประเภทกิจกรรมทางสังคม ประเพณีและความเชื่อ เพื่อส่งเสริมให้การเรียนการสอนมี ประสิทธิภาพเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการจัดการศึกษา ความหมายของแหล่งเรียนรู้ในชุมชน แหล่งเรียนรู้ในชุมชน หรือแหล่งวิทยาการในชุมชน ซึ่งตรงกับคาภาษาอังกฤษว่า Community resources หรือ Local resource โดยมีความหมายที่คล้ายคลึงกันดังนี้ เกษมสันติ์ ศรีคาแซง (2553 : 40) สรุปว่า แหล่งความรู้ในชุมชน หมายถึง สิ่งที่มีชีวิต และไม่มีชีวิต ได้แก่ บุคคล สถานที่ สถาบันต่าง ๆ สิ่งของ ธรรมชาติแวดล้อม สภาพสังคม เศรษฐกิจ การเมือง วัฒนธรรม และเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ผู้เรียนเข้าไปปฏิสัมพันธ์และเรียนรู้ได้ด้วย ตนเองโดยประสบการณ์ตรง และได้ความรู้ใหม่ ๆ ที่มีคุณค่า สามารถนาไปใช้ประโยชน์ใน ชีวิตประจาวันได้
  • 2. 38 ทวีป อภิสิทธิ์ (2554 : 67) กล่าวว่า แหล่งเรียนรู้จัดเป็นสถานที่ที่เพิ่มเติมความรู้และ ประสบการณ์ให้แก่ผู้สนใจศึกษาเรียนรู้ตามความต้องการของผู้ใช้แต่ละคนที่แตกต่างกัน ธาตรี สุภเสถียร (2552 : 12) สรุปไว้ว่า แหล่งการเรียนรู้ในชุมชน หมายถึง สิ่งที่มีอยู่ ในชุมชนที่มีคุณค่าต่อการศึกษาที่โรงเรียนสามารถนามาจัดการเรียนการสอนให้ผู้เรียนมีความรู้ตาม จุดประสงค์ได้ ซึ่งได้แก่ แหล่งโบราณสถาน แหล่งโบราณวัตถุ สถานที่ทางราชการ บุคคลสาคัญ ภูมิปัญญาท้องถิ่น ทรัพยากรธรรมชาติและขนบธรรมเนียมประเพณี จากความหมายข้างต้น สรุปได้ว่า แหล่งเรียนรู้ในชุมชน คือ ทุกสิ่งทุกอย่างที่มีอยู่ใน ชุมชน ไม่ว่าจะเป็นบุคคล สถานที่ สถาบัน องค์กร ตลอดจนทั้งวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่มนุษย์สร้าง ขึ้น สิ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ตลอดจนวัฒนธรรม ประเพณี ความเชื่อที่จัดขึ้นในชุมชนที่มี คุณค่าเป็นประโยชน์ต่อการเรียนการสอน เพื่อให้เกิดการเรียนรู้และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ระหว่างกลุ่มเพื่อน ระหว่างครูกับผู้เรียน ระหว่างวิทยากรประจาแหล่งการเรียนรู้กับครูและผู้เรียน รวมทั้งเป็นแหล่งที่ผู้เรียนอาจอาศัยการสืบค้นของตนเองเพื่อแสวงหาความรู้เพิ่มเติมและเพิ่มพูน ประสบการณ์ตรง และสามารถนาไปเป็นส่วนหนึ่งของการจัดกระบวนการเรียนรู้ เพื่อการพัฒนา ความรู้ความสามารถของผู้เรียนได้ ความสาคัญของแหล่งเรียนรู้ในชุมชน แหล่งเรียนรู้ในชุมชนมีความสาคัญ ดังนี้ ชุติมา ศิริวงศ์ (2551 : 17) กล่าวว่า การใช้แหล่งเรียนรู้ในชุมชนมีความสาคัญต่อการ เรียนรู้ของผู้เรียนเป็นอย่างยิ่ง เพราะการได้รับประสบการณ์ตรงจากแหล่งเรียนรู้ในชุมชน จะทาให้ ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ และตระหนักถึงคุณค่าทรัพยากรที่มีอยู่ในท้องถิ่นของตน เป็นโอกาสที่ดีที่ ผู้เรียนได้รับความรู้เพิ่มเติมควบคู่กับการฝึกความสามารถในการเรียนรู้ต่าง ๆ อาทิ การสังเกต การ ตั้งคาถาม การปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น ซึ่งความรู้ความเข้าใจ รวมถึงความสามารถที่ผู้เรียนได้รับจาก กระบวนการเรียนรู้โดยใช้แหล่งเรียนรู้นั้น ล้วนเป็นสิ่งที่ผู้เรียนสามารถนาไปใช้ประโยชน์ใน ชีวิตประจาวันได้ ทาให้ผู้เรียนเห็นคุณค่าของความรู้และความสามารถที่ตนได้เรียนรู้ ส่งผลให้ผู้เรียน เกิดความรักและความเพลิดเพลินในการเรียนรู้มากยิ่งขึ้น ดาริ บุญชู (2548 : 28) ได้กล่าวถึงความสาคัญของแหล่งการเรียนรู้ ไว้ดังนี้
  • 3. 39 1. เป็นแหล่งที่รวมขององค์ความรู้อันหลากหลาย พร้อมที่จะให้ผู้เรียนเข้าไปศึกษา ค้นคว้าด้วยกระบวนการจัดการเรียนรู้ที่แตกต่างกันของแต่ละบุคคล และเป็นการส่งเสริมการเรียนรู้ ตลอดชีวิต 2. เป็นแหล่งเชื่อมโยงให้สถานศึกษาและชุมชนมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกัน ทาให้คนใน ชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาแก่บุตรหลานของตน 3. เป็นแหล่งข้อมูลที่ทาให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อย่างมีความสุข เกิดความสนุกสนาน และมีความสนใจที่จะเรียนรู้ ไม่เกิดความเบื่อหน่าย 4. ทาให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้จากการคิดได้เอง ปฏิบัติเองและสร้างความรู้ด้วยตนเอง ขณะเดียวกันก็สามารถเข้าร่วมกิจกรรม และทางานร่วมกับผู้อื่นได้ 5. ทาให้ผู้เรียนได้รับการปลูกฝังให้รู้และรักท้องถิ่นของตน มองเห็นคุณค่าและตระหนัก ถึงปัญหาในชุมชนของตน พร้อมที่จะเป็นสมาชิกที่ดีของชุมชนทั้งในปัจจุบันและอนาคต บรรเจิด มีกุล (2555 : 22) กล่าวถึง แหล่งเรียนรู้ในชุมชนว่ามีความสาคัญต่อการเรียน การสอนเป็นอย่างมากเพราะทาให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ และสภาพชุมชนที่ตนอาศัยอยู่ได้อย่าง แท้จริงเป็นการได้รับประสบการณ์ตรงอย่างแท้จริง ส่งผลให้การเรียนการสอนบรรลุตามจุดประสงค์ ตามที่ตั้งไว้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล ประสิทธิ์ พิทักษ์คชวงค์ (2554 : 30) แหล่งการเรียนรู้ในชุมชนมีความสาคัญและจาเป็น ต่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่ยึดเด็กเป็นศูนย์กลาง โดยเน้นการศึกษาหาความรู้สร้างองค์ความรู้ได้ ด้วยตนเอง จากสื่อและแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลายส่งเสริมการศึกษาตลอดชีวิตอย่างต่อเนื่อง โดย อาศัยการบริหารจัดการที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพ สรุปได้ว่า แหล่งเรียนรู้ในชุมชนมีความสาคัญเป็นแหล่งสร้างเสริมความรู้ ความคิด แลกเปลี่ยนประสบการณ์ตรง หรือลงมือปฏิบัติได้จริง โดยอาศัยการมีปฏิสัมพันธ์เพื่อกระตุ้นให้เกิด การเรียนรู้ การแสวงหาความรู้ด้วยตนเองตลอดเวลา และส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างคนใน ท้องถิ่นกับผู้เข้าศึกษาในการทากิจกรรมร่วมกัน ช่วยสร้างความรู้สึกของการเป็นส่วนหนึ่งของการมี ส่วนร่วม เกิดความตระหนักและเห็นคุณค่าของแหล่งเรียนรู้
  • 4. 40 ประเภทของแหล่งเรียนรู้ในชุมชน แหล่งเรียนรู้ในชุมชนมีการจาแนกตามลักษณะ ออกเป็น 5 ประเภท ดังนี้ 1. แหล่งเรียนรู้ในชุมชนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แหล่งเรียนรู้ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติที่เป็นประสบการณ์ให้ผู้เรียนสามารถสร้างองค์ ความรู้ได้จากสภาพจริง เช่น ภูเขา ดิน ทุ่งนา ป่าไม้ แร่ธาตุ ทะเล เกาะ แม่น้า ลาคลอง น้าตก อุทยานแห่งชาติ วนอุทยาน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า สวนพฤกษศาสตร์ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติ เป็นต้น ได้กล่าวถึง (เกษม คาบุตดา. 2550 : 10-11 ; ดาริ บุญชู. 2548 : 28 ; ทวีป อภิสิทธิ์. 2554 : 41 ; สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. 2547 : 3-4 ; สุจิตรา ภักดีสงคราม. 2551 : 145) 1.1 อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไทยประกาศ จัดตั้งเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2505 ตั้งอยู่บริเวณเทือกเขาพนมดงรักหรือบริเวณขอบทางด้านทิศ ตะวันตกเฉียงใต้ของที่ราบสูงโคราช มีเนื้อที่ประมาณ 2,168 ตารางกิโลเมตร หรือ 1,355,396 ไร่ ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ มีอาณาเขตติดต่อกันถึง 11 อาเภอ 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัด ปราจีนบุรี นครนายก นครราชสีมา และสระบุรี ได้รับสมญานามว่าเป็น “อุทยานมรดกของอาเซียน” เป็นผืนป่าใหญ่ต้นกาเนิดของต้นน้าลาธารที่สาคัญหลายสาย เช่น แม่น้านครนายก และแม่น้ามูล อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพันธุ์ไม้และสัตว์ป่านานาชนิด เช่น ช้างป่า กวางป่า เก้ง กระทิง เสือ ตลอดจนมี ลักษณะทางธรรมชาติที่สวยงาม
  • 5. 41 ภาพที่ 3.1 เว็บไซต์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่มา : สานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (ปราจีนบุรี). ออนไลน์. 2558. 1.2 อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ตั้งอยู่ตาบลเมืองเก่า อาเภอเมืองสุโขทัย จังหวัด สุโขทัย บริเวณพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยครอบคลุมพื้นที่กว่า 70 ตารางกิโลเมตร ในอดีต เมืองสุโขทัยเคยเป็นราชธานีของไทยมีความเจริญรุ่งเรือง เป็นศูนย์กลางการปกครอง ศาสนา และ เศรษฐกิจ ภายในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย มีสถานที่สาคัญที่เป็นพระราชวัง ศาสนสถาน โบราณสถานสาคัญที่น่าชมมากมาย เช่น วัดมหาธาตุ วัดชนะสงคราม เนินปราสาทพระร่วง หรือ เขตพระราชวังในสมัยสุโขทัย วัดตระพังเงิน วัดสระศรี วัดศรีสวาย ศาลตาผาแดง วัดพระพายหลวง วัดศรีชุม วัดช้างรอบ วัดสะพานหิน วัดเชตุพน วัดเจดีย์สี่ห้อง วัดช้างล้อม วัดตระพังทองหลาง โดย มีคูเมือง กาแพงเมืองสุโขทัย และประตูเมืองโบราณล้อมรอบอยู่ในรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส
  • 6. 42 ภาพที่ 3.2 โบราณสถานภายในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่มา : ถ่ายเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2557 ณ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย พระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคาแหงมหาราช สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2518 ตั้งอยู่ริมถนนจรดวิถีถ่อง ทางทิศเหนือของวัดมหาธาตุ ลักษณะพระบรมรูปพ่อขุนรามคาแหง มหาราชเป็นพระบรมรูปหล่อด้วยโลหะทองเหลืองผสมทองแดงรมดา ขนาด 2 เท่าขององค์จริง สูง 3 เมตร ประทับนั่งห้อยพระบาทบนแท่นมนังคศิลาบาตร พระหัตถ์ขวาถือคัมภีร์ พระหัตถ์ซ้ายอยู่ ในท่าทรงสั่งสอนประชาชน แท่นด้านซ้ายมีพานวางพระขรรค์ไว้ข้าง ๆ ลักษณะพระพักตร์เหมือน อย่างพระพุทธรูปสมัยสุโขทัยตอนต้นที่ถ่ายทอดความรู้สึกว่า พ่อขุนรามคาแหงมหาราชมีน้าพระทัย เมตตากรุณา ยุติธรรม มีความเด็ดขาดในการปกครองแบบพ่อปกครองลูก ที่ด้านข้างมีภาพแผ่น จาหลักจารึกเหตุการณ์เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระองค์ตามที่อ้างถึงในจารึกสุโขทัย
  • 7. 43 ภาพที่ 3.3 พระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคาแหงมหาราช ที่มา : ถ่ายเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2557 ณ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ภาพที่ 3.4 ศิลาจารึกพ่อขุนรามคาแหง ที่มา : ถ่ายเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2557 ณ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย
  • 8. 44 2. แหล่งเรียนรู้ในชุมชนที่สร้างขึ้น แหล่งเรียนรู้ที่มนุษย์สร้างเพื่อสืบทอดศิลปวัฒนธรรม ตลอดจนเทคโนโลยีและสิ่ง อานวยความสะดวกของมนุษย์ เช่น สถานที่สาคัญทางด้านประวัติศาสตร์ โบราณสถาน โบราณวัตถุ สถานที่ราชการ สถาบันทางการศึกษา สถาบันทางศาสนา อุทยาน ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน ศูนย์ วัฒนธรรม พิพิธภัณฑ์ ห้องสมุดประชาชน ตลาด ศูนย์การค้า บริษัท ธนาคาร โรงมหรสพ โรงงานอุตสาหกรรม สะพาน เขื่อน ฝายทดน้า สวนสาธารณะ สวนผัก สวนผลไม้ สวนสัตว์ สนามกีฬา สนามบิน เป็นต้น 2.1 ห้องสมุดสีเขียว หรือ “Green Library” ห้องสมุดประชาชนต้นแบบประหยัด พลังงานแห่งแรกในไทยและเอเชีย ห้องสมุดสีเขียว ตั้งอยู่ ณ สวนเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ ในชุมชนร่มเกล้า เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร เปิดให้บริการประชาชนทุกวันอังคาร-วัน อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น. (หยุดวันจันทร์และวันนักขัตฤกษ์) ห้องสมุดสีเขียวก่อสร้าง ขึ้นมาเพื่อให้เป็นแหล่งศึกษาหาความรู้ และมีเป้าหมายให้เป็นอาคารต้นแบบสาหรับประชาชนและ เยาวชนได้เข้ามาศึกษาวิธีการประหยัดพลังงานและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในการใช้ ชีวิตประจาวันอย่างง่าย ๆ ซึ่งสามารถนาแนวคิดนี้ไปต่อยอดปรับปรุงบ้านของตัวเองให้น่าอยู่ขึ้น จุดเด่นอีกประการของห้องสมุดสีเขียวคือ มีโซนนิทรรศการที่รวมเกร็ดความรู้ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสภาวะโลกร้อน และรวมรายละเอียดการประหยัดพลังงานและสิ่งแวดล้อมให้ผู้มา เยือนได้ทราบ และมีการแยกโซนห้องอ่านหนังสือของเด็กและผู้ใหญ่ออกจากกัน โดยในห้องอ่าน หนังสือสาหรับเยาวชนจะเต็มไปด้วยหนังสือเยาวชนที่น่าสนใจมากมาย รวมทั้งมีคอมพิวเตอร์ที่ เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และโทรทัศน์สาหรับฉายภาพยนตร์ต่าง ๆ มีเบาะนั่งสบาย ๆ สาหรับเด็ก และในช่วงวันหยุดยังมีการจัดกิจกรรมที่ให้ความรู้เรื่องการประหยัดพลังงานและการนาวัสดุรีไซเคิล มาใช้ประโยชน์ เพื่อสร้างบรรยากาศแห่งการเรียนรู้ ทากิจกรรมร่วมกันระหว่างครอบครัวพ่อ-แม่- ลูก ให้เกิดขึ้นอีกด้วย
  • 9. 45 ภาพที่ 3.5 บรรยากาศห้องสมุดสีเขียว ที่มา : ห้องสมุดสีเขียว. ออนไลน์. 2557. 2.2 พิพิธภัณฑ์ภาพ 3 มิติ โคราช ตั้งอยู่ในโครงการไพลินสแควร์ (ตะวันแดงสาดแสง เดือน) ติดทางรถไฟถนนสืบศิริ อาเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา มีลักษณะเป็นงานศิลปะมากกว่า 100 ภาพ สามารถเข้าไปมีส่วนร่วมถ่ายภาพ ผลงานทั้งหมดสร้างสรรค์โดยศิลปินชาวโคราช 8 ท่าน มีแก่นเรื่องที่หลากหลายทั้งแนวธรรมชาติ ฉากจากภาพยนตร์ ไปจนถึงงานศิลปะที่สะท้อนกลิ่นอาย ของความเป็นจังหวัดนครราชสีมา เช่น ภาพหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ภาพพลเอกชาติชาย ชุณหะวัน ขี่ชอปเปอร์ ภาพนักมวยสมจิตร จงจอหอ ปราสาทหินพิมาย หรือน้าตกเหวสุวัตที่เขาใหญ่ จึง แน่ใจว่าภาพศิลปะของที่นี่ไม่ซ้าแบบกับแกลอรี่ในจังหวัดอื่น ๆ
  • 10. 46 ภาพที่ 3.6 ภาพหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ณ พิพิธภัณฑ์ภาพ 3 มิติ โคราช ณ พิพิธภัณฑ์ภาพ 3 มิติ โคราช ที่มา : ถ่ายเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2557 ณ พิพิธภัณฑ์ภาพ 3 มิติ โคราช ภาพที่ 3.7 ภาพปราสาทหินพิมาย ณ พิพิธภัณฑ์ภาพ 3 มิติ โคราช ที่มา : ถ่ายเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2557 ณ พิพิธภัณฑ์ภาพ 3 มิติ โคราช
  • 11. 47 2.3 สวนสัตว์นครราชสีมา หรือที่เรียกว่า ซาฟารีอีสาน ตั้งอยู่ที่ 111 หมู่ที่ 1 ตาบล ไชยมงคล อาเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา รหัสไปรษณีย์ 30000 ด้วยพื้นที่ทั้งหมด 545 ไร่ ซึ่งมี การแสดงสัตว์ป่านานาชนิด อยู่ในความดูแลทั้งหมดประมาณ 1,800 ตัว สภาพภูมิอากาศเหมาะสม ตามหลักภูมิศาสตร์ การนาสัตว์ต่าง ๆ จากแอฟริกามาจัดแสดง ได้แก่ 5 สัตว์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งทุ่งหญ้า แอฟริกา ได้แก่ สิงโต เสือดาว-เสือดา ช้างแอฟริกา แรดขาว ควายป่าแอฟริกา ทั้งยังมียีราฟ ม้าลาย กลุ่มแอนติโลป ครอบครัวลิงซิมแปนซีใหญ่ที่สุด อาคารสัตว์หากินกลางคืน สัตว์สะเทินน้า สะเทินบก ภาพที่ 3.8 บรรยากาศภายในสวนสัตว์นครราชสีมา ที่มา : ถ่ายเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2553 ณ สวนสัตว์นครราชสีมา การแสดงความสามารถของแมวน้า พบกับการแสดงความสามารถของแมวน้า สายพันธุ์เคปเฟอร์ซีล นอกจากได้รับความสนุกสนานและเสียงหัวเราะจากแมวน้าแสนรู้แล้วยังได้รับ ความรู้ทางธรรมชาติของแมวน้าและยังเป็นมหาวิทยาลัยแมวน้าแห่งแรกในประเทศไทยที่ฝึกสอน แมวน้าจากสวนสัตว์ทั่วประเทศ เปิดทาการแสดงทุกวัน วันจันทร์ - ศุกร์ 2 รอบ เวลา 11.00 น. และ 14 .00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ 4 รอบ เวลา 10.30 น. 11.30 น. 13.30 น. และ 15.30 น. บริการศูนย์ประชุมสัมมนา พร้อมอุปกรณ์นาเสนองานที่ทันสมัย ความจุ 150- 200 คน บริการบ้านพักรับรอง บ้านพักทรงไทยริมสระน้า จานวน 22 หลัง พร้อมด้วยสิ่งอานวย ความสะดวกครบครัน บริการด้านการเที่ยวชม ได้แก่ การให้บริการจักรยาน รถกอล์ฟให้เช่า รถรางนาชม รถเอทีวีสาหรับเด็ก รถมอร์เตอ์ไซต์จิ๋ว เรือเล็กเจ็ทโบ๊ท เครื่องเล่นหยอดเหรียญ
  • 12. 48 ร้านนวดแผนโบราณ ร้านถ่ายภาพที่ระลึก ร้านจาหน่ายสินค้าที่ระลึก และสวนน้า "korat Zoo Lagoon" สวนน้าสันทนาการเพื่อการเรียนรู้สาหรับทุกคนในครอบครัวที่ใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน พร้อมกับโลมาปลาหมึก และช้างพ่นน้า สระน้าวนที่ใสสะอาด บริการโครงการนานักเรียนเข้าศึกษาเรียนรู้ในสวนสัตว์ มี 2 โปรแกรม คือ 1 โปรแกรม 1 วัน และโปรแกรม 2 วัน 1 คืน เป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องสัตว์ป่าโดยมีหลักสูตรการเรียนใน ด้านการอนุรักษ์และธรรมชาติวิทยา อันเป็นการปลูกฝังให้เยาวชนมีจิตสานึกในการร่วมอนุรักษ์สัตว์ ป่า ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย หรือสนับสนุนในด้านค่าบัตรผ่านประตู ค่าบัตร เข้าชมการแสดงความสามารถของสัตว์ อาหาร ที่พัก และแบบเรียนรู้ มีอาคารค่ายพักแรมที่ สามารถรองรับได้ถึง 500 คน ศูนย์การเรียนรู้เพื่อการอนุรักษ์และโรงภาพยนตร์ขนาดเล็ก เพื่อให้นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้ชีวิตสัตว์ป่าธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีการ ออกแบบและมีสื่อการเรียนรู้ที่ทันสมัย นอกจากนั้นยังมีโรงภาพยนตร์ขนาดเล็กเปิดให้ชมสารคดี เกี่ยวกับธรรมชาติสัตว์ป่า และสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ผู้ที่สนใจเข้าชมโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย จุได้ ประมาณ 100 คน 3. แหล่งเรียนรู้ในชุมชนที่เป็นบุคคล บุคคลเป็นแหล่งเรียนรู้ที่ถ่ายทอดองค์ความรู้ ความสามารถ คุณธรรม จริยธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่นทั้งด้านการประกอบอาชีพ การสืบสานวัฒนธรรม ตลอดจนนักคิด นักประดิษฐ์ และผู้มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ในด้านต่าง ๆ ที่มีความเชี่ยวชาญหลากหลายสาขาวิชาชีพ บางท่าน เป็นปราชญ์ชาวบ้าน บางท่านเป็นอดีตข้าราชการที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะด้าน บางท่านเป็น ผู้นาทางศาสนา และบุคลากรในสถานศึกษา ซึ่งเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ตนมีอยู่ให้ผู้สนใจหรือผู้ ต้องการเรียนรู้ องค์ความรู้ของ นายจันทร์ที ประทุมภา ปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน ประจาปี 2554 สาขาปราชญ์เกษตรเศรษฐกิจพอเพียง อาเภอชุมพวง จังหวัดนครราชสีมา อาชีพเกษตรกรรม อายุ 73 ปี อยู่บ้านเลขที่ 138 บ้านโนนรัง หมู่ที่ 6 ตาบลตลาดไทร อาเภอชุมพวง จังหวัด นครราชสีมา
  • 13. 49 ผลงานดีเด่น 1. บุคคลที่มีความสามารถนาความรู้เรื่องเกษตรทฤษฎีใหม่มาใช้กับตนเองจนประสบ ความสาเร็จและยังสามารถถ่ายทอดความรู้ และขยายผลให้แก่ชาวบ้านจนประสบความสาเร็จ 2. แปลงเกษตรแบบประณีตในพื้นที่ 1 ไร่ หลังจากได้น้อมนาปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้แล้วประสบผลสาเร็จ ทาให้ จัดตั้งบ้านเป็นศูนย์เรียนรู้และถ่ายทอดความรู้เรื่องทฤษฎีใหม่ของพระองค์ ซึ่งขณะนี้เปิดเป็นศูนย์ การเรียนรู้ที่ใช้อบรมให้กับสานักงานเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเป็นศูนย์การเรียนรู้หนึ่งในจานวน 151 ศูนย์การเรียนรู้ทั่วประเทศ ผู้ที่เข้าอบรมคือเกษตรกรที่สนใจในเรื่องเกษตรทฤษฎีใหม่ มาอบรมเพื่อ ปรับเปลี่ยนแนวความคิดเปลี่ยนจิตสานึกให้รู้จักพึ่งตนเองและพึ่งพากันเองในชุมชนได้ ถ้าเกษตรกร อยากจะลดรายจ่ายในการทาเกษตร ก็ต้องให้ความรู้ในด้านต่าง ๆ เช่น การขยายพันธุ์พืช เพาะ เมล็ด ติดตา ทาบกิ่ง เสียบยอด การขยายเพาะพันธุ์ปลาเลี้ยงเอง และสอนวิธีทาหัวอาหารเลี้ยง ปลา ซึ่งเป็นการประหยัดและลดรายจ่ายเป็นอย่างมาก วัตถุดิบที่ทาหัวอาหารปลาก็นามาจาก การเกษตรทั้งนั้น เช่น ถั่ว มัน ข้าวโพด ทุกอย่างที่เกษตรกรทาและอีกส่วนหนึ่งคือสอนการทาปุ๋ย ชีวภาพ และทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับการเกษตรหรือเกี่ยวกับการลดรายจ่าย และจากการทางาน เพื่อสังคมที่ถ่ายทอดจากประสบการณ์จริงที่ได้สั่งสมมานั้น ทาให้นายจันทร์ทีได้รับการยอมรับให้ เป็นปราชญ์อีสานที่ทาหน้าที่ถ่ายทอดความรู้ให้แก่ผู้สนใจทั่วไป และในปีหนึ่งมีผู้เข้ามาเรียนรู้และ ชื่นชมผลงานของนายจันทร์ทีไม่ต่ากว่า 2-3 พันคน จากความมุ่งมั่นและจริงใจในการให้ความรู้ เนื่องจากนายจันทร์ทีคิดว่าการที่รู้แล้วไม่ควรเก็บไว้เพียงผู้เดียว ควรถ่ายทอดสิ่งดี ๆ ให้กับชุมชน เพราะคิดว่าตนเองเคยตกทุกข์ได้ยากมาจึงรู้ว่าถ้าทาอย่างถูกต้องจะทาให้สาเร็จ ดังนั้นจึงต้องขยาย ความรู้ให้กับคนอื่นและชุมชนต่อไป
  • 14. 50 ภาพที่ 3.9 นายจันทร์ที ประทุมภา ปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน ประจาปี 2554 ที่มา : กระทรวงเกษตรและสหกรณ์. ออนไลน์. 2558. 4. แหล่งเรียนรู้ในชุมชนตามกิจกรรมทางสังคม ประเพณีและความเชื่อ การปฏิบัติการด้านประเพณีวัฒนธรรม ตลอดจนการปฏิบัติการ ความเคลื่อนไหว เพื่อแก้ปัญหาและปรับปรุงพัฒนาสภาพต่าง ๆ ในท้องถิ่น การที่มนุษย์เข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรม ต่าง ๆ เช่น ขนบธรรมเนียมประเพณีพื้นบ้าน การละเล่นพื้นบ้าน กีฬาพื้นบ้าน วรรณกรรม ท้องถิ่น ศิลปะพื้นบ้าน ดนตรีพื้นบ้าน วิถีชีวิตความเป็นอยู่ประจาวัน เป็นต้น 5. แหล่งเรียนรู้ในชุมชนตามประเภทสื่อสารสนเทศ แหล่งเรียนรู้ที่ทาหน้าที่เป็นสื่อกลางในการถ่ายทอดเนื้อหาความรู้สารสนเทศให้ถึงกัน แหล่งเรียนรู้ประเภทนี้ ทาให้ขบวนการเรียนรู้เป็นไปได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพสูง เช่น วิทยุ วิทยุชุมชน หอกระจายข่าว โทรทัศน์ เคเบิลทีวี สื่อนวัตกรรม รวมทั้งเทคโนโลยีโสตทัศนวัสดุ สื่อสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ สื่ออิเล็กทรอนิคส์ผ่านอินเทอร์เน็ต เป็นต้น (ทวีป อภิสิทธิ์. 2554 : 42) สรุปได้ว่า ประเภทของแหล่งเรียนรู้ในชุมชน สามารถจาแนกได้ 5 ประเภท คือ 1) แหล่งเรียนรู้ในชุมชนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ คือ สิ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและอยู่รอบ ๆ ตัวเราที่ครูผู้สอนสามารถนาไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้สื่อธรรมชาติ 2) แหล่งเรียนรู้ใน ชุมชนที่สร้างขึ้น คือ สถานที่ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูล ให้บริการความรู้ในเรื่องต่าง ๆ ฝึกปฏิบัติ
  • 15. 51 และอบรมเกี่ยวกับงานและอาชีพต่าง ๆ ที่มีอยู่ในชุมชน 3) แหล่งเรียนรู้ในชุมชนที่เป็นบุคคล คือ บุคคลที่มีความรู้ความสามารถในการทางานและการประกอบอาชีพด้านต่าง ๆ ที่เกิดจากการสั่งสม ความรู้ประสบการณ์จนเกิดความชานาญและเชี่ยวชาญในอาชีพสาขานั้น ๆ 4) แหล่งเรียนรู้ในชุมชน ตามกิจกรรมทางสังคม ประเพณีและความเชื่อ คือ การปฏิบัติการด้านประเพณีวัฒนธรรม ตลอดจน การมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชน 5) แหล่งเรียนรู้ในชุมชนตาม ประเภทสื่อสารสนเทศ คือ สื่อนวัตกรรม รวมทั้งเทคโนโลยีโสตทัศนวัสดุ สื่ออิเล็กทรอนิคส์ สื่อ สิ่งพิมพ์ต่าง ๆ กรณีศึกษาแหล่งเรียนรู้ในชุมชน จิมทอมป์สันฟาร์ม ตั้งอยู่อาเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา พื้นที่กว่า 600 ไร่ บน เชิงเขาพญาปราบ ตาบลตะขบ โดยเริ่มจากเป็นแหล่งผลิตไข่ไหมจาหน่ายให้สมาชิกเกษตรกรเพื่อ รับซื้อรังสดในการผลิตเส้นไหมและเป็นพื้นที่ปลูกหม่อนอันเป็นอาหารหลักของหนอนไหม และเป็น แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรปีละครั้งในเดือนธันวาคมให้บุคคลทั่วไปที่หลงใหลในธรรมชาติได้ชื่นชม บรรยากาศอันงดงาม และเรียนรู้ประสบการณ์ด้านการเกษตรพร้อมเรียนรู้วงจรชีวิตของหนอนไหม ชมแปลงพืชผัก และดอกไม้นานาชนิด รวมถึงเลือกซื้อไม้ดอกไม้ประดับ และผลผลิตทางการ เกษตรปลอดสารพิษ จิมทอมป์สันฟาร์มมีเจตนารมณ์ที่จะอนุรักษ์และถ่ายทอดมรดกทางวัฒนธรรม อันทรงคุณค่าของชาวไทยเชื้อสายลาวซึ่งอาศัยอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือสู่สายตาชาวไทยและ ชาวต่างชาติ เพื่อสร้างสานึกในคุณค่าของประเพณีและวัฒนธรรมอีสานอันเก่าแก่และงดงาม
  • 16. 52 ภาพที่ 3.10 เว็บไซต์จิมทอมป์สันฟาร์ม ที่มา : จิมทอมป์สันฟาร์ม. ออนไลน์. 2558. บริการจุดท่องเที่ยวต่าง ๆ ภายในจิมทอมป์สันฟาร์ม มี 5 จุด ดังนี้ จุดที่ 1 ทุ่งคอสมอสและแปลงเก็บผักปลอดสารพิษ บนพื้นที่กว่า 50 ไร่ พร้อมชม แปลงผักปลอดสารพิษ ที่นักท่องเที่ยวสามารถเลือกเก็บผักสด ๆ จากแปลงได้ด้วยตนเองและซื้อ กลับบ้านได้ พร้อมด้วยจุดบริการให้นักท่องเที่ยวทุกท่านได้เลือกรับประทานอาหารและเครื่องดื่ม ตามอัธยาศัย ก่อนขึ้นรถนาชมไปยังจุดท่องเที่ยวต่าง ๆ ต่อไปภายในฟาร์ม ภาพที่ 3.11 ทุ่งคอสมอสและแปลงเก็บผักปลอดสารพิษ ที่มา : ถ่ายเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2556 ณ จิมทอมป์สันฟาร์ม
  • 17. 53 จุดที่ 2 ลานฟักทองและทุ่งไม้ดอกหลากสี ชื่นชมผลงานศิลปะจากหลากหลายศิลปินใน โครงการศิลปะในฟาร์ม ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติที่ล้อมรอบด้วยภูเขาพญาปราบและอ่างเก็บ น้าลาสาลาย ตระการตากับทุ่งดอกไม้หลากสีสดใสของธรรมชาติที่รังสรรค์ความสวยงามไว้อย่างน่า ตื่นตาตื่นใจกับลานฟักทองยักษ์สีสันสดใส ฟักทองแฟนซีรูปร่างแปลกตา และฟักทองอีกกว่า 30 สายพันธุ์ ที่พร้อมให้นักท่องเที่ยวได้เก็บภาพความประทับใจอย่างใกล้ชิด ภาพที่ 3.12 ลานฟักทองและทุ่งไม้ดอกหลากสี ที่มา : ถ่ายเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2556 ณ จิมทอมป์สันฟาร์ม จุดที่ 3 หมู่บ้านอีสาน เป็นสถาปัตยกรรมไทยอีสานที่เป็นเอกลักษณ์มารวบรวมไว้บน พื้นที่กว่า 10 ไร่ อาทิ บ้านโคราช บ้านภูไท และเรือนเหย้า ซึ่ง “หมู่บ้านอีสาน” แห่งนี้ได้กลายเป็น อีกหนึ่งจุดต้อนรับนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในสถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่าและ วัฒนธรรมประเพณีอัน ดีงามของภาคอีสาน โดยมีการจาลองวิถีชีวิต และประเพณีวัฒนธรรมของชาวอีสาน การละเล่น อาหารการกิน และการประกอบอาชีพของชาวบ้านในอดีตให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสความเป็นอยู่ของ ชาวอีสานอันเรียบง่ายและพอเพียง และได้สร้างและรวบรวม “หมู่บ้านโคราช” เพิ่มในบริเวณ ใกล้เคียงเพื่อเป็นการสะท้อนสถาปัตยกรรมอันหลากหลายของภาคอีสานได้ชัดเจนยิ่งขึ้น แล้ว ทักทาย “บุญหลาย” และ “บุญล้อม” ควายไทยแสนรู้ที่รอต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกท่านที่กระท่อม ปลายนา ก่อนขึ้นรถเพื่อไปยังจุดท่องเที่ยวต่อไป
  • 18. 54 ภาพที่ 3.13 หมู่บ้านอีสาน ที่มา : ถ่ายเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2556 ณ จิมทอมป์สันฟาร์ม จุดที่ 4 หมู่บ้านจิม ร่วมชมและเรียนรู้กระบวนการผลิตผ้าไหมอันเลื่องชื่อและเป็น เอกลักษณ์ของจิมทอมป์สัน ตั้งแต่วงจรชีวิตหนอนไหมที่สร้างเส้นใยธรรมชาติ การสาวไหม การฟอก ย้อมเส้นไหม การทอผ้าไหมและการพิมพ์ผ้าไหม ภาพที่ 3.14 หมู่บ้านจิมทอมป์สัน ที่มา : ถ่ายเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2556 ณ จิมทอมป์สันฟาร์ม
  • 19. 55 จุดที่ 5 ตลาดจิม สัมผัสความสวยงามของธรรมชาติกับสวนไม้ดอกและสวนสับปะรดสี ชมแปลงผักไร้ดินแบบปลอดสาร และส่งท้ายกิจกรรมความสนุกสนาน ณ ตลาดจิมด้วยการเลือกซื้อ ผลผลิตทางการเกษตรจากจิมทอมป์สันฟาร์ม เช่น เห็ดนางรม เห็ดหอมสด และเห็ดโคนญี่ปุ่น พืชผักประเภทแตงและน้าเต้า ฟักทองนา ๆ พันธุ์ แคนตาลูปพันธุ์เจดดิว เป็นต้น พร้อมด้วย ผลิตภัณฑ์แปรรูปของจิมทอมป์สันฟาร์มทุกชนิด เช่น น้าผึ้งบริสุทธิ์ ผลิตภัณฑ์จากกล้วยหอมและชา ใบหม่อน ล้วนผลิตและใช้วัตถุดิบจากผลผลิตทางการเกษตรที่ปลูกบนพื้นที่ในฟาร์มของจิมทอมป์สัน จึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพปลอดสารพิษ พิเศษสุดคือ ชาใบหม่อนธรรมชาติจากจิมทอมป์สัน ฟาร์มที่มีให้เลือกถึง 3 รสชาติ ได้แก่ ชาเขียว ชาจีน และชาฝรั่ง ต้นไม้ ไม้ดอกกระถางหลากหลาย สายพันธุ์ ไม้ดอกระบบไฮโดรโพนิกส์ ตลอดจนผ้าไหม ผลิตภัณฑ์จากผ้าไหม และผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ มากมายจากจิมทอมป์สัน ก่อนอาลาจิมทอมป์สันฟาร์ม ภาพที่ 3.15 ผลผลิตทางการเกษตรตลาดจิมทอมป์สัน ที่มา : ถ่ายเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2556 ณ จิมทอมป์สันฟาร์ม
  • 20. 56 ภาพที่ 3.16 ผักปลอดสาร ที่มา : ถ่ายเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2556 ณ จิมทอมป์สันฟาร์ม สรุป แหล่งเรียนรู้ในชุมชนนามาซึ่งการพัฒนาการเรียนรู้ทั้งในเรื่องความคิด ความเข้าใจใน คุณค่าและทัศนคติได้อย่างกว้างขวางทั้งในระบบโรงเรียน นอกระบบ ตามอัธยาศัยและยังพัฒนาการ เรียนรู้ (Learning) และการศึกษา (Education) โดยเน้นความสาคัญทั้งความรู้ คุณธรรม กระบวนการเรียนรู้และมีปฏิสัมพันธ์เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างคนในท้องถิ่นกับผู้เข้า ศึกษาในการทากิจกรรมร่วมกัน ช่วยสร้างความรู้สึกของการเป็นส่วนหนึ่งของการมีส่วนร่วม เกิด ความตระหนักและเห็นคุณค่าของแหล่งเรียนรู้ในชุมชน โดยจาแนกได้ 5 ประเภท คือ แหล่งเรียนรู้ใน ชุมชนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แหล่งเรียนรู้ในชุมชนที่สร้างขึ้น แหล่งเรียนรู้ในชุมชนที่เป็นบุคคล แหล่งเรียนรู้ในชุมชนตามกิจกรรมทางสังคม ประเพณีและความเชื่อ และแหล่งเรียนรู้ในชุมชนตาม ประเภทสื่อสารสนเทศต่าง ๆ ตลอดจนกรณีศึกษาแหล่งเรียนรู้ในชุมชน จิมทอมป์สันฟาร์ม อาเภอ ปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา