More Related Content Similar to 2558 project (20) 2558 project 1. 1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6
ปีการศึกษา 2558
ชื่อโครงงาน อาณาจักรมอเนอรา Monera
ชื่อผู้ทาโครงงาน
นางสาวศิรินทิพย์ ใจจ้อย เลขที่ 23 ชั้นม.6ห้อง3
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานร่วม ครูพันธ์นิดา ด่านไพบูลย์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2558
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
2. 2
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)อาณาจักรมอเนอรา
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ) Monera
ประเภทโครงงาน โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา
ชื่อผู้ทาโครงงาน นางสาวศิรินทิพย์ ใจจ้อย
ชื่อที่ปรึกษา คุณครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ชื่อที่ปรึกษาร่วม คุณครูพันธ์นิดา ด่านไพบูลย์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่2 ปีการศึกษา 2558
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน (อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการทาโครงงาน)
เนื่องากในการเรียนวิทยาศาสตร์ (ชีววิทยา) มีการศึกษาในเรื่องของอาณาจักรต่างๆของ
สิ่งมีชีวิต ซึ่งในการเรียนการสอนนั้นได้มุ่งเน้นให้ผู้เรียนเข้าใจในเนื้อหา และความสาคัญของทุก
อาณาจักรของสิ่งมีชีวิต เพื่อที่จะนาไปศึกษาและเรียนรู้ต่อไปในระดับที่สูงขึ้น
การทาโครงงานเรื่อง อาณาจักรมอเนอรานี้เป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรของสิ่งมีชีวิตที่ได้เรียน
มาในห้องเรียน ดิฉันคิดว่าเป็นสิ่งที่ทาให้ตัวดิฉันและผู้ที่สนใจในอาณาจักรมอเนอราได้รับรายละเอียด
และเนื้อหาเพิ่มเติมจากการเรียนในห้องเรียนเพิ่มขึ้น และสามารถนาไปใช้เพื่อการอ่านในการสอบหรือ
เพื่อเพิ่มความเข้าใจของตนเองในเรื่องนี้ด้วย
วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเป็นข้อ)
1.เพื่อให้ผู้ที่สนใจได้ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมในเรื่องอาณาจักรมอเนอรา
2.เพื่อให้เกิดความเข้าใจในเรื่องอาณาจักรมอเนอราเพิ่มมากขึ้น
3.เพื่อใช้เป็นสื่อการเรียนการสอนในรายวิชาวิทยาศาสตร์
4.เพื่อให้ทราบรายละเอียดของอาณาจักรมอเนอรา
ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน)
ในการค้นคว้าเรื่องอาณาจักรมอเนอราประกอบไปด้วย
1.โครงสร้าง 2.ประเภท 3.ลักษณะ4.การจาแนก 5.ประโชน์และโทษ
3. 3
หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน)
อาณาจักรมอเนอรา
โครงสร้างของแบคทีเรีย
1. เป็นสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวที่มีขนาดเล็กประมาณ 1- 5 ไมโครเมตร โครงสร้างเซลล์แบบโพรคาริโอต
(prokaryotic cell) มีผนังเซลล์เป็นสารประกอบเพปทิโดไกลแคน
2. ภายในเซลล์ไม่มีเยื่อหุ้มสารพันธุกรรมและโครงสร้างอื่นหลายชนิด เช่น ร่างแหเอนโดพลาสซึม
กอลจิคอมเพลกซ์ ไลโซโซม คลอโรพลาสต์มีเฉพาะออร์แกเนลล์ที่ไม่มีเยื่อหุ้ม คือ ไรโบโซม
3. แบคทีเรียที่พบส่วนใหญ่ เซลล์เดียวหรืออาจอยู่รวมกันเป็นกลุ่มหรือเป็นสาย เช่น
3.1 ทรงกลม
4. 4
3.1 ทรงท่อน
3.3 ทรงเกลียว
สิ่งมีชีวิตในอาณาจักรนี้มีความสาคัญอย่างมากต่อระบบนิเวศ กล่าวคือ
1. "กลุ่มแบคทีเรีย" ทาหน้าที่เป็นผู้ย่อยอินทรีย์สารก่อให้เกิดการหมุนเวียนสารอนินทรีย์และ
อินทรีย์สารต่างๆ
2. "สาหร่ายสีเขียวแกมน้าเงิน" ทาหน้าที่เป็นผู้ผลิตในระบบนิเวศ
สิ่งมีชีวิต 2 กลุ่มนี้ยังมีความสาคัญในแง่เทคโนโลยีชีวภาพซึ่งได้มีการศึกษาวิจัยเพิ่มมากขึ้น เพื่อ
นาไปใช้ประโยชน์ในด้านการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร อุตสาหกรรม การแพทย์และการศึกษาพันธุ
ศาสตร์ซึ่งช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชากรให้ดียิ่งขึ้น
กลุ่มอาณาจักรมอเนอรา
เป็นออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ อาณาจักรย่อยอาร์เคียแบคทีเรีย (Subkingdom Archaebacteria) และ
อาณาจักรย่อยยูแบคทีเรีย (Subkingdom Eubacteria)
5. 5
1. อาณาจักรย่อยอาร์เคียแบคทีเรีย (Subkingdom Archaebacteria)
เป็นแบคทีเรียที่ผนังเซลล์ไม่มีสารเพปทิโดไกลแคน สามารถดารงชีวิตในสภาพแวดล้อมที่
สิ่งมีชีวิตกลุ่มอื่นอาจไม่สามารถดารงอยู่ได้เช่น ในแหล่งน้าพุร้อน ทะเลที่มีน้าเค็มจัด ในบริเวณที่มี
ความเป็นกรดสูงและบริเวณทะเลลึกเป็นต้น
แบ่งได้ออกเป็น 2 กลุ่ม คือ
1.2 กลุ่มครีนาร์เคียโอตา ซึ่งชอบอุณหภูมิสูงและกรดจัด
กลุ่มครีนาร์เคียโอตา
2.อาณาจักรย่อยยูแบคทีเรีย (Subkingdom Eubacteria)
ยูแบคทีเรียเป็นแบคทีเรียที่สามารถพบได้ทั้งในดิน น้า อากาศ อาหาร นม และในร่างกายของ
สิ่งมีชีวิตอื่น สามารถพบได้ทั้ง ในน้าเค็ม น้าจืด น้ากร่อย ในธารน้าแข็ง หรือแม้กระทั่งแหล่งน้าพุร้อน
เป็นต้น นอกจากนี้ยูแบคทีเรียมีกระบวนการเมแทบอลิซึมในการดารงชีวิตที่หลากหลาย จึงอาจกล่าว
ได้ว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีบทบาทสาคัญต่อระบบนิเวศ ยูแบคทีเรียแบ่งเป็นกลุ่มใหญ่ๆดังนี้
7. 7
2.3 กลุ่มสไปโรคีท (Spirochetes)
เป็นยูแบคทีเรียแกรมลบที่มีรูปทรงเกลียว มีความยาวประมาณ 0.25 มิลลิเมตร ยูแบคทีเรียในกลุ่ม
นี้มีทั้งดารงชีวิตแบบอิสระและบางสปีชีส์เป็นสาเหตุของ โรคซิฟิลิส โรคฉี่หนู เป็นต้น
2.4 แบคทีเรียแกรมบวก (Gram-Positive Bacteria)
เป็นยูแบคทีเรียที่พบแพร่กระจายทั่วไปในดิน อากาศ บางสปีชีส์สามารถผลิตกรดแลกติกได้เช่น
Lactobacillus sp. จึงนามาใช้ในอุตสาหกรรมอาหารหลายชนิด เช่น การทาเนย ผักดอง และโยเกิร์ต
เป็นต้น บางสปีชีส์ เช่น Streptomyces sp. ใช้ยาทาปฏิชีวนะ เช่น ยาสเตร็บ โตมัยซิน ยาเตตราไซคลิน
เป็นต้น ยูแบคทีเรียกลุ่มนี้บางสปีชีส์ เช่น Bacillus sp. สามารถสร้างเอนโดสปอร์ (endospore) ทาให้
ทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมได้ดีและบางชนิดเป็นสาเหตุทาให้เกิดโรคแอนแทรกซ์
ยูแบคทีเรียแกรมบวกอีกกลุ่มหนึ่ง เป็นกลุ่มที่ไม่มีผนังเซลล์มีเพียงเยื่อหุ้มเซลล์ที่ประกอบด้วยชั้น
ของไขมันได้แก่ ไมโคพลาสมา (mycoplasms) เป็นเซลล์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดประมาณ 0.2-
0.3 ไมโครเมตร สามารถเจริญและสืบพันธุ์ได้นอกเซลล์โฮสต์ ส่วนใหญ่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อ
สิ่งมีชีวิตอื่น แต่มีบางสปีชีส์ที่เป็นสาเหตุให้เกิดโรคปอดบวมในคนและวัว
8. 8
2.5 ไซยาโนแบคทีเรีย (Cyanobacteria)
เป็นยูแบคทีเรียที่สามารถสังเคราะห์ด้วยแสงได้มีสารสีเช่น คลอโรฟิลล์เอ แคโรทีนอยด์ และโฟ
โคบิลินอยู่ภายในถุงแบนๆที่มีเยื่อหุ้มเซลล์พบแพร่กระจายในสภาพแวดล้อมที่หลากหลายทั้งในแหล่ง
น้าจืด น้าเค็ม บางสปีชีส์พบในบ่อน้าพุร้อน และภายใต้น้าแข็งของมหาสมุทร เป็นต้น จากหลักฐาน
ซากดึกดาบรรพ์ทาให้นักวิทยาศาสตร์คาดคะเนได้ว่าไซยาโนแบคทีเรียทาให้ออกซิเจนในบรรยากาศ
เพิ่มขึ้น มากขึ้นในโลกยุคนั้นและก่อให้เกิดวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตที่หายใจโดยใช้ออกซิเจนใน
ปัจจุบัน
ไซยาโนแบคทีเรียเป็นผู้ผลิตที่สาคัญในระบบนิเวศและบางชนิดสามารถตรึงแก๊สไนโตรเจนใน
อากาศให้เป็นสารประกอบไนเตรต เช่น แอนาบีนา (Anabaena) นอสตอก (Nostoc) และออสซิลลาทอ
เรีย (Oscillatoria)
Anabaena
10. 10
ไฟลัมในอาณาจักรมอเนอราแบ่งได้เป็น 2 ไฟลัม คือ
-ไฟลัมชิโซไฟตา (Phylum Schizophyta)
-ไฟลัมไซยาโนไฟตา (Phylum Cyanophyta)
1.ไฟลัมไซยาโนไฟตา (Phylum Cyanophyta)
ได้แก่ สาหร่ายสีเขียวแกมน้าเงิน (Blue-green algae) ปัจจุบันเรียกชื่อใหม่ว่า Cyanobacteria
ลักษณะของสิ่งมีชีวิตในไฟลัมไซยาโนไฟตา คือ
1. ไม่มีเยื่อหุ้มนิวเคลียส เป็นเซลล์พวกโปรคารีโอต ไม่มี flagella
2. มี chlorophyll phycocyanin phycorythin กระจายในเซลล์แต่ไม่ได้รวมเป็น chloroplast
3. ผนังเซลล์เป็น cellulose และ pectin
4. มีขนาดเล็ก อาจอยู่ในลักษณะ
4.1 เซลล์เดี่ยว หรือเซลล์กลุ่ม
4.2 เซลล์ที่จัดเรียงเป็นสาย
การสืบพันธุ์
1. การแบ่งตัว Binary fission.
2. การหักเป็นท่อน (fragmentation) พบในพวกที่เป็นสาย
3. สร้างสปอร์หรือสร้างเซลล์พิเศษ เช่น akinete
ประโยชน์
- เป็นผู้ผลิตอาหาร และ O2
- Spirulina หรือเกลียวทอง มี protein สูง ใช้ทาอาหารเสริมคนและสัตว์
- Nostoc Anabaena Oscillatori สามารถเพิ่มความตรึง N ทาเป็นปุ๋ ยในดิน เช่น แหนแดง
(Azolla) ซึ่ง Anabaena อยู่ช่องว่างกลางใบ
2.ไฟลัมชิโซไฟตา (Phylum Schizophyta)
สิ่งมีชีวิตที่จัดอยู่ในไฟลัมนี้ได้แก่ แบคทีเรีย
ลักษณะของสิ่งมีชีวิตในไฟลัมซิโซไฟดา คือ
1. มีเซลล์ขนาดเล็ก
2. ลักษณะรูปร่าง มี 3 ลักษณะคือ
2.1 รูปร่างกลม เรียกว่า coccus (coccus = เอกพจน์ cocci = พหูพจน์)
2.2 รูปร่างแบบแท่งยาว เรียกว่า bacillus (bacillus = เอกพจน์ bacilli = พหูพจน์)
2.3 รูปร่าง เกลียว เรียกว่า spirillum (spirillum = เอกพจน์ spirillum = พหูพจน์)
11. 11
3. เซลล์รูปร่างต่าง ๆ มีการเรียงตัวทาให้เกิดลักษณะเฉพาะ เช่น แบคทีเรียที่มีรูปร่างทรงกลมมีการ
เรียงตัวหลายแบบ
- เซลล์ทรงกลม 2 เซลล์เรียงต่อกันเรียก diplococci
- เซลล์หลายเซลล์เรียงต่อกันเป็นลูกโซ่เรียก streptococci
- เซลล์หลายเซลล์เรียงกันเป็นกลุ่มก้อนคล้ายพวงองุ่น เรียก staphylococci
- เซลล์8 เซลล์เรียงเป็นลูกบาศก์เรียก sarcina
แบคทีเรียที่มีรูปร่างทรงกระบอก ไม่ค่อยมีแบบแผนการเรียงตัวที่เด่นชัดเท่าทรงกลม แต่อาจมี
การเรียงตัวของเซลล์เนื่องมาจากระยะการเจริญเติบโตหรือขึ้นกับสภาพของการเพาะเลี้ยงใน
อาหาร แบคทีเรียที่มีรูปร่างแบบเกลียว มักอยู่เป็นเซลล์เดี่ยว ๆ แต่ละชนิดมีความแตกต่างกันทั้ง
ทางด้านความยาว จานวนเกลียว ความโค้ง
4. แหล่งที่พบแทบทุกแห่งในดินในน้า ในอากาศ แหล่งที่เป็นน้าพุร้อน เขตหิมะ ทะเลลึก
5. การแบ่งแบคทีเรียตามความต้องการสารอาหาร
5.1 Photoautotroph
5.2 Photoheterotroph
5.3 Chemoautotroph
5.4 Chemoheterotroph
6. การแบ่งแบคทีเรียตามความต้องการอากาศ
6.1 Aerobic bacteria
6.2 Facultative bacteria
6.3 microaerophilic bacteria
6.4Anaerobibacteria
7. การแบ่งแบคทีเรียตามความต้องการอุณหภูมิ
7.1 Psychrophile
7.2 Mesophile
7.3 Thermophile
โครงสร้างของแบคทีเรียที่แตกต่างจากเซลล์อื่น ๆ
1. แบคทีเรียมี ribosome ชนิด 70 s และสารพันธุกรรมเป็น DNA โดย (single circular DNA)
2. ผนังเซลล์(cell wall) ทาหน้าที่คงรูปร่างของเซลล์ป้องกันเซลล์แตก
ประกอบด้วย peptidoglycan ซึ่งประกอบด้วยน้าตาล 2 ชนิด คือN-actyl glucosamine (NAG) และN-
acytyl muramic acid (NAM) และ มี amino acid หลายชนิด และlipoprotein lipopolysac teichoic acid
12. 12
3. Capsule เป็นส่วนที่อยู่นอกผนังเซลล์สามารถทนต่อสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม และทนต่อการ
ทาลายของเม็ดเลือดขาว พบแคปซูลในแบคทีเรียบางชนิดเท่านั้น แบคทีเรียที่มีแคปซูลมักก่อโรค
รุนแรง
4. pilil มีลักษณะเป็นขนคล้ายแฟลกเจลลา แต่มีขนาดเล็ก มีลักษณะเป็นท่อกลวง ไม่มีหน้าที่ในการ
เคลื่อนที่แต่ช่วยให้เกาะยึดติดกับผิววัสดุ และ Sex pilli ช่วยในการถ่ายทอด DNA ใน Conjugation
5. mesosome เป็นส่วนที่เยื่อหุ้มเซลล์บางส่วนยื่นเว้าเข้าไปในcytoplasm จะพบบริเวณ ที่จะมี การ
แบ่งเซลล์
6. Flagella เป็นโครงสร้างใช้ในการเคลื่อนที่ แบคทีเรียส่วนใหญ่เป็นพวกที่เคลื่อนที่ได้แฟลกเจลลา
ประกอบด้วยเส้นใยเส้นเดี่ยว ๆ ซึ่งต่างจากแฟลกเจลลาของสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ แบคทีเรียอาจมีแฟลกเจล
ลา 1 เส้นจนถึงหลายร้อยเส้น และอยู่ได้หลายตาแหน่ง ส่วนของแฟลกเจลลา ประกอบด้วย 3 ส่วน
คือ basal body , hook และ filament
7. Plasmid เป็น DNA ที่อยู่นอกโครโมโซมของแบคทีเรีย ลักษณะของพลาสมิดเป็น DNA วงแหวน
และเป็นเกลียวคู่ สามารถจาลองตัวเองได้และสามารถถ่ายทอดไปยังแบคทีเรียอื่น ๆ ได้พลาสมิดมี
หลายชนิด บางชนิดควบคุมการสืบพันธุ์แบบมีเพศของเซลล์บางชนิดควบคุมการดื้อต่อยาปฏิชีวนะ
ต่าง ๆ
8. endospore เป็นโครงสร้างที่พบในแบคทีเรียบางชนิด เป็นโครงสร้างที่ทาให้แบคทีเรียมีความ
ทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมได้เอนโดสปอร์เกิดขึ้นภายในเซลล์และสร้างได้1 สปอร์
ต่อ 1 เซลล์จะไม่ถือว่าเป็นการสืบพันธุ์ แต่ถือว่าเป็นการดารงชีพ
การสืบพันธุ์ของแบคทีเรีย
ส่วนใหญ่แบคทีเรียสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศที่เรียกว่า Transverse Binary Fission
บางชนิดมีการแลกเปลี่ยนสารพันธุกรรมได้3 รูปแบบคือ
1. Conjugation คือ การถ่ายทอดยีนจากแบคทีเรียเซลล์หนึ่งไปยังอีกเซลล์หนึ่งด้วยการจับคู่สัมผัสกัน
โดยตรง
2. Transformation คือ การถ่ายทอด DNA ตัวเปล่า (naked DNA) หรือ DNA อิสระจากแบคทีเรีย
เซลล์หนึ่งไปยังอีกเซลล์หนึ่ง
3. Transduction คือ การถ่ายทอดยีนจากแบคทีเรียเซลล์หนึ่งไปยังอีกเซลล์หนึ่งโดยอาศัยไวรัส
หรือ Bacteriophage
การจาแนก Bacteria ลักษณะดังนี้
1. ลักษณะทางสัณฐานวิทยา ได้แก่ รูปร่าง
2. ตามอาหารที่ได้รับ แบ่งเป็น
13. 13
2.1 พวก Autotroph เป็นพวกที่สามารถสร้างอาหารเองได้
2.2 พวก Heterotroph เป็นพวกที่สามารถสร้างอาหารเองไม่ได้
3. การติดสีของผนังเซลล์ [ Gram stain ] แบ่งเป็น
3.1 Gram positive เป็นพวกที่ติดสีย้อมคริสตัลไวโอเลต
3.2 Gram negative เป็นพวกที่ติดสีย้อมซาฟานิน
4. การหายใจ ความต้องการใช้อากาศหรือ O2
5. ลักษณะการเลี้ยงเชื้อ : อาหาร สภาพแวดล้อม
6. ลักษณะทางแอนติเจน
ประโยชน์ของแบคทีเรีย
1. ด้านอุตสาหกรรม เช่นการผลิตอาหารหมัก ใช้ฟอกหนัง
2. ด้านการเกษตร เช่นใช้เป็นปุ๋ ย
3. การทดสอบคุณภาพน้า
4. ทางด้านการแพทย์เช่นการผลิตยาปฏิชีวนะ
5. ใช้ในเทคโนโลยีชีวภาพ โดยใช้เทคนิคทางพันธุวิศวกรรมสร้างแบคทีเรียที่มีลักษณะต่าง ๆ
6. ช่วยย่อยสลายซากสิ่งมีชีวิตให้เป็นอาหารของพืช
โทษของแบคทีเรีย
1. ผลิตสารพิษที่เป็นอันตราย
2. ทาให้เกิดโรคต่างๆ ใน คน เช่น ไทฟอยด์ อหิวาตกโรค ปอดบวม วัณโรค คอตีบ สัตว์เช่น แอน
แทรกซ์ บาดทะยัก และพืช เช่น โรครากเน่า โรคใบไม้ของสาลี่