SlideShare a Scribd company logo
1 of 6
Download to read offline
1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6
ปีการศึกษา 2559
ชื่อโครงงาน
โรคภูมิแพ
ชื่อผู้ทาโครงงาน
1.นาย ยุทธชัย ชัยเจริญ เลขที่ 4 ชั้น ม. 6 ห้อง 12
2.นาย ภูริณัฐ พลหาญ เลขที่ 8 ชั้น ม.6 ห้อง 12
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานร่วม
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2559
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม งานคู่
1.นายยุทธชัย ชัยเจริญ เลขที่ 4
2.นายภูริณัฐ พลหาญ เลขที่ 8
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
โรคภูมิแพ้
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
Allergy
ประเภทโครงงาน : โครงงานเพื่อให้ความรู้
ชื่อผู้ทาโครงงาน : นาย ยุทธชัย ชัยเจริญ เลขที่ 4 และ นาย ภูริณัฐ พลหาญ
เลขที่ 8
ชื่อที่ปรึกษา : คุณครูเขื่อนเพชร มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน : ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2559
3
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน (อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการ
ทาโครงงาน)
โรคภูมิแพ้ เป็นโรคที่เกิดจากปฏิกิริยาการตอบสนองของร่างกายที่ไวกว่าปกติ เมื่อได้รับ สารก่อภูมิแพ้จะมี
การสร้างภูมิคุ้มที่เรียกว่า ไอ-จี-อี (IgE) ซึ่งจะไปกระตุ้นเซลล์ต่างๆ ทางานมากขึ้น เกิดการอักเสบและมีการหลั่ง
สารเคมีชนิดต่างๆ ที่รู้จักกันดีคือสารฮีสตามีน (Histamine) ทาให้เกิดอาการแพ้และมีอาการแสดงต่างๆ ใน
หลายระบบ เช่น จมูก,หลอดลม,ตา,ผิวหนัง,ทางเดินอาหาร เป็นต้น โดยในคนปกติเมื่อได้รับสารก่อภูมิแพ้
เช่นเดียวกันจะไม่เกิดการตอบสนองดังกล่าว สารก่อภูมิแพ้คืออะไร? สารก่อภูมิแพ้ (Allergen) เป็นสารที่
สามารถกระตุ้นให้เกิดอาการโรคภูมิแพ้ขึ้น สารก่อภูมิแพ้ที่พบบ่อยได้แก่ สารก่อภูมิแพ้จากตัวไรฝุ่น ( House
dust mites) แมลงสาบ เกสรดอกไม้,ต้นไม้,ดอกหญ้า,ฝุ่นบ้าน,มด,ยุง,เชื้อรา หรือขนสัตว์เลี้ยงเป็นต้น เราเกิดโรค
ภูมิแพ้ได้อย่างไร? ปัจจัยเสี่ยงที่สาคัญต่อการเกิดโรคภูมิแพ้ได้แก่ 1.ปัจจัยทางพันธุกรรม พบว่าเด็กที่มีพ่อแม่หรือ
พี่น้องเป็นโรคภูมิแพ้จะมีแนวโน้มเป็นโรคภูมิแพ้ได้ถึงร้อยละ 50-70 ใบปัจจุบันพบว่าเด็กที่ไม่มีประวัติโรคภูมิแพ้
ในครอบครัวโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้ได้ร้อยละ 10-20 2.ปัจจัยทางสิ่งแวดล้อม ได้แก่การสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ การติด
เชื้อ มลภาวะ บุหรี่ เด็กที่ได้รับการเลี้ยงดูด้วยนมผสมจะมีโอกาสเป็นโรคหลอดลมหดเกร็งในวัยเด็กมากกว่าเด็กที่
ได้รับการเลี้ยงดูด้วยนมแม่ โรคภูมิแพ้ติดต่อได้หรือไม่? โรคภูมิแพ้ไม่ใช่โรคติดต่อ แต่เชื่อว่าถ่ายทอดทาง
พันธุกรรมจากพ่อแม่ไปสู่ลูกเช่นเดียวกับโรคเบาหวาน โรคภูมิแพ้พบบ่อยเพียงใด โรคภูมิแพ้จัดเป็นโรคเรื้อรังที่
พบบ่อยโรคหนึ่งในประเทศไทย ประมาณว่า อัตราความชุกของโรคภูมิแพ้อยู่ระหว่างร้อยละ 10-50 ของ
ประชากรทั้งประเทศ
วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเป็นข้อ)
1.เพื่อให้นักเรียน, นักศึกษา หรือบุคคลทั่วไปได้รู้ถึงสาเหตุที่ทาให้เกิดโรคภูมิแพ้
2.เพื่อให้เข้าใจถึงปัญหาการรับมือกับโรคภูมิแพ้ได้
3.ต้องการให้ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ได้อ่านเป็นความรู้และนาไปปรับเปลี่ยนในการดาเนิน
ชีวิตประจาวัน
ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทา
โครงงาน)
-
4
หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน)
โรคภูมิแพ้มีหลายโรค เกิดขึ้นได้หลายระบบ เช่น
1. เกิดขึ้นในระบบการหายใจ มีอาการได้ตั้งแต่น้ามูกไหล จาม คันจมูก คัดจมูก (คนทั่วไปมักเรียกโรคแพ้
อากาศ) หรืออาจมีอาการรุนแรง เช่น ไอ มีเสมหะมาก มีอาการหอบ ซึ่งเป็นอาการของโรคหืด บางคน
อาจเป็นทั้งโรคหืดและโรคแพ้อากาศ
สาเหตุของโรคภูมิแพ้ของระบบการหายใจนี้ ส่วนมากเกิดจากสารก่อภูมิแพ้ในอากาศ สาหรับสาเหตุที่
เกิดกับคนไทยส่วนใหญ่แล้วเกิดจากไรฝุ่นในบ้านเป็นสาเหตุสาคัญที่สุด รองลงมาได้แก่เศษและขี้
แมลงสาบ ขนและรังแคสัตว์เลี้ยง เช่น แมว สุนัข หรือเกสรพืช หรือเชื้อราในอากาศ สาหรับในเด็กเล็ก ๆ
อาหารอาจเป็นสาเหตุของโรคภูมิแพ้ของระบบการหายใจได้เช่นเดียวกัน เช่น แพ้นมวัว ไข่ เป็นต้น
2. เกิดขึ้นที่ผิวหนัง เช่น อาการลมพิษ หรือผื่นภูมิแพ้ในเด็ก หรือผื่นแพ้จากการสัมผัส สาเหตุใหญ่ของ
ลมพิษมักเป็นอาหารและยา ส่วนผืนภูมิแพ้ในเด็กมักเกิดขึ้นเองในเด็กที่มีแนวโน้มในการเกิด เช่น มี
กรรมพันธุ์ของโรคภูมิแพ้ในครอบครัว อาหาร เช่น นม ไข่ อาจทาให้เกิดอาการผื่น ซึ่งมักเกิดบริเวณแก้ม
เด็กเล็ก หรือข้อพับในเด็กโต
3. เกิดขึ้นในระบบทางเดินอาหาร ได้แก่ อาการปวดท้อง อาเจียน ท้องร่วง สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการ
แพ้อาหาร
4. เกิดขึ้นในหลายระบบและรุนแรง ผู้ป่วยบางรายมีอาการแพ้มาก อาจมีอาการเกิดขึ้นในทุกระบบ เช่น
หอบ ลมพิษ ช็อก หรืออาจรุนแรงจนเสียชีวิตภายหลังจากกินอาหารบางชนิด เช่น กุ้ง ถั่วลิสง ฯลฯ หรือ
ภายหลังได้รับยา เช่น เพนนิซิลลิน
5
โรคภูมิแพ้มีสาเหตุจากอะไร
สาเหตุที่สาคัญมีอยู่ 2 ประการ
1. กรรมพันธุ์ โรคภูมิแพ้หลายโรคจะเกิดขึ้นได้ง่าย ถ้ามีพันธุกรรม เช่น โรคหืด โรคแพ้อากาศ และผื่น
ภูมิแพ้ในเด็ก ยิ่งถ้ามีประวัติว่าทั้งพ่อและแม่เป็น จะยิ่งมีโอกาสมากกว่าพ่อหรือแม่เป็นฝ่ายเดียว
โรคภูมิแพ้บางอย่าง สาเหตุจากพันธุกรรมไม่ค่อยเป็นปัจจัยสาคัญมากนัก เช่น ลมพิษ แพ้อาหาร แพ้ยา
หรือแพ้จากการสัมผัส เช่น แพ้เครื่องประดับ แพ้เครื่องสาอาง เป็นต้น
2. สิ่งแวดล้อม เป็นปัจจัยสาคัญมาก เพราะสารก่อภูมิแพ้ที่จะเข้าร่างกายเราเกิดจากสิ่งแวดล้อมทั้งสิ้น
ไม่ว่าสารก่อภูมิแพ้ที่เข้าร่างกายโดยการหายใจ หรือจากการรับประทาน หรือจากการสัมผัส สารก่อ
ภูมิแพ้บางอย่างสังเกตได้ง่าย เช่น อาหาร หลังจากการรับประทานอาหารทะเล อาจเป็นลมพิษภายใน
เวลาครึ่งชั่วโมง หรือกินยาแล้วมีผื่นขึ้น ผู้ป่วยกวาดบ้าน เล่นกับแมว หรือสุนัขแล้วเกิดอาการจาม คัด
จมูกหรือหอบ สารก่อภูมิแพ้บางอย่างสังเกตได้ยาก เพราะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เช่น เกสรหรือเชื้อรา
ในอากาศ หรือไรฝุ่นในบ้าน ซึ่งมีมากตามที่นอน หมอน โซฟา ห้องรับแขก พรม ฯลฯ
วิธีการที่จะทาให้อาการภูมิแพ้ของเราไม่กาเริบก็ได้แก่
1.ทาความสะอาดบ้านบ่อยๆ เพื่อไม่ให้บ้านของเราเต็มไปด้วยฝุ่นละอองต่าง ๆ
2.เครื่องนอนจะต้องสะอาด หมั่นซักทาความสะอาดและนาไปตากแดดอยู่เสมอ เพื่อป้องกันตัวไรฝุ่น
3.สารเคมี หรือน้ายาทาความสะอาดต่างๆ ไม่ควรจะใช้มือสัมผัสโดยตรง ทางที่ดีควรมีถุงมือยางเอาไว้ใส่
เพื่อไม่ให้เกิดอาการแพ้ หรือว่าให้เราเลือกสูตรที่เป็นธรรมชาติและอ่อนโยนต่อผิวหนังและสิ่งแวดล้อม
4.ห้ามเครียด เพราะความเครียดเป็นตัวที่ทาให้โรคภูมิแพ้ของเรามีอาการหนักขึ้นกว่าเดิม
5.หากว่าเรามีลูก ควรให้ลูกดื่มนมแม่อย่างน้อย 6 เดือน เพราะในน้านมของแม่จะมีภูมิต้านทาน ซึ่งเด็กที่
ไม่ได้ดื่มนมแม่เมื่อแรกเกิดจะมีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้ได้สูงกว่าเด็กที่ดื่มนมแม่
6.รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เพราะหากว่าร่างกายของเราได้รับปริมาณสารอย่าง
เพียงพอร่างกายของเราก็สามารถที่จะสร้างภูมิต้านทานไปต่อสู้กับอาการแพ้ต่างๆ ได้ ซึ่งอาหารที่เรา
เลือกมารับประทานนี้ ควรจะเป็นอาหารสดๆ และยังไม่ผ่านการปรุงแต่ง เพราะว่าสารที่ใช้ในการปรุง
แต่งอาหารมักจะทาให้เราเกิดอาการแพ้ได้ง่าย
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
 ค้นคว้าหาข้อมูลเกี่ยวกับโรคภูมิแพ้ในอินเตอร์เน็ต
 ดูคลิปวีดิโออธิบายของโรคภูมิแพ้
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
 คอมพิวเตอร์
 อินเตอร์เน็ต
งบประมาณ
- ไม่มี
6
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดับ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9
1
0
1
1
12
1
3
1
4
1
5
16 17
1 คิดหัวข้อโครงงาน / ยุทธชัย
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล / ยุทธชัย
3 จัดทาโครงร่างงาน / ยุทธชัย
4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน / ยุทธชัย
5 ปรับปรุงทดสอบ / ยุทธชัย
6 การทาเอกสารรายงาน / ภูริณัฐ
7 ประเมินผลงาน / ภูริณัฐ
8 นาเสนอโครงงาน / ภูริณัฐ
ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทาโครงงาน)
คาดว่าจะเป็นความรู้ที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งแก่เยาวชนและผู้ใหญ่ที่ตกอยู่ในสภาวะโรคภูมิแพ้และที่ไม่
เป็นเพื่อป้องกันการเกิดโรคเอาไว้
สถานที่ดาเนินการ
ห้องคอมพิวเตอร์ 1024
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
สุขศึกษา
แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่นามาใช้การทาโครงงาน)
http://www.ku.ac.th/e-magazine/february48/know/health.html
.วันที่ค้นหา 2 กันยายน 2559
http://xn--22c0df2b3b7a.xn--
q3cped3cb5f8b6d.com/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%A0%E0%B8%B9%
E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B9%89-
%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8
%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84/
.วันที่ค้นหา 2 กันยายน 2559

More Related Content

What's hot

2562 final-project 14
2562 final-project 142562 final-project 14
2562 final-project 14ssuser72ad1c1
 
ใบงานที่ 1
ใบงานที่ 1ใบงานที่ 1
ใบงานที่ 1Warit Yamamoto
 
ใบงานแบบสำรวจและประวัติของนายวริทธิ์ ยามาโมโตะ ชั้น ม.6
ใบงานแบบสำรวจและประวัติของนายวริทธิ์ ยามาโมโตะ ชั้น ม.6ใบงานแบบสำรวจและประวัติของนายวริทธิ์ ยามาโมโตะ ชั้น ม.6
ใบงานแบบสำรวจและประวัติของนายวริทธิ์ ยามาโมโตะ ชั้น ม.6Warit Yamamoto
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์ssuserb746cf
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์ssuserb746cf
 
หน่อไม้ฝรั่ง
หน่อไม้ฝรั่งหน่อไม้ฝรั่ง
หน่อไม้ฝรั่งTanutkit Kinruean
 
โครงงานคอม[1]
โครงงานคอม[1]โครงงานคอม[1]
โครงงานคอม[1]maddemon madden
 
โครงงานผักสวนครัวในขวดพลาสติก
โครงงานผักสวนครัวในขวดพลาสติกโครงงานผักสวนครัวในขวดพลาสติก
โครงงานผักสวนครัวในขวดพลาสติกFah Philip
 
กิตตินันท์ รังสรรค์
กิตตินันท์ รังสรรค์กิตตินันท์ รังสรรค์
กิตตินันท์ รังสรรค์Kittinan42
 
2562 final-project 10
2562 final-project 102562 final-project 10
2562 final-project 10ssuser692fda
 
โครงงานสวมหมวกนิรภัย
โครงงานสวมหมวกนิรภัยโครงงานสวมหมวกนิรภัย
โครงงานสวมหมวกนิรภัยpanadda kingkaew
 

What's hot (18)

Achi
AchiAchi
Achi
 
2562 final-project 14
2562 final-project 142562 final-project 14
2562 final-project 14
 
ใบงานที่ 1
ใบงานที่ 1ใบงานที่ 1
ใบงานที่ 1
 
ใบงานแบบสำรวจและประวัติของนายวริทธิ์ ยามาโมโตะ ชั้น ม.6
ใบงานแบบสำรวจและประวัติของนายวริทธิ์ ยามาโมโตะ ชั้น ม.6ใบงานแบบสำรวจและประวัติของนายวริทธิ์ ยามาโมโตะ ชั้น ม.6
ใบงานแบบสำรวจและประวัติของนายวริทธิ์ ยามาโมโตะ ชั้น ม.6
 
2562 final-project 14
2562 final-project 142562 final-project 14
2562 final-project 14
 
2560 project
2560 project 2560 project
2560 project
 
Nut1
Nut1Nut1
Nut1
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
2558 project
2558 project 2558 project
2558 project
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
หน่อไม้ฝรั่ง
หน่อไม้ฝรั่งหน่อไม้ฝรั่ง
หน่อไม้ฝรั่ง
 
โครงงานคอม[1]
โครงงานคอม[1]โครงงานคอม[1]
โครงงานคอม[1]
 
โครงงานผักสวนครัวในขวดพลาสติก
โครงงานผักสวนครัวในขวดพลาสติกโครงงานผักสวนครัวในขวดพลาสติก
โครงงานผักสวนครัวในขวดพลาสติก
 
กิตตินันท์ รังสรรค์
กิตตินันท์ รังสรรค์กิตตินันท์ รังสรรค์
กิตตินันท์ รังสรรค์
 
2562 final-project -3-kheng
2562 final-project -3-kheng2562 final-project -3-kheng
2562 final-project -3-kheng
 
2562 final-project 10
2562 final-project 102562 final-project 10
2562 final-project 10
 
Pitchayaporn N.
Pitchayaporn N.Pitchayaporn N.
Pitchayaporn N.
 
โครงงานสวมหมวกนิรภัย
โครงงานสวมหมวกนิรภัยโครงงานสวมหมวกนิรภัย
โครงงานสวมหมวกนิรภัย
 

Similar to 2559 project 612-04_08

แบบร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบร่างโครงงานคอมพิวเตอร์jungkookjin
 
ใบงานคอม
ใบงานคอมใบงานคอม
ใบงานคอมiamauummm
 
ใบงานที่ 5 โครงงาน
ใบงานที่ 5 โครงงานใบงานที่ 5 โครงงาน
ใบงานที่ 5 โครงงานThanatchaporn Phookham
 
โรคติดต่อทางเพสสัมพันธุ์
โรคติดต่อทางเพสสัมพันธุ์โรคติดต่อทางเพสสัมพันธุ์
โรคติดต่อทางเพสสัมพันธุ์Pack Matapong
 
2562 final-project 34-610
2562 final-project  34-6102562 final-project  34-610
2562 final-project 34-610Pichnaree Suta
 
กิจกรรมที่5 แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่5 แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์กิจกรรมที่5 แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่5 แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์Guy Prp
 
หน่อไม้ฝรั่ง
หน่อไม้ฝรั่งหน่อไม้ฝรั่ง
หน่อไม้ฝรั่งTanutkit Kinruean
 
ใบงานที่ 5 โครงร่างโครงงาน
ใบงานที่ 5 โครงร่างโครงงานใบงานที่ 5 โครงร่างโครงงาน
ใบงานที่ 5 โครงร่างโครงงานKnooknickk Pinpukvan
 

Similar to 2559 project 612-04_08 (20)

Final project
Final projectFinal project
Final project
 
Comnmmn
ComnmmnComnmmn
Comnmmn
 
AT1
AT1AT1
AT1
 
แบบร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
 
ใบงานคอม
ใบงานคอมใบงานคอม
ใบงานคอม
 
Work1
Work1Work1
Work1
 
2562 final-project
2562 final-project 2562 final-project
2562 final-project
 
ใบงานที่ 5 โครงงาน
ใบงานที่ 5 โครงงานใบงานที่ 5 โครงงาน
ใบงานที่ 5 โครงงาน
 
computer
computercomputer
computer
 
2562 final-project social-addict
2562 final-project social-addict2562 final-project social-addict
2562 final-project social-addict
 
โรคติดต่อทางเพสสัมพันธุ์
โรคติดต่อทางเพสสัมพันธุ์โรคติดต่อทางเพสสัมพันธุ์
โรคติดต่อทางเพสสัมพันธุ์
 
2562 final-project 34-610
2562 final-project  34-6102562 final-project  34-610
2562 final-project 34-610
 
กิจกรรมที่5 แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่5 แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์กิจกรรมที่5 แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่5 แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
 
AT1AT1
AT1AT1AT1AT1
AT1AT1
 
AT1AT1
AT1AT1AT1AT1
AT1AT1
 
หน่อไม้ฝรั่ง
หน่อไม้ฝรั่งหน่อไม้ฝรั่ง
หน่อไม้ฝรั่ง
 
Addictsocial
AddictsocialAddictsocial
Addictsocial
 
2561 project -2
2561 project -22561 project -2
2561 project -2
 
ใบงานที่ 5 โครงร่างโครงงาน
ใบงานที่ 5 โครงร่างโครงงานใบงานที่ 5 โครงร่างโครงงาน
ใบงานที่ 5 โครงร่างโครงงาน
 
Final Project computer_4
Final Project computer_4Final Project computer_4
Final Project computer_4
 

2559 project 612-04_08

  • 1. 1 แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ รหัสวิชา ง33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6 ปีการศึกษา 2559 ชื่อโครงงาน โรคภูมิแพ ชื่อผู้ทาโครงงาน 1.นาย ยุทธชัย ชัยเจริญ เลขที่ 4 ชั้น ม. 6 ห้อง 12 2.นาย ภูริณัฐ พลหาญ เลขที่ 8 ชั้น ม.6 ห้อง 12 ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์ ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานร่วม ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
  • 2. 2 ใบงาน การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์ สมาชิกในกลุ่ม งานคู่ 1.นายยุทธชัย ชัยเจริญ เลขที่ 4 2.นายภูริณัฐ พลหาญ เลขที่ 8 คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้ ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย) โรคภูมิแพ้ ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ) Allergy ประเภทโครงงาน : โครงงานเพื่อให้ความรู้ ชื่อผู้ทาโครงงาน : นาย ยุทธชัย ชัยเจริญ เลขที่ 4 และ นาย ภูริณัฐ พลหาญ เลขที่ 8 ชื่อที่ปรึกษา : คุณครูเขื่อนเพชร มูลวรรณ์ ระยะเวลาดาเนินงาน : ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2559
  • 3. 3 ที่มาและความสาคัญของโครงงาน (อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการ ทาโครงงาน) โรคภูมิแพ้ เป็นโรคที่เกิดจากปฏิกิริยาการตอบสนองของร่างกายที่ไวกว่าปกติ เมื่อได้รับ สารก่อภูมิแพ้จะมี การสร้างภูมิคุ้มที่เรียกว่า ไอ-จี-อี (IgE) ซึ่งจะไปกระตุ้นเซลล์ต่างๆ ทางานมากขึ้น เกิดการอักเสบและมีการหลั่ง สารเคมีชนิดต่างๆ ที่รู้จักกันดีคือสารฮีสตามีน (Histamine) ทาให้เกิดอาการแพ้และมีอาการแสดงต่างๆ ใน หลายระบบ เช่น จมูก,หลอดลม,ตา,ผิวหนัง,ทางเดินอาหาร เป็นต้น โดยในคนปกติเมื่อได้รับสารก่อภูมิแพ้ เช่นเดียวกันจะไม่เกิดการตอบสนองดังกล่าว สารก่อภูมิแพ้คืออะไร? สารก่อภูมิแพ้ (Allergen) เป็นสารที่ สามารถกระตุ้นให้เกิดอาการโรคภูมิแพ้ขึ้น สารก่อภูมิแพ้ที่พบบ่อยได้แก่ สารก่อภูมิแพ้จากตัวไรฝุ่น ( House dust mites) แมลงสาบ เกสรดอกไม้,ต้นไม้,ดอกหญ้า,ฝุ่นบ้าน,มด,ยุง,เชื้อรา หรือขนสัตว์เลี้ยงเป็นต้น เราเกิดโรค ภูมิแพ้ได้อย่างไร? ปัจจัยเสี่ยงที่สาคัญต่อการเกิดโรคภูมิแพ้ได้แก่ 1.ปัจจัยทางพันธุกรรม พบว่าเด็กที่มีพ่อแม่หรือ พี่น้องเป็นโรคภูมิแพ้จะมีแนวโน้มเป็นโรคภูมิแพ้ได้ถึงร้อยละ 50-70 ใบปัจจุบันพบว่าเด็กที่ไม่มีประวัติโรคภูมิแพ้ ในครอบครัวโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้ได้ร้อยละ 10-20 2.ปัจจัยทางสิ่งแวดล้อม ได้แก่การสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ การติด เชื้อ มลภาวะ บุหรี่ เด็กที่ได้รับการเลี้ยงดูด้วยนมผสมจะมีโอกาสเป็นโรคหลอดลมหดเกร็งในวัยเด็กมากกว่าเด็กที่ ได้รับการเลี้ยงดูด้วยนมแม่ โรคภูมิแพ้ติดต่อได้หรือไม่? โรคภูมิแพ้ไม่ใช่โรคติดต่อ แต่เชื่อว่าถ่ายทอดทาง พันธุกรรมจากพ่อแม่ไปสู่ลูกเช่นเดียวกับโรคเบาหวาน โรคภูมิแพ้พบบ่อยเพียงใด โรคภูมิแพ้จัดเป็นโรคเรื้อรังที่ พบบ่อยโรคหนึ่งในประเทศไทย ประมาณว่า อัตราความชุกของโรคภูมิแพ้อยู่ระหว่างร้อยละ 10-50 ของ ประชากรทั้งประเทศ วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเป็นข้อ) 1.เพื่อให้นักเรียน, นักศึกษา หรือบุคคลทั่วไปได้รู้ถึงสาเหตุที่ทาให้เกิดโรคภูมิแพ้ 2.เพื่อให้เข้าใจถึงปัญหาการรับมือกับโรคภูมิแพ้ได้ 3.ต้องการให้ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ได้อ่านเป็นความรู้และนาไปปรับเปลี่ยนในการดาเนิน ชีวิตประจาวัน ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทา โครงงาน) -
  • 4. 4 หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน) โรคภูมิแพ้มีหลายโรค เกิดขึ้นได้หลายระบบ เช่น 1. เกิดขึ้นในระบบการหายใจ มีอาการได้ตั้งแต่น้ามูกไหล จาม คันจมูก คัดจมูก (คนทั่วไปมักเรียกโรคแพ้ อากาศ) หรืออาจมีอาการรุนแรง เช่น ไอ มีเสมหะมาก มีอาการหอบ ซึ่งเป็นอาการของโรคหืด บางคน อาจเป็นทั้งโรคหืดและโรคแพ้อากาศ สาเหตุของโรคภูมิแพ้ของระบบการหายใจนี้ ส่วนมากเกิดจากสารก่อภูมิแพ้ในอากาศ สาหรับสาเหตุที่ เกิดกับคนไทยส่วนใหญ่แล้วเกิดจากไรฝุ่นในบ้านเป็นสาเหตุสาคัญที่สุด รองลงมาได้แก่เศษและขี้ แมลงสาบ ขนและรังแคสัตว์เลี้ยง เช่น แมว สุนัข หรือเกสรพืช หรือเชื้อราในอากาศ สาหรับในเด็กเล็ก ๆ อาหารอาจเป็นสาเหตุของโรคภูมิแพ้ของระบบการหายใจได้เช่นเดียวกัน เช่น แพ้นมวัว ไข่ เป็นต้น 2. เกิดขึ้นที่ผิวหนัง เช่น อาการลมพิษ หรือผื่นภูมิแพ้ในเด็ก หรือผื่นแพ้จากการสัมผัส สาเหตุใหญ่ของ ลมพิษมักเป็นอาหารและยา ส่วนผืนภูมิแพ้ในเด็กมักเกิดขึ้นเองในเด็กที่มีแนวโน้มในการเกิด เช่น มี กรรมพันธุ์ของโรคภูมิแพ้ในครอบครัว อาหาร เช่น นม ไข่ อาจทาให้เกิดอาการผื่น ซึ่งมักเกิดบริเวณแก้ม เด็กเล็ก หรือข้อพับในเด็กโต 3. เกิดขึ้นในระบบทางเดินอาหาร ได้แก่ อาการปวดท้อง อาเจียน ท้องร่วง สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการ แพ้อาหาร 4. เกิดขึ้นในหลายระบบและรุนแรง ผู้ป่วยบางรายมีอาการแพ้มาก อาจมีอาการเกิดขึ้นในทุกระบบ เช่น หอบ ลมพิษ ช็อก หรืออาจรุนแรงจนเสียชีวิตภายหลังจากกินอาหารบางชนิด เช่น กุ้ง ถั่วลิสง ฯลฯ หรือ ภายหลังได้รับยา เช่น เพนนิซิลลิน
  • 5. 5 โรคภูมิแพ้มีสาเหตุจากอะไร สาเหตุที่สาคัญมีอยู่ 2 ประการ 1. กรรมพันธุ์ โรคภูมิแพ้หลายโรคจะเกิดขึ้นได้ง่าย ถ้ามีพันธุกรรม เช่น โรคหืด โรคแพ้อากาศ และผื่น ภูมิแพ้ในเด็ก ยิ่งถ้ามีประวัติว่าทั้งพ่อและแม่เป็น จะยิ่งมีโอกาสมากกว่าพ่อหรือแม่เป็นฝ่ายเดียว โรคภูมิแพ้บางอย่าง สาเหตุจากพันธุกรรมไม่ค่อยเป็นปัจจัยสาคัญมากนัก เช่น ลมพิษ แพ้อาหาร แพ้ยา หรือแพ้จากการสัมผัส เช่น แพ้เครื่องประดับ แพ้เครื่องสาอาง เป็นต้น 2. สิ่งแวดล้อม เป็นปัจจัยสาคัญมาก เพราะสารก่อภูมิแพ้ที่จะเข้าร่างกายเราเกิดจากสิ่งแวดล้อมทั้งสิ้น ไม่ว่าสารก่อภูมิแพ้ที่เข้าร่างกายโดยการหายใจ หรือจากการรับประทาน หรือจากการสัมผัส สารก่อ ภูมิแพ้บางอย่างสังเกตได้ง่าย เช่น อาหาร หลังจากการรับประทานอาหารทะเล อาจเป็นลมพิษภายใน เวลาครึ่งชั่วโมง หรือกินยาแล้วมีผื่นขึ้น ผู้ป่วยกวาดบ้าน เล่นกับแมว หรือสุนัขแล้วเกิดอาการจาม คัด จมูกหรือหอบ สารก่อภูมิแพ้บางอย่างสังเกตได้ยาก เพราะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เช่น เกสรหรือเชื้อรา ในอากาศ หรือไรฝุ่นในบ้าน ซึ่งมีมากตามที่นอน หมอน โซฟา ห้องรับแขก พรม ฯลฯ วิธีการที่จะทาให้อาการภูมิแพ้ของเราไม่กาเริบก็ได้แก่ 1.ทาความสะอาดบ้านบ่อยๆ เพื่อไม่ให้บ้านของเราเต็มไปด้วยฝุ่นละอองต่าง ๆ 2.เครื่องนอนจะต้องสะอาด หมั่นซักทาความสะอาดและนาไปตากแดดอยู่เสมอ เพื่อป้องกันตัวไรฝุ่น 3.สารเคมี หรือน้ายาทาความสะอาดต่างๆ ไม่ควรจะใช้มือสัมผัสโดยตรง ทางที่ดีควรมีถุงมือยางเอาไว้ใส่ เพื่อไม่ให้เกิดอาการแพ้ หรือว่าให้เราเลือกสูตรที่เป็นธรรมชาติและอ่อนโยนต่อผิวหนังและสิ่งแวดล้อม 4.ห้ามเครียด เพราะความเครียดเป็นตัวที่ทาให้โรคภูมิแพ้ของเรามีอาการหนักขึ้นกว่าเดิม 5.หากว่าเรามีลูก ควรให้ลูกดื่มนมแม่อย่างน้อย 6 เดือน เพราะในน้านมของแม่จะมีภูมิต้านทาน ซึ่งเด็กที่ ไม่ได้ดื่มนมแม่เมื่อแรกเกิดจะมีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้ได้สูงกว่าเด็กที่ดื่มนมแม่ 6.รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เพราะหากว่าร่างกายของเราได้รับปริมาณสารอย่าง เพียงพอร่างกายของเราก็สามารถที่จะสร้างภูมิต้านทานไปต่อสู้กับอาการแพ้ต่างๆ ได้ ซึ่งอาหารที่เรา เลือกมารับประทานนี้ ควรจะเป็นอาหารสดๆ และยังไม่ผ่านการปรุงแต่ง เพราะว่าสารที่ใช้ในการปรุง แต่งอาหารมักจะทาให้เราเกิดอาการแพ้ได้ง่าย วิธีดาเนินงาน แนวทางการดาเนินงาน  ค้นคว้าหาข้อมูลเกี่ยวกับโรคภูมิแพ้ในอินเตอร์เน็ต  ดูคลิปวีดิโออธิบายของโรคภูมิแพ้ เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้  คอมพิวเตอร์  อินเตอร์เน็ต งบประมาณ - ไม่มี
  • 6. 6 ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน ลาดับ ที่ ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 1 0 1 1 12 1 3 1 4 1 5 16 17 1 คิดหัวข้อโครงงาน / ยุทธชัย 2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล / ยุทธชัย 3 จัดทาโครงร่างงาน / ยุทธชัย 4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน / ยุทธชัย 5 ปรับปรุงทดสอบ / ยุทธชัย 6 การทาเอกสารรายงาน / ภูริณัฐ 7 ประเมินผลงาน / ภูริณัฐ 8 นาเสนอโครงงาน / ภูริณัฐ ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทาโครงงาน) คาดว่าจะเป็นความรู้ที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งแก่เยาวชนและผู้ใหญ่ที่ตกอยู่ในสภาวะโรคภูมิแพ้และที่ไม่ เป็นเพื่อป้องกันการเกิดโรคเอาไว้ สถานที่ดาเนินการ ห้องคอมพิวเตอร์ 1024 กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง สุขศึกษา แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่นามาใช้การทาโครงงาน) http://www.ku.ac.th/e-magazine/february48/know/health.html .วันที่ค้นหา 2 กันยายน 2559 http://xn--22c0df2b3b7a.xn-- q3cped3cb5f8b6d.com/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%A0%E0%B8%B9% E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B9%89- %E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8 %82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84/ .วันที่ค้นหา 2 กันยายน 2559