More Related Content
Similar to งานนำเสนอไทยหมิว23256bbb
Similar to งานนำเสนอไทยหมิว23256bbb (20)
More from อิ่' เฉิ่ม (20)
งานนำเสนอไทยหมิว23256bbb
- 3. ประลุฤกษมุหต
ุ ทินอุตตมไกร
รณรงควิชยั ยะดิถศภยาม
ีุ
ทิชพฤฒิปโร ุ หิตโกวิทพราหมณ์
ก็ประกอบกิจตาม ติไสยพิธี
้
ครันถึงเวลาอันเป็ นฤกษ์ดีงามแก่การมีชยในการรบ
ั
พราหมณ์ผูเ้ จริญที่ปรึกษาแห่งกษัตริยกประกอบพิธีทางไสย
์็
ศาสตร์
- 4. ทะนุ เพืออภิมง คลสงเคราะห์ทวี
่
สิรวฒนกรี
ิั ธเผด็จดัสกร
บุรพัณหัสมัย ลุอทยรวิวร
ุ ั
นฤนาทอดิศร ธเสด็จสระสนาน
เวลาเช้าขณะตะวันเริ่มขึ้นพระมหากษัตริยกเ็ สด็จไปเพื่อให้เกิด
์
มงคลยิ่งและเพือความมีชยในการยกทัพเสด็จไปปราบข้าศึก
่ ั
สรงน้ า
- 5. วรองค์อภิมณฑ์
ั ศุภสรรพประการ
ดุจขัตติยบราณ
์ุ รณยุทธนิ ยม
พระเสด็จรัถยา บทคลาอนุ กรม
ฐิตเกยชยชม พลพฤนทนิ กร
พระวรกายประดับด้วยเครื่องทรงอันงดงามตามแบบฉบับกษัตริย ์
โบราณคราวออกศึกพระองค์เสด็จไปตามทางโดยลาดับประทับบน
เกยชัยเพื่อทอดพระเนตรกองทัพอันยิ่งใหญ่
- 6. กำพย์ฉ บัง ๑๖
เนมิตก์เชษฐวิทยุตดร รอพอบวร
มุหตอุดมดีดล
ุ
ให้ฆาตฆ้องชัยมงคล คารบสามหน
เฉลิมพระฤกษ์เบิกธง
้ ็ ี ้ ้
พราหมณ์ผูใหญ่รอจนถึงฤกษ์งามยามดีกให้ตฆองชัยมงคล ๓ ครังแล้วก็
โบกธงเป็ นการเอาฤกษ์เอาชัย ระดมตีกลองใหญ่ให้ครบถ้วน
- 7. ทุ่มอินทเภรีเร่งคง คาบลาถ้วนลง
มโหระทึกครึกโครม
ดุรยางค์ดนตรีม่ประโคม
ิ ี สังข์แตรแซ่โหม
กระหึ่มสนันบรรสาน
่
แล้ วตีกลองโลหะอย่ างครึกโครม ดนตรีบรรเลงพร้ อม
เป่ าแตรสังข์ ผสมผสานเสียงดังกึกก้ อง
- 8. ราชามาคธภูบาล เถลิงหลังคชาธาร
ประเสริฐสง่างามทรง
ควรขัตติยยานยรรยง เพียงพาหนาสน์องค์
สหัสนัยน์ใดปาน
้
ครบเต็มเครื่องตังหลังสาร กูบแพรแลลาน
ละล้วนบรรเจิดเฉิ ดฉัน
โอภาสอาภรณ์อครภัณฑ์
ั คชลักษณ์ปิลนธน์
ั
ก็ลวนก็ล้าลายอง
้
กษัตริยแห่งมคธเสด็จขึ้นเหนื อพระคชาธารอันสง่างามคู่ควรกับกษัตริย ์ ราวกับ
์
พาหนะทรงของพระอินทร์กไม่ปานพร้อมสรรพด้วยเครื่องประดับหลังช้าง ประทุน
็
ประดับแพรลานตาดูงดงามเครื่องประดับช้างงามยิ่งนัก
- 9. แพร้วแพร้วพรายพรายข่ายกรอง ก่องสกาวดาวทอง
้ ุ่
ทังพูสพรรณสรรถกล
สองพลุกสุกวลัยเลอยล ลาดพัสตร์รตคน
ั
และปกขนองซองหาง
งวงเสยเงยเศียรส่ายพลาง เทิดทันต์ท่าทาง
สง่าบ่ลากาลัง
้
ขุนคอคชคุมกุมอัง กุสกรายท้ายยัง
ขุนควาญประจาดารี
้
ข่ายถักที่คลุมศีรษะแพรวพราวเป็ นดาวทองปลัง่ สุกใส พูทองประดับไว้งดงาม งาทังคู่มีปลอก
่
สวมเป็ นเครื่องประดับ มีผาคลุมหลังผูกสายรัดประคน และสวมเครื่องคล้องใต้โคนหาง ยก
้
งวงเงยศีรษะส่ายไปมา ชูงาด้วยท่าทางสง่าไม่ออนล้า ท้ายช้างถือขอบังคับช้าง ส่วนควาญ
่
ช้างก็เข้าประจาที่
- 10. เครื่องสูงครบสรรพ์อนมี
ั ตามบุรพประเพณี
พยูหบาตรยาตรา
จาตุรงคิกแสนย์เสนา เนื่ องสุดสายตา
ตลอดตะลึงแลลาน
ขุนคชขึ้นคชชินชาญ คุมพลคชสาร
ละตัวกาแหงแข็งขัน
เคยเศิกเข้าศึกฮึกครัน เสียงเพรียกเรียกมัน
คารนประดุจเดือดดาล
เครื่องประดับเกียรติยศพร้อมสรรพตามอย่างโบราณราชประเพณี ในเวลายกทัพ พลทหาร ๔
เหล่ามากมายละลานตา พลช้างขึ้นขี่ชาง แต่ละตัวล้วนมีกาลังมาก เคยทาศึกสงครามอย่าง
้
ฮึกเหิม กาลังตกมัน ส่งเสียงคารณร้องราวกับโกรธแค้น
- 11. อร่ามเรืองด้วยเครื่องอลังการ นายขอหมอควาญ
ก็ข่ีกรีดาเนิ น
พลหัยพิศเห็นเช่นเหิน หาวเหาะเหยาะเดิน
เดาะเตือนก็เต้นตีนซอย
ต่างตัวดีดโลดโดดลอย เริงเล่นเผ่นคอย
จะควบประกวดอวดพล
เครื่องประดับตกแต่งอย่างงดงาม ควาญช้างก็ข่ีชางเดินมา พลม้ามองดูราวกับ
้
จะเหาะเหินไปในท้องฟ้ า พอเดาะเตือนก็ซอยเท้า แต่ละตัวกระโดดอย่างร่าเริง
คอยแข่งขันกัน
- 12. สีกายฝ้ ายแซมแกมขน ดาบ้างด่างปน
กระเลียวเหล่าเหลืองแดงพรรณ
โสภาอัศวาภรณ์สรรพ์ ตาบหน้าพร่าวรร
ณเด่นดากลกาญจน์มณี
ยาบย้อยห้อยพูดูดี
่ ขลุมสวมกรวมสี
สะคาดกนกแนมเกลา
สายถือสายง่องถ่องเพรา คล้องสอดสายเหา
้
งามทังพนังโกลนอาน
ขุนอัศว์อาตม์โอ่โอฬาร ราทวนเทิดปาน
ประหนึ่ งจะโถมโจมแทง
- 13. ้ั
มีทงม้าสีขาวแซมดา ม้าสีด่าง ม้าที่มสนหลังดาเป็ นทาง ม้าสีเหลือง และสี
ี ั
้
แดง เครื่องประดับม้าทังหมดงดงามยิ่ง แผ่นใบโพทองและเงินที่ตด ิ
ข้างหน้าส่องแสงแลแวววาวดูงามเด่น พูหอยย้อยชวนชม เชือกถักสวมหัว
่ ้
้ ้ ้ ้
ดัง่ ทอง สายถือ สายรังใต้คางม้า สายรังหลัง แผ่นหนังสาหรับปิ ดสีขางทัง
สอง ห่วงที่หอยลงมาจากอานและอานม้างามยิ่งนัก ทหารม้าสง่างามร่ายรา
้
เพลงทวนเหมือนหนึ่ งจะเข้าจูโจม
่
- 14. ต่างขับและขี่เข้มแขง ควงแส้สาแดง
ดุรงควิธีโรมรณ
ดาษดาคลาคลาสาพล่ ่ บทจรอนนต์
อเนกคะแนนคัณนา
ปลุกเสกเลขยันต์ว่านยา อาคมคาถา
้
ประสิทธิขลังทังกาย
เสื้อผ้าสารพัดจัดหลาย หมู่หมวดมากมาย
ก็หมายละอย่างต่างกัน
- 16. แรงหัตถ์กวัดแกว่งซึ่งสรรพ์ ศัสตราวุธอัน
วะวาบวะวาวขาวคม
พลรถแหล่ลวนควรชม
้ แอกงอนอ่อนสม
สง่าประกอบดุมกง
เล็งสูงลิ่วสวยชวยธง ชายโบกชวนบง
สะบัดระริ้วปลิวปลาย
ปื นไฟใส่ลอเลื่อนราย
้ หามลากมากหลาย
และลูกกระสุนดินดา
้
ในมือกวัดแกว่งอาวุธต่าง ๆ ล้วนแต่มีคมอันแวววาว พลรถทังหลายก็น่าชม แอกงาม
อ่อนช้อยสง่ารับกับดุมและกง มองเบื้องบนเห็นธง ชายธงโบกสะบัดพลิ้วน่ ามอง ปื น
ไฟเอาใส่ลอเลือนลากบ้าง หามมาบ้าง มากมายพร้อมด้วยกระสุนปื นและดินระเบิด
้ ่
- 17. พร้อมสรรพกองทัพโดยลา ดับล้วนควรยา
ระย่อสยองเยงยล
เคลื่อนคลายพลนิ กายสกล เต็มสองฟากสถล
อุคโฆสผสานศัพท์ฟง ั
เสียงสารแสะร้องก้องดัง เสียงโกลนเตือนพนัง
และเสียงพยู่หโยธี
์
กองทัพพร้อมเพรียงโดยลาดับดูน่าเกรงขาม กองทัพเคลื่อนมาเต็ม
้
หนทางทังสองฟาก เสียงดังกึกก้องประสานกัน เสียงช้าง เสียงม้า
- 18. เสียงแซ่สงคีตดีดสี
ั พาทย์กลองฆ้องตี
สิกมปนาทหวาดไหว
ั
ผงคลีมืดคลุมกลุมไป
้ ้ ปานพื้นแผ่นไผท
ทาลายถล่มจมเอียง
ออกจากราชคฤห์เขตเวียง มุ่งแคว้นแดนเชียง
วัชชีประชิดชิงชัยฯ
เสียงโกลน เสียงโห่รองของกองทัพ เสียงดนตรีดงเซ็งแซ่ ปี่ พาทย์ ฆ้อง กลอง เสียง
้ ั
้
อึกทึกครึกโครม ฝุ่ นตลบไปทังแผ่นดินเหมือนแผ่นดินจะถล่มทลาย ออกจากเมือง
ราชคฤห์ม่งตรงไปเอาชัยชนะแก่เมืองวัชชี
ุ
- 20. ๑. การสรรคา เป็ นการเลือกใช้คาที่สอความคิดและอารมณ์ได้
่ื
อย่างงดงาม ดังนี้
๑.๑)การเลือกใช้คาได้ถกต้องตรงตามความหมายที่ตองการ
ู ้
มีการใช้คาที่ประณี ตเป็ นพิเศษ เมื่อกล่าวถึงสิงศักดิ์
่
พระมหากษัตริย ์ ครู อาจารย์ จะใช้คาศัพท์ภาษาบาลี
สันสกฤตซึ่งถือว่าเป็ นภาษาสูงต้องแปลความทุกคา
๑.๒)การเลือกใช้คาศัพท์เหมาะแก่เนื้ อเรื่องและฐานะของ
บุคคลในเรื่อง
- 21. ๑.๓) การเลือกใช้คาโดยคานึ งถึงเสียง กวีได้แปลงฉันท์บางชนิ ดให้มี
ความแตกต่างไปจากเดิม ทาให้มีความไพเราะมากขึ้น สามัคคีเภทคา
ฉันท์มีการใช้คาที่มีเสียงเสนาะ ดังนี้
(๑.) การใช้คาที่เล่นเสียงหนักเบา ในบทร้อยกรองประเภทฉันท์ กาหนด
เสียงหนัก เบา (คาครุ และคาลหุ) ไว้แน่ นอนเป็ นแบบแผนที่ยดถือกัน ถ้า
ึ
อ่านเป็ นทานองเสนาะ ก็จะทาให้รูสกถึงรสไพเราะของเนื้ อความได้
้ึ
้ั
(๒.)การเล่นเสียงสัมผัส ในฉันท์ของของนายชิต บุรทัต มีทงสัมผัสนอกและ
้ั
สัมผัสใน โดยเฉพาะสัมผัสในมีทงสัมผัสสระและสัมผัสพยัญชนะแพรว
พราว คล้ายกับความไพเราะของกลอน
- 23. โอภาสอาภรณ์อครภัณฑ์ คชลักษณ์ปิลนธ์
ั ั
ก็เลิศก็ล้าลายอง
แพร้วแพร้วพรายพรายข่ายกรอง ก่องสกาวดาวทอง
้ ุ่
ทังพูสพรรณสรรถกล
มีการเล่นสัมผัสชุดเสียงคล้ายกลบท คือ
โอภาศ – อาภรณ์ – อัครภัณฑ์
แพร้ว- แพร้ว
พราย – พราย
(๔.) มีการเล่นคา
- 25. สีกายฝ้ายแซมแกมขน ดำบ้างด่างปน
กระเลียวเหล่าเหลืองแดงพรรณ
โสภาอัศวาภรณ์สรรพ์ ตาบหน้า
พร่าวรร
ณเด่นดำกลกาญจน์มณี
ยาบย้อยห้อยพู่ดูดี ขลุมสวม
กรวมสี
สะคาดกนกแนมเกลา
- 26. ๒.๓ อุปมาโวหาร เป็ นการกล่าวเปรียบเทียบเพื่อให้
ผูอานเข้าใจและเห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น
้่