More Related Content
Similar to งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
Similar to งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔ (20)
More from Kamonchapat Boonkua
More from Kamonchapat Boonkua (10)
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
- 2. ข้าแต่พระจอมจุฬมกุฎ บริสุทธิกาจาย
ปรากฏพระยศระบุระบาย ตระบะเบิกระบือบุณย์
เมตตาทยาลุศภกรรม
ุ อุปถัมภการุณย์
สรรเสริญเจริญพระคุณสุน ทรพูนพิบูลงาม
ข้าแต่จอมกษัตริยผู้ทรงความบริสุทธิ์ พระเกียรติยศ การบาเพ็ญตบะและบุญญาธิ
์
การเลื่องลือทั่วไป พระเมตตาปรานี พระราชกิจอันล้าเลิศ พระอุปถัมภ์ และพระ
กรุณาเป็นที่ยกย่องสรรเสริญ พระเกียรติคุณอันดีงามเพิ่มเป็นทวีคูณ
- 3. เปรียบปานมหรรณพนที ทะนุที่ประทังความ
ร้อนกายกระหายอุทกยาม นรหากประสบเห็น
อิบอิ่มกระหยิ่มหทยคราว ระอุผ่าวก็ผ่อนเย็น
ยัง อุณหมุญจนะและเป็น สุขปีตดีใจ
ิ
เปรียบเหมือนห้วงน้าใหญ่ทชวยผ่อนความร้อนความกระหาย
้ ี่ ่
น้้าของผูทได้พบเห็นให้อมเอิบชุ่มชืนใจ คราวร้อนก็ชวยปลด
้ ี่ ิ่ ่ ่
เปลืองความร้อนให้เกิดความสุขความปิตยนดี
้ ิิ
- 4. อันข้าพระองค์กษณะนี้ ภยมีจะร้อนใด
ยิ่งกว่าและหามนุษย์ไหน จะเสมอเสมือนตน
ใคร่เปลื้องประเทืองประณุททุกข์ ภยมุขประมวลดล
ไร้ญาติและขาดมิตรสกล ชนผู้จะดูดาย
อันตัวของข้าพระองค์ขณะนีประสบความทุกข์ร้อนอันยิ่งใหญ่ ไม่มีผใู้ ดเทียบเทียม
้
ได้ใคร่จะปลดเปลืองความทุกข์ร้อนแต่กไ็ ร้ญาติขาดมิตร
้
- 5. โดยเดียวเพราะอาดุร ณ แด และก็แก่ชรากาย
ที่ซ่งจะพึงสรณะหมาย
ึ อนุสรบห่อนเห็น
ทราบข่าวขจรกิรติบา รมิว่าพระองค์เป็น
เอกอัครกษัตริยสขมเพ็ญ
์ุุ กรุณามหาศาล
มีเพียงตัวคนเดียวซึงแก่ชรา ที่พงทีจะพักพิงก็มองไม่เห็นเลย ได้รู้
่ ึ่ ่
ข่าวพระเกียรติคุณเลืองลือว่า พระองค์ทรงเป็นกษัตริยผู้
่ ์
ยิ่งใหญ่ ทรงมีปัญญาลึกซึงเต็มเปียมด้วยพระมหากรุณาธิคณ
้ ่ ุ
- 6. หวัง พึ่งพะพิงบพิตรพึ่ง อภิโพธิสมภาร
มอบกายถวายชีวตปราณ ิ นิจ กาลปรารมภ์
คิดไว้มไิ ด้ประดุจเจตน์ เฉพาะเหตุบเห็นสม
ขืนทาก็เท่ากะจะนิยม คติผดพินจดู
ิ ิ
จึงหวังจะพึ่งพระบรมโพธิสมภาร มอบกายถวายชีวตแด่พระองค์จนกว่าชีวตจะหา
ิ ิ
ไม่ แต่ทว่าคงจะไม่ได้สมความคิด เพราะเป็นสิ่งอันไม่บังควร ทั้งนีหากทาไปก็เท่ากับ
้
ทาผิดอย่างร้ายแรง
- 7. ขึ้นชื่อกระฉ่อนบุรุษกัก ขฬอักกตัญญู
คิดคดกบฏประทุษภู วประเทศไผทตน
จ าเป็นเพราะเหลือจะทุมนัส บมิน่าจะรับผล
พ้องราชภัยเพราะทุรพล ดุจ นี้คะนึงดู
จะขึนชื่อว่าเป็นคนชั่วอกตัญญู เป็นกบฏต่อบ้านเกิดเมืองนอนของตน จาเป็นอย่าง
้
ยิ่งเพราะเสียใจเหลือเกิน ข้าพระองค์ได้รับพระราชอาญาเป็นด้วยเหตุ
- 8. เหตุเดิมก็โดยบรมรา ชอชาตศัตรู
ปรึกษากะข้ายุคลมู ลิกมุขและมนตรี
จัก ยาตรหยู่ห์พหลยุท ธประทุษย่ายี
เขตแดนพระองค์นยมนีิ รประโยชน์พยายาม
พระเจ้าอชาตศัตรูทรงปรึกษากับข้าราชการและข้าราชการชันผู้ใหญ่จะยกกองทัพมา
้
ย่ายี
- 9. ข้าบาทบมาดมนอสัตย์ พิเ คราะห์ชัดถนัดความ
จริงอ้างกระจ่างพจนตาม อธิบายระบิลแจง
วัชชีบวรนครสรร พจะขันจะเข้มแขง
รี้พลสกลพิรยแรง
ิ รณการกล้าหาญ
แคว้นวัชชี โดยหาได้มีผลดีตามที่คดมุงหมายไว้แต่อย่างไร ข้าพระองค์คด
ิ ่ ิ
ไตร่ตรองด้วยความสัตย์ เห็นอย่างชัดเจนจึงได้กราบทูลอธิบายว่า แคว้นวัชชีนน
ั้
เข้มแข็ง ไพร่พลมากมายล้วนแต่กล้าหาญ
- 10. มาคธไผทรฐนิกร พลอ่อนบชานาญ
ทั้ง สินจะสู้สมรราญ
้ ริปุนั้นไฉนไหว
ดั่ง อินทโคปกะผวา มุหฝ่าณกองไฟ
หิ่ง ห้อยสิแข่งสุรยะไหน
ิ จะมิน่าชิวาลาญ
ส่วนมคธนั้นเล่าทหารยังอ่อนหัดไม่ชานาญ ไม่อาจทาสงครามกับข้าศึก
ได้ เปรียบเสมือนแมลงเม่าบินเข้ากองไฟ หิ่งห้อยแข่งกับแสงอาทิตย์ ก็มีแต่จะ
เสียชีวิต
- 11. เห็นน่าจะหายนะก็ขด พจนัตถทัดทาน
ั
บัดดลบดินทรธดาล พระพิโรธส้าแดง
ลงราชทัณฑพิธทา รุณการร้ายแรง
ไป่ควรเฉลยนยแถลง เพราะพระองค์กทรงเห็น
็
เห็นความหายนะชัดเจนจึงทูลทัดทาน ทันใดพระองค์ทรงพิโรธ สั่งให้ลงโทษอย่าง
หนักในฐานที่บังอาจกราบทูลขัดแย้งกับพระองค์
- 12. กราบทูลประมูลบทประมวล ระบุล้วนตลอดเป็น
ความจริง บ แต่งกลประเด็น นิรสารพาที
ที่ดับระงับทุผลผ่อน ก็ บ ห่อนจะเห็นมี
นอกจากพระองค์อดุลสี ตลเมต ต คุณมัย
ที่ข้าพระองค์กราบทูลมาทังหมดนีเ้ ป็นความจริงทุกประการ มิได้เสริมแต่งสาระ
้
อันใดเลย ที่ที่จะช่วยดับความทุกข์ร้อนได้กไ็ ม่มี นอกเสียจากความร่มเย็นแห่งพระ
มหากรุณาธิคุณของพระองค์
- 13. มุ่ง มาก็หมายกมลมี สรณียเป็นไป
ครองชีวสืบสุขพิสัย อนุสนธิอาสัญ
สุดแต่จะทรงพระกรุณา ทะนุข้าพระบทมาลย์
ผู้ถึง อภัพทุพลซาน เสาะอุสาหมาถึง
เดินทางมาก็หมายใจจะยึดเป็นที่พ่ง ครองชีวตอย่างเป็นสุขสืบไปจนกว่าจะตาย จะ
ึ ิ
ตั้งใจรับราชการสนองพระมหากรุณาธิคุณตลอดไป ทั้งนีสุดแต่จะทรงพระกรุณาโปรด
้
เกล้าฯ แก่ข้าพระองค์ผู้อาภัพอับจนที่ได้ซมซานมาด้วยความอุตสาหะ
- 15. การเลือกสรรคา
วรรณคดีประเภทฉันท์แม้จะนิยมใช้คาบาลีสันสกฤตก็ตาม เพราะต้องการบังคับ
ครุ ลหุ แต่ผู้แต่งสามัคคีเภทคาฉันท์กเ็ ลือกสรรคาได้อย่างไพเราะเหมาะสมทั้งเสียงและ
ความ เช่น
๑. ใช้คาง่าย ๆ ในบางตอน ทาให้ผู้อานเข้าใจได้ไม่ยากนัก เช่น ตอนวัสสกา -
่
รพราหมณ์เข้าเมืองเวสาลีซ่งเป็นเมืองหลวงของแคว้นวัชชี
ึ
๒. การใช้คาที่มีเสียงเสนาะ เสียงเสนาะเกิดจากการใช้คาเลียนเสียงธรรมชาติ มี
การย้าคา ใช้คาที่ก่อให้เกิดความรู้สก เช่น ตอนชมกระบวนช้าง
ึ
- 16. ๓. ใช้คาที่ก่อให้เกิดความรู้สก เช่น ตอนพรรณนากองทัพของพระเจ้า อชาตศัตรู
ึ
“แรงหัตถ์กวัดแกว่งซึ่งสรรพ์ ศัสตราวุธอัน
วะวาบวะวาวขาวคม”
คา วะวาบวะวาว ก่อความรู้สกให้ผู้อ่านนึกเกรงขามได้ดีมาก
ึ
๔. ใช้คาที่มีความหมายกระชับ คาบางคาผูอ่านอ่านแล้วเข้าใจได้ทันทีโดยไม่ต้องใช้
้
ถ้อยคาอื่นมาขยายความอีกเลย
๕. การหลากคา กวีจาเป็นต้องรู้จักคามากเพื่อหลีกเลี่ยงการใช้คาซ้ากัน ทาให้
ผู้อ่านเห็นความเป็นอัจฉริยะของกวี
- 18. การใช้โวหาร
สามัคคีเภทคาฉันท์มีความไพเราะงดงามอันเกิดจากสารที่กวีใช้ศลปะในการถ่ายทอด
ิ
ความหมายของเนือหาโดยการใช้สานวนโวหาร และการใช้ภาพจน์ เพื่อให้ผู้อานจินตนาการ
้ ่
เห็นภาพชัดเจน เข้าใจและเกิดอารมณ์คล้ายตาม เช่น
๑. บรรยายโวหาร ใช้คาให้เห็นภาพชัดเจนตามลาดับเหตุการณ์ รวดเร็ว เข้าใจง่าย
๒. พรรณนาโวหาร เป็นการสร้างมโนภาพให้ผอ่านเกิดภาพขึนในใจ หรือมองเห็นภาพ
ู้ ้
บรรยากาศตามที่กวีต้องการ
๓. อุปมาโวหาร เป็นการกล่าวเปรียบเทียบเพื่อให้ผู้ผอ่านเข้าใจและเห็นภาพชัดเจนยิ่งขึน
ู้ ้