More Related Content Similar to 1.สคริปท์nicetomeet you[1]
Similar to 1.สคริปท์nicetomeet you[1] (20) More from SlideShare-เยอะเกิน-กฤตยา ศรีริ
More from SlideShare-เยอะเกิน-กฤตยา ศรีริ (20) 1.สคริปท์nicetomeet you[1]2. แบบบันทึกข้อมูลของผู้รับรางวัล “หนึ่งครูแสนดี” เล่มนี้ จัด
ทำาขึ้นเพื่อให้คณะกรรมการประเมินหนึ่งครูแสนดี ใช้เป็นคู่มือใน
การประเมินครูที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าประกวดครู แข่งขัน หนึ่งครู
แสนดีจะได้ทราบข้อมูล ความรู้ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับผู้ได้รับการ
ประเมินในด้านต่าง ๆ
แบบบันทึกข้อมูลเล่มนี้ประกอบด้วยส่วนสำาคัญดังต่อไปนี้
ตอนที่ ๑ ประวัติส่วนบุคคล เป็นข้อมูลที่เกี่ยวกับผู้ได้รับ
การเสนอชื่อ
ตอนที่ ๒ ประวัติ/ผลงานของผู้ขอรับรางวัล เป็นส่วน
ที่ผู้ได้รับการเสนอชื่อกรอกข้อมูลเกี่ยวกับผลงานที่เกิดจากการ
ปฏิบัติงานของตนเอง
ตอนที่ ๓ คุณสมบัติและเหตุผลที่สมควรได้รับรางวัล
หนึ่งแสนครูดี เป็นส่วนที่ผู้ได้รับการเสนอชื่อเขียนรายละเอียด
เกี่ยวกับการปฏิบัติงานในหน้าที่ การดำาเนินกิจกรรมต่าง ๆ ที่
แสดงถึงความเหมาะสมกับการเป็น “ ”ครูดีในดวงใจ
ตอนที่ ๔ ความคิดเห็นของผู้บังคับบัญชาชั้นต้น เป็น
ส่วนที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้บังคับบัญชาที่เห็นควรให้ผู้ได้รับการ
เสนอชื่อว่าเหมาะสมสำาหรับการเสนอชื่อ
ข้อมูลที่ปรากฏในแบบบันทึกข้อมูลนี้เป็นส่วนหนึ่งของผลงาน
ทั้งหมดเท่านั้น ซึ่งส่วนอื่น ๆ ที่เป็นรายละเอียดทั้งหมดสามารถ
ศึกษา ตรวจสอบได้ที่โรงเรียน ห้องเรียนของผู้ได้รับการเสนอ
หวังว่าแบบบันทึกข้อมูลเล่มนี้จะอำานวยประโยชน์ให้แก่คณะ
กรรมการประเมินและผู้อ่านได้เป็นอย่างดี ขอขอบคุณผู้อำานวยการ
สถานศึกษา คณะครู นักเรียน ผู้ปกครอง ศิษย์เก่าและชุมชนที่
ให้ความร่วมมือ ทำาให้แบบเสนอผลงานนี้เสร็จสมบูรณ์ตามเป้า
หมาย
(นางกฤตยา
ศรีริ)
....9..../...
.สิงหาคม..../...2554....
3. สารบัญ
ตอนที่ ๑ ประวัติส่วนบุคคล
๑
ตอนที่ ๒ ประวัติ/ผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติงานในหน้าที่
๒
ตอนที่ ๓ คุณสมบัติและเหตุผลที่สมควรได้รับรางวัลหนึ่ง
แสนครูดี ๒
ตอนที่ ๔ ความคิดเห็นของผู้บังคับบัญชาขั้นต้นเกี่ยวกับ
๔
4. แบบบันทึกข้อมูลของผู้รับรางวัลหนึ่งแสนครู
ดี
ประจำาปี ๒๕๕๔
******************************************
ตอนที่ ๑
ประวัติส่วนบุคคล
ข้อมูลส่วนตัว
ตำาแหน่งที่เสนอขอรับรางวัล ครู ผู้บริหารสถานศึกษา
ศึกษานิเทศก์ ผู้บริหารการศึกษา
หมายเลขบัตรประชาชน 3-7099-00088-20-2
เลขที่ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ 52200700738712
คำานำาหน้า นาย นาง นางสาว อื่น ๆ
โปรดระบุ......................
ชื่อ กฤตยา นามสกุล ศรีริ
NAME Mrs. Kitaya SURNAME Sriri
เพศ หญิง อายุ 48 ปี
สถานภาพ โสด สมรส อื่น ๆ
.................................................
ตำาแหน่งปัจจุบัน ครู วิทยฐานะ ชำานาญการพิเศษ
ระยะเวลาในการประกอบวิชาชีพ 26 ปี (ระยะเวลาในตำาแหน่ง
ที่ขอรับรางวัล)
เฉพาะผู้ประกอบวิชาชีพครูระบุกลุ่มสาระที่สอน กลุ่มสาระการ
เรียนรู้ภาษาอังกฤษ
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
วุฒิการศึกษา ปริญญาตรี สถาบัน วิทยาลัยครูหมู่บ้านจอมบึง
จังหวัดราชบุรี ปีที่จบการศึกษา 2526
ป.บัณฑิตอาสาสมัคร สถาบัน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปี
ที่จบการศึกษา 2528
สถานที่ปฏิบัติงาน โรงเรียนภัทรบพิตร อำาเภอเมือง
จังหวัดบุรีรัมย์
5. เลขที่ 137 หมู่ 11 ตำาบล เสม็ด ถนน บุรีรัมย์ – ประโคน
ชัย อำาเภอ เมือง จังหวัดบุรีรัมย์
รหัสไปรษณีย์ 31000 โทรศัพท์ 044-611984
โทรสาร 044-612974
ที่อยู่ที่ติดต่อได้สะดวก
เลขที่ 10/30 หมู่ 19 ตำาบลชุมเห็ด ถนน กนกศิลป์
อำาเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ รหัสไปรษณีย์ 31000 โทรศัพท์
098-4243-948 โทรศัพท์เคลื่อนที่ 08-6865-9944
E-mail kitayapoo@hotmail.com
Kitayaguru@yahoo.com
เว็บไซต์ทางการเรียนการสอน 1.
www.krupu.com/smedu 2. www.krupu.com
3.http://kitaya.greenozone1.com/ 4. http://smart-
click.csloxinfo.com/smk5362/ ฯลฯ
ตอนที่ ๒
ประวัติ/ผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติงานในหน้าที่
๒.๑ ประวัติ/ผลงานของผู้ขอรับรางวัล
๒.๑.๑ ประวัติ
ข้าพเจ้านางกฤตยา ศรีริ เกิดที่จังหวัดราชบุรี บิดาชื่อ นาย
อุบล ศรีภิรมย์ มารดาชื่อ นางลาวัลย์ ศรีภิรมย์
เนื่องจากครอบครัวมีฐานะยากจน ได้รับการอุปการะจากนางสาวรัช
ดาภรณ์ ศรีภิรมย์ มุ่งมั่นตั้งใจศึกษาเล่าเรียนจนจบ
ปริญญาตรี ระดับเกียรตินิยม จากวิทยาลัยครูหมู่บ้านจอมบึง
จังหวัดราชบุรี ประวัติการรับราชการบรรจุเข้ารับราชการครั้งแรก
วันที่ 31 มกราคม 2528 ตำาแหน่งอาจารย์ 1 ระดับ 3 โรงเรียน
ประโคนชัยพิทยาคม จังหวัดบุรีรัมย์ ทำาการสมรสกับนายณรงค์ ศรี
ริ
ปัจจุบันดำารงตำาแหน่ง ผู้อำานวยการโรงเรียน มีบุตรชาย 2 คน
ประกอบด้วยนายธีรดนย์ ศรีริ
สำาเร็จการศึกษา ระดับปริญญาตรี ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
และนายธรีโชฒ ศรีริ กำาลังศึกษา
ณ วิทยาลัยเทคนิคบุรีรัมย์
๒.๑.๒ ผลงาน
รางวัลระดับประเทศ
6. 1. รองชนะเลิศ กิจกรรมนักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา (YC –
YOUTH COUNSELOR) งานระบบดูแล สำานักงานคณะกรรมการ
การศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ประจำาปี 2552
2. ผู้ทำาคุณประโยชน์ทางด้านการศึกษา วันที่ 16 มกราคม
2553 สำานักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครู
และบุคลากรทางการศึกษา(สกสค.)
3. รางวัลครูไทยหัวใจไอซีที Innovative 2011 กระทรวง
ศึกษาธิการ ร่วมกับ บริษัทไมโครซอฟ ครั้งที่ 7 ระดับแปซิฟิก ณ
จังหวัดภูเก็ต ประเทศไทย ระหว่างวันที่ 5 – 10 มีนาคม 2554
4. รางวัลครูที่ปรึกษา รางวัลชนะเลิศที่ 1 ประจำาปี 2554
โครงการประกวด “สร้างคลังความรู้ กับทรูปลูกปัญญาดอทคอม”
ครั้งที่ 1 ภายใต้หัวข้อ “วิดีโอสร้างสรรค์ แบ่งปันความรู้” ประเภท :
กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิชา : สุขศึกษาและพลศึกษา ระดับมัธยมศึกษา
ตอนต้น ระดับ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
1. รางวัลดีเด่น ผลงานนักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา (YC) ประจำาปี
2551
2. รางวัลเหรียญทอง กิจกรรมการจัดระบบดูแลช่วยเหลือ
นักเรียน สำานักงานคณะกรรมการ -การศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวง
ศึกษาธิการ ระหว่างวันที่ 19 – 21 ธันวาคม 2551
๒.๒ คุณสมบัติและเหตุผลที่สมควรได้รับรางวัลหนึ่งแสน
ครูดี
การครองตน(คุณธรรม จรรยาบรรณ และจิต
วิญญาณ).....เหตุผล
เพราะข้าพเจ้าเป็นครูที่คิดดี พูดดี และเลือกทำาแต่ความดี รู้จัก
ตนเอง เข้าใจตนเอง และสามารถควบคุมตนเองได้ มีความสำานึกในคุณงามความดีของตนเอง
และผู้อื่น ปฏิบัติตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ ยึดมั่นในศีล ๕ และเบญจธรรม ๕ ในการครองตน
ตลอดเวลา มีความขยันเป็นเลิศ นอนน้อยทำางานมาก อุตสาหะ
พากเพียร เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และเสียสละต่อเพื่อนมนุษย์ มีความอดทน
และอดกลั้น สำารวมระวัง ความประพฤติปฏิบัติของตน ให้อยู่ใน
ระเบียบ ประพฤติตามแบบที่สอน เป็นแบบแผนที่ดีงาม ซื่อสัตย์ทั้งต่อ
ตนเองและผู้อื่น รักษาความจริงใจวางใจเป็นกลาง ไม่ปล่อยไปตาม
อำานาจอคติ รักความยุติธรรม
7. การครองคน(คุณลักษณะที่ดีต่อผู้อื่น และสังคม)
…..เหตุผล
ผลสำาเร็จที่เกิดจากรวมตัวของกลุ่มเยาวชนต้นกล้าความดี
สำานักข่าวเด็กและเยาวชน จังหวัดบุรีรัมย์ มีสมาชิกเครือข่าย
ประมาณ 5,000 คน จัดกิจกรรมการทำาดีเพื่อความดี ในโอกาส
ต่าง ๆ
มีผลงานและโครงการที่ริเริ่มสร้างสรรค์จนประสบผลสำาเร็จ ด้วยการ
สร้างและดำารงไว้ซึ่งสัมพันธภาพที่ดีกับผู้อื่น มีการยอมรับ และการ
ให้เกียรติ เข้าใจใน ความรู้สึกของผู้อื่นเสมือนเรา การจริงใจซึ่ง
การแสดงออกถึงความคิด ความรู้สึก และทัศนคติของตนเองด้วย
ความอ่อนโยน การไว้วางใจ ซึ่งกันและกัน เห็นความสำาคัญและ
คุณค่าการกระทำาตน เพื่อยังประโยชน์แก่ท้องถิ่นซึ่งนำามาให้เกิดร่วม
มือและประสานงานได้อย่างดียิ่งกับบุคคลทุกฝ่าย ทุกระดับ และ
หน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง
การครองงาน(การปฏิบัติงาน) …..เหตุผล
ข้าพเจ้ามีความรักและความศรัทธาในอาชีพครูที่ทำาตลอดเวลา 26 ปี มีความเพียรใน
การทำางานเอาใจใส่หน้าที่และหมั่นปรับปรุงงานที่ทำาให้ดีขึ้นอยู่เสมอ ด้วยความมุ่งมั่น
อุทิศตน พร้อมทั้งตนเอง มีฉันทะ เมตตา กัลยาณมิตร และยึดหลัก
ครูมืออาชีพ 20 ประการ อย่างเต็มตามศักยภาพ มีการพัฒนาการ
สอนควบคู่กับการวิจัยเชิงปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องเป็นภารกิจหลัก
และมีคุณธรรมโน้มนำาทำาการสอนให้มีคุณภาพ มุ่งให้ผู้เรียนได้รับ
ความรู้ ทักษะและทัศนคติพร้อมที่จะประพฤติตนเป็นคนดี ส่งเสริม
ให้ผู้เรียนเกิดความคิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้
คิดค้นหาเหตุผล สร้างความสัมพันธ์ของเนื้อหาเพื่อให้เกิด
ประสบการณ์และนำาไปใช้ในชีวิตประจำาวัน
ข้าพเจ้าขอรับรองว่าเป็นผู้มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ในประ
กาศฯ ทุกประการ
(ลงชื่อ)..........................................ผู้ขอรับรางวัล
(นางกฤตยา ศรีริ)
......8....../...สิงหาคม..../.....25
54.....
ตอนที่ ๓
ความคิดเห็นของผู้บังคับบัญชาขั้นต้นเกี่ยวกับ
8. คุณลักษณะ คุณสมบัติ และผลงานที่โดดเด่นของผู้
ขอรับรางวัล
นางกฤตยา ศรีริ เป็นผู้ที่มีความยึดมั่นในศาสนา มีความ
ประพฤติดี เป็นแบบอย่างแก่เพื่อนครู มีความทุ่มเท เสียสละใน
หน้าที่การงาน เป็นผู้จัดกระบวนการเรียนรู้ได้ดี มีการพัฒนา
ตนเองอยู่เสมอ เป็นคนที่มีนำ้าใจกับเพื่อนครู เป็นที่รักของนักเรียน
อุทิศเวลาให้ทางราชการอย่างเสมอต้นเสมอปลายมีความรับผิดชอบ
สูง เอาใจใส่ต่อการแก้ปัญหาการเรียนของศิษย์ ปฏิบัติตนดี
จนเป็นที่ยอมรับของสังคม ชุมชน มีการพัฒนาสื่อการเรียนการ
สอนอยู่เสมอ ได้รับความไว้วางใจจากเพื่อนครูให้เป็นผู้นำาทั้งด้าน
วิชาการและด้้านพิธีกรรมต่าง ๆ เป็นแนวหน้าของเพื่อนครูทุก
ด้านเป็นผู้ที่มีจิตวิญญาณครูอย่างแท้จริง
ข้าพเจ้าขอรับรองว่า นางกฤตยา ศรีริ เป็นผู้มีความเหมาะ
สมแก่การยกย่องเชิดชูเกียรติ เพื่อรับรางวัลหนึ่งแสนครูดี
(ลง
นาม).........................................ผู้บังคับบัญชา
(นายสมศักดิ์ แต้มโคกสูง)
ตำาแหน่ง ผู้อำานวยการโรงเรียน
ภัทรบพิตร
..........9....../....
.สิงหาคม.../.....2554....
10. คุณธรรม และ จริยธรรม หมายความว่าอย่างไร ๑. คุณธรรม คุณธรรม เป็นนามธรรมเป็น
เรื่องของจิตที่มีหน้าที่คิด ตามสิ่งต่างๆที่มากระทบ เช่น ตาเห็นรูป หูได้ยินเสียง จมูกได้กลิ่น
ลิ้นลิ้มรส กายสัมผัส เย็น ร้อน อ่อน แข็ง ใจเป็นทุกข์ เป็นสุข ทำาให้คิดถึงอดีต ปัจจุบันและ
อนาคต วนเวียนอยู่อย่างนี้ตลอดไป เพราะเป็นธรรมชาติของจิตที่มีหน้าที่คิด คุณ ในข้อนี้
หมายถึง ความคิดที่ดีมีประโยชน์ ต่อตนเองและผู้อื่น ธรรม ในข้อนี้ หมายถึง คำาสอนของ
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ท่านตรัสสอนตามธรรมชาติที่เกิดขึ้นมาแล้ว กับ
มวลมนุษย์และสัตว์ทั้งหลายที่อยู่ร่วมกันในโลกนี้ คุณธรรม หมายถึง ธรรมชาติที่เป็นคุณ
เป็นประโยชน์ ซึ่งธรรมชาติของมนุษย์มีชีวิต จิตใจ มีสติ ปัญญา มีความรู้สึกนึกคิดที่ดีกัน
ทุกคน หรือที่เรียกว่า “ คิดดี ” ส่วนจะมีมากหรือมีน้อยแตกต่างกันไป ผู้ที่มีคุณธรรม หมาย
ถึง ผู้ที่มีสติ ปัญญาดี รู้ผิด ชอบ ชั่ว ดี รู้บาป บุญ คุณ โทษ เชื่อว่าทำาดีได้ดี ทำาชั่วได้ชั่ว คิด
แต่สิ่งที่ดีมีประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น รวมทั้งประเทศชาติบ้านเมือง หรือได้ศึกษาและ
ปฏิบัติตาม พระธรรมคำาสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาดีแล้ว เรียกว่าเป็น ผู้มี
คุณธรรม ประจำาใจ ตัวอย่างผู้ที่มีคุณธรรม ผู้ที่มีคุณธรรม หมายถึงผู้ที่มีความเมตตา กรุณา
คือมีความรัก ความสงสาร มีจิตใจ โอบอ้อมอารี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีความซื่อสัตย์สุจริตต่อ
ตนเองและผู้อื่น มีความกตัญญูรู้คุณ พ่อแม่ ครู อาจารย์ และชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
มีจิตใจอันสูงส่ง มีหิริโอตตัปปะ มีความละอายต่อบาป มีความเกรงกลัวต่อบาป ไม่ดูถูก
เหยียดหยามผู้ที่ด้อยกว่า มีจิตสำานึกอันดี ประพฤติตนเป็นคนดี เป็นแบบอย่างที่ดี สร้าง
ความเจริญรุ่งเรืองให้กับตนเองและผู้อื่น รวมทั้งประเทศชาติบ้านเมือง นี้คือตัวอย่างผู้ที่ “มี
คุณธรรมประจำาใจ” ตัวอย่างผู้ที่ขาดคุณธรรม หมายถึง ผู้ที่มีสติ ปัญญาน้อย ขาดความ
เมตตา กรุณา ไม่มีความรัก ไม่มีความสงสารต่อผู้ใด ขาดหิริโอตตัปปะ ไม่มีความละอายต่อ
บาป ไม่มีความเกรงกลัวต่อบาป ไม่เชื่อคำาสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้า ไม่เชื่อเรื่องกฎแห่ง
กรรม ไม่เชื่อว่าทำาดีได้ดี ทำาชั่วได้ชั่ว ไม่เชื่อว่ามีชาติก่อน มีชาติหน้า ไม่ได้ศึกษาและ
ปฏิบัติตาม พระธรรมคำาสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จิตถูกกิเลส คือความโลภ
ความโกรธ ความหลง ครอบงำา คิดแต่สิ่งชั่วร้าย เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนมากกว่า
ประโยชน์ส่วนรวม สร้างความเดือดร้อนให้กับตนเองและผู้อื่น รวมทั้งประเทศชาติบ้าน
เมือง ถือว่าผู้นั้นมีธรรมชาติที่เป็นโทษ หรือเรียกว่า “ ขาดคุณธรรมประจำาใจ” นี้คือตัวอย่าง
ผู้ที่ขาดคุณธรรม ซึ่งเป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ยังมีคำาสอนของพระพุทธเจ้า อีก
มากมายที่ผู้ใดนำามาปฏิบัติตามแล้ว จะทำาให้เกิดคุณธรรมแก่ตนเอง ๒. จริยธรรม
จริยธรรม เป็นรูปธรรม เป็นเรื่องของการแสดงออกทางกาย ทางวาจา จริย หมายถึง การ
11. แสดงออกทางกาย ทางวาจา ของมนุษย์ ธรรม ในข้อนี้หมายถึง ธรรมชาติของมนุษย์ที่มี
กาย วาจา เป็นสื่อภาษาที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารระหว่างกัน จริยธรรม หมายถึงการ
แสดงออกทางกาย ทางวาจา การแสดงออกทางกาย คือ ทำาแต่สิ่งที่ดีมีประโยชน์ต่อตนเอง
และผู้อื่น รวมทั้งประเทศชาติบ้านเมือง เรียกว่า “ ทำาดี ” การแสดงออกทางวาจา คือพูดแต่
เรื่องที่ดีมีประโยชน์ต่อตนเอง และผู้อื่นที่เรียกว่า “พูดดี ” ผู้มีจริยธรรม หมายถึงผู้ที่มีสติ
ปัญญาดี แสดงออกในสิ่งที่ดีงาม ทางกาย ทางวาจา เป็นประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น รวม
ทั้งประเทศชาติบ้านเมือง หรือผู้ที่ได้รับการอบรมสั่งสอน จากพระธรรมคำาสอนของ องค์
สมเด็จพระสัมมา สัมพุทธเจ้า มีความสำารวมทางกาย ทางวาจาดีแล้ว เรียกว่าผู้นั้นมี “
จริยธรรม ” ตัวอย่างผู้ที่มีจริยธรรม ผู้ที่มีจริยธรรม คือผู้ที่มีกิริยาวาจาสุภาพ เรียบร้อย
อ่อนน้อมถ่อมตน การแสดงออกทางกาย เช่น แต่งตัวสุภาพเรียบร้อย ถูกกาลเทศะ ตาม
ขนบธรรมเนียมและประเพณีอันดีงามของไทย ไม่แสดงกิริยากระด้าง กระเดื่อง ใช้วาจา
สุภาพอ่อนโยน ไม่พูดปด ไม่พูดคำาหยาบ ไม่พูดเพ้อเจ้อ ไม่พูดส่อเสียด ให้ผู้อื่นต้องเสียใจ
นี้คือตัวอย่างผู้ที่ มีจริยธรรม คือการพูดดี ทำาดี กายประกอบกรรมดี วาจาพูดแต่เรื่องที่ดีมี
ประโยชน์ที่เรียกว่า “ พูดดี ทำาดี ” ตัวอย่างของผู้ที่มีและขาด คุณธรรม จิรยธรรรม ๑. ผู้ที่มี
คุณธรรม และมีจริยธรรม ๒. ผู้ที่ขาดคุณธรรม และขาดจริยธรรม ๓. ผู้ที่มีคุณธรรม แต่
ขาดจริยธรรม ๔. ผู้ที่ขาดคุณธรรม แต่มีจริยธรรม ๑) ตัวอย่างผู้ที่มีคุณธรรมและมี
จริยธรรม หมายถึงผู้ที่มีสติปัญญาดี มีจิตใจบริสุทธิ์ มีความเมตตา กรุณา คือ มีความรัก มี
ความสงสาร ปรารถนาให้ ผู้อื่นเป็นสุข มีหิริโอตตัปปะ มีความละอายต่อบาป มีความเกรง
กลัวต่อบาป มีขันติโสรัจจะ มีความอดทน มีความสงบเสงี่ยม ไม่คิดชั่ว ไม่พูดชั่ว ไม่ใช้กาย
วาจา ไปทำาให้ผู้อื่นเดือดร้อน เพราะกลัวว่าจะเป็นบาป เป็นโทษ ติดตัวตามตนไปในชาตินี้
และชาติ ต่อ ๆ ไป จึงคิดแต่เรื่องที่ดี พูดแต่คำาที่ดี ทำาแต่สิ่งที่ดี เรียกว่าเป็น ผู้ที่ “มีคุณธรรม
จริยธรรม” ๒) ตัวอย่างผู้ที่ขาดคุณธรรมและขาดจริยธรรม หมายถึงผู้ที่มีสติ ปัญญาน้อย
ไม่เชื่อฟังคำาสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้า จิตอยู่ใต้อำานาจของกิเลส คือ ความโลภ ความ
โกรธ ความหลง ครอบงำาจิตใจ จึงไม่มีคุณธรรมประจำาใจ เป็นเหตุให้ขาดความเมตตา
กรุณา ไม่มีความรัก ไม่มีความสงสาร ขาดหิริโอตตัปปะ ไม่มีความละอายต่อบาป ไม่เกรง
กลัวต่อบาป ไม่มีขันติโสรัจจะ ไม่มีความอดทน ไม่มีความสงบเสงี่ยม ไม่รู้บาป บุญ คุณ
โทษ ไม่รู้ผิด ชอบ ชั่ว ดี มีความเห็นแก่ตัว เอารัดเอาเปรียบผู้อื่น จะคิด จะพูด จะทำาอะไร ก็
ไม่เกรงกลัวความเดือดร้อน จะเกิดขึ้นกับตนเองและผู้อื่น รวมทั้งประเทศชาติบ้านเมือง คิด
ชั่ว พูดชั่ว ทำาชั่ว ได้ทุกเวลาทุกโอกาสนี้คือตัวอย่างของผู้ที่ “ ขาดคุณธรรมและขาด
จริยธรรม ” ๓) ตัวอย่างผู้ที่มีคุณธรรมแต่ขาดจริยธรรม หมายถึงผู้ที่มีความคิดดี มีความ
เมตตา กรุณา คือมีความรัก ความสงสาร มีความคิดที่จะช่วยเหลือเผื่อแผ่ต่อผู้อื่น ถือว่าผู้
12. นั้น มีคุณธรรมประจำาใจ แต่การแสดงออกทางกิริยา วาจา ตรงข้ามกับความรู้สึกนึกคิด
แสดงกิริยา วาจา ไม่สุภาพเรียบร้อย ไม่รู้จักกาลเทศะ พูดปด พูดคำาหยาบ พูดเพ้อเจ้อ พูด
ส่อเสียดให้ผู้อื่นเสียหาย ถือว่าผู้นั้น ขาดจริยธรรม นี้คือตัวอย่างของ ผู้ที่ “ มีคุณธรรมแต่
ขาดจริยธรรม ” ๔) ตัวอย่างผู้ที่ขาดคุณธรรมแต่มีจริยธรรม หมายถึงผู้ที่มีสติปัญญาน้อย
ขาดคุณธรรมประจำาใจคือ ขาดความเมตตา กรุณา ไม่มีความรัก ไม่มีความสงสาร มีจิตใจ
โหดร้ายทารุณ เห็นแก่ตัว ไม่สนใจช่วยเหลือผู้อื่น ถือว่าเป็นผู้ที่ขาดคุณธรรมประจำาใจ แต่
การแสดงออกทางกาย ทางวาจา ตรงกันข้ามกับความรู้สึกนึกคิดของจิตใจ แสดงกิริยา
วาจาที่สุภาพเรียบร้อย ช่วยเหลือผู้อื่นอย่างไม่เต็มใจ เสแสร้งแกล้งพูดดี ใช้วาจาที่ไพเราะ
ซึ่งไม่ตรงกับใจหรือที่เรียกกันว่า “ ปากกับใจไม่ตรงกัน ” ถือว่าเป็นผู้ที่ มีจริยธรรม นี้คือ
ตัวอย่างของผู้ที่ “ ขาดคุณธรรมแต่มีจริยธรรม ” เพราะฉะนั้น ผู้ที่จะมีคุณธรรม และ
จริยธรรมนั้น บางคนมีคุณธรรมและจริยธรรม มาจากอดีตชาติ คือเป็นผู้ที่มีอุปนิสัยใจคอดี
แต่จะมีมากมีน้อยแตกต่างกัน ผู้ใดมีมาก ก็จะสามารถศึกษาและปฏิบัติตามคำาสอนขององค์
สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เร็ว เข้าใจในคำาสอนมากขึ้น เรียกว่าผู้นั้น มีคุณธรรม
จริยธรรมสูง ส่วนผู้ที่มีคุณธรรม จริยธรรมจากอดีตชาติมาน้อย ต้องพยายามศึกษาและ
ปฏิบัติตามให้เกิดคุณธรรมตามคำาสอนในบทนั้น ๆ ผู้ใดได้ศึกษาและปฏิบัติตามได้มาก ผู้
นั้นย่อมมีคุณธรรมและจริยธรรมเพิ่มขึ้น เพราะ คำาสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้า ล้วน
เป็นการเสริมสร้างคุณธรรมและจริยธรรมทั้งสิ้น แล้วแต่ท่านจะเลือก คำาสอนบทใด มา
ปฏิบัติให้เกิดคุณธรรมจริยธรรม ให้กับตนเอง แล้วยังสามารถนำาไปอบรมสั่งสอน ให้ผู้อื่นมี
คุณธรรม และ จริยธรรมตามได้อีกด้วย