More Related Content
Similar to กิจกรรมที่1 โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
Similar to กิจกรรมที่1 โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ (20)
กิจกรรมที่1 โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
- 1. 1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33201 ชือวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการ
สือสาร 5
ปการศึกษา 2562
ชือโครงงาน โรคไบโพลาร์
ชือผู้ทําโครงงาน
ชือนางสาว สาธิณี เลามุ่ง เลขที 18 ชัน ม.6 ห้อง 9
ชืออาจารย์ทีปรึกษาโครงงาน ครูเขือนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดําเนินงาน ภาคเรียนที 1-2 ปการศึกษา 62
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สํานักงานเขตพืนทีการศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
- 2. 2
ใบงาน
การจัดทําข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม นางสาว สาธิณี เลามุ่ง เลขที 18
คําชีแจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี
ชือโครงงาน (ภาษาไทย)
โรคไบโพลาร์
ชือโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
Bipolar Disorder
ประเภทโครงงาน พัฒนาสือเพือการศึกษา
ชือผู้ทําโครงงาน นางสาว สาธิณี เลามุ่ง
ชือทีปรึกษา ครูเขือนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดําเนินงาน ภาคเรียนที 1-2 ปการศึกษา 62
ทีมาและความสําคัญของโครงงาน (อธิบายถึงทีมา แนวคิด และเหตุผล
ของการทําโครงงาน)
ในปจจุบันมีแนวโน้มการเกิดโรคไบโพลาร์มากขึนในวัยรุ่น ซึงโรค
ไบโพลาร์เปนกลุ่มอาการหนึงจากโรคซึมเศร้าซึงเกิดจากการดําเนินชีวิตมี
เหตุการณ์ต่างๆทีส่งผลกระทบต่อการดําเนินชีวิตของคนในสังคมมากมาย
ความเครียดจากการทํางาน ความผิดหวังของผลการเรียนการถูกทิงจากคนรัก
อาการปวยทางร่างกายการผิดหวังจากสิงทีได้คาดหวังไว้และอีก หลายปจจัย
ส่งผลทําให้เกิดความเครียดสะสม สมองผลิตสารสือ ประสาทผิดปกติ
พฤติกรรมเปลียนแปลงไป ทําให้เกิดอารมณ์สองขัว ส่งผลต่อตนเองและ
ครอบครัวอย่างหลีกเลียงไม่ได้ในปจจุบันผู้ทีตกอยู่ในสภาวะซึมเศร้าระดับไบ
โพล่าร์พบได้ประมาณ 1-2% ของประชากรทัวโลก และเปนโรคทีก่อให้เกิด
ความสูญเสีย ดังนันจึงมีจุดมุ่งหมายเพือศึกษาอารมณ์และความรู้สึกของผู้ที
ตกอยู่ในสภาวะซึมเศร้าระดับไบโพล่าร์ เพือนํามาปองกันไม่ให้เกิดหรือเมือ
เกิดทําอย่างไรจึงควบคุมได้ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อตัวเราและผู้อืน
วัตถุประสงค์ (สิงทีต้องการในการทําโครงงาน ระบุเปนข้อ)
1.เพือนําเสนอเรืองพฤติกรรมทีเปลียนแปลงของคนทีตกอยู่ในสภาวะซึมเศร้า
ระดับไบโพล่าร์
2.เพือให้ได้ความรู้ ความเข้าใจเกียวกับโรคไบโพลาร์
3.เพือทีจะได้รู้ถึงการปองกันไม่ให้เกิดโรค
- 3. 3
ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงือนไขและข้อจํากัดของการทํา
โครงงาน)
โครงงานเรืองโรคไบโพลาร์ ได้เข้าใจถึงสาเหตุและความเสียงทีจะทําให้เกิด
โรคไบโพลาร์ ผู้ทําการศึกษาเปนนักเรียนชันมัธยมศึกษาปที 6 ภาคเรียนที 1
ปการศึกษา 2562 โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย ซึงมีระยะเวลาด าเนินโครงงาน
29 สิงหาคม – 17 กันยายน 2562
หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีทีสนับสนุนการทําโครง
งาน)
โรคอารมณ์สองขัว เปนโรคทีผู้ปวยมีอารมณ์แปรปรวนผิดปกติ โดยมี
อารมณ์ดีมากจนผิดปกติหรืออยู่ในภาวะอารมณ์ดีตืนตัวผิดปกติ (Mania)
สลับกับมีภาวะซึมเศร้าอย่างหนัก (Depression) ทําให้เกิดความยากลําบาก
ต่อการทํางาน การเข้าสังคม และการใช้ชีวิต ปจจุบันเชือว่าโรคไบโพลาร์เกิด
ได้จากหลายสาเหตุ อาทิ พันธุกรรมทีผิดปกติทังทีเกิดจากการถ่ายทอดจาก
บรรพบุรุษและเกิดใหม่ช่วงเปนทารกในครรภ์ เนืองจากพบว่าผู้ทีมีบุคคลใน
ครอบครัวปวยด้วยโรคนีหรือโรคทางจิตเวชอืนๆ จะมีโอกาสเปนโรคไบโพลาร์
มากกว่าคนทัวไป
นอกจากนียังอาจเกิดจากการทํางานทีผิดปกติของสมองโดยมีสารสือ
ประสาททีไม่สมดุล และจากสภาพแวดล้อมของผู้ปวย เช่น การเลียงดูในวัย
เด็ก หรือความเครียดในชีวิตประจําวันทีกระตุ้นให้โรคแสดงอาการ รวมถึงเกิด
จากโรคบางอย่าง เช่น ความผิดปกติของไทรอยด์ฮอร์โมน
ชนิดของโรคไบโพลาร์
โรคไบโพลาร์มีหลายชนิด แบ่งแยกตามอาการและความรุนแรงได้เปน
ประเภทหลักๆ ดังต่อไปนี
● Bipolar I เปนโรคไบโพลาร์ชนิดทีรุนแรงทีสุด ผู้ปวยจะมีอาการแบบ
อารมณ์ดีผิดปกติอย่างน้อย 1 ครัง และอาการของโรคซึมเศร้าอย่างน้อย
1 ครัง โดยมีอาการทุกวันอย่างน้อย 1 สัปดาห์ โดยอาการแบบอารมณ์ดี
ผิดปกติ (มาเนีย) ของผู้ปวย Bipolar I จะรุนแรงกว่าอาการของผู้ปวย
Bipolar II มาก
● Bipolar II โรคไบโพลาร์ชนิดนีมักตรวจพบหลังจากผู้ปวยมีอาการของ
โรคซึมเศร้าแล้วอย่างน้อย 1 ครัง ร่วมกับอาการมาเนียอย่างอ่อน
(Hypomania) อย่างน้อย 1 ครังเช่นกัน โดยมีช่วงทีมีอารมณ์ปกติคันอยู่
ระหว่างอาการซึมเศร้าและอาการอารมณ์ดีผิดปกติ ภาวะอารมณ์ดีใน
โรคไบโพลาร์แบบ Bipolar II จะมีไม่มากเท่า Bipolar I จึงมักได้รับการ
- 4. 4
วินิจฉัยผิดพลาดว่าเปนโรคซึมเศร้า เนืองจากอาการมาเนียอย่างอ่อนข
องผู้ปวยมักถูกมองข้ามไป
● Cyclothymia เปนโรคไบโพลาร์ชนิดอ่อน เรียกอีกชือหนึงว่า
Cyclothymic disorder ผู้ปวยโรคนีจะมีอาการมาเนียและซึมเศร้าที
รุนแรงน้อยกว่าทัง 2 ประเภทข้างต้น
อาการ
❖ ช่วงอารมณ์ดีหรือหงุดหงิดมากกว่าปกติ
1. มันใจในตัวเองเพิมมากขึนหรือคิดว่าตนเองยิงใหญ่
2. นอนน้อย
3. พูดมากกว่าปกติหรือพูดอย่างไม่หยุด
4. ความคิดแล่นเร็ว
5. วอกแวกง่าย
6. อยากทําอะไรหลายๆ อย่างในช่วงเวลานัน
7. หมกมุ่นอย่างมากกับกิจกรรมทีทําให้เกิดปญหา เช่น ใช้จ่ายหรือ
ลงทุนเยอะ ไม่ยับยังใจเรืองเพศ
❖ ช่วงอารมณ์ซึมเศร้า
1. ซึมเศร้าเปนส่วนใหญ่ของวัน แทบทุกวัน
2. ความสนใจในกิจกรรมต่างๆ ลดลง
3. เบืออาหารหรือรับประทานอาหารมากเกิน
4. นอนไม่หลับหรือหลับมากไป
5. กระสับกระส่ายหรือเชืองช้ามากขึน
6. อ่อนเพลีย
7. รู้สึกตนเองไร้ค่า
8. สมาธิลดลง
9. คิดถึงเรืองการตายอยู่เรือยๆ
การรักษาโรคไบโพลาร์
ผู้ปวยจะได้รับการรักษาตามกระบวนการทีเหมาะสมกับความรุนแรง
และลักษณะอาการ อย่างไรก็ตาม โรคไบโพลาร์ไม่สามารถรักษาให้หายขาด
ได้ แต่สามารถใช้ยาปรับสมดุลสารสือประสาทและการบําบัดเพือช่วยบรรเทา
และควบคุมอาการปวยได้ ดังนี
- 5. 5
การรักษาด้วยยา ผู้ปวยต้องใช้ยาเพือปรับสารสือประสาทในสมองให้กลับสู่
สภาวะปกติ ควบคุมสารไม่ให้สูงหรือตาจนทําให้เกิดภาวะอารมณ์ดีผิดปกติ
หรือภาวะซึมเศร้า แม้อาการจะดีขึนแล้ว แต่ผู้ปวยต้องใช้ยาตามคําสังแพทย์
อย่างต่อเนืองหรือจนกว่าแพทย์จะสังให้หยุดใช้ รวมทังมาพบแพทย์ตามนัด
เพือติดตามผลการรักษาอย่างสมาเสมอ เพราะหากหยุดใช้ยาอย่างกะทันหัน
หรือขาดการรักษาอย่างต่อเนือง จะเพิมความเสียงต่อการกลับไปมีอาการของ
โรคซาอีก หรืออาจมีอาการรุนแรงกว่าทีเคยเปน
โดยยาทีใช้รักษาผู้ปวยไบโพลาร์ ได้แก่
ยากลุ่มลิเทียม (Lithium Carbonate) ใช้รักษาระยะยาวภายใต้การดูแลของ
แพทย์ และต้องควบคุมยาให้อยู่ในปริมาณทีเหมาะสมต่อร่างกายเสมอ เพือ
ลดการเกิดผลข้างเคียง โดยผู้ปวยทีใช้ยาลิเทียมต้องรับการตรวจเลือด ตรวจ
การทํางานของไตและต่อมไทรอยด์ และตรวจระดับลิเทียมในเลือดเปนระยะ
ยารักษาโรคลมชัก (Anticonvulsant) เปนยาทีใช้รักษาอารมณ์แปรปรวนใน
ระยะยาว ซึงอาจใช้ควบคู่กับยาลิเทียมตามดุลยพินิจของแพทย์ด้วย โดยมี
ตัวอย่างยา เช่น วาลโปรเอท คาร์บามาซีปน และลาโมไตรจีน เปนต้น
ยารักษาอาการทางจิต (Antipsychotic) ใช้รักษากลุ่มอาการทางจิตทีเกิดขึน
ในขณะเปนโรคอารมณ์สองขัว เช่น อะริพิพราโซล โอแลนซาปน เควทาเอปน
และเรสเพอริโดน เปนต้น
ยาต้านเศร้า (Antidepressant) ใช้รักษาร่วมกับยาอืนในกรณีทีผู้ปวยอยู่ใน
ภาวะซึมเศร้า เพือปรับสภาวะทางอารมณ์ให้มันคง เช่น ฟลูออกซิทีน เปนต้น
ยาคลายกังวล (Anti-Anxiety) ช่วยคลายความวิตกกังวล ความคิดฟุงซ่าน
และบรรเทาปญหาด้านการนอนทีเกิดขึนกับผู้ปวยไบโพลาร์อย่างอาการนอน
ไม่หลับ เช่น เบนโซไดอะซีปน เปนต้น
การบําบัดรักษา
นอกเหนือจากการรักษาฟนฟูทางร่างกาย ผู้ปวยไบโพลาร์ต้องเข้ารับการ
บําบัดจากจิตแพทย์อย่างต่อเนืองด้วย ซึงประกอบไปด้วยการรับคําปรึกษา
และการบําบัดทางจิต (Psychotherapy) การเข้าร่วมกลุ่มบําบัดกับผู้ปวยคน
อืน ๆ และการศึกษาเกียวกับโรคความผิดปกติทางจิตและอารมณ์ทีตนเปนอยู่
เพือให้รับมืออาการต่าง ๆ ทีเกิดขึนได้ดียิงขึน
การปองกันโรคไบโพลาร์
แม้จะไม่มีวิธีทีแน่นอนในการปองกันโรคไบโพลาร์ แต่อาจปองกันปจจัยเสียง
ต่าง ๆ หรือปองกันการเกิดอาการรุนแรงและภาวะแทรกซ้อนอืน ๆ ได้ เช่น
ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงสมบูรณ์ ระมัดระวังการเกิดอุบัติเหตุ
รักษาสุขภาพจิตให้ดี หลีกเลียงการเผชิญความเครียดต่าง ๆ
- 6. 6
เข้ารับการรักษาอย่างสมาเสมอ และกินยาตามคําสังของแพทย์ เพือให้สภาวะ
ทางอารมณ์คงที และปองกันการเกิดอารมณ์แปรปรวนทีควบคุมไม่ได้
ไม่หยุดการรักษา และไม่เลิกกินยากลางคันเพราะคิดว่าอาการดีขึนแล้ว
เนืองจากมีความเสียงสูงทีอาการจะกลับมา หรืออาการอาจกําเริบหนักกว่า
เดิม
ระมัดระวังเรืองการใช้ยาชนิดอืน ๆ ทีอาจส่งผลกระทบต่อระดับสารเคมีใน
สมองทีมีผลต่อการเปลียนแปลงของอารมณ์
สังเกตอาการทีเปนสัญญาณสําคัญของโรคหรืออาการแทรกซ้อนต่าง ๆ แล้ว
รีบไปพบแพทย์เพือเข้ารับการรักษาอย่างเหมาะสมหากพบความผิดปกติ
วิธีดําเนินงาน
แนวทางการดําเนินงาน
● คัดเลือกหัวข้อโครงงานทีสนใจจะทํา
● ศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล
● จัดทําเค้าโครงของโครงงานทีจะทํา
● ลงมือทําโครงงาน
● เขียนรายงานและจัดทําคู่มือการใช้
เครืองมือและอุปกรณ์ทีใช้
● อินเตอร์เน็ต
● หนังสือทีเกียวข้อง
● งานวิจัยทีเกียวข้อง
งบประมาณ -
ขันตอนและแผนดําเนินงาน
ลํา
ดับ
ที
ขันตอน สัปดาห์ที ผู้รับผิด
ชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9
1
0
1
1
1
2
1
3
1
4
1
5
1
6
17
1 คิดหัวข้อโครงงาน
2 ศึกษาและค้นคว้า
ข้อมูล
3 จัดทําโครงร่างงาน
- 7. 7
4 ปฏิบัติการสร้าง
โครงงาน
5 ปรับปรุงทดสอบ
6 การทําเอกสาร
รายงาน
7 ประเมินผลงาน
8 นําเสนอโครงงาน
ผลทีคาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ทีต้องการให้เกิดขึนเมือสินสุดการทําโครง
งาน)
มีความรู้ ความเข้าใจพอทีจะนํามาเผยแพร่ต่อผู้อืน และมีแนวทางทีจะทําให้
ตนเองมีความผิดปกติ แล้วยังสามารถให้คําปรึกษาแก่ผู้ทีมีแนวโน้มทีจะเกิด
โรคซึมเศร้าระดับไบโพลาร์
สถานทีดําเนินการ
ห้องเรียนคอมพิวเตอร์ตึก 10 โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย 238 ถนนพระปกเกล้า
ตําบลศรีภูมิ อําเภอเมือง เชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 50200
กลุ่มสาระการเรียนรู้ทีเกียวข้อง
1.กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
2.กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา
3.กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลย
แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ทีนํามาใช้การทําโครงงาน)
1. Anderson IM, Haddad PM, Scott J (Dec 27, 2012). "Bipolar
disorder". BMJ (Clinical Research Ed.). 345: e8508.
2. Goodwin, Guy M. (2012). "Bipolar disorder". Medicine. 40 (11):
596–598. doi:10.1016/j.mpmed.2012.08.011.
3. โรคอารมณ์สองขัว (https://med.mahidol.ac.th/rama...)