More Related Content Similar to Circulation1 (13) Circulation1 2. 3. INTERNAL TRANSPORT
(CIRCULATORY SYSTEM)
การขนส่งสารมีหลายวิธี โดยจะขึ้นอยู่กับชนิดของสิ่งมีชีวิต ดังนี้
1. การแพร่ (diffusion)
2. Gastrovascular cavity
3. ระบบไหลเวียนเลือดแบบเปิด
(open circulatory system)
4. ระบบไหลเวียนเลือดแบบปิด
(close circulatory system)
ระบบไหลเวียนเลือด ประกอบด้วย
-เลือด(blood)
-หลอดเลือด(blood vessel)
-หัวใจ (heart)
3. Gastrovascular cavity
-พบในพวก cnidarians, พลานาเรีย และหนอนตัวแบนอื่น ๆ
-Gastrovascular cavity มักมีการแตกแขนงแทรกไปในชั้นของเซลล์
-มีการแลกเปลี่ยนสารต่าง ๆ ภายในตัวกับสิ่งแวดล้อมโดยตรง จากนั้นมี
การขนส่งสารต่าง ๆ ระหว่างเซลล์โดยการแพร่ เนื่องจากระยะห่างระหว่าง
ชั้นของเซลล์ มีระยะทางสั้น ๆ
4. ระบบไหลเวียนเลือดแบบเปิด (open circulatory system)
-พบในแมลงและพวก mollusk
-อวัยวะต่าง ๆ จะสัมผัสกับเลือดโดยตรง
-ไม่มีความแตกต่างระหว่างเลือดและ
interstitial fluid รวมเรียก hemolymph
-ขั้นตอนการไหลเวียน
1.หัวใจ(tubular heart)ที่อยู่ด้านหลังบีบตัว
2.Hemolymphเคลื่อนสู่หลอดเลือด(vessel)
และ sinus (แอ่งเลือดรอบๆอวัยวะ)
3.Hemolymphจากsinus แลกเปลี่ยนแก๊ส
และสารอาหารกับเซลล์โดยตรง
4.เมื่อหัวใจคลายตัว hemolymph ถูกดึงกลับ
หัวใจ ทางรูเรียก ostia (มี valveที่ปิดเมื่อหัวใจหดตัว)
5. ระบบไหลเวียนเลือดแบบปิด (close circulatory system)
-พบในไส้เดือน หมึกและสัตว์มีกระดูกสันหลัง
-หัวใจอาจมี >1
-เส้นเลือดมีการแตกแขนงเป็นเส้นเล็กๆ ไป
เลี้ยงอวัยวะ
-เลือดจะอยู่ในเส้นเลือดตลอดเวลา แยก
ออกจาก interstitial fluid
-มีการแพร่ของแก๊สและสารอาหารจากเลือด
สู่ interstitial fluid และจากinterstitial fluid
สู่เซลล์
7. Cardiovascular system
-หัวใจแบ่งออกเป็น 2 ส่วน
1.atrium(or atria) ทาหน้าที่รับเลือดกลับสู่หัวใจ
2.ventricle ทาหน้าที่ปั๊มเลือดออกจากหัวใจ
-เส้นเลือดมี 3 ชนิด
1.artery ทาหน้าที่นาเลือดออกจากหัวใจสู่อวัยวะ
2.capillary เป็นบริเวณที่มีการแลกเปลี่ยนสารระหว่างเลือดและinterstitial
fluid เพราะเป็นเส้นเลือดที่มีผนังบางและเป็นรู
-มีการแตกของcapillaryเป็นร่างตาข่ายที่บริเวณอวัยวะเรียก capillary bed
3.vein ทาหน้าที่นาเลือดจากอวัยวะกลับสู่หัวใจ
Aorta artery arteriole capillary venule vein vena cava
Heart
(organ)
8. Single circuit circulation
-ปลามีหัวใจ 2 ห้อง (1atrium, 1 ventricle)
-ventricle ปั๊มเลือดออกจากหัวใจสู่เหงือก
(gill circulation)
-มีการแลกเปลี่ยนแก๊สที่เหงือก
-gill capillary นาเลือดที่มี O2สูงไปเลี้ยง
ส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย(systemic circulation)
-vein นาเลือดกลับหัวใจ
-เนื่องจากเลือดไหลจาก gill capillary สู่
systemic circulationโดยตรง ดังนั้นความดัน
เลือดจะค่อยๆลดลง เลือดจึงไหลช้าลง
10. ระบบไหลเวียนเลือดในกบ
-กบมีหัวใจ 3 ห้อง (2 atria, 1 ventricle)
-ventricleปั๊มเลือดออกจากหัวใจทางเส้นเลือด
artery จากนั้นจะแยกออกเป็น 2 เส้น
-เส้นที่หนึ่งนาเลือดไปฟอกที่ปอดและผิวหนัง
เรียกวงจรนี้ว่า pulmocutaneous
(lung and skin) circulation
-อีกเส้นหนึ่งนาเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆของ
ร่างกายเรียกว่า systemic circulation
-รวมเรียกทั้งสองวงจรนี้ว่า double circulation
16. • The heart sounds we can
hear with a stethoscope
are caused by the closing
of the valves.
– The sound pattern is
“lub-dup, lub-dup,
lub-dup.”
– The first heart sound
(“lub”) is created by
the recoil of blood
against the closed
AV valves.
– The second sound
(“dup”) is the recoil
of blood against the
semilunar valves.
เสียงของหัวใจ (Heart sound)
-สามารถใช้ stethoscopeฟัง
เสียงของหัวใจได้ โดยจะได้
ยินเสียง lub-dup, lub-dup,
lub-dup
-lub: เป็นเสียงของเลือดที
กระแทก AV valveเมื่อ
ventricle บีบตัว
-dup: เป็นเสียงของเลือดที่
กระแทก semilunar valveเมื่อ
ventricle คลายตัว
-สภาวะที่valveผิดปกติเรียก heart murmur
17. วัฏจักรหัวใจ (cardiac cycle)
cardiac out put (vol/min) = heart rate (no./min) X stroke volume (vol/no.)
5.25 L/min = 70 beat/min X 75 ml/beat
-cardiac cycle: การบีบและ
คลายตัวของหัวใจเป็นรอบๆ
-ระยะที่มีการบีบตัวเรียก
systole
-ระยะที่มีการคลายตัวเรียก
diastole
-cardiac output: ปริมาณ
เลือดที่ปั๊มจาก ventricle
ซ้ายไปเลี้ยงส่วนต่างๆของ
ร่างกาย
18. จังหวะการเต้นของหัวใจ(heart’s rhythmic beat)
-cardiac muscle ของสัตว์มีกระดูกสันหลังสามารถกระตุ้นได้เอง(self-excitable)
-sinoatrial(SA) node ควบคุมอัตราและเวลาในการบีบตัวของหัวใจ
-SA node วางตัวอยู่บนผนังของ atriumขวาใกล้กับบริเวณที่ superior vena cava
-atroventricular(AV) node วางตัวอยู่บนผนังของหัวใจระหว่าง atrium และventricleขวา
(generateelectrical
impulse)
(จากAV node สู่ventricle
จะdelay 0.1 วินาที)
Electrocardiogram (ECG/EKG)
19. โครงสร้างของหลอดเลือด(The structure of blood vessel)
-เส้นเลือดประกอบด้วย
เนื้อเยื่อ 3 ชั้น
1.ชั้นนอก เป็นconnective
tissueและelastic fiber
2.ชั้นกลาง เป็นsmooth
muscle และ elastic fiber
3.ชั้นใน เซลล์ชั้นเดียวแบนๆ
เรียก endothelium
-arteryมีชั้นนอกและชั้นกลางหนากว่าvein
-capillaryมีเฉพาะชั้นendometrium ทาให้สามารถแลกเปลี่ยนสารระหว่างเลือด
และinterstitial fluidได้ดี (เส้นผ่านศูนย์กลาง 3-10 um, RBC 7-10 um)
21. การไหลและความดันเลือด(blood flow and blood pressure)
การไหลของเลือดในหลอดเลือดขึ้นกับ
1.Law of continuity การไหลของๆเหลวใน
ท่อที่มีพื้นที่หน้าตัดน้อยกว่าจะไหลเร็วกว่า
การไหลของเลือดในcapillaryจะช้ากว่า
arteryและaorta ตามลาดับ เพราะพื้นที่
หน้าตัดรวมของcapillaryมากกว่า
-การไหลของเลือดอย่างช้าๆในcapillary
ทาให้เกิดการแลกเปลี่ยนสารได้ดี
2.ความดันเลือดในหลอดเลือดขึ้นอยู่กับ
cardiac output, peripheral resistance,
gravity
-ความดันเลือดในaorta>artery>arteriole>
capillary>venule>vein>vena cava
22. การวัดความดันเลือด
1.ความดันเลือดปกติในคนอายุ 20 ปี = 120/70
2.เครื่องที่ใช้วัดคือ sphygmomanometer โดยนาไปพันรอบโคนแขน บีบให้ลมเข้าไปใน
cuffจนกระทั่งความดันใน cuff สูงกว่าความดันเลือดใน artery เลือดหยุดไหล
3.ใช้stethoscopeฟังเสียงการไหลของเลือด ค่อยๆปล่อยให้ลมออกจากcuff เมื่อความ
ดันเลือดในarteryสูงกว่าในcuff จะได้ยินเสียงการไหลของเลือดเรียกsystolic pressure
4.ค่อยๆปล่อยลมในcuffออกเรื่อยๆ จนกระทั่งไม่ได้ยินเสียงการไหลของเลือด เรียก
diastolic pressure
23. การไหลของเลือดสู่ capillary bed
-การไหลของเลือดสู่ capillary bed ที่
อวัยวะต่างๆ ขึ้นอยู่กับความต้องการ
ของอวัยวะนั้นๆ เช่น ในขณะออกกาลัง
กายเลือดจะไปเลี้ยงที่กล้ามเนื้อมาก แต่
ไปเลี้ยงทางเดินอาหารลดลง
-การควบคุมการไหลของเลือดสู่capillary
bed คือ
1.โดยการหดตัวของกล้ามเนื้อเรียบของ
arteriole
2.โดยการทดตัวของ precapillary sphincter
25. ระบบน้าเหลือง(Lymphatic system)
-lymphatic system นาของเหลวและโปรตีนกลับสู่กระแสเลือดโดยนาเข้าทางvenae cava
-lymph: ของเหลวใน lymphatic vessel (ภายในมี valve)
-lymph node: เป็นอวัยวะทาหน้าที่กรอง lymphและทาลายเชื้อโรค ภายในประกอบด้วย
connective tissue และเม็ดเลือดขาว
29. โรคหัวใจ(cardiovascular diseases)
1. Heart attack การตายของ cardiac muscleจากการขาดเลือดไปเลี้ยงหัวใจ
เพราะเส้นเลือด coronary artery อุดตัน จาก embolus
2. Heart stroke การตายของเนื้อเยื่อประสาทในสมอง เนื่องจากการแตกหรืออุดตัน
ของเส้นเลือด artery ในสมอง
3. Atherosclerosis
4. Arteriosclerosis คล้ายกับ atherosclerosis แต่จะมี Ca มาสะสมที่ plaque
5. Hypertention สภาวะที่ความดันเลือดสูง ทาให้เกิด atherosclerosis เพิ่มขึ้น
-เกิด plaque ในผนัง artery
บริเวณชั้นกล้ามเนื้อเรียบ
และจะมี connective tissue
และcholesterolมาแทรกอยู่