SlideShare a Scribd company logo
1 of 6
Download to read offline
1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33201 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 5
ปีการศึกษา 2562
ชื่อโครงงาน สิวในวัยรุ่น
ชื่อผู้ทาโครงงาน
ชื่อ นางสาวชรินรัตน์ สุริจันทร์ เลขที่ 38 ชั้น ม.6 ห้อง 4
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2562
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม .……
1. นางสาวชรินรัตน์ สุริจันทร์ เลขที่ 38
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
สิวในวัยรุ่น
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
Teenage acne
ประเภทโครงงาน โครงงานเพื่อสุขภาพ
ชื่อผู้ทาโครงงาน นางสาวชรินรัตน์ สุริจันทร์
ชื่อที่ปรึกษา
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2562
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน
ในช่วงวัยแรกรุ่นอายุ ๑๒–๑๘ ปีจะสังเกตเห็นได้ว่าผู้ชายและผู้หญิงส่วนใหญ่จะมีสิวเกิดขึ้น จะมีมากมีน้อยก็
แล้วแต่บุคคล โดยสาเหตุหลักของการเกิดสิวในช่วงอายุนี้คือฮอร์โมน(Hormone) โดยระดับฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน
(testosterone ฮอร์โมนเพศชาย) เพิ่มขึ้นทั้งในชายและหญิง ในผู้ชาย ฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน ส่งผลต่อการ
เจริญเติบโตขององคชาตและอัณฑะ ในผู้หญิงฮอร์โมนจะเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและกระดูก และที่สาคัญ
ฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน ยังทาให้เกิดสิวึึ่งเปนเหตุผลที่ทาไมสิวฮอร์โมนจึงขึ้นออกมามากในช่วงวัยนี้ แต่ก็ยังมีปัจจัย
อื่นๆที่เกี่ยวข้องด้วย รวมไปถึงชนิดของสิวที่เกิดขึ้น ดังนั้นในช่วงวัยรุ่นถึง 70% ต้องรับมือกับปัญหาผิวมีแนวโน้มที่จะ
เกิดสิวฮอร์โมนในช่วงวัยแรกรุ่น ด้วยเหตุนี้จึงนาไปสู่ที่มาของโครงงาน ถ้าใบหน้าเปนสิวก็อาจจะทาให้ความมั่นใจ
ลดลงและการดาเนินชีวิตบางอย่างอาจไม่ปกติ เพราะใบหน้าเปนปัจจัยภายนอกที่จะทาให้รู้สึกเกิดความมั่นใจใน
ตัวเองตลอดเวลา เมื่อเวลาที่เราพบประผู้คน รูปลักษณ์ภายนอกจะเปรียบเสมือนประตูด่านแรก ที่ทาให้ผู้ที่พบเห็น
รู้สึกประทับใจ ใบหน้าก็เช่นกันที่เปนส่วนที่สาคัญที่สุด ดังนั้นผู้จัดทาจึงจัดทาโครงงานนี้
วัตถุประสงค์
1.เพื่อให้รู้จักชนิดของสิว
2.เพื่อให้รู้วิธีรักษาและป้องกันการเกิดสิวแต่ละชนิดได้อย่างถูกต้อง
3.เพื่อให้เข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงและการเจริญเติบโตของช่วงอายุวัยนี้
3
ขอบเขตโครงงาน
1. ขอบเขตด้านเนื้อหา
ผู้ศึกษาจะทำการศึกษาเกี่ยวกับการเกิดสิวัแนวทางการรกษาัป้องกนัและการเลือกใช้ั
ผลิตภณฑ์รกษาสิวให้เหมาะสมแต่ละบุคคล
2. ขอบเขตด้านประชากร
เป็นการเลือกกลุ่มตวอย่างโดยลกษณะของกลุ่มตวอย่างที่เลือกจะอยู่ในช่วงวยแรกรุ่นอายุ
12-18ปีที่มีสิวเกิดขึ้นมากน้อยคละกนไป
หลักการและทฤษฎี
โครงงานนี้จะศึกษาเกี่ยวกับสิว ความรู้กบหลกการัหรือทฤษฎี ส่วนใหญ่จะเกี่ยวกบทางการแพทย์ั
หรือเกี่ยวกบหลกการทางชีววิทยาเป็นส่วนใหญ่ัโดยมีหลกการสนบสนุน ดังนี้
1. ทฤษฎีของWai สาเหตุแท้จริงของสิว คือ ผิวที่บวมน้าแล้วไปกดทับท่อไขมันจนตีบ จนทาให้ไขมันผ่านออกมา
หล่อเลี้ยงผิวชั้นนอกตามธรรมชาติไม่ได้ ผิวบวมน้าเกิดจากการคั่งค้างหรือสะสมของสารหลาย ๆ อย่าง ที่
เด่นชัดคือ โปรตีน
คือการที่โปรตีนที่เราได้รับเข้าไปไม่สามารถถูกย่อยเปนกรดอะมิโนเพื่อเอาไปใช้ ได้ เนื่องจากโปรตีนนั้นมี
ลักษณะผิดแผกไปจากที่เอ็นไึม์ย่อยเค้าจาได้
2. การวินิจฉัยสิว จากเว็บไึต์siamhealth แบ่งระดับความรุนแรงของสิว หรือจะแบ่งออกเปน 4 grade ดังนี้
สิว GRADE 1
ความรุนแรงของสิวระยะนี้จัดเปนสิวระดับอ่อน มีสิวจานวนไม่มากเปนสิวหัวขาวหรือสิวหัวดา ไม่ได้ขึ้นทุกวัน
และไม่มีการอักเสบ การดูแลสิวในระยะนี้ท่านสามารถึื้อยาทาที่มีส่วนผสมของ salicylic acid and benzoyl
peroxide(BPO) ทา แต่ท่านต้องติดตามให้ดี เพราะหากดูแลไม่ดีก็จะกลายเปนสิว
สิว GRADE 2
สิวระยะนี้จัดระดับความรุนแรงปานกลาง สิวระยะนี้พบได้ทั้งผู้หญิง และผู้ชาย จะมีทั้งสิวหัวขาว สิวหัวดา มี
หนอง หรือตุ่มขึ้น และมักจะมีการอักเสบของสิว มักจะพบในผู้หญิงขณะมีประจาเดือน มักจะขึ้นบริเวณใบหน้า
การดูแลสิวในระยะนี้ยังสามารถใช้ยาที่ึื้อตามร้านขายยา โดยยาจะมีส่วนประกอบของ glycolic acid, salicylic
acid, and BPO ทางเลือกอื่นอาจจะไปพบแพทย์ใช้ยาตามที่แพทย์สั่ง
ข้อควรระวังต้องติดตามการรักษาอย่างใกล้ชิดหากอาการไม่ดีขึ้นใน 1 เดือนควรจะพบแพทย์ผิวหนังเพราะอาจจะ
ทาให้เกิดแผลเปน
สิว GRADE 3
สิวระยะนี้จัดระดับความรุนแรงชนิดรุนแรง มีการอักเสบของสิวค่อนข้างมาก ผิวโดยรอบสิวจะบวม แดง และคัน
จะมีตุ่ม papules หรือเปน cyst หรือเปน nodules สิวจะพบที่หน้า หน้าอก และบริเวณหลัง
การรักษาสิวในระยะนี้จะลดการเกิดแผลเปน แต่ต้องใช้เวลารักษานานเปนเดือน หรือเปนปี
สิว GRADE 4
เปนระดับที่มีความรุนแรงมากที่สุด จะมีอาการปวด มีทั้ง cysts, papules, pustules, และ nodules จานวน
มาก แผลอาจจะลามลงในชั้นลึกและไม่ทางระบายออกสู่ผิวหนัง
4
3. การรักษาสิวจากเว็บไึต์pobpad ได้อธิบายไว้ว่า
การรักษาด้วยยา แบบยาทาเฉพาะที่ ได้แก่
 เรตินอยด์ (Retinoid) ึึ่งเปนสารที่ได้มาจากวิตามินเอ แรก ๆ ใช้ยาทาสามครั้งต่อสัปดาห์ในตอนเย็น
หลังจากนั้นใช้ทาวันละครั้งเพื่อให้ผิวคุ้นเคยกับสาร ยาตัวนี้จะช่วยป้องกันการอุดตันของรูขุมขน
 ยาปฏิชีวนะ (Antibiotic) ยาจะฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนัง รวมทั้งลดรอยแดงจากสิว อาจใช้ร่วมกับยาตัวอื่น
ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางการรักษา เช่น โดยแรก ๆ อาจใช้ยาปฏิชีวินะควบคู่กับเรตินอยด์ โดยทายาปฏิชีวนะใน
ตอนเช้า และทาเรตินอยด์ในตอนเย็น หรือใช้ร่วมกับเบนโึอิล เพอร์ออกไึด์ เพื่อลดปฏิกิริยาดื้อยาปฏิชีวนะ เช่น
ใช้คลินดามัยึิน (Clindamycin) ร่วมกับเบนโึอิล เพอร์ออกไึด์ และอีริโทรมัยึิน (Erythromycin) ร่วมกับเบน
โึอิล เพอร์ออกไึด์ เปนต้น
 แดพโึน (Dapsone) เปนยารักษาการติดเชื้อจากแบคทีเรียและการอักเสบของผิวหนัง ใช้ร่วมกับเรตินอยด์
เพื่อประสิทธิผลทางการรักษาสูงสุด อาจมีผลข้างเคียงอย่างผิวแห้งและเปนรอยแดง
การรักษาด้วยยา แบบยารับประทาน
 ยาปฏิชีวนะ (Antibiotic) ใช้ลดเชื้อแบคทีเรียและต้านการอักเสบ ใช้เมื่อผู้ป่วยเปนสิวอักเสบในระดับปาน
กลางไปจนถึงรุนแรง สามารถใช้ร่วมกับยาปฏิชีวนะแบบทาได้ โดยแพทย์จะจ่ายยาตามความเหมาะสม เพื่อป้องกัน
ไม่ให้ร่างกายต้านสารหรือดื้อยา ส่วนผลข้างเคียงที่อาจพบจากการใช้ยา ได้แก่ ท้องไส้ปั่นป่วน เวียนศีรษะ เพิ่มความ
บอบบางให้ผิวไวต่อแดด เปนต้น โดยตัวยาที่ใช้ คือ ยากลุ่มเตตราึัยคลีน (Tetracycline) เช่น ดอกึีึัยคลีน
(Doxycycline)
 ยาคุมกาเนิดแบบฮอร์โมนรวม (Combined Oral Contraceptive) เปนประโยชน์ต่อการรักษาผู้ป่วยและ
วัยรุ่นเพศหญิง เพราะตัวยามีฮอร์โมนเอสโตรเจนึึ่งเปนฮอร์โมนเพศหญิง ส่งผลต่อกระบวนการผลิตขนและน้ามัน ลด
ความเสี่ยงของการอุดตันจนทาให้เกิดสิว แต่มีผลข้างเคียง คือ อาการปวดหัว คลื่นไส้ ปวดหน้าอก น้าหนักเพิ่มขึ้น มี
เลือดไหลก่อนมีประจาเดือน และเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดลิ่มเลือดอุดตัน
 ยาต้านฮอร์โมนเพศชาย (Anti-androgen) จะลดผลกระทบที่เกิดจากการมีฮอร์โมนเพศชายสะสมที่ต่อม
ไขมันใต้ผิวมากเกินไป จนทาให้เกิดการผลิตขนและน้ามันมากจนเสี่ยงต่อการเกิดสิว อาจนามาใช้ในกรณีที่ผู้ป่วยึึ่ง
เปนผู้หญิงหรือวัยรุ่นเพศหญิงรับประทานยาปฏิชีวนะแล้วไม่ได้ผล โดยมีผลข้างเคียง อย่างอาการปวดเต้านม ปวด
ประจาเดือนมาก เปนต้น
 ไอโึเตรติโนอิน (Isotretinoin) ยาอนุพันธ์ของกรดวิตามินเอ ใช้ในผู้ป่วยที่มีสิวอักเสบในระดับรุนแรงมาก
ที่สุด และผู้ที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาสิวด้วยวิธีอื่น ๆ โดยผู้ที่ใช้ยาต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด เพราะ
ด้วยประสิทธิภาพทางการรักษาสูงสุดก็ทาให้ยานี้มีความเสี่ยงต่อสุขภาพสูงด้วยเช่นกัน เช่น เพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะ
ึึมเศร้า หรือภาวะึึมเศร้าที่นาไปสู่การฆ่าตัวตาย เสี่ยงต่อโรคลาไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรัง และเสี่ยงต่อทารกในครรภ์ที่จะ
พิการรุนแรงแต่กาเนิด
การรักษาด้วยวิธีการบาบัด
 การกดสิว ใช้ในกรณีที่รักษาด้วยยาแล้วสิวหัวดาและสิวหัวขาวยังไม่หมดไป โดยแพทย์จะใช้เครื่องมือช่วยใน
การบีบเอาสิ่งที่อุดตันภายในสิวออกมา ผลข้างเคียง คือ อาจเกิดร่องรอยหรือรอยแผลเปนได้
5
 การผลัดเึลล์ผิว ใช้กระบวนการทางเคมีมาช่วยในการรักษา เช่น การใช้กรดึาลิเึลิกเพื่อขัดลอกผิวชั้นนอก
ลดการอุดตันของน้ามันและเึลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว โดยจะมีประสิทธิภาพในการรักษาสูงสุดเมื่อใช้ร่วมกับวิธีการรักษา
อื่น ๆ ยกเว้นการรับประทานยาเรตินอยด์ เพราะจะทาให้ผิวแพ้ง่ายและระคายเคือง ผลข้างเคียงที่พบ คือ อาจเกิด
รอยแดง ผิวพุพอง หรือหลุดล่อนออกมา
 การฉีดสเตียรอยด์ (Steroid) เปนการรักษาสิวก้อนลึกและสิวึีสต์ ทาให้การบวมอักเสบของสิวหายไปโดยที่
ไม่ต้องบีบสิวออกมา ด้วยการฉีดสเตียรอยด์เข้าไปยังบริเวณที่เปนสิว โดยมีผลข้างเคียง คือ ทาให้ผิวบางอาจเห็นรอย
เส้นเลือดใต้ผิวหนังได้
 การฉายแสง (Light Therapy) เปนการฉายแสงเพื่อทาลายเชื้อแบคทีเรียต้นเหตุของการเกิดสิวอักเสบ การ
ฉายแสงต้องดาเนินการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อควบคุมคุณภาพและปริมาณของแสงให้เหมาะสม การรักษาด้วยการ
ฉายแสงอาจมีผลข้างเคียง คือ เจ็บปวดบริเวณที่ฉายแสง รอยแดงที่เกิดหลังการฉายแสงึึ่งจะหายไปในภายหลัง และ
ผิวบริเวณที่ฉายแสงจะมีความไวต่อแสงแดด มีโอกาสแพ้แสงมากขึ้น
การรักษารอยแผลเปนที่เกิดจากสิว
 การฉีดฟิลเลอร์ แพทย์จะฉีดสารเข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อทาให้ผิวตึงและรอยแผลเปนดูจางลง เช่น พวกคอลลา
เจนหรือไขมัน แต่เปนการรักษาที่คงอยู่เพียงชั่วคราวและสารเหล่านั้นก็จะสลายไป หากรักษาด้วยวิธีนี้ต้องไปฉีดฟิล
เลอร์เปนระยะ ๆ ผลข้างเคียง คือ อาจเกิดการบวม แดง หรือรอยช้าเปนจ้าเลือดบริเวณผิวหนังได้
 การผลัดเึลล์ผิว เปนการใช้กรดที่มีความเข้มข้นสูงในการขัดผิวทั้งเึลล์ผิวชั้นนอกที่ตายแล้วและบริเวณชั้น
ผิวหนังที่ลึกลงไปที่เปนรอยแผลเปน
 การทาเลเึอร์ (Laser Resurfacing) เปนการยิงเลเึอร์เพื่อกาจัดเึลล์ผิวเก่าที่ไม่พึงประสงค์บริเวณที่เกิด
รอยแผลเปน และเปนการกระตุ้นให้ผลัดเึลล์ผิวใหม่
 การฉายแสง เปนการฉายลาแสงที่ทาให้เกิดความร้อนแต่ไม่เปนอันตรายต่อผิวชั้นนอก เพื่อทาลายเึลล์ผิว
เก่า และกระตุ้นชั้นผิวหนังให้สร้างเึลล์ผิวใหม่ การฉายแสงเปนวิธีการรักษาที่ใช้เวลาในการทาน้อยกว่าวิธีอื่น แต่ต้อง
ทาึ้าหลายครั้งเพื่อผลการรักษาที่ดีขึ้น
 การกรอผิว ใช้รักษารอยแผลเปนที่รุนแรงด้วยการใช้เครื่องกรอึึ่งเปนเครื่องมือแพทย์ในการขัดเอาเึลล์ผิว
เก่าที่เสียและตายแล้วบริเวณรอยแผลเปนออกไป หลังจากกรอเอาผิวที่เปนรอยแผลเปนออกไปแล้ว ผิวบริเวณนั้นก็จะ
กลมกลืนกับผิวบริเวณโดยรอบ
 การทาศัลยกรรมผิวหนัง แพทย์จะผ่าตัดเอาเนื้อบริเวณหลุมสิวหรือแผลเปนที่เกิดจากสิวออกไป แล้วเย็บหรือ
ปลูกถ่ายเนื้อเยื่อใหม่แทนที่
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
1. รวบรวมข้อมูลการเกิดสิวและรักษาสิว
2. ทดลองกับกลุ่มตัวอย่าง ค้นหาปัญหา ข้อเสีย หรือข้อผิดพลาดที่จะเกิดขึ้น
3. แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
4. ประเมินผล และพัฒนาระบบตามข้อคิดเห็น
6
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
1. ใบปลิวความรู้เรื่องสิว
2. สิ่งของรักษาสิวที่ใช้กับกลุ่มตัวอย่าง
งบประมาณ
1,000 บาท
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดับ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17
1 คิดหัวข้อโครงงาน
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล
3 จัดทาโครงร่างงาน
4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน
5 ปรับปรุงทดสอบ
6 การทาเอกสารรายงาน
7 ประเมินผลงาน
8 นาเสนอโครงงาน
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1. ผู้จัดทามีความเข้าใจในหัวข้อที่สนใจมากขึ้น
2. รู้จักชนิดของสิว
3. รู้วิธีรักษาและป้องกันการเกิดสิวแต่ละชนิดได้อย่างถูกต้อง
4. เข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงและการเจริญเติบโตของช่วงอายุวัย
สถานที่ดาเนินการ
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ
แหล่งอ้างอิง
สิว/19 พฤศจิกายน 2562/จากเว็บไึต์
https://www.eucerin.co.th/skin-concerns/acne-prone-skin/how-blemishes-develop

More Related Content

What's hot

กิจกรรมที่1 โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่1 โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์กิจกรรมที่1 โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่1 โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์tangkwakamonwan
 
Computer project-2.pdf
Computer project-2.pdfComputer project-2.pdf
Computer project-2.pdfSuppamas
 
2562 final-project -1
2562 final-project -12562 final-project -1
2562 final-project -1ssuser899f76
 
สรุปผลการประชุมวิชาการ : นโยบายและยุทธศาสตร์เรื่องพืชกระท่อม. และสารเสพติดที่...
สรุปผลการประชุมวิชาการ : นโยบายและยุทธศาสตร์เรื่องพืชกระท่อม. และสารเสพติดที่...สรุปผลการประชุมวิชาการ : นโยบายและยุทธศาสตร์เรื่องพืชกระท่อม. และสารเสพติดที่...
สรุปผลการประชุมวิชาการ : นโยบายและยุทธศาสตร์เรื่องพืชกระท่อม. และสารเสพติดที่...Utai Sukviwatsirikul
 
Tobacco and galangal is pesticides
Tobacco and galangal is pesticidesTobacco and galangal is pesticides
Tobacco and galangal is pesticidesasirwa04
 
2562 final-project
2562 final-project 2562 final-project
2562 final-project noeynymon
 
2562 final-project 32-patthamaporn1
2562 final-project 32-patthamaporn12562 final-project 32-patthamaporn1
2562 final-project 32-patthamaporn1mewsanit
 
2562 final-project 40-609_pimchanok
2562 final-project 40-609_pimchanok2562 final-project 40-609_pimchanok
2562 final-project 40-609_pimchanokpimchanokSirichaisop
 
กิจกรรมที่1 โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่1 โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์กิจกรรมที่1 โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่1 โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์barbeesati
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์ssuserb746cf
 
2562-final-project
 2562-final-project  2562-final-project
2562-final-project mew46716
 

What's hot (20)

กิจกรรมที่1 โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่1 โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์กิจกรรมที่1 โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่1 โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
 
2559 project 612-04_08
2559 project 612-04_082559 project 612-04_08
2559 project 612-04_08
 
Computer project-2.pdf
Computer project-2.pdfComputer project-2.pdf
Computer project-2.pdf
 
2562 final-project -1
2562 final-project -12562 final-project -1
2562 final-project -1
 
โครงงานคอม
โครงงานคอม โครงงานคอม
โครงงานคอม
 
Rabies
RabiesRabies
Rabies
 
Addictsocial
AddictsocialAddictsocial
Addictsocial
 
2561 project 03
2561 project  032561 project  03
2561 project 03
 
สรุปผลการประชุมวิชาการ : นโยบายและยุทธศาสตร์เรื่องพืชกระท่อม. และสารเสพติดที่...
สรุปผลการประชุมวิชาการ : นโยบายและยุทธศาสตร์เรื่องพืชกระท่อม. และสารเสพติดที่...สรุปผลการประชุมวิชาการ : นโยบายและยุทธศาสตร์เรื่องพืชกระท่อม. และสารเสพติดที่...
สรุปผลการประชุมวิชาการ : นโยบายและยุทธศาสตร์เรื่องพืชกระท่อม. และสารเสพติดที่...
 
2562 final-project 605-40
2562 final-project 605-402562 final-project 605-40
2562 final-project 605-40
 
Tobacco and galangal is pesticides
Tobacco and galangal is pesticidesTobacco and galangal is pesticides
Tobacco and galangal is pesticides
 
2562 final-project
2562 final-project 2562 final-project
2562 final-project
 
2562 final-project 32-patthamaporn1
2562 final-project 32-patthamaporn12562 final-project 32-patthamaporn1
2562 final-project 32-patthamaporn1
 
2562 final-project 40-609_pimchanok
2562 final-project 40-609_pimchanok2562 final-project 40-609_pimchanok
2562 final-project 40-609_pimchanok
 
Final project
Final projectFinal project
Final project
 
กิจกรรมที่1 โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่1 โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์กิจกรรมที่1 โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่1 โครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
 
2561 project 06
2561 project 062561 project 06
2561 project 06
 
โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์โครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์
 
2562-final-project
 2562-final-project  2562-final-project
2562-final-project
 
Lesson2plantreproduction2561
Lesson2plantreproduction2561Lesson2plantreproduction2561
Lesson2plantreproduction2561
 

Similar to 2562 final-project

Philophobia
PhilophobiaPhilophobia
PhilophobiaSuppamas
 
Computer project-2.pdf
Computer project-2.pdfComputer project-2.pdf
Computer project-2.pdfSuppamas
 
2562 final-project 17
2562 final-project 172562 final-project 17
2562 final-project 17KUMBELL
 
ใบงานที่ 5
ใบงานที่ 5ใบงานที่ 5
ใบงานที่ 5Ffim Radchasan
 
2562 final-project 32
2562 final-project 322562 final-project 32
2562 final-project 32ssuser7d15e1
 
เห็ดหลินจือแดงต้านมะเร็ง
เห็ดหลินจือแดงต้านมะเร็งเห็ดหลินจือแดงต้านมะเร็ง
เห็ดหลินจือแดงต้านมะเร็ง0910797083
 
เห็ดหลินจือแดงต้านมะเร็ง
เห็ดหลินจือแดงต้านมะเร็งเห็ดหลินจือแดงต้านมะเร็ง
เห็ดหลินจือแดงต้านมะเร็ง0910797083
 
2562 final-project -06-610
2562 final-project -06-6102562 final-project -06-610
2562 final-project -06-610patittaoumm
 
2562 final-project 32
2562 final-project 322562 final-project 32
2562 final-project 32ssuser7d15e1
 
2562 final-project 09-issariya
2562 final-project 09-issariya2562 final-project 09-issariya
2562 final-project 09-issariyaguntjetnipat
 
2562 final-project 17
2562 final-project 172562 final-project 17
2562 final-project 17ssuserbed7e4
 
2562 final-project 06-610
2562 final-project 06-6102562 final-project 06-610
2562 final-project 06-610patittaoumm
 
Influenza
 Influenza Influenza
InfluenzaNutvipa
 
Influenza
InfluenzaInfluenza
InfluenzaNutvipa
 

Similar to 2562 final-project (20)

Philophobia
PhilophobiaPhilophobia
Philophobia
 
Computer project-2.pdf
Computer project-2.pdfComputer project-2.pdf
Computer project-2.pdf
 
2562 final-project
2562 final-project 2562 final-project
2562 final-project
 
work1pjcom
work1pjcomwork1pjcom
work1pjcom
 
2562 final-project 17
2562 final-project 172562 final-project 17
2562 final-project 17
 
ใบงานที่ 5
ใบงานที่ 5ใบงานที่ 5
ใบงานที่ 5
 
2562 final-project 32
2562 final-project 322562 final-project 32
2562 final-project 32
 
เห็ดหลินจือแดงต้านมะเร็ง
เห็ดหลินจือแดงต้านมะเร็งเห็ดหลินจือแดงต้านมะเร็ง
เห็ดหลินจือแดงต้านมะเร็ง
 
เห็ดหลินจือแดงต้านมะเร็ง
เห็ดหลินจือแดงต้านมะเร็งเห็ดหลินจือแดงต้านมะเร็ง
เห็ดหลินจือแดงต้านมะเร็ง
 
2562 final-project -06-610
2562 final-project -06-6102562 final-project -06-610
2562 final-project -06-610
 
2562 final-project 32
2562 final-project 322562 final-project 32
2562 final-project 32
 
2562 final-project 09-issariya
2562 final-project 09-issariya2562 final-project 09-issariya
2562 final-project 09-issariya
 
Ngan ku krongrang1
Ngan ku krongrang1Ngan ku krongrang1
Ngan ku krongrang1
 
Ngan ku krongrang1
Ngan ku krongrang1Ngan ku krongrang1
Ngan ku krongrang1
 
2562 final-project 17
2562 final-project 172562 final-project 17
2562 final-project 17
 
2562 final-project 06-610
2562 final-project 06-6102562 final-project 06-610
2562 final-project 06-610
 
Influenza
 Influenza Influenza
Influenza
 
Influenza
InfluenzaInfluenza
Influenza
 
2562 final-project
2562 final-project  2562 final-project
2562 final-project
 
2562 final-project
2562 final-project 2562 final-project
2562 final-project
 

2562 final-project

  • 1. 1 แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ รหัสวิชา ง33201 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 5 ปีการศึกษา 2562 ชื่อโครงงาน สิวในวัยรุ่น ชื่อผู้ทาโครงงาน ชื่อ นางสาวชรินรัตน์ สุริจันทร์ เลขที่ 38 ชั้น ม.6 ห้อง 4 ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์ ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2562 โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
  • 2. 2 ใบงาน การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์ สมาชิกในกลุ่ม .…… 1. นางสาวชรินรัตน์ สุริจันทร์ เลขที่ 38 คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้ ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย) สิวในวัยรุ่น ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ) Teenage acne ประเภทโครงงาน โครงงานเพื่อสุขภาพ ชื่อผู้ทาโครงงาน นางสาวชรินรัตน์ สุริจันทร์ ชื่อที่ปรึกษา ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2562 ที่มาและความสาคัญของโครงงาน ในช่วงวัยแรกรุ่นอายุ ๑๒–๑๘ ปีจะสังเกตเห็นได้ว่าผู้ชายและผู้หญิงส่วนใหญ่จะมีสิวเกิดขึ้น จะมีมากมีน้อยก็ แล้วแต่บุคคล โดยสาเหตุหลักของการเกิดสิวในช่วงอายุนี้คือฮอร์โมน(Hormone) โดยระดับฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน (testosterone ฮอร์โมนเพศชาย) เพิ่มขึ้นทั้งในชายและหญิง ในผู้ชาย ฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน ส่งผลต่อการ เจริญเติบโตขององคชาตและอัณฑะ ในผู้หญิงฮอร์โมนจะเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและกระดูก และที่สาคัญ ฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน ยังทาให้เกิดสิวึึ่งเปนเหตุผลที่ทาไมสิวฮอร์โมนจึงขึ้นออกมามากในช่วงวัยนี้ แต่ก็ยังมีปัจจัย อื่นๆที่เกี่ยวข้องด้วย รวมไปถึงชนิดของสิวที่เกิดขึ้น ดังนั้นในช่วงวัยรุ่นถึง 70% ต้องรับมือกับปัญหาผิวมีแนวโน้มที่จะ เกิดสิวฮอร์โมนในช่วงวัยแรกรุ่น ด้วยเหตุนี้จึงนาไปสู่ที่มาของโครงงาน ถ้าใบหน้าเปนสิวก็อาจจะทาให้ความมั่นใจ ลดลงและการดาเนินชีวิตบางอย่างอาจไม่ปกติ เพราะใบหน้าเปนปัจจัยภายนอกที่จะทาให้รู้สึกเกิดความมั่นใจใน ตัวเองตลอดเวลา เมื่อเวลาที่เราพบประผู้คน รูปลักษณ์ภายนอกจะเปรียบเสมือนประตูด่านแรก ที่ทาให้ผู้ที่พบเห็น รู้สึกประทับใจ ใบหน้าก็เช่นกันที่เปนส่วนที่สาคัญที่สุด ดังนั้นผู้จัดทาจึงจัดทาโครงงานนี้ วัตถุประสงค์ 1.เพื่อให้รู้จักชนิดของสิว 2.เพื่อให้รู้วิธีรักษาและป้องกันการเกิดสิวแต่ละชนิดได้อย่างถูกต้อง 3.เพื่อให้เข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงและการเจริญเติบโตของช่วงอายุวัยนี้
  • 3. 3 ขอบเขตโครงงาน 1. ขอบเขตด้านเนื้อหา ผู้ศึกษาจะทำการศึกษาเกี่ยวกับการเกิดสิวัแนวทางการรกษาัป้องกนัและการเลือกใช้ั ผลิตภณฑ์รกษาสิวให้เหมาะสมแต่ละบุคคล 2. ขอบเขตด้านประชากร เป็นการเลือกกลุ่มตวอย่างโดยลกษณะของกลุ่มตวอย่างที่เลือกจะอยู่ในช่วงวยแรกรุ่นอายุ 12-18ปีที่มีสิวเกิดขึ้นมากน้อยคละกนไป หลักการและทฤษฎี โครงงานนี้จะศึกษาเกี่ยวกับสิว ความรู้กบหลกการัหรือทฤษฎี ส่วนใหญ่จะเกี่ยวกบทางการแพทย์ั หรือเกี่ยวกบหลกการทางชีววิทยาเป็นส่วนใหญ่ัโดยมีหลกการสนบสนุน ดังนี้ 1. ทฤษฎีของWai สาเหตุแท้จริงของสิว คือ ผิวที่บวมน้าแล้วไปกดทับท่อไขมันจนตีบ จนทาให้ไขมันผ่านออกมา หล่อเลี้ยงผิวชั้นนอกตามธรรมชาติไม่ได้ ผิวบวมน้าเกิดจากการคั่งค้างหรือสะสมของสารหลาย ๆ อย่าง ที่ เด่นชัดคือ โปรตีน คือการที่โปรตีนที่เราได้รับเข้าไปไม่สามารถถูกย่อยเปนกรดอะมิโนเพื่อเอาไปใช้ ได้ เนื่องจากโปรตีนนั้นมี ลักษณะผิดแผกไปจากที่เอ็นไึม์ย่อยเค้าจาได้ 2. การวินิจฉัยสิว จากเว็บไึต์siamhealth แบ่งระดับความรุนแรงของสิว หรือจะแบ่งออกเปน 4 grade ดังนี้ สิว GRADE 1 ความรุนแรงของสิวระยะนี้จัดเปนสิวระดับอ่อน มีสิวจานวนไม่มากเปนสิวหัวขาวหรือสิวหัวดา ไม่ได้ขึ้นทุกวัน และไม่มีการอักเสบ การดูแลสิวในระยะนี้ท่านสามารถึื้อยาทาที่มีส่วนผสมของ salicylic acid and benzoyl peroxide(BPO) ทา แต่ท่านต้องติดตามให้ดี เพราะหากดูแลไม่ดีก็จะกลายเปนสิว สิว GRADE 2 สิวระยะนี้จัดระดับความรุนแรงปานกลาง สิวระยะนี้พบได้ทั้งผู้หญิง และผู้ชาย จะมีทั้งสิวหัวขาว สิวหัวดา มี หนอง หรือตุ่มขึ้น และมักจะมีการอักเสบของสิว มักจะพบในผู้หญิงขณะมีประจาเดือน มักจะขึ้นบริเวณใบหน้า การดูแลสิวในระยะนี้ยังสามารถใช้ยาที่ึื้อตามร้านขายยา โดยยาจะมีส่วนประกอบของ glycolic acid, salicylic acid, and BPO ทางเลือกอื่นอาจจะไปพบแพทย์ใช้ยาตามที่แพทย์สั่ง ข้อควรระวังต้องติดตามการรักษาอย่างใกล้ชิดหากอาการไม่ดีขึ้นใน 1 เดือนควรจะพบแพทย์ผิวหนังเพราะอาจจะ ทาให้เกิดแผลเปน สิว GRADE 3 สิวระยะนี้จัดระดับความรุนแรงชนิดรุนแรง มีการอักเสบของสิวค่อนข้างมาก ผิวโดยรอบสิวจะบวม แดง และคัน จะมีตุ่ม papules หรือเปน cyst หรือเปน nodules สิวจะพบที่หน้า หน้าอก และบริเวณหลัง การรักษาสิวในระยะนี้จะลดการเกิดแผลเปน แต่ต้องใช้เวลารักษานานเปนเดือน หรือเปนปี สิว GRADE 4 เปนระดับที่มีความรุนแรงมากที่สุด จะมีอาการปวด มีทั้ง cysts, papules, pustules, และ nodules จานวน มาก แผลอาจจะลามลงในชั้นลึกและไม่ทางระบายออกสู่ผิวหนัง
  • 4. 4 3. การรักษาสิวจากเว็บไึต์pobpad ได้อธิบายไว้ว่า การรักษาด้วยยา แบบยาทาเฉพาะที่ ได้แก่  เรตินอยด์ (Retinoid) ึึ่งเปนสารที่ได้มาจากวิตามินเอ แรก ๆ ใช้ยาทาสามครั้งต่อสัปดาห์ในตอนเย็น หลังจากนั้นใช้ทาวันละครั้งเพื่อให้ผิวคุ้นเคยกับสาร ยาตัวนี้จะช่วยป้องกันการอุดตันของรูขุมขน  ยาปฏิชีวนะ (Antibiotic) ยาจะฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนัง รวมทั้งลดรอยแดงจากสิว อาจใช้ร่วมกับยาตัวอื่น ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางการรักษา เช่น โดยแรก ๆ อาจใช้ยาปฏิชีวินะควบคู่กับเรตินอยด์ โดยทายาปฏิชีวนะใน ตอนเช้า และทาเรตินอยด์ในตอนเย็น หรือใช้ร่วมกับเบนโึอิล เพอร์ออกไึด์ เพื่อลดปฏิกิริยาดื้อยาปฏิชีวนะ เช่น ใช้คลินดามัยึิน (Clindamycin) ร่วมกับเบนโึอิล เพอร์ออกไึด์ และอีริโทรมัยึิน (Erythromycin) ร่วมกับเบน โึอิล เพอร์ออกไึด์ เปนต้น  แดพโึน (Dapsone) เปนยารักษาการติดเชื้อจากแบคทีเรียและการอักเสบของผิวหนัง ใช้ร่วมกับเรตินอยด์ เพื่อประสิทธิผลทางการรักษาสูงสุด อาจมีผลข้างเคียงอย่างผิวแห้งและเปนรอยแดง การรักษาด้วยยา แบบยารับประทาน  ยาปฏิชีวนะ (Antibiotic) ใช้ลดเชื้อแบคทีเรียและต้านการอักเสบ ใช้เมื่อผู้ป่วยเปนสิวอักเสบในระดับปาน กลางไปจนถึงรุนแรง สามารถใช้ร่วมกับยาปฏิชีวนะแบบทาได้ โดยแพทย์จะจ่ายยาตามความเหมาะสม เพื่อป้องกัน ไม่ให้ร่างกายต้านสารหรือดื้อยา ส่วนผลข้างเคียงที่อาจพบจากการใช้ยา ได้แก่ ท้องไส้ปั่นป่วน เวียนศีรษะ เพิ่มความ บอบบางให้ผิวไวต่อแดด เปนต้น โดยตัวยาที่ใช้ คือ ยากลุ่มเตตราึัยคลีน (Tetracycline) เช่น ดอกึีึัยคลีน (Doxycycline)  ยาคุมกาเนิดแบบฮอร์โมนรวม (Combined Oral Contraceptive) เปนประโยชน์ต่อการรักษาผู้ป่วยและ วัยรุ่นเพศหญิง เพราะตัวยามีฮอร์โมนเอสโตรเจนึึ่งเปนฮอร์โมนเพศหญิง ส่งผลต่อกระบวนการผลิตขนและน้ามัน ลด ความเสี่ยงของการอุดตันจนทาให้เกิดสิว แต่มีผลข้างเคียง คือ อาการปวดหัว คลื่นไส้ ปวดหน้าอก น้าหนักเพิ่มขึ้น มี เลือดไหลก่อนมีประจาเดือน และเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดลิ่มเลือดอุดตัน  ยาต้านฮอร์โมนเพศชาย (Anti-androgen) จะลดผลกระทบที่เกิดจากการมีฮอร์โมนเพศชายสะสมที่ต่อม ไขมันใต้ผิวมากเกินไป จนทาให้เกิดการผลิตขนและน้ามันมากจนเสี่ยงต่อการเกิดสิว อาจนามาใช้ในกรณีที่ผู้ป่วยึึ่ง เปนผู้หญิงหรือวัยรุ่นเพศหญิงรับประทานยาปฏิชีวนะแล้วไม่ได้ผล โดยมีผลข้างเคียง อย่างอาการปวดเต้านม ปวด ประจาเดือนมาก เปนต้น  ไอโึเตรติโนอิน (Isotretinoin) ยาอนุพันธ์ของกรดวิตามินเอ ใช้ในผู้ป่วยที่มีสิวอักเสบในระดับรุนแรงมาก ที่สุด และผู้ที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาสิวด้วยวิธีอื่น ๆ โดยผู้ที่ใช้ยาต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด เพราะ ด้วยประสิทธิภาพทางการรักษาสูงสุดก็ทาให้ยานี้มีความเสี่ยงต่อสุขภาพสูงด้วยเช่นกัน เช่น เพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะ ึึมเศร้า หรือภาวะึึมเศร้าที่นาไปสู่การฆ่าตัวตาย เสี่ยงต่อโรคลาไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรัง และเสี่ยงต่อทารกในครรภ์ที่จะ พิการรุนแรงแต่กาเนิด การรักษาด้วยวิธีการบาบัด  การกดสิว ใช้ในกรณีที่รักษาด้วยยาแล้วสิวหัวดาและสิวหัวขาวยังไม่หมดไป โดยแพทย์จะใช้เครื่องมือช่วยใน การบีบเอาสิ่งที่อุดตันภายในสิวออกมา ผลข้างเคียง คือ อาจเกิดร่องรอยหรือรอยแผลเปนได้
  • 5. 5  การผลัดเึลล์ผิว ใช้กระบวนการทางเคมีมาช่วยในการรักษา เช่น การใช้กรดึาลิเึลิกเพื่อขัดลอกผิวชั้นนอก ลดการอุดตันของน้ามันและเึลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว โดยจะมีประสิทธิภาพในการรักษาสูงสุดเมื่อใช้ร่วมกับวิธีการรักษา อื่น ๆ ยกเว้นการรับประทานยาเรตินอยด์ เพราะจะทาให้ผิวแพ้ง่ายและระคายเคือง ผลข้างเคียงที่พบ คือ อาจเกิด รอยแดง ผิวพุพอง หรือหลุดล่อนออกมา  การฉีดสเตียรอยด์ (Steroid) เปนการรักษาสิวก้อนลึกและสิวึีสต์ ทาให้การบวมอักเสบของสิวหายไปโดยที่ ไม่ต้องบีบสิวออกมา ด้วยการฉีดสเตียรอยด์เข้าไปยังบริเวณที่เปนสิว โดยมีผลข้างเคียง คือ ทาให้ผิวบางอาจเห็นรอย เส้นเลือดใต้ผิวหนังได้  การฉายแสง (Light Therapy) เปนการฉายแสงเพื่อทาลายเชื้อแบคทีเรียต้นเหตุของการเกิดสิวอักเสบ การ ฉายแสงต้องดาเนินการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อควบคุมคุณภาพและปริมาณของแสงให้เหมาะสม การรักษาด้วยการ ฉายแสงอาจมีผลข้างเคียง คือ เจ็บปวดบริเวณที่ฉายแสง รอยแดงที่เกิดหลังการฉายแสงึึ่งจะหายไปในภายหลัง และ ผิวบริเวณที่ฉายแสงจะมีความไวต่อแสงแดด มีโอกาสแพ้แสงมากขึ้น การรักษารอยแผลเปนที่เกิดจากสิว  การฉีดฟิลเลอร์ แพทย์จะฉีดสารเข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อทาให้ผิวตึงและรอยแผลเปนดูจางลง เช่น พวกคอลลา เจนหรือไขมัน แต่เปนการรักษาที่คงอยู่เพียงชั่วคราวและสารเหล่านั้นก็จะสลายไป หากรักษาด้วยวิธีนี้ต้องไปฉีดฟิล เลอร์เปนระยะ ๆ ผลข้างเคียง คือ อาจเกิดการบวม แดง หรือรอยช้าเปนจ้าเลือดบริเวณผิวหนังได้  การผลัดเึลล์ผิว เปนการใช้กรดที่มีความเข้มข้นสูงในการขัดผิวทั้งเึลล์ผิวชั้นนอกที่ตายแล้วและบริเวณชั้น ผิวหนังที่ลึกลงไปที่เปนรอยแผลเปน  การทาเลเึอร์ (Laser Resurfacing) เปนการยิงเลเึอร์เพื่อกาจัดเึลล์ผิวเก่าที่ไม่พึงประสงค์บริเวณที่เกิด รอยแผลเปน และเปนการกระตุ้นให้ผลัดเึลล์ผิวใหม่  การฉายแสง เปนการฉายลาแสงที่ทาให้เกิดความร้อนแต่ไม่เปนอันตรายต่อผิวชั้นนอก เพื่อทาลายเึลล์ผิว เก่า และกระตุ้นชั้นผิวหนังให้สร้างเึลล์ผิวใหม่ การฉายแสงเปนวิธีการรักษาที่ใช้เวลาในการทาน้อยกว่าวิธีอื่น แต่ต้อง ทาึ้าหลายครั้งเพื่อผลการรักษาที่ดีขึ้น  การกรอผิว ใช้รักษารอยแผลเปนที่รุนแรงด้วยการใช้เครื่องกรอึึ่งเปนเครื่องมือแพทย์ในการขัดเอาเึลล์ผิว เก่าที่เสียและตายแล้วบริเวณรอยแผลเปนออกไป หลังจากกรอเอาผิวที่เปนรอยแผลเปนออกไปแล้ว ผิวบริเวณนั้นก็จะ กลมกลืนกับผิวบริเวณโดยรอบ  การทาศัลยกรรมผิวหนัง แพทย์จะผ่าตัดเอาเนื้อบริเวณหลุมสิวหรือแผลเปนที่เกิดจากสิวออกไป แล้วเย็บหรือ ปลูกถ่ายเนื้อเยื่อใหม่แทนที่ วิธีดาเนินงาน แนวทางการดาเนินงาน 1. รวบรวมข้อมูลการเกิดสิวและรักษาสิว 2. ทดลองกับกลุ่มตัวอย่าง ค้นหาปัญหา ข้อเสีย หรือข้อผิดพลาดที่จะเกิดขึ้น 3. แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น 4. ประเมินผล และพัฒนาระบบตามข้อคิดเห็น
  • 6. 6 เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ 1. ใบปลิวความรู้เรื่องสิว 2. สิ่งของรักษาสิวที่ใช้กับกลุ่มตัวอย่าง งบประมาณ 1,000 บาท ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน ลาดับ ที่ ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 1 คิดหัวข้อโครงงาน 2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล 3 จัดทาโครงร่างงาน 4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน 5 ปรับปรุงทดสอบ 6 การทาเอกสารรายงาน 7 ประเมินผลงาน 8 นาเสนอโครงงาน ผลที่คาดว่าจะได้รับ 1. ผู้จัดทามีความเข้าใจในหัวข้อที่สนใจมากขึ้น 2. รู้จักชนิดของสิว 3. รู้วิธีรักษาและป้องกันการเกิดสิวแต่ละชนิดได้อย่างถูกต้อง 4. เข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงและการเจริญเติบโตของช่วงอายุวัย สถานที่ดาเนินการ โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ แหล่งอ้างอิง สิว/19 พฤศจิกายน 2562/จากเว็บไึต์ https://www.eucerin.co.th/skin-concerns/acne-prone-skin/how-blemishes-develop