More Related Content Similar to เอกสารประกอบการสอนวิชาเภสัชบำบัด ๓ (๗๙๑๕๕๑) หัวข้อ Assessment of Adverse drug reaction (20) More from Rachanont Hiranwong (18) เอกสารประกอบการสอนวิชาเภสัชบำบัด ๓ (๗๙๑๕๕๑) หัวข้อ Assessment of Adverse drug reaction4. Adverse Drug Reaction (ADR)*
ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นโดยมิได้ตั้งใจและเป็นอันตรายต่อร่างกาย
มนุษย์ เกิดขึ้นเมื่อใ้ยาในขนาดปกติเพื่อการป้องกัน
วินิจฉัย บําบัดรักษาโรค หรือเปลี่ยนแปลง แก้ไขการ
ทํางานของร่างกาย โดยไม่รวมปฏิกิริยาที่เกิดจากการใ้ยา
เกินขนาดโดยอุบัติเหตุหรือตั้งใจ ตลอดจนการใ้ยาในทาง
ที่ผิด อุบัติเหตุ หรือการจงใจใ้ยาเกินขนาดและผิดวิธี
*คำจำกัดความจากแนวทางการรายงานเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์จากการใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ
ศูนย์เฝ้าระวังความปลอดภัยด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
5. Side Effect (ADR type A)
ปฏิกิริยาทั้งเิงบวกและเิงลบที่เกิดขึ้นเนื่องจากฤทธิ์ทาง
เภัชวิทยา นอกเหนือจากคุณสมบัติหลักหรือข้อบ่งใ้ของ
ยานั้น เกิดขึ้นในขนาดที่ใ้รักษา สามารถคาดการณ์ได้ว่า
จะเกิด และระดับความรุนแรงจะขึ้นกับขนาดของยา
6. Drug Allergy (ADR type B)
ปฏิกิริยาที่ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยฤทธิ์ทาง
เภัชวิทยา เกิดจากปฏิกิริยาของภูมิคุ้มกันของร่างกายผู้
ป่วยต่อยานั้นโดยไม่ขึ้นกับขนาดของยา ่วนใหญ่อาการ
มักเกิดขึ้นภายหลังจากที่เคยได้รับยาชนิดนี้มาก่อน แล้วไป
กระตุ้นให้ร่างกายสร้างแอนติบอดี้ จึงทําให้เกิดอาการแพ้
หลังจากได้รับยาเดิมในครั้งต่อมา
Drug hypersensitivity reaction(DHR)
8. มักพบจากการใ้ยาในกลุ่ม Opioids, Cephalosporins, Vancomycin, และ
Radiocontrast media
กลไกเกิดจากยากระตุ้นให้มีการปล่อยสารก่อการแพ้โดยตรง อาจทําให้เกิดผื่นคัน, แน่น
หน้าอก, หายใจลําบาก เป็นต้น
เกิดอาการได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่รับยา
อาการที่เกิดขึ้นจะัมพันธ์กับขนาดยาหรืออัตราเร็วในการให้ยา
แก้ไขโดยการลดขนาดยา หรือลดอัตราเร็วในการให้ยา หรือให้ยาเพื่อป้องกันอาการ
Pseudo Allergy
9. เปรียบเทียบการแพ้ยากลุ่ม NSAIDs แบบ True allergy กับ Pseudo allergy
TRUE ALLERGY PSEUDO ALLERGY
ปฏิกิริยาเกิดผ่านระบบภูมิคุ้มกัน (IgE) ปฏิกิริยาเกิดผ่านการยับยั้งการสร้าง PGE2
แพ้ข้ามกันในกลุ่มโครงสร้าง แพ้ข้ามกันในกลุ่มที่ยับยั้ง COX-1 ได้มาก
หลีกเลี่ยงการใ้ยาในกลุ่มโครงสร้างเดียวกัน
หลีกเลี่ยงการใ้ยา
ในกลุ่มที่ยับยั้ง COX-1 ได้มาก
11. Type I : IgE-Mediated Drug Hypersensitivity
Type II : IgG-Mediated Cytotoxicity
Type III : Immune Complex Deposition
Type IV : T-Cell-Mediated Drug Hypersensitivity
กลไกการแพ้ยา
13. Type I : IgE-Mediated Drug Hypersensitivity
ใ้เวลากระตุ้นครั้งแรก 7 – 14 วัน เมื่อได้รับยาอีก
ครั้งจะเกิดอาการภายใน 2 ั่วโมง นานสุดไม่เกิน 48
ั่วโมง
• Anaphylaxis
• Urticaria
• Angioedema
• Bronchospasm
• Abdominal cramping
• Respiratory arrest
• Arrhythmias
• Eosinophilia
19. Type II : IgG-Mediated Cytotoxicity
เกิดอาการภายใน 7 – 21 วันหลังเริ่มยา
• Hemolytic anemia: Penicillin, quinidine
• Neutropenia: anti – convulsants,
sulfonamides, Phenothiazines
• Thrombocytopenia: Paracetamol, quinine,
quinidine, sulfonamides
21. Type III : Immune Complex Deposition
เกิดอาการภายใน 5 – 21 วันหลังเริ่มยา
• Serum sickness: มีไข้, อ่อนเพลีย, ปวดข้อ, ผื่นคัน
• Vasculitides (some)
• Morbilliform or maculopapular rash
• Urticaria (late onset)
• Glomerulonephritis
• Erythema multiforme
• Stevens–Johnson syndrome
24. Stevens Johnson Syndrome
EM major หรือที่เรียกว่า Stevens
Johnson syndrome จะมีผื่นตามเยื่อ
บุมากกว่า 1 แห่ง
มีอาการค่อนข้างรุนแรงกว่า อาการนํา
ก่อนเกิดผื่น ผู้ป่วยจะมีอาการคล้ายไข้
หวัด คือมีไข้ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตาม
เนื้อตัว ปวดข้อ
27. Type IV : T-Cell-Mediated Drug Hypersensitivity
เกิดอาการภายใน 24 - 48 ั่วโมง
• Maculopapular rash
• Contact dermatitis
• Pustular eruptions
• SJS/TEN
28. Maculo - papular rash
Macule ผื่นราบหรือนูนเล็กน้อย
Papule ตุ่มนูนที่ผิวหนัง
มีอาการคันร่วมด้วย
30. Fixed drug eruption
รูปร่างกลม ขอบัด มีีแดงคลํ้าหรือีม่วง
หรือพองเป็นตุ่มนํ้า
ผื่นมักจะมีอาการแสบร้อนเจ็บๆ คันๆ
พบบ่อยที่บริเวณริมฝีปาก และเยื่อบุตาม
ผิวหนังอื่นๆ
เมื่อได้รับยาที่เป็นสาเหตุอีกในครั้งต่อมาจะ
ปรากฏผื่นที่บริเวณเดิมทุกครั้ง
34. WHO’s criteria
Certain (ใ่แน่นอน) Probable (น่าจะใ่) Possible (อาจจะใ่) Unlikely (สงัย)
เกิดขึ้นใน่วงระยะเวลาที่สอดคล้องกับการใ้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ (ยา) และ เกิดขึ้นใน่วงเวลาที่ไม่สอดคล้องกับระยะ
เวลาการใ้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ (ยา) และ
ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยโรคที่เป็นอยู่ หรือ
ยา หรือ สารเคมีอื่นๆ ที่ใ้ร่วม และ
ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับโรคที่เป็นอยู่
หรือ ยา หรือ สารเคมีอื่นๆ ที่ใ้
ร่วม และ
อาจสามารถอธิบายด้วยโรค
ที่เป็นอยู่ หรือ ยา หรือ สาร
เคมีอื่นๆ ที่ใ้ร่วม และ
ไม่สามารถอธิบายด้วยโรคที่เป็นอยู่ หรือ
ยา หรือ สารเคมีอื่นๆ ที่ใ้ร่วมได้อย่าง
ัดเจน
เมื่อหยุดใ้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ (ยา) แล้ว
อาการไม่พึงประสงค์ดีขึ้น หรือหายจาก
อาการนั้นอย่างเห็นได้ัด และ
เมื่อหยุดใ้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ (ยา)
แล้วอาการไม่พึงประสงค์ดีขึ้น
หรือหายจากอาการนั้น แต่
ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการหยุดใ้
ผลิตภัณฑ์สุขภาพ (ยา) หรือ
มีแต่ข้อมูลไม่สมบูรณ์
หากมีการใ้ยานั้นํ้าอีกครั้ง จะต้องเกิด
อาการไม่พึงประสงค์ที่สามารถอธิบายได้
ด้วยฤทธิ์ทางเภัชวิทยาหรือเป็นอาการไม่
พึงประสงค์ที่ปรากฎเห็นัด
อาจไม่มีข้อมูลของการใ้ยาํ้าอีก
43. MEYLER’S Side Effects
of Drugs
รวบรวม ADR จากรายงาน
แยกเป็นกลุ่มอาการ
มีข้อมูลปัจจัยที่่งเสริมให้เกิด
ADR
ขั้นตอนที่ 2 ค้นหายาที่สงัย
47. ขั้นตอนที่ 3 ค้นหาสาเหตุอื่น
อาการดีขึ้น หรือแย่ลง หรือคงที่
ภายหลังเกิดอาการ ได้หยุดยามั้ย
หยุดยามานานเท่าใด
รับประทานยามื้อสุดท้ายเมื่อใด
เคยกินยา…มั้ย (ยาในกลุ่ม
เดียวกันกับยาที่เราสงัย)
ตัวอย่างคําถามที่ใ้ในการัมภาษณ์ผู้ป่วยและญาติ
เคยแพ้ยา อาหารหรือสารเคมีมั้ย
มีโรคประจําตัวมั้ย มียาที่ใ้เป็นประจํา
อะไรอยู่บ้าง ใ้มานานแค่ไหนแล้ว
ปกติเวลาไม่สบาย ได้ื้อยา ใ้ยาหรือ
รักษาที่โรงพยาบาลมั้ย
รับยาประจําตัวที่โรงพยาบาลอะไร
58. แพ้ยาซ้ำ
เหตุการณ์ที่ผู้ป่วยได้รับยา (ทั้งจากตนเอง ผู้ดูแล หรือจาก
บุคลากรทางการแพทย์) แล้วเกิดอาการแพ้ โดยที่เคยเกิดอาการ
แพ้ยาดังกล่าวจากยาที่มีื่อสามัญทางยาเดียวกัน ทั้งที่เคยบันทึก
ประวัติหรือไม่บันทึกประวัติในเอกสารหรือระบบของโรงพยาบาล
ยกเว้น : การตั้งใจให้ยาํ้า (RECHALLENGE) ของบุคลากรทางการแพทย์เพื่อประโยชน์ใน
การรักษาหรือมีข้อบ่งี้ทางการแพทย์
63. กรณีึกษาที่ 1
3 วันก่อน กินยา Paracetamol (500) ไป 2 เม็ด
2 ั่วโมงก่อนพึ่งกินยา Ibuprofen (400) ไป 1 เม็ด
ประวัติเคยทาน Paracetamol เป็นประจําโดยไม่มีอาการ
ผิดปกติ ไม่ทราบว่าเคยใ้ยาในกลุ่ม NSAIDs มาก่อนหรือ
เปล่า
ขั้นตอนที่ 2 ค้นหายาที่สงัย
65. กรณีึกษาที่ 1
ขั้นตอนที่ 4 ประเมินโดยใ้ Algorithm
Certain (ใ่แน่นอน) Probable (น่าจะใ่) Possible (อาจจะใ่) Unlikely (สงัย)
เกิดขึ้นใน่วงระยะเวลาที่สอดคล้องกับการใ้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ (ยา) และ เกิดขึ้นใน่วงเวลาที่ไม่สอดคล้องกับระยะ
เวลาการใ้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ (ยา) และ
ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยโรคที่เป็นอยู่ หรือ
ยา หรือ สารเคมีอื่นๆ ที่ใ้ร่วม และ
ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับโรคที่เป็นอยู่
หรือ ยา หรือ สารเคมีอื่นๆ ที่ใ้
ร่วม และ
อาจสามารถอธิบายด้วยโรค
ที่เป็นอยู่ หรือ ยา หรือ สาร
เคมีอื่นๆ ที่ใ้ร่วม และ
ไม่สามารถอธิบายด้วยโรคที่เป็นอยู่ หรือ
ยา หรือ สารเคมีอื่นๆ ที่ใ้ร่วมได้อย่าง
ัดเจน
เมื่อหยุดใ้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ (ยา) แล้ว
อาการไม่พึงประสงค์ดีขึ้น หรือหายจาก
อาการนั้นอย่างเห็นได้ัด และ
เมื่อหยุดใ้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ (ยา)
แล้วอาการไม่พึงประสงค์ดีขึ้น
หรือหายจากอาการนั้น แต่
ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการหยุดใ้
ผลิตภัณฑ์สุขภาพ (ยา) หรือ
มีแต่ข้อมูลไม่สมบูรณ์
หากมีการใ้ยานั้นํ้าอีกครั้ง จะต้องเกิด
อาการไม่พึงประสงค์ที่สามารถอธิบายได้
ด้วยฤทธิ์ทางเภัชวิทยาหรือเป็นอาการไม่
พึงประสงค์ที่ปรากฎเห็นัด
อาจไม่มีข้อมูลของการใ้ยาํ้าอีก
66. กรณีึกษาที่ 1
ขั้นตอนที่ 4 ประเมินโดยใ้ Algorithm
Certain (ใ่แน่นอน) Probable (น่าจะใ่) Possible (อาจจะใ่) Unlikely (สงัย)
เกิดขึ้นใน่วงระยะเวลาที่สอดคล้องกับการใ้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ (ยา) และ เกิดขึ้นใน่วงเวลาที่ไม่สอดคล้องกับระยะ
เวลาการใ้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ (ยา) และ
ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยโรคที่เป็นอยู่ หรือ
ยา หรือ สารเคมีอื่นๆ ที่ใ้ร่วม และ
ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับโรคที่เป็นอยู่
หรือ ยา หรือ สารเคมีอื่นๆ ที่ใ้
ร่วม และ
อาจสามารถอธิบายด้วยโรค
ที่เป็นอยู่ หรือ ยา หรือ สาร
เคมีอื่นๆ ที่ใ้ร่วม และ
ไม่สามารถอธิบายด้วยโรคที่เป็นอยู่ หรือ
ยา หรือ สารเคมีอื่นๆ ที่ใ้ร่วมได้อย่าง
ัดเจน
เมื่อหยุดใ้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ (ยา) แล้ว
อาการไม่พึงประสงค์ดีขึ้น หรือหายจาก
อาการนั้นอย่างเห็นได้ัด และ
เมื่อหยุดใ้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ (ยา)
แล้วอาการไม่พึงประสงค์ดีขึ้น
หรือหายจากอาการนั้น แต่
ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการหยุดใ้
ผลิตภัณฑ์สุขภาพ (ยา) หรือ
มีแต่ข้อมูลไม่สมบูรณ์
หากมีการใ้ยานั้นํ้าอีกครั้ง จะต้องเกิด
อาการไม่พึงประสงค์ที่สามารถอธิบายได้
ด้วยฤทธิ์ทางเภัชวิทยาหรือเป็นอาการไม่
พึงประสงค์ที่ปรากฎเห็นัด
อาจไม่มีข้อมูลของการใ้ยาํ้าอีก
71. กรณีึกษาที่ 1ขั้นตอนที่ 5 สรุปผลการประเมิน
ผู้ป่วยแพ้ยา Ibuprofen แบบ Angioedema
โดยผู้ป่วยไม่ทราบว่าเคยทานยากลุ่ม NSAIDs มา
ก่อนหรือเปล่า จึงบอกไม่ได้ว่าจะแพ้ยาตัวอื่นในกลุ่ม
ด้วยหรือไม่ แนะนําให้หลีกเลี่ยงยาในกลุ่ม NSAIDs
ทั้งหมด ถ้าจําเป็นอาจใ้ยาในกลุ่ม COX-2
Specific
78. กรณีึกษาที่ 2
ขั้นตอนที่ 4 ประเมินโดยใ้ Algorithm
Certain (ใ่แน่นอน) Probable (น่าจะใ่) Possible (อาจจะใ่) Unlikely (สงัย)
เกิดขึ้นใน่วงระยะเวลาที่สอดคล้องกับการใ้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ (ยา) และ เกิดขึ้นใน่วงเวลาที่ไม่สอดคล้องกับระยะ
เวลาการใ้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ (ยา) และ
ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยโรคที่เป็นอยู่ หรือ
ยา หรือ สารเคมีอื่นๆ ที่ใ้ร่วม และ
ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับโรคที่เป็นอยู่
หรือ ยา หรือ สารเคมีอื่นๆ ที่ใ้
ร่วม และ
อาจสามารถอธิบายด้วยโรค
ที่เป็นอยู่ หรือ ยา หรือ สาร
เคมีอื่นๆ ที่ใ้ร่วม และ
ไม่สามารถอธิบายด้วยโรคที่เป็นอยู่ หรือ
ยา หรือ สารเคมีอื่นๆ ที่ใ้ร่วมได้อย่าง
ัดเจน
เมื่อหยุดใ้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ (ยา) แล้ว
อาการไม่พึงประสงค์ดีขึ้น หรือหายจาก
อาการนั้นอย่างเห็นได้ัด และ
เมื่อหยุดใ้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ (ยา)
แล้วอาการไม่พึงประสงค์ดีขึ้น
หรือหายจากอาการนั้น แต่
ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการหยุดใ้
ผลิตภัณฑ์สุขภาพ (ยา) หรือ
มีแต่ข้อมูลไม่สมบูรณ์
หากมีการใ้ยานั้นํ้าอีกครั้ง จะต้องเกิด
อาการไม่พึงประสงค์ที่สามารถอธิบายได้
ด้วยฤทธิ์ทางเภัชวิทยาหรือเป็นอาการไม่
พึงประสงค์ที่ปรากฎเห็นัด
อาจไม่มีข้อมูลของการใ้ยาํ้าอีก
79. กรณีึกษาที่ 2
ขั้นตอนที่ 4 ประเมินโดยใ้ Algorithm
Certain (ใ่แน่นอน) Probable (น่าจะใ่) Possible (อาจจะใ่) Unlikely (สงัย)
เกิดขึ้นใน่วงระยะเวลาที่สอดคล้องกับการใ้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ (ยา) และ เกิดขึ้นใน่วงเวลาที่ไม่สอดคล้องกับระยะ
เวลาการใ้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ (ยา) และ
ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยโรคที่เป็นอยู่ หรือ
ยา หรือ สารเคมีอื่นๆ ที่ใ้ร่วม และ
ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับโรคที่เป็นอยู่
หรือ ยา หรือ สารเคมีอื่นๆ ที่ใ้
ร่วม และ
อาจสามารถอธิบายด้วยโรค
ที่เป็นอยู่ หรือ ยา หรือ สาร
เคมีอื่นๆ ที่ใ้ร่วม และ
ไม่สามารถอธิบายด้วยโรคที่เป็นอยู่ หรือ
ยา หรือ สารเคมีอื่นๆ ที่ใ้ร่วมได้อย่าง
ัดเจน
เมื่อหยุดใ้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ (ยา) แล้ว
อาการไม่พึงประสงค์ดีขึ้น หรือหายจาก
อาการนั้นอย่างเห็นได้ัด และ
เมื่อหยุดใ้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ (ยา)
แล้วอาการไม่พึงประสงค์ดีขึ้น
หรือหายจากอาการนั้น แต่
ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการหยุดใ้
ผลิตภัณฑ์สุขภาพ (ยา) หรือ
มีแต่ข้อมูลไม่สมบูรณ์
หากมีการใ้ยานั้นํ้าอีกครั้ง จะต้องเกิด
อาการไม่พึงประสงค์ที่สามารถอธิบายได้
ด้วยฤทธิ์ทางเภัชวิทยาหรือเป็นอาการไม่
พึงประสงค์ที่ปรากฎเห็นัด
อาจไม่มีข้อมูลของการใ้ยาํ้าอีก
84. กรณีึกษาที่ 2ขั้นตอนที่ 5 สรุปผลการประเมิน
ผู้ป่วยแพ้ยา Ceftazidime แบบ Urticaria
ควรหลีกเลี่ยงการใ้ยานี้อีก และระมัดระวัง
การใ้ยาในกลุ่มเบต้าแลคแตม
Ceftazidime
เซฟต้าิดีม
Urticaria
ผื่นที่หน้า หลัง
แขนขา
2
ภญ.แสงระวี
24/4/58
87. กรณีึกษาที่ 3
ผู้ป่วยมีผื่นแบบ MP rash หลังจากได้รับยา Phenytoin, Methimazole,
Propanolol ครั้งแรกนาน 17 วัน หลังหยุดยา 4 วัน ผู้ป่วยมีอาการของ Systemic
symptom คือมีไข้ 38.3 องศาเซลเียส มีอาการผื่นขึ้นร่วมกับมีไข้ และผื่นค่อยๆ
เพิ่มขึ้น มีหน้าบวม แขนบวมร่วมด้วย ผลทางห้องตรวจปฏิบัติการพบว่า Atypical
Lymphocyte เพิ่มขึ้นเป็น 9 และพบ Eosinophil เพิ่มขึ้นเป็น 35% WBC 28.65
x 103
uL มีลักษณะของภาวะ internal organ involvement AST 72 ALT
247 ALP 285
ขั้นตอนที่ 1 วินิจฉัยผื่นแพ้ยา
91. กรณีึกษาที่ 3
ผู้ป่วยเป็น Hyperthyroidism และ seizure
ไม่มีประวัติแพ้ยา สารเคมี หรืออาหารใดๆ
่วงนี้ไม่มีการเปลี่ยนเครื่อง ําอางค์ สบู่ และแชมพูที่ใ้
ไม่เคยเกิดการแพ้แบบนี้มาก่อน
ขั้นตอนที่ 3 ค้นหาสาเหตุอื่น
92. กรณีึกษาที่ 3
ขั้นตอนที่ 4 ประเมินโดยใ้ Algorithm
Certain (ใ่แน่นอน) Probable (น่าจะใ่) Possible (อาจจะใ่) Unlikely (สงัย)
เกิดขึ้นใน่วงระยะเวลาที่สอดคล้องกับการใ้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ (ยา) และ เกิดขึ้นใน่วงเวลาที่ไม่สอดคล้องกับระยะ
เวลาการใ้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ (ยา) และ
ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยโรคที่เป็นอยู่ หรือ
ยา หรือ สารเคมีอื่นๆ ที่ใ้ร่วม และ
ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับโรคที่เป็นอยู่
หรือ ยา หรือ สารเคมีอื่นๆ ที่ใ้
ร่วม และ
อาจสามารถอธิบายด้วยโรค
ที่เป็นอยู่ หรือ ยา หรือ สาร
เคมีอื่นๆ ที่ใ้ร่วม และ
ไม่สามารถอธิบายด้วยโรคที่เป็นอยู่ หรือ
ยา หรือ สารเคมีอื่นๆ ที่ใ้ร่วมได้อย่าง
ัดเจน
เมื่อหยุดใ้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ (ยา) แล้ว
อาการไม่พึงประสงค์ดีขึ้น หรือหายจาก
อาการนั้นอย่างเห็นได้ัด และ
เมื่อหยุดใ้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ (ยา)
แล้วอาการไม่พึงประสงค์ดีขึ้น
หรือหายจากอาการนั้น แต่
ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการหยุดใ้
ผลิตภัณฑ์สุขภาพ (ยา) หรือ
มีแต่ข้อมูลไม่สมบูรณ์
หากมีการใ้ยานั้นํ้าอีกครั้ง จะต้องเกิด
อาการไม่พึงประสงค์ที่สามารถอธิบายได้
ด้วยฤทธิ์ทางเภัชวิทยาหรือเป็นอาการไม่
พึงประสงค์ที่ปรากฎเห็นัด
อาจไม่มีข้อมูลของการใ้ยาํ้าอีก
93. กรณีึกษาที่ 3
ขั้นตอนที่ 4 ประเมินโดยใ้ Algorithm
Certain (ใ่แน่นอน) Probable (น่าจะใ่) Possible (อาจจะใ่) Unlikely (สงัย)
เกิดขึ้นใน่วงระยะเวลาที่สอดคล้องกับการใ้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ (ยา) และ เกิดขึ้นใน่วงเวลาที่ไม่สอดคล้องกับระยะ
เวลาการใ้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ (ยา) และ
ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยโรคที่เป็นอยู่ หรือ
ยา หรือ สารเคมีอื่นๆ ที่ใ้ร่วม และ
ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับโรคที่เป็นอยู่
หรือ ยา หรือ สารเคมีอื่นๆ ที่ใ้
ร่วม และ
อาจสามารถอธิบายด้วยโรค
ที่เป็นอยู่ หรือ ยา หรือ สาร
เคมีอื่นๆ ที่ใ้ร่วม และ
ไม่สามารถอธิบายด้วยโรคที่เป็นอยู่ หรือ
ยา หรือ สารเคมีอื่นๆ ที่ใ้ร่วมได้อย่าง
ัดเจน
เมื่อหยุดใ้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ (ยา) แล้ว
อาการไม่พึงประสงค์ดีขึ้น หรือหายจาก
อาการนั้นอย่างเห็นได้ัด และ
เมื่อหยุดใ้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ (ยา)
แล้วอาการไม่พึงประสงค์ดีขึ้น
หรือหายจากอาการนั้น แต่
ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการหยุดใ้
ผลิตภัณฑ์สุขภาพ (ยา) หรือ
มีแต่ข้อมูลไม่สมบูรณ์
หากมีการใ้ยานั้นํ้าอีกครั้ง จะต้องเกิด
อาการไม่พึงประสงค์ที่สามารถอธิบายได้
ด้วยฤทธิ์ทางเภัชวิทยาหรือเป็นอาการไม่
พึงประสงค์ที่ปรากฎเห็นัด
อาจไม่มีข้อมูลของการใ้ยาํ้าอีก
98. กรณีึกษาที่ 3ขั้นตอนที่ 5 สรุปผลการประเมิน
ผู้ป่วยแพ้ยา Phenytoin เกิด DRESS แนะนํา
ให้หยุดใ้ยา และใ้ยากันักตัวอื่นที่ไม่อยู่ใน
กลุ่ม aromatic anticonvulsants แทน
Phenytoin
ฟีนีโตอิน
DRESS
ผื่นทั่วตัวร่วมกับ
ภาวะตับอักเสบ
2
ภก.รชานนท์
3/11/57
ห้ามใ้ยากันักในกลุ่ม
aromatic
anticonvulsants
100. แนะนําอ่านเพิ่มเติม
ตรงประเด็น… เรื่อง Adverse Drug Reaction เล่ม 1 และ 2
ถอดบทเรียนจากการประชุมวิชาการ (Quality Conference) ครั้งที่ 4/2556 เรื่อง “บ่อง
ตง…แพ้แล้วอย่าแพ้อีก” http://www1.si.mahidol.ac.th/km/node/2403
Thai HP Practice Guidelines on Adverse Drug Reaction Monitoring (ADRM)
International Consensus on drug allergy 2014
Drug-Induced Diseases: Prevention, Detection, and Management, 2nd
Edition