SlideShare a Scribd company logo
1 of 34
Download to read offline
คำชี้แจงในกำรเฉลย
1) เฉลยทุกข้อ ครูจะระบุเนื้อหำที่โจทย์ใช้ถำมเพื่อประโยชน์ต่อนักเรียนในกำรกลับไปสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติม รวมถึงจะวิเครำะห์
ข้อสอบโดยภำพรวมไว้ให้
2) ทุกข้อ จะมีกำรแบ่งระดับควำมยำกของข้อสอบไว้
หำกเป็นสำมดำว หมำยถึง เป็นข้อสอบยำกมำก ต้องใช้กำรคิดวิเครำะห์ ใช้พื้นฐำนควำมรู้รอบตัวในกำรหำคำตอบ
อย่ำงมำก
หำกเป็นสองดำว หมำยถึง เป็นข้อสอบในระดับปำนกลำงถึงค่อนข้ำงยำก ต้องอำศัยกำรคิดวิเครำะห์ กำรใช้พื้น
ฐำนควำมรู้รอบตัวในกำรหำคำตอบพอสมควร
หำกเป็นหนึ่งดำว หมำยถึง เป็นข้อสอบในระดับทั่วไป เน้นควำมจำ หำกเป็นวิเครำะห์ก็สำมำรถเชื่อมโยงหำคำตอบ
ได้ไม่ยำก
3) ข้อสอบมีทั้งหมด 5 สำระ สำระละ 10 ข้อ เรียงตำมลำดับ
สำระศำสนำ ศีลธรรมและจริยธรรม ข้อ 1-10
สำระหน้ำที่พลเมือง วัฒนธรรม และกำรดำเนินชีวิตในสังคม ข้อ 11-20
สำระเศรษฐศำสตร์ ข้อ 21-30
สำระประวัติศำสตร์ ข้อ 31-40
สำระภูมิศำสตร์ ข้อ 41-50
โดยหำกเปรียบเทียบตำมควำมคิดและกำรประเมินของครูแล้ว จะจัดลำดับควำมยำกของข้อสอบชุดนี้ได้เป็น ภูมิศำสตร์
>> เศรษฐศำสตร์ >> หน้ำที่พลเมืองฯ >> ศำสนำ >> ประวัติศำสตร์
สำระที่ต้องเชื่อมโยงกับควำมรู้รอบตัว สถำนกำรณ์ปัจจุบันมำกที่สุดก็จะถูกเรียงลำดับตำมนี้
*ขอให้นักเรียนใช้เฉลยนี้เพื่อกำรทบทวนเตรียมตัวสอบ หรืออ่ำนเพื่อหำควำมรู้เพิ่มเติมเท่ำนั้น กรุณำอย่ำเผยแพร่สู่สถำบัน
กวดวิชำใดๆ หรือเผยแพร่ทำเพื่อกำรค้ำ เป็นอันขำด
1) ตอบ 3. ระบบวรรณะมี 4 วรรณะ ได้แก่ กษัตริย์ พรำหมณ์ แพศย์ ศูทร (ระดับควำมยำก )
เนื้อหำที่ใช้ถำม  พุทธประวัติ (สังคมชมพูทวีป)
วิเครำะห์ข้อสอบ  โจทย์ข้อนี้ถำมถึงสภำพสังคมชมพูทวีป หำกนักเรียนมีพื้นฐำนเกี่ยวกับประวัติศำสตร์อินเดียหรือทรำบ
เกี่ยวกับสังคมของอินเดียโบรำณอยู่บ้ำง กำรหำคำตอบจำกโจทย์นี้ก็ถือว่ำสบำยมำก
วิเครำะห์ตัวเลือก 
ตัวเลือกที่ 1 ชำวอำรยันอยู่ในเขตปัจจันตชนบท ผิด เพรำะปัจจันตชนบท หมำยถึง ส่วนรอบนอกหรือชำยแดน ตั้งอยู่
ทำงภำคใต้ของอินเดีย เป็นเขตของพวกทมิฬหรือดรำวิเดียนซึ่งถูกพวกอำรยันขับไล่ลงไป ในขณะที่พวกอำรยันเองเข้ำยึดครอง
มัธยมประเทศหรือมัฌชิมชนบท อันหมำยถึงบริเวณฮินดูสถำนเขตใจกลำงของชมพูทวีป (อินเดีย) ซึ่งเป็นเขตอุดมสมบูรณ์
ตัวเลือกที่ 2 กำรปกครองแบบรวมศูนย์ในระบอบสมบูรณำญำสิทธิรำชย์ ถูก แต่ไม่ครบถ้วน เพรำะนอกจำกอินเดียสมัย
พุทธกำลจะมีกำรปกครองแบบรำชำธิปไตย (สมบูรณำญำสิทธิรำชย์ในลักษณะรวมศูนย์) ซึ่งมักใช้กับแคว้นใหญ่ๆ เช่น แคว้น
มคธ แคว้นโกศล แคว้นอวันตี แล้วยังมีกำรปกครองแบบสำมัคคีธรรม ซึ่งจะมีสภำหรือสังฆะเป็นผู้กำหนดนโยบำยและมีอำนำจใน
กำรตัดสินใจเกี่ยวกับกิจกำรบ้ำนเมือง ตำแหน่งรำชำจะได้จำกกำรเลือกของสภำดังกล่ำว กำรปกครองดังกล่ำวถือว่ำมีลักษณะ
ใกล้เคียงกับประชำธิปไตยในปัจจุบัน เพรำะกำรปกครอง กำรกำหนดนโยบำย กำรออกกฎหมำย กำรตัดสินปัญหำต่ำงๆ
ผู้ปกครองจะกระทำโดยปรึกษำหำรือกันก่อนโดยถือเสียงข้ำงมำกในกำรตัดสิน
ตัวเลือกที่ 4 วรรณะศูทรและพวกจัณฑำลถือเป็นชนชั้นที่มีฐำนะต่ำเสมอกัน ผิดแน่นอน จัณฑำลต่ำกว่ำ โดยสังคมอินเดีย
จะถือว่ำ จัณฑำลเป็นพวกนอกวรรณะ เกิดจำกกำรที่หญิงวรรณะสูง (พรำหมณ์หรือกษัตริย์) แต่งงำนกับชำยวรรณะต่ำกว่ำ
(แพศย์หรือศูทร) จัณฑำลถือเป็นพวกแตะต้องไม่ได้ (untouchable) สำหรับคนในวรรณะอื่น ถือเป็นกำลกิณีหรือเสนียดจัญไร
ดังนั้นจึงไม่มีทำงที่จัณฑำลจะมีฐำนะเท่ำเทียมกับพวกวรรณะศูทรได้
ตัวเลือกที่ 5 พระพรหมเป็นเทพเจ้ำสำคัญที่สุดในฐำนะพระผู้สร้ำงและพระผู้ทำลำย ผิดชัวร์ พระพรหมถือเป็นพระผู้สร้ำง
เป็นผู้ก่อเกิดสรรพสิ่งต่ำงๆ พระผู้ทำลำยจะหมำยถึง พระศิวะ (ทำลำยในที่นี้ คือ ทำลำยสิ่งชั่วร้ำย ควำมทุกข์ทั้งปวง) ในขณะที่
พระผู้ปกปักรักษำ หมำยถึง พระวิษณุ
สรุปคำตอบ  จำกกำรวิเครำะห์ตัวเลือก ตัวเลือกที่เป็นคำตอบของโจทย์นี้ คือ ตัวเลือกที่ 3 ระบบวรรณะมี 4 วรรณะ
ได้แก่ กษัตริย์ พรำหมณ์ แพศย์ ศูทร ถูกต้องแล้วที่ระบบวรรณะมี 4 วรรณะ ในสังคมชมพูทวีปสมัยพุทธกำล ลักษณะ
ดังกล่ำวเป็นมำตั้งแต่สมัยพระเวท ทั้งนี้คำว่ำ วรรณะ หมำยถึงสีผิว ในระยะแรกชำวอำรยันที่อพยพเข้ำมำในชมพูทวีป (อินเดีย)
นำมำใช้ในกำรกีดกันพวกดรำวิเดียนหรือทมิฬให้ออกไปจำกพวกตน โดยใช้สีผิวเป็นเกณฑ์ แต่ต่อมำได้นำเกณฑ์จำกเรื่องอำชีพ
และใช้แนวคิดทำงศำสนำเข้ำมำเพิ่มเติมโดยผสำนกับพุทธศำสนำในเรื่องกรรม ส่งผลให้ระบบวรรณะทรงอิทธิพลอย่ำงมำกใน
สังคมอินเดีย หำกแต่งงำนข้ำมวรรณะ บุตรที่คลอดออกมำจะกลำยเป็นจัณฑำลทันที
2) ตอบ 5. หลักควำมจริงของสิ่งมีชีวิต 5 ประกำร (ระดับควำมยำก )
เนื้อหำที่ใช้ถำม  หลักธรรมทำงพระพุทธศำสนำ+วันสำคัญทำงพระพุทธศำสนำ(วันอำสำฬหบูชำ)
วิเครำะห์ข้อสอบ  โจทย์ข้อนี้ถำมถึงตัวเลือกที่ไม่สอดคล้องกับหลักมัชฌิมำปฏิปทำ บำงตัวเลือกง่ำยจะง่ำยต่อกำรตัดออก
แต่บำงเลือกดูแล้วก็คล้ำยๆ กัน ต้องอำศัยกำรวิเครำะห์หักล้ำงตัวเลือกให้ดีมิฉะนั้นอำจผิดได้ง่ำยๆ
เข้ำถึงเนื้อหำ  มัชฌิมำปฏิปทำ หมำยถึง ทำงสำยกลำง โดยพระพุทธเจ้ำตรัสว่ำทำงที่เป็นที่สุดสองอย่ำง คือ กำมสุขัลลิ
กำนุโยค หมำยถึง กำรพัวพันอยู่ในกำมสุข และอัตตกิลมถำนุโยค หมำยถึง กำรประพฤติปฏิบัติตนให้ลำบำก มิใช่หนทำงสู่กำร
พ้นทุกข์หรือกำรตรัสรู้ได้ ไม่ควรปฏิบัติ แต่ควรใช้แนวทำงสำยกลำงที่เรียกว่ำ มัชฌิมำปฏิปทำ ผ่ำนหลักอริยมรรค หรือมรรคมี
องค์ 8 ซึ่งถือเป็นหนทำงแห่งกำรพ้นทุกข์ตำมหลักอริยสัจ 4
จำกเนื้อหำที่กล่ำวมำ นักเรียนคงเห็นแล้วว่ำ เรำสำมำรถตัดตัวเลือกที่ 1 มรรค 8 ตัวเลือกที่ 3 ข้อปฏิบัติที่ยึดทำงสำยกลำง
และตัวเลือกที่ 4 แนวทำงปฏิบัติสู่กำรดับทุกข์ ได้ทันที เหลือเพียง 2 ตัวเลือกที่เรำต้องมำวิเครำะห์กันต่อไปว่ำตัวเลือกใดยัง
สัมพันธ์กับหลักมัชฌิมำปฏิปทำ อีก
ตัวเลือกที่เกี่ยวข้องกับหลักมัชฌิมำปฏิปทำ คือ ตัวเลือกที่ 2 ไตรสิกขำ ทั้งนี้เพรำะว่ำ มรรค 8 หำกย่นย่อแล้วก็จะได้เป็น
ไตรสิกขำ ซึ่งหมำยถึง ศีล สมำธิ ปัญญำ แบ่งกลุ่มได้ดังนี้
อธิศีลสิกขำ คือ สัมมำวำจำ (เจรจำชอบ) สัมมำกัมมันตะ (กระทำชอบ) สัมมำอำชีวะ (เลี้ยงชีพชอบ)
อธิจิตตสิกขำ คือ สัมมำสติ (ระลึกชอบ) สัมมำสมำธิ (ตั่งมั่นชอบ) สัมมำวำยำมะ (เพียรชอบ)
อธิปัญญำสิกขำ คือ สัมมำทิฐิ (คิดชอบ) สัมมำสังกัปปะ (ดำริชอบ)
สรุปคำตอบ  จำกกำรอธิบำยเนื้อหำและหักล้ำงตัวเลือก ตัวเลือกที่เป็นคำตอบจำกโจทย์นี้จึงตรงกับตัวเลือกที่ 5 หลัก
ควำมจริงของสิ่งมีชีวิต 5 ประกำร ซึ่งก็คือ อริยสัจ 4 แม้มรรค 8 จะเป็นหนึ่งในอริยสัจ แต่อริยสัจ ยังมีอีก 3 ที่ไม่สัมพันธ์กัน
โดยตรงกับหลักมัชฌิมำปฏิปทำหรือหลักทำงสำยกลำง ได้แก่ ทุกข์ (ควำมไม่สบำยกำยสบำยใจ) สมุทัย (ตัณหำ-เหตุแห่ง
ทุกข์) นิโรธ (ภำวะทุกข์ดับ) เนื่องจำกทั้ง 3 นี้ ไม่ได้มองที่แนวทำงปฏิบัติ ต่ำงจำกตัวเลือกที่เหลือที่มุ่งประเด็นไปที่เรื่องกำร
ปฏิบัติ ตรงตำมควำมหมำยของหลักมัชฌิมำปฏิปทำทุกประกำร
3) ตอบ 5. กำรแสวงหำควำมจริงด้วยกำรพิสูจน์เชิงประจักษ์ (ระดับควำมยำก )
เนื้อหำที่ใช้ถำม  ประวัติและควำมสำคัญของพระพุทธศำสนำ
วิเครำะห์ข้อสอบ  โจทย์ข้อนี้ให้นักเรียนหำควำมสอดคล้องกันระหว่ำงวิทยำศำสตร์กับพุทธศำสนำ พิจำรณำที่ตัวเลือกดีๆ
จะเห็นว่ำไม่ยำกเกินไป จะมีบำงตัวเลือกที่อำจต้องคิดมำกซักหน่อย แต่เชื่อว่ำเมื่อนักเรียนค่อยๆ ไตร่ตรองดีๆ จะพบคำตอบ
เข้ำถึงเนื้อหำ  วิทยำศำสตร์และพุทธศำสนำมีทั้งควำมสอดคล้องและควำมแตกต่ำงกัน สำมำรถสรุปได้ดังนี้
ควำมสอดคล้อง;
1) เชื่อว่ำมนุษย์คือผลผลิตของธรรมชำติ (ไม่ได้มำจำกพระเจ้ำสร้ำง)
2) เน้นที่กำรแสวงหำควำมจริงของธรรมชำติผ่ำนกำรใช้เหตุผลและกำรทดลอง (ในทำงวิทยำศำสตร์จะอยู่ในเรื่อง
วิธีกำรทำงวิทยำศำสตร์ ส่วนทำงพุทธศำสนำจะกล่ำวอยู่ในเรื่องหลักกำลำมสูตร)
3) เน้นกำรฝึกปฏิบัติด้วยตนเอง
ควำมแตกต่ำง; จะต่ำงกันที่ระดับควำมจริงที่ค้นหำ
วิทยำศำสตร์ จะมุ่งเน้นเพื่อประโยชน์ในกำรดำเนินชีวิตในระดับประสำทสัมผัสทั้ง 5 เน้นสุขทำงโลก (โลกียสุข)
โดยใช้ทฤษฎีทำงธรรมชำติมำสร้ำงสรรค์ควำมเจริญต่ำงๆ ที่มองด้ำนวัตถุเป็นหลัก (หักล้ำงตัวเลือกที่ 3 และ 4)
พุทธศำสนำ จะมุ่งเน้นที่ระดับจิต หรือสุขทำงธรรม (โลกุตรสุข) เน้นฝึกบริหำรจิต มองที่ประสบกำรณ์ด้ำนจิตใจเพื่อ
จะทำให้ก่อเกิดปัญญำและมองเห็นควำมไม่เที่ยงแท้ของสรรพสิ่ง มุ่งที่จริยธรรมเป็นหลัก (หักล้ำงตัวเลือกที่ 1 และ 2)
สรุปคำตอบ  จำกกำรอธิบำยเนื้อหำข้ำงต้น เรำจึงได้ตัวเลือกที่ 5 กำรแสวงหำควำมจริงด้วยกำรพิสูจน์เชิงประจักษ์เป็น
คำตอบของโจทย์นี้ ควำมจริงเชิงประจักษ์ คือ ควำมจริงที่สำมำรถเห็นหรือสัมผัสได้ด้วยตนเอง ผ่ำนกำรทดลอง ปฏิบัติ ฝึกฝน
มิใช่เน้นเพียงศรัทธำ ที่มองแต่ควำมเชื่อเท่ำนั้น ในเรื่องนี้ปรำกฎทั้งในวิทยำศำสตร์และพุทธศำสนำ
4) ตอบ 4. อปริหำนิยธรรม (ระดับควำมยำก )
เนื้อหำที่ใช้ถำม  ประวัติและควำมสำคัญของพุทธศำสนำ+หลักธรรมทำงพระพุทธศำสนำ (ในหมวดมรรค)
วิเครำะห์ข้อสอบ  โจทย์ข้อนี้ให้ควำมหมำยของหลักธรรมมำจำกนั้นถำมนักเรียนว่ำ สำระดังกล่ำวตรงกับหลักธรรมในข้อ
ใด ข้อนี้นักเรียนต้องอ่ำนหรือทบทวนหลักธรรมมำบ้ำงถึงจะพอช่วยให้นักเรียนหำคำตอบได้ หำกที่โรงเรียนสอนแบบผ่ำนๆ หรือ
นักเรียนอ่ำนข้ำมๆ ในเรื่องหลักธรรม ก็อำจส่งผลให้นักเรียนผิดพลำดในกำรตอบคำถำมข้อนี้ได้
วิเครำะห์ตัวเลือก  หลักธรรมเหล่ำนี้ ยังไม่เกี่ยวข้องตำมควำมหมำยที่โจทย์ให้มำ
ตัวเลือกที่ 2 อริยวัฑฒิ หรือ อริยวัฑฒิ 5 คือ หลักปฏิบัติสู่ควำมเจริญ ประกอบด้วย ศรัทธำ ศีล สุตะ จำคะ ปัญญำ
ตัวเลือกที่ 5 ทิฎฐธัมมิกัตถสังวัตตนิกธรรม เรียกอีกชื่อหนึ่งว่ำ ทิฎฐธัมมิกัตถประโยชน์ หรือ หลักปฏิบัติที่จะอำนวย
ประโยชน์สุขให้แก่บุคคล ประกอบด้วย อุฎฐำนสัมปทำ (หมั่นเพียร) อำรักขสัมปทำ (เก็บทรัพย์) กัลยำณมิตร (คบคนดี) สมชี
วิตำ (พอดี)
ตัวเลือกที่ 1 อธิปไตย ในควำมหมำยทำงพุทธศำสนำ จะหมำยถึง อธิปไตย 3 ประกอบด้วย โลกำธิปไตย (กำร
ปกครองที่ถือกระแสโลกเป็นใหญ่-โลกในที่นี้จะหมำยถึงคน เทียบได้กับประชำธิปไตย) อัตตำธิปไตย (กำรปกครองที่ถือตัวเอง
เป็นใหญ่ เทียบได้กับ เผด็จกำร) ธรรมำธิปไตย (กำรปกครองที่ถือควำมถูกต้องเป็นใหญ่ พุทธศำสนำจะเน้นที่กำรปกครอง
รูปแบบนี้)
ตัวเลือกที่ 3 สำรำณียธรรม หลักธรรมใกล้กับควำมหมำยที่โจทย์ให้มำมำก แต่ยังไม่ครบถ้วน สำรำณียธรรม 6 หมำยถึง
ธรรมเพื่อควำมสำมัคคี ประกอบด้วย มีควำมเอื้อเฟื้อ / วำจำดี / รู้จักแบ่งปัน-รักษำทรัพย์ส่วนรวม / มีศีล-ระเบียบ / ปรับ
ทัศนคติลดควำมขัดแย้ง
สรุปคำตอบ  หลังกำรวิเครำะห์ตัวเลือก เรำจะได้ตัวเลือกที่ 4 อปริหำนิยธรรม เป็นคำตอบของโจทย์นี้ อปริหำนิยธรรม
7 คือ ธรรมที่ไม่ทำให้สังคมเสื่อม เป็นหลักปฏิบัติที่นำควำมเจริญมำสู่หมู่คณะ มุ่งเน้นที่ควำมรับผิดชอบต่อส่วนรวม (จำกข้อ
ปฏิบัติที่ว่ำ หมั่นประชุมเนืองนิตย์ ซึ่งหลักดังกล่ำวถูกนำมำใช้ในหมู่สงฆ์ด้วย) ควำมสำมัคคี (พร้อมเพรียงกันในกำรประชุม มำ
ประชุม เลิกประชุม และทำภำรกิจอื่นๆ ให้พร้อมกัน) และกำรเคำรพในกันและกัน (เคำรพนับถือผู้อำวุโส และฟังคำแนะนำจำก
ท่ำน / ไม่ข่มเหงหรือล่วงเกินสตรี) ตรงกับควำมหมำยที่โจทย์กำหนดมำทั้งหมด
5) ตอบ 2. ทำให้ใจกว้ำงตรวจสอบปัญหำหลำยๆ ด้ำน (ระดับควำมยำก )
เนื้อหำที่ใช้ถำม  หลักธรรมทำงพระพุทธศำสนำ (ในหมวดสมุทัย)
วิเครำะห์ข้อสอบ  โจทย์ข้อนี้ยังคงถำมถึงเรื่องหลักธรรม แต่ครำวนี้ไม่ได้ถำมควำมหมำย กลับมำถำมเกี่ยวกับคุณค่ำของ
หลักธรรมแทน โดยเลือกหลักนิยำม 5 มำเป็นตัวคำถำม เมื่อคำถำมเกี่ยวกับหลักธรรมลอยมำ นักเรียนจะต้องทรำบทันทีว่ำ
หลักธรรมนั้นๆ เกี่ยวกับเรื่องอะไร โดยเฉพำะกับคำถำมข้อนี้ที่เป็นกำรถำมคุณค่ำ ไม่ได้ถำมควำมหมำยจึงไม่มีทำงที่เรำจะเดำจำก
ตัวเลือกได้ง่ำยๆ
เข้ำถึงเนื้อหำ+วิเครำะห์ตัวเลือก  นิยำม 5 หมำยถึง กฎธรรมชำติ 5 ประกำร ประกอบด้วย
อุตุนิยำม; กฎธรรมชำติเกี่ยวกับลมฟ้ำอำกำศ-ฤดูกำล รวมถึงปรำกฏกำรณ์ทำงธรรมชำติต่ำงๆ
พีชนิยำม; กฎแห่งกำรสืบต่อ-พันธุกรรม
จิตนิยำม; กฎธรรมชำติเกี่ยวกับกำรทำงำนของจิต (จิตของแต่ละคนจะทำงำนต่ำงกันตำมองค์ประกอบของจิตหรือสิ่งปรุง
แต่งจิต ซึ่งทำงพุทธศำสนำเรียกว่ำ เจตสิก)
กรรมนิยำม; กฎธรรมชำติเกี่ยวกับพฤติกรรมของมนุษย์หรือกระบวนกำรให้ผลของกำรกระทำ
ธรรมนิยำม; กฎแห่งควำมเป็นเหตุผลของสรรพสิ่ง ครอบคลุมกฎธรรมชำติทั้ง 4 ดังกล่ำวข้ำงต้น ตัวอย่ำงของหลักธรรมที่
แสดงถึงธรรมนิยำม คือ ปฏิจจสมุปบำทหรืออิทัปปจัจยตำ / ไตรลักษณ์
จำกหลักนิยำม 5 เรำสำมำรถนำมำโยงกับตัวเลือกเพื่อหำคุณค่ำของหลักธรรม ซึ่งจะสัมพันธ์กับตัวเลือก ดังนี้
ตัวเลือกที่ 1 ทำให้รู้สภำวะของควำมทุกข์ คุณค่ำส่วนนี้เรำมองได้จำกจิตนิยำม (ควำมทุกข์เกิดเพรำะจิตของเรำที่ไปยึดติด
กับรูปนำม เจตสิกจะปรุงแต่งให้เกิดอำรมณ์ที่โน้มเอียงไปทำงด้ำนควำมไม่สบำยกำยไม่สบำยใจ ทุกข์จะเกิดขึ้นจำกจุดนี้
ในทันที) และกรรมนิยำม จิตนิยำม
ตัวเลือกที่ 3 ทำให้เข้ำใจกฎแห่งกรรมว่ำมีผลต่อชีวิตมำกที่สุด คุณค่ำส่วนนี้ชัดเจนมำก มองได้จำกกรรมนิยำม ชีวิตของ
สัตว์โลกล้วนเป็นไปตำมกรรม ทำอะไรไว้ย่อมได้รับผลเช่นนั้น เพียงแต่ผลนั้นจะมำหำเร็วหรือช้ำก็เท่ำนั้น
ตัวเลือกที่ 4 ทำให้เห็นว่ำชีวิตประกอบด้วยปัจจัยหลำกหลำย คุณค่ำส่วนนี้เรำมองได้จำกหลำยกฎ อำจมองจำกจิตนิยำม
ที่เน้นไปในเชิงกำรทำงำนของจิต ก่อเกิดอำรมณ์ ควำมคิด ซึ่งเป็นตัวกำหนดกำรกระทำในชีวิต หรือมองจำกกรรมนิยำม ชีวิตบำง
คนดีก็เพรำะมีกรรมดีคอยหนุน แต่บำงคนย่ำแย่เผชิญแต่ปัญหำเรื่อยๆ ก็เพรำะมีกรรมชั่วคอยลิดรอน
ตัวเลือกที่ 5 ทำให้เห็นว่ำชีวิตเป็นกระบวนกำรทำงธรรมชำติที่มีเหตุปัจจัยต่อเนื่อง คุณค่ำข้อนี้มองได้ชัดเจนจำกธรรม
นิยำม ที่ว่ำชีวิตรวมถึงทุกสรรพสิ่งเกิดได้ก็เพรำะมีเหตุ และดับได้ก็เพรำะมีเหตุเช่นกัน เมื่อมีสิ่งนี้จึงมีสิ่งนี้ เมื่อสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้ก็ไม่
มี เหตุปัจจัยบำงข้อก็จะไปส่งผลให้เกิดปัจจัยอีกข้อเป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่ำเรำจะแจ้งในอริยสัจจึงจะหยุดเหตุปัจจัยได้
สรุปคำตอบ  จำกเนื้อหำและกำรวิเครำะห์ตัวเลือกทั้งหมด เรำจึงได้ตัวเลือกที่ 2 ทำให้ใจกว้ำงตรวจสอบปัญหำหลำยๆ
ด้ำน เป็นคำตอบของข้อนี้ คุณค่ำดังกล่ำวไม่สำมำรถโยงเข้ำกับหลักนิยำม 5 ได้เลย แม้แต่หลักเดียว หำกมองจำกคุณค่ำส่วนนี้
ควรไปโยงกับเรื่องโยนิโสมนสิกำรหรือกำรเจริญปัญญำ ที่เน้นให้คิดแบบแยกแยะองค์ประกอบ (แยกองค์ประกอบของปัญหำ)
หรือคิดแบบวิภัชชวำท (คิดแบบมองรอบด้ำน ทั้งด้ำนบวกและลบ)
6) ตอบ 2. ท่ำนพุทธทำสภิกขุ (ระดับควำมยำก )
เนื้อหำที่ใช้ถำม  พุทธสำวก พุทธสำวิกำ และชำวพุทธตัวอย่ำง
วิเครำะห์ข้อสอบ  โจทย์ข้อนี้ถำมเกี่ยวกับชำวพุทธตัวอย่ำง จัดว่ำยำกอยู่ นักเรียนจะต้องนำคุณธรรมเด่นของชำวพุทธที่
โจทย์กำหนดมำไปโยงให้ได้ ดังนั้นหำกนักเรียนไม่รู้ว่ำชำวพุทธที่ปรำกฏในตัวเลือกมีประวัติอย่ำงไรก็ยำกจะหำคำตอบได้ อีกทั้ง
ข้อนี้ออกได้ลึกมำก เพรำะในหนังสือเรียนไม่มีกล่ำวถึงคุณธรรมในข้อนี้ของท่ำนอย่ำงชัดเจนเลย
วิเครำะห์ตัวเลือก  ชำวพุทธในตัวเลือกต่อไปนี้ มีคุณธรรมไม่สัมพันธ์กับที่โจทย์กำหนดมำ
ตัวเลือกที่ 1 ท่ำน ป.อ. ปยุตฺโต หรือพระพรหมคุณำกรณ์ ท่ำนเป็นผู้ทรงควำมรู้ด้ำนพระไตรปิฎก มีควำมขยันหมั่นเพียร
รอบรู้ มีควำมคิดก้ำวหน้ำ สำมำรถที่จะประยุกต์หลักธรรมเข้ำกับชีวิตจริงผ่ำนคำสอนของท่ำนได้ เห็นได้จำกหนังสือที่ท่ำนเขียน
มำกมำย นอกจำกนี้ท่ำนยังเป็นชำวไทยคนแรกที่ได้รับรำงวัลกำรศึกษำเพื่อสันติภำพจำกองค์กำร UNESCO ด้วย
ตัวเลือกที่ 3 ท่ำนปัญญำนันทภิกขุ หรือพระธรรมโกศำจำรย์ ท่ำนเป็นพระนักเทศน์ เน้นที่กำรแสดงธรรม รวมถึงยังเป็น
พระนักคิด นักพัฒนำ ไม่ยึดติดกับควำมคิดเดิมๆ (ท่ำนเป็นผู้เปลี่ยนแปลงกำรเทศน์จำกแบบขึ้นธรรมำสน์เทศน์ มำเป็นยืน
ปำฐกถำหรือบรรยำย ด้วยภำษำที่เข้ำใจง่ำย ไม่มีพิธีรีตอง
ตัวเลือกที่ 4 พระอำจำรย์ชำ สุภทฺโท ท่ำนเป็นพระที่เน้นกำรสอนธรรมเป็นหลัก แก่นธรรมที่ท่ำนเน้นย้ำเสมอ คือ เรื่อง
สติและให้ละทิฎฐิมำนะ ในด้ำนกำรเทศน์สอนธรรม ท่ำนเป็นผู้มีเทคนิควิธีสอนที่น่ำสนใจ รู้จักใช้วิธีอุปมำอุปไมยในกำรสอน
ตัวเลือกที่ 5 พระอำจำรย์มั่น ภูริทตฺโต ท่ำนเป็นพระป่ำหรือพระนักปฏิบัติ เน้นที่กำรบำเพ็ญเพียรภำวนำผ่ำนกำรบริหำร
จิตและเจริญปัญญำ เน้นที่กำรถือสันโดษในกำรดำเนินชีวิต
สรุปคำตอบ  จำกกำรหักล้ำงตัวเลือกทั้งหมด
ชำวพุทธที่มีคุณธรรมตรงกับที่โจทย์กำหนดมำ คือ
ตัวเลือกที่ 2 ท่ำนพุทธทำสภิกขุ หรือพระธรรมโกศำ
จำรย์ ท่ำนเป็นพระนักปฏิรูปและปฏิวัติพระศำสนำ เน้น
กำรสอนแบบเค้นแก่นธรรม ให้ถึงหัวใจของพุทธศำสนำ ให้ผู้คนละจำกวัตถุนิยม (รวมถึงกำรทำบุญที่มุ่งเน้นผลที่ได้อันแสดงถึง
ควำมโลภและกำรยึดติด) ด้วยเหตุนี้ท่ำนจึงก่อตั้งสวนโมกขพลำรำม เพื่อใช้เป็นที่ปฏิบัติธรรมเข้ำถึงควำมจริงแท้ (อริยสัจ) ตำม
หลักพุทธศำสนำที่ถูกต้อง ทั้งนี้ท่ำนไม่ได้เน้นชำวพุทธและชำวไทยเท่ำนั้น แต่ยังรวมถึงผู้นับถือศำสนำอื่น และชำวต่ำงชำติด้วย
โดยท่ำนมุ่งส่งเสริมให้สวนโมกขพลำรำมเป็นแดนธรรมของโลก ด้วยเหตุที่ว่ำพุทธศำสนำเป็นศำสนำของโลกที่สำมำรถช่วย
มนุษยชำติได้ ไม่ว่ำชนชำติใดก็สำมำรถหลุดพ้นจำกทุกข์ได้ด้วยหลักธรรมทำงพุทธศำสนำ รวมถึงยังเขียนหนังสือทำงวิชำกำรเป็น
ภำษำอังกฤษอีกหลำยเล่ม ในหนังสือพระเจ้ำของชำวพุทธ ท่ำนได้กล่ำวถึงเรื่องควำมปรองดองทำงศำสนำไว้อย่ำงชัดเจน ว่ำแม้แต่
ละศำสนำจะมีพระเจ้ำต่ำงกันแต่จุดที่ทุกศำสนำเหมือนกัน คือ เป้ำหมำยทำงศำสนำที่มุ่งให้ทุกคนกระทำดี มุ่งสู่ควำมสงบทำงใจ
7) ตอบ 4. สุตตันตปิฎก (ระดับควำมยำก )
เนื้อหำที่ใช้ถำม  พระไตรปิฎก
วิเครำะห์ข้อสอบ  โจทย์ข้อนี้ถำมเกี่ยวกับพระคัมภีร์ เมื่อพิจำรณำจำกตัวเลือก นักเรียนน่ำจะพอทรำบว่ำเนื้อหำที่โจทย์ถำม
เกี่ยวกับพระไตรปิฎกแน่นอน ข้อนี้ไม่มีอะไรยำก พิจำรณำตัวเลือกโดยโยงกับข้อควำมที่โจทย์ถำมให้ดีแล้วนักเรียนจะพบคำตอบ
วิเครำะห์ตัวเลือก  Keyword สำคัญที่จะช่วยนักเรียนหำคำตอบจำกโจทย์นี้ คือ คำว่ำหลักฐำนชั้นที่ 1 เมื่อใช้คำว่ำชั้นที่ 1
เรำจึงตัดตัวเลือกเหล่ำนี้ออกในทันที
Tips เล็กๆ: เกี่ยวกับชำวพุทธตัวอย่ำง ข้อสอบมักชอบออกพุทธทำสภิกขุ
มำกที่สุด ดังนั้นนักเรียนจึงควรศึกษำประวัติท่ำนไว้พอสมควร
ตัวเลือกที่ 3 อรรถกถำ เนื่องจำกอรรถกถำเป็นหลักฐำนชั้น 2 ใช้อธิบำยขยำยควำมพระไตรปิฎก หรือบำลีพระไตรปิฎก
ซึ่งถือเป็นหลักฐำนชั้นที่ 1
ตัวเลือกที่ 1 ฎีกำ เนื่องจำกฎีกำเป็นหลักฐำนชั้น 3 ใช้อธิบำยเพิ่มเติมอรรถกถำอีกชั้นหนึ่ง
สรุปคำตอบ  ทีนี้จะเหลือ 3 ตัวเลือก ซึ่งก็ไม่ยำกแล้ว เนื้อหำเรื่องนี้นักเรียนเรียนมำตั้งแต่เด็กๆ ดู Keyword ที่เหลืออยู่
คือ ประมวลพระธรรมเทศนำ ประวัติ และเรื่องรำวต่ำงๆ นักเรียนจะเห็นทันทีว่ำต้องเกี่ยวข้องกับ ตัวเลือกที่ 4 สุตตันตปิฎก
แน่นอน ดังนั้นคำตอบจึงอยู่ที่ตัวเลือกนี้ โดยพระสุตตันตปิฎก เรียกชื่อย่อๆ ว่ำ พระสูตร มี 21,000 พระธรรมขันธ์ กล่ำวถึงพระ
ธรรมเทศนำที่พระพุทธเจ้ำทรงแสดงไว้ในที่ต่ำงๆ
ตัวเลือกที่ 2 วินัยปิฎก เรียกชื่อย่อๆ ว่ำ พระวินัย มี 21,000 พระธรรมขันธ์ กล่ำวถึงกฎระเบียบและข้อบังคับต่ำงๆ ของ
ภิกษุและภิกษุณี
ตัวเลือกที่ 5 อภิธรรมปิฎก เรียกชื่อย่อๆ ว่ำ พระอภิธรรม มี 42,000 พระธรรมขันธ์ กล่ำวถึงหลักคำสอนที่เป็นหลักวิชำ
8) ตอบ 1. กรรมตำมมูลเหตุ (ระดับควำมยำก )
เนื้อหำที่ใช้ถำม  หลักธรรมทำงพระพุทธศำสนำ (ในหมวดสมุทัย โยงกับหลักนิยำม 5)
วิเครำะห์ข้อสอบ  โจทย์ข้อนี้ถำมเกี่ยวกับประเภทของกรรม โดยให้โยงกับกุศลกรรมและอกุศลกรรม หำกนักเรียนทรำบ
อยู่แล้วว่ำกรรมคือกำรกระทำที่ประกอบด้วยเจตนำของมนุษย์ ก็ไม่มีอะไรยำกเกินไป พิจำรณำจำกตัวเลือกดีๆ โดยให้ดูที่
ควำมหมำยของคำว่ำกุศลและอกุศลเป็นหลักแล้วจึงโยงหำคำตอบ
สรุปคำตอบ  กุศลกรรมและอกุศลกรรมจัดเป็นกรรมประเภทตำมมูลเหตุของกำรกระทำ (ตัวเลือกที่ 1) โดยอกุศลกรรม
เป็นกรรมชั่วเกิดจำกอกุศลมูล ในขณะที่กุศลกรรมเป็นกรรมดีเกิดจำกกุศลมูล
ตัวเลือกที่ 2 กรรมที่ให้ผลตำมหน้ำที่ แบ่งเป็น กรรมแต่งให้เกิด (ชนกกรรม) กรรมสนับสนุน (อุปัตถัมภกกรรม)
กรรมบีบคั้น (อุปปีฬกกรรม) กรรมตัดรอน (อุปฆำตกกรรม)
ตัวเลือกที่ 3 กรรมที่ให้ผลตำมกำรแสดงออก แบ่งเป็น กำยกรรม (กำรกระทำทำงกำย) วจีกรรม (กำรกระทำทำงวำจำ)
และมโนกรรม (กำรกระทำทำงใจ)
ตัวเลือกที่ 4 กรรมที่ให้ผลตำมกำลเวลำ แบ่งเป็น กรรมที่ผลในปัจจุบันหรือในชำตินี้หรือภพนี้ (ทิฎฐธรรมเวทนียกรรม)
กรรมที่ให้ผลในอนำคตหรือในชำติหน้ำ (อุปปัชชเวทนียกรรม) กรรมที่ให้ผลในชำติต่อๆ ไป (อปรำปริยเวทนียกรรม) กรรมที่
เลิกให้ผลหรือไม่มีผลอีก (อโหสิกรรม)
ตัวเลือกที่ 5 กรรมที่ให้ผลตำมลำดับควำมแรง แบ่งเป็น กรรมหนัก-ให้ผลก่อนกรรมอื่น (ครุกรรม) กรรมที่ทำบ่อยๆ
จนเคยชิน (พหุลกรรมหรืออำจิณณกรรม) กรรมจวนเจียนหรือกรรมที่ทำเมื่อใกล้ตำย (อำสันนกรรม) กรรมสักว่ำทำ (กตัตตำ
กรรมหรือกตัตตำวำปนกรรม)
9) ตอบ 4. กรซื้อรถยนต์รุ่นเล็กเพรำะใช้ได้ดี ประหยัดน้ำมัน (ระดับควำมยำก )
เนื้อหำที่ใช้ถำม  กำรเจริญปัญญำแบบโยนิโสมนสิกำร
วิเครำะห์ข้อสอบ  โจทย์ข้อนี้ให้นักเรียนหำตัวเลือกที่แสดงถึงวิธีคิดแบบคุณค่ำแท้-เทียม เป็นกำรถำมในเนื้อหำเรื่องวิธี
คิดตำมหลักโยนิโสมนิกำร แม้นักเรียนจะไม่ทรำบเกี่ยวกับวิธีคิดเช่นนี้โดยตรง แต่ครูเชื่อว่ำเพียงนักเรียนกวำดสำยตำดูจำก
ตัวเลือกนักเรียนก็จะพบคำตอบแล้ว เพรำะตัวเลือกที่เป็นคำตอบมันดูเด่นสุดจำกในบรรดำตัวเลือกทั้งหมดเลย
สรุปคำตอบ  ตัวเลือกที่แสดงถึงวิธีคิดแบบคุณค่ำแท้-เทียม คือ ตัวเลือกที่ 4 กรซื้อรถยนต์รุ่นเล็กเพรำะใช้ได้ดี
ประหยัดน้ำมัน โดยคุณค่ำแท้-เทียม ก็คือ กำรพิจำรณำเป็นว่ำสิ่งที่เรำเลือกนั้น มันมีคุณค่ำแท้จริง หรือไม่ หรือมันเป็นเพียงแค่
รูปที่คนยกว่ำดี เป็นแฟชั่น (สมัยนิยม) หรือเพียงมีคนบอกต่อ รับประกันว่ำดี ทั้งๆ ที่ตัวเรำยังไม่ได้ลองใช้หรือบริโภคสิ่งที่เรำจะ
เลือกนี้เลย ในสถำนกำรณ์ของตัวเลือกที่ 4 ชัดเจน ว่ำกรมีเหตุผลดีที่สุด เพรำะรู้จักคิดพิจำรณำเองโดยคำนึงถึงประโยชน์ของรถ
เล็กอย่ำงแท้จริง ไม่ได้ถูกชักจูงไปตำมกระแสสังคม หรือเพียงมีคนมำชักจูง หรือเน้นเพียงรูปลักษณ์ภำยนอกของสิ่งที่เลือกบริโภค
ดังตัวเลือกที่เหลือเท่ำนั้น
10) ตอบ 4. 8 สัปดำห์ (ระดับควำมยำก )
เนื้อหำที่ใช้ถำม  วันสำคัญทำงพระพุทธศำสนำ (โยงกับควำมรู้รอบตัว)
วิเครำะห์ข้อสอบ  โจทย์ข้อนี้ถำมเกี่ยวกับคำว่ำ สังฆชยันตี ว่ำเกิดหลังพุทธชยันตี เป็นเวลำนำนเท่ำใด เชื่อว่ำนักเรียน
คงจะคุ้นเคยแต่คำว่ำ พุทธชยันตี แต่ไม่คุ้นกับคำว่ำ สังฆชยันตี อย่ำงแน่นอน จริงๆ ข้อนี้เหมือนจะยำก แต่เอำเข้ำจริงแล้วไม่มี
อะไรเลย เพียงนักเรียนแม่นเกี่ยวกับวันสำคัญทำงพุทธศำสนำจะพบคำตอบได้ไม่ยำก
สรุปคำตอบ  สังฆชยันตีเกิดหลังพุทธชยันตีนำน 8 สัปดำห์ (ตัวเลือกที่ 4) ทั้งนี้เพรำะพุทธชยันตี หมำยถึง เทศกำล
สำคัญทำงพุทธศำสนำนิกำยเถรวำทที่มีควำมเกี่ยวข้องกับวันวิสำขบูชำ (ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6) เป็นกำรฉลองกำรครบรอบ 2,600
ปี (หรือ 2,500 ปี แห่งกำรปรินิพพำน) แห่งกำรตรัสรู้ของพระพุทธเจ้ำ (พระพุทธเจ้ำประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพำน ในวัน
เดียวกันแต่ต่ำงปี ซึ่งก็ตรงกับวันวิสำขบูชำ) ดังนั้นถ้ำถำมว่ำแล้วสังฆชยันตี คืออะไร คำตอบก็คือ เทศกำลที่เกี่ยวข้องกับวัน
อำสำฬหบูชำ (ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8) เป็นกำรฉลองกำรครบรอบกำรเกิดของพระสงฆ์-สังฆะ (พระอัญญำโกณฑัญญะ คือ พระสงฆ์
รูปแรกของพุทธศำสนำ ซึ่งท่ำนได้บวชในวันอำสำฬหบูชำ หรือวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 นั่นเอง) วันอำสำฬหบูชำอยู่ในเดือน 8
ดังนั้นจึงต้องห่ำงจำกวันวิสำขบูชำ ซึ่งเป็นกำรฉลองกำรตรัสรู้ของพระพุทธเจ้ำอยู่ 8 สัปดำห์ คำตอบจึงไปอยู่ที่ตัวเลือกที่ 4
11) ตอบ 3. 6 แสนบำท (ระดับควำมยำก )
เนื้อหำที่ใช้ถำม  นิติศำสตร์-กฎหมำยมรดก
วิเครำะห์ข้อสอบ  โจทย์ข้อนี้ถำมเกี่ยวกับกฎหมำยมรดกโดยยกสถำนกำรณ์มำให้ จัดว่ำยำกมำกๆ เพรำะคงไม่มี
โรงเรียนใดมำสอนนักเรียนถึงขนำดให้นั่งแบ่งมรดกเช่นนี้ ยกเว้นแต่ว่ำนักเรียนต้องสอบเข้ำคณะนิติศำสตร์และเรียนมำเท่ำนั้น
แถมโจทย์ข้อนี้ยังหลอกนักเรียนเพิ่มด้วย จึงถือเป็นโจทย์ที่โหดจริงๆ สำหรับข้อสอบฉบับนี้
เข้ำถึงเนื้อหำ  เมื่อถำมเกี่ยวกับมรดกและไม่มีพินัยกรรมเป็นตัวกำหนดมำ สิ่งแรกที่นักเรียนควรทรำบ คือ ทำยำทโดย
ธรรมซึ่งจะมีสิทธิในกำรรับมรดก ตำมประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ มำตรำ 1629 ได้แบ่งลำดับทำยำทโดยธรรม ไว้ 6
ลำดับ คือ
1) ผู้สืบสันดำน
2) บิดำมำรดำ
3) พี่น้องร่วมบิดำมำรดำเดียวกัน
4) พี่น้องร่วมบิดำหรือร่วมมำรดำเดียวกัน
5) ปู่ ย่ำ ตำ ยำย
6) ลุง ป้ำ น้ำ อำ
คู่สมรสที่ยังมีชีวิตอยู่นั้นก็เป็นทำยำทโดยธรรม ภำยใต้ข้อบังคับของบทบัญญัติพิเศษแห่งมำตรำ 1635
เมื่อเรำได้ลำดับทำยำทโดยธรรมมำแล้ว เรำจะเริ่มนำมำโยงกับสถำนกำรณ์ที่โจทย์ให้ เมื่อพิจำรณำจำกโจทย์จะเห็นว่ำไม่มีคู่
สมรส (นำยบุญน้อย ผู้ตำยเป็นม่ำย) มีแต่พ่อแม่ น้องชำย และพี่สำว ด้วยเหตุนี้เรำจึงตัดส่วนคู่สมรสออกไป และมำพิจำรณำดู
มำตรำที่บ่งบอกเรื่องกำรรับมรดกเลย
มำตรำ 1630 ระบุว่ำ ตรำบใดที่ทำยำทซึ่งยังมีชีวิตอยู่ หรือมีผู้รับมรดกแทนที่ยังไม่ขำดสำยแล้วแต่กรณีในลำดับหนึ่งๆ
ที่ระบุไว้ในมำตรำ 1629 ทำยำทที่อยู่ในลำดับถัดลงมำไม่มีสิทธิในทรัพย์มรดกของผู้ตำยเลย
ถ้ำพิจำรณำเพียงเท่ำนี้ นักเรียนคงคิดว่ำคำตอบน่ำจะอยู่ที่ตัวเลือกที่ 5 1 ล้ำน 2 แสนบำท แน่นอน แต่จะบอกว่ำยังไม่ถูก
นะ เขำหลอกมำ มันมีข้อควำมอีกท่อนหนึ่งต่อจำกมำตรำ 1630 ระบุว่ำ
แต่ควำมในวรรคก่อนนี้มิให้ใช้บังคับในกรณีเฉพำะที่มีผู้สืบสันดำนคนใดยังมีชีวิตอยู่หรือมีผู้รับมรดกแทนที่กันแล้วแต่
กรณี และมีบิดำมำรดำยังมีชีวิตอยู่ ในกรณีเช่นนั้นให้บิดำมำรดำได้ส่วนแบ่งเสมือนหนึ่งว่ำเป็นทำยำทชั้นบุตร
จำกข้อควำมในกฎหมำยดังกล่ำว นักเรียนคงเห็นแล้วว่ำไม่มีทำงที่เรำจะตอบตัวเลือกที่ 5 ได้ เพรำะพ่อแม่ของนำยบุญน้อย
(ผู้ตำย) ยังมีชีวิตอยู่ ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนำยบุญน้อยจึงต้องได้มรดกจำกนำยบุญน้อยด้วยเช่นกัน โดยจะได้เท่ำกับทำยำทชั้น
บุตร คือ น้องนิดหน่อย ลูกสำวของนำยบุญน้อย เมื่อได้ครึ่งหนึ่งจึงเท่ำกับ 6 แสนบำท นั่นเอง (ตัวเลือกที่ 3)
สรุปคำตอบ  จำกเนื้อหำที่กล่ำวมำทั้งหมด เรำจึงทรำบว่ำน้องนิดหน่อยจะได้มรดก 6 แสนบำท ในตัวเลือกที่ 3 โดย
อีก 6 แสนบำทจะเป็นของพ่อแม่ของนำยบุญน้อย ซึ่งก็คือ ปู่และย่ำของน้องนิดหน่อย นั่นเอง
12) ตอบ 3. ตำแหน่งทำงสังคม (ระดับควำมยำก )
เนื้อหำที่ใช้ถำม  สังคมวิทยำ
วิเครำะห์ข้อสอบ  โจทย์ข้อนี้ถำมในเนื้อหำวิชำสังคมวิทยำเกี่ยวกับควำมหมำยของคำว่ำ สถำนภำพทำงสังคม เป็นกำร
ถำมควำมหมำยตรงๆ ไม่มีอะไรยำก พิจำรณำตัวเลือกดีๆ แล้วนักเรียนจะพบคำตอบ
สรุปคำตอบ  สถำนภำพทำงสังคม มีควำมหมำยสอดคล้องกับตัวเลือกที่ 3 ตำแหน่งทำงสังคม มำกที่สุด โดย
สถำนภำพทำงสังคม หมำยถึง ตำแหน่งที่ได้จำกกำรเป็นสมำชิกของสังคม โดยตำแหน่งนี้จะเป็นตัวกำหนดสิทธิ หน้ำที่ และ
ควำมรับผิดชอบแก่สมำชิกในอีกขั้นหนึ่ง
ตัวเลือกที่ 1 หน้ำที่ทำงสังคม จะถูกกำหนดผ่ำนสถำนภำพอีกทีหนึ่ง ควำมหมำยของคำว่ำ หน้ำที่ จะมีควำมเกี่ยวข้องกับ
บทบำททำงสังคม (ตัวเลือกที่ 2) ซึ่งมีควำมหมำยว่ำ กำรกระทำตำมสิทธิและหน้ำที่ของบุคคลตำมสถำนภำพที่ตนดำรงอยู่
ตัวเลือกที่ 4 แบบแผนทำงสังคม และ ตัวเลือกที่ 5 มำตรฐำนทำงสังคม 2 คำนี้ จะมีควำมเกี่ยวข้องกับเรื่องกำรจัด
ระเบียบทำงสังคม ในขอบเขตของเรื่องบรรทัดฐำนทำงสังคม
13) ตอบ 3. ศำลรัฐธรรมนูญ (ระดับควำมยำก )
เนื้อหำที่ใช้ถำม  นิติศำสตร์-กฎหมำยมหำชน
วิเครำะห์ข้อสอบ  โจทย์ข้อนี้นับว่ำยำกอยู่ ถำมเกี่ยวกับอำนำจหน้ำที่ในหน่วยงำนซึ่งเกี่ยวข้องกับเรื่องกำรปกครองและ
กฎหมำย โดยยกสถำนกำรณ์มำให้ คิดว่ำนักเรียนคงเคยได้ยินชื่อขององค์กรต่ำงๆ ที่โจทย์กำหนดมำเป็นตัวเลือกอยู่บ้ำง ให้
พิจำรณำที่ Keyword จำกสถำนกำรณ์ที่โจทย์ถำมให้ดี แล้วจึงไปเชื่อมโยงหำคำตอบ
วิเครำะห์ตัวเลือก  หน่วยงำนในตัวเลือกต่อไปนี้ ไม่มีบทบำทหน้ำที่ดังที่โจทย์ถำม
ตัวเลือกที่ 1 อัยกำรสูงสุด จะมีหน้ำที่ให้คำแนะนำและควำมช่วยเหลือทำงกฎหมำยต่อประชำชน ให้คำปรึกษำและตรวจ
ร่ำงสัญญำหรือเอกสำรทำงกฎหมำยให้แก่รัฐบำลและหน่วยงำนของรัฐ ตลอดจนดำเนินกำรเกี่ยวกับกำรบังคับคดีแพ่งหรือคดี
ปกครองแทนรัฐบำลหรือหน่วยงำนของรัฐ
ตัวเลือกที่ 2 ศำลปกครอง มีอำนำจพิจำรณำพิพำกษำคดีพิพำทระหว่ำงหน่วยรำชกำร หน่วยงำนของรัฐ รัฐวิสำหกิจ
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือองค์กรตำมรัฐธรรมนูญ หรือเจ้ำหน้ำที่ของรัฐกับเอกชน หรือระหว่ำงหน่วยรำชกำร หน่วยงำนของรัฐ
รัฐวิสำหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือองค์กรตำมรัฐธรรมนูญหรือเจ้ำหน้ำที่ของรัฐด้วยกันเอง
ตัวเลือกที่ 4 คณะกรรมกำรป้องกันและปรำบปรำมกำรทุจริตแห่งชำติ หรือ ปปช. ดูแลเกี่ยวกับคดีร่ำรวยผิดปกติ กำร
กระทำควำมผิดฐำนทุจริตต่อหน้ำที่ของเจ้ำหน้ำที่ของรัฐตั้งแต่ผู้บริหำรระดับสูงหรือข้ำรำชกำรซึ่งดำรงตำแหน่งตั้งแต่ผู้อำนวยกำรกอง
หรือเทียบเท่ำขึ้นไป ตรวจสอบควำมถูกต้องและควำมมีอยู่จริงรวมทั้งควำมเปลี่ยนแปลงของทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรง
ตำแหน่งทำงกำรเมือง
ตัวเลือกที่ 5 ศำลฎีกำแผนกคดีอำญำของผู้ดำรงตำแหน่งทำงกำรเมือง จะมีหน้ำที่เหมือนศำลฎีกำ คือ คดีที่รัฐธรรมนูญ
หรือกฎหมำยบัญญัติให้เสนอต่อศำลฎีกำโดยตรง และคดีที่อุทธรณ์หรือฎีกำคำพิพำกษำหรือคำสั่งของศำลชั้นต้นหรือศำลอุทธรณ์
ตำมที่กฎหมำยบัญญัติ รวมถึงคดีที่เกี่ยวกับกำรเลือกตั้งกำรเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งสมำชิกสภำผู้แทนรำษฎรและกำรได้มำซึ่งสมำชิก
วุฒิสภำ
สรุปคำตอบ  หน่วยงำนที่มีหน้ำที่ดำเนินกำรตรวจสอบข้อเท็จจริงดังที่โจทย์ถำม คือ ตัวเลือกที่ 3 ศำลรัฐธรรมนูญ
Keyword สำคัญจำกโจทย์อยู่ที่ มิได้เป็นไปตำมวิถีทำงที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ คำๆ นี้บ่งชัดว่ำต้องเกี่ยวข้องกับศำล
รัฐธรรมนูญแน่นอน โดยหนึ่งในหน้ำที่ของศำลรัฐธรรมนูญ คือ อำนำจหน้ำที่ในกำรวินิจฉัยมติหรือข้อบังคับของพรรคกำรเมือง
กำรพิจำรณำอุทธรณ์ของสมำชิกสภำผู้แทนรำษฎรและกำรวินิจฉัยกรณีบุคคลหรือพรรคกำรเมืองใช้สิทธิและเสรีภำพในทำงกำรเมือง
โดยมิชอบด้วยรัฐธรรมนูญ
14) ตอบ 5. คณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชำชำติ (ระดับควำมยำก )
เนื้อหำที่ใช้ถำม  รัฐศำสตร์-สิทธิมนุษยชน
วิเครำะห์ข้อสอบ  โจทย์ข้อนี้ถำมเกี่ยวกับหน่วยงำนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องกำรคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ดูเผินๆ เหมือนจะง่ำย
แต่จริงๆ แล้วไม่ง่ำยเลย เพรำะไปโยงกับของสำกล โดยภำพรวมวัดควำมรู้รอบตัว กำรจะหำคำตอบได้ถูกต้อง นักเรียนจะต้อง
ติดตำมข่ำวสำรเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยตรง
สรุปคำตอบ  องค์กรที่มีอำนำจในกำรจัดตั้งคณะกรรมำธิกำรสิทธิมนุษยชนก่อนปี พ.ศ. 2549 คือ ตัวเลือกที่ 5 คณะ
มนตรีเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชำชำติ (Economic and Social Council; ECOSOC) โดยคณะกรรมำธิกำรสิทธิ
มนุษยชนที่ถูกจัดตั้งมีชื่อว่ำ คณะกรรมกำรสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชำชำติ (United Nations Commission on Human
Rights; UNCHR) คณะกรรมกำรนี้มีหน้ำที่เกี่ยวกับกำรตรวจสอบ ควบคุม และรำยงำนผลเกี่ยวกับสถำนกำรณ์ด้ำนสิทธิ
มนุษยชนของประเทศต่ำงๆ ซึ่งเป็นไปตำมปฏิญญำสำกลว่ำด้วยสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชำชำติ จัดเป็นองค์กรที่จัดตั้งขึ้นมำนับ
แต่แรกเริ่มที่สหประชำชำติก่อตั้ง
อย่ำงไรก็ตำมในปี ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549) ด้วยกำรถูกวิพำกษ์วิจำรณ์เกี่ยวกับควำมไม่ยุติธรรมในกำรดำเนินงำน
รวมถึงกำรปล่อยให้ประเทศที่มีปัญหำด้ำนสิทธิมนุษยชนเข้ำเป็นสมำชิก คณะกรรมกำรสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชำชำติจึงถูกยุบ
ลง และตั้งองค์กรใหม่ชื่อว่ำ คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชำชำติ (United Nations Human Rights Council;
UNHRC) หน่วยงำนนี้เปลี่ยนจำกสังกัด (หรือถูกจัดตั้งโดย) คณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชำชำติ มำเป็นสมัชชำ
ใหญ่แห่งสหประชำชำติ (United Nations General Assembly) อำนำจหน้ำที่ยังคงเหมือนเก่ำ คือ ดูแลเกี่ยวกับสถำนกำรณ์
สิทธิมนุษยชนในประเทศต่ำงๆ ผ่ำนกำรพิจำรณำในประเด็นเกี่ยวกับเสรีภำพในกำรรวมกลุ่ม (กำรชุมนุม) เสรีภำพในกำรแสดง
ควำมคิดเห็น เสรีภำพในกำรนับถือศำสนำและมีควำมเชื่อของตน สิทธิสตรี สิทธิทำงเชื้อชำติและสิทธิของชนกลุ่มน้อย
15) ตอบ 4. มำรยำท (ระดับควำมยำก )
เนื้อหำที่ใช้ถำม  สังคมวิทยำ-วัฒนธรรม
วิเครำะห์ข้อสอบ  โจทย์ข้อนี้ให้นักเรียนหำประเภทของวัฒนธรรม โดยกำหนดเกณฑ์จำกโจทย์มำให้ ข้อนี้เป็นถำมเชิง
ควำมจำ ไม่มีอะไรยำก เชื่อว่ำนักเรียนทุกคนจะหำคำตอบได้
เข้ำถึงเนื้อหำ  หำกเรำจัดแบ่งประเภทของวัฒนธรรมตำมเนื้อหำ จะแบ่งได้เป็น 4 ประเภท คือ
คติธรรม วัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับคุณธรรม จริยธรรม แนวคิด เป็นวัฒนธรรมที่เปลี่ยนแปลงได้ยำกที่สุด
(สัมพันธ์กับตัวเลือกที่ 2 ศำสนำ และตัวเลือกที่ 3 ศีลธรรม)
เนติธรรม วัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับกฎระเบียบของสังคม
(สัมพันธ์กับตัวเลือกที่ 1 จำรีต และตัวเลือกที่ 5 กฎหมำย)
สหธรรม วัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับสังคม หลักในกำรอยู่ร่วมกัน
(สัมพันธ์กับตัวเลือกที่ 4 มำรยำท)
วัตถุธรรม วัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับวัตถุ
สรุปคำตอบ  จำกเนื้อหำที่กล่ำวมำ วัฒนธรรมสหธรรมจึงสัมพันธ์กับตัวเลือกที่ 4 มำรยำท
16) ตอบ 3. ช่วงกำรเกิดวิกฤตศรัทธำ (ระดับควำมยำก )
เนื้อหำที่ใช้ถำม  รัฐศำสตร์-กำรเมืองกำรปกครองของไทย (เน้นในประเด็นประวัติศำสตร์กำรเมือง)
วิเครำะห์ข้อสอบ  โจทย์ข้อนี้นำข้อสังเกตเกี่ยวกำรเมืองไทยจำกนักวิชำกำรมำเป็นคำถำมโยงกับเหตุกำรณ์ทำงกำรเมือง
ในปี พ.ศ. 2549 โดยมี Keyword หลักมำเป็นคำถำม คือ วงจรอุบำทว์ ก่อนหำคำตอบจำกโจทย์นี้นักเรียนจะต้องเข้ำใจก่อนว่ำ
วงจรอุบำทว์คืออะไร เมื่อเข้ำใจอย่ำเพิ่งแน่ใจรีบฝนคำตอบ ให้ดูที่ช่วงเวลำที่เกิดสถำนกำรณ์กำรเมืองที่เขำยกมำให้ดี คือ
สิงหำคม พ.ศ. 2549 หำกวิเครำะห์เชื่อมโยงผิดพลำดก็เป็นไปได้ว่ำนักเรียนอำจเสียคะแนนจำกโจทย์นี้ได้ง่ำยๆ
เข้ำถึงเนื้อหำ  คำว่ำ วงจรอุบำทว์ ถูกนำมำใช้กล่ำวถึงกำรเมืองไทยนับแต่ที่มีกำรปฏิวัติเปลี่ยนแปลงกำรปกครองมำเป็น
แบบประชำธิปไตยจนถึงช่วงปี พ.ศ. 2516 ซึ่งหมำยถึง กำรเมืองที่วนเวียนอยู่กับกำรทำรัฐประหำร (โดยฝ่ำยทหำร) นำไปสู่กำร
ฉีกรัฐธรรมนูญฉบับเดิม แล้วจึงนำไปสู่กำรเขียนรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และต่อมำก็จัดให้มีกำรเลือกตั้ง และย้อนกลับไปยังกำรทำ
รัฐประหำรอีก ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ำ ประชำธิปไตยไม่ได้มีกำรเคลื่อนไหวใดๆ ในช่วงเวลำนี้เลย กำรรัฐประหำรจะมีเงื่อนไขหลักอยู่
ที่กำรจัดสรรผลประโยชน์ที่ไม่ลงตัวระหว่ำงกลุ่มต่ำงๆ หรือแม้แต่กำรไม่สำมำรถทนกับกระบวนกำรทำงรัฐสภำได้ (กรณีหลังนี้ คือ
กำรรัฐประหำรตนเองของจอมพลถนอม กิตติขจร ต้นเหตุสำคัญที่จะนำไปสู่เหตุกำรณ์ 14 ตุลำคม พ.ศ. 2516) รวมไปถึงควำม
ขัดแย้งทำงอำนำจระหว่ำงกลุ่มกำรเมืองด้วยกันเอง หรือระหว่ำงกลุ่มกำรเมืองกับกลุ่มทหำร
แม้หลังเหตุกำรณ์ 14 ตุลำคม พ.ศ. 2516 กำรรัฐประหำรจะมีน้อยลง และเหมือนจะสิ้นสุดไปแล้วภำยหลังเหตุกำรณ์
พฤษภำทมิฬ ในช่วงปี พ.ศ. 2535 แต่แล้วกำรรัฐประหำรก็กลับมำเกิดขึ้นอีกครั้งในวันที่ 19 กันยำยน พ.ศ. 2549 โดยเป็น
กำรรัฐประหำรที่นำโดย พลเอกสนธิ บุณยรัตกลิน (เรียกกลุ่มของตนเองว่ำ คณะปฏิรูปกำรปกครองในระบอบประชำธิปไตยอันมี
พระมหำกษัตริย์เป็นประมุข) เพื่อล้มอำนำจของ พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร (ขณะนั้นเป็นรักษำกำรนำยกรัฐมนตรี) นำไปสู่
กำรยกเลิกรัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทย พุทธศักรำช 2540 สั่งยุบสภำ ห้ำมกำรประท้วงและกิจกรรมทำงกำรเมืองต่ำงๆ โดย
กำรรัฐประหำรครั้งนั้นเกิดขึ้นก่อนกำรเลือกตั้งทั่วไปในเดือนต่อมำ (ตุลำคม)
จำกเหตุกำรณ์ในครั้งนั้นจึงทำให้นักวิชำกำรหันกลับมำกล่ำวถึง กำรเมืองไทยในลักษณะวงจรอุบำทว์อีกครั้ง ประกอบ
กับสถำนกำรณ์กำรเมืองนับแต่รัฐประหำรขำดเสถียรภำพหลำยครั้ง จนทำให้นักวิชำกำรรวมถึงกลุ่มคนต่ำงๆ ตั้งข้อสังเกตกันว่ำฝ่ำย
ทหำรจะทำรัฐประหำรอีกไหม (จวบจนปัจจุบัน คำถำมนี้ก็ยังคงมีให้ได้ยินบ่อยๆ) ทั้งนี้เพรำะกำรเมืองไทยในช่วงหลังรัฐประหำร
ถึงปัจจุบัน รัฐบำลหลำยชุดต้องเผชิญกับวิกฤตศรัทธำจำกประชำชน (แม้จะมีประชำชนกลุ่มหนึ่งสนับสนุน แต่อีกกลุ่มกลับต่อต้ำน
ผ่ำนกำรประท้วงขับไล่ด้วยวิธีต่ำงๆ)
วิเครำะห์ตัวเลือก  จำกเนื้อหำที่กล่ำวมำ นักเรียนอำจจะดูเหมือนว่ำ ตัวเลือกที่ 2 ช่วงกำรทำรัฐประหำร เป็นคำตอบ แต่
จะบอกนักเรียนว่ำผิดถนัด ดูโจทย์ดีๆ เขำให้มำว่ำช่วงเดือนสิงหำคม พ.ศ. 2549 แสดงให้เห็นว่ำกำรรัฐประหำรยังไม่เกิดขึ้น
ดังนั้นเรำจึงต้องพิจำรณำที่ตัวเลือกโดยโยงกับสถำนกำรณ์จริง
ตัวเลือกที่ 5 ช่วงกำรประกำศรัฐธรรมนูญ ผิด 100% รัฐธรรมนูญที่ใช้อยู่ขณะนั้น คือ รัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทย
พุทธศักรำช 2540 ซึ่งประกำศใช้มำตั้งแต่เดือนสิงหำคม พ.ศ. 2540 แล้ว ดังนั้นไม่มีทำงเป็นช่วงกำรประกำศรัฐธรรมนูญ
แน่นอน
ตัวเลือกที่ 4 ช่วงกระบวนกำรทำงรัฐสภำ ผิดแน่นอน เพรำะในช่วงนั้นรัฐบำลของพันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร เป็น
รัฐบำลรักษำกำร (กำรเลือกตั้งในเดือนเมษำยน พ.ศ. 2549 ซึ่งเป็นที่มำของรัฐบำลที่นำโดยพันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร ถูก
ศำลตันสินให้เป็นโมฆะ และจะจัดให้มีกำรเลือกตั้งใหม่ในเดือนตุลำคมของปีเดียวกัน) กระบวนกำรทำงรัฐสภำจึงยังไม่เกิดขึ้น
เต็มรูปแบบ
ตัวเลือกที่ 1 ช่วงกำรเลือกตั้ง ตัวเลือกนี้ดูเหมือนจะถูก เพรำะนักเรียนอำจเห็นว่ำกำรเลือกตั้งจะเกิดในช่วงเดือนตุลำคม
ดังนั้นในช่วงเวลำดังกล่ำวจึงควรเป็นช่วงกำรเลือกตั้งได้ แต่จริงๆ ผิด เพรำะช่วงกำรเลือกตั้งที่ถูกต้องก็ควรอยู่ในช่วงกันยำยนถึง
ตุลำคมมำกกว่ำ (ใกล้ระยะเวลำเลือกตั้งมำกกว่ำ) อีกทั้งหำกพิจำรณำในมุมมองของนักวิชำกำร ช่วงสิงหำคมจะไม่ได้ถูกมองว่ำเป็น
กำรเลือกตั้งแต่อย่ำงใด เพรำะกำรเลือกตั้ง ที่จะเกิดยังไม่มีประเด็นสำคัญอะไรที่ไปโยงกับกำรรัฐประหำรซึ่งเป็นต้นตอของวงจร
อุบำทว์ ดังที่นักวิชำกำรกล่ำว ได้เท่ำกับเรื่องวิกฤตศรัทธำ (ดูคำอธิบำยในส่วนสรุปคำตอบ)
สรุปคำตอบ  ตัวเลือกที่เป็นคำตอบของโจทย์นี้ คือ ตัวเลือกที่ 3 ช่วงกำรเกิดวิกฤตศรัทธำ ทั้งนี้นักเรียนสำมำรถ
พิจำรณำได้จำกกำรที่ตลอดปี พ.ศ. 2549 (และก่อนหน้ำนั้น) รัฐบำลของพันตำรวจโท ทักษิณ ต้องเผชิญกับกำรต่อต้ำนของกลุ่ม
พันธมิตรประชำชนเพื่อประชำธิปไตย ที่นำโดยนำยสนธิ ลิ้มทองกุล (กลุ่มเสื้อเหลือง) (มีกำรวิพำกษ์วิจำรณ์กันว่ำเป็นเพรำะขัด
ผลประโยชน์กับพันตำรวจโททักษิณ เพรำะในตอนแรกค่อนข้ำงเขียนข่ำวในเชิงสนับสนุนรัฐบำล) และยิ่งถูกวิพำกษ์วิจำรณ์มำก
ขึ้นเมื่อขำยหุ้นเกี่ยวกับกำรสื่อสำรให้บริษัทเทมำเส็กของสิงคโปร์ และแม้หลังกำรเลือกตั้งในเดือนเมษำยน พ.ศ. 2549 ก็ถูก
ตัดสินอีกว่ำกำรเลือกตั้งครั้งนั้นเป็นโมฆะ เนื่องจำกพรรคกำรเมืองอื่นๆ ไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง ปรำกฏกำรณ์เหล่ำนี้นักวิชำกำร
สรุปว่ำ คือ วิกฤตศรัทธำที่รัฐบำลของพันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร เผชิญ และจะกลำยเป็นต้นเหตุสำคัญประกำรหนึ่งที่จะเกิด
รัฐประหำรในเดือนกันยำยน พ.ศ. 2549 โดยฝ่ำยทหำร ซึ่งก็มีกำรกล่ำวเป็นนัยอีกว่ำเกี่ยวกับควำมขัดแย้งในผลประโยชน์ เรื่อง
กำรแต่งตั้งตำแหน่งในกองทัพ (ในควำมเกี่ยวข้องกับเรื่องกำรฉ้อโกงของรัฐบำล ควำมไร้ประสิทธิภำพในกำรบริหำร กำรจัดสรร
ผลประโยชน์ที่ไม่ลงตัวระหว่ำงกลุ่ม ท้ำยสุดก็มำลงเอยด้วยกำรล้มระบบเดิมผ่ำนกำรรัฐประหำร แล้วก็มำได้รัฐบำลชุดใหม่ เข้ำ
สไตล์วงจรอุบำทว์แบบเดิมๆ)
17) ตอบ 5. สหรัฐอเมริกำ (ระดับควำมยำก )
เนื้อหำที่ใช้ถำม  รัฐศำสตร์-กำรเมืองระหว่ำงประเทศ
วิเครำะห์ข้อสอบ  โจทย์ข้อนี้ถำมเกี่ยวกับควำมสัมพันธ์ทำงกำรทูต ดูจำกโจทย์เหมือนจะยำกแต่จริงๆ ไม่ยำกอย่ำงที่คิด
อีกทั้งคำถำมข้อนี้เป็นกำรวัดควำมรู้รอบตัว เนื่องจำกควำมสัมพันธ์ระหว่ำงไทยกับประเทศที่โจทย์ถำมจะครบรอบ 180 ปี ในปี
ค.ศ. 2012 (ปีกำรศึกษำที่ผ่ำนมำ นักเรียนที่ทำข้อสอบชุดนี้ในช่วงต้นปีจึงควรมีพื้นควำมรู้)
วิเครำะห์ตัวเลือก  หำกนักเรียนมีพื้นฐำนควำมรู้ทำงประวัติศำสตร์ซักนิดจะทรำบทันทีว่ำ ประเทศไทยไม่มีทำงสถำปนำ
ควำมสัมพันธ์กับประเทศเหล่ำนี้ก่อนสงครำมโลกครั้งที่ 2 แน่นอน เพรำะประเทศเหล่ำนี้จะเป็นเอกรำช รวมถึงถือกำเนิดขึ้นหลัง
สงครำมโลกครั้งที่ 2 ทั้งสิ้น อันเนื่องจำกกำรเรียกร้องเอกรำช / ปัญหำทำงกำรเมืองในช่วงสงครำมเย็น (ยกเว้นออสเตรเลียที่
ได้รับเอกรำชจำกอังกฤษในช่วงระหว่ำงสงครำมโลกครั้งที่ 1-2)
ตัวเลือกที่ 1 อินเดีย ไทยสถำปนำควำมสัมพันธ์ทำงกำรทูตกับอินเดียในวันที่ 1 สิงหำคม ค.ศ. 1947 (หลัง
สงครำมโลกครั้งที่สอง 2 ปี) ในระดับอัครรำชทูต และยกระดับเป็นเอกอัครรำชทูตในวันที่ 3 ตุลำคม ค.ศ. 1951
ตัวเลือกที่ 4 ออสเตรเลีย ไทยสถำปนำควำมสัมพันธ์ทำงกำรทูตกับออสเตรเลีย ในวันที่ 19 ธันวำคม ค.ศ. 1952 (หลัง
สงครำมโลกครั้งที่สอง 7 ปี)
ตัวเลือกที่ 2 มำเลเซีย ไทยสถำปนำควำมสัมพันธ์ทำงกำรทูตกับมำเลเซียในวันที่ 31 สิงหำคม ค.ศ. 1957 (หลัง
สงครำมโลกครั้งที่สอง 12 ปี)
ตัวเลือกที่ 3 เกำหลีใต้ ไทยสถำปนำควำมสัมพันธ์ทำงกำรทูตกับเกำหลีใต้ (สำธำรณรัฐเกำหลี) ในวันที่ 1 ตุลำคม
ค.ศ. 1958 (หลังสงครำมโลกครั้งที่สอง 13 ปี)
สรุปคำตอบ  ประเทศที่ไทยสถำปนำควำมสัมพันธ์ทำงกำรทูตอย่ำงเป็นทำงกำรก่อนสงครำมโลกครั้งที่สอง คือ ประเทศ
สหรัฐอเมริกำ (ตัวเลือกที่ 5) โดยกำรสถำปนำเกิดขึ้นมำตั้งแต่ปี ค.ศ. 1833 ตรงกับสมัยรัชกำลที่ 3 ของเรำ และในปี ค.ศ.
2012 ถือเป็นปีที่ครบรอบ 180 ปี กำรสถำปนำควำมสัมพันธ์ทำงกำรทูตระหว่ำงไทยกับสหรัฐอเมริกำ ประธำนำธิบดีบำรัก โอ
บำมำ ของสหรัฐอเมริกำได้มำเยือนไทยด้วยในช่วงเดือนพฤศจิกำยนของปีเดียวกัน
18) ตอบ 3. อำชชวะ (ระดับควำมยำก )
เนื้อหำที่ใช้ถำม  รัฐศำสตร์+พุทธศำสนำ (เนื้อหำเอียงทำงพุทธศำสนำในประเด็นเรื่องหลักธรรม)
วิเครำะห์ข้อสอบ  โจทย์ข้อนี้ถำมเกี่ยวกับหลักทศพิธรำชธรรมในข้อที่เกี่ยวกับควำมซื่อตรง เป็นกำรถำมตำมเนื้อหำทั่วไป
หำกนักเรียนอ่ำนหนังสือ ทบทวนควำมรู้เรื่องนี้มำบ้ำงก็จะหำคำตอบได้แน่นอน แต่หำกไม่เป็นเช่นนั้นก็คงจะต้องเดำล้วนๆ เพรำะ
ทุกข้อเป็นภำษำบำลีหมด
สรุปคำตอบ  ควำมซื่อตรงมีควำมสัมพันธ์กับหลักธรรมในตัวเลือกที่ 3 อำชชวะ
ตัวเลือกที่ 1 ตบะ คือ ควำมเพียร
ตัวเลือกที่ 2 มัททวะ คือ ควำมอ่อนโยน
ตัวเลือกที่ 4 อวิหิงสำ คือ ควำมไม่เบียดเบียน
ตัวเลือกที่ 5 อวิโรธนะ คือ ควำมหนักแน่น ถือควำมถูกต้องเที่ยงธรรมเป็นหลัก
19) ตอบ 5. กำรลงมติให้ควำมเห็นชอบกำรแต่งตั้งนำยกรัฐมนตรีของสภำผู้แทนรำษฎรต้องกระทำโดยกำรลงคะแนนแบบ
เปิดเผย (ระดับควำมยำก )
เฉลย 7 วิชา สังคม 56
เฉลย 7 วิชา สังคม 56
เฉลย 7 วิชา สังคม 56
เฉลย 7 วิชา สังคม 56
เฉลย 7 วิชา สังคม 56
เฉลย 7 วิชา สังคม 56
เฉลย 7 วิชา สังคม 56
เฉลย 7 วิชา สังคม 56
เฉลย 7 วิชา สังคม 56
เฉลย 7 วิชา สังคม 56
เฉลย 7 วิชา สังคม 56
เฉลย 7 วิชา สังคม 56
เฉลย 7 วิชา สังคม 56
เฉลย 7 วิชา สังคม 56
เฉลย 7 วิชา สังคม 56
เฉลย 7 วิชา สังคม 56
เฉลย 7 วิชา สังคม 56
เฉลย 7 วิชา สังคม 56
เฉลย 7 วิชา สังคม 56
เฉลย 7 วิชา สังคม 56
เฉลย 7 วิชา สังคม 56
เฉลย 7 วิชา สังคม 56
เฉลย 7 วิชา สังคม 56

More Related Content

What's hot

การเขียนข้อสอบ
การเขียนข้อสอบการเขียนข้อสอบ
การเขียนข้อสอบNona Khet
 
การเขียนข้อสอบ 2
การเขียนข้อสอบ 2การเขียนข้อสอบ 2
การเขียนข้อสอบ 2Nona Khet
 
2191b40afad097673b3bc2cb1cf81fb8
2191b40afad097673b3bc2cb1cf81fb82191b40afad097673b3bc2cb1cf81fb8
2191b40afad097673b3bc2cb1cf81fb8SetthawutSB
 
ข้อสอบ O net ภาษาต่างประเทศ ม.3 ชุด 1
ข้อสอบ O net ภาษาต่างประเทศ ม.3 ชุด 1ข้อสอบ O net ภาษาต่างประเทศ ม.3 ชุด 1
ข้อสอบ O net ภาษาต่างประเทศ ม.3 ชุด 1Manas Panjai
 
อังกฤษ
อังกฤษอังกฤษ
อังกฤษprrimhuffy
 
ศิลปะ
ศิลปะศิลปะ
ศิลปะprrimhuffy
 
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ป.3
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ป.3แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ป.3
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ป.3Khunnawang Khunnawang
 
ข้อสอบ O net สังคม ป.3 ชุด 1
ข้อสอบ O net สังคม ป.3 ชุด 1ข้อสอบ O net สังคม ป.3 ชุด 1
ข้อสอบ O net สังคม ป.3 ชุด 1Anawat Supappornchai
 
เตรียมสอบ O net 57 อังกฤษชุด2
เตรียมสอบ O net 57  อังกฤษชุด2เตรียมสอบ O net 57  อังกฤษชุด2
เตรียมสอบ O net 57 อังกฤษชุด2jutarattubtim
 

What's hot (16)

การเขียนข้อสอบ
การเขียนข้อสอบการเขียนข้อสอบ
การเขียนข้อสอบ
 
Basic m4-1-chapter2
Basic m4-1-chapter2Basic m4-1-chapter2
Basic m4-1-chapter2
 
Basic m3-2-chapter2
Basic m3-2-chapter2Basic m3-2-chapter2
Basic m3-2-chapter2
 
การเขียนข้อสอบ 2
การเขียนข้อสอบ 2การเขียนข้อสอบ 2
การเขียนข้อสอบ 2
 
วิทยาศาสตร์ ม.3
วิทยาศาสตร์ ม.3วิทยาศาสตร์ ม.3
วิทยาศาสตร์ ม.3
 
2191b40afad097673b3bc2cb1cf81fb8
2191b40afad097673b3bc2cb1cf81fb82191b40afad097673b3bc2cb1cf81fb8
2191b40afad097673b3bc2cb1cf81fb8
 
ข้อสอบ O net ภาษาต่างประเทศ ม.3 ชุด 1
ข้อสอบ O net ภาษาต่างประเทศ ม.3 ชุด 1ข้อสอบ O net ภาษาต่างประเทศ ม.3 ชุด 1
ข้อสอบ O net ภาษาต่างประเทศ ม.3 ชุด 1
 
อังกฤษ
อังกฤษอังกฤษ
อังกฤษ
 
Test Blueprint O-NET ม.6
Test Blueprint O-NET ม.6Test Blueprint O-NET ม.6
Test Blueprint O-NET ม.6
 
ศิลปะ
ศิลปะศิลปะ
ศิลปะ
 
Valid
ValidValid
Valid
 
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ป.3
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ป.3แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ป.3
แบบทดสอบ วิทยาศาสตร์ ป.3
 
ข้อสอบ O net สังคม ป.3 ชุด 1
ข้อสอบ O net สังคม ป.3 ชุด 1ข้อสอบ O net สังคม ป.3 ชุด 1
ข้อสอบ O net สังคม ป.3 ชุด 1
 
เตรียมสอบ O net 57 อังกฤษชุด2
เตรียมสอบ O net 57  อังกฤษชุด2เตรียมสอบ O net 57  อังกฤษชุด2
เตรียมสอบ O net 57 อังกฤษชุด2
 
รูปแบบข้อสอบ O-NET ปี 2556 [O-net56 pattern]
รูปแบบข้อสอบ O-NET ปี 2556 [O-net56 pattern]รูปแบบข้อสอบ O-NET ปี 2556 [O-net56 pattern]
รูปแบบข้อสอบ O-NET ปี 2556 [O-net56 pattern]
 
ทดลองส่ง 538144213
ทดลองส่ง 538144213ทดลองส่ง 538144213
ทดลองส่ง 538144213
 

Viewers also liked

Social
SocialSocial
SocialR PP
 
Social onet a
Social onet aSocial onet a
Social onet apeemai12
 
ข้อสอบ สังคม 52 + เฉลย
ข้อสอบ สังคม 52 + เฉลยข้อสอบ สังคม 52 + เฉลย
ข้อสอบ สังคม 52 + เฉลยJitinun Promrin
 
เฉลย Onet 49
เฉลย Onet 49เฉลย Onet 49
เฉลย Onet 49mina612
 

Viewers also liked (7)

Social
SocialSocial
Social
 
Social onet a
Social onet aSocial onet a
Social onet a
 
สังคม
สังคม สังคม
สังคม
 
สังคม
สังคมสังคม
สังคม
 
File 2013020263249
File 2013020263249File 2013020263249
File 2013020263249
 
ข้อสอบ สังคม 52 + เฉลย
ข้อสอบ สังคม 52 + เฉลยข้อสอบ สังคม 52 + เฉลย
ข้อสอบ สังคม 52 + เฉลย
 
เฉลย Onet 49
เฉลย Onet 49เฉลย Onet 49
เฉลย Onet 49
 

Similar to เฉลย 7 วิชา สังคม 56

เรื่อง คำประสม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑
เรื่อง คำประสม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑เรื่อง คำประสม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑
เรื่อง คำประสม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑พัน พัน
 
ข้อสอบ O net ภาษาไทย ป.๖ ชุด ๑
ข้อสอบ O net ภาษาไทย ป.๖ ชุด ๑ข้อสอบ O net ภาษาไทย ป.๖ ชุด ๑
ข้อสอบ O net ภาษาไทย ป.๖ ชุด ๑Manas Panjai
 
ปริซึม
ปริซึมปริซึม
ปริซึมkrookay2012
 
Ppt+วิทยา..[1]
Ppt+วิทยา..[1]Ppt+วิทยา..[1]
Ppt+วิทยา..[1]krupatchara
 
แผน 5 มัลติมีเดีย
แผน 5 มัลติมีเดียแผน 5 มัลติมีเดีย
แผน 5 มัลติมีเดียkrupornpana55
 
ตัวอย่างแผนการสอนเรื่องพื้นที่ผิวและปริมาตร
ตัวอย่างแผนการสอนเรื่องพื้นที่ผิวและปริมาตรตัวอย่างแผนการสอนเรื่องพื้นที่ผิวและปริมาตร
ตัวอย่างแผนการสอนเรื่องพื้นที่ผิวและปริมาตรทับทิม เจริญตา
 
การประยุกต์ของสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
การประยุกต์ของสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียวการประยุกต์ของสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
การประยุกต์ของสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียวkrusongkran
 
02 เครื่องมือในการวิจัย
02 เครื่องมือในการวิจัย02 เครื่องมือในการวิจัย
02 เครื่องมือในการวิจัยKruBeeKa
 
แผนการสอนคณิตพื้นฐาน ม.3
แผนการสอนคณิตพื้นฐาน ม.3แผนการสอนคณิตพื้นฐาน ม.3
แผนการสอนคณิตพื้นฐาน ม.3phachanee boonyuen
 
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง ทบทวนการแก้สมการเชิงเส้นตัวแปรเดี่ยว
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง ทบทวนการแก้สมการเชิงเส้นตัวแปรเดี่ยวแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง ทบทวนการแก้สมการเชิงเส้นตัวแปรเดี่ยว
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง ทบทวนการแก้สมการเชิงเส้นตัวแปรเดี่ยวว่าที่ ร.ต. ชัยเมธี ใจคุ้มเก่า
 
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง ทบทวนการแก้สมการเชิงเส้นตัวแปรเดี่ยว
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง ทบทวนการแก้สมการเชิงเส้นตัวแปรเดี่ยวแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง ทบทวนการแก้สมการเชิงเส้นตัวแปรเดี่ยว
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง ทบทวนการแก้สมการเชิงเส้นตัวแปรเดี่ยวว่าที่ ร.ต. ชัยเมธี ใจคุ้มเก่า
 

Similar to เฉลย 7 วิชา สังคม 56 (20)

Unit3
Unit3Unit3
Unit3
 
เรื่อง คำประสม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑
เรื่อง คำประสม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑เรื่อง คำประสม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑
เรื่อง คำประสม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑
 
1principletest
1principletest1principletest
1principletest
 
1principletest
1principletest1principletest
1principletest
 
ข้อสอบ O net ภาษาไทย ป.๖ ชุด ๑
ข้อสอบ O net ภาษาไทย ป.๖ ชุด ๑ข้อสอบ O net ภาษาไทย ป.๖ ชุด ๑
ข้อสอบ O net ภาษาไทย ป.๖ ชุด ๑
 
ปริซึม
ปริซึมปริซึม
ปริซึม
 
Unit3
Unit3Unit3
Unit3
 
Unit3
Unit3Unit3
Unit3
 
Ppt+วิทยา..[1]
Ppt+วิทยา..[1]Ppt+วิทยา..[1]
Ppt+วิทยา..[1]
 
แผน 5 มัลติมีเดีย
แผน 5 มัลติมีเดียแผน 5 มัลติมีเดีย
แผน 5 มัลติมีเดีย
 
Unit1
Unit1Unit1
Unit1
 
Unit1
Unit1Unit1
Unit1
 
ตัวอย่างแผนการสอนเรื่องพื้นที่ผิวและปริมาตร
ตัวอย่างแผนการสอนเรื่องพื้นที่ผิวและปริมาตรตัวอย่างแผนการสอนเรื่องพื้นที่ผิวและปริมาตร
ตัวอย่างแผนการสอนเรื่องพื้นที่ผิวและปริมาตร
 
Random 121009010211-phpapp02
Random 121009010211-phpapp02Random 121009010211-phpapp02
Random 121009010211-phpapp02
 
การประยุกต์ของสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
การประยุกต์ของสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียวการประยุกต์ของสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
การประยุกต์ของสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
 
Unit4
Unit4Unit4
Unit4
 
02 เครื่องมือในการวิจัย
02 เครื่องมือในการวิจัย02 เครื่องมือในการวิจัย
02 เครื่องมือในการวิจัย
 
แผนการสอนคณิตพื้นฐาน ม.3
แผนการสอนคณิตพื้นฐาน ม.3แผนการสอนคณิตพื้นฐาน ม.3
แผนการสอนคณิตพื้นฐาน ม.3
 
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง ทบทวนการแก้สมการเชิงเส้นตัวแปรเดี่ยว
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง ทบทวนการแก้สมการเชิงเส้นตัวแปรเดี่ยวแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง ทบทวนการแก้สมการเชิงเส้นตัวแปรเดี่ยว
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง ทบทวนการแก้สมการเชิงเส้นตัวแปรเดี่ยว
 
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง ทบทวนการแก้สมการเชิงเส้นตัวแปรเดี่ยว
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง ทบทวนการแก้สมการเชิงเส้นตัวแปรเดี่ยวแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง ทบทวนการแก้สมการเชิงเส้นตัวแปรเดี่ยว
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง ทบทวนการแก้สมการเชิงเส้นตัวแปรเดี่ยว
 

More from Jirarat Cherntongchai

โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง เปรียบเทียบระหว่างคนถนัดมือซ้ายและคนถนัดมือขวา
โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง เปรียบเทียบระหว่างคนถนัดมือซ้ายและคนถนัดมือขวาโครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง เปรียบเทียบระหว่างคนถนัดมือซ้ายและคนถนัดมือขวา
โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง เปรียบเทียบระหว่างคนถนัดมือซ้ายและคนถนัดมือขวาJirarat Cherntongchai
 
เฉลยอังกฤษปี57
เฉลยอังกฤษปี57เฉลยอังกฤษปี57
เฉลยอังกฤษปี57Jirarat Cherntongchai
 
เฉลยภาษาไทยและสังคมปี57
เฉลยภาษาไทยและสังคมปี57เฉลยภาษาไทยและสังคมปี57
เฉลยภาษาไทยและสังคมปี57Jirarat Cherntongchai
 
7วิชาสามัญ เคมี
7วิชาสามัญ เคมี7วิชาสามัญ เคมี
7วิชาสามัญ เคมีJirarat Cherntongchai
 
7วิชาสามัญ ฟิสิกส์
7วิชาสามัญ ฟิสิกส์7วิชาสามัญ ฟิสิกส์
7วิชาสามัญ ฟิสิกส์Jirarat Cherntongchai
 
7วิชาสามัญ คณิต เฉลยตอนที่ 2
7วิชาสามัญ คณิต เฉลยตอนที่ 27วิชาสามัญ คณิต เฉลยตอนที่ 2
7วิชาสามัญ คณิต เฉลยตอนที่ 2Jirarat Cherntongchai
 
7วิชาสามัญ คณิต56
7วิชาสามัญ คณิต567วิชาสามัญ คณิต56
7วิชาสามัญ คณิต56Jirarat Cherntongchai
 
7 สามัญ คณิต เฉลย
7 สามัญ คณิต เฉลย7 สามัญ คณิต เฉลย
7 สามัญ คณิต เฉลยJirarat Cherntongchai
 
ใบงานแบบสำรวจตัวเอง
ใบงานแบบสำรวจตัวเองใบงานแบบสำรวจตัวเอง
ใบงานแบบสำรวจตัวเองJirarat Cherntongchai
 

More from Jirarat Cherntongchai (15)

โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง เปรียบเทียบระหว่างคนถนัดมือซ้ายและคนถนัดมือขวา
โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง เปรียบเทียบระหว่างคนถนัดมือซ้ายและคนถนัดมือขวาโครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง เปรียบเทียบระหว่างคนถนัดมือซ้ายและคนถนัดมือขวา
โครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง เปรียบเทียบระหว่างคนถนัดมือซ้ายและคนถนัดมือขวา
 
เฉลยอังกฤษปี57
เฉลยอังกฤษปี57เฉลยอังกฤษปี57
เฉลยอังกฤษปี57
 
เฉลยภาษาไทยและสังคมปี57
เฉลยภาษาไทยและสังคมปี57เฉลยภาษาไทยและสังคมปี57
เฉลยภาษาไทยและสังคมปี57
 
57 bio saman
57 bio saman57 bio saman
57 bio saman
 
57 physic saman
57 physic saman57 physic saman
57 physic saman
 
เฉลยเคมีปี56
เฉลยเคมีปี56เฉลยเคมีปี56
เฉลยเคมีปี56
 
7วิชาสามัญ เคมี
7วิชาสามัญ เคมี7วิชาสามัญ เคมี
7วิชาสามัญ เคมี
 
เฉลยPhy2556
เฉลยPhy2556เฉลยPhy2556
เฉลยPhy2556
 
7วิชาสามัญ ฟิสิกส์
7วิชาสามัญ ฟิสิกส์7วิชาสามัญ ฟิสิกส์
7วิชาสามัญ ฟิสิกส์
 
7วิชาสามัญ คณิต เฉลยตอนที่ 2
7วิชาสามัญ คณิต เฉลยตอนที่ 27วิชาสามัญ คณิต เฉลยตอนที่ 2
7วิชาสามัญ คณิต เฉลยตอนที่ 2
 
เฉลย เลข56
เฉลย เลข56เฉลย เลข56
เฉลย เลข56
 
7วิชาสามัญ คณิต56
7วิชาสามัญ คณิต567วิชาสามัญ คณิต56
7วิชาสามัญ คณิต56
 
7 สามัญ คณิต เฉลย
7 สามัญ คณิต เฉลย7 สามัญ คณิต เฉลย
7 สามัญ คณิต เฉลย
 
7 สามัญ คณิต
7 สามัญ คณิต7 สามัญ คณิต
7 สามัญ คณิต
 
ใบงานแบบสำรวจตัวเอง
ใบงานแบบสำรวจตัวเองใบงานแบบสำรวจตัวเอง
ใบงานแบบสำรวจตัวเอง
 

เฉลย 7 วิชา สังคม 56

  • 1. คำชี้แจงในกำรเฉลย 1) เฉลยทุกข้อ ครูจะระบุเนื้อหำที่โจทย์ใช้ถำมเพื่อประโยชน์ต่อนักเรียนในกำรกลับไปสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติม รวมถึงจะวิเครำะห์ ข้อสอบโดยภำพรวมไว้ให้ 2) ทุกข้อ จะมีกำรแบ่งระดับควำมยำกของข้อสอบไว้ หำกเป็นสำมดำว หมำยถึง เป็นข้อสอบยำกมำก ต้องใช้กำรคิดวิเครำะห์ ใช้พื้นฐำนควำมรู้รอบตัวในกำรหำคำตอบ อย่ำงมำก หำกเป็นสองดำว หมำยถึง เป็นข้อสอบในระดับปำนกลำงถึงค่อนข้ำงยำก ต้องอำศัยกำรคิดวิเครำะห์ กำรใช้พื้น ฐำนควำมรู้รอบตัวในกำรหำคำตอบพอสมควร หำกเป็นหนึ่งดำว หมำยถึง เป็นข้อสอบในระดับทั่วไป เน้นควำมจำ หำกเป็นวิเครำะห์ก็สำมำรถเชื่อมโยงหำคำตอบ ได้ไม่ยำก 3) ข้อสอบมีทั้งหมด 5 สำระ สำระละ 10 ข้อ เรียงตำมลำดับ สำระศำสนำ ศีลธรรมและจริยธรรม ข้อ 1-10 สำระหน้ำที่พลเมือง วัฒนธรรม และกำรดำเนินชีวิตในสังคม ข้อ 11-20 สำระเศรษฐศำสตร์ ข้อ 21-30 สำระประวัติศำสตร์ ข้อ 31-40 สำระภูมิศำสตร์ ข้อ 41-50 โดยหำกเปรียบเทียบตำมควำมคิดและกำรประเมินของครูแล้ว จะจัดลำดับควำมยำกของข้อสอบชุดนี้ได้เป็น ภูมิศำสตร์ >> เศรษฐศำสตร์ >> หน้ำที่พลเมืองฯ >> ศำสนำ >> ประวัติศำสตร์ สำระที่ต้องเชื่อมโยงกับควำมรู้รอบตัว สถำนกำรณ์ปัจจุบันมำกที่สุดก็จะถูกเรียงลำดับตำมนี้ *ขอให้นักเรียนใช้เฉลยนี้เพื่อกำรทบทวนเตรียมตัวสอบ หรืออ่ำนเพื่อหำควำมรู้เพิ่มเติมเท่ำนั้น กรุณำอย่ำเผยแพร่สู่สถำบัน กวดวิชำใดๆ หรือเผยแพร่ทำเพื่อกำรค้ำ เป็นอันขำด
  • 2. 1) ตอบ 3. ระบบวรรณะมี 4 วรรณะ ได้แก่ กษัตริย์ พรำหมณ์ แพศย์ ศูทร (ระดับควำมยำก ) เนื้อหำที่ใช้ถำม  พุทธประวัติ (สังคมชมพูทวีป) วิเครำะห์ข้อสอบ  โจทย์ข้อนี้ถำมถึงสภำพสังคมชมพูทวีป หำกนักเรียนมีพื้นฐำนเกี่ยวกับประวัติศำสตร์อินเดียหรือทรำบ เกี่ยวกับสังคมของอินเดียโบรำณอยู่บ้ำง กำรหำคำตอบจำกโจทย์นี้ก็ถือว่ำสบำยมำก วิเครำะห์ตัวเลือก  ตัวเลือกที่ 1 ชำวอำรยันอยู่ในเขตปัจจันตชนบท ผิด เพรำะปัจจันตชนบท หมำยถึง ส่วนรอบนอกหรือชำยแดน ตั้งอยู่ ทำงภำคใต้ของอินเดีย เป็นเขตของพวกทมิฬหรือดรำวิเดียนซึ่งถูกพวกอำรยันขับไล่ลงไป ในขณะที่พวกอำรยันเองเข้ำยึดครอง มัธยมประเทศหรือมัฌชิมชนบท อันหมำยถึงบริเวณฮินดูสถำนเขตใจกลำงของชมพูทวีป (อินเดีย) ซึ่งเป็นเขตอุดมสมบูรณ์ ตัวเลือกที่ 2 กำรปกครองแบบรวมศูนย์ในระบอบสมบูรณำญำสิทธิรำชย์ ถูก แต่ไม่ครบถ้วน เพรำะนอกจำกอินเดียสมัย พุทธกำลจะมีกำรปกครองแบบรำชำธิปไตย (สมบูรณำญำสิทธิรำชย์ในลักษณะรวมศูนย์) ซึ่งมักใช้กับแคว้นใหญ่ๆ เช่น แคว้น มคธ แคว้นโกศล แคว้นอวันตี แล้วยังมีกำรปกครองแบบสำมัคคีธรรม ซึ่งจะมีสภำหรือสังฆะเป็นผู้กำหนดนโยบำยและมีอำนำจใน กำรตัดสินใจเกี่ยวกับกิจกำรบ้ำนเมือง ตำแหน่งรำชำจะได้จำกกำรเลือกของสภำดังกล่ำว กำรปกครองดังกล่ำวถือว่ำมีลักษณะ ใกล้เคียงกับประชำธิปไตยในปัจจุบัน เพรำะกำรปกครอง กำรกำหนดนโยบำย กำรออกกฎหมำย กำรตัดสินปัญหำต่ำงๆ ผู้ปกครองจะกระทำโดยปรึกษำหำรือกันก่อนโดยถือเสียงข้ำงมำกในกำรตัดสิน ตัวเลือกที่ 4 วรรณะศูทรและพวกจัณฑำลถือเป็นชนชั้นที่มีฐำนะต่ำเสมอกัน ผิดแน่นอน จัณฑำลต่ำกว่ำ โดยสังคมอินเดีย จะถือว่ำ จัณฑำลเป็นพวกนอกวรรณะ เกิดจำกกำรที่หญิงวรรณะสูง (พรำหมณ์หรือกษัตริย์) แต่งงำนกับชำยวรรณะต่ำกว่ำ (แพศย์หรือศูทร) จัณฑำลถือเป็นพวกแตะต้องไม่ได้ (untouchable) สำหรับคนในวรรณะอื่น ถือเป็นกำลกิณีหรือเสนียดจัญไร ดังนั้นจึงไม่มีทำงที่จัณฑำลจะมีฐำนะเท่ำเทียมกับพวกวรรณะศูทรได้ ตัวเลือกที่ 5 พระพรหมเป็นเทพเจ้ำสำคัญที่สุดในฐำนะพระผู้สร้ำงและพระผู้ทำลำย ผิดชัวร์ พระพรหมถือเป็นพระผู้สร้ำง เป็นผู้ก่อเกิดสรรพสิ่งต่ำงๆ พระผู้ทำลำยจะหมำยถึง พระศิวะ (ทำลำยในที่นี้ คือ ทำลำยสิ่งชั่วร้ำย ควำมทุกข์ทั้งปวง) ในขณะที่ พระผู้ปกปักรักษำ หมำยถึง พระวิษณุ สรุปคำตอบ  จำกกำรวิเครำะห์ตัวเลือก ตัวเลือกที่เป็นคำตอบของโจทย์นี้ คือ ตัวเลือกที่ 3 ระบบวรรณะมี 4 วรรณะ ได้แก่ กษัตริย์ พรำหมณ์ แพศย์ ศูทร ถูกต้องแล้วที่ระบบวรรณะมี 4 วรรณะ ในสังคมชมพูทวีปสมัยพุทธกำล ลักษณะ ดังกล่ำวเป็นมำตั้งแต่สมัยพระเวท ทั้งนี้คำว่ำ วรรณะ หมำยถึงสีผิว ในระยะแรกชำวอำรยันที่อพยพเข้ำมำในชมพูทวีป (อินเดีย) นำมำใช้ในกำรกีดกันพวกดรำวิเดียนหรือทมิฬให้ออกไปจำกพวกตน โดยใช้สีผิวเป็นเกณฑ์ แต่ต่อมำได้นำเกณฑ์จำกเรื่องอำชีพ และใช้แนวคิดทำงศำสนำเข้ำมำเพิ่มเติมโดยผสำนกับพุทธศำสนำในเรื่องกรรม ส่งผลให้ระบบวรรณะทรงอิทธิพลอย่ำงมำกใน สังคมอินเดีย หำกแต่งงำนข้ำมวรรณะ บุตรที่คลอดออกมำจะกลำยเป็นจัณฑำลทันที 2) ตอบ 5. หลักควำมจริงของสิ่งมีชีวิต 5 ประกำร (ระดับควำมยำก ) เนื้อหำที่ใช้ถำม  หลักธรรมทำงพระพุทธศำสนำ+วันสำคัญทำงพระพุทธศำสนำ(วันอำสำฬหบูชำ) วิเครำะห์ข้อสอบ  โจทย์ข้อนี้ถำมถึงตัวเลือกที่ไม่สอดคล้องกับหลักมัชฌิมำปฏิปทำ บำงตัวเลือกง่ำยจะง่ำยต่อกำรตัดออก แต่บำงเลือกดูแล้วก็คล้ำยๆ กัน ต้องอำศัยกำรวิเครำะห์หักล้ำงตัวเลือกให้ดีมิฉะนั้นอำจผิดได้ง่ำยๆ เข้ำถึงเนื้อหำ  มัชฌิมำปฏิปทำ หมำยถึง ทำงสำยกลำง โดยพระพุทธเจ้ำตรัสว่ำทำงที่เป็นที่สุดสองอย่ำง คือ กำมสุขัลลิ กำนุโยค หมำยถึง กำรพัวพันอยู่ในกำมสุข และอัตตกิลมถำนุโยค หมำยถึง กำรประพฤติปฏิบัติตนให้ลำบำก มิใช่หนทำงสู่กำร พ้นทุกข์หรือกำรตรัสรู้ได้ ไม่ควรปฏิบัติ แต่ควรใช้แนวทำงสำยกลำงที่เรียกว่ำ มัชฌิมำปฏิปทำ ผ่ำนหลักอริยมรรค หรือมรรคมี องค์ 8 ซึ่งถือเป็นหนทำงแห่งกำรพ้นทุกข์ตำมหลักอริยสัจ 4 จำกเนื้อหำที่กล่ำวมำ นักเรียนคงเห็นแล้วว่ำ เรำสำมำรถตัดตัวเลือกที่ 1 มรรค 8 ตัวเลือกที่ 3 ข้อปฏิบัติที่ยึดทำงสำยกลำง และตัวเลือกที่ 4 แนวทำงปฏิบัติสู่กำรดับทุกข์ ได้ทันที เหลือเพียง 2 ตัวเลือกที่เรำต้องมำวิเครำะห์กันต่อไปว่ำตัวเลือกใดยัง สัมพันธ์กับหลักมัชฌิมำปฏิปทำ อีก
  • 3. ตัวเลือกที่เกี่ยวข้องกับหลักมัชฌิมำปฏิปทำ คือ ตัวเลือกที่ 2 ไตรสิกขำ ทั้งนี้เพรำะว่ำ มรรค 8 หำกย่นย่อแล้วก็จะได้เป็น ไตรสิกขำ ซึ่งหมำยถึง ศีล สมำธิ ปัญญำ แบ่งกลุ่มได้ดังนี้ อธิศีลสิกขำ คือ สัมมำวำจำ (เจรจำชอบ) สัมมำกัมมันตะ (กระทำชอบ) สัมมำอำชีวะ (เลี้ยงชีพชอบ) อธิจิตตสิกขำ คือ สัมมำสติ (ระลึกชอบ) สัมมำสมำธิ (ตั่งมั่นชอบ) สัมมำวำยำมะ (เพียรชอบ) อธิปัญญำสิกขำ คือ สัมมำทิฐิ (คิดชอบ) สัมมำสังกัปปะ (ดำริชอบ) สรุปคำตอบ  จำกกำรอธิบำยเนื้อหำและหักล้ำงตัวเลือก ตัวเลือกที่เป็นคำตอบจำกโจทย์นี้จึงตรงกับตัวเลือกที่ 5 หลัก ควำมจริงของสิ่งมีชีวิต 5 ประกำร ซึ่งก็คือ อริยสัจ 4 แม้มรรค 8 จะเป็นหนึ่งในอริยสัจ แต่อริยสัจ ยังมีอีก 3 ที่ไม่สัมพันธ์กัน โดยตรงกับหลักมัชฌิมำปฏิปทำหรือหลักทำงสำยกลำง ได้แก่ ทุกข์ (ควำมไม่สบำยกำยสบำยใจ) สมุทัย (ตัณหำ-เหตุแห่ง ทุกข์) นิโรธ (ภำวะทุกข์ดับ) เนื่องจำกทั้ง 3 นี้ ไม่ได้มองที่แนวทำงปฏิบัติ ต่ำงจำกตัวเลือกที่เหลือที่มุ่งประเด็นไปที่เรื่องกำร ปฏิบัติ ตรงตำมควำมหมำยของหลักมัชฌิมำปฏิปทำทุกประกำร 3) ตอบ 5. กำรแสวงหำควำมจริงด้วยกำรพิสูจน์เชิงประจักษ์ (ระดับควำมยำก ) เนื้อหำที่ใช้ถำม  ประวัติและควำมสำคัญของพระพุทธศำสนำ วิเครำะห์ข้อสอบ  โจทย์ข้อนี้ให้นักเรียนหำควำมสอดคล้องกันระหว่ำงวิทยำศำสตร์กับพุทธศำสนำ พิจำรณำที่ตัวเลือกดีๆ จะเห็นว่ำไม่ยำกเกินไป จะมีบำงตัวเลือกที่อำจต้องคิดมำกซักหน่อย แต่เชื่อว่ำเมื่อนักเรียนค่อยๆ ไตร่ตรองดีๆ จะพบคำตอบ เข้ำถึงเนื้อหำ  วิทยำศำสตร์และพุทธศำสนำมีทั้งควำมสอดคล้องและควำมแตกต่ำงกัน สำมำรถสรุปได้ดังนี้ ควำมสอดคล้อง; 1) เชื่อว่ำมนุษย์คือผลผลิตของธรรมชำติ (ไม่ได้มำจำกพระเจ้ำสร้ำง) 2) เน้นที่กำรแสวงหำควำมจริงของธรรมชำติผ่ำนกำรใช้เหตุผลและกำรทดลอง (ในทำงวิทยำศำสตร์จะอยู่ในเรื่อง วิธีกำรทำงวิทยำศำสตร์ ส่วนทำงพุทธศำสนำจะกล่ำวอยู่ในเรื่องหลักกำลำมสูตร) 3) เน้นกำรฝึกปฏิบัติด้วยตนเอง ควำมแตกต่ำง; จะต่ำงกันที่ระดับควำมจริงที่ค้นหำ วิทยำศำสตร์ จะมุ่งเน้นเพื่อประโยชน์ในกำรดำเนินชีวิตในระดับประสำทสัมผัสทั้ง 5 เน้นสุขทำงโลก (โลกียสุข) โดยใช้ทฤษฎีทำงธรรมชำติมำสร้ำงสรรค์ควำมเจริญต่ำงๆ ที่มองด้ำนวัตถุเป็นหลัก (หักล้ำงตัวเลือกที่ 3 และ 4) พุทธศำสนำ จะมุ่งเน้นที่ระดับจิต หรือสุขทำงธรรม (โลกุตรสุข) เน้นฝึกบริหำรจิต มองที่ประสบกำรณ์ด้ำนจิตใจเพื่อ จะทำให้ก่อเกิดปัญญำและมองเห็นควำมไม่เที่ยงแท้ของสรรพสิ่ง มุ่งที่จริยธรรมเป็นหลัก (หักล้ำงตัวเลือกที่ 1 และ 2) สรุปคำตอบ  จำกกำรอธิบำยเนื้อหำข้ำงต้น เรำจึงได้ตัวเลือกที่ 5 กำรแสวงหำควำมจริงด้วยกำรพิสูจน์เชิงประจักษ์เป็น คำตอบของโจทย์นี้ ควำมจริงเชิงประจักษ์ คือ ควำมจริงที่สำมำรถเห็นหรือสัมผัสได้ด้วยตนเอง ผ่ำนกำรทดลอง ปฏิบัติ ฝึกฝน มิใช่เน้นเพียงศรัทธำ ที่มองแต่ควำมเชื่อเท่ำนั้น ในเรื่องนี้ปรำกฎทั้งในวิทยำศำสตร์และพุทธศำสนำ 4) ตอบ 4. อปริหำนิยธรรม (ระดับควำมยำก ) เนื้อหำที่ใช้ถำม  ประวัติและควำมสำคัญของพุทธศำสนำ+หลักธรรมทำงพระพุทธศำสนำ (ในหมวดมรรค) วิเครำะห์ข้อสอบ  โจทย์ข้อนี้ให้ควำมหมำยของหลักธรรมมำจำกนั้นถำมนักเรียนว่ำ สำระดังกล่ำวตรงกับหลักธรรมในข้อ ใด ข้อนี้นักเรียนต้องอ่ำนหรือทบทวนหลักธรรมมำบ้ำงถึงจะพอช่วยให้นักเรียนหำคำตอบได้ หำกที่โรงเรียนสอนแบบผ่ำนๆ หรือ นักเรียนอ่ำนข้ำมๆ ในเรื่องหลักธรรม ก็อำจส่งผลให้นักเรียนผิดพลำดในกำรตอบคำถำมข้อนี้ได้ วิเครำะห์ตัวเลือก  หลักธรรมเหล่ำนี้ ยังไม่เกี่ยวข้องตำมควำมหมำยที่โจทย์ให้มำ ตัวเลือกที่ 2 อริยวัฑฒิ หรือ อริยวัฑฒิ 5 คือ หลักปฏิบัติสู่ควำมเจริญ ประกอบด้วย ศรัทธำ ศีล สุตะ จำคะ ปัญญำ ตัวเลือกที่ 5 ทิฎฐธัมมิกัตถสังวัตตนิกธรรม เรียกอีกชื่อหนึ่งว่ำ ทิฎฐธัมมิกัตถประโยชน์ หรือ หลักปฏิบัติที่จะอำนวย ประโยชน์สุขให้แก่บุคคล ประกอบด้วย อุฎฐำนสัมปทำ (หมั่นเพียร) อำรักขสัมปทำ (เก็บทรัพย์) กัลยำณมิตร (คบคนดี) สมชี วิตำ (พอดี)
  • 4. ตัวเลือกที่ 1 อธิปไตย ในควำมหมำยทำงพุทธศำสนำ จะหมำยถึง อธิปไตย 3 ประกอบด้วย โลกำธิปไตย (กำร ปกครองที่ถือกระแสโลกเป็นใหญ่-โลกในที่นี้จะหมำยถึงคน เทียบได้กับประชำธิปไตย) อัตตำธิปไตย (กำรปกครองที่ถือตัวเอง เป็นใหญ่ เทียบได้กับ เผด็จกำร) ธรรมำธิปไตย (กำรปกครองที่ถือควำมถูกต้องเป็นใหญ่ พุทธศำสนำจะเน้นที่กำรปกครอง รูปแบบนี้) ตัวเลือกที่ 3 สำรำณียธรรม หลักธรรมใกล้กับควำมหมำยที่โจทย์ให้มำมำก แต่ยังไม่ครบถ้วน สำรำณียธรรม 6 หมำยถึง ธรรมเพื่อควำมสำมัคคี ประกอบด้วย มีควำมเอื้อเฟื้อ / วำจำดี / รู้จักแบ่งปัน-รักษำทรัพย์ส่วนรวม / มีศีล-ระเบียบ / ปรับ ทัศนคติลดควำมขัดแย้ง สรุปคำตอบ  หลังกำรวิเครำะห์ตัวเลือก เรำจะได้ตัวเลือกที่ 4 อปริหำนิยธรรม เป็นคำตอบของโจทย์นี้ อปริหำนิยธรรม 7 คือ ธรรมที่ไม่ทำให้สังคมเสื่อม เป็นหลักปฏิบัติที่นำควำมเจริญมำสู่หมู่คณะ มุ่งเน้นที่ควำมรับผิดชอบต่อส่วนรวม (จำกข้อ ปฏิบัติที่ว่ำ หมั่นประชุมเนืองนิตย์ ซึ่งหลักดังกล่ำวถูกนำมำใช้ในหมู่สงฆ์ด้วย) ควำมสำมัคคี (พร้อมเพรียงกันในกำรประชุม มำ ประชุม เลิกประชุม และทำภำรกิจอื่นๆ ให้พร้อมกัน) และกำรเคำรพในกันและกัน (เคำรพนับถือผู้อำวุโส และฟังคำแนะนำจำก ท่ำน / ไม่ข่มเหงหรือล่วงเกินสตรี) ตรงกับควำมหมำยที่โจทย์กำหนดมำทั้งหมด 5) ตอบ 2. ทำให้ใจกว้ำงตรวจสอบปัญหำหลำยๆ ด้ำน (ระดับควำมยำก ) เนื้อหำที่ใช้ถำม  หลักธรรมทำงพระพุทธศำสนำ (ในหมวดสมุทัย) วิเครำะห์ข้อสอบ  โจทย์ข้อนี้ยังคงถำมถึงเรื่องหลักธรรม แต่ครำวนี้ไม่ได้ถำมควำมหมำย กลับมำถำมเกี่ยวกับคุณค่ำของ หลักธรรมแทน โดยเลือกหลักนิยำม 5 มำเป็นตัวคำถำม เมื่อคำถำมเกี่ยวกับหลักธรรมลอยมำ นักเรียนจะต้องทรำบทันทีว่ำ หลักธรรมนั้นๆ เกี่ยวกับเรื่องอะไร โดยเฉพำะกับคำถำมข้อนี้ที่เป็นกำรถำมคุณค่ำ ไม่ได้ถำมควำมหมำยจึงไม่มีทำงที่เรำจะเดำจำก ตัวเลือกได้ง่ำยๆ เข้ำถึงเนื้อหำ+วิเครำะห์ตัวเลือก  นิยำม 5 หมำยถึง กฎธรรมชำติ 5 ประกำร ประกอบด้วย อุตุนิยำม; กฎธรรมชำติเกี่ยวกับลมฟ้ำอำกำศ-ฤดูกำล รวมถึงปรำกฏกำรณ์ทำงธรรมชำติต่ำงๆ พีชนิยำม; กฎแห่งกำรสืบต่อ-พันธุกรรม จิตนิยำม; กฎธรรมชำติเกี่ยวกับกำรทำงำนของจิต (จิตของแต่ละคนจะทำงำนต่ำงกันตำมองค์ประกอบของจิตหรือสิ่งปรุง แต่งจิต ซึ่งทำงพุทธศำสนำเรียกว่ำ เจตสิก) กรรมนิยำม; กฎธรรมชำติเกี่ยวกับพฤติกรรมของมนุษย์หรือกระบวนกำรให้ผลของกำรกระทำ ธรรมนิยำม; กฎแห่งควำมเป็นเหตุผลของสรรพสิ่ง ครอบคลุมกฎธรรมชำติทั้ง 4 ดังกล่ำวข้ำงต้น ตัวอย่ำงของหลักธรรมที่ แสดงถึงธรรมนิยำม คือ ปฏิจจสมุปบำทหรืออิทัปปจัจยตำ / ไตรลักษณ์ จำกหลักนิยำม 5 เรำสำมำรถนำมำโยงกับตัวเลือกเพื่อหำคุณค่ำของหลักธรรม ซึ่งจะสัมพันธ์กับตัวเลือก ดังนี้ ตัวเลือกที่ 1 ทำให้รู้สภำวะของควำมทุกข์ คุณค่ำส่วนนี้เรำมองได้จำกจิตนิยำม (ควำมทุกข์เกิดเพรำะจิตของเรำที่ไปยึดติด กับรูปนำม เจตสิกจะปรุงแต่งให้เกิดอำรมณ์ที่โน้มเอียงไปทำงด้ำนควำมไม่สบำยกำยไม่สบำยใจ ทุกข์จะเกิดขึ้นจำกจุดนี้ ในทันที) และกรรมนิยำม จิตนิยำม ตัวเลือกที่ 3 ทำให้เข้ำใจกฎแห่งกรรมว่ำมีผลต่อชีวิตมำกที่สุด คุณค่ำส่วนนี้ชัดเจนมำก มองได้จำกกรรมนิยำม ชีวิตของ สัตว์โลกล้วนเป็นไปตำมกรรม ทำอะไรไว้ย่อมได้รับผลเช่นนั้น เพียงแต่ผลนั้นจะมำหำเร็วหรือช้ำก็เท่ำนั้น ตัวเลือกที่ 4 ทำให้เห็นว่ำชีวิตประกอบด้วยปัจจัยหลำกหลำย คุณค่ำส่วนนี้เรำมองได้จำกหลำยกฎ อำจมองจำกจิตนิยำม ที่เน้นไปในเชิงกำรทำงำนของจิต ก่อเกิดอำรมณ์ ควำมคิด ซึ่งเป็นตัวกำหนดกำรกระทำในชีวิต หรือมองจำกกรรมนิยำม ชีวิตบำง คนดีก็เพรำะมีกรรมดีคอยหนุน แต่บำงคนย่ำแย่เผชิญแต่ปัญหำเรื่อยๆ ก็เพรำะมีกรรมชั่วคอยลิดรอน ตัวเลือกที่ 5 ทำให้เห็นว่ำชีวิตเป็นกระบวนกำรทำงธรรมชำติที่มีเหตุปัจจัยต่อเนื่อง คุณค่ำข้อนี้มองได้ชัดเจนจำกธรรม นิยำม ที่ว่ำชีวิตรวมถึงทุกสรรพสิ่งเกิดได้ก็เพรำะมีเหตุ และดับได้ก็เพรำะมีเหตุเช่นกัน เมื่อมีสิ่งนี้จึงมีสิ่งนี้ เมื่อสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้ก็ไม่ มี เหตุปัจจัยบำงข้อก็จะไปส่งผลให้เกิดปัจจัยอีกข้อเป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่ำเรำจะแจ้งในอริยสัจจึงจะหยุดเหตุปัจจัยได้
  • 5. สรุปคำตอบ  จำกเนื้อหำและกำรวิเครำะห์ตัวเลือกทั้งหมด เรำจึงได้ตัวเลือกที่ 2 ทำให้ใจกว้ำงตรวจสอบปัญหำหลำยๆ ด้ำน เป็นคำตอบของข้อนี้ คุณค่ำดังกล่ำวไม่สำมำรถโยงเข้ำกับหลักนิยำม 5 ได้เลย แม้แต่หลักเดียว หำกมองจำกคุณค่ำส่วนนี้ ควรไปโยงกับเรื่องโยนิโสมนสิกำรหรือกำรเจริญปัญญำ ที่เน้นให้คิดแบบแยกแยะองค์ประกอบ (แยกองค์ประกอบของปัญหำ) หรือคิดแบบวิภัชชวำท (คิดแบบมองรอบด้ำน ทั้งด้ำนบวกและลบ) 6) ตอบ 2. ท่ำนพุทธทำสภิกขุ (ระดับควำมยำก ) เนื้อหำที่ใช้ถำม  พุทธสำวก พุทธสำวิกำ และชำวพุทธตัวอย่ำง วิเครำะห์ข้อสอบ  โจทย์ข้อนี้ถำมเกี่ยวกับชำวพุทธตัวอย่ำง จัดว่ำยำกอยู่ นักเรียนจะต้องนำคุณธรรมเด่นของชำวพุทธที่ โจทย์กำหนดมำไปโยงให้ได้ ดังนั้นหำกนักเรียนไม่รู้ว่ำชำวพุทธที่ปรำกฏในตัวเลือกมีประวัติอย่ำงไรก็ยำกจะหำคำตอบได้ อีกทั้ง ข้อนี้ออกได้ลึกมำก เพรำะในหนังสือเรียนไม่มีกล่ำวถึงคุณธรรมในข้อนี้ของท่ำนอย่ำงชัดเจนเลย วิเครำะห์ตัวเลือก  ชำวพุทธในตัวเลือกต่อไปนี้ มีคุณธรรมไม่สัมพันธ์กับที่โจทย์กำหนดมำ ตัวเลือกที่ 1 ท่ำน ป.อ. ปยุตฺโต หรือพระพรหมคุณำกรณ์ ท่ำนเป็นผู้ทรงควำมรู้ด้ำนพระไตรปิฎก มีควำมขยันหมั่นเพียร รอบรู้ มีควำมคิดก้ำวหน้ำ สำมำรถที่จะประยุกต์หลักธรรมเข้ำกับชีวิตจริงผ่ำนคำสอนของท่ำนได้ เห็นได้จำกหนังสือที่ท่ำนเขียน มำกมำย นอกจำกนี้ท่ำนยังเป็นชำวไทยคนแรกที่ได้รับรำงวัลกำรศึกษำเพื่อสันติภำพจำกองค์กำร UNESCO ด้วย ตัวเลือกที่ 3 ท่ำนปัญญำนันทภิกขุ หรือพระธรรมโกศำจำรย์ ท่ำนเป็นพระนักเทศน์ เน้นที่กำรแสดงธรรม รวมถึงยังเป็น พระนักคิด นักพัฒนำ ไม่ยึดติดกับควำมคิดเดิมๆ (ท่ำนเป็นผู้เปลี่ยนแปลงกำรเทศน์จำกแบบขึ้นธรรมำสน์เทศน์ มำเป็นยืน ปำฐกถำหรือบรรยำย ด้วยภำษำที่เข้ำใจง่ำย ไม่มีพิธีรีตอง ตัวเลือกที่ 4 พระอำจำรย์ชำ สุภทฺโท ท่ำนเป็นพระที่เน้นกำรสอนธรรมเป็นหลัก แก่นธรรมที่ท่ำนเน้นย้ำเสมอ คือ เรื่อง สติและให้ละทิฎฐิมำนะ ในด้ำนกำรเทศน์สอนธรรม ท่ำนเป็นผู้มีเทคนิควิธีสอนที่น่ำสนใจ รู้จักใช้วิธีอุปมำอุปไมยในกำรสอน ตัวเลือกที่ 5 พระอำจำรย์มั่น ภูริทตฺโต ท่ำนเป็นพระป่ำหรือพระนักปฏิบัติ เน้นที่กำรบำเพ็ญเพียรภำวนำผ่ำนกำรบริหำร จิตและเจริญปัญญำ เน้นที่กำรถือสันโดษในกำรดำเนินชีวิต สรุปคำตอบ  จำกกำรหักล้ำงตัวเลือกทั้งหมด ชำวพุทธที่มีคุณธรรมตรงกับที่โจทย์กำหนดมำ คือ ตัวเลือกที่ 2 ท่ำนพุทธทำสภิกขุ หรือพระธรรมโกศำ จำรย์ ท่ำนเป็นพระนักปฏิรูปและปฏิวัติพระศำสนำ เน้น กำรสอนแบบเค้นแก่นธรรม ให้ถึงหัวใจของพุทธศำสนำ ให้ผู้คนละจำกวัตถุนิยม (รวมถึงกำรทำบุญที่มุ่งเน้นผลที่ได้อันแสดงถึง ควำมโลภและกำรยึดติด) ด้วยเหตุนี้ท่ำนจึงก่อตั้งสวนโมกขพลำรำม เพื่อใช้เป็นที่ปฏิบัติธรรมเข้ำถึงควำมจริงแท้ (อริยสัจ) ตำม หลักพุทธศำสนำที่ถูกต้อง ทั้งนี้ท่ำนไม่ได้เน้นชำวพุทธและชำวไทยเท่ำนั้น แต่ยังรวมถึงผู้นับถือศำสนำอื่น และชำวต่ำงชำติด้วย โดยท่ำนมุ่งส่งเสริมให้สวนโมกขพลำรำมเป็นแดนธรรมของโลก ด้วยเหตุที่ว่ำพุทธศำสนำเป็นศำสนำของโลกที่สำมำรถช่วย มนุษยชำติได้ ไม่ว่ำชนชำติใดก็สำมำรถหลุดพ้นจำกทุกข์ได้ด้วยหลักธรรมทำงพุทธศำสนำ รวมถึงยังเขียนหนังสือทำงวิชำกำรเป็น ภำษำอังกฤษอีกหลำยเล่ม ในหนังสือพระเจ้ำของชำวพุทธ ท่ำนได้กล่ำวถึงเรื่องควำมปรองดองทำงศำสนำไว้อย่ำงชัดเจน ว่ำแม้แต่ ละศำสนำจะมีพระเจ้ำต่ำงกันแต่จุดที่ทุกศำสนำเหมือนกัน คือ เป้ำหมำยทำงศำสนำที่มุ่งให้ทุกคนกระทำดี มุ่งสู่ควำมสงบทำงใจ 7) ตอบ 4. สุตตันตปิฎก (ระดับควำมยำก ) เนื้อหำที่ใช้ถำม  พระไตรปิฎก วิเครำะห์ข้อสอบ  โจทย์ข้อนี้ถำมเกี่ยวกับพระคัมภีร์ เมื่อพิจำรณำจำกตัวเลือก นักเรียนน่ำจะพอทรำบว่ำเนื้อหำที่โจทย์ถำม เกี่ยวกับพระไตรปิฎกแน่นอน ข้อนี้ไม่มีอะไรยำก พิจำรณำตัวเลือกโดยโยงกับข้อควำมที่โจทย์ถำมให้ดีแล้วนักเรียนจะพบคำตอบ วิเครำะห์ตัวเลือก  Keyword สำคัญที่จะช่วยนักเรียนหำคำตอบจำกโจทย์นี้ คือ คำว่ำหลักฐำนชั้นที่ 1 เมื่อใช้คำว่ำชั้นที่ 1 เรำจึงตัดตัวเลือกเหล่ำนี้ออกในทันที Tips เล็กๆ: เกี่ยวกับชำวพุทธตัวอย่ำง ข้อสอบมักชอบออกพุทธทำสภิกขุ มำกที่สุด ดังนั้นนักเรียนจึงควรศึกษำประวัติท่ำนไว้พอสมควร
  • 6. ตัวเลือกที่ 3 อรรถกถำ เนื่องจำกอรรถกถำเป็นหลักฐำนชั้น 2 ใช้อธิบำยขยำยควำมพระไตรปิฎก หรือบำลีพระไตรปิฎก ซึ่งถือเป็นหลักฐำนชั้นที่ 1 ตัวเลือกที่ 1 ฎีกำ เนื่องจำกฎีกำเป็นหลักฐำนชั้น 3 ใช้อธิบำยเพิ่มเติมอรรถกถำอีกชั้นหนึ่ง สรุปคำตอบ  ทีนี้จะเหลือ 3 ตัวเลือก ซึ่งก็ไม่ยำกแล้ว เนื้อหำเรื่องนี้นักเรียนเรียนมำตั้งแต่เด็กๆ ดู Keyword ที่เหลืออยู่ คือ ประมวลพระธรรมเทศนำ ประวัติ และเรื่องรำวต่ำงๆ นักเรียนจะเห็นทันทีว่ำต้องเกี่ยวข้องกับ ตัวเลือกที่ 4 สุตตันตปิฎก แน่นอน ดังนั้นคำตอบจึงอยู่ที่ตัวเลือกนี้ โดยพระสุตตันตปิฎก เรียกชื่อย่อๆ ว่ำ พระสูตร มี 21,000 พระธรรมขันธ์ กล่ำวถึงพระ ธรรมเทศนำที่พระพุทธเจ้ำทรงแสดงไว้ในที่ต่ำงๆ ตัวเลือกที่ 2 วินัยปิฎก เรียกชื่อย่อๆ ว่ำ พระวินัย มี 21,000 พระธรรมขันธ์ กล่ำวถึงกฎระเบียบและข้อบังคับต่ำงๆ ของ ภิกษุและภิกษุณี ตัวเลือกที่ 5 อภิธรรมปิฎก เรียกชื่อย่อๆ ว่ำ พระอภิธรรม มี 42,000 พระธรรมขันธ์ กล่ำวถึงหลักคำสอนที่เป็นหลักวิชำ 8) ตอบ 1. กรรมตำมมูลเหตุ (ระดับควำมยำก ) เนื้อหำที่ใช้ถำม  หลักธรรมทำงพระพุทธศำสนำ (ในหมวดสมุทัย โยงกับหลักนิยำม 5) วิเครำะห์ข้อสอบ  โจทย์ข้อนี้ถำมเกี่ยวกับประเภทของกรรม โดยให้โยงกับกุศลกรรมและอกุศลกรรม หำกนักเรียนทรำบ อยู่แล้วว่ำกรรมคือกำรกระทำที่ประกอบด้วยเจตนำของมนุษย์ ก็ไม่มีอะไรยำกเกินไป พิจำรณำจำกตัวเลือกดีๆ โดยให้ดูที่ ควำมหมำยของคำว่ำกุศลและอกุศลเป็นหลักแล้วจึงโยงหำคำตอบ สรุปคำตอบ  กุศลกรรมและอกุศลกรรมจัดเป็นกรรมประเภทตำมมูลเหตุของกำรกระทำ (ตัวเลือกที่ 1) โดยอกุศลกรรม เป็นกรรมชั่วเกิดจำกอกุศลมูล ในขณะที่กุศลกรรมเป็นกรรมดีเกิดจำกกุศลมูล ตัวเลือกที่ 2 กรรมที่ให้ผลตำมหน้ำที่ แบ่งเป็น กรรมแต่งให้เกิด (ชนกกรรม) กรรมสนับสนุน (อุปัตถัมภกกรรม) กรรมบีบคั้น (อุปปีฬกกรรม) กรรมตัดรอน (อุปฆำตกกรรม) ตัวเลือกที่ 3 กรรมที่ให้ผลตำมกำรแสดงออก แบ่งเป็น กำยกรรม (กำรกระทำทำงกำย) วจีกรรม (กำรกระทำทำงวำจำ) และมโนกรรม (กำรกระทำทำงใจ) ตัวเลือกที่ 4 กรรมที่ให้ผลตำมกำลเวลำ แบ่งเป็น กรรมที่ผลในปัจจุบันหรือในชำตินี้หรือภพนี้ (ทิฎฐธรรมเวทนียกรรม) กรรมที่ให้ผลในอนำคตหรือในชำติหน้ำ (อุปปัชชเวทนียกรรม) กรรมที่ให้ผลในชำติต่อๆ ไป (อปรำปริยเวทนียกรรม) กรรมที่ เลิกให้ผลหรือไม่มีผลอีก (อโหสิกรรม) ตัวเลือกที่ 5 กรรมที่ให้ผลตำมลำดับควำมแรง แบ่งเป็น กรรมหนัก-ให้ผลก่อนกรรมอื่น (ครุกรรม) กรรมที่ทำบ่อยๆ จนเคยชิน (พหุลกรรมหรืออำจิณณกรรม) กรรมจวนเจียนหรือกรรมที่ทำเมื่อใกล้ตำย (อำสันนกรรม) กรรมสักว่ำทำ (กตัตตำ กรรมหรือกตัตตำวำปนกรรม) 9) ตอบ 4. กรซื้อรถยนต์รุ่นเล็กเพรำะใช้ได้ดี ประหยัดน้ำมัน (ระดับควำมยำก ) เนื้อหำที่ใช้ถำม  กำรเจริญปัญญำแบบโยนิโสมนสิกำร วิเครำะห์ข้อสอบ  โจทย์ข้อนี้ให้นักเรียนหำตัวเลือกที่แสดงถึงวิธีคิดแบบคุณค่ำแท้-เทียม เป็นกำรถำมในเนื้อหำเรื่องวิธี คิดตำมหลักโยนิโสมนิกำร แม้นักเรียนจะไม่ทรำบเกี่ยวกับวิธีคิดเช่นนี้โดยตรง แต่ครูเชื่อว่ำเพียงนักเรียนกวำดสำยตำดูจำก ตัวเลือกนักเรียนก็จะพบคำตอบแล้ว เพรำะตัวเลือกที่เป็นคำตอบมันดูเด่นสุดจำกในบรรดำตัวเลือกทั้งหมดเลย สรุปคำตอบ  ตัวเลือกที่แสดงถึงวิธีคิดแบบคุณค่ำแท้-เทียม คือ ตัวเลือกที่ 4 กรซื้อรถยนต์รุ่นเล็กเพรำะใช้ได้ดี ประหยัดน้ำมัน โดยคุณค่ำแท้-เทียม ก็คือ กำรพิจำรณำเป็นว่ำสิ่งที่เรำเลือกนั้น มันมีคุณค่ำแท้จริง หรือไม่ หรือมันเป็นเพียงแค่ รูปที่คนยกว่ำดี เป็นแฟชั่น (สมัยนิยม) หรือเพียงมีคนบอกต่อ รับประกันว่ำดี ทั้งๆ ที่ตัวเรำยังไม่ได้ลองใช้หรือบริโภคสิ่งที่เรำจะ เลือกนี้เลย ในสถำนกำรณ์ของตัวเลือกที่ 4 ชัดเจน ว่ำกรมีเหตุผลดีที่สุด เพรำะรู้จักคิดพิจำรณำเองโดยคำนึงถึงประโยชน์ของรถ เล็กอย่ำงแท้จริง ไม่ได้ถูกชักจูงไปตำมกระแสสังคม หรือเพียงมีคนมำชักจูง หรือเน้นเพียงรูปลักษณ์ภำยนอกของสิ่งที่เลือกบริโภค ดังตัวเลือกที่เหลือเท่ำนั้น
  • 7. 10) ตอบ 4. 8 สัปดำห์ (ระดับควำมยำก ) เนื้อหำที่ใช้ถำม  วันสำคัญทำงพระพุทธศำสนำ (โยงกับควำมรู้รอบตัว) วิเครำะห์ข้อสอบ  โจทย์ข้อนี้ถำมเกี่ยวกับคำว่ำ สังฆชยันตี ว่ำเกิดหลังพุทธชยันตี เป็นเวลำนำนเท่ำใด เชื่อว่ำนักเรียน คงจะคุ้นเคยแต่คำว่ำ พุทธชยันตี แต่ไม่คุ้นกับคำว่ำ สังฆชยันตี อย่ำงแน่นอน จริงๆ ข้อนี้เหมือนจะยำก แต่เอำเข้ำจริงแล้วไม่มี อะไรเลย เพียงนักเรียนแม่นเกี่ยวกับวันสำคัญทำงพุทธศำสนำจะพบคำตอบได้ไม่ยำก สรุปคำตอบ  สังฆชยันตีเกิดหลังพุทธชยันตีนำน 8 สัปดำห์ (ตัวเลือกที่ 4) ทั้งนี้เพรำะพุทธชยันตี หมำยถึง เทศกำล สำคัญทำงพุทธศำสนำนิกำยเถรวำทที่มีควำมเกี่ยวข้องกับวันวิสำขบูชำ (ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6) เป็นกำรฉลองกำรครบรอบ 2,600 ปี (หรือ 2,500 ปี แห่งกำรปรินิพพำน) แห่งกำรตรัสรู้ของพระพุทธเจ้ำ (พระพุทธเจ้ำประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพำน ในวัน เดียวกันแต่ต่ำงปี ซึ่งก็ตรงกับวันวิสำขบูชำ) ดังนั้นถ้ำถำมว่ำแล้วสังฆชยันตี คืออะไร คำตอบก็คือ เทศกำลที่เกี่ยวข้องกับวัน อำสำฬหบูชำ (ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8) เป็นกำรฉลองกำรครบรอบกำรเกิดของพระสงฆ์-สังฆะ (พระอัญญำโกณฑัญญะ คือ พระสงฆ์ รูปแรกของพุทธศำสนำ ซึ่งท่ำนได้บวชในวันอำสำฬหบูชำ หรือวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 นั่นเอง) วันอำสำฬหบูชำอยู่ในเดือน 8 ดังนั้นจึงต้องห่ำงจำกวันวิสำขบูชำ ซึ่งเป็นกำรฉลองกำรตรัสรู้ของพระพุทธเจ้ำอยู่ 8 สัปดำห์ คำตอบจึงไปอยู่ที่ตัวเลือกที่ 4 11) ตอบ 3. 6 แสนบำท (ระดับควำมยำก ) เนื้อหำที่ใช้ถำม  นิติศำสตร์-กฎหมำยมรดก วิเครำะห์ข้อสอบ  โจทย์ข้อนี้ถำมเกี่ยวกับกฎหมำยมรดกโดยยกสถำนกำรณ์มำให้ จัดว่ำยำกมำกๆ เพรำะคงไม่มี โรงเรียนใดมำสอนนักเรียนถึงขนำดให้นั่งแบ่งมรดกเช่นนี้ ยกเว้นแต่ว่ำนักเรียนต้องสอบเข้ำคณะนิติศำสตร์และเรียนมำเท่ำนั้น แถมโจทย์ข้อนี้ยังหลอกนักเรียนเพิ่มด้วย จึงถือเป็นโจทย์ที่โหดจริงๆ สำหรับข้อสอบฉบับนี้ เข้ำถึงเนื้อหำ  เมื่อถำมเกี่ยวกับมรดกและไม่มีพินัยกรรมเป็นตัวกำหนดมำ สิ่งแรกที่นักเรียนควรทรำบ คือ ทำยำทโดย ธรรมซึ่งจะมีสิทธิในกำรรับมรดก ตำมประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ มำตรำ 1629 ได้แบ่งลำดับทำยำทโดยธรรม ไว้ 6 ลำดับ คือ 1) ผู้สืบสันดำน 2) บิดำมำรดำ 3) พี่น้องร่วมบิดำมำรดำเดียวกัน 4) พี่น้องร่วมบิดำหรือร่วมมำรดำเดียวกัน 5) ปู่ ย่ำ ตำ ยำย 6) ลุง ป้ำ น้ำ อำ คู่สมรสที่ยังมีชีวิตอยู่นั้นก็เป็นทำยำทโดยธรรม ภำยใต้ข้อบังคับของบทบัญญัติพิเศษแห่งมำตรำ 1635 เมื่อเรำได้ลำดับทำยำทโดยธรรมมำแล้ว เรำจะเริ่มนำมำโยงกับสถำนกำรณ์ที่โจทย์ให้ เมื่อพิจำรณำจำกโจทย์จะเห็นว่ำไม่มีคู่ สมรส (นำยบุญน้อย ผู้ตำยเป็นม่ำย) มีแต่พ่อแม่ น้องชำย และพี่สำว ด้วยเหตุนี้เรำจึงตัดส่วนคู่สมรสออกไป และมำพิจำรณำดู มำตรำที่บ่งบอกเรื่องกำรรับมรดกเลย มำตรำ 1630 ระบุว่ำ ตรำบใดที่ทำยำทซึ่งยังมีชีวิตอยู่ หรือมีผู้รับมรดกแทนที่ยังไม่ขำดสำยแล้วแต่กรณีในลำดับหนึ่งๆ ที่ระบุไว้ในมำตรำ 1629 ทำยำทที่อยู่ในลำดับถัดลงมำไม่มีสิทธิในทรัพย์มรดกของผู้ตำยเลย ถ้ำพิจำรณำเพียงเท่ำนี้ นักเรียนคงคิดว่ำคำตอบน่ำจะอยู่ที่ตัวเลือกที่ 5 1 ล้ำน 2 แสนบำท แน่นอน แต่จะบอกว่ำยังไม่ถูก นะ เขำหลอกมำ มันมีข้อควำมอีกท่อนหนึ่งต่อจำกมำตรำ 1630 ระบุว่ำ แต่ควำมในวรรคก่อนนี้มิให้ใช้บังคับในกรณีเฉพำะที่มีผู้สืบสันดำนคนใดยังมีชีวิตอยู่หรือมีผู้รับมรดกแทนที่กันแล้วแต่ กรณี และมีบิดำมำรดำยังมีชีวิตอยู่ ในกรณีเช่นนั้นให้บิดำมำรดำได้ส่วนแบ่งเสมือนหนึ่งว่ำเป็นทำยำทชั้นบุตร จำกข้อควำมในกฎหมำยดังกล่ำว นักเรียนคงเห็นแล้วว่ำไม่มีทำงที่เรำจะตอบตัวเลือกที่ 5 ได้ เพรำะพ่อแม่ของนำยบุญน้อย (ผู้ตำย) ยังมีชีวิตอยู่ ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนำยบุญน้อยจึงต้องได้มรดกจำกนำยบุญน้อยด้วยเช่นกัน โดยจะได้เท่ำกับทำยำทชั้น บุตร คือ น้องนิดหน่อย ลูกสำวของนำยบุญน้อย เมื่อได้ครึ่งหนึ่งจึงเท่ำกับ 6 แสนบำท นั่นเอง (ตัวเลือกที่ 3)
  • 8. สรุปคำตอบ  จำกเนื้อหำที่กล่ำวมำทั้งหมด เรำจึงทรำบว่ำน้องนิดหน่อยจะได้มรดก 6 แสนบำท ในตัวเลือกที่ 3 โดย อีก 6 แสนบำทจะเป็นของพ่อแม่ของนำยบุญน้อย ซึ่งก็คือ ปู่และย่ำของน้องนิดหน่อย นั่นเอง 12) ตอบ 3. ตำแหน่งทำงสังคม (ระดับควำมยำก ) เนื้อหำที่ใช้ถำม  สังคมวิทยำ วิเครำะห์ข้อสอบ  โจทย์ข้อนี้ถำมในเนื้อหำวิชำสังคมวิทยำเกี่ยวกับควำมหมำยของคำว่ำ สถำนภำพทำงสังคม เป็นกำร ถำมควำมหมำยตรงๆ ไม่มีอะไรยำก พิจำรณำตัวเลือกดีๆ แล้วนักเรียนจะพบคำตอบ สรุปคำตอบ  สถำนภำพทำงสังคม มีควำมหมำยสอดคล้องกับตัวเลือกที่ 3 ตำแหน่งทำงสังคม มำกที่สุด โดย สถำนภำพทำงสังคม หมำยถึง ตำแหน่งที่ได้จำกกำรเป็นสมำชิกของสังคม โดยตำแหน่งนี้จะเป็นตัวกำหนดสิทธิ หน้ำที่ และ ควำมรับผิดชอบแก่สมำชิกในอีกขั้นหนึ่ง ตัวเลือกที่ 1 หน้ำที่ทำงสังคม จะถูกกำหนดผ่ำนสถำนภำพอีกทีหนึ่ง ควำมหมำยของคำว่ำ หน้ำที่ จะมีควำมเกี่ยวข้องกับ บทบำททำงสังคม (ตัวเลือกที่ 2) ซึ่งมีควำมหมำยว่ำ กำรกระทำตำมสิทธิและหน้ำที่ของบุคคลตำมสถำนภำพที่ตนดำรงอยู่ ตัวเลือกที่ 4 แบบแผนทำงสังคม และ ตัวเลือกที่ 5 มำตรฐำนทำงสังคม 2 คำนี้ จะมีควำมเกี่ยวข้องกับเรื่องกำรจัด ระเบียบทำงสังคม ในขอบเขตของเรื่องบรรทัดฐำนทำงสังคม 13) ตอบ 3. ศำลรัฐธรรมนูญ (ระดับควำมยำก ) เนื้อหำที่ใช้ถำม  นิติศำสตร์-กฎหมำยมหำชน วิเครำะห์ข้อสอบ  โจทย์ข้อนี้นับว่ำยำกอยู่ ถำมเกี่ยวกับอำนำจหน้ำที่ในหน่วยงำนซึ่งเกี่ยวข้องกับเรื่องกำรปกครองและ กฎหมำย โดยยกสถำนกำรณ์มำให้ คิดว่ำนักเรียนคงเคยได้ยินชื่อขององค์กรต่ำงๆ ที่โจทย์กำหนดมำเป็นตัวเลือกอยู่บ้ำง ให้ พิจำรณำที่ Keyword จำกสถำนกำรณ์ที่โจทย์ถำมให้ดี แล้วจึงไปเชื่อมโยงหำคำตอบ วิเครำะห์ตัวเลือก  หน่วยงำนในตัวเลือกต่อไปนี้ ไม่มีบทบำทหน้ำที่ดังที่โจทย์ถำม ตัวเลือกที่ 1 อัยกำรสูงสุด จะมีหน้ำที่ให้คำแนะนำและควำมช่วยเหลือทำงกฎหมำยต่อประชำชน ให้คำปรึกษำและตรวจ ร่ำงสัญญำหรือเอกสำรทำงกฎหมำยให้แก่รัฐบำลและหน่วยงำนของรัฐ ตลอดจนดำเนินกำรเกี่ยวกับกำรบังคับคดีแพ่งหรือคดี ปกครองแทนรัฐบำลหรือหน่วยงำนของรัฐ ตัวเลือกที่ 2 ศำลปกครอง มีอำนำจพิจำรณำพิพำกษำคดีพิพำทระหว่ำงหน่วยรำชกำร หน่วยงำนของรัฐ รัฐวิสำหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือองค์กรตำมรัฐธรรมนูญ หรือเจ้ำหน้ำที่ของรัฐกับเอกชน หรือระหว่ำงหน่วยรำชกำร หน่วยงำนของรัฐ รัฐวิสำหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือองค์กรตำมรัฐธรรมนูญหรือเจ้ำหน้ำที่ของรัฐด้วยกันเอง ตัวเลือกที่ 4 คณะกรรมกำรป้องกันและปรำบปรำมกำรทุจริตแห่งชำติ หรือ ปปช. ดูแลเกี่ยวกับคดีร่ำรวยผิดปกติ กำร กระทำควำมผิดฐำนทุจริตต่อหน้ำที่ของเจ้ำหน้ำที่ของรัฐตั้งแต่ผู้บริหำรระดับสูงหรือข้ำรำชกำรซึ่งดำรงตำแหน่งตั้งแต่ผู้อำนวยกำรกอง หรือเทียบเท่ำขึ้นไป ตรวจสอบควำมถูกต้องและควำมมีอยู่จริงรวมทั้งควำมเปลี่ยนแปลงของทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรง ตำแหน่งทำงกำรเมือง ตัวเลือกที่ 5 ศำลฎีกำแผนกคดีอำญำของผู้ดำรงตำแหน่งทำงกำรเมือง จะมีหน้ำที่เหมือนศำลฎีกำ คือ คดีที่รัฐธรรมนูญ หรือกฎหมำยบัญญัติให้เสนอต่อศำลฎีกำโดยตรง และคดีที่อุทธรณ์หรือฎีกำคำพิพำกษำหรือคำสั่งของศำลชั้นต้นหรือศำลอุทธรณ์ ตำมที่กฎหมำยบัญญัติ รวมถึงคดีที่เกี่ยวกับกำรเลือกตั้งกำรเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งสมำชิกสภำผู้แทนรำษฎรและกำรได้มำซึ่งสมำชิก วุฒิสภำ สรุปคำตอบ  หน่วยงำนที่มีหน้ำที่ดำเนินกำรตรวจสอบข้อเท็จจริงดังที่โจทย์ถำม คือ ตัวเลือกที่ 3 ศำลรัฐธรรมนูญ Keyword สำคัญจำกโจทย์อยู่ที่ มิได้เป็นไปตำมวิถีทำงที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ คำๆ นี้บ่งชัดว่ำต้องเกี่ยวข้องกับศำล รัฐธรรมนูญแน่นอน โดยหนึ่งในหน้ำที่ของศำลรัฐธรรมนูญ คือ อำนำจหน้ำที่ในกำรวินิจฉัยมติหรือข้อบังคับของพรรคกำรเมือง กำรพิจำรณำอุทธรณ์ของสมำชิกสภำผู้แทนรำษฎรและกำรวินิจฉัยกรณีบุคคลหรือพรรคกำรเมืองใช้สิทธิและเสรีภำพในทำงกำรเมือง โดยมิชอบด้วยรัฐธรรมนูญ
  • 9. 14) ตอบ 5. คณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชำชำติ (ระดับควำมยำก ) เนื้อหำที่ใช้ถำม  รัฐศำสตร์-สิทธิมนุษยชน วิเครำะห์ข้อสอบ  โจทย์ข้อนี้ถำมเกี่ยวกับหน่วยงำนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องกำรคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ดูเผินๆ เหมือนจะง่ำย แต่จริงๆ แล้วไม่ง่ำยเลย เพรำะไปโยงกับของสำกล โดยภำพรวมวัดควำมรู้รอบตัว กำรจะหำคำตอบได้ถูกต้อง นักเรียนจะต้อง ติดตำมข่ำวสำรเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยตรง สรุปคำตอบ  องค์กรที่มีอำนำจในกำรจัดตั้งคณะกรรมำธิกำรสิทธิมนุษยชนก่อนปี พ.ศ. 2549 คือ ตัวเลือกที่ 5 คณะ มนตรีเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชำชำติ (Economic and Social Council; ECOSOC) โดยคณะกรรมำธิกำรสิทธิ มนุษยชนที่ถูกจัดตั้งมีชื่อว่ำ คณะกรรมกำรสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชำชำติ (United Nations Commission on Human Rights; UNCHR) คณะกรรมกำรนี้มีหน้ำที่เกี่ยวกับกำรตรวจสอบ ควบคุม และรำยงำนผลเกี่ยวกับสถำนกำรณ์ด้ำนสิทธิ มนุษยชนของประเทศต่ำงๆ ซึ่งเป็นไปตำมปฏิญญำสำกลว่ำด้วยสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชำชำติ จัดเป็นองค์กรที่จัดตั้งขึ้นมำนับ แต่แรกเริ่มที่สหประชำชำติก่อตั้ง อย่ำงไรก็ตำมในปี ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549) ด้วยกำรถูกวิพำกษ์วิจำรณ์เกี่ยวกับควำมไม่ยุติธรรมในกำรดำเนินงำน รวมถึงกำรปล่อยให้ประเทศที่มีปัญหำด้ำนสิทธิมนุษยชนเข้ำเป็นสมำชิก คณะกรรมกำรสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชำชำติจึงถูกยุบ ลง และตั้งองค์กรใหม่ชื่อว่ำ คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชำชำติ (United Nations Human Rights Council; UNHRC) หน่วยงำนนี้เปลี่ยนจำกสังกัด (หรือถูกจัดตั้งโดย) คณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชำชำติ มำเป็นสมัชชำ ใหญ่แห่งสหประชำชำติ (United Nations General Assembly) อำนำจหน้ำที่ยังคงเหมือนเก่ำ คือ ดูแลเกี่ยวกับสถำนกำรณ์ สิทธิมนุษยชนในประเทศต่ำงๆ ผ่ำนกำรพิจำรณำในประเด็นเกี่ยวกับเสรีภำพในกำรรวมกลุ่ม (กำรชุมนุม) เสรีภำพในกำรแสดง ควำมคิดเห็น เสรีภำพในกำรนับถือศำสนำและมีควำมเชื่อของตน สิทธิสตรี สิทธิทำงเชื้อชำติและสิทธิของชนกลุ่มน้อย 15) ตอบ 4. มำรยำท (ระดับควำมยำก ) เนื้อหำที่ใช้ถำม  สังคมวิทยำ-วัฒนธรรม วิเครำะห์ข้อสอบ  โจทย์ข้อนี้ให้นักเรียนหำประเภทของวัฒนธรรม โดยกำหนดเกณฑ์จำกโจทย์มำให้ ข้อนี้เป็นถำมเชิง ควำมจำ ไม่มีอะไรยำก เชื่อว่ำนักเรียนทุกคนจะหำคำตอบได้ เข้ำถึงเนื้อหำ  หำกเรำจัดแบ่งประเภทของวัฒนธรรมตำมเนื้อหำ จะแบ่งได้เป็น 4 ประเภท คือ คติธรรม วัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับคุณธรรม จริยธรรม แนวคิด เป็นวัฒนธรรมที่เปลี่ยนแปลงได้ยำกที่สุด (สัมพันธ์กับตัวเลือกที่ 2 ศำสนำ และตัวเลือกที่ 3 ศีลธรรม) เนติธรรม วัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับกฎระเบียบของสังคม (สัมพันธ์กับตัวเลือกที่ 1 จำรีต และตัวเลือกที่ 5 กฎหมำย) สหธรรม วัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับสังคม หลักในกำรอยู่ร่วมกัน (สัมพันธ์กับตัวเลือกที่ 4 มำรยำท) วัตถุธรรม วัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับวัตถุ สรุปคำตอบ  จำกเนื้อหำที่กล่ำวมำ วัฒนธรรมสหธรรมจึงสัมพันธ์กับตัวเลือกที่ 4 มำรยำท 16) ตอบ 3. ช่วงกำรเกิดวิกฤตศรัทธำ (ระดับควำมยำก ) เนื้อหำที่ใช้ถำม  รัฐศำสตร์-กำรเมืองกำรปกครองของไทย (เน้นในประเด็นประวัติศำสตร์กำรเมือง) วิเครำะห์ข้อสอบ  โจทย์ข้อนี้นำข้อสังเกตเกี่ยวกำรเมืองไทยจำกนักวิชำกำรมำเป็นคำถำมโยงกับเหตุกำรณ์ทำงกำรเมือง ในปี พ.ศ. 2549 โดยมี Keyword หลักมำเป็นคำถำม คือ วงจรอุบำทว์ ก่อนหำคำตอบจำกโจทย์นี้นักเรียนจะต้องเข้ำใจก่อนว่ำ วงจรอุบำทว์คืออะไร เมื่อเข้ำใจอย่ำเพิ่งแน่ใจรีบฝนคำตอบ ให้ดูที่ช่วงเวลำที่เกิดสถำนกำรณ์กำรเมืองที่เขำยกมำให้ดี คือ สิงหำคม พ.ศ. 2549 หำกวิเครำะห์เชื่อมโยงผิดพลำดก็เป็นไปได้ว่ำนักเรียนอำจเสียคะแนนจำกโจทย์นี้ได้ง่ำยๆ
  • 10. เข้ำถึงเนื้อหำ  คำว่ำ วงจรอุบำทว์ ถูกนำมำใช้กล่ำวถึงกำรเมืองไทยนับแต่ที่มีกำรปฏิวัติเปลี่ยนแปลงกำรปกครองมำเป็น แบบประชำธิปไตยจนถึงช่วงปี พ.ศ. 2516 ซึ่งหมำยถึง กำรเมืองที่วนเวียนอยู่กับกำรทำรัฐประหำร (โดยฝ่ำยทหำร) นำไปสู่กำร ฉีกรัฐธรรมนูญฉบับเดิม แล้วจึงนำไปสู่กำรเขียนรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และต่อมำก็จัดให้มีกำรเลือกตั้ง และย้อนกลับไปยังกำรทำ รัฐประหำรอีก ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ำ ประชำธิปไตยไม่ได้มีกำรเคลื่อนไหวใดๆ ในช่วงเวลำนี้เลย กำรรัฐประหำรจะมีเงื่อนไขหลักอยู่ ที่กำรจัดสรรผลประโยชน์ที่ไม่ลงตัวระหว่ำงกลุ่มต่ำงๆ หรือแม้แต่กำรไม่สำมำรถทนกับกระบวนกำรทำงรัฐสภำได้ (กรณีหลังนี้ คือ กำรรัฐประหำรตนเองของจอมพลถนอม กิตติขจร ต้นเหตุสำคัญที่จะนำไปสู่เหตุกำรณ์ 14 ตุลำคม พ.ศ. 2516) รวมไปถึงควำม ขัดแย้งทำงอำนำจระหว่ำงกลุ่มกำรเมืองด้วยกันเอง หรือระหว่ำงกลุ่มกำรเมืองกับกลุ่มทหำร แม้หลังเหตุกำรณ์ 14 ตุลำคม พ.ศ. 2516 กำรรัฐประหำรจะมีน้อยลง และเหมือนจะสิ้นสุดไปแล้วภำยหลังเหตุกำรณ์ พฤษภำทมิฬ ในช่วงปี พ.ศ. 2535 แต่แล้วกำรรัฐประหำรก็กลับมำเกิดขึ้นอีกครั้งในวันที่ 19 กันยำยน พ.ศ. 2549 โดยเป็น กำรรัฐประหำรที่นำโดย พลเอกสนธิ บุณยรัตกลิน (เรียกกลุ่มของตนเองว่ำ คณะปฏิรูปกำรปกครองในระบอบประชำธิปไตยอันมี พระมหำกษัตริย์เป็นประมุข) เพื่อล้มอำนำจของ พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร (ขณะนั้นเป็นรักษำกำรนำยกรัฐมนตรี) นำไปสู่ กำรยกเลิกรัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทย พุทธศักรำช 2540 สั่งยุบสภำ ห้ำมกำรประท้วงและกิจกรรมทำงกำรเมืองต่ำงๆ โดย กำรรัฐประหำรครั้งนั้นเกิดขึ้นก่อนกำรเลือกตั้งทั่วไปในเดือนต่อมำ (ตุลำคม) จำกเหตุกำรณ์ในครั้งนั้นจึงทำให้นักวิชำกำรหันกลับมำกล่ำวถึง กำรเมืองไทยในลักษณะวงจรอุบำทว์อีกครั้ง ประกอบ กับสถำนกำรณ์กำรเมืองนับแต่รัฐประหำรขำดเสถียรภำพหลำยครั้ง จนทำให้นักวิชำกำรรวมถึงกลุ่มคนต่ำงๆ ตั้งข้อสังเกตกันว่ำฝ่ำย ทหำรจะทำรัฐประหำรอีกไหม (จวบจนปัจจุบัน คำถำมนี้ก็ยังคงมีให้ได้ยินบ่อยๆ) ทั้งนี้เพรำะกำรเมืองไทยในช่วงหลังรัฐประหำร ถึงปัจจุบัน รัฐบำลหลำยชุดต้องเผชิญกับวิกฤตศรัทธำจำกประชำชน (แม้จะมีประชำชนกลุ่มหนึ่งสนับสนุน แต่อีกกลุ่มกลับต่อต้ำน ผ่ำนกำรประท้วงขับไล่ด้วยวิธีต่ำงๆ) วิเครำะห์ตัวเลือก  จำกเนื้อหำที่กล่ำวมำ นักเรียนอำจจะดูเหมือนว่ำ ตัวเลือกที่ 2 ช่วงกำรทำรัฐประหำร เป็นคำตอบ แต่ จะบอกนักเรียนว่ำผิดถนัด ดูโจทย์ดีๆ เขำให้มำว่ำช่วงเดือนสิงหำคม พ.ศ. 2549 แสดงให้เห็นว่ำกำรรัฐประหำรยังไม่เกิดขึ้น ดังนั้นเรำจึงต้องพิจำรณำที่ตัวเลือกโดยโยงกับสถำนกำรณ์จริง ตัวเลือกที่ 5 ช่วงกำรประกำศรัฐธรรมนูญ ผิด 100% รัฐธรรมนูญที่ใช้อยู่ขณะนั้น คือ รัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทย พุทธศักรำช 2540 ซึ่งประกำศใช้มำตั้งแต่เดือนสิงหำคม พ.ศ. 2540 แล้ว ดังนั้นไม่มีทำงเป็นช่วงกำรประกำศรัฐธรรมนูญ แน่นอน ตัวเลือกที่ 4 ช่วงกระบวนกำรทำงรัฐสภำ ผิดแน่นอน เพรำะในช่วงนั้นรัฐบำลของพันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร เป็น รัฐบำลรักษำกำร (กำรเลือกตั้งในเดือนเมษำยน พ.ศ. 2549 ซึ่งเป็นที่มำของรัฐบำลที่นำโดยพันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร ถูก ศำลตันสินให้เป็นโมฆะ และจะจัดให้มีกำรเลือกตั้งใหม่ในเดือนตุลำคมของปีเดียวกัน) กระบวนกำรทำงรัฐสภำจึงยังไม่เกิดขึ้น เต็มรูปแบบ ตัวเลือกที่ 1 ช่วงกำรเลือกตั้ง ตัวเลือกนี้ดูเหมือนจะถูก เพรำะนักเรียนอำจเห็นว่ำกำรเลือกตั้งจะเกิดในช่วงเดือนตุลำคม ดังนั้นในช่วงเวลำดังกล่ำวจึงควรเป็นช่วงกำรเลือกตั้งได้ แต่จริงๆ ผิด เพรำะช่วงกำรเลือกตั้งที่ถูกต้องก็ควรอยู่ในช่วงกันยำยนถึง ตุลำคมมำกกว่ำ (ใกล้ระยะเวลำเลือกตั้งมำกกว่ำ) อีกทั้งหำกพิจำรณำในมุมมองของนักวิชำกำร ช่วงสิงหำคมจะไม่ได้ถูกมองว่ำเป็น กำรเลือกตั้งแต่อย่ำงใด เพรำะกำรเลือกตั้ง ที่จะเกิดยังไม่มีประเด็นสำคัญอะไรที่ไปโยงกับกำรรัฐประหำรซึ่งเป็นต้นตอของวงจร อุบำทว์ ดังที่นักวิชำกำรกล่ำว ได้เท่ำกับเรื่องวิกฤตศรัทธำ (ดูคำอธิบำยในส่วนสรุปคำตอบ) สรุปคำตอบ  ตัวเลือกที่เป็นคำตอบของโจทย์นี้ คือ ตัวเลือกที่ 3 ช่วงกำรเกิดวิกฤตศรัทธำ ทั้งนี้นักเรียนสำมำรถ พิจำรณำได้จำกกำรที่ตลอดปี พ.ศ. 2549 (และก่อนหน้ำนั้น) รัฐบำลของพันตำรวจโท ทักษิณ ต้องเผชิญกับกำรต่อต้ำนของกลุ่ม พันธมิตรประชำชนเพื่อประชำธิปไตย ที่นำโดยนำยสนธิ ลิ้มทองกุล (กลุ่มเสื้อเหลือง) (มีกำรวิพำกษ์วิจำรณ์กันว่ำเป็นเพรำะขัด ผลประโยชน์กับพันตำรวจโททักษิณ เพรำะในตอนแรกค่อนข้ำงเขียนข่ำวในเชิงสนับสนุนรัฐบำล) และยิ่งถูกวิพำกษ์วิจำรณ์มำก ขึ้นเมื่อขำยหุ้นเกี่ยวกับกำรสื่อสำรให้บริษัทเทมำเส็กของสิงคโปร์ และแม้หลังกำรเลือกตั้งในเดือนเมษำยน พ.ศ. 2549 ก็ถูก ตัดสินอีกว่ำกำรเลือกตั้งครั้งนั้นเป็นโมฆะ เนื่องจำกพรรคกำรเมืองอื่นๆ ไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง ปรำกฏกำรณ์เหล่ำนี้นักวิชำกำร สรุปว่ำ คือ วิกฤตศรัทธำที่รัฐบำลของพันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร เผชิญ และจะกลำยเป็นต้นเหตุสำคัญประกำรหนึ่งที่จะเกิด
  • 11. รัฐประหำรในเดือนกันยำยน พ.ศ. 2549 โดยฝ่ำยทหำร ซึ่งก็มีกำรกล่ำวเป็นนัยอีกว่ำเกี่ยวกับควำมขัดแย้งในผลประโยชน์ เรื่อง กำรแต่งตั้งตำแหน่งในกองทัพ (ในควำมเกี่ยวข้องกับเรื่องกำรฉ้อโกงของรัฐบำล ควำมไร้ประสิทธิภำพในกำรบริหำร กำรจัดสรร ผลประโยชน์ที่ไม่ลงตัวระหว่ำงกลุ่ม ท้ำยสุดก็มำลงเอยด้วยกำรล้มระบบเดิมผ่ำนกำรรัฐประหำร แล้วก็มำได้รัฐบำลชุดใหม่ เข้ำ สไตล์วงจรอุบำทว์แบบเดิมๆ) 17) ตอบ 5. สหรัฐอเมริกำ (ระดับควำมยำก ) เนื้อหำที่ใช้ถำม  รัฐศำสตร์-กำรเมืองระหว่ำงประเทศ วิเครำะห์ข้อสอบ  โจทย์ข้อนี้ถำมเกี่ยวกับควำมสัมพันธ์ทำงกำรทูต ดูจำกโจทย์เหมือนจะยำกแต่จริงๆ ไม่ยำกอย่ำงที่คิด อีกทั้งคำถำมข้อนี้เป็นกำรวัดควำมรู้รอบตัว เนื่องจำกควำมสัมพันธ์ระหว่ำงไทยกับประเทศที่โจทย์ถำมจะครบรอบ 180 ปี ในปี ค.ศ. 2012 (ปีกำรศึกษำที่ผ่ำนมำ นักเรียนที่ทำข้อสอบชุดนี้ในช่วงต้นปีจึงควรมีพื้นควำมรู้) วิเครำะห์ตัวเลือก  หำกนักเรียนมีพื้นฐำนควำมรู้ทำงประวัติศำสตร์ซักนิดจะทรำบทันทีว่ำ ประเทศไทยไม่มีทำงสถำปนำ ควำมสัมพันธ์กับประเทศเหล่ำนี้ก่อนสงครำมโลกครั้งที่ 2 แน่นอน เพรำะประเทศเหล่ำนี้จะเป็นเอกรำช รวมถึงถือกำเนิดขึ้นหลัง สงครำมโลกครั้งที่ 2 ทั้งสิ้น อันเนื่องจำกกำรเรียกร้องเอกรำช / ปัญหำทำงกำรเมืองในช่วงสงครำมเย็น (ยกเว้นออสเตรเลียที่ ได้รับเอกรำชจำกอังกฤษในช่วงระหว่ำงสงครำมโลกครั้งที่ 1-2) ตัวเลือกที่ 1 อินเดีย ไทยสถำปนำควำมสัมพันธ์ทำงกำรทูตกับอินเดียในวันที่ 1 สิงหำคม ค.ศ. 1947 (หลัง สงครำมโลกครั้งที่สอง 2 ปี) ในระดับอัครรำชทูต และยกระดับเป็นเอกอัครรำชทูตในวันที่ 3 ตุลำคม ค.ศ. 1951 ตัวเลือกที่ 4 ออสเตรเลีย ไทยสถำปนำควำมสัมพันธ์ทำงกำรทูตกับออสเตรเลีย ในวันที่ 19 ธันวำคม ค.ศ. 1952 (หลัง สงครำมโลกครั้งที่สอง 7 ปี) ตัวเลือกที่ 2 มำเลเซีย ไทยสถำปนำควำมสัมพันธ์ทำงกำรทูตกับมำเลเซียในวันที่ 31 สิงหำคม ค.ศ. 1957 (หลัง สงครำมโลกครั้งที่สอง 12 ปี) ตัวเลือกที่ 3 เกำหลีใต้ ไทยสถำปนำควำมสัมพันธ์ทำงกำรทูตกับเกำหลีใต้ (สำธำรณรัฐเกำหลี) ในวันที่ 1 ตุลำคม ค.ศ. 1958 (หลังสงครำมโลกครั้งที่สอง 13 ปี) สรุปคำตอบ  ประเทศที่ไทยสถำปนำควำมสัมพันธ์ทำงกำรทูตอย่ำงเป็นทำงกำรก่อนสงครำมโลกครั้งที่สอง คือ ประเทศ สหรัฐอเมริกำ (ตัวเลือกที่ 5) โดยกำรสถำปนำเกิดขึ้นมำตั้งแต่ปี ค.ศ. 1833 ตรงกับสมัยรัชกำลที่ 3 ของเรำ และในปี ค.ศ. 2012 ถือเป็นปีที่ครบรอบ 180 ปี กำรสถำปนำควำมสัมพันธ์ทำงกำรทูตระหว่ำงไทยกับสหรัฐอเมริกำ ประธำนำธิบดีบำรัก โอ บำมำ ของสหรัฐอเมริกำได้มำเยือนไทยด้วยในช่วงเดือนพฤศจิกำยนของปีเดียวกัน 18) ตอบ 3. อำชชวะ (ระดับควำมยำก ) เนื้อหำที่ใช้ถำม  รัฐศำสตร์+พุทธศำสนำ (เนื้อหำเอียงทำงพุทธศำสนำในประเด็นเรื่องหลักธรรม) วิเครำะห์ข้อสอบ  โจทย์ข้อนี้ถำมเกี่ยวกับหลักทศพิธรำชธรรมในข้อที่เกี่ยวกับควำมซื่อตรง เป็นกำรถำมตำมเนื้อหำทั่วไป หำกนักเรียนอ่ำนหนังสือ ทบทวนควำมรู้เรื่องนี้มำบ้ำงก็จะหำคำตอบได้แน่นอน แต่หำกไม่เป็นเช่นนั้นก็คงจะต้องเดำล้วนๆ เพรำะ ทุกข้อเป็นภำษำบำลีหมด สรุปคำตอบ  ควำมซื่อตรงมีควำมสัมพันธ์กับหลักธรรมในตัวเลือกที่ 3 อำชชวะ ตัวเลือกที่ 1 ตบะ คือ ควำมเพียร ตัวเลือกที่ 2 มัททวะ คือ ควำมอ่อนโยน ตัวเลือกที่ 4 อวิหิงสำ คือ ควำมไม่เบียดเบียน ตัวเลือกที่ 5 อวิโรธนะ คือ ควำมหนักแน่น ถือควำมถูกต้องเที่ยงธรรมเป็นหลัก 19) ตอบ 5. กำรลงมติให้ควำมเห็นชอบกำรแต่งตั้งนำยกรัฐมนตรีของสภำผู้แทนรำษฎรต้องกระทำโดยกำรลงคะแนนแบบ เปิดเผย (ระดับควำมยำก )