More Related Content
More from SRINAKARIN MOTHER PRINCESS SCHOOL
More from SRINAKARIN MOTHER PRINCESS SCHOOL (20)
สุนทรภู่
- 3. เนื้อหา
พระสุนทรโวหาร นามเดิม ภู่ หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า สุนทรภู่ เป็น
กวีชาวไทยที่มี ชื่อเสียง ได้รับยกย่องเป็น เชกสเปียร์แห่งประเทศ
ไทย เกิดหลังจากตั้งกรุงรัตนโกสินทร์ได้4 ปี และได้เข้ารับราชการเป็น
กวีราชสานักในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เมื่อสิ้น
รัชกาลได้ออกบวชเป็นเวลาร่วม20 ปี ก่อนจะกลับเข้ารับราชการอีกครั้ง
ในปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยเป็นอาลักษณ์
ในสมเด็จเจ้าฟ้าจุฑามณี กรมขุนอิศเรศรังสรรค์ ในสมัยรัชกาลที่ 4 ได้
เลื่อนตาแหน่งเป็น พระสุนทรโวหาร เจ้ากรมอาลักษณ์ฝ่ายพระราชวัง
บวร ซึ่งเป็นตาแหน่งราชการสุดท้ายก่อนสิ้นชีวิต
- 5. ปี พ.ศ. 2529 ในโอกาสครบรอบ200 ปีชาตกาล สุนทรภู่ได้รับยกย่อง
จากองค์การยูเนสโกให้เป็นบุคคลสาคัญของโลกด้านงานวรรณกรรม
ผลงานของสุนทรภู่ยังเป็นที่นิยมในสังคมไทยอย่างต่อเนื่องตลอดมาไม่ขาด
สาย และมีการนาไปดัดแปลงเป็นสื่อต่าง ๆ เช่น หนังสือการ์ตูน ภาพยนตร์
เพลง รวมถึงละคร มีการก่อสร้างอนุสาวรีย์สุนทรภู่ไว้ที่ตาบลกร่า อาเภอแก
ลง จังหวัดระยอง บ้านเกิดของบิดาของสุนทรภู่ และเป็นที่กาเนิดผลงาน
นิราศเรื่องแรกของท่านคือ นิราศเมืองแกลง นอกจากนี้ยังมีอนุสาวรีย์แห่ง
อื่น ๆ อีก เช่น ที่วัดศรีสุดาราม ที่จังหวัดเพชรบุรี และจังหวัดนครปฐม วัน
เกิดของสุนทรภู่คือวันที่26 มิถุนายนของทุกปี ถือเป็น วันสุนทรภู่ ซึ่งเป็น
วันสาคัญด้านวรรณกรรมของไทย มีการจัดกิจกรรมเชิดชูเกียรติคุณและ
ส่งเสริมศิลปะการประพันธ์บทกวีจากองค์กรต่าง ๆ โดยทั่วไป
- 6. ต้นตระกูล
บันทึกส่วนใหญ่มักระบุถึงต้นตระกูลของสุนทรภู่เพียงว่า บิดา
เป็นชาวบ้านกร่า อาเภอแกลง จังหวัดระยอง มารดาเป็น
ชาวเมืองอื่น ทั้งนี้เนื่องจากเชื่อถือตามพระนิพนธ์ของสมเด็จฯ
กรมพระยาดารงราชานุภาพ เรื่องชีวิตและงานของสุนทร
ภู่ ต่อมาในภายหลัง เมื่อมีการค้นพบข้อมูลต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น ก็
มีแนวคิดเกี่ยวกับต้นตระกูลของสุนทรภู่แตกต่างกันออกไป
นักวิชาการส่วนใหญ่เห็นพ้องกันว่า ฝ่ายบิดาเป็นชาวบ้านกร่า
เมืองแกลง จริง เนื่องจากมีปรากฏเนื้อความอยู่ใน นิราศเมือง
แกลง ถึงวงศ์วานว่านเครือของสุนทรภู่ แต่ความเห็นเกี่ยวกับ
ตระกูลฝ่ายมารดานี้แตกออกเป็นหลายส่วน ส่วนหนึ่งว่าไม่
ทราบที่มาแน่ชัด ส่วนหนึ่งว่าเป็นชาวฉะเชิงเทรา เป็นต้น
- 7. วัยเยาว์
สุนทรภู่ มีชื่อเดิมว่า เตียวหยุ เกิดในสมัยรัชกาลที่1 แห่งกรุง
รัตนโกสินทร์ เมื่อวันจันทร์ เดือน8 ขึ้น 1 ค่า ปีมะเมีย จุลศักราช 1148
เวลาเช้า 2 โมง (ตรงกับวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2329) ณ บริเวณด้าน
เหนือของพระราชวังหลัง ซึ่งเป็นบริเวณสถานีรถไฟบางกอกน้อย
ปัจจุบันนี้ เชื่อว่าหลังจากสุนทรภู่เกิดได้ไม่นาน บิดามารดาก็หย่าร้างกัน
บิดาออกไปบวชอยู่ที่วัดป่ากร่าอันเป็นภูมิลาเนาเดิม ส่วนมารดาได้เข้าไป
อยู่ในพระราชวังหลัง ถวายตัวเป็นนางนมของพระองค์เจ้าหญิงจงกล
พระธิดาในเจ้าฟ้ากรมหลวงอนุรักษ์เทเวศร์
- 9. ออกบวช ช่วงตกอยาก
กุฏิวัดเทพธิดารามที่สุนทรภู่บวชจาพรรษา เป็นสถานที่
ค้นพบวรรณกรรมที่ทรงคุณค่ามากมายเช่น พระอภัย
มณี ฯลฯ ที่ท่านเก็บซ่อนไว้ใต้เพดานหลังคากุฏิของท่าน
สุนทรภู่รับราชการอยู่เพียง 8 ปี เมื่อถึงปี พ.ศ.
2367 พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยเสด็จ
สวรรคต หลังจากนั้นสุนทรภู่ก็ออกบวช แต่จะได้ลาออก
จากราชการก่อนออกบวชหรือไม่ยังไม่ปรากฏแน่ชัด แม้
จะไม่ปรากฏโดยตรงว่าสุนทรภู่ได้รับพระบรมราชูปถัมภ์
จากราชสานักใหม่ในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้า
เจ้าอยู่หัว แต่ก็ได้รับพระอุปถัมภ์จากพระบรมวงศานุวงศ์
พระองค์อื่นอยู่เสมอ
- 10. สุนทรภู่บวชอยู่เป็นเวลา 18 ปี ระหว่างนั้นได้ย้ายไปอยู่วัด
ต่าง ๆ หลายแห่ง เท่าที่พบระบุในงานเขียนของท่านได้แก่ วัด
เลียบ วัดแจ้ง วัดโพธิ์ วัดมหาธาตุ และวัดเทพธิดาราม งาน
เขียนบางชิ้นสื่อให้ทราบว่า ในบางปี ภิกษุภู่เคยต้องเร่ร่อนไม่
มีที่จาพรรษาบ้างเหมือนกัน ผลจากการที่ภิกษุภู่เดินทางธุดงค์
ไปที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ปรากฏผลงานเป็นนิราศเรื่องต่าง ๆ
มากมาย และเชื่อว่าน่าจะยังมีนิราศที่ค้นไม่พบอีกเป็นจานวน
มาก
- 12. พ่อพัดนี้เป็นลูกรัก ได้ติดสอยห้อยตามสุนทรภู่อยู่เสมอ เมื่อครั้งสุนทรภู่
ออกบวช พ่อพัดก็ออกบวชด้วย เมื่อสุนทรภู่ได้มารับราชการกับเจ้าฟ้ า
น้อย พ่อพัดก็มาพานักอยู่ด้วยเช่นกันส่วนพ่อตาบนั้นปรากฏว่าได้เป็น
กวีมีชื่ออยู่พอสมควร เมื่อถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า
เจ้าอยู่หัว ทรงตราพระราชบัญญัตินามสกุลขึ้น ตระกูลของสุนทรภู่ได้
ใช้นามสกุลต่อมาว่า ภู่เรือหงส์ (บางสายสกุลอาจเป็น ภู่ระหงษ์) เรื่อง
นามสกุลของสุนทรภู่นี้ก.ศ.ร. กุหลาบ เคยเขียนไว้ในหนังสือสยาม
ประเภท อ้างถึงผู้ถือนามสกุล ภู่เรือหงส์ ที่ได้รับบาเหน็จจากหมอสมิท
เป็นค่าพิมพ์หนังสือเรื่อง พระอภัยมณี
- 13. อุปนิสัย
ตาราโหราศาสตร์ผูกดวงชะตาวันเกิดของสุนทรภู่ไว้เป็นดวง
ประเทียบ พร้อมคาอธิบายข้างใต้ดวงชะตาว่า "สุนทรภู่ อาลักษณ์ขี้
เมา"เหตุนี้จึงเป็นที่กล่าวขานกันเสมอมาว่า สุนทรภู่นี้ขี้เหล้านัก ใน
งานเขียนของสุนทรภู่เองก็ปรากฏบรรยายถึงความมึนเมาอยู่หลาย
ครั้ง แม้จะดูเหมือนว่า สุนทรภู่เองก็รู้ว่าการมึนเมาสุราเป็นสิ่งไม่ดี
ได้เขียนตักเตือนผู้อ่านอยู่ในงานเขียนเสมอ การดื่มสุราของสุนทรภู่
อาจเป็นการดื่มเพื่อสังสรรค์และเพื่อสร้างอารมณ์ศิลปิน ด้วยปรากฏ
ว่าเรือนสุนทรภู่มักเป็นที่ครึกครื้นรื่นเริงกับหมู่เพื่อนฝูงอยู่เสมอ
นอกจากนี้ยังเล่ากันว่า เวลาที่สุนทรภู่กรึ่ม ๆ แล้วอาจสามารถบอก
กลอนให้เสมียนถึงสองคนจดตามแทบไม่ทัน
- 14. ทัศนคติ
มากสุนทรภู่ให้ความสาคัญกับการศึกษาอย่างมาก
และตอกย้าเรื่องการศึกษาในวรรณคดีหลาย ๆ เรื่อง
เช่น ขุนแผนสอนพลายงามว่า "ลูกผู้ชายลายมือนั้น
คือยศ เจ้าจงอตส่าห์ทาสม่าเสมียน"หรือที่พระฤๅษี
สอนสุดสาครว่า "รู้สิ่งไรไม่สู้รู้วิชา รู้รักษาตัวรอด
เป็นยอดดี" โดยที่สุนทรภู่เองก็เป็นผู้สนใจใฝ่ศึกษา
หาความรู้ และมีความรู้กว้างขวางอย่างยิ่ง เชื่อว่า
สุนทรภู่น่าจะร่วมอยู่ในกลุ่มข้าราชการหัวก้าวหน้า
ในยุคสมัยนั้น ที่นิยมวิชาความรู้แบบ
ตะวันตก ภาษาอังกฤษ ตลอดกระทั่งแนวคิดยุคใหม่
ที่ให้ความสาคัญกับสตรีขึ้นกว่าเดิม