SlideShare a Scribd company logo
1 of 27
เข้าสู่ประเทศศรีลังกา
ข้อมูลทั่วไป   ที่ตั้ง เป็นเกาะในมหาสมุทรอินเดีย อยู่ทางตอนใต้ของอินเดียประมาณ  80  กิโลเมตร โดยมี  Gulf of Mannar  และช่องแคบ  Palk  คั่นกลาง อาณาเขต   ทิศเหนือและตะวันออกจรดอ่าวเบ็งกอล   ทิศใต้และ ทิศตะวันตกจรดมหาสมุทรอินเดีย พื้นที่ มี  9  จังหวัด รวมพื้นที่ทั้งหมด  65,610  ตารางกิโลเมตร ( 25,332  ตารางไมล์ ขนาดเท่ากับภาคกลางของประเทศไทย ) เมืองหลวง กรุงโคลัมโบ ตั้งอยู่ริมมหาสมุทรอินเดียทางภาคตะวันตกของประเทศ
ภูมิอากาศ อากาศแบบเมืองร้อน ฝนตกชุกในช่วงมรสุม ซึ่งมี  2  ช่วง คือ   มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ  ( ตุลาคม  –  มกราคม ) ฝนตกในภาคตะวันตกภาคใต้ และภาคกลางของประเทศ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้  ( พฤษภาคม - สิงหาคม )  ฝนตกในภาคเหนือและตะวันออกของประเทศ -  กรุงโคลัมโบ อุณหภูมิเฉลี่ย  27  องศาเซลเซียส -  เมืองแคนดี อุณหภูมิเฉลี่ย  20  องศาเซลเซียส -  ช่วงอากาศร้อน  ( มีนาคม  –  มิถุนายน )  อุณหภูมิเฉลี่ย  35  องศาเซลเซียส -  ช่วงอากาศเย็น  ( พฤศจิกายน  –  มกราคม )  อุณหภูมิเฉลี่ย  27  องศาเซลเซียส
ประชากร  19  ล้านคน  ( 2542)  ประกอบด้วยหลายเชื้อชาติ แต่ที่สำคัญมี   4  เชื้อชาติ คือ สิงหล  ( 74%)  ทมิฬศรีลังกา  ( 12.6%)  ทมิฬอินเดีย ( 5.5%)  แขกมัวร์   ( มุสลิมจากอินเดียและตะวันออกกลาง  7.1%)  และอื่น ๆ คือ พวกเชื้อชาติ ดัทช์ โปรตุเกส และอังกฤษ  ( เรียกว่า  Burgher) อัตราการเพิ่มของประชากร ร้อยละ  1.1  ต่อปี รายได้ประชาชาติต่อหัว  850  เหรียญสหรัฐฯ ศาสนา ประชากรส่วนใหญ่นับถือพุทธศาสนา  ( 69.3%)  ฮินดู   (15.5%)  อิสลาม  ( 7.6%)  คริสเตียน  ( 7.5%)  และอื่น ๆ อีก  0.1% ภาษา - ภาษาราชการ คือ สิงหล และทมิฬ ภาษาอังกฤษใช้ติดต่อสื่อสารเป็นภาษากลาง   อัตราการรู้หนังสือของประชากร  91 % เงินตรา ใช้เงินตราสกุล  Rupee  อัตราแลกเปลี่ยนในเดือนมกราคม  2544  ประมาณ  90 Rupee = 1  เหรียญสหรัฐฯ
การเมืองการปกครอง   ประวัติศาสตร์สังเขป ชาวสิงหลและทมิฬเข้ามาตั้งรกรากอยู่ในศรีลังกาประมาณ  500  ปี และ   300  ปีก่อนคริสตกาล ตามลำดับ โดยต่างก็อพยพมาจากอินเดีย  อาณาจักรสิงหลได้ก่อตั้งขึ้นในบริเวณที่ราบทางภาคเหนือของศรีลังกา โดยมีเมืองอนุราธปุระเป็นเมืองหลวงแห่งแรกยาวนานถึงประมาณ  1,200  ปี ต่อมาในศตวรรษที่   13  จึงได้เสื่อมลง พร้อมกับการเกิดขึ้นของอาณาจักรทมิฬ โดยมีเมืองโปลอนนารุวะเป็นเมืองหลวงยาวนานประมาณ   200  ปี  ชาวทมิฬจึงได้อพยพไปตั้งอาณาจักรจาฟนาทางคาบสมุทรจาฟนา ตอนเหนือของประเทศส่วนชาวสิงหลได้ถอยร่นลงไปตั้งรกรากอยู่ทางใต้ ก่อตั้งเป็นอาณาจักรแคนดี ซึ่งมีเมืองแคนดีเป็นเมืองหลวง  นอกจากนี้ก็มีอาณาจักรโกฏเฏและอาณาจักรรุหุนะ โดยอาณาจักรแคนดี
เป็นอาณาจักรที่มีอำนาจมากที่สุดประมาณศตวรรษที่   15  อิทธิพล ของตะวันตกเริ่มเข้ามามีบทบาทในศรีลังกา เริ่มจากโปตุเกส ดัทช์ และอังกฤษ ตามลำดับ โดยมาทำการค้าตามเมืองท่าด้านตะวันตกของประเทศ และในปี  2048 ( ค . ศ . 1505) โปรตุเกส ได้เข้ายึดครองพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลและ ปกครองประเทศก่อนที่ชาวดัทช์จะเข้าครอบครองดินแดนศรีลังกาในปี  2201 ( ค . ศ .  1658)  และต่อมาอังกฤษสามารถครอบครองศรีลังกาเป็นเมืองขึ้นในปี  2358 ( ค . ศ .  1815)  ภายใต้อนุสัญญา  Kandyan  รวมเวลาที่ศรีลังกาตกเป็น เมืองขึ้นของต่างชาติเกือบ   500  ปี และอังกฤษได้ใช้ศรีลังกาเป็นฐานปฏิบัติการทางทหาร ที่สำคัญแห่งหนึ่งในมหาสมุทรอินเดียในช่วงสงครามโลกครั้งที่   2 ศรีลังกาได้รับเอกราชจากอังกฤษ เมื่อวันที่  4  กุมภาพันธ์  2491 ( ค . ศ .  1948)
รูปแบบการปกครอง รัฐสภาเป็นระบบสภาเดียวโดยสมาชิกทั้งหมด  225  คนได้รับเลือก จากประชาชนทุก ๆ  6  ปี ผู้มีสิทธิออกเสียงต้องมีอายุ  18  ปีขึ้นไป  ประธานาธิบดีมาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน อยู่ในตำแหน่ง  6  ปี มีฐานะเป็นประมุขของประเทศและหัวหน้ารัฐบาล เป็นผู้แต่งตั้ง นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี และมีอำนาจถอดถอนนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีการปกครองท้องถิ่นแบ่งออกเป็น  24  เขตการปกครองแต่ละเขต ปกครองโดยผู้ว่าราชการ   (Governor) ที่มาจากการแต่งตั้ง และแต่ละเขตมี สภาการพัฒนา ( Development Council) ซึ่งมาจากการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชน
ปัจจุบันมีพรรคการเมืองใหญ่น้อยประมาณ  30  พรรค มีพรรคการเมืองสำคัญ ๆ ได้แก่ -  พรรค  Sri Lanka Freedom Party (SLFP) -  พรรค  United National Party (UNP) -  พรรค  Tamil United Liberation Front (TULF) -  พรรค  Ceylon Workers’ Congress (CWC) -  พรรค  Sri Lanka Mahajana Party (SLMP) -  พรรค  Janatha Vimukti Peramuna (JVP)  หรือ  People’s Liberation -  พรรค  Sri Lanka Muslim Congress (SLMC) พรรคการเมือง
นโยบายต่างประเทศ ศรีลังกายึดถือนโยบายไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดและมีความสัมพันธ์อันดีกับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก  เป็นสมาชิกกลุ่มไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ( Non Aligned Movement : NAM)  สมาชิกสมาคมความร่วมมือในภูมิภาคเอเชียใต้  ( South Asian Association for Regional Cooperation : SAARC) สมาชิกกลุ่มแกนนำ  Indian Ocean Rim (IOR)  สมาชิกกลุ่มประเทศ เครือจักรภพ สมาชิกแผนโคลัมโบ  ( Colombo Plan)  และเป็นสมาชิกร่วมก่อตั้ง กรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจบังกลาเทศ –  อินเดีย  –  ศรีลังกา  –  ไทย  ( BIST-EC) เมื่อปี  2540  ซึ่งต่อมาในปี   2541  ได้รับพม่าเข้าเป็นสมาชิก และเรียกว่า  BIMST-EC ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
 
อนุราเดอปุระ อนุราเดอปุระเป็นเมืองที่มีพิธีกรรมเฉลิมฉลองมากที่สุดในบรรดาเมืองเก่าแก่ต่างๆ  ของศรีลังกา ทรัพย์สมบัติที่มีค่ามากที่สุดของเมืองนี้คือ ดากาบา  ( เจดีย์ )  สร้างด้วยอิฐตากแห้งก้อนเล็กๆ   สร้างเป็นรูปทรงกลมผ่าครึ่ง สำหรับดากาบาที่เด่นๆ มีอยู่  3  แห่งคือ หนึ่งที่ รูวันเวลี   มีเส้นผ่าศูนย์กลางยาวถึง  300  ฟุตและมีอายุสืบไปในสมัยศตวรรษที่  2  ก่อนคริสตกาล   สองที่ เจตวันนาราม มีเส้นผ่าศูนย์กลางยาว  370  ฟุต และ สามที่ ธูปะราม   ซึ่งประดิษฐานอัฐิพระรากขวัญของพระพุทธเจ้า สำหรับโบราณวัตถุที่มีชื่อเสียง   เป็นที่รู้จักกันดีของเมืองนี้คือ ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นต้นที่งอกมาจาก กิ่งต้นไม้ที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ปลูกขึ้นเมื่อ  2,250  ปี ก่อนและนับเป็นต้นไม้แห่ง ประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก   สถานที่ท่องเที่ยว ในประเทศ ศรีลังกา
 
ถ้าคุณมีโอกาสขับรถเข้าสู่กรุงโคลอมโบคุณจะพบย่านการค้าที่พลุกพล่านพร้อมกับต้นไม้ ที่ปลูกไว้เรียงรายมีอุทยานสวนซินนามอน คุณสามารถแวะชม  " ฟอร์ต "  สถานที่ๆ   เคยเป็นศูนย์กลางบริหารงาน และที่ตั้งกองทหารชาวอังกฤษในอดีต  " ถนนซีสตรีท "   เป็นศูนย์รวมร้านขายทองคำในใจกลางเพททาร์ย่านบาซาร์ ซึ่งมี วิหารฮินดู สร้างด้วย หินและสลักอย่างประณีตบรรจงและมีโบสถ์ วูลฟ์เฟนเดลของชาวดัชที่สร้างในปี ค . ศ .  1749  สำหรับโบราณสถานที่ควรค่าแห่งการไปเยือนในอุทยานสวนซินนามอนคือ สุเหร่าดาวาตากาฮา และโรงพยาบาลจักษุ นอกจากนี้ หากมีโอกาสควรแวะศูนย์ประชุม  BMICH เพื่อชมพระพุทธรูปจำลองของพระอวัคนะ และจตุรัสแห่งอิสรภาพ โคลอมโบ
 
ดัมบุลลา คือภูเขาหินสูงตระหง่าน  500  ฟุตบนฐานกว้าง  1  ไมล์ เป็นที่ตั้งวิหารศิลา อันเลื่องชื่อที่มีอายุสืบไปถึงศตวรรษที่  1  ก่อนคริสตกาล กษัตริย์วาลากัมบา ทรงเคยพำนักในถ้ำที่ดัมบุลลา ช่วงที่พระองค์เสด็จพลัดถิ่นจากเมืองอนุราเดอปุระ ต่อมาเมื่อพระองค์เสด็จกลับขึ้นครองราชย์อีกครั้ง   พระองค์ได้ทรงสร้างวิหารศิลาที่ทรงคุณค่า ที่สุดในศรีลังกา ภายในถ้ำแห่งแรก   มีพระพุทธรูปปางไสยาสน์ ยาว  47  ฟุต  แกะสลักจากแท่งหิน นอกจากนี้ยังมีภาพและรูปปั้นของพระพุทธเจ้าอยู่รอบๆ ส่วนภาพสีน้ำบนเพดานมีอายุอยู่ในศตวรรษที่  15-18  สำหรับในถ้ำที่   2  มีพระพุทธรูปขนาดเท่าองค์จริงประดิษฐานอยู่ถึง  150  องค์ พร้อมกันนี้ยัง มีพระพุทธรูปอีกหลายองค์นับเป็นสถานที่ๆ ใหญ่โตและวิจิตรบรรจงที่สุด  บนผนังเพดานยังมีภาพสีน้ำพรรณาถึงเหตุการณ์ ในอดีตอันยิ่งใหญ่ของพระพุทธเจ้าและสถานที่สำคัญ ในประวัติศาสตร์ของชาวสิงหล ดัมบุลลา
 
กอล เป็นเมืองที่มีความน่าสนใจในแง่ประวัติศาสตร์มากที่สุดของศรีลังกาสร้างบนโขดหินทาง ตอนใต้ของเกาะเคยเป็นเมืองท่าสำคัญเมื่อ  100  ปีก่อน ปัจจุบันนี้ยังคงรับส่งสินค้า และเป็นท่าจอดเรือ มีป้อมปราการรวมถึงสถาปัตยกรรมที่สร้างสมัยอาณานิคม ของชาวดัชและมีบรรยายกาศสมัยเมื่อครั้งเป็นศูนย์กลางการปกครองของชาวดัชในศตวรรษ ที่  17-18  นอกจากนี้ยังมีชื่อเสียงในด้านการทำผ้าลูกไม้   อัญมณี และงานแกะสลัก ไม้ กอล
 
เป็นเมืองอัญมณีของประเทศศรีลังกา ซึ่งมีชื่อเสียงมานานนับศตวรรษในด้าน มรกตอันประเมินค่ามิได้   เช่น ทับทิม เพชรตาแมว อเล็กซานไดรท์ และพลอยสีต่างๆ ส่วนกรรมวิธีในการขุดแร่การตัดแต่งและการเจียระไน เพชรพลอยผู้คนยังคงทำกันในแบบโบราณดั้งเดิมมีพิพิธภัณฑ์อัญมณีหลายแห่งที่แสดง นิทรรศการอัญมณีทั้งที่ยังไม่ได้เจียระไนและที่เจียระไนแล้ว  ประเทศศรีลังกามีชื่อเสียงมาช้านาน ในฐานะเป็นเกาะแห่งอัญมณีมีตำนานเล่าว่า กษัตริย์โซโลมอนได้ส่งอัญมณี จากเกาะลังกาเป็นของกำนัลแก่ราชินีแห่งชีบ้าและในทางประวัติศาสตร์ก็จารึกไว้ว่ามาร์โค โปโลได้พรรณาถึงทับทิมเม็ดใหญ่ของกษัตริย์แห่งศรีลังกา รัตนะปุระ
 
สิกิริยา เป็นเมืองที่มี  " ป้อมปราการระฟ้า "  สร้างโดยกษัตริย์กัสปาสมัยศตวรรษที่   5  ซึ่งอาจจะนับเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่สุดของศรีลังกา ซึ่งรู้จักกันในชื่อ ไลอ้อน ร็อค  หรือ แท่นศิลาราชสีห์เนื่องจากเคยมีสิงห์โตตัวใหญ่ ยืนอยู่บริเวณปากทางเข้าภายใน คูรอบป้อม  3  ชั้น มีแท่นศิลายักษ์สูง  500  ฟุต และบนยอดศิลายังมีฐานรากของ พระราชวังอันยิ่งใหญ่ในอดีตและสวนดอกไม้พร้อมสระว่ายน้ำ   ที่ทางขึ้นแห่งหนึ่ง มีรูปวาดสีน้ำของชาวสิงหลเป็นภาพนางอัปสรขนาดเท่าตัวคน ซึ่งมีสีสันสดใสละเอียดอ่อนอยู่เช่นเดิม สิกิริยา
แคนดี้ เมืองหลวงบนยอดเขาเป็นสถานที่จัดงานเทศกาล  " เประแหระ "  และเป็นที่มั่นสุดท้ายของกษัตริย์สิงหลก่อนการยก ดินแดนให้กับจักรพรรดิอังกฤษ ในปี ค . ศ .  1815 แคนดี้เป็นเมืองที่แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของพุทธศาสนาในศรีลังกา  วัดวาอาราม ในเมืองนี้ยังคงรักษาขนบประเพณีของพุทธศาสนิกชน แคนดี้ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับพุทธศาสนิกชนในศรีลังกาและทั่วโลก   เพราะเป็นที่ตั้งของดาลาดา มาลิกาวา หรือ วัดพระเขี้ยวแก้ว  ซึ่งประดิษฐานพระทนต์ของพระพุทธเจ้า แคนดี้
นิกอมโบ เป็นหมู่บ้านประมงที่มีชื่อเสียงทางตอนเหนือของกรุงโคลอมโบมีคูคลอง ที่สร้างโดยชาวดัช   ซึ่งเป็นสถานที่ๆ ชาวประมงมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ  ด้วยการล่องไปบนเรือที่ทาสีสันสดใสเมื่อมองไปตามฝั่งคลอง จะพบเห็นบ้านเรือนต่างๆ โบสถ์ รวมถึงนกแก้ว เราอาจจะล่องเรือไปในทะเล   หรือไปตามลำคลองก็ได้  ในช่วงเดือนพฤศจิกายน ถึงเมษายน ของทุกปีจะมีกิจกรรมการดำน้ำ   ในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้ด้วย บน  2  ฟากถนนในเมืองนี้มีโรงแรมและร้านค้าขายของ ที่ระลึกตั้งเรียงรายไปตลอดทาง นิกอมโบ
ได้ชื่อว่าเป็นเมืองอังกฤษจำลองของประเทศศรีลังกา เป็นเมืองที่มีฉากหลังอันงดงามตั้งอิงอยู่กับเทือกเขา หุบเขา น้ำตก และสวนปลูกใบชา นับเป็นเมืองที่มีอากาศเย็นที่สุดบนเกาะ   ที่จริงแล้วมีอุณหภูมิคล้ายกับฤดูใบไม้ผลิ ในประเทศอังกฤษ แม้ว่าอุณหภูมิช่วงค่ำจะลดลงบ้างก็ตาม   คุณสามารถจะพบ หลักฐานที่แสดงถึงอิทธิพลของชาวอังกฤษ ในบริเวณโดยรอบสถานที่แห่งนี้  เช่นบ้านเรือนที่ปลูกสร้างคล้ายกระท่อมในป่า หรือคฤหาสน์ที่สร้างในสไตล์พระราชินีแอนน์ นัวเรอเอเลีย
โพลอนนารัว เคยเป็นนครหลวงของประเทศศรีลังกาสมัยศตวรรษ ที่  11-13 ปัจจุบันยังคงมีผลงานทางประติมากรรมอันงดงามปรากฏให้เห็นอยู่มากมาย อนุสรณ์สถานที่สวยงามและใหญ่โตที่สุด   คือ ลังกาทิเลเก ทิวันกา และธูปะราม  โดยเฉพาะที่ ทิวันกา มีตัวอย่างภาพเขียนสีน้ำที่ดีที่สุดในยุคโพลอนนารัว   มีสถูปวิหารรังคตและคีรีเวหารกัล เป็นศาลทำด้วยศิลา มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่   4  องค์   โดย  2  องค์ประทับนั่ง  1  องค์ ประทับยืน และอีก  1  องค์ เป็นพระนอน  ส่วนปฏิมากรรมพารากรรมบาหุแสดงถึงฝีมือสลักหินของชาวสิงหล  สำหรับวาตา - คา - เก คือการสร้างสรรผลงานอันมีเอกลักษณ์โดยศิลปินชาวศรีลังกา โพลอนนารัว
ประเทศศรีลังกา ประเทศศรีลังกา .  (“ ประเทศศรีลังกา . ”)   9  ธันวาคม  2553.  < www.mfa.go.th/web/2386.php?id=233 .>  9    ธันวาคม  2553 . สารานุกรมเสรี .  (“ ประเทศศรีลังกา . ”)   7  ธันวาคม  2553.  <  http:// th.wikipedia.org/wiki . >  9  ธันวาคม  2553.  บรรณานุกรม
จบการนำเสอนข้อมูล จัดทำโดย นายอนุชาติ  โนนทอง จบการนำเสอนข้อมูล จัดทำโดย นายอนุชาติ  โนนทอง ชั้น ม . 5 / 3  เลขที่  10

More Related Content

More from SRINAKARIN MOTHER PRINCESS SCHOOL

เตชินท์ประเทศอัฟกานิสถาน
เตชินท์ประเทศอัฟกานิสถานเตชินท์ประเทศอัฟกานิสถาน
เตชินท์ประเทศอัฟกานิสถานSRINAKARIN MOTHER PRINCESS SCHOOL
 
นางสาวนภาพร คำภักดี เลขที่19 รัฐสุลต่านโอมาน
นางสาวนภาพร คำภักดี เลขที่19 รัฐสุลต่านโอมานนางสาวนภาพร คำภักดี เลขที่19 รัฐสุลต่านโอมาน
นางสาวนภาพร คำภักดี เลขที่19 รัฐสุลต่านโอมานSRINAKARIN MOTHER PRINCESS SCHOOL
 
สอบกลางภาคIs ธิรดา-น้อยเสนา
สอบกลางภาคIs ธิรดา-น้อยเสนาสอบกลางภาคIs ธิรดา-น้อยเสนา
สอบกลางภาคIs ธิรดา-น้อยเสนาSRINAKARIN MOTHER PRINCESS SCHOOL
 

More from SRINAKARIN MOTHER PRINCESS SCHOOL (20)

Is
IsIs
Is
 
นัทธพงศ์ ดอนศรี.
นัทธพงศ์ ดอนศรี.นัทธพงศ์ ดอนศรี.
นัทธพงศ์ ดอนศรี.
 
นายคงศักดิ์ สงสุรีย์
นายคงศักดิ์ สงสุรีย์นายคงศักดิ์ สงสุรีย์
นายคงศักดิ์ สงสุรีย์
 
ปวีณ์ธิดา สีหวาด
ปวีณ์ธิดา สีหวาดปวีณ์ธิดา สีหวาด
ปวีณ์ธิดา สีหวาด
 
จารุวรรณ ลำพองชาติ
จารุวรรณ ลำพองชาติจารุวรรณ ลำพองชาติ
จารุวรรณ ลำพองชาติ
 
Isมิ้น
Isมิ้นIsมิ้น
Isมิ้น
 
เตชินท์ประเทศอัฟกานิสถาน
เตชินท์ประเทศอัฟกานิสถานเตชินท์ประเทศอัฟกานิสถาน
เตชินท์ประเทศอัฟกานิสถาน
 
Isประเทศบังกลาเทศ
IsประเทศบังกลาเทศIsประเทศบังกลาเทศ
Isประเทศบังกลาเทศ
 
อาเซอร์ไบจาน
อาเซอร์ไบจานอาเซอร์ไบจาน
อาเซอร์ไบจาน
 
คองโก
คองโกคองโก
คองโก
 
Is1
Is1Is1
Is1
 
ตุรกี
ตุรกีตุรกี
ตุรกี
 
มัลดีฟ
มัลดีฟมัลดีฟ
มัลดีฟ
 
อาร์เมเนีย
อาร์เมเนียอาร์เมเนีย
อาร์เมเนีย
 
นางสาวนภาพร คำภักดี เลขที่19 รัฐสุลต่านโอมาน
นางสาวนภาพร คำภักดี เลขที่19 รัฐสุลต่านโอมานนางสาวนภาพร คำภักดี เลขที่19 รัฐสุลต่านโอมาน
นางสาวนภาพร คำภักดี เลขที่19 รัฐสุลต่านโอมาน
 
สอบกลางภาค
สอบกลางภาคสอบกลางภาค
สอบกลางภาค
 
สอบกลางภาคIs ธิรดา-น้อยเสนา
สอบกลางภาคIs ธิรดา-น้อยเสนาสอบกลางภาคIs ธิรดา-น้อยเสนา
สอบกลางภาคIs ธิรดา-น้อยเสนา
 
จิราภา ธรรมรักษ์
จิราภา ธรรมรักษ์จิราภา ธรรมรักษ์
จิราภา ธรรมรักษ์
 
ณัฎฐณิชา
ณัฎฐณิชาณัฎฐณิชา
ณัฎฐณิชา
 
กลางภาค
กลางภาคกลางภาค
กลางภาค
 

ศรีลังกา

  • 2. ข้อมูลทั่วไป ที่ตั้ง เป็นเกาะในมหาสมุทรอินเดีย อยู่ทางตอนใต้ของอินเดียประมาณ 80 กิโลเมตร โดยมี Gulf of Mannar และช่องแคบ Palk คั่นกลาง อาณาเขต ทิศเหนือและตะวันออกจรดอ่าวเบ็งกอล ทิศใต้และ ทิศตะวันตกจรดมหาสมุทรอินเดีย พื้นที่ มี 9 จังหวัด รวมพื้นที่ทั้งหมด 65,610 ตารางกิโลเมตร ( 25,332 ตารางไมล์ ขนาดเท่ากับภาคกลางของประเทศไทย ) เมืองหลวง กรุงโคลัมโบ ตั้งอยู่ริมมหาสมุทรอินเดียทางภาคตะวันตกของประเทศ
  • 3. ภูมิอากาศ อากาศแบบเมืองร้อน ฝนตกชุกในช่วงมรสุม ซึ่งมี 2 ช่วง คือ มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ( ตุลาคม – มกราคม ) ฝนตกในภาคตะวันตกภาคใต้ และภาคกลางของประเทศ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ( พฤษภาคม - สิงหาคม ) ฝนตกในภาคเหนือและตะวันออกของประเทศ - กรุงโคลัมโบ อุณหภูมิเฉลี่ย 27 องศาเซลเซียส - เมืองแคนดี อุณหภูมิเฉลี่ย 20 องศาเซลเซียส - ช่วงอากาศร้อน ( มีนาคม – มิถุนายน ) อุณหภูมิเฉลี่ย 35 องศาเซลเซียส - ช่วงอากาศเย็น ( พฤศจิกายน – มกราคม ) อุณหภูมิเฉลี่ย 27 องศาเซลเซียส
  • 4. ประชากร 19 ล้านคน ( 2542) ประกอบด้วยหลายเชื้อชาติ แต่ที่สำคัญมี 4 เชื้อชาติ คือ สิงหล ( 74%) ทมิฬศรีลังกา ( 12.6%) ทมิฬอินเดีย ( 5.5%) แขกมัวร์ ( มุสลิมจากอินเดียและตะวันออกกลาง 7.1%) และอื่น ๆ คือ พวกเชื้อชาติ ดัทช์ โปรตุเกส และอังกฤษ ( เรียกว่า Burgher) อัตราการเพิ่มของประชากร ร้อยละ 1.1 ต่อปี รายได้ประชาชาติต่อหัว 850 เหรียญสหรัฐฯ ศาสนา ประชากรส่วนใหญ่นับถือพุทธศาสนา ( 69.3%) ฮินดู (15.5%) อิสลาม ( 7.6%) คริสเตียน ( 7.5%) และอื่น ๆ อีก 0.1% ภาษา - ภาษาราชการ คือ สิงหล และทมิฬ ภาษาอังกฤษใช้ติดต่อสื่อสารเป็นภาษากลาง อัตราการรู้หนังสือของประชากร 91 % เงินตรา ใช้เงินตราสกุล Rupee อัตราแลกเปลี่ยนในเดือนมกราคม 2544 ประมาณ 90 Rupee = 1 เหรียญสหรัฐฯ
  • 5. การเมืองการปกครอง ประวัติศาสตร์สังเขป ชาวสิงหลและทมิฬเข้ามาตั้งรกรากอยู่ในศรีลังกาประมาณ 500 ปี และ 300 ปีก่อนคริสตกาล ตามลำดับ โดยต่างก็อพยพมาจากอินเดีย อาณาจักรสิงหลได้ก่อตั้งขึ้นในบริเวณที่ราบทางภาคเหนือของศรีลังกา โดยมีเมืองอนุราธปุระเป็นเมืองหลวงแห่งแรกยาวนานถึงประมาณ 1,200 ปี ต่อมาในศตวรรษที่ 13 จึงได้เสื่อมลง พร้อมกับการเกิดขึ้นของอาณาจักรทมิฬ โดยมีเมืองโปลอนนารุวะเป็นเมืองหลวงยาวนานประมาณ 200 ปี ชาวทมิฬจึงได้อพยพไปตั้งอาณาจักรจาฟนาทางคาบสมุทรจาฟนา ตอนเหนือของประเทศส่วนชาวสิงหลได้ถอยร่นลงไปตั้งรกรากอยู่ทางใต้ ก่อตั้งเป็นอาณาจักรแคนดี ซึ่งมีเมืองแคนดีเป็นเมืองหลวง นอกจากนี้ก็มีอาณาจักรโกฏเฏและอาณาจักรรุหุนะ โดยอาณาจักรแคนดี
  • 6. เป็นอาณาจักรที่มีอำนาจมากที่สุดประมาณศตวรรษที่ 15 อิทธิพล ของตะวันตกเริ่มเข้ามามีบทบาทในศรีลังกา เริ่มจากโปตุเกส ดัทช์ และอังกฤษ ตามลำดับ โดยมาทำการค้าตามเมืองท่าด้านตะวันตกของประเทศ และในปี 2048 ( ค . ศ . 1505) โปรตุเกส ได้เข้ายึดครองพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลและ ปกครองประเทศก่อนที่ชาวดัทช์จะเข้าครอบครองดินแดนศรีลังกาในปี 2201 ( ค . ศ . 1658) และต่อมาอังกฤษสามารถครอบครองศรีลังกาเป็นเมืองขึ้นในปี 2358 ( ค . ศ . 1815) ภายใต้อนุสัญญา Kandyan รวมเวลาที่ศรีลังกาตกเป็น เมืองขึ้นของต่างชาติเกือบ 500 ปี และอังกฤษได้ใช้ศรีลังกาเป็นฐานปฏิบัติการทางทหาร ที่สำคัญแห่งหนึ่งในมหาสมุทรอินเดียในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ศรีลังกาได้รับเอกราชจากอังกฤษ เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2491 ( ค . ศ . 1948)
  • 7. รูปแบบการปกครอง รัฐสภาเป็นระบบสภาเดียวโดยสมาชิกทั้งหมด 225 คนได้รับเลือก จากประชาชนทุก ๆ 6 ปี ผู้มีสิทธิออกเสียงต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป ประธานาธิบดีมาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน อยู่ในตำแหน่ง 6 ปี มีฐานะเป็นประมุขของประเทศและหัวหน้ารัฐบาล เป็นผู้แต่งตั้ง นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี และมีอำนาจถอดถอนนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีการปกครองท้องถิ่นแบ่งออกเป็น 24 เขตการปกครองแต่ละเขต ปกครองโดยผู้ว่าราชการ (Governor) ที่มาจากการแต่งตั้ง และแต่ละเขตมี สภาการพัฒนา ( Development Council) ซึ่งมาจากการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชน
  • 8. ปัจจุบันมีพรรคการเมืองใหญ่น้อยประมาณ 30 พรรค มีพรรคการเมืองสำคัญ ๆ ได้แก่ - พรรค Sri Lanka Freedom Party (SLFP) - พรรค United National Party (UNP) - พรรค Tamil United Liberation Front (TULF) - พรรค Ceylon Workers’ Congress (CWC) - พรรค Sri Lanka Mahajana Party (SLMP) - พรรค Janatha Vimukti Peramuna (JVP) หรือ People’s Liberation - พรรค Sri Lanka Muslim Congress (SLMC) พรรคการเมือง
  • 9. นโยบายต่างประเทศ ศรีลังกายึดถือนโยบายไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดและมีความสัมพันธ์อันดีกับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก เป็นสมาชิกกลุ่มไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ( Non Aligned Movement : NAM) สมาชิกสมาคมความร่วมมือในภูมิภาคเอเชียใต้ ( South Asian Association for Regional Cooperation : SAARC) สมาชิกกลุ่มแกนนำ Indian Ocean Rim (IOR) สมาชิกกลุ่มประเทศ เครือจักรภพ สมาชิกแผนโคลัมโบ ( Colombo Plan) และเป็นสมาชิกร่วมก่อตั้ง กรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจบังกลาเทศ – อินเดีย – ศรีลังกา – ไทย ( BIST-EC) เมื่อปี 2540 ซึ่งต่อมาในปี 2541 ได้รับพม่าเข้าเป็นสมาชิก และเรียกว่า BIMST-EC ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
  • 10.  
  • 11. อนุราเดอปุระ อนุราเดอปุระเป็นเมืองที่มีพิธีกรรมเฉลิมฉลองมากที่สุดในบรรดาเมืองเก่าแก่ต่างๆ ของศรีลังกา ทรัพย์สมบัติที่มีค่ามากที่สุดของเมืองนี้คือ ดากาบา ( เจดีย์ ) สร้างด้วยอิฐตากแห้งก้อนเล็กๆ สร้างเป็นรูปทรงกลมผ่าครึ่ง สำหรับดากาบาที่เด่นๆ มีอยู่ 3 แห่งคือ หนึ่งที่ รูวันเวลี มีเส้นผ่าศูนย์กลางยาวถึง 300 ฟุตและมีอายุสืบไปในสมัยศตวรรษที่ 2 ก่อนคริสตกาล สองที่ เจตวันนาราม มีเส้นผ่าศูนย์กลางยาว 370 ฟุต และ สามที่ ธูปะราม ซึ่งประดิษฐานอัฐิพระรากขวัญของพระพุทธเจ้า สำหรับโบราณวัตถุที่มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักกันดีของเมืองนี้คือ ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นต้นที่งอกมาจาก กิ่งต้นไม้ที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ปลูกขึ้นเมื่อ 2,250 ปี ก่อนและนับเป็นต้นไม้แห่ง ประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก สถานที่ท่องเที่ยว ในประเทศ ศรีลังกา
  • 12.  
  • 13. ถ้าคุณมีโอกาสขับรถเข้าสู่กรุงโคลอมโบคุณจะพบย่านการค้าที่พลุกพล่านพร้อมกับต้นไม้ ที่ปลูกไว้เรียงรายมีอุทยานสวนซินนามอน คุณสามารถแวะชม &quot; ฟอร์ต &quot; สถานที่ๆ เคยเป็นศูนย์กลางบริหารงาน และที่ตั้งกองทหารชาวอังกฤษในอดีต &quot; ถนนซีสตรีท &quot; เป็นศูนย์รวมร้านขายทองคำในใจกลางเพททาร์ย่านบาซาร์ ซึ่งมี วิหารฮินดู สร้างด้วย หินและสลักอย่างประณีตบรรจงและมีโบสถ์ วูลฟ์เฟนเดลของชาวดัชที่สร้างในปี ค . ศ . 1749 สำหรับโบราณสถานที่ควรค่าแห่งการไปเยือนในอุทยานสวนซินนามอนคือ สุเหร่าดาวาตากาฮา และโรงพยาบาลจักษุ นอกจากนี้ หากมีโอกาสควรแวะศูนย์ประชุม BMICH เพื่อชมพระพุทธรูปจำลองของพระอวัคนะ และจตุรัสแห่งอิสรภาพ โคลอมโบ
  • 14.  
  • 15. ดัมบุลลา คือภูเขาหินสูงตระหง่าน 500 ฟุตบนฐานกว้าง 1 ไมล์ เป็นที่ตั้งวิหารศิลา อันเลื่องชื่อที่มีอายุสืบไปถึงศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสตกาล กษัตริย์วาลากัมบา ทรงเคยพำนักในถ้ำที่ดัมบุลลา ช่วงที่พระองค์เสด็จพลัดถิ่นจากเมืองอนุราเดอปุระ ต่อมาเมื่อพระองค์เสด็จกลับขึ้นครองราชย์อีกครั้ง พระองค์ได้ทรงสร้างวิหารศิลาที่ทรงคุณค่า ที่สุดในศรีลังกา ภายในถ้ำแห่งแรก มีพระพุทธรูปปางไสยาสน์ ยาว 47 ฟุต แกะสลักจากแท่งหิน นอกจากนี้ยังมีภาพและรูปปั้นของพระพุทธเจ้าอยู่รอบๆ ส่วนภาพสีน้ำบนเพดานมีอายุอยู่ในศตวรรษที่ 15-18 สำหรับในถ้ำที่ 2 มีพระพุทธรูปขนาดเท่าองค์จริงประดิษฐานอยู่ถึง 150 องค์ พร้อมกันนี้ยัง มีพระพุทธรูปอีกหลายองค์นับเป็นสถานที่ๆ ใหญ่โตและวิจิตรบรรจงที่สุด บนผนังเพดานยังมีภาพสีน้ำพรรณาถึงเหตุการณ์ ในอดีตอันยิ่งใหญ่ของพระพุทธเจ้าและสถานที่สำคัญ ในประวัติศาสตร์ของชาวสิงหล ดัมบุลลา
  • 16.  
  • 17. กอล เป็นเมืองที่มีความน่าสนใจในแง่ประวัติศาสตร์มากที่สุดของศรีลังกาสร้างบนโขดหินทาง ตอนใต้ของเกาะเคยเป็นเมืองท่าสำคัญเมื่อ 100 ปีก่อน ปัจจุบันนี้ยังคงรับส่งสินค้า และเป็นท่าจอดเรือ มีป้อมปราการรวมถึงสถาปัตยกรรมที่สร้างสมัยอาณานิคม ของชาวดัชและมีบรรยายกาศสมัยเมื่อครั้งเป็นศูนย์กลางการปกครองของชาวดัชในศตวรรษ ที่ 17-18 นอกจากนี้ยังมีชื่อเสียงในด้านการทำผ้าลูกไม้ อัญมณี และงานแกะสลัก ไม้ กอล
  • 18.  
  • 19. เป็นเมืองอัญมณีของประเทศศรีลังกา ซึ่งมีชื่อเสียงมานานนับศตวรรษในด้าน มรกตอันประเมินค่ามิได้ เช่น ทับทิม เพชรตาแมว อเล็กซานไดรท์ และพลอยสีต่างๆ ส่วนกรรมวิธีในการขุดแร่การตัดแต่งและการเจียระไน เพชรพลอยผู้คนยังคงทำกันในแบบโบราณดั้งเดิมมีพิพิธภัณฑ์อัญมณีหลายแห่งที่แสดง นิทรรศการอัญมณีทั้งที่ยังไม่ได้เจียระไนและที่เจียระไนแล้ว ประเทศศรีลังกามีชื่อเสียงมาช้านาน ในฐานะเป็นเกาะแห่งอัญมณีมีตำนานเล่าว่า กษัตริย์โซโลมอนได้ส่งอัญมณี จากเกาะลังกาเป็นของกำนัลแก่ราชินีแห่งชีบ้าและในทางประวัติศาสตร์ก็จารึกไว้ว่ามาร์โค โปโลได้พรรณาถึงทับทิมเม็ดใหญ่ของกษัตริย์แห่งศรีลังกา รัตนะปุระ
  • 20.  
  • 21. สิกิริยา เป็นเมืองที่มี &quot; ป้อมปราการระฟ้า &quot; สร้างโดยกษัตริย์กัสปาสมัยศตวรรษที่ 5 ซึ่งอาจจะนับเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่สุดของศรีลังกา ซึ่งรู้จักกันในชื่อ ไลอ้อน ร็อค หรือ แท่นศิลาราชสีห์เนื่องจากเคยมีสิงห์โตตัวใหญ่ ยืนอยู่บริเวณปากทางเข้าภายใน คูรอบป้อม 3 ชั้น มีแท่นศิลายักษ์สูง 500 ฟุต และบนยอดศิลายังมีฐานรากของ พระราชวังอันยิ่งใหญ่ในอดีตและสวนดอกไม้พร้อมสระว่ายน้ำ ที่ทางขึ้นแห่งหนึ่ง มีรูปวาดสีน้ำของชาวสิงหลเป็นภาพนางอัปสรขนาดเท่าตัวคน ซึ่งมีสีสันสดใสละเอียดอ่อนอยู่เช่นเดิม สิกิริยา
  • 22. แคนดี้ เมืองหลวงบนยอดเขาเป็นสถานที่จัดงานเทศกาล &quot; เประแหระ &quot; และเป็นที่มั่นสุดท้ายของกษัตริย์สิงหลก่อนการยก ดินแดนให้กับจักรพรรดิอังกฤษ ในปี ค . ศ . 1815 แคนดี้เป็นเมืองที่แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของพุทธศาสนาในศรีลังกา วัดวาอาราม ในเมืองนี้ยังคงรักษาขนบประเพณีของพุทธศาสนิกชน แคนดี้ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับพุทธศาสนิกชนในศรีลังกาและทั่วโลก เพราะเป็นที่ตั้งของดาลาดา มาลิกาวา หรือ วัดพระเขี้ยวแก้ว ซึ่งประดิษฐานพระทนต์ของพระพุทธเจ้า แคนดี้
  • 23. นิกอมโบ เป็นหมู่บ้านประมงที่มีชื่อเสียงทางตอนเหนือของกรุงโคลอมโบมีคูคลอง ที่สร้างโดยชาวดัช ซึ่งเป็นสถานที่ๆ ชาวประมงมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ด้วยการล่องไปบนเรือที่ทาสีสันสดใสเมื่อมองไปตามฝั่งคลอง จะพบเห็นบ้านเรือนต่างๆ โบสถ์ รวมถึงนกแก้ว เราอาจจะล่องเรือไปในทะเล หรือไปตามลำคลองก็ได้ ในช่วงเดือนพฤศจิกายน ถึงเมษายน ของทุกปีจะมีกิจกรรมการดำน้ำ ในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้ด้วย บน 2 ฟากถนนในเมืองนี้มีโรงแรมและร้านค้าขายของ ที่ระลึกตั้งเรียงรายไปตลอดทาง นิกอมโบ
  • 24. ได้ชื่อว่าเป็นเมืองอังกฤษจำลองของประเทศศรีลังกา เป็นเมืองที่มีฉากหลังอันงดงามตั้งอิงอยู่กับเทือกเขา หุบเขา น้ำตก และสวนปลูกใบชา นับเป็นเมืองที่มีอากาศเย็นที่สุดบนเกาะ ที่จริงแล้วมีอุณหภูมิคล้ายกับฤดูใบไม้ผลิ ในประเทศอังกฤษ แม้ว่าอุณหภูมิช่วงค่ำจะลดลงบ้างก็ตาม คุณสามารถจะพบ หลักฐานที่แสดงถึงอิทธิพลของชาวอังกฤษ ในบริเวณโดยรอบสถานที่แห่งนี้ เช่นบ้านเรือนที่ปลูกสร้างคล้ายกระท่อมในป่า หรือคฤหาสน์ที่สร้างในสไตล์พระราชินีแอนน์ นัวเรอเอเลีย
  • 25. โพลอนนารัว เคยเป็นนครหลวงของประเทศศรีลังกาสมัยศตวรรษ ที่ 11-13 ปัจจุบันยังคงมีผลงานทางประติมากรรมอันงดงามปรากฏให้เห็นอยู่มากมาย อนุสรณ์สถานที่สวยงามและใหญ่โตที่สุด คือ ลังกาทิเลเก ทิวันกา และธูปะราม โดยเฉพาะที่ ทิวันกา มีตัวอย่างภาพเขียนสีน้ำที่ดีที่สุดในยุคโพลอนนารัว มีสถูปวิหารรังคตและคีรีเวหารกัล เป็นศาลทำด้วยศิลา มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ 4 องค์ โดย 2 องค์ประทับนั่ง 1 องค์ ประทับยืน และอีก 1 องค์ เป็นพระนอน ส่วนปฏิมากรรมพารากรรมบาหุแสดงถึงฝีมือสลักหินของชาวสิงหล สำหรับวาตา - คา - เก คือการสร้างสรรผลงานอันมีเอกลักษณ์โดยศิลปินชาวศรีลังกา โพลอนนารัว
  • 26. ประเทศศรีลังกา ประเทศศรีลังกา . (“ ประเทศศรีลังกา . ”) 9 ธันวาคม 2553. < www.mfa.go.th/web/2386.php?id=233 .> 9 ธันวาคม 2553 . สารานุกรมเสรี . (“ ประเทศศรีลังกา . ”) 7 ธันวาคม 2553. < http:// th.wikipedia.org/wiki . > 9 ธันวาคม 2553. บรรณานุกรม
  • 27. จบการนำเสอนข้อมูล จัดทำโดย นายอนุชาติ โนนทอง จบการนำเสอนข้อมูล จัดทำโดย นายอนุชาติ โนนทอง ชั้น ม . 5 / 3 เลขที่ 10