SlideShare a Scribd company logo
1 of 8
Download to read offline
1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6
ปีการศึกษา 2559
ชื่อโครงงาน สบู่สมุนไพร (Herb Soup)
ชื่อผู้ทาโครงงาน
1.นางสาชัญญา แสงสุวรรณเลิศ เลขที่ 1 ชั้น ม.6 ห้อง 11
2.นางสาวกัญญ์สิริ สายอุด เลขที่ 5 ชั้น ม.6 ห้อง 11
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2559
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
2
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
สมาชิกในกลุ่ม
1.นางสาวชัญญา แสงสุวรรณเลิศ เลขที่ 1
2.นางสาวกัญญ์สิริ สายอุด เลขที่ 5
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
สบู่สมุนไพร
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
Herb Soup
ประเภทโครงงา
โครงงานประเภททดลอง
ชื่อผู้ทาโครงงาน 1.นางสาวชัญญา แสงสุวรรณเลิศ
2.นางสาวกัญญ์สิริ สายอุด
ชื่อที่ปรึกษา
คุณครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน
ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2559
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน
เนื่องจากในปัจจุบันมีสบู่หลายชนิดในชีวิตประจาวันที่ใช้สารเคมีจานวนมากบวกกับมลภาวะสิ่งแวดล้อม
ต่างๆที่มีมลพิษ ฝุ่น ควัน สิ่งเหล่านี้เป็นสาเหตุของการทาลายสุขภาพผิว ทาให้ผิวแห้ง แตก ผิวขาดความชุ่มชื่น ขาด
วิตามิน จึงทาให้เกิดโครงงานนี้ขึ้นมา คือโครงงานสบู่สมุนไพร ที่ทาจากส่วนผสมในธรรมชาติ ที่หาได้ตาม
ท้องตลาดทั่วไป เช่น ขมิ้น น้ามะขามเปียก น้ามันออย นมสด เป็นต้น แถมราคาไม่แพง และไม่เกินความสามารถที่
จะทา สบู่ที่ทาในครั้งนี้สามารถช่วยให้ผิวพรรณของเรามีความชุ่มชื่น สุขภาพดีขึ้น ผิวไม่แห้งกร้านหรือแตกง่าย
3
วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเป็นข้อ)
1.ศึกษาหาความรู้วิธีการทาสบู่สมุนไพร
2.เมื่อมีความชานาญในการทาแล้ว สามารถนาไปขายเพื่อสร้างรายได้ให้กับตนเอง
3.ประหยัดค่าใช้จ่าย
4.เพื่อสนับสนุนสินค้าเกี่ยวกับสมุนไพร
ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน)
- ศึกษาชนิดของสบู่แต่ละประเภท
- ศึกษาหลักการพื้นฐานในการผลิตสบู่จากธรรมชาติ
- วัสดุอุปกรณ์ในการทา
- สถานที่ในการทดลอง
หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน)
การศึกษาเรื่อง สบู่สมุนไพรจากกลีเซอรีน ประกอบด้วยเอกสารและงานที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา
การทาสบู่สมุนไพรจากกลีเซอรีนธรรมชาติ โดยสบู่มีหลากหลายรูปแบบ หลายชนิด ขึ้นอยู่กับสมุนไพรที่นามา
ผสมกับกลีเซอรีน ทาให้ได้สบู่ตามที่ต้องการ โดยผู้จัดทาโครงงานได้ศึกษาวิธีการทาสบู่จากกลีเซอรีน ที่ไม่เป็น
อันตรายต่อผิว โดยการนาสมุนไพรธรรมชาติมาผสม คือ “ขมิ้น” และ “กากกาแฟ” มาใช้ในการทดลองและทาการ
ประดิษฐ์ขึ้น
สบู่ (soap) คือ สารเคมีที่เกิดจากการทาปฏิกิริยากันระหว่างโซเดียมไฮดรอกไซด์(ด่าง,โซดาไฟ,
(NaOH,) และน้ามันที่มาจากสัตว์หรือพืช มีส่วนผสมระหว่างกรด(ไขมัน) กับเบส(ด่าง) ในอัตราส่วนที่ทาให้
สามารถทาความสะอาดได้ดี และไม่เป็นอันตรายต่อผิว คือ มีค่า pH อยู่ระหว่าง 8-10 ใช้ชาระล้างร่างกายควบคู่กับ
การอาบน้า ทามาจากไขมันสัตว์ผสมกับน้าหอม โซดาไฟ และวัตถุดิบอื่นๆ
สบู่ก้อน คือ ส่วนผสมระหว่างกรด(ไขมัน)กับเบส(ด่าง) ในอัตราส่วนที่ทาให้สามารถทาความสะอาดได้ดี
และไม่เป็นอันตรายต่อผิว คือมีค่า pH อยู่ระหว่าง 8-10 (ในเอกสารจดแจ้งของ อ.ย.ให้ผู้ผลิตสบู่ก้อนระบุว่ามี
ค่า pH ไม่เกิน 11) กรดหรือกรดไขมัน เช่นน้ามันพืช ไขมันสัตว์เบส เช่นโซดาไฟ โดยทั่วไปอัตราส่วนผสมที่
เหมาะสมคือเมื่อผสมกันแล้วควรจะเหลือกรดไขมันอยู่ประมาณ 5% หากไม่มีเครื่องมือในการวัดค่า pH ให้เก็บสบู่
เอาไว้อย่างน้อย 15-30 วันเพื่อให้ค่า pH ลดลง อยู่ในอัตราที่เหมาะสม
4
กรด(ไขมัน)และเบส(ด่าง)ที่นามาทาสบู่
ไขมันแต่ละชนิดประกอบด้วยกรดไขมันมากกว่า 1 ชนิด ตามธรรมชาติกรดไขมันเหล่านี้จะไม่อยู่อิสระ แต่รวมตัว
กับสารกลีเซอรอลในไขมันอยู่ในรูปกลีเซอไรด์ เมื่อด่างทาปฏิกิริยากับกรดไขมัน กรดไขมันจะหลุดออกจากกลีเซอ
ไรด์ รวมตัวเป็นสบู่ สารที่เกาะอยู่กับกรดไขมันก็จะหลุดออกมาเป็นกลีเซอรีน ปฏิกิริยาของ กรดไขมันแต่ละชนิด
เมื่อรวมตัวกับด่างแล้ว จะให้สบู่ที่มีคุณสมบัติแตกต่างกัน เช่น กรดลอริก (lauric acid) มีมากในน้ามันมะพร้าว เป็น
กรดไขมันที่ทาปฏิกิริยากับด่างแล้วให้สารที่มีฟองมาก
กลีเซอรีน คือ แอลกอฮอล์ชนิดหนึ่งมีสูตรทางเคมี C3H5(HO)3 มีลักษณะข้นและใส ไม่มีสี เป็นผลพลอย
ได้จากกระบวนทาสบู่ โดยที่ด่างจะผสมกับไขมันจากสัตว์และพืช ผู้ผลิต สบู่จะแยกกลีเซอรีนออกมาเพื่อนาไปใช้
ประโยชน์ในการทาโลชั่นและครีมได้อีก กลีเซอรีน เมื่ออยู่ในโลชั่นจะให้ผลดีมาก เนื่องจากเป็นวัตถุดิบที่ให้
ความชุ่มชื้น สามารถละลายได้ในแอลกอฮอล์และในน้า และยังนาไปใช้ผลิตไนโตรกลีเซอรีนและขนม ใช้ถนอม
ผักและผลไม้รวมทั้งแช่ตัวอย่างทดลองในห้องแล็ป มองหาส่วนผสมที่เป็นกลีเซอรีนได้จากบรรดาโลชั่นที่วาง
จาหน่ายตามชั้นในร้านขายยา หรือร้านงานฝีมือที่ขายผลิตภัณฑ์จากสบู่
ขมิ้น เป็นพืชล้มลุกในวงศ์ขิง มีถิ่นกาเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีเหง้าอยู่ใต้ดิน เนื้อในของเหง้า
ขมิ้นชันมีสีเหลืองเข้ม จนสีแสดจัด มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ใบรูปเรียวยาวปลายแหลมคล้ายใบพุทธรักษา ดอก
ออกเป็นช่อ มีก้านช่อแทงจากเหง้าโดยตรง ออกตรงกลางระหว่างใบคู่ในสุดดอกสีขาว มีแถบสีเหลืองคาด มีกลีบ
ประดับสีขาวหรือเขียว
ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์
เหง้าขมิ้นมีสารประกอบที่สาคัญ เป็นน้ามันหอมระเหย "เอสเซนเซียล" และในเหง้ายังมีสารสีเหลืองส้ม ที่ทาให้
ขมิ้นได้ชื่อว่า Curcuminจากการทดลองพบว่าขมิ้นสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา ลดอาการอักเสบ มีฤทธิ์ในการ
ขับน้าได้ดี น้ามันหอมระเหยในขมิ้นมีสรรพคุณรักษาปวดท้องเสียด ท้องอืด แน่นจุกเสียด ขมิ้นไม่มีพิษเฉียบพลัน
มีความปลอดภัยสูง
สบู่ธรรมชาติ คือ สบู่ที่เกิดจากกระบวนการซาปอนนิฟิเคชั่น (Saponification)ของไขมัน หรือน้ามัน
จากพืชและสัตว์ที่ทาปฏิกิริยาทางเคมีกับสารละลายด่าง (โซเดียมไฮดรอกไซด์)
จะได้ผลิตภัณฑ์เป็นของแข็ง ลื่น มีฟอง สามารถละลายและล้างออกด้วยน้า สบู่ธรรมชาติไม่ถูกสกัดเอากลีเซอรี
นออก ไม่มีการเติมสารเคมี สารเกิดฟอง (detergent) แต่อาจเติมสมุนไพร หรือน้ามันหอมระเหยลงไป
เท่านั้น คุณสมบัติของสบู่ คือ ใช้ทาความสะอาดชาระล้างสิ่งสกปรก หรือเป็นสารช่วยลดแรงตึงผิว (surfactant)
5
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
1. คัดเลือกหัวข้อโครงงานที่สนใจจะทา โดยทั่วไปเรื่องที่จะมาพัฒนาเป็นโครงงานคอมพิวเตอร์มักได้จาก
ปัญหา คาถาม หรือความสนใจในเรื่องต่าง ๆ จากการสังเกตสิ่งต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบคอมพิวเตอร์ หรือสิ่ง
ต่างๆ ที่อยู่รอบตัวเรา จากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ในการตัดสินใจเลือกหัวข้อที่จะนามาพัฒนาเป็นโครงงาน
คอมพิวเตอร์ ควรพิจารณาองค์ประกอบที่สาคัญดังต่อไปนี้
1.1 ต้องมีความรู้และทักษะพื้นฐานอย่างเพียงพอในหัวข้อเรื่องที่จะศึกษา
1.2 สามารถจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์และวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องได้
1.3 มีแหล่งความรู้เพียงพอที่จะค้นคว้าหรือขอคาปรึกษา
1.4 มีเวลาเพียงพอ
1.5 มีงบประมาณเพียงพอ
1.6 มีความปลอดภัย
2. ศึกษาค้นคว้าและวางแผน การศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล รวมถึงการขอคาปรึกษาจาก
ผู้ทรงคุณวุฒิ จะช่วยให้นักเรียนได้แนวคิดที่ใช้ในการกาหนดขอบเขตของเรื่องที่จะศึกษาได้เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น
รวมทั้งได้ความรู้เพิ่มเติมในเรื่องที่จะศึกษา จนสามารถใช้ออกแบบและวางแผนดาเนินการทาโครงงานนั้นได้
3. จัดทาเค้าโครงของโครงงานที่จะทา ดังนี้
3.1 ศึกษาค้นคว้าเอกสารอ้างอิงและรวบรวมข้อมูลที่ได้จากผู้ทรงคุณวุฒิ
3.2 วิเคราะห์ข้อมูล เพื่อกาหนดขอบเขตและลักษณะของโครงการที่จะพัฒนา
3.3 ออกแบบการพัฒนา มีการกาหนดลักษณะของเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์และตัวแปลภาษา
โปรแกรม และวัสดุต่าง ๆ ที่ต้องใช้
3.4 กาหนดตารางการปฏิบัติงานของการจัดทาเค้าโครงของโครงงาน ลงมือทาโครงงานและสรุปรายงาน
โครงงาน โดยกาหนดช่วงเวลาอย่างกว้าง ๆ
3.5 ทาการพัฒนาโครงงานขั้นต้น เพื่อศึกษาความเป็นไปได้เบื้องต้น โดยอาจจะทาการพัฒนาส่วนย่อย ๆ
บางส่วนตามที่ได้ออกแบบไว้แล้ว นาผลจากการศึกษาในช่วงนี้ไปปรับปรุงแผนการทดลองที่ออกแบบไว้
ในครั้งแรกให้เหมาะสมมากยิ่งขึ้น
3.6 เสนอเค้าโครงของโครงงานคอมพิวเตอร์ต่ออาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อขอคาแนะนาและปรับปรุงแก้ไข
เพื่อให้การวางแผนและดาเนินการทาโครงงานเป็นไปอย่างเหมาะสมเป็นขั้นตอนตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุด
4. การลงมือทาโครงงาน เมื่อเค้าโครงของโครงงานได้รับความเห็นชอบจากอาจารย์ที่ปรึกษาแล้ว ก็เสมือน
ว่าการจัดทาโครงงานได้ผ่านพ้นไปแล้วมากกว่าครึ่ง ขั้นตอนต่อไปเป็นการลงมือพัฒนาตามขั้นตอนที่ได้วางแผนไว้
เช่น จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ให้พร้อม รวมทั้งการกาหนดหน้าที่ความรับผิดชอบของสมาชิกในกลุ่มให้ชัดเจน แล้วจึง
ดาเนินการทาโครงงาน ขณะเดียวกันต้องมีการทดสอบ ตรวจสอบ ปรับปรุงแก้ไข เพื่อพัฒนาโครงงานเป็นระยะ ๆ
เพื่อให้แน่ใจว่าผลงานที่พัฒนาขึ้น ทางานได้ถูกต้องตรงกับความต้องการที่ระบุไว้ในเป้ าหมาย และเกิด
ประสิทธิภาพตามขั้นตอนต่อไปนี้
6
4.1 การเตรียมการ ต้องเตรียมเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ และวัสดุอื่น ๆ ที่จะใช้ในการพัฒนาให้พร้อม
และควรเตรียมสมุดบันทึกหรือบันทึกเป็นแฟ้มข้อความไว้ในระบบคอมพิวเตอร์ สาหรับบันทึกการทา
กิจกรรมต่าง ๆ ระหว่างการทาโครงงาน ได้แก่ การดาเนินการอย่างไร ได้ผลอย่างไร มีปัญหาและแก้ไขได้
หรือไม่อย่างไร รวมทั้งข้อสังเกตต่าง ๆ ที่พบ
4.2 การลงมือพัฒนา เป็นการปฏิบัติตามแผนงานที่ได้วางไว้ในเค้าโครง ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงหรือ
เพิ่มเติมได้หากพบว่าจะช่วยให้ผลงานพัฒนาได้ดีขึ้น โดยจัดระบบการทางาน ทาส่วนที่เป็นหลักสาคัญให้
เสร็จก่อน จึงค่อยทาส่วนที่เป็นส่วนประกอบหรือส่วนเสริม เพื่อให้โครงงานมีความสมบูรณ์มากขึ้น และ
ถ้ามีการแบ่งงานกันทา ให้มีการตกลงรายละเอียดในการเชื่อมต่อชิ้นงานที่ชัดเจนด้วย รวมทั้งต้องพัฒนา
ระบบงานด้วยความละเอียดรอบคอบ บันทึกข้อมูลอย่างเป็นระบบและครบถ้วน
4.3 การทดสอบผลงานและแก้ไข เป็นการตรวจสอบความถูกต้องของผลงาน เพื่อให้แน่ใจว่าผลงานที่
พัฒนาขึ้น ทางานได้ถูกต้องตรงตามความต้องการที่ระบุไว้ในเป้ าหมาย และมีประสิทธิภาพ
4.4 การอภิปรายและข้อเสนอแนะ เมื่อพัฒนาผลงานเรียบร้อยแล้ว ให้จัดทาข้อสรุปด้วยข้อความที่สั้น
กะทัดรัด ครอบคลุมหัวข้อโครงงาน เพื่อช่วยให้ผู้อ่านได้เข้าใจถึงสิ่งที่ค้นพบจากการทาโครงงานและ
อภิปรายผล เพื่อพิจารณาข้อมูลและผลที่ได้พร้อมกับนาไปหาความสัมพันธ์กับ หลักการ ทฤษฎี หรือ
ผลงานที่ผู้อื่นได้ศึกษาไว้แล้ว ทั้งนี้รวมไปถึงหลักการ ทฤษฎี หรือผลงานของผู้อื่นมาใช้ประกอบการ
อภิปรายผลได้
4.5 แนวทางการพัฒนาโครงงานในอนาคตและข้อเสนอแนะ เมื่อทาโครงงานเสร็จสิ้นลงแล้ว นักเรียนอาจ
พบข้อสังเกต ประเด็นที่สาคัญหรือปัญหาซึ่งสามารถเขียนเป็นข้อเสนอแนะ สาหรับผู้ที่สนใจจะนาไป
พัฒนาผลงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
5. เขียนรายงานและจัดทาคู่มือการใช้ การเขียนรายงานเป็นวิธีการสื่อความหมายเพื่อให้ผู้อื่นเข้าใจแนวคิด
วิธีดาเนินการศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลที่ได้ตลอดจนข้อสรุปและข้อเสนอแนะต่าง ๆ เกี่ยวกับโครงงาน ในการเขียน
รายงานนักเรียนควรใช้ภาษาที่อ่านง่าย ชัดเจน กระชับ และตรงไปตรงมา และส่วนสุดท้ายเป็นคู่มือการใช้งาน
โครงงาน ซึ่งประกอบด้วย
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
1.กลีเซอรีนชนิดก้อน 8.ถ้วยชาม
2.น้าหอมกลิ่นมะลิ 9.ช้อน
3.ขมิ้น 10.เครื่องปั่น
4.มะขามเปียก 11.หม้อ
5.น้าเปล่า 12.พลาสติกใส
6.แม่พิมพ์ 13.เตาแก๊ส
7.ตะแกรงกรอง 14.ตู้เย็น
งบประมาณ
งบประมาณรวมทั้งสิ้น 260 บาท
7
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดับ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17
1 คิดหัวข้อโครงงาน ชัญญา,กัญญ์สิริ
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล ชัญญา,กัญญ์สิริ
3 จัดทาโครงร่างงาน ชัญญา,กัญญ์สิริ
4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน ชัญญา
5 ปรับปรุงทดสอบ ชัญญา
6 การทาเอกสารรายงาน ชัญญา,กัญญ์สิริ
7 ประเมินผลงาน ชัญญา
8 นาเสนอโครงงาน ชัญญา,กัญญ์สิริ
ผลที่คาดว่าจะได้รับ(ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทาโครงงาน)
- ได้เรียนรู้วิธีการทาสบู่จากสมุนไพร
- ได้นาเอาเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์
- สามารถนาความรู้ไปต่อยอดสร้างรายได้ให้แก่ตนเอง
- เผยแพร่ความรู้วิธีการทาให้กับผู้ที่ต้องการจะศึกษา
สถานที่ดาเนินการ
- โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย
- บ้านของนางสาวชัญญา แสงสุวรรณเลิศ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
- กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สาขาเคมี
- กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ
- กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
8
แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่นามาใช้การทาโครงงาน)
Miracleshopthai.2559.อยากรู้ไหมว่า... สบู่ทั่วไปกับสบู่กลีเซอรีน นั้นต่างกันอย่างไร(ออนไลน์).
แหล่งที่มา : http://www.miracleshopthai.com/blog/ อยากรู้ไหมว่า-สบู่ทั่วไปกับสบู่กลีเซอรีน-นั้นต่างกันอย่างไร
BubbleCheet.2559.ประวัติความเป็นมาสบู่สมุนไพรธรรมชาติทามือ(ออนไลน์).
แหล่งที่มา : https://www.facebook.com/notes/รับผลิตครีมกิโล-โลชั่น-สครับ-เซรั่ม-สบู่สมุนไพรทุกชนิด-ราคา
โรงงาน/ประวัติความเป็นมาสบู่สมุนไพรธรรมชาติทามือ/280699062042382/
Konradlew.2559.สบู่สมุนไพร(ออนไลน์).
แหล่งที่มา : http://ziimphope.blogspot.com/2012/09/blog-post.html
Phu Temduen.2559.ทาสบู่กลีเซอรีนสมุนไพรใช้เองง่ายๆ สบู่สมุนไพรบารุงผิว Thai Herbal Handmade
Soap(ออนไลน์).แหล่งที่มา : https://www.youtube.com/watch?v=ncJT5O-5wHQ

More Related Content

What's hot

ตัวอย่างโครงงาน
ตัวอย่างโครงงานตัวอย่างโครงงาน
ตัวอย่างโครงงานThitaree Permthongchuchai
 
โครงงานใบย่านางผง
โครงงานใบย่านางผงโครงงานใบย่านางผง
โครงงานใบย่านางผงChok Ke
 
ผักตบชวาไล่แมลง
ผักตบชวาไล่แมลงผักตบชวาไล่แมลง
ผักตบชวาไล่แมลงพัน พัน
 
โครงงานเรื่องสบู่สุนไพร
โครงงานเรื่องสบู่สุนไพรโครงงานเรื่องสบู่สุนไพร
โครงงานเรื่องสบู่สุนไพรPornthip Nabnain
 
โครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง น้ำยาเช็ดกระจกจากแป้งข้าวโพด
โครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง น้ำยาเช็ดกระจกจากแป้งข้าวโพดโครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง น้ำยาเช็ดกระจกจากแป้งข้าวโพด
โครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง น้ำยาเช็ดกระจกจากแป้งข้าวโพดพัน พัน
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ (งานคู่)
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ (งานคู่)แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ (งานคู่)
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ (งานคู่)Piyarat Kuljittipruet
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์Apaiwong Nalinee
 
โครงร่างผ้ามัดย้อม
โครงร่างผ้ามัดย้อมโครงร่างผ้ามัดย้อม
โครงร่างผ้ามัดย้อมsupansa phuprasong
 
โครงงาน เรื่อง การย้อมผ้าจากเปลือกมังคุด
โครงงาน เรื่อง การย้อมผ้าจากเปลือกมังคุดโครงงาน เรื่อง การย้อมผ้าจากเปลือกมังคุด
โครงงาน เรื่อง การย้อมผ้าจากเปลือกมังคุดพัน พัน
 
บทที่ 5 สรุปผล
บทที่ 5 สรุปผลบทที่ 5 สรุปผล
บทที่ 5 สรุปผลGuntima NaLove
 
โครงานเรื่องยาฆ่าหญ้าชีวภาพ
โครงานเรื่องยาฆ่าหญ้าชีวภาพโครงานเรื่องยาฆ่าหญ้าชีวภาพ
โครงานเรื่องยาฆ่าหญ้าชีวภาพteadateada
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์Kiattipong Sriwichai
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์2
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์2แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์2
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์2Kiattipong Sriwichai
 
โครงงานกระถางต้นไม้จากขวดพลาสติก
โครงงานกระถางต้นไม้จากขวดพลาสติกโครงงานกระถางต้นไม้จากขวดพลาสติก
โครงงานกระถางต้นไม้จากขวดพลาสติกพัน พัน
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพ
โครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพโครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพ
โครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพศิริวรรณ นามสวัสดิ์
 
2562 final-project-2731 (1)
2562 final-project-2731 (1)2562 final-project-2731 (1)
2562 final-project-2731 (1)Sarocha Somboon
 

What's hot (20)

ตัวอย่างโครงงาน
ตัวอย่างโครงงานตัวอย่างโครงงาน
ตัวอย่างโครงงาน
 
โครงงานใบย่านางผง
โครงงานใบย่านางผงโครงงานใบย่านางผง
โครงงานใบย่านางผง
 
ผักตบชวาไล่แมลง
ผักตบชวาไล่แมลงผักตบชวาไล่แมลง
ผักตบชวาไล่แมลง
 
โครงงานเรื่องสบู่สุนไพร
โครงงานเรื่องสบู่สุนไพรโครงงานเรื่องสบู่สุนไพร
โครงงานเรื่องสบู่สุนไพร
 
1
11
1
 
โครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง น้ำยาเช็ดกระจกจากแป้งข้าวโพด
โครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง น้ำยาเช็ดกระจกจากแป้งข้าวโพดโครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง น้ำยาเช็ดกระจกจากแป้งข้าวโพด
โครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง น้ำยาเช็ดกระจกจากแป้งข้าวโพด
 
โครงงานวิทยาศาสตร์
โครงงานวิทยาศาสตร์โครงงานวิทยาศาสตร์
โครงงานวิทยาศาสตร์
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ (งานคู่)
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ (งานคู่)แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ (งานคู่)
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ (งานคู่)
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
 
เนื้อหา
เนื้อหาเนื้อหา
เนื้อหา
 
โครงร่างผ้ามัดย้อม
โครงร่างผ้ามัดย้อมโครงร่างผ้ามัดย้อม
โครงร่างผ้ามัดย้อม
 
โครงงาน เรื่อง การย้อมผ้าจากเปลือกมังคุด
โครงงาน เรื่อง การย้อมผ้าจากเปลือกมังคุดโครงงาน เรื่อง การย้อมผ้าจากเปลือกมังคุด
โครงงาน เรื่อง การย้อมผ้าจากเปลือกมังคุด
 
บทที่ 5 สรุปผล
บทที่ 5 สรุปผลบทที่ 5 สรุปผล
บทที่ 5 สรุปผล
 
งานไนท์
งานไนท์งานไนท์
งานไนท์
 
โครงานเรื่องยาฆ่าหญ้าชีวภาพ
โครงานเรื่องยาฆ่าหญ้าชีวภาพโครงานเรื่องยาฆ่าหญ้าชีวภาพ
โครงานเรื่องยาฆ่าหญ้าชีวภาพ
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์2
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์2แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์2
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์2
 
โครงงานกระถางต้นไม้จากขวดพลาสติก
โครงงานกระถางต้นไม้จากขวดพลาสติกโครงงานกระถางต้นไม้จากขวดพลาสติก
โครงงานกระถางต้นไม้จากขวดพลาสติก
 
โครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพ
โครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพโครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพ
โครงงานคอมพิวเตอร์ สื่อออนไลน์พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพ
 
2562 final-project-2731 (1)
2562 final-project-2731 (1)2562 final-project-2731 (1)
2562 final-project-2731 (1)
 

Similar to โครงงานคอม

2557 โครงงาน คอม
2557 โครงงาน คอม2557 โครงงาน คอม
2557 โครงงาน คอมJaturaphun
 
โครงงาน607
โครงงาน607โครงงาน607
โครงงาน607adthakron09
 
งานคอมพราวเอ้
งานคอมพราวเอ้งานคอมพราวเอ้
งานคอมพราวเอ้Tayicha Phunpowngam
 
2562 final-project-yanisa-koranit-615-33-13
2562 final-project-yanisa-koranit-615-33-132562 final-project-yanisa-koranit-615-33-13
2562 final-project-yanisa-koranit-615-33-13th3_ze3d_g
 
งานคอม
งานคอมงานคอม
งานคอม0636830815
 
2557 โครงงานเพ -มเต_ม
2557 โครงงานเพ -มเต_ม2557 โครงงานเพ -มเต_ม
2557 โครงงานเพ -มเต_มJaturaphun
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ploypoll
 
Work1 phattraphorn
Work1 phattraphornWork1 phattraphorn
Work1 phattraphornssuser08841b
 
เวทมนตร์แห่งความสะอาด(607,6,9)
เวทมนตร์แห่งความสะอาด(607,6,9)เวทมนตร์แห่งความสะอาด(607,6,9)
เวทมนตร์แห่งความสะอาด(607,6,9)adthakron09
 

Similar to โครงงานคอม (20)

2557 โครงงาน คอม
2557 โครงงาน คอม2557 โครงงาน คอม
2557 โครงงาน คอม
 
โครงงาน607
โครงงาน607โครงงาน607
โครงงาน607
 
งานคอมพราวเอ้
งานคอมพราวเอ้งานคอมพราวเอ้
งานคอมพราวเอ้
 
Bathbomb
BathbombBathbomb
Bathbomb
 
Projectm6 2-2556
Projectm6 2-2556Projectm6 2-2556
Projectm6 2-2556
 
2562 final-project-yanisa-koranit-615-33-13
2562 final-project-yanisa-koranit-615-33-132562 final-project-yanisa-koranit-615-33-13
2562 final-project-yanisa-koranit-615-33-13
 
2558 project
2558 project 2558 project
2558 project
 
Stinky feet
Stinky feetStinky feet
Stinky feet
 
งานคอม
งานคอมงานคอม
งานคอม
 
2557 โครงงานเพ -มเต_ม
2557 โครงงานเพ -มเต_ม2557 โครงงานเพ -มเต_ม
2557 โครงงานเพ -มเต_ม
 
คอม1
คอม1คอม1
คอม1
 
คอม1
คอม1คอม1
คอม1
 
เผ็ดจังหม่าล่า
เผ็ดจังหม่าล่าเผ็ดจังหม่าล่า
เผ็ดจังหม่าล่า
 
โครงงานคอม
โครงงานคอมโครงงานคอม
โครงงานคอม
 
5 finalprojectcom
5 finalprojectcom5 finalprojectcom
5 finalprojectcom
 
Kiki
KikiKiki
Kiki
 
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
 
คอม
คอมคอม
คอม
 
Work1 phattraphorn
Work1 phattraphornWork1 phattraphorn
Work1 phattraphorn
 
เวทมนตร์แห่งความสะอาด(607,6,9)
เวทมนตร์แห่งความสะอาด(607,6,9)เวทมนตร์แห่งความสะอาด(607,6,9)
เวทมนตร์แห่งความสะอาด(607,6,9)
 

More from Chanya Sangsuwanlert

ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์Chanya Sangsuwanlert
 
ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์Chanya Sangsuwanlert
 
โครงร่างโครงงาน คอม
โครงร่างโครงงาน คอมโครงร่างโครงงาน คอม
โครงร่างโครงงาน คอมChanya Sangsuwanlert
 

More from Chanya Sangsuwanlert (6)

สบู่สมุนไพร
สบู่สมุนไพรสบู่สมุนไพร
สบู่สมุนไพร
 
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
 
ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายและความสำคัญของโครงงานคอมพิวเตอร์
 
โครงร่างโครงงาน คอม
โครงร่างโครงงาน คอมโครงร่างโครงงาน คอม
โครงร่างโครงงาน คอม
 
พ.ร.บ. 2558
พ.ร.บ. 2558พ.ร.บ. 2558
พ.ร.บ. 2558
 
Chanya1
Chanya1Chanya1
Chanya1
 

โครงงานคอม

  • 1. 1 แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ รหัสวิชา ง33202 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6 ปีการศึกษา 2559 ชื่อโครงงาน สบู่สมุนไพร (Herb Soup) ชื่อผู้ทาโครงงาน 1.นางสาชัญญา แสงสุวรรณเลิศ เลขที่ 1 ชั้น ม.6 ห้อง 11 2.นางสาวกัญญ์สิริ สายอุด เลขที่ 5 ชั้น ม.6 ห้อง 11 ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์ ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
  • 2. 2 ใบงาน การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์ สมาชิกในกลุ่ม 1.นางสาวชัญญา แสงสุวรรณเลิศ เลขที่ 1 2.นางสาวกัญญ์สิริ สายอุด เลขที่ 5 คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้ ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย) สบู่สมุนไพร ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ) Herb Soup ประเภทโครงงา โครงงานประเภททดลอง ชื่อผู้ทาโครงงาน 1.นางสาวชัญญา แสงสุวรรณเลิศ 2.นางสาวกัญญ์สิริ สายอุด ชื่อที่ปรึกษา คุณครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์ ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2559 ที่มาและความสาคัญของโครงงาน เนื่องจากในปัจจุบันมีสบู่หลายชนิดในชีวิตประจาวันที่ใช้สารเคมีจานวนมากบวกกับมลภาวะสิ่งแวดล้อม ต่างๆที่มีมลพิษ ฝุ่น ควัน สิ่งเหล่านี้เป็นสาเหตุของการทาลายสุขภาพผิว ทาให้ผิวแห้ง แตก ผิวขาดความชุ่มชื่น ขาด วิตามิน จึงทาให้เกิดโครงงานนี้ขึ้นมา คือโครงงานสบู่สมุนไพร ที่ทาจากส่วนผสมในธรรมชาติ ที่หาได้ตาม ท้องตลาดทั่วไป เช่น ขมิ้น น้ามะขามเปียก น้ามันออย นมสด เป็นต้น แถมราคาไม่แพง และไม่เกินความสามารถที่ จะทา สบู่ที่ทาในครั้งนี้สามารถช่วยให้ผิวพรรณของเรามีความชุ่มชื่น สุขภาพดีขึ้น ผิวไม่แห้งกร้านหรือแตกง่าย
  • 3. 3 วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเป็นข้อ) 1.ศึกษาหาความรู้วิธีการทาสบู่สมุนไพร 2.เมื่อมีความชานาญในการทาแล้ว สามารถนาไปขายเพื่อสร้างรายได้ให้กับตนเอง 3.ประหยัดค่าใช้จ่าย 4.เพื่อสนับสนุนสินค้าเกี่ยวกับสมุนไพร ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน) - ศึกษาชนิดของสบู่แต่ละประเภท - ศึกษาหลักการพื้นฐานในการผลิตสบู่จากธรรมชาติ - วัสดุอุปกรณ์ในการทา - สถานที่ในการทดลอง หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน) การศึกษาเรื่อง สบู่สมุนไพรจากกลีเซอรีน ประกอบด้วยเอกสารและงานที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา การทาสบู่สมุนไพรจากกลีเซอรีนธรรมชาติ โดยสบู่มีหลากหลายรูปแบบ หลายชนิด ขึ้นอยู่กับสมุนไพรที่นามา ผสมกับกลีเซอรีน ทาให้ได้สบู่ตามที่ต้องการ โดยผู้จัดทาโครงงานได้ศึกษาวิธีการทาสบู่จากกลีเซอรีน ที่ไม่เป็น อันตรายต่อผิว โดยการนาสมุนไพรธรรมชาติมาผสม คือ “ขมิ้น” และ “กากกาแฟ” มาใช้ในการทดลองและทาการ ประดิษฐ์ขึ้น สบู่ (soap) คือ สารเคมีที่เกิดจากการทาปฏิกิริยากันระหว่างโซเดียมไฮดรอกไซด์(ด่าง,โซดาไฟ, (NaOH,) และน้ามันที่มาจากสัตว์หรือพืช มีส่วนผสมระหว่างกรด(ไขมัน) กับเบส(ด่าง) ในอัตราส่วนที่ทาให้ สามารถทาความสะอาดได้ดี และไม่เป็นอันตรายต่อผิว คือ มีค่า pH อยู่ระหว่าง 8-10 ใช้ชาระล้างร่างกายควบคู่กับ การอาบน้า ทามาจากไขมันสัตว์ผสมกับน้าหอม โซดาไฟ และวัตถุดิบอื่นๆ สบู่ก้อน คือ ส่วนผสมระหว่างกรด(ไขมัน)กับเบส(ด่าง) ในอัตราส่วนที่ทาให้สามารถทาความสะอาดได้ดี และไม่เป็นอันตรายต่อผิว คือมีค่า pH อยู่ระหว่าง 8-10 (ในเอกสารจดแจ้งของ อ.ย.ให้ผู้ผลิตสบู่ก้อนระบุว่ามี ค่า pH ไม่เกิน 11) กรดหรือกรดไขมัน เช่นน้ามันพืช ไขมันสัตว์เบส เช่นโซดาไฟ โดยทั่วไปอัตราส่วนผสมที่ เหมาะสมคือเมื่อผสมกันแล้วควรจะเหลือกรดไขมันอยู่ประมาณ 5% หากไม่มีเครื่องมือในการวัดค่า pH ให้เก็บสบู่ เอาไว้อย่างน้อย 15-30 วันเพื่อให้ค่า pH ลดลง อยู่ในอัตราที่เหมาะสม
  • 4. 4 กรด(ไขมัน)และเบส(ด่าง)ที่นามาทาสบู่ ไขมันแต่ละชนิดประกอบด้วยกรดไขมันมากกว่า 1 ชนิด ตามธรรมชาติกรดไขมันเหล่านี้จะไม่อยู่อิสระ แต่รวมตัว กับสารกลีเซอรอลในไขมันอยู่ในรูปกลีเซอไรด์ เมื่อด่างทาปฏิกิริยากับกรดไขมัน กรดไขมันจะหลุดออกจากกลีเซอ ไรด์ รวมตัวเป็นสบู่ สารที่เกาะอยู่กับกรดไขมันก็จะหลุดออกมาเป็นกลีเซอรีน ปฏิกิริยาของ กรดไขมันแต่ละชนิด เมื่อรวมตัวกับด่างแล้ว จะให้สบู่ที่มีคุณสมบัติแตกต่างกัน เช่น กรดลอริก (lauric acid) มีมากในน้ามันมะพร้าว เป็น กรดไขมันที่ทาปฏิกิริยากับด่างแล้วให้สารที่มีฟองมาก กลีเซอรีน คือ แอลกอฮอล์ชนิดหนึ่งมีสูตรทางเคมี C3H5(HO)3 มีลักษณะข้นและใส ไม่มีสี เป็นผลพลอย ได้จากกระบวนทาสบู่ โดยที่ด่างจะผสมกับไขมันจากสัตว์และพืช ผู้ผลิต สบู่จะแยกกลีเซอรีนออกมาเพื่อนาไปใช้ ประโยชน์ในการทาโลชั่นและครีมได้อีก กลีเซอรีน เมื่ออยู่ในโลชั่นจะให้ผลดีมาก เนื่องจากเป็นวัตถุดิบที่ให้ ความชุ่มชื้น สามารถละลายได้ในแอลกอฮอล์และในน้า และยังนาไปใช้ผลิตไนโตรกลีเซอรีนและขนม ใช้ถนอม ผักและผลไม้รวมทั้งแช่ตัวอย่างทดลองในห้องแล็ป มองหาส่วนผสมที่เป็นกลีเซอรีนได้จากบรรดาโลชั่นที่วาง จาหน่ายตามชั้นในร้านขายยา หรือร้านงานฝีมือที่ขายผลิตภัณฑ์จากสบู่ ขมิ้น เป็นพืชล้มลุกในวงศ์ขิง มีถิ่นกาเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีเหง้าอยู่ใต้ดิน เนื้อในของเหง้า ขมิ้นชันมีสีเหลืองเข้ม จนสีแสดจัด มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ใบรูปเรียวยาวปลายแหลมคล้ายใบพุทธรักษา ดอก ออกเป็นช่อ มีก้านช่อแทงจากเหง้าโดยตรง ออกตรงกลางระหว่างใบคู่ในสุดดอกสีขาว มีแถบสีเหลืองคาด มีกลีบ ประดับสีขาวหรือเขียว ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ เหง้าขมิ้นมีสารประกอบที่สาคัญ เป็นน้ามันหอมระเหย "เอสเซนเซียล" และในเหง้ายังมีสารสีเหลืองส้ม ที่ทาให้ ขมิ้นได้ชื่อว่า Curcuminจากการทดลองพบว่าขมิ้นสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา ลดอาการอักเสบ มีฤทธิ์ในการ ขับน้าได้ดี น้ามันหอมระเหยในขมิ้นมีสรรพคุณรักษาปวดท้องเสียด ท้องอืด แน่นจุกเสียด ขมิ้นไม่มีพิษเฉียบพลัน มีความปลอดภัยสูง สบู่ธรรมชาติ คือ สบู่ที่เกิดจากกระบวนการซาปอนนิฟิเคชั่น (Saponification)ของไขมัน หรือน้ามัน จากพืชและสัตว์ที่ทาปฏิกิริยาทางเคมีกับสารละลายด่าง (โซเดียมไฮดรอกไซด์) จะได้ผลิตภัณฑ์เป็นของแข็ง ลื่น มีฟอง สามารถละลายและล้างออกด้วยน้า สบู่ธรรมชาติไม่ถูกสกัดเอากลีเซอรี นออก ไม่มีการเติมสารเคมี สารเกิดฟอง (detergent) แต่อาจเติมสมุนไพร หรือน้ามันหอมระเหยลงไป เท่านั้น คุณสมบัติของสบู่ คือ ใช้ทาความสะอาดชาระล้างสิ่งสกปรก หรือเป็นสารช่วยลดแรงตึงผิว (surfactant)
  • 5. 5 วิธีดาเนินงาน แนวทางการดาเนินงาน 1. คัดเลือกหัวข้อโครงงานที่สนใจจะทา โดยทั่วไปเรื่องที่จะมาพัฒนาเป็นโครงงานคอมพิวเตอร์มักได้จาก ปัญหา คาถาม หรือความสนใจในเรื่องต่าง ๆ จากการสังเกตสิ่งต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบคอมพิวเตอร์ หรือสิ่ง ต่างๆ ที่อยู่รอบตัวเรา จากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ในการตัดสินใจเลือกหัวข้อที่จะนามาพัฒนาเป็นโครงงาน คอมพิวเตอร์ ควรพิจารณาองค์ประกอบที่สาคัญดังต่อไปนี้ 1.1 ต้องมีความรู้และทักษะพื้นฐานอย่างเพียงพอในหัวข้อเรื่องที่จะศึกษา 1.2 สามารถจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์และวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องได้ 1.3 มีแหล่งความรู้เพียงพอที่จะค้นคว้าหรือขอคาปรึกษา 1.4 มีเวลาเพียงพอ 1.5 มีงบประมาณเพียงพอ 1.6 มีความปลอดภัย 2. ศึกษาค้นคว้าและวางแผน การศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล รวมถึงการขอคาปรึกษาจาก ผู้ทรงคุณวุฒิ จะช่วยให้นักเรียนได้แนวคิดที่ใช้ในการกาหนดขอบเขตของเรื่องที่จะศึกษาได้เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น รวมทั้งได้ความรู้เพิ่มเติมในเรื่องที่จะศึกษา จนสามารถใช้ออกแบบและวางแผนดาเนินการทาโครงงานนั้นได้ 3. จัดทาเค้าโครงของโครงงานที่จะทา ดังนี้ 3.1 ศึกษาค้นคว้าเอกสารอ้างอิงและรวบรวมข้อมูลที่ได้จากผู้ทรงคุณวุฒิ 3.2 วิเคราะห์ข้อมูล เพื่อกาหนดขอบเขตและลักษณะของโครงการที่จะพัฒนา 3.3 ออกแบบการพัฒนา มีการกาหนดลักษณะของเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์และตัวแปลภาษา โปรแกรม และวัสดุต่าง ๆ ที่ต้องใช้ 3.4 กาหนดตารางการปฏิบัติงานของการจัดทาเค้าโครงของโครงงาน ลงมือทาโครงงานและสรุปรายงาน โครงงาน โดยกาหนดช่วงเวลาอย่างกว้าง ๆ 3.5 ทาการพัฒนาโครงงานขั้นต้น เพื่อศึกษาความเป็นไปได้เบื้องต้น โดยอาจจะทาการพัฒนาส่วนย่อย ๆ บางส่วนตามที่ได้ออกแบบไว้แล้ว นาผลจากการศึกษาในช่วงนี้ไปปรับปรุงแผนการทดลองที่ออกแบบไว้ ในครั้งแรกให้เหมาะสมมากยิ่งขึ้น 3.6 เสนอเค้าโครงของโครงงานคอมพิวเตอร์ต่ออาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อขอคาแนะนาและปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้การวางแผนและดาเนินการทาโครงงานเป็นไปอย่างเหมาะสมเป็นขั้นตอนตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุด 4. การลงมือทาโครงงาน เมื่อเค้าโครงของโครงงานได้รับความเห็นชอบจากอาจารย์ที่ปรึกษาแล้ว ก็เสมือน ว่าการจัดทาโครงงานได้ผ่านพ้นไปแล้วมากกว่าครึ่ง ขั้นตอนต่อไปเป็นการลงมือพัฒนาตามขั้นตอนที่ได้วางแผนไว้ เช่น จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ให้พร้อม รวมทั้งการกาหนดหน้าที่ความรับผิดชอบของสมาชิกในกลุ่มให้ชัดเจน แล้วจึง ดาเนินการทาโครงงาน ขณะเดียวกันต้องมีการทดสอบ ตรวจสอบ ปรับปรุงแก้ไข เพื่อพัฒนาโครงงานเป็นระยะ ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าผลงานที่พัฒนาขึ้น ทางานได้ถูกต้องตรงกับความต้องการที่ระบุไว้ในเป้ าหมาย และเกิด ประสิทธิภาพตามขั้นตอนต่อไปนี้
  • 6. 6 4.1 การเตรียมการ ต้องเตรียมเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ และวัสดุอื่น ๆ ที่จะใช้ในการพัฒนาให้พร้อม และควรเตรียมสมุดบันทึกหรือบันทึกเป็นแฟ้มข้อความไว้ในระบบคอมพิวเตอร์ สาหรับบันทึกการทา กิจกรรมต่าง ๆ ระหว่างการทาโครงงาน ได้แก่ การดาเนินการอย่างไร ได้ผลอย่างไร มีปัญหาและแก้ไขได้ หรือไม่อย่างไร รวมทั้งข้อสังเกตต่าง ๆ ที่พบ 4.2 การลงมือพัฒนา เป็นการปฏิบัติตามแผนงานที่ได้วางไว้ในเค้าโครง ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงหรือ เพิ่มเติมได้หากพบว่าจะช่วยให้ผลงานพัฒนาได้ดีขึ้น โดยจัดระบบการทางาน ทาส่วนที่เป็นหลักสาคัญให้ เสร็จก่อน จึงค่อยทาส่วนที่เป็นส่วนประกอบหรือส่วนเสริม เพื่อให้โครงงานมีความสมบูรณ์มากขึ้น และ ถ้ามีการแบ่งงานกันทา ให้มีการตกลงรายละเอียดในการเชื่อมต่อชิ้นงานที่ชัดเจนด้วย รวมทั้งต้องพัฒนา ระบบงานด้วยความละเอียดรอบคอบ บันทึกข้อมูลอย่างเป็นระบบและครบถ้วน 4.3 การทดสอบผลงานและแก้ไข เป็นการตรวจสอบความถูกต้องของผลงาน เพื่อให้แน่ใจว่าผลงานที่ พัฒนาขึ้น ทางานได้ถูกต้องตรงตามความต้องการที่ระบุไว้ในเป้ าหมาย และมีประสิทธิภาพ 4.4 การอภิปรายและข้อเสนอแนะ เมื่อพัฒนาผลงานเรียบร้อยแล้ว ให้จัดทาข้อสรุปด้วยข้อความที่สั้น กะทัดรัด ครอบคลุมหัวข้อโครงงาน เพื่อช่วยให้ผู้อ่านได้เข้าใจถึงสิ่งที่ค้นพบจากการทาโครงงานและ อภิปรายผล เพื่อพิจารณาข้อมูลและผลที่ได้พร้อมกับนาไปหาความสัมพันธ์กับ หลักการ ทฤษฎี หรือ ผลงานที่ผู้อื่นได้ศึกษาไว้แล้ว ทั้งนี้รวมไปถึงหลักการ ทฤษฎี หรือผลงานของผู้อื่นมาใช้ประกอบการ อภิปรายผลได้ 4.5 แนวทางการพัฒนาโครงงานในอนาคตและข้อเสนอแนะ เมื่อทาโครงงานเสร็จสิ้นลงแล้ว นักเรียนอาจ พบข้อสังเกต ประเด็นที่สาคัญหรือปัญหาซึ่งสามารถเขียนเป็นข้อเสนอแนะ สาหรับผู้ที่สนใจจะนาไป พัฒนาผลงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น 5. เขียนรายงานและจัดทาคู่มือการใช้ การเขียนรายงานเป็นวิธีการสื่อความหมายเพื่อให้ผู้อื่นเข้าใจแนวคิด วิธีดาเนินการศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลที่ได้ตลอดจนข้อสรุปและข้อเสนอแนะต่าง ๆ เกี่ยวกับโครงงาน ในการเขียน รายงานนักเรียนควรใช้ภาษาที่อ่านง่าย ชัดเจน กระชับ และตรงไปตรงมา และส่วนสุดท้ายเป็นคู่มือการใช้งาน โครงงาน ซึ่งประกอบด้วย เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ 1.กลีเซอรีนชนิดก้อน 8.ถ้วยชาม 2.น้าหอมกลิ่นมะลิ 9.ช้อน 3.ขมิ้น 10.เครื่องปั่น 4.มะขามเปียก 11.หม้อ 5.น้าเปล่า 12.พลาสติกใส 6.แม่พิมพ์ 13.เตาแก๊ส 7.ตะแกรงกรอง 14.ตู้เย็น งบประมาณ งบประมาณรวมทั้งสิ้น 260 บาท
  • 7. 7 ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน ลาดับ ที่ ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 1 คิดหัวข้อโครงงาน ชัญญา,กัญญ์สิริ 2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล ชัญญา,กัญญ์สิริ 3 จัดทาโครงร่างงาน ชัญญา,กัญญ์สิริ 4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน ชัญญา 5 ปรับปรุงทดสอบ ชัญญา 6 การทาเอกสารรายงาน ชัญญา,กัญญ์สิริ 7 ประเมินผลงาน ชัญญา 8 นาเสนอโครงงาน ชัญญา,กัญญ์สิริ ผลที่คาดว่าจะได้รับ(ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทาโครงงาน) - ได้เรียนรู้วิธีการทาสบู่จากสมุนไพร - ได้นาเอาเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์ - สามารถนาความรู้ไปต่อยอดสร้างรายได้ให้แก่ตนเอง - เผยแพร่ความรู้วิธีการทาให้กับผู้ที่ต้องการจะศึกษา สถานที่ดาเนินการ - โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย - บ้านของนางสาวชัญญา แสงสุวรรณเลิศ กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง - กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สาขาเคมี - กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ - กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
  • 8. 8 แหล่งอ้างอิง (เอกสาร หรือแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่นามาใช้การทาโครงงาน) Miracleshopthai.2559.อยากรู้ไหมว่า... สบู่ทั่วไปกับสบู่กลีเซอรีน นั้นต่างกันอย่างไร(ออนไลน์). แหล่งที่มา : http://www.miracleshopthai.com/blog/ อยากรู้ไหมว่า-สบู่ทั่วไปกับสบู่กลีเซอรีน-นั้นต่างกันอย่างไร BubbleCheet.2559.ประวัติความเป็นมาสบู่สมุนไพรธรรมชาติทามือ(ออนไลน์). แหล่งที่มา : https://www.facebook.com/notes/รับผลิตครีมกิโล-โลชั่น-สครับ-เซรั่ม-สบู่สมุนไพรทุกชนิด-ราคา โรงงาน/ประวัติความเป็นมาสบู่สมุนไพรธรรมชาติทามือ/280699062042382/ Konradlew.2559.สบู่สมุนไพร(ออนไลน์). แหล่งที่มา : http://ziimphope.blogspot.com/2012/09/blog-post.html Phu Temduen.2559.ทาสบู่กลีเซอรีนสมุนไพรใช้เองง่ายๆ สบู่สมุนไพรบารุงผิว Thai Herbal Handmade Soap(ออนไลน์).แหล่งที่มา : https://www.youtube.com/watch?v=ncJT5O-5wHQ