More Related Content
More from Washirasak Poosit
More from Washirasak Poosit (20)
กำลังทางอากาศสหรัฐ-อิรัก
- 1. ศูนย์ การสงครามทางอากาศ กองบัญชาการยุทธทางอากาศ
Royal Australian Air Force Aerospace Centre
__________________________________________________
กาลังทางอากาศและอวกาศในสงครามสหรัฐ ฯ – อิรัก
เรี ยบเรี ยงจาก Aerospace Centre Paper Number 8: Aerospace Issues from the Iraq War
Imponderables and Pointers by Sanu Kainikara, May 2003)
นาวาอากาศโท วชิ รศักดิ์ พูสิทธิ์
กล่ าวทั่วไป
ความสาเร็ จในการใช้ ขีดความสามารถของกาลังทางอากาศสร้ างความเป็ น “อัมพาต
ทางยุทธศาสตร์ ” ให้ กบอิรักเมื่อคราวสงครามอ่าวในปี ๒๕๓๔ นั ้น ทาให้ โลกตื่นตะลึงกับ
ั
แนวความคิดในเรื่ องการสงคราม ทฤษฎี และบทพิสจน์ใหม่ ที่มีกาลังทางอากาศเป็ นหัวใจใน
ู
การให้ ได้ มาซึงความสาเร็ จทางทหาร หลังจาก ๑๒ ปี ผ่านพ้ นไป นักการทหารต่างเชื่อมันว่า
่
่
“กาลังทางอากาศ ” คือ ยารักษาทุกโรคและเป็ นคาตอบของทุกคาถาม ( panacea1) ด้ วย
มุมมองเช่นนี ้ ได้ บดผันความเป็ นจริ งสูแนวโน้ มแห่งความเสียงในความพยายามที่จะ
ิ
่
่
เคลือนย้ าย ( Deploy) และใช้ ( Employ) กาลังทางอากาศไปยังพื ้นที่อนโดดเดี่ยว อันตราย
่
ั
และแยกส่วนจากกาลังรบส่วนอื่น ๆ ทั ้งหลายทั ้งมวล เนื่องจากความเชื่อที่บอกต่อกันว่า
“กาลังทางอากาศคือหัวใจในการเอาชนะสงคราม”
สงครามระหว่างสหรัฐ ฯ -อิรัก ครังล่าสุด ได้ มีพฒนาการใช้ กาลังทางอากาศมาก
้
ั
ยิ่งขึ ้นไปอีก โดยเฉพาะในเรื่ องของความชัดเจนในแนวทางปฏิบติ ความอ่อนตัวที่ใช้ ได้ ทั ้งใน
ั
ภารกิจตั ้งแต่ระดับยุทธศาสตร์ ถงยุทธวิธี ความแม่นยา ขนาดความรุนแรงในการทาลาย และ
ึ
1
Panacea – ยาแก้ สารพัดโรค ยาอเนกประสงค์ คาตอบสาหรับทุกคาถามหรื อทุกปั ญหา เทพธิดาแห่งการรักษา (เทพนิยายกรี กโบราณ)
- 2. ๒
ที่สาคัญที่สดคือ ระยะเวลาในการตอบสนอง ( Response time) เมื่อปี ๒๕๓๔ สหรัฐ ฯ ใช้
ุ
เวลาถึง ๓ วันก่อนที่ระเบิดจะถูกปลดจากเครื่ องบินโจมตีเข้ าสูเ่ ปาหมายภาคพื ้นหลังจากที่
้
ได้ รับการพิสจน์ทราบและชี ้ชัดเปาหมายแล้ ว แต่ในสงครามครังนี ้ ช่วงเวลานับตั ้งแต่การ
ู
้
้
พิสจน์ทราบเปาหมายจนถึงเวลาระเบิดตกใช้ เวลาเพียง ๔๕ นาทีเท่านั ้น !
ู
้
แม้ สหรัฐ ฯ จะประกาศสิ ้นสุดสงครามและการใช้ กาลังขนาดหนักไปแล้ ว แต่การ
บูรณะฟื นฟู การจัดระเบียบ และการวางกาลังควบคุมของสหรัฐ ฯ และพันธมิตรจะยังคง
้
ดาเนินต่อไป ถึงแม้ ว่าข้ อมูลและรายละเอียดของการยุทธในครังนี ้จะยังไม่กระจ่างชัดและ
้
เพียงพอที่จะนามาเปิ ดอภิปรายก็ตาม การวิเคราะห์ค้นหาคาอธิบายและศึกษาพฤติกรรม
ของสงครามในแต่ละช่วงระยะเวลา ก็ยงมีความจาเป็ นเป็ นอย่างยิ่ง เนื่องจากในแต่ละ
ั
ช่วงเวลาย่อมก่อให้ เกิดการบันทึกในสิงที่ควรสนใจแตกต่างกันไป และจะสามารถนาไปเป็ น
่
ส่วนประมวลขยายเมื่อต้ องการหาบทสรุปรวมหลังจากที่สถานการณ์ได้ จบสิ ้นจนเข้ าสูสภาวะ
่
ปกติแล้ ว
ประเด็นด้ านอากาศ-อวกาศ
การศึกษาประวัติศาสตร์ การสงครามเพียงประการเดียวไม่อาจเป็ นตัวชี ้ทางในการทา
สงครามให้ ประสบผลสาเร็ จอย่างสมบูรณ์ได้ พื ้นฐานที่แตกต่างกันประการหนึงระหว่างการ
่
ทาสงครามกับอิรักทั ้ง ๒ ครังก็คือ ก่อนเริ่ มสงครามในปี ๒๕๓๔ กองกาลังพันธมิตรยังไม่
้
สามารถประเมินขีดความสามารถและแนวทางการต่อต้ านของอิรักได้ ว่าจะเป็ นไปในรูปแบบ
ใด ทาให้ ต้องประเมินการถูกต่อต้ านจากอิรักไว้ สง ในสงครามปี ๒๕๔๖ นี ้ เห็นได้ ชดว่า
ู
ั
กองกาลังพันธมิตรนาโดยสหรัฐ ฯ มีความได้ เปรี ยบตั ้งแต่เริ่ มต้ น ทั ้งนี ้เนื่องจากอิรักถูกจากัด
ในด้ านการพัฒนากาลังทหารมาตั ้งแต่สงครามครังที่แล้ ว กองกาลังพันธมิตรจึงมีความมันใจ
้
่
ว่าจะได้ รับชัยชนะในสงครามครังนี ้ มีเพียงความไม่แน่ชดในเรื่ องของกรอบเวลาและรูปแบบ
้
ั
ของสงครามที่อิรักจะใช้ ตอบโต้ ในคราวนี ้เท่านั ้น ซึงการใช้ กาลังในการแก้ ไขปั ญหาข้ อขัดแย้ ง
่
นี ้ ย่อมต้ องมีปัจจัยที่ไม่สามารถทานายได้ เสมอ ในการวิเคราะห์การใช้ กาลังทางอากาศนี ้จะ
ได้ แยกเป็ นหัวข้ อที่ต้องพิจารณาคือ
๑. การครองอานาจทางอากาศ (Control of the Air)
๒. การควบคุมการรบในอากาศ-อวกาศ (Battlespace Control)
- 3. ๓
๓. การข่าว, การบินเฝาตรวจ, การบินลาดตระเวน ( Intelligence, Surveillance,
้
Reconnaissance)
๔. การกาหนดเปาหมาย (Targeting)
้
๕. ความเสียหายข้ างเคียง (Collateral Damage)
๖. ระบบการปองกันทางอากาศ (Air Defence System)
้
๗. การส่งกาลังบารุง (Logistics Lines)
๘. การใช้ ห้วงอวกาศ (Space)
๙. จังหวะในการปฏิบติการ (Tempo of Operations)
ั
๑๐. กฎการปะทะ (Role of Engagement)
๑๑. บทบาทของสือ (Role of Media)
่
๑. การครองอานาจทางอากาศ (Control of the Air)
ความได้เปรี ยบทางอากาศ (Air Supremacy)
เป็ นที่ทราบกันแล้ วว่า กาลังทางอากาศและระบบปองกันภัยทางอากาศหลักของอิรัก
้
ถูกทาลายไปตั ้งตั ้งแต่สงครามอ่าวเมื่อปี ๒๕๓๔ การปองกันภาคพื ้นที่กระจายอยู่ทวไปก็ถก
้
ั่
ู
จากัดริ ดรอนจากการบีบด้ วยการกาหนด No Fly Zone ทางตอนใต้ และตอนเหนือของ
ประเทศ ในสภาพเช่นนี ้ ทาให้ สหรัฐ ฯ สามารถลดภารกิจการบินข่มการปองกันทางอากาศ
้
ของข้ าศึก (Suppression of Enemy Air Defence - SEAD) ในช่วงเริ่ มต้ นของสงครามลงไป
ได้ ความได้ เปรี ยบทางอากาศที่ปรากฏอยู่แล้ วตั ้งแต่ก่อนเริ่ มสงคราม ทาให้ กาลังทางบกของ
กองกาลังพันธมิตรสามารถเริ่ มดาเนินการรุกคืบได้ ทนทีก่อนได้ รับอานัติสญญาณการเริ่ ม
ั
ั
สงครามจากสหรัฐ ฯ ความได้ เปรี ยบทางอากาศนี ้สังเกตได้ จากการที่ไม่มีเครื่ องบินฝ่ ายอิรัก
ขึ ้นปฏิบติการเลยแม้ แต่เครื่ องบินลาดตระเวนหาข่าว อย่างไรก็ตาม แม้ว่าฝ่ ายกองกาลัง
ั
พันธมิ ตรจะรู้ถึงความได้เปรี ยบอันนี ้ แต่ในการวางแผนการยุทธทางอากาศ นักวางแผนจะ
ละเลยขีดความสามารถทางอากาศของฝ่ ายตรงข้ามไม่ได้เลยแม้จะมีเพียงเล็กน้อยเท่าใดก็
ตาม เพราะกาลังทางอากาศแม้เพียงเล็กน้อยย่อมสร้างความเสียหายทีรุนแรงได้เสมอ
่
- 4. ๔
การป้ องกันฐานบิ น (Airbase Security)
การที่ไม่ปรากฎการใช้ กาลังทางอากาศของอิรัก รวมทั ้งความไม่เพียงพอของอาวุธพื ้น
สูพื ้นที่อิรักครอบครองอยู่ ทาให้ การปองกันฐานบินของกองกาลังพันธมิตรมีความปลอดภัย
่
้
ฝ่ ายกองกาลังพันธมิตรเพียงดารงความได้ เปรี ยบทางอากาศที่มีอยู่แล้ วไว้ ให้ ได้ เท่านั ้น การ
รักษาความปลอดภัยของฐานบิ นต่างถิ่ น ถือเป็ นความสาคัญลาดับต้น ๆ ในการเตรี ยมกาลัง
โดยเฉพาะเมือต้องเตรี ยมการในสนามบิ นต่างถิ่ นและการรวมกาลังกับชาติพนธมิ ตรมีความ
่
ั
สลับซับซ้อนมากยิ่ งขึ้น
ความพร้อมของฐานบิ น (Airbase Availability)
การเข้ าใช้ ฐานบินและห้ วงอากาศ (
Airspace) ในต่างแดนถือเป็ นหัวใจสาคัญในการ
วางแผน การขอใช้ พื ้นที่ประเทศใดประเทศหนึงเพื่อตั ้งฐานกาลังเป็ นเรื่ องของการเมือง
่
โดยตรง สิงสาคัญก็คือ นักวางแผนไม่อาจทานายได้ ว่าจะได้ รับความร่ วมมือจากประเทศที่
่
ต้ องการวางกาลังหรื อไม่ เนื่องจากสถานการณ์เปลียนแปลงได้ ตลอดเวลา ดังนั ้นแผนสารอง
่
หรื อการปรับแผนการวางกาลังอย่างปั จจุบนทันด่วนจึงเป็ นธรรมชาติของสงครามที่ต้องนามา
ั
พิจารณาเตรี ยมการ การเลือนระยะห่างของฐานบิ นจากพืนทีปฏิ บติการจะส่งผลกระทบ
่
้ ่ ั
ต่อเนืองในเรื ่องของการวางแผนการบิ น สมรรถนะของเครื ่องบิ นทีตองการ การเติมเชือเพลิง
่
่้
้
ทางอากาศ ไปจนถึงความอ่อนตัวในการปฏิ บติภารกิ จ เช่น การวางแผนโจมตีดวย
ั
้
เฮลิคอปเตอร์ และเครื ่องบิ นโจมตีทางยุทธวิ ธีทีตองแบกอาวุธหนัก
่้
๒. การควบคุมการรบในอากาศ-อวกาศ (Battlespace Control)
ความแออัด (Saturation)
ระหว่างปฏิบติการใช้ กาลังทางอากาศในสงครามครังนี ้ กองกาลังพันธมิตรสูญเสีย
ั
้
อากาศยานไปจานวนหนึงโดยเฉพาะเฮลิคอปเตอร์ มีเพียง ๒ เครื่ องเท่านั ้นที่ได้ รับรายงานว่า
่
ถูกยิงจากฝ่ ายตรงข้ าม นอกนั ้นสูญเสียด้ วยอุบติเหตุ สภาพอากาศและถูกยิงจากฝ่ าย
ั
เดียวกัน สิงนี ้แสดงให้ เห็นว่า ในสงครามทางอากาศต่อ ๆ ไป ความแออัดของการใช้
่
เครื่ องบินในพื ้นที่การรบทางอากาศ ( Battlespace) จะเพิ่มปั ญหาให้ กบนักวางแผนในการ
ั
แบ่งพื ้นที่ รับผิดชอบและลาดับของกระบวนรบมากยิ่งขึ ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนา
- 5. ๕
อากาศยานไร้ คนขับ ( Unmanned Aerial Vehicles - UAVs) ระบบอาวุธชาญฉลาด
(Autonomous Weapons) ที่ตดสินใจได้ ด้วยตนเองมาใช้ ร่วมในการรบด้ วย ปั ญหาเหล่านี ้จะ
ั
เพิ่มมากยิ่งขึ ้นหากฝ่ ายตรงข้ ามมีการใช้ กาลังทางอากาศ การแบ่งแนวหน้ าของทหารฝ่ ายเรา
(Forward Line of Own Troops - FLOT) ไม่ชดเจน และความจาเป็ นที่จะต้ องหวนกลับไป
ั
ใช้ การปฏิบติภารกิจการสนับสนุนทางอากาศโดยใกล้ ชิดและเฮลิคอปเตอร์ สาหรับการ
ั
ปฏิบติการรบ ในเมือง
ั
ความสามารถในการปฏิ บติร่วม (Interoperability)
ั
การยิงอากาศยานฝ่ ายเดียวกันทาให้ ทกฝ่ ายที่เข้ าร่ วมการรบต้ องกลับมาทบบวนการ
ุ
ปฏิบติร่วมกันใหม่ทั ้งหมด ปั ญหาเหล่านี ้รวมไปถึงการใช้ อปกรณ์ที่แต่ละชาติมีใช้ การ
ั
ุ
บัญชาการและควบคุม การสือสาร ไปจนถึงการวางยุทธวิธีการรบ ถึงแม้ ว่าชาติที่เข้ าร่ วมใน
่
กองกาลังพันธมิตรจะเคยได้ รับการฝึ กร่ วม / ผสมด้ วยกันมาแล้ วก็ตาม เช่น กองทัพอากาศ
อังกฤษและกองทัพอากาศสหรัฐ ฯ ก็ยงเกิดข้ อผิดพลาดในการพิสจน์ฝ่ายขึ ้นได้ หากข้ าศึกมี
ั
ู
กิจกรรมในการปฏิบติการต่อต้ านหรื อการลวงต่าง ๆ ด้ วยแล้ ว การปฏิบติการร่ วมจะเป็ น
ั
ั
จุดเปราะบางที่ทกฝ่ ายต้ องนาปั ญหาที่เกิดขึ ้นเหล่านี ้มา ทบทวนและหาทางแก้ ไขต่อไป
ุ
๓. การข่ าว, การบินเฝาตรวจ, การบินลาดตระเวน ( Intelligence, Surveillance,
้
Reconnaissance)
กองกาลังพันธมิตรได้ เปรี ยบในเรื่ องการรวบรวมข้ อมูลด้ านการข่าวในช่วงระยะเวลา
๑๒ ปี ที่อิรักอยู่ในความควบคุม นอกจากนี ้การใช้ UAVs ช่วยในการบินเฝาตรวจถือได้ ว่าเป็ น
้
บทบาทสาคัญของการสงครามครังนี ้ การใช้ JSTARS และ AWAC ไปจนถึงดาวเทียมด้ าน
้
การข่าวทาให้ ภารกิจการโจมตีทางอากาศในสงครามครังนี ้มีความโดดเด่นเป็ นอย่างยิ่งใน
้
เรื่ องของการใช้ ข้อมูลใกล้ เวลาจริ ง ( Near Real Time) รถยนต์ทกคันในกรุงแบกแดดถูกจับ
ุ
ตามองความเคลือนไหว การวิเคราะห์ความเสียหาย (Battle Damage Assessment - BDA)
่
หรื อการจับตามองการฟื นกาลังฝ่ ายข้ าศึกก็สามารถกระทาได้ อย่างต่อเนื่อง
้
- 6. ๖
๔. การกาหนดเปาหมาย (Targeting)
้
การเลือกเป้ าหมาย (Target Selection)
การเลือกเปาหมายทางยุทธศาสตร์ มีวตถุประสงค์ในผลที่ต้องการอย่างชัดเจน และที่
้
ั
สาคัญคือเปิ ดเผยต่อสาธารณชน การเลือกเปาหมายที่เจาะจง เช่น ตัวผู้นา ที่ทาการของ
้
รัฐบาล ที่ตั ้งกาลังทหารของอิรัก โครงสร้ างภายในของอิรัก ( Infrastructure) ฯลฯ ให้ ผลทาง
จิตวิทยาทั ้งทางตรงและทางอ้ อม การโจมตีด้วยอาวุธแม่นยา ( Precision Attacks) ต่อระบบ
ต่าง ๆ ภายในอิรักส่งผลให้ การบัญชาการและควบคุมของซัดดัม ฮุสเซ็นล่มสลาย การเลือก
เปาหมายการโจมตีอิรักในครังนี ้ แน่นอนว่าต้ องได้ รับอนุมติจากนักการเมืองระดับสูงของ
้
้
ั
สหรัฐ ฯ แม้ ว่าสาธารณชนจะได้ รับการย ้าเสมอว่ากองกาลังพันธมิตร “ไม่ได้รับอิ ทธิ พลในการ
ตัดสินใจเลือกเป้ าหมายจากฝ่ ายการเมือง ” และเป็ น การดาเนิน (running) ของสงครามที่
บีบให้ กาหนดเปาหมาย เช่นการไล่ลาเพื่อฆ่า ซัดดัม ฮุสเซ็น อย่างโจ่งแจ้ ง
้
่
การใช้ประโยชน์ภาคอากาศ (Employment of Air Assets)
การใช้ กาลังทางอากาศในสงครามครังนี ้มีประเด็นอันน่าสนใจที่ต้องนามาพิจารณา
้
นันคือ ประการแรก การหวนคืนกลับมาของการใช้ เฮลิคอปเตอร์ โจมตีและการใช้ ภารกิจการ
่
บินสนับสนุนทางอากาศ ( CAS) ซึงเคยเชื่อว่าเป็ นภารกิจไดโนเสาร์ ยคสงครามเวียดนาม ที่
่
ุ
เคยถกเถียงกันว่าไม่ควรที่จะนามาใช้ กนอีกต่อไป เนื่องจากเป็ นภารกิจที่มีความเสียงสูง
ั
่
รวมทั ้งระบบอาวุธและการข่าวแบบใกล้ เวลาจริ งได้ พฒนาไปจนไม่จาเป็ นต้ องใช้ อากาศยาน
ั
เข้ าใกล้ เปาอีกต่อไป ประการที่สอง การพิจารณาเรื่ องประเภทของอากาศยานซึงเคยวาง
้
่
มาตรฐานไว้ ว่าเครื่ องบินแบบ B-1, B-2 และ B-52 คือเครื่ องบินที่ใช้ โจมตีทางยุทธศาสตร์ ต่อ
เปาหมายยุทธศาสตร์ ปั จจุบนเกิดความไม่แน่ชดในการมอบหมายและกาหนดภารกิจ
้
ั
ั
เนื่องจากเครื่ องบินโจมตีทางยุทธวิธีก็ได้ รับมอบหมายให้ โจมตีเปาหมายที่จดว่าเป็ น
้
ั
เปาหมายทางยุทธศาสตร์ ที่มีผลสาคัญต่อการรบเช่นกัน ดังนั ้นการยุทธทางอากาศใน
้
ปั จจุบนจึงต้ องเน้ นในภาพรวมที่ว่า เครื่ องบินทุกรูปแบบสามารถปฏิบติภารกิจทาง
ั
ั
ยุทธศาสตร์ ได้ ตามที่สถานการณ์จะกาหนดและอานวย เพื่อหลีกเลียงปั ญหาการจาแนก
่
ภารกิจการโจมตีทางยุทธศาสตร์ ที่ว่าจะพิจารณาจากแบบของเครื่ องบิน อาวุธ หรื อเปาหมาย
้
- 7. ๗
องค์ประกอบนภานุภาพ (Organic Air Power)
องค์ประกอบของนภานุภาพในสงครามนี ้ยังไม่บรรลุถงประสิทธิภาพที่ต้องการ ทั ้งนี ้
ึ
เป็ นผลเนื่องมาจากเงื่อนไขในการปฏิบติการของกองกาลังแต่ละชาติ การขาดการ
ั
ประสานกันในการใช้ กาลังทางอากาศร่ วมเป็ นปั จจัยสาคัญที่เป็ นขีดจากัดในการใช้ กาลังทาง
อากาศ สงครามที่อาจเกิดต่อไปในอนาคต การเพิ่มจานวนของกองกาลังพันธมิตรที่เข้ าร่ วม
ในการรบจะก่อให้ เกิดปั ญหาด้ านการบัญชาการและควบคุมในสนามรบอย่างแน่นอน
การตอบสนอง (Responsiveness)
ประเด็นขีดความสามารถของกาลังทางอากาศในการตอบสนองปรากฏผลสาเร็ จที่
เด่นชัดทั ้งในด้ านการปฏิบติภารกิจระยะไกลและอานาจการทาลายที่ให้ ผลดีเยี่ยม และใน
ั
อนาคตเมื่อประกอบกับการข่าวแบบแม่นยา ( Precision Intelligence) แล้ ว การตอบสนอง
ของการใช้ กาลังทางอากาศทั ้งยุทธศาสตร์ และยุทธวิธีจะสามารถสร้ างความเชื่อถือและ
เชื่อมันแก่นกวางแผนในการวางแผนการรบได้
่
ั
๕. ความเสียหายข้ างเคียง (Collateral Damage)
จากข้ อมูลที่เผยแพร่ โดยฝ่ ายสหรัฐ ฯ ความเสียหายทางข้ างของสงครามครังนี ้นับได้
้
ว่ามีน้อยมากเมื่อเทียบกับการโจมตีทางอากาศของทุกสงครามในศตวรรษที่ ๒๐ อย่างไรก็
ตาม เสียงการประท้ วงและคัดค้ านในความเสียหายที่เกิดขึ ้นก็ยงรุนแรง ทั ้งนี ้สาเหตุอาจ
ั
เนื่องมาจาก
๑. คาแถลงการณ์จากบุคคลระดับผู้นาของสหรัฐ ฯ ทั ้งภาคการเมืองและการทหาร
ได้ สร้ างความคาดหวังให้ แก่สาธารณชนทัวโลกอย่างสูงว่าจะไม่เกิดความเสียหายอื่นใดแก่
่
ประชาชนชาวอิรักทัวไป นอกจากสิงก่อสร้ างทางทหารที่ใช้ ต่อต้ านสหรัฐ ฯ และผู้นาอิรัก
่
่
เท่านั ้น
๒. ปั ญหาเกี่ยวกับความเสียหายข้ างเคียงนี ้ แม้ เพียงน้ อยนิดจะกระทบต่อขวัญและ
ศีลธรรมที่สาธารณชนไม่สามารถยอมรับได้
- 8. ๘
๓. การเผยแพร่ ข่าวสารจาก
“สื่ อทันการ (Real Life Media)” ซึงออกอากาศเผยแพร่
่
ซ ้าแล้ วซ ้าอีกไปทัวโลก โดยเฉพาะภาพเด็กที่ได้ รับบาดเจ็บ และความเสียหายเล็ก ๆ น้ อย ๆ
่
ถูกนามาเชื่อมภาพทาให้ เกิดการ “เกลียดน ้าหน้ า” ต่อการปฏิบติการของสหรัฐ ฯ
ั
๔. การใช้ กาลังทางอากาศให้ ผลกระทบต่อความรู้สกของสาธารณชนมากกว่าความ
ึ
เสียหายที่เกิดขึ ้นในลักษณะเดียวกันจากรถถังหรื อปื นใหญ่ ซึงได้ โจมตีอาคารสถานที่ของ
่
อิรักด้ วยภารกิจในลักษณะเดียวกัน ความเสียหายทางข้ างโดยการโจมตีทางอากาศมีผลทาง
จิตวิทยาสูงมาก โดยเฉพาะเมื่อปรากฎภาพของเหยื่อที่บริ สทธิ์ซงได้ รับผลกระทบจากการ
ุ ึ่
โจมตี ผลทางจิตวิทยานี ้จะถูกเก็บสะสมและทวีเป็ นความไม่พอใจมากขึ ้นต่อสงครามที่จะ
ติดตามมาในอนาคต สหรัฐ ฯ จะหลักเลียงไม่ได้ ต่อผลกระทบทางจิตวิทยาที่จะเกิดขึ ้น
่
นับจากนี ้ไป
๖. ระบบการปองกันทางอากาศ (Air Defence System)
้
สงครามครังนี ้ชี ้ให้ เห็นว่า แม้ แต่ระบบปองกันทางอากาศที่ถือว่าเป็ นสุดยอดของ
้
้
เทคโนยีที่สหรัฐ ฯ นามาใช้ ก็ยงสามารถถูกก่อกวนให้ ผิดพลาดได้ ด้วย “ความคลุมเครื อของ
ั
สงคราม ( Fog of War)” ที่เกิดขึ ้นในบางขั ้นตอนของสงคราม ประการแรก การยิง ฮ.ฝ่ าย
เดียวกันไม่น่าเกิดขึ ้นได้ ทั ้ง ๆ ที่สหรัฐ ฯ เป็ นฝ่ ายควบคุมสถานการณ์การสู้รบทางอากาศไว้ ได้
ทั ้งหมดอยู่แล้ ว ประการที่สอง แม้ มีบทพิสจน์แล้ วว่ากาลังทางอากาศในเชิงรุกจะนามาซึง
ู
่
ผลสาเร็ จตามวัตถุประสงค์ของภารกิจ แต่จดอ่อนของนภานุภาพก็คือการรักษาความ
ุ
ปลอดภัยของฐานบินในภาวะล่อแหลมขณะสงครามกาลังดาเนินอยู่ โดยเฉพาะในสนามบิน
ต่างถิ่นและใกล้ พื ้นที่การรบ รวมทั ้งการสถาปนาความปลอดภัยของฐานบินไม่สามารถ
กระทาได้ ถง ๑๐๐ เปอร์ เซ็นต์ ตัวอย่างทั ้งสองประการนี ้ ทาให้ ต้องกลับมาพิจารณากันอย่าง
ึ
ละเอียด รอบคอบถึงความสมดุลย์เหมาะสมในการมอบหมายและกาหนดภารกิจให้ แก่
กาลังทางอากาศ การปองกันฐานบินที่ใช้ เป็ นฐานต่อกาลัง รวมทั ้งช่องว่างทางเทคโนโลยีใน
้
ยุทธบริ เวณที่สหรัฐ ฯ ไม่สามารถเลือกได้ กรณีที่จรวดนาวิถีพื ้นบ้ านของอิรักที่หลุดรอดเข้ าไป
ทาลายกองพันทหารในคูเวตแสดงให้ เห็นชัดถึงช่องว่างในระบบปองกันทางอากาศ ทั ้งนี ้ต้ อง
้
พึงระลึกเสมอว่า ไม่มีระบบปองกันทางอากาศชนิดใดที่จะรับรองได้ ว่าสามารถปองกันความ
้
้
- 9. ๙
ปลอดภัยทางจากการถูกโจมตีทางอากาศได้ ๑๐๐ เปอร์ เซ็นต์ โดยเฉพาะเมื่อต้ องเคลือนย้ าย
่
ระบบทั ้งระบบสูพื ้นที่การรบที่มีความล่อแหลม
่
๗. การส่ งกาลังบารุ ง (Logistics Lines)
จุดอ่อน (Vulnerability)
การยุทธในครังนี ้ได้ สร้ างแนวความคิดใหม่ในการเคลือนย้ ายกาลังพลขนาดย่อมเข้ า
้
่
แทรกซึมในแนวต่าง ๆ ๓ แนวในอิรักเพื่อล้ อมกรอบเข้ ากรุงแบกแดด ซึงแตกต่างจาก
่
แนวความคิดเดิมซึงต้ องการการรวมพลพร้ อมแล้ วจึงโหมกาลังเข้ าโจมตี ประเด็นนี ้เองที่
่
ก่อให้ เกิดปั ญหาในการส่งกาลังบารุงเป็ นอย่างมากในขณะที่กาลังภาคพื ้นรุกคืบหน้ าลึกเข้ า
ไปในอิรักและต้ องรอคอยการตัดสินใจประกาศเปิ ดสงครามจากรัฐบาลสหรัฐ ฯ ที่ถกดึงเวลา
ู
ให้ ยืดเยื ้อออกไป ในพื ้นที่ทะเลทรายหรื อสมรภูมิที่เป็ นพื ้นที่เปิ ดเช่นนี ้ย่อมเป็ นอันตรายต่อทั ้ง
กองกาลังและเส้ นทางการส่งกาลังบารุง ในสภาวะการณ์เช่นนี ้กาลังทางอากาศเป็ นขีด
ความสามารถเดียวในการให้ การสนับสนุนการลาเลียงขนส่งและการให้ ความคุ้มครอง
เส้ นทางลาเลียง อย่างไรก็ตาม ฮ.ติดปื น (Gunship) ดูจะเหมาะสมเป็ นอย่างยิ่งกับบทบาทใน
การบิน ลาดตระเวนและการบินคุ้มครอง (Scout & Escort) เส้ นทางลาเลียงภาคพื ้นใน
สงครามครังนี ้
้
การลาเลียงทางอากาศ (Airlift)
นอกจากเส้ นทางลาเลียงภาคพื ้นที่ค้ มกันโดยหน่วยแยกของ ฮ.ติดปื นแล้ ว การ
ุ
สนับสนุนการส่งกาลังบารุงด้ วยการสร้ าง “สะพานทางอากาศ (Air Bridge)” จะเป็ นภารกิจ
ของกองทัพอากาศโดยตรง อย่างไรก็ตาม “สะพานทางอากาศ” นี ้ มีความเปราะบางและมี
ภาวะการเสียงมาก เนื่องจากมีปัจจัยหลายประการที่สงผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการ
่
่
ดาเนินการ เช่น การควบคุมทางอากาศ (Air Control) ความพร้ อมและเพียงพอของเครื่ องบิน
ลาเลียง ความพร้ อมของฐานบินที่มีจากัดและไม่สมพันธ์ต่อการรุกคืบของกาลังภาคพื ้น
ั
ความปลอดภัยของฐานบินต่างถิ่น สภาพอากาศแบบทะเลทราย หรื อ การขาดเครื่ องช่วย
เดินอากาศภาคพื ้นสาหรับเครื่ องบินของกองกาลังพันธมิตรที่ยงไม่ทนสมัย เป็ นต้ น ศัตรู
ั ั
สาคัญของการลาเลียงทางอากาศคือ ระบบการปองกันทางอากาศแบบเคลือนย้ ายได้ (Man
้
่
- 10. ๑๐
Portable Air Defence Systems - MANPADS) เมื่อต้ องปฏิบติภารกิจใกล้ แนวหน้ า
ั
(Forward Line) การต่อต้ าน MANPADS นี ้เป็ นภารกิจที่กระทาได้ ยากยิ่งในการปองกันทาง
้
อากาศปั จจุบน
ั
๘. การใช้ ห้วงอวกาศ (Space)
ปั จจุบน การใช้ ห้วงอวกาศเป็ นรากฐานสาคัญและจาเป็ นต่อการรบอย่างปฏิเสธไม่ได้
ั
การใช้ กาลังทางอากาศแบบแม่นยา ( Precision) จะให้ ผลสมบูรณ์ไม่ได้ เลยหากขาดการ
สนับสนุนจากระบบและข้ อมูลที่เกี่ยวเนื่องจากอุปกรณ์ในอวกาศ แต่เพราะเหตุว่า ขีด
ความสามารถทางอวกาศนั ้นยังประกอบไปด้ วยการใช้ ข้อมูลจากดาวเทียมภาคเอกชนด้ วย
ดังนั ้น การรักษาความปลอดภัยและการปองกันไม่ให้ ฝ่ายตรงข้ ามลักลอบนาข้ อมูลไปใช้
้
ประโยชน์ได้ จึงเป็ นเรื่ องที่ต้องดูแลจัดการอย่างใกล้ ชิด การใช้ ห้วงอวกาศในสงครามนี ้เป็ น
ก้ าวแรกในการใช้ อวกาศในสงครามทางกายภาพที่เด่นชัด ซึงจะส่งผลให้ แต่ละฝ่ ายต้ อง
่
ครอบครองและรักษาขีดความสามารถด้ านอวกาศเอาไว้ การสือสารผ่านดาวเทียม ระบบ
่
ภาพถ่ายดาวเทียม การจับความเคลือนไหวแม้ รถยนต์เพียงคันเดียว จะเน้ นให้
่
“การแผ่
กาลังอวกาศ ( Aerospace Power Projection)” ขยายกว้ างออกไป มาตรฐานการใช้ ห้วง
อวกาศโดยการนาของสหรัฐ ฯ จะกระจายไปการปฏิบติของกองทัพอากาศทัวโลกในไม่ช้า
ั
่
อย่างปฏิเสธไม่ได้
๙. จังหวะในการปฏิบัตการ (Tempo of Operations)
ิ
แนวความคิด (Concept)
พื ้นฐานแห่งชัยชนะสงครามประการหนึงก็คือ การเลือกและดารงรักษาจังหวะในการ
่
ปฏิบติการอย่างต่อเนื่องด้ วยขีดความสามารถสูงสุดไว้ ตั ้งแต่เมื่อเริ่ มสงคราม การยุทธในครัง
ั
้
นี ้มีอตราเร็ วในการรุกคืบของกองกาลังภาคพื ้นเฉลีย ๒๕ – ๓๐ ไมล์ต่อชัวโมง เทียบกับ
ั
่
่
“สงครามอ่าวเปอร์ เซีย ” เมื่อ พ.ศ.๒๕๓๔ ซึงมีอตราความก้ าวหน้ าของกาลังน้ อยกว่า ๑๐
่ ั
ไมล์ต่อชัวโมง การรุกก้ าวหน้ าด้ วยจังหวะและอัตราเร็ วที่เพิ่มขึ ้นนี ้ หมายถึงการลดเวลาใน
่
การตั ้งรับและตัดสินใจจากฝ่ ายตรงข้ ามด้ วยเช่นกัน
- 11. ๑๑
จังหวะของนภานุภาพ (Tempo of Air Power)
กาลังทางอากาศที่มีความคล่องแคล่ว ฉับไวและมีอานาจการทาลายล้ างสูง สามารถ
สลายเปาหมายได้ อย่างต่อเนื่องเป็ นระบบ ดังนั ้น กาลังทางอากาศจึงยังคงเป็ นกาลังหลักที่
้
จะนาไปใช้ “เร่ ง” จังหวะการรบให้ สั ้นและรวดเร็ วยิ่งขึ ้น และขณะเดียวกัน ก็สามารถตัดตอน
จังหวะการรบของข้ าศึกไปได้ ในตัว
๑๐. กฎการปะทะ (Role of Engagement)
ในช่วงระยะเวลา ๑๐ ปี ที่ผ่านมา การใช้ กาลังทางอากาศในบทบาทของ “การโจมตี ”
นั ้นปรากฏเป็ นที่สนใจของสาธารณชนเป็ นอย่างยิ่ง ทั ้งยังมีการถกเถียงกันถึงความเหมาะสม
ในการพิจารณาเลือกเปาหมายว่าผิดด้ วยกฏหมายสากลและกฏการปะทะหรื อไม่ อย่างใด
้
รวมไปถึงการก่อให้ เกิดความเสียหายข้ างเคียงด้ วย จากประวัติศาสตร์ ฝังใจของการใช้ กาลัง
ทางอากาศในการโจมตีทางยุทธศาสตร์ ซงก่อให้ เกิดความสูญเสียของชีวิตพลเรื อนเป็ น
ึ่
จานวนมาก ทาให้ สาธารณชนมีความเห็นต่อต้ านการโจมตีทางอากาศ ( Aerial Attack)
โดยเฉพาะการใช้ กาลังทางอากาศในการแก้ ปัญหาความขัดแย้ งทางความคิดอันเป็ นปกติ
ธรรมดา หรื ออีกนัยหนึงการใช้ กาลังทางอากาศแก้ ไขปั ญหาที่เกินความจาเป็ นต่อผลที่
่
ต้ องการได้ รับ ผลของการใช้ กาลังทางอากาศที่มีความแข็งแกร่ งของชาติที่พฒนาแล้ วต่อชาติ
ั
ที่กาลังพัฒนาซึงมีขีดความสามารถของกาลังทางอากาศด้ อยกว่าจะถูกตานิจากสาธารณชน
่
ทัวโลกมากยิ่งขึ ้น รุนแรงยิ่งขึ ้น โดยเฉพาะการมีสอข่าวสารต่าง ๆ ที่ประชาชนสามารถรับรู้
่
ื่
หรื อถูกชักจูงได้ มากยิ่งขึ ้น ประเด็นของการใช้ กาลังทางอากาศเกินกว่าจาเป็ นเพื่อให้ บรรลุ
วัตถุประสงค์นี ้ เป็ นสิงที่นกวางแผนต้ องคานึงถึงความพอเหมาะพอควรก่อนที่จะถูกสังคม
่ ั
โลกต่อต้ านอย่างรุนแรง
๑๑. บทบาทของสื่อ (Role of Media)
ในสงครามครังนี ้
้
“สื่ อ (Media)” ส่งผลในวงกว้ างต่อความคิดเห็นของสาธารณ ซึงก็มี
่
ทั ้งผลในทางบวกและลบ ผลในทางบวกคือ การปฏิบติการทางอากาศอันรวดเร็ ว แม่นยา
ั
- 12. ๑๒
ความเป็ นมืออาชีพและการใช้ เทคโนโลยีขั ้นสูงทางทหารนั ้น อยู่เหนือความรู้และการวิพากย์
ของสือ ทั ้งยังได้ แสดงถึงแสนยานุภาพที่แท้ จริ งของกาลังทางอากาศให้ เป็ นที่ประจักษ์ ส่วน
่
ผลในทางลบก็คือ ทุกแผนการโจมตีและทุกเปาหมายได้ ถกป่ าวประกาศให้ สาธารณชนและ
้
ู
ฝ่ ายตรงข้ ามรับรู้เป็ นสัปดาห์ก่อนการโจมตีจริ ง รวมไปถึงข่าวความสาเร็ จในการเข้ ายึดเมือง
ต่าง ๆ หรื อความล้ มเหลวในการเคลือนทัพ ซึงจะส่งผลต่อการรบอย่างยิ่ง โดยเฉพาะหาก
่
่
ฝ่ ายตรงมีขีดความสามารถมากกว่าที่อิรักมีอยู่ในสงครามครังนี ้
้
ความคิดเห็นสาธารณชน (Public Opinion)
“สือ” สามารถโน้ มน้ าวความคิดของสาธารณชนได้ ในระดับหนึง แต่ความหลากหลาย
่
่
ของสือเองก็สามารถทาลายความเชื่อถือของสาธารณชนได้ ในขณะที่สถานการณ์ดาเนินไป
่
สือตะวันตกสามารถเร่ งเร้ าความรู้สกเห็นชอบในสงครามแก่สาธารณะได้ ในระดับหนึงเมื่อ
่
ึ
่
สงครามเริ่ มต้ น แต่หลังจากนั ้น ความแตกต่างในความละเอียดอ่อนทางความคิดและ
วัฒนธรรม จะเริ่ มชักนาให้ สาธารณชนคานึงถึงความเป็ นจริ งที่อยู่เหนือผลประโยชน์ของ
สงคราม ในอนาคต-สงครามและสือจะไม่สามารถแยกออกจากกันได้ ไม่ว่าสงครามนั ้นจะ
่
เกิด ณ หนแห่งใดในโลกก็ตาม นันหมายถึงความคิดเห็นของสาธารณชนจะเข้ ามามีบทบาท
่
ในการตัดสินใจของนักวางแผน ความผิดพลาดเพียงน้ อยนิดในความแตกต่างของสังคมโลก
อาจจุดชนวนให้ สงครามนั ้นประสบความล้ มเหลวได้
สรุ ป
ในประวัติศาสตร์ ของมนุษยชน นี่คืออีกครังหนึงที่มนุษย์ต้องใช้ กาลังเข้ าทาลายล้ าง
้ ่
ซึงกันและกัน ไม่ว่าสงครามครังนี ้จะมีความถูกต้ องหรื อไม่ก็ตาม บทเรี ยนต่าง ๆ จากสงคราม
่
้
ในครังนี ้ก็จะต้ องนามาศึกษาและถกแถลงกันต่อไป สงครามในปั จจุบนและอนาคต อาจมิใช่
้
ั
ใครรบกับใครเพียง ๒ ฝ่ าย การสถาปนากองกาลังพันธมิตรในผืนแผ่นดินที่ไม่ค้ นเคย การ
ุ
ปฏิบติการร่ วม / ผสม การสงครามในระดับมหภาค การเจาะลึกในแต่ละยุทธบริ เวณและการ
ั
วิเคราะห์ในมุมมองที่แตกต่างอื่น ๆ จะทาให้ นกการทหารสามารถวางหลักการในการใช้ กาลัง
ั
และเสริ มกาลังให้ มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ ้น
- 13. ๑๓
สงครามสหรัฐฯ
– อิรัก ครังนี ้ ยังคงเป็ นบทพิสจน์หลักการพื ้นฐานอันไม่เปลียนแปลง
้
ู
่
ของสงครามในการใช้ กาลังทางอากาศเป็ นหลักซึงก็เป็ นความจริ งอันเป็ นสากล บทเรี ยนที่
่
ต้ องการคือการผนวก (Integration) กาลังทางอากาศเข้ ากับองค์ประกอบของกาลังรบอื่น ๆ
ที่มีความแตกต่างกันทั ้งความเป็ นพลวัตร เทคโนโลยี แนวความคิดในการใช้ กาลังและความ
นิยมในเหล่าทัพ ซึงองค์ประกอบอันหลากหลายเหล่านี ้ต่างมีความเป็ นเอกลักษ์ เฉพาะตัว
่
อย่างไรก็ตามการใช้ “นภานุภาพ ” จะไม่หยุดอยู่ที่รูปแบบใดรูปแบบหนึงเป็ นการถาวร
่
การนา “นภานุภาพ” ไปใช้ ในอนาคตจะขึ ้นอยู่กบสภาพแวดล้ อมของเหตุการณ์ สถานการณ์
ั
และการปฏิบติการในครังนั ้น ๆ อย่างเป็ นเอกลักษณ์เฉพาะตัวเท่านั ้น
ั
้
-----------------------------------------------------------------------