More Related Content
Similar to work1pjcom (20)
work1pjcom
- 1. 1
แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์
รหัสวิชา ง33201 ชื่อวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 5
ปีการศึกษา 2562
ชื่อโครงงาน กระตุ้นสมอง
ชื่อผู้ทาโครงงาน
ชื่อ นาย ภูมิรวี อิสิ เลขที่ 37 ชั้น ม.6 ห้อง 4
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์
ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 62
โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
ใบงาน
การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์
- 2. 2
สมาชิกในกลุ่ม
1.นาย ภูมิรวี อิสิ เลขที่ 37
คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย)
กระตุ้นสมอง
ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ)
motivate brain
ประเภทโครงงาน โครงงานประเภทสารวจ
ชื่อผู้ทาโครงงาน นาย ภูมิรวี อิสิ
ชื่อที่ปรึกษา เขื่อนทอง มูลวรรณ์
ชื่อที่ปรึกษาร่วม -
ระยะเวลาดาเนินงาน 17สัปดาห์
ที่มาและความสาคัญของโครงงาน (อธิบายถึงที่มา แนวคิด และเหตุผล ของการทาโครงงาน)
เนื่องจาก ณ ปัจจุบันมีเครื่องมือที่ช่วยในเรื่องของการให้ความสะดวกสบายต่างๆมากมายซึ่งนั้นก็เป็นข้อดีอย่างมาก
หากเราใช้เครื่องมือนั้นอย่างรอบคอบและคุ้มค่า แต่บางครั้งที่เราก็กลับให้เครื่องมือใช้เรา โลกทุกวันนี้คงไม่มีใครไม่มี
โทรศัพท์ติดตัวและก็คงปฏิเสธไม่ได้แล้วว่าหากขาดมันไปชีวิตก็คงไม่สะดวก แต่คนส่วนใหญ่ไม่ได้รู้เลยว่าของที่กดเล่น
อยู่นั้นมีข้อเสียต่อสมองของเราอย่างมากซึ่งในทุกวันนี้มือถือนั้นได้มีบทบาทมากขึ้นในชีวิตประจาวันมากขึ้น
เทคโนโลยีนั้นเข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง และแทบจะทุกคนในสังคมนั้นต่างก็มีมือถืออยู่กับตัวตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวัยผู้ใหญ่ ซึ่ง
การที่เรามีเทคโนโลยีนั้นก็สร้างข้อเสียมามากเช่นการที่ทุกคนต่างมีความสัมพันธ์หรือมนุษย์สัมพันธ์ที่น้อยลงอีกทั้งยัง
เรื่องของผลกระทบของสมองจากการเล่นโทรศัพท์ ทางผู้จัดทาได้ตระหนักถึงปัญหาในข้อนี้จึงทาโครงงาน กระตุ้น
สมอง
วัตถุประสงค์ (สิ่งที่ต้องการในการทาโครงงาน ระบุเป็นข้อ)
1.เพื่อให้ผู้คนตระหนักถึงการใช้มือถือ
2.เพื่อให้ทราบถึงวิธีกระตุ้นสมอง
ขอบเขตโครงงาน (คุณลักษณะ ขอบเขต เงื่อนไขและข้อจากัดของการทาโครงงาน)
โรงเรียน ยุพราชวิทยาลัย
หลักการและทฤษฎี (ความรู้ หลักการ หรือทฤษฎีที่สนับสนุนการทาโครงงาน)
ผลวิจัยของ Dr.Om Ghandhi ถึงผลกระทบจากคลื่นโทรศัพท์ ซึ่งมีผลต่อสมองของเด็กไปทั่วเฟซบุ๊ก และเว็บ
เพจต่างๆ ในขณะนี้นั้น ทาง Mthai ได้ตรวจเช็คเพิ่มเติม ว่าผลงานวิจัยของ Dr.Om Ghandhi ปี 1996 มีอยู่จริง
หรือไม่ ก็พบว่า มีตัวตนและผลงานดังกล่าวอยู่จริง โดยได้กล่าวว่า คลื่นโทรศัพท์มือถือ ทะลุทะลวงสู่ชั้นสมองของเด็ก
มากกว่าผู้ใหญ่
เนื่องจากกะโหลกศีรษะบางกว่า (ที่คนเฒ่าคนแก่ เรียกว่า กระหม่อมบาง) การทะลุทะลวงดังกล่าวสู่ชั้นสมอง
ทาให้เกิดอาการ ปวดร้าวศีรษะได้ และเป็นไปได้ว่าทาให้เกิดการดัดแปลงระดับชั้นพันธุกรรม DNA และชั้น เซลล์ ซึ่ง
เป็นสาเหตุหนึ่งของมะเร็งได้
- 3. 3
วิธีดาเนินงาน
แนวทางการดาเนินงาน
ทางผู้จัดทาจะทาการทดลองโดยจะทดลองกับนักเรียนยุพราช โดยแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มที่หนึ่ง:นักเรียน
ที่ใช้โทรศัพท์มากกว่า8ชั่วโมง/วัน กลุ่มที่สอง:นักเรียนที่ใช้โทรศัพท์น้อยกว่า5ชั่วโมง/วัน โดยที่เราจะให้ทั้ง
สองกลุ่มมาทาการทดสอบ จากนั้นเราจะให้ทาการกระตุ้นสมอง แล้วจึงนามาทดสอบใหม่
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้
1.กระดาษทดสอบ
2.อุปกรณ์การเขียน
3.มือถือ
งบประมาณ
-
ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน
ลาดับ
ที่
ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ
1 2 3 4 5 6 7 8 9
1
0
1
1
12
1
3
1
4
1
5
16 17
1 คิดหัวข้อโครงงาน
2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล
3 จัดทาโครงร่างงาน
4 ปฏิบัติการสร้างโครงงาน
5 ปรับปรุงทดสอบ
6 การทาเอกสารรายงาน
7 ประเมินผลงาน
8 นาเสนอโครงงาน
ผลที่คาดว่าจะได้รับ (ผลลัพธ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการทาโครงงาน)
1.คาดหวังว่าคนในสังคมจะตระหนักถึงผลกระทบของการใช้โทรศัพท์
2.คาดว่าจะทาให้ผู้คนลดการใช้โทรศัพท์
สถานที่ดาเนินการ
โรงเรียน ยุพราชวิทยาลัย
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง
1.กลุ่มสาระคอมพิวเตอร์
2.กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์